วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

Immortality Chapter 121 Emotions

Immortality Chapter 121 Emotions

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 121   ชิงซือ 

บทที่ 121   ชิงซือ 


(qíngsī)ความรักความผูกพัน
  ชิงซือ

"ยอมผมอย่างงั้นรึ?"ใบหน้าของเป่ยชิงซือที่แข็งค้าง,ภายในดวงตาเผยท่าทางประหลาดใจอย่างชัดเจน.


จงซานไม่ได้อธิบายอะไรมากนัก,ทว่าเขาได้นำชามของเหลวสีดำมาด้านหน้าของนาง,ก่อนที่จะค่อยๆใช้แปลงจุ่มลงไปในของเหลวสีดำ,พร้อมกับเริ่มเช็ดชโลมไปยังผมสีเงินที่เงางามของนางช้าๆ.

ไม่ว่าจะเป็นใครก็คงขมวดคิ้วเป็นแน่,เป่ยชิงซือที่ดูสะอาดสะอ้าน,ด้วยผมสีขาวบริสุทธิ์,ทว่าเมื่อถูกย้อมเป็นสีดำ,ย่อมทำให้ความงดงามราวเทพธิดาต้องกลับกลายมาเป็นคนธรรมดา.

หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นๆ,เป่ยชิงซือคงปล่อยฝ่ามือออกไปแล้ว,ด้วยการนำของเหลวสีดำที่ดูสกปรกมาระบายผมของนาง,ทว่าเมื่อเป็นจงซานทำให้เป่ยชิงซือทำได้แค่เพียงขมวดคิ้วเล็กน้อยไม่ดิ้นรนอะไร.

จงซานที่ค่อยนำของเหลวสีดำในชามย้อมผมของเป่ยชิงซือระบายชะโลมผมของนางทีละน้อยซ้ำๆไป,ย้อมผมนางอย่างระมัดระวัง,ด้วยความนุ่มนวล,ด้วยหวั่นเกรงว่านางจะระคายเคือง.

ด้วยการระบายย้อมผมของนางอย่างนุ่มนวล,เป่ยชิงซือที่ขมวดคิ้วไปมาตอนแรก,ตอนนี้เริ่มรู้สึกสบาย,ดวงตาของนางที่หลับตาแน่น,สัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนของจงซานที่ทำการย้อมผมของนาง,กับความสบายได้ทำให้นางรู้สึกอบอุ่น.
What Bei Qingsi was the long hair, dyeing is quite slow, brushes about half double-hour completely to brush. Station, Zhong Shan satisfied look. But seems also shortcoming anything.
ผมยาวของเป่ยชิงซือ,ตอนนี้กำลังถูกย้อมชาๆ,ด้วยการใช้แปลงย้อมสีของนางผ่านไปราวๆชั่วโมงหนึ่ง,จงซานที่จ้องมองอย่างพอใจ,ทว่าดูเหมือนว่ายังขาดอะไรหน่อย.

เป่ยชิงซือที่สัมผัสได้ว่าจงซานได้หยุดลง,นางลืมตาขึ้นมาช้าๆ.

สายตาของเขาที่จ้องมายังนาง,ดูเหมือนว่ากำลังมีปัญหาอะไรอย่างงั้นรึ?

เขาที่ยืนอยู่ด้านหน้าของนาง.

"หลับตาสิ."จงซานเอ่ย.

"อืม."เป่ยชิงซือหลับตาเบาๆ,ภายในใจที่เต็มไปด้วยความสงสัย.

จงซานที่นำแปลงขนาดเล็กออกมา,เขาที่เหลือของเหลวสีดำไม่มากนัก,ก่อนที่จะเริ่มระบายลงไปคิ้วคู่งามสีเงินของนาง,ด้วยการกระทำอย่างระมัดระวัง,นุ่มนวลอ่อนโยน,ทำให้เป่ยชิงซือสัมผัสได้ถึงความใส่ใจของจงซานในทุกครั้งที่เขาระบายลงมา,ราวกับว่าขนแปลงที่อ่อนโยนนั่นได้ลูบไล้ลงบนหัวใจของนาง,ชั่วระยะเวลาหนึ่ง,เป่ยชิงซือไม่อยากลืมตาขึ้นมาเลย.

