Miracle Throne Chapter 413 Druid

Miracle Throne Chapter 413 Druid

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 413 เตอลูอี

บทที่  413 เตอลูอี

หลังจากที่ผู้พิทักษ์ลวีตีถูกน้ำชโลม,ไม้ที่ตายไปก็ฟื้นตัวขึ้นมามีชีวิตชีวา,ใบไม้ที่เหลืองอ๋อยก่อนหน้ากลายมาเป็นสีเขียวแล้ว,อัตราฟื้นฟูนั้นสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าด้วยอัตราที่น่าพรั่นพรึงเป็นอย่างมาก,วารีแห่งชีวิตที่พวกเขาสร้างขึ้นมานั้นสามารถใช้ฟื้นฟูผู้พิทักษ์ลวีตีได้ 400-500 ตนในครั้งเดียว,ปัญหาดังกล่าวนี้เหล่าโนมไม่มีความสามารถแก้ไขได้,ทว่าฉู่เทียนกับทำมันได้อย่างง่ายดาย!

กิ่งก้านสาขาลำต้นได้กลายเป็นสีเขียวมรกต,บนผิวใบแต่ละใบนั้นสามารถที่จะมองเห็นคล้ายเส้นโลหิตที่ถูกทิ้งไว้,เหมือนกับวงเวทย์อักขระบางอย่าง,กลิ่นอายของผู้พิทักษ์ลวีตีที่น่าหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิมอีก,เหมือนว่ามันมีพลังที่แข็งแกร่งกว่าเดิมมาก

เหล่าจี่ซือลวีตีเร่งรีบเข้าไปตรวจสอบ.

"เทพเจ้าแห่งพงไพร!"

"เหล่าผู้พิทักษ์ลวีตีมีพลังความแข็งแกร่งมากกว่าเดิมหนึ่งเท่า!"

"ผู้พิทักษ์ลวีตีที่ฟื้นฟูความสามารถกลับคืนมา,ซ้ำมีร่างที่ยืดหยุ่นและทรงพลังกว่าเดิม,ราวกับว่าได้ถูกสกัดกลั่นขึ้นมาใหม่!"

เหล่าหุ่นเชิดที่เป็นสิ่งมีชีวิตนั้นไม่มีใครรู้เลยว่ามันได้รับพลังงานคำสาปเข้าไป,ตอนนี้ราวกับว่าคำสาบและพลังที่ลึกลับได้ถูกชะล้างหายไปแล้ว,ทำให้พลังที่มากมายที่สะสมอยู่กำลังทะลักออกมา,ผู้พิทักษ์ลวีตีที่ฟืนฟูกลับมาเกือบหนึ่งพันตน,เหล่าโนมไม่สามารถที่จะบอกได้ว่ามันมีพลังชีวิตเพิ่มขึ้นมากมายมายเท่าใด.

"ไม่อยากเชื่อเลย!"เคอลาเคอที่จ้องมองไปยังฉู่เทียน,"จี่ซือลวีตีที่พยายามเพิ่มพลังของผู้พิทักษ์มาหลายร้อยปีแล้ว,แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถที่จะทำให้สำเร็จได้,ท่านทำเช่นนี้ได้อย่างไร,ช่วยบอกข้าด้วยได้หรือไม่?ตราบเท่าที่พวกเรารับรู้วิธี,ความแข็งแกร่งของเมืองลวีตีจะต้องเพิ่มขึ้นมาอย่างแน่นอน!"

"แน่นอนว่าสามารถบอกพวกเจ้าได้,ทว่าถึงบอกไปเกรงว่าพวกเจ้าก็ไม่มีความสามารถที่จะหาวัตถุดิบดังกล่าวมาได้."ฉู่เทียนที่กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล"นั่นคือโลหิตเทพบรรพกาลที่เหลืออยู่,เป็นแก่นโลหิตของเทพ,โลหิตเทพนั้นสามารถทำลายคำสาบทุกอย่างได้,ดังนั้นมันจึงสามารถที่จะฟื้นคืนชีวิตกลับมาได้ในทันทีอย่างไงล่ะ."

