วันพุธที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2561

Immortality Chapter 110 Iron Spear Sect

Immortality Chapter 110  Iron Spear Sect

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 110 สำนักทวนเหล็ก.


บทที่ 110 สำนักทวนเหล็ก.



ครึ่งเดือนหลังจากนั้น,หุบเขาแห่งหนึ่งเลยไปทางทิศตะวันออกของสำนักไคหยาง.

ในเวลานี้มีคนสามคนที่กำลังร่อนลงไปในหุบเขาดังกล่าว.



จงซาน,เทียนชาและเป่ยชิงซือ,พวกเขาเดินทางมาห้าวันแล้ว,ตามคำสั่งของเทียนซวินจื่อ,พวกเขากำลังเดินทางไปยังดินแดนหมาป่าเพื่อหาหนี่ปูซา,ตอนแรกนั้นเทียนชาและเป่ยชิงซือไม่จำเป็นต้องพัก,ทว่าจงซานอยุ่ในระดับเซียนเทียน,ตอนนี้บินมาห้าวันแล้ว,พวกเขาจึงจำเป็นต้องพักบ้าง.

จนซานที่นอนพักในเปลบนต้นไม้ใหญ่,ดวงตาของเขาหลับลง,นอกจากนี้พื้นที่รอบๆยังมืดไปหมด,พวกเขาทั้งหมดตัดสินใจที่จะเดินทางต่อไปพรุ่งนี้.

ต้องไม่ลืมว่าเป่ยชิงซือเป็นสตรี,นางยิ่งไม่สามารถพักร่วมกับบุรุษทั้งสองได้,หลายปีมาแล้วนางก็ระมัดระวังเรื่องนี้มาตลอด,ส่วนจงซานเองก็ไม่ได้พักร่วมกันกับเทียนชา,ในหุบเขาแห่งนี้นับว่าเป็นสถานที่ปลอดภัย,ดังนั้น,คนทั้งสามจึงได้เลือกแต่ละมุมของหุบเขาแห่งนี้ในการพัก.

จงซานที่ได้หลับไป,ระหว่างที่เป่ยชิงซือได้ปักธวัชสร้างค่ายกลรอบๆ,นางที่หลับตาบำเพ็ญโคจรพลัง,หมอกสีขาวที่ปกคลุมไปทั่ว,จนด้านนอกนั้นไม่สามารถมองเข้าไปในด้านในได้.

เทียนชาเองที่บำเพ็ญโคจรพลังอยู่อีกฝั่งหนึ่ง,ทว่าภายในใจไม่ค่อยสงบนัก,ดวงตาของเขาลืมขึ้นเป็นครั้งคราจ้องมองไปยังพื้นที่หมอกสีขาวปกคลุม,ก่อนที่จะจ้องมองไปยังจงซานที่อยู่บนต้นไม้ใหญ่ไม่ไกลออกไป.

ภายในสายตาของเทียนชานั้นเต็มไปด้วยจิตสังหาร,ห้าวันมานี้,เทียนชาที่ลอบมองเป่ยชิงซือที่ดูเหมือนว่านางจะสนิทสนมกับจงซานไม่น้อย,ทั้งที่นางเป็นคนที่น่าจะเรียกได้ว่าธิดาน้ำแข็ง,ในอดีตนั้นนางเป็นคนเย็นชาเป็นอย่างมาก,แม้แต่เขาที่เป็นศิษย์พี่ใหญ่,เป่ยชิงซือยังแสดงท่าทางเย็นชาใส่เอย่างไม่แยแสเลย.

อย่างไรก็ตาม,หลายครั้งหลายคราในเวลานี้นางกับพูดคุยกับจงซาน,ด้วยท่าทางอ่อนโยนอย่างคาดไม่ถึง,ความอ่อนหวานั้นคืออะไร,อีกอย่างก่อนหน้านี้เขาเห็นนางออกมาจากน้ำพุร้อนด้วยกัน,เทียนชาที่อดจะสงสัยเรื่องนี้เอาไว้ไม่ได้เลย.