"เอาล่ะ"จงซานที่วงชามลงเบาๆ,พร้อมกับหัวเราะชอบใจ.

นางที่ลืมตาขึ้นมาช้าๆ,ภายในดวงตาที่เต็มไปด้วยประกายแสงความสงสัย.

"รออีกซักหนึ่งชั่วโมงก็ใช้ได้แล้ว."จงซานที่เผยยิ้มออกมา.

เป่ยชิงซือพยักหน้า,ทว่าจงซานก็เดินตรงไปยังทะเลสาบก่อนที่จะใช้ดาบของเขาผ่าตัดแต่งหินข้างๆทะเลสาบ.

ก้อนหินที่เขาผ่าออกมานั้นเป็นรูปร่างที่แปลกประหลาด,เป่ยชิงซือที่เพ่งพิศจ้องมองอยู่ชั่วขณะ,ไม่รู้ว่าจงซานตัดแบ่งหั่นหินออกมาเป็นรูปร่างเช่นนั้นเพื่ออะไร.

หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง,จงซานก็กล่าวออกมา,"มานอนลงตรงนี้สิ."

"หืม?"เป่ยชิงซือที่สงสัยเล็กน้อย,ทว่าจงซานก็เข้ามาประครองนางแล้ว,ให้นางมานั่งบนแท่นหินซึ่งฝั่งด้านหนึ่งอยู่ติดกับทะเลสาบ,ท้ายที่สุดเป่ยชิงซือก็เข้าใจว่าทำไม.

เพื่อชำระล้างผมที่ย้อมของนางนั่นเอง,เป่ยชิงซือที่นอนลงบนแท่นหินที่ลาดชันลงไป,ซึ่งส่วนด้านศีรษะของนางโน้มลงไปยังทะเลสาบ.

จงซานที่นำผ้าเช็ดหน้าออกมาพร้อมกับซับน้ำบนทะเลสาบ,ก่อนที่จะค่อยๆนำมาเช็ดทำความสะอาดผมสีดำที่ย้อมของเป่ยชิงซือ.

เขาที่ทำการล้างและเช็ดผมของนางเบาๆ.

เป่ยชิงซือที่อดกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลนอนนิ่งไม่ขยับ,กัดริมฝีปากแน่นพร้อมกับหลับตา.

จงซานที่ทำความสะอาดผมยาวของเป่ยชิงซือ,ทำความสะอาดช้าๆด้วยน้ำใสในลำธาร,เช็ดไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า.

"เมื่อย้อมแล้ว,ต้องรอสักพักและทำความสะอาดมัน,เมื่อทำความสะอาดมันแล้ว,จะทำให้มันไม่เปื้อนเสื้อผ้าของเจ้า,แต่ผมขอเจ้าก็ยังคงเป็นสีดำ,และจะไม่เปลี่ยนสีจนกว่าที่มันจะงอกออกมาใหม่."จงซานที่เอ่ยออกมาเบาๆ.

"อืม."เป่ยชิงซือที่ตอบรับเบาๆ.

จงซานที่เช็ดไปยังเส้นผมที่ล้างเสร็จอย่างนุ่มนวล,เช็ดไประว่างคิ้วของนางอย่างอ่อนโยน,หัวใจของนางที่เต้นโครมคราม,ในเวลานี้,ใจหนึ่งของนางที่คิดว่ามันคงจะดีหากสามารถหยุดเวลาเอาไว้ได้ตลอดกาล,ทว่าอีกใจหนึ่งก็ถูกกดดันว่านางจะต้องแก้แค้นให้ได้.

"อืม,เสร็จแล้วเจ้าไปส่องดูตัวเองได้."จงซานที่กล่าวต่อเป่ยชิงซือด้วยรอยยิ้มที่ไร้กังวล.
ผมของนาง,คิ้วของนางที่เปลี่ยนเป็นสีดำ,ก่อนหน้าเส้นผมสีเงินที่เผยให้เห็นความงามน่าดึงดูด,ทว่าเมื่อเป็นสีดำ,ก็ทำให้ดูงดงามลึกลับน่าค้นหาอีกแบบหนึ่ง.