โนมและสาวงามเผ่าจิ้งจอกถึงกับตื่นตระหนกไปตามๆกัน

กล่าวอะไรออกมากัน?หูพวกเขาไม่ได้ฟังผิดไปใช่ใหม!

ฉู่เทียนที่ยักไหล่แสงท่าทางขณะอธิบาย."ผู้พิทักษ์ลวีตีนั้นเป็นต้นไม้โบราณที่ยังคงเหลืออยู่ตั้งแต่ยุคบรรพกาล,ซึ่งมีคุณธาตุคุณสมบัติเหมือนกับเทพบรรพกาล,ดังนั้นจึงมีในการดูดซับโลหิตเทพพระเจ้าเป็นธรรมดา,และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วเช่นนี้,หลังจากนี้ไปเหล่าผู้พิทักษ์ลวีตี,ไม่เพียงแต่แข็งแกร่งมากขึ้น,ยังไม่ต้องหวาดกลัวคำสาบใดๆอีกด้วย."

เทพวิญญาณนั้นเป็นตัวตนในตำนาน!

ฉู่เทียนได้รับสิ่งของชิ้นนี้มาได้อย่างไร?

สิ่งสำคัญที่สุด,ของล้ำค่ามากมายถึงเพียงนี้,มนุษย์ผู้นี้กลับนำมาใช้เช่นนี้,เพียงเพื่อช่วยฟื้นคืนหุ่นเชิดธรรมดาเช่นนี้?ไม่ต่างจากนำกระเบื้องคลิสตัลชั้นยอดมาปูสร้างส้วมก็ไม่ปาน,มารดาเถอะมันจะหรูหราเกินไปแล้ว.

สายตาของเตอลวอลีซือที่สาดประกายกวาดตาจ้องมองเขาอย่างตะลึงงัน"คาดไม่ถึงเลยว่าท่านจะใช้สำบัติล้ำเกินประมาณเช่นนี้เลยอย่างงั้นรึ?"

"ไม่มีเวลาให้ใคร่ครวญ."ฉู่เทียนที่โบกมือไปมา,ที่จริงเขานั้นเศร้าใจอย่างถึงที่สุด,ทว่าเขาเป็นคนตัดสินใจเองจึงไม่สามารถที่จะเสียใจได้,ในเมื่อใช้ไปเรียบร้อยแล้ว,ดังนั้นก็ต้องทำใจ"เอาล่ะ,หลังจากที่รักษาผู้พิทักษ์ลวีตีแล้วต่อไปก็ไปยังวิหารเตอลูอวี,เผื่อจะได้ประโยชน์อะไรบ้าง!"

เกี่ยวกับคำสาบที่เหล่าเทพพิทักษ์ลวีตีได้รับนั้นเป็นผลมาจากลัทธิซือหลิงอย่างแน่นอน,ดังนั้นพวกเขาไม่สามารถหาแนวร่วมหรือต่อรองกับพวกเขาได้อย่างแน่นอน.

และการกระทำของพวกเขาสามารถยับยั้งคำสาบของซือหลิงซูซีในครั้งนี้ย่อมส่งผลกับพวกเขา.

First, the Necromancer Warlock curse and pollution were purified, this brings to shock to them is very definitely big.

อย่างแรก,การที่คำสาบที่ร้ายกาจของซือหลิงซูซีถูกสลายไปนั้น,ย่อมทำให้พวกเขาตื่นตะลึงขนานใหญ่.

死灵术士Sǐ líng shùshì  ซือหลิงซูซี  จอมขมังเวทย์ผีดิบ.

อย่างที่สองการที่ผู้พิทักษ์ลวีตีสามารถฟื้นฟูได้,พวกเขาจะต้องรู้แล้วว่าการกระทำของพวกเขา,เมืองลวีตีย่อมรู้แล้ว ว่าหลายปีมานี้คนที่ทำลายผู้พิทักษ์ลวีตีเป็นใคร.

อย่างที่สาม,ความแข็งแกร่งของผู้พิทักษ์ลวีตีนั้นเพียงพอที่จะบดขยี้เหล่าซือหลิงซูซี,เหล่าซือหลิงซูซีที่อยู่ในเมืองแห่งนี้ไม่สามารถที่จะหนีไปใหนได้,เป็นการเตือนพวกเขา,ใช้กลุ่มคนของพวกเขาที่อยู่ในเมืองเป็นตัวประกัน,ซึ่งกองทัพของพวกเขาจำนวนมากนอกเมืองก็ไม่กล้าที่จะเร่งรีบบุกเข้ามา!

จากผลที่เกิดขึ้นนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหล่าซือหลิงซูซีไม่กล้าเคลื่อนไหวอย่างเร่งรีบได้!

ฉู่เทียนไม่เพียงแต่ใจเย็นกับความวุ่นวายยังสามารถจัดการเรื่องราวต่างๆได้อย่างรวดเร็ว,แน่นอนว่าเรื่องดังกล่าวนี้ย่อมทำให้ซือหลิงซูซีไม่มีโอกาสเพียงพอที่จะกระทำการอะไรได้ทัน.

"ตอนนี้ยังพอมีเวลาอยู่."ฉู่เทียนที่จ้องมองไปยังท้องฟ้าที่ไม่มีเหล่ามวลเมฆาบดบัง"เวลานี้เราควรที่จะแก้ไขปัญหาสุดท้าย,ข้าจะไปพบกับพวกเตอลูอวี."

เคอลาเคอไม่คิดเลยว่าฉู่เทียนจะมีความคิดเช่นนี้"เตอลูอวีนั้นไม่มีทางยอมพบเจ้า,แม้แต่เหล่าสาวกพวกมันยังเป็นพวกไร้เหตุผล."

"ฮ่า ฮ่า, บางทีล่ะนะ."

พื้นที่ของเมืองลวีตีนั้นค่อนข้างกว้างใหญ่ทีเดียว.

กล่าวให้ถูกต้องละก็เมืองลวีตีก็คือพื้นที่เทืองเขาใหญ่แห่งหนึ่ง.

พื้นที่ของมันนั้นแม้แต่ใช้อสูรเวหายังต้องใช้เวลาสักพักหนึ่งทีเดียว,เมืองลวีตีแห่งนี้ใหญ่โตกว่าเมืองหลวงอาณาจักรหนานเซี่ย 5-6 เท่า,และตำหนักจักรพรรดิอาณาจักรหนานเซี่ยที่มีประชากร 7-8 ล้านคน,แต่เมืองลวีตีแห่งนี้มีประชากรเพียง 1 ล้านคน,นอกจากนี้โครงสร้างของมันยังเป็นสามมิติอีกด้วย,มีสิ่งก่อสร้างต่างๆนาๆทั้งปราสาทที่รวมตัวกันเป็นกระจุกๆ บ้านเรือนบางแห่งที่อยุ่บนหน้าผา,ต่างจากบ้านเรือนเผ่ามนุษย์ที่อยู่บนพื้นราบเสมอกัน,ดังนั้นเมืองลวีตีแห่งนี้จึงกลายเป็นเมืองที่ผสมผสานเข้ากับธรรมชาติอย่างลงตัว.

หากว่านับพื้นที่ในหุบเขาในส่วนที่เป็นป่าเขาแล้วล่ะก็,เมืองลวีตีแห่งนี้มีขนาดใหญ่กว่าเมืองหลวงหนานเซี่ย 200 เท่า,อาจจะเท่ากับครึ่งหนึ่งของอาณาเขตหวังหยีทีเดียว!

ทั้งที่นี่คือเมืองๆหนึ่งเท่านั้น.

เมืองลวีตีนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเทือกเขาที่ทอดยาวผ่านมา,ที่แห่งนี้มีสายน้ำที่ไหลผ่านยืดยาวออกไปไม่มีสิ้นสุด,มีสัตว์อสูรที่โผล่มา,มีบางส่วนของเทือกเขาไม่เพียงแต่มีเซียนเหยาหายาก,แต่ก็ยังมีสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดอยู่มากมาย,พลังผืนปฐพีรอบๆนั้นเปลี่ยนไปมา,เป็นเมืองที่พิเศษไม่เหมือนใคร.