ด้วยนำกระจกออกมาจากกำไลเก็บของ,ตอนนี้มันอยู่ในมือของเป่ยชิงซือแล้ว,นางที่จับจ้องมองไปยังแผ่นผ้าที่ปิดบังตำแหน่งลำคอและหน้าผากของนางไม่ให้ถูกย้อม.พร้อมกับแกะมันออกมา.

เป่ยชิงซือที่จ้องมองตัวนางในกระจก,สายตาของนางไม่ได้แสดงความตื่นเต้นอะไรนัก,ทว่าหัวใจของนางกับสั่นไหว,สัมผัสได้ถึงความรู้สึกบางอย่างที่เอ่อล้นพลุ้งพล่านออกมา,เรื่องที่น่าดีใจเช่นนี้,จะไม่ทำให้นางประหลาดใจได้อย่างไร.

"ขอบคุณ,ข้าต้องการไปบำเพ็ญ."เป่ยชิงซือที่วางกระจกลง,ก่อนที่จะวิ่งเข้าไปในถ้ำก่อนหน้าอย่างรวดเร็ว.

จงซานที่ถือกระจก,จ้องมองไปยังเป่ยชิงซือที่วิ่งเข้าไปในถ้ำ,จงซานที่ขมวดคิ้วเล็กน้อยและถอนหายใจเบาๆ.

เมื่อเป่ยชิงซือวิ่งเข้าไปในถ้ำ,น้ำตาของนางที่ไหลออกมาไม่หยุด,มันพลั่งพรูทะลักราวกับก๊อกแตก.

ผ่านไปสองก้านธูป,เป่ยชิงซือก็เช็ดน้ำตาของนาง,พร้อมกับสะบัดมือครั้งหนึ่ง,ก่อนที่จะปรากฏน้ำแข็งขึ้นมาบานหนึ่ง,ซึ่งเป็นเหมือนกับกระจกที่ส่องเงาของนาง,คิ้วเป็นสีดำ,ผมเป็นสีดำ,ดูลึกลับเป็นอย่างมาก.

นางที่สัมผัสผมของนางไปมา,แววตาของนางที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย,นางที่แทบไม่ได้มองตัวเองในกระจกน้ำแข็งด้วยซ้ำ,แต่นึกถึงขั้นตอนที่จงซานทำให้นางแล้วก็รู้สึกหวั่นไหวขึ้นมาด้วยความอบอุ่น.

หลังจากครุ่นคิดไปมาอยู่สักพักหนึ่ง,ทันใดนั้นเป่ยชิงซือก็สะดุ้งขึ้นมาทันที,ดูเหมือนว่านางจะดูอ่อนไหวไปหน่อย,นางที่ถอนหายใจเบาๆ,ก่อนที่จะเก็บกระจกน้ำแข็ง.
.......

จากวันนั้นถึงวันนี้สองร้อยวัน,ที่ด้านนอกเขตแดนหมาป่า,กลุ่มคนที่ไล่ตามเป่ยชิงซือได้รวมตัวกันอีกครั้ง,พร้อมกับยืนอยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่ง.

"ต้าเหริน,ผ่านมาสองร้อยวันแล้ว,พวกเราได้แยกไปทั่วทุกสารทิศ,เฝ้ามองทุกเขตแดนหมาป่า,แต่ก็ไม่เห็นสองคนนั่นเอง."ผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งที่นั่งคุกเขาอยู่บนพื้น.

ชายในชุดบัณฑิตหรี่ตาลงเล็กน้อย,พยายามวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้น.

"ต้าเหรินก่อนหน้านี้พวกเราได้พบชิ้นส่วนของเสื้อผ้าเมื่อห้าสิบวันที่แล้ว,ในเขตของหมาป่าอัคคี,เห็นได้อย่างชัดเจนว่าว่าชายคนนั้นและเป่ยชิงซือน่าจะตายไปแล้ว,ที่ไม่เห็นศพ,ตอนนี้อาจจะอยู่ในท้องหมาป่าไปแล้วก็ได้."ผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งกล่าวรายงานออกมา.