สถานที่แห่งนี้คือเมืองลวีตีเขตแดนตะวันออกเฉียงใต้,สถานที่แห่งนี้มีฝนตกชุกอยู่ตลอดเวลาเป็นพื้นที่ราบสูง,ราวกับว่าเป็นหอคอยที่ตั้งตะหง่านทำกำลังจะทะลวงไปถึงสวรรค์,พื้นที่รอบๆนั้นมีพืชพรรณที่เขียวชอุ่น,และยังมีพลังบางอย่างที่กระจายกลิ่นอายออกมา,ราวกับว่าสถานที่แห่งนี้มีค่ายกลตั้งอยู่.

ลึกเข้าไปในป่าพิรุณ.

มีวิหารที่สูงใหญ่ปกคลุมไปด้วยตะไคร่น้ำ.

สถานที่แห่งนี้คือวิหารเตอลูอวี,เตอลูอวีนั้นนับเป็นหนึ่งในกลุ่มอิทธิพล,และยังเป็นกลุ่มที่ไม่มีกลุ่มอิทธิพลหนุนหลังอีกด้วย,เหล่าสาวกของเตอลวูอวีนั้นมีมากมายหลากหลาย,ทั้งเอลฟ์,อสูรวิญญาณ,เกือบทุกเผ่าพันธ์ที่มีอยู่ในป่าแห่งความวุ่นวาย,แม้แต่มนุษย์ก็ยังเป็นหนึ่งในลัทธิเตอลูอวี.

ฉู่เทียนนำเตอลวอลีซือและเคอลาเคอข้ามผ่านป่าพิรุณเข้ามาถึงวิหารแห่งนี้.

"โฮกกกก!"

เสียงดังสนั่นก้องกังวานไปทั่วทั้งป่าพิรุณต้นไม้ใหญ่ถึงกับสั่นสะท้าน,ที่บนนั้นมีหมาป่าขนาดใหญ่ยักษ์เป็นพิเศษยืนจังก้า,สายตาที่เขียวเข้มกวาดตาจ้องมองผู้รุกรานที่กำลังเข้ามา,นี่คือหมาป่าเงาอสูรระดับ 3 ,บอกได้เลยว่าเป็นสัตว์อสูรนักล่าที่น่าหวาดกลัวมาก,สามารถสังหารศัตรูโดยที่ไม่รู้สึกตัวได้เลย.

德鲁伊 Dé lǔ yī, Druid,ดรูอิด ฤๅษี

หมาป่าอสูรเงานั้นยังไม่ได้เข้ามาโจมตีในทันที,เห็นได้อย่างชัดเจนว่ามันมีภูมิปัญญาที่สูงมาก สายตาของของมันที่จ้องมองออกไป,พร้อมกับเสียงขู่เป็นภาษาอสูรวิญญาณดังสนั่นราวกับเสียงคำรามของหมาป่า"เตอลูอวีนั้นไม่ต้อนรับคนแปลกหน้า,หากกล้าเข้ามาเพียงครึ่งก้าวแล้วล่ะก็,อย่าได้หาว่าเตอลูอวีโหดร้ายก็แล้วกัน.

ระหว่างที่กล่าวออกมานั้น.

ปรากฏเตอลูอวีอีกมากมาย.

เตอลูอวีตนอื่นๆเองก็เปลี่ยนเป็นรูปร่างสัตว์ร้ายพร้อมๆกัน,วานรยักษ์,หมียักษ์,มังกรปฐพี,เป็นสัตว์อสูรที่ทรงพลังอีกมากมาย,สิ่งสำคัญนั้น,ไม่มีสัตว์ร้ายตนใหนที่อ่อนด้อยเลย,ไม่เพียงพวกเขาที่กลายเป็นสัตว์ป่าที่มีมันสมอง,ยังมีเชาว์ปัญญาและใช้วิชาต่างๆของเตอลูอวีได้ด้วย,คนเหล่านี้ไม่สามารถเอาสัตว์ร้ายทั่วไปมาเทียบได้,พวกเขาที่กลายสัตว์ร้ายที่แข็งแกร่งและชาญฉลาดพร้อมๆกัน.

บางทีในเวลานี้เพียงแค่ได้รับคำสั่งพวกเขาคงจะเข้าโจมตีในทันที.

เตอลูอวีเหล่านี้มีพลังเพียงพอที่จะบดขยี้ผู้รุกรานได้สบายๆ!

เตอลวอลีซือและเคอลาเคอที่เต็มไปด้วยความระมัดระวัง,จิตสังหารที่รุนแรงกับแผ่ออกมาคลุมพวกเขา,กลุ่มของเตอลูอวีเหล่านี้สามารถใช้พลังจากธรรมชาติได้,มีพลังที่แข็งแกร่งไม่รับฟังคำสั่งใครง่ายๆ,พวกเขากระทำการด้วยความต้องการของตัวเอง,ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้สนใจกฏระเบียบของเมืองลวีตีแม้แต่นิดเดียว,ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าเคอลาเคอเป็นรักษาการเจ้าเมืองก็ตาม,เหล่าเตอลูอวีก็ไม่มีการละเว้น.

กลุ่มของเตอลูอวีนนั้นมีพลังที่น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก,แม้ว่าพวกเขาจะปิดตัวไม่สนโลกภายนอก,แต่ทักษะในการต่อสู้,น่าจะเหนือกว่าซาแมนอู๋ซือและซือหลิงซูซีอย่างไม่ต้องสงสัย.

ฉู่เทียนกล่าวออกไปอย่างนุ่มนวล"ข้าต้องการพบเซียนจือ."

先知 ความหมายคือ (xiān zhī)ผู้ที่รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า,เทพพยากร.

ร่างของหมาป่าอสูรเงาพุ่งกระโดดออกมาในทันที,ร่างที่เหินอยู่บนอากาศเกิดแสงสว่างจ้า,บิดเบี้ยวกับกลายมาเป็นร่างมนุษย์,ก่อนที่จะร่อนลงมาอยู่บนพื้น,เป็นร่างของมนุษย์หมาป่าที่แข็งแกร่ง,คำรามใส่ฉู่เทียนหนึ่งครั้ง,ปลดปล่อยจิตสังหารที่รุนแรงออกมา.

ใบหน้าของเตอลวอลีซือและเคอลาเคอถึงกับซีดเซียวทีเดียว.

ฉู่เทียนที่อยู่ต่อหน้าเตอลูอวีเผ่าพันธ์หมาป่าที่คำรามข่มขู่เช่นนี้,เขากับยังคงสุขุม,เพราะว่าเขาเข้าใจได้ดี,เป็นเรื่องปรกติของวิหารเตอลูอวีเมื่อพบคนนอก,พวกเขาไม่รู้ว่าฉู่เทียนมาสถานที่แห่งนี้ทำไม.

ในเวลานั้น.

เสียงที่แหบเคลือส่งผ่านออกมาจากด้านใน."มีแขกผู้ทรงเกียรติเดินทางมาเยี่ยมเยือนวิหารเตอลูอวี,ขอเชิญเข้ามาด้านในได้."

ฉู่เทียนที่ไม่มองเตอลูอวีที่ข่มขู่เขาแม้แต่นิดเดียว,ก้าวเท้าเดินตรงเข้าไปในวิหารทันที,เคอลาเคอและเตอลวอลีซือลังเลอยู่ชั่วขณะ,ก่อนที่จะเดินตามหลังฉู่เทียนไป.

เหล่าเตอลูอวีระดับสูงหลายร้อยคนที่ค่อยๆเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์,ทุกคนเต็มไปด้วยจิตมุ่งร้าย,ไม่เป็นมิตรแม้แต่น้อย,เจ้าพวกสารเลวเหล่านี้ต้องการที่จะรบกวนต้าเหรินเซียนจื่อของพวกเขารึ?