ชายในชุดบัณฑิตที่ดูเหมือนไม่แยแส,จ้องมองไปยังคนทั้งสอง,ก่อนที่จะหรี่ตาและกล่าวออกมาว่า"บางทีอาจจะตายไปแล้วจริงๆ,เฝ้าระวังไว้อีกสิบวัน,หากสิบวันหลังจากนี้,ไม่พบร่องรอยใดๆ,พวกเจ้าค่อยกลับมารายงาน.

"ขอรับ"ทุกคนที่รับคำสั่งและกระจายตัวกันไปอย่างรวดเร็ว,เข้าไปประจำการในตำแหน่งต่างๆ.

ผ่านมาแล้ว 220 วัน,จงซานที่นั่งฝึกฝนบำเพ็ญอยุ่ข้างๆทะเลสาบ,นั่งอยู่บนเนินหินที่รอบๆนั้นมีศิลาวิญญาณมากมาย,ร่างกายของเขากำลังควบคุมปรับแต่งลมหายใจ.

ตลอดสองร้อยวันมานี้,จงซานที่ตั้งหน้าตั้งตาทะลวงผ่านจุดชีพจร,ซึ่งมีเป่ยชิงซือที่ออกมาช่วยจงซานทะลวงชีพจรอยู่เป็นบางครั้งบางคราว,แก่นแท้เวลานี้ได้ถูกกระตุ้นอยู่เป็นระยะ,ทำให้พลังฝึกตนของจงซานพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด,แน่นอนว่ามันอาจเทียบไม่ได้กับผู้ที่เปี่ยมพรสวรรค์,ทว่าก็ยังนับว่าก้าวหน้าอยู่ไม่น้อย.

ท้ายที่สุดก็มาถึงขั้นปลายที่เขาสามารถที่จะทะลวงระดับไปยังขั้นต่อไปได้,ตอนนี้เขากำลังใช้ทะเลสาบแห่งนี้เพื่อช่วยในการเลื่อนระดับ,เขาเลือกลงไปยังด้านล่างของทะเลสาบแห่งนี้,เพื่อที่จะใช้แรงกดดันของน้ำในทะเลสาบ,เพื่อทะลวงผ่านระดับไปยังระดับเจ็ดเซียนเทียน.

เป่ยชิงซือที่ยืนอยู่บนฝั่งเฝ้ามองด้วยความเป็นกังวล,นางที่จับจ้องมองลงไปยังทะเลสาบ,ใช้สัมผัสเทวะกวาดตามองลงไปด้านล่าง,เฝ้ามองจงซานอยู่ไม่ห่าง.

ก่อนหน้านี้ 180 วันนั้น,จงซานได้จัดเตรียมเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นไว้ที่ชายขอบดินแดนหมาป่า,และหลังจากผ่านมาอีก 200 วัน,ตามที่จงซานคาดการณ์,เขายังคงรออย่างอดทน,จนท้ายที่สุดก็เข้าใกล้การเลื่อนระดับของเขา,ทำให้เขาได้รั้งรออีกห้าสิบวัน.

ด้วยความคิดดังกล่าวเป่ยชิงซือก็เห็นด้วยที่พวกเขาจะใช้เวลาแปดเดือน,พวกเขาทั้งคู่อาศัยอยู่ด้วยกัน,ภายในใจของเป่ยชิงซือนั้นเกิดสายใยความห่วงใยขึ้น,ไม่เพียงแต่เป่ยชิงซือเท่านั้น,ภายในใจของจงซานเองก็มีสายใยความผูกพันด้วยเช่นกัน,ทว่าระหว่างสองคนนั้น,ก็ยังมีกำแพงที่กั้นเอาไว้อยู่,ไม่ว่าพวกเขาทั้งคู่จะมีความรู้สึกต่อกันอย่างไร,แต่ทั้งสองฝ่ายก็มีความแค้นหนักหนาที่ต้องชำระ,ไม่สามารถที่จะคิดถึงความรักของชายหญิงได้,ซึ่งทำให้ทั้งคู่ไม่สามารถสานสัมพันธ์ก้าวล้ำเกินกว่าที่ควรจะเป็น.