เหล่าเตอลูอวีนั้นเป็นลัทธิที่ใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติ,ใช้ชีวิตเรียบง่าย,ดังนั้นวิหารของเตอลูอวีนั้นจึงแทบจะไม่มีของประดับตกต่างเลย,เหมือนกับซากโบราณสถานที่เก่าแก่มากมว่า,มีเทวรูปขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ในวิหาร,เป็นรูปปั้นของเทพปกรณัมเป็นสิ่งที่เตอลูอวีนับถือ,ที่บัลลังก์ตรงกลางที่อยู่ใกล้ๆกันนั้นมีปีกขนาดใหญ่ที่กำลังห่อหุ้มปกป้องร่างกายของคนผู้หนึ่งบนบัลลังก์,ชายที่แปลกประหลาดนั่งอยู่บนบัลลังก์ที่ดูธรรมดาทั่วไป.

自然女神 เทพปกรณัม,เทพแห่งธรรมชาติ

ฉู่เทียนที่ไม่เคยเห็นเผ่าพันธ์ของคนผู้นี้มาก่อนเลย.

เขาที่มีขนาดความสูงราวๆหนึ่งเมตร,มีผิวสีเขียวคล้ายก๊อบลิน,มีหูแหลมเหมือนเอลฟ์,รูปร่างดูเหมือนโนมแต่มีลักษณะอื่นๆผสมเข้ามาด้วย,ราวกับเป็นเผ่าพันธ์ผสมถึงสามเผ่าพันธ์ด้วยกัน,เขาที่สวมชุดคลุมธรรมดาๆ,ขาทั้งสองข้างนั่งขัดสมาธิ,ถือไม้เท้ายาว,ร่างของเขานั้นมีกลิ่นอายที่ลึกลับปกคลุมไปทั่ว.

นี่คือเตอลูอวีต้าซือในตำนานอย่างงั้นรึ?

大师ความหมายคือ (dàshī)ไต้ซือ  1.ปรมาจารย์ 2.พระคุณเจ้า

แม้แต่เตอลวอลีซือยังไม่เคยเห็นเขามาก่อนเลย,ทว่าเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของเขามานานแล้ว.

เซียนจื่อลัทธิเตอลูอวีในป่าแห่งความวุ่นวายแห่งนี้,ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้รับฉายา เซียนจื่อ(เทพพยากร)แล้วล่ะก็,ซึ่งแน่นอนว่าราวกับว่ามีบรรดาศักดิ์เทียบเท่าจู่เจียวทีเดียว,ซึ่งมีสถานะที่สูงกว่าต้าจี่ซือซะอีก,ในเมืองลวีตีแห่งนี้แทบจะไม่มีใครเคยเห็นเขา,กล่าวอีกอย่างหนึ่งเขาได้อพยพมายังเมืองลวีตีนั้น,อันเนื่องมาจากสงครามกับมังกรบินและอสูรร้ายจากโบราณกาลจบลงนั่นเอง

主教 ความหมายคือ (zhǔ jiāo)ตำแหน่งบิชอบของศาสนาโรมันคาทอลิก

大祭司, [dà jì sī, 大祭司] High Priest พระชั้นสูง, หัวหน้าคณะสงฆ์

มังกรบินนั้นนับว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าหวาดกลัวอย่างงั้นรึ?

กล่าวให้ถูกต้องล่ะก็,ต้าจี่ซือของเกือบทุกลัทธิในเมืองลวีตีแห่งนี้ไม่มีใครเป็นคู่มือพวกเขาได้.

สถานที่แห่งนี้เป็นสิ่งที่พิเศษมาก,ด้วยคำบอกเล่าของเตอลูอวีเซียนจื่อ,ซึ่งเขานั้นหาได้ใช่คนทั่วไป,เขาที่มีความสามารถทำนายอนาคตสื่อสารกับเทพวิญญาณได้,เรื่องสำคัญทุกอย่างที่เกิดขึ้นในป่าแห่งนี้,ตราบเท่าที่เซียนจื่อต้องการจะรู้ไม่มีสิ่งใดซ่อนจากตัวเขาได้.

ทำไมเคอลาเคอถึงได้หวาดกลัวลัทธิเตอลูอวี!

เตอลูอวีเป็นลัทธิที่เรียบง่าย,ทว่ากลับสามารถที่จะคุกคามเมืองลวีตีแห่งนี้ได้,ไม่เพียงแต่ซาแมนอู๋ซือและซือหลิงซูซี,กลุ่มคนพวกนี้ยากที่จะต่อกรกับพวกเขาได้,พวกเขาเป็นกลุ่มเดียวที่ไม่มีลัทธิอื่นใดสามารถกล้ำกลายได้.

เซียนจื่อนั้นไม่ใช่คนที่จะสามารถพบได้ง่ายๆ.

ตลอดสามสิบปีนี้เคอลาเคอเคยพบเขาแค่สองครั้งเท่านั้น.

เมื่อฉู่เทียนบอกต้องการพบกับเตอลูอวี,เคอลาเคอพยายามที่จะห้ามเขา,เพราะว่ามันเป็นการกระทำที่ไร้ประโยชน์,ซึ่งหากว่าไปยุแหย่เตอลูอวีแล้วล่ะก็,มีแต่จะเป็นการสร้างปัญหาเพิ่มขึ้นซะมากกว่า.

ใครจะรู้ล่ะ,ว่าเขาจะยอมพบกับฉู่เทียน,เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงเลยจริงๆ.

เซียนจื่อที่ค่อยๆลืมตาขึ้นมา,ศีรษะของเขาที่เล็กมากๆ,ดวงตาที่กลมโต,รูปร่างเหมือนเด็กเล็ก,ทว่าดวงตาของเขาที่กลมโตนั้น,กับชัดเจนแจ่มแจ้ง,เต็มไปด้วยภูมิปัญญามากมาย.

"ข้ามีนามว่าฉู่เทียน,ชื่นชมลัทธิเตอลูอวีมานานแล้ว,เป็นโชคแล้วที่ได้พบกับเซียนจื่อ,เป็นเรื่องไม่ง่ายเลยจริงๆ,"ฉู่เทียนที่จ้องมองออกไม่หลบตาเลยแม้แต่น้อย"ในเมื่อได้รับโชคลาภเช่นนี้,ไม่รู้ว่าจะแม่นยำขนาดใหน จะเป็นไรไปหากต้าซือจะช่วยทำนายดวงชะตาของข้าหน่อยจะได้หรือไม่?"

"สามหาว!"

ด้วยคำพูดที่ไร้ซึ่งการเคารพ,ทำให้เหล่าเตอลูอวีที่อยู่รอบๆเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวอย่างรุนแรง.

เซียนจื่อนั้นมีสถานะที่สูงส่งมากๆในลัทธิเตอลูอวี,เหล่าเตอลูอวีมากมายที่เติบโตและแข็งแกร่งขึ้นมานั้นเป็นเพราะได้รับคำแนะนำของเซียนจื่อ,มนุษย์ผู้หนึ่งที่อ่อนแอคาดไม่ถึงเลยว่าจะพูดจาไม่สุภาพของต้าซือพวกเขา,เป็นเรื่องที่ไม่สามารถที่จะอภัยให้ได้เลย.

ใบหน้าของเคอลาเคอและเตอลวอลีซือถึงกับซีดเผือดทีเดียว.

 พวกเขาไม่คิดเลยว่าฉู่เทียนจะได้เข้ามาในวิหารเตอลูอวี,และคาดไม่ถึงไปใหญ่เมื่ออยู่ต่อหน้าเหล่าเตอลูอวีมากมาย,เขากับขอคำขอเช่นนั้นออกไปต่อหน้าเซียนจื่อ.

ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย

Half-Drunk Wanderer
????

สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP (สถานปัจจุบัน แปลจบ 658 แล้ว)==>  Click

-เว็ปฟรี วันละหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip ลงครบทุกลุ่มแล้ว