อย่างไรก็ตามภายในใจของเป่ยชิงซือเคยชินกับจงซานซะแล้ว,หากไม่มีเรื่องของตระกูล,เป่ยชิงซือคิดและคาดหวังจริงๆว่า,ขอได้อยู่เคียงข้างจงซาน,ทุกๆวันกินข้าวร่วมกัน,ทุกวันช่วยจงซานเตรียมอาหาร,มันก็คงจะดี,ถึงแม้ว่ามันจะทำไม่ได้ก็ตาม.

นางที่กวาดตามองลงไปยังทะเลสาบ,ดวงตาของเป่ยชิงซือที่เต็มไปด้วยความเป็นกังวล,จ้องมองไปยังจงซานที่กำลังพยายามทะลวงผ่านระดับ.

จงซานที่หลับตา,มีกลิ่นอายพลังหมุนวนอยู่รอบๆร่าง,ทะเลสาบที่ส่องประกายวับๆ,แม้แต่มีปราณสีแดงที่หมุนวนออกไปด้วย,เป็นราวกับกลุ่มก้อนเปลวเพลิง,ที่กำลังลุกไหม้ทะเลสาบแห่งนี้อยู่.

รอบๆร่างกายของจงซานนั้นเกิดก๊าซขึ้นมา,ทำให้เกิดเป็นฟองน้ำขนาดใหญ่ที่พุ่งขึ้นบนผิวน้ำไม่หยุดหย่อน.

ร่างกายของจงซานนั้นเป็นเหมือนกับกลุ่มก้อนเปลวเพลิง,ดูเหมือนกับดวงตะวัน,ที่ส่องประกายแสงอยู่ใต้น้ำ.

จงซานที่หลับตาแน่น,เส้นโลหิตที่ปูดขึ้นทั่วหน้าผาก.

"อ๊าก."

จงซานที่อยู่ใต้ทะเลสาบที่,คำรามออกมา,ดวงตาส่องประกายแสง,ปากของเขาพ่นเปลวเพลิงออกมา,ร่างกายที่ส่งแรงกดดันออกไปรอบๆ.

เสียงคำรามของจงซานที่ดังก้องอยู่ใต้น้ำ,ก่อให้เกิดคลื่นน้ำขนาดใหญ่.

"ตูมมม" "ตุมมมม"

หลังจากที่คำรามเสียงดัง,จงซานก็เงียบลง,ปิดตา,และจมจ่อมโคจรพลังในร่างกายของตัวเองอีกครั้ง.

ทว่าที่บนฝั่ง,เป่ยชิงซือที่เฝ้ามองหลังจากที่ได้ยินเสียงของเขา,ภายในดวงตาก็เปี่ยมไปด้วยประกายแสงความอ่อนโยน,ที่มุมปากของนางเผยยิ้มออกมา,และแล้ว,จงซานก็สามารถทะลวงผ่านระดับได้,นางที่เดินไปยังตำแหน่งบนฝัง,ที่จงซานเคยทำต้มซุปปลา,จงซานที่อยู่ใต้น้ำมาห้าวัน,ตอนนี้เขาควรที่จะหิวแล้ว.

จงซานที่สามารถทะลวงผ่านระดับ,แรงกดดันพลังที่เพิ่มขึ้นมาไม่น้อย,ด้วยการก้าวไปยังระดับเจ็ดเซียนเทียน,ทว่าทำให้สามารถเปิดจุดชีพจรเพิ่มขึ้นอีกสองจุด,นับว่าเป็นการเก็บเกี่ยวที่ยอดเยี่ยมที่เดียว.

จงซานที่กำลังดูดซับแกนแท้เข้ามารอบๆจากทุกทิศทุกทางสร้างแกนแท้กับเก็บไว้ในจุดชีพจรที่เปิดได้,ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนทำให้จุดชีพจรคงที่และเก็บแก่นแท้,ซึ่งจำเป็นต้องรวบรวมพลังฟ้าดินรอบๆเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน.


หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง,จงซานที่ค่อยๆลุกขึ้น,พร้อมกับเก็บศิลาวิญญาณที่อยู่รอบๆ,จากนั้นก็เคลื่อนกายพร้อมกับขึ้นมาจากผิวน้ำ.

ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น