สายตาที่เย็นชาของเขาจับจ้องมองไปยังจงซาน,ตอนนี้เป็นเวลาเทียนคืน,เทียนชาที่ลุกออกไปในทันที,ประกายแสงในดวงตาที่เต็มไปด้วยความเป็นปฏิปักษ์,ก้าวไปยังทิศทางของจงซาน.

จงซานที่พักผ่อนอยู่ราวกับว่าเขาได้ตายไปแล้ว,ด้วยเทียนชากำลังพักจนเหมือนรู้สึกว่าจงซานหลับลึกราวไร้ซึ่งลมหายใจ,ไม่เช่นนั้นแล้วเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะก้าวเข้ามาใกล้.

เขาที่ก้าวเข้าไปช้า,มือขวาที่กระชับด้ามจับกระบี่แน่น.

ห่างออกมาไม่ไกลจากจงซานเท่าใดนัก,เทียนชาที่หยุด,สายตาที่จ้องมองไปยังทิศทางของจงซาน,ในเวลานั้นหากว่าเขาปล่อยปราณกระบี่ออกไป,เป็นเรื่องง่ายมากที่จะสามารถสังหารจงซานได้ในดาบเดียว,แน่นอนว่าจากนั้น,มารหัวใจของเขาก็จะหายไป,ทว่าเทียนชาก็รั้งรอก่อนที่จะค่อยๆปล่อยด้ามจับกระบี่ออกไป.

การสังหารจงซานนั้นเป็นเรื่องง่ายมาก,แต่หากว่าเขาลงมือ,ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เรื่องดีนัก,ไม่เพียงแต่เขาไม่มีข้อแก้ตัวกับอาจารย์,เป่ยชิงซือที่อยู่ไม่ไกลออกไปก็ยากที่จะอธิบายกับนางได้,ทำให้เขาล้มเลิกความคิดไปนั่นเอง.

อย่างไรก็ตาม,กับจิตสังหารที่เทียนชาแผ่ออกมานั้น,จงซานสามารถรับรู้ได้ย่างแน่นอน,แม้ว่าเขาจะหลับตาพักหยุดนิ่ง,ทว่าก็ได้ยินเสียงการย่างเท่าของจงซานที่ก้าวเขามาใกล้,ก่อนที่เขาจะหยุดลง,เห็นได้อย่างชัดเจนทำให้หัวใจของเขาบีบรัดทีเดียว.

การหลับของจงซานนั้นไร้ซึ่งเสียงใดๆ,แต่หลังจากที่เทียนชาจากไป,เขาก็ลืมตาในทันที,ก่อนที่จะเริ่มลุกกลับมานั่ง.

จงซานที่จ้องมองไปรอบๆ,เห็นธวัชสร้างค่ายกลของเป่ยชิงซือ,ดูเหมือนว่าเป่ยชิงซือจะสามารถรับรู้ได้ถึงการเคลื่อนไหวของเทียนชาหรือไม่?
Looks at deserted that foot, the Zhong Shan pupil shrinks. Tiansha, can Tiansha to oneself disadvantageous?
จ้องมองไปยังทิศทางที่เทียนชาที่บินจากไป,ดวงตาของจงซานที่หรี่เล็กลง,การที่เขากระทำเช่นนี้มันไม่เป็นประโยชน์ต่อเขาไม่ใช่รึ?

ก่อนหน้านี้,จงซานที่พักผ่อนเสมือนตาย,จนทำให้ร่างกายของเขาที่ไม่สามารถมีใครจับสัมผัสได้,หลายวันมานี้เขาลอบสังเกตเฝ้ามองเทียนชาอยู่,แม้ว่าจะอยู่ในเวลานอน,เขาเองก็ไม่ได้ประมาท,เขาที่ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา,รับรู้ได้ว่าเทียนชากำลังก้าวเข้ามาหาเขา.

ที่จริงแล้ว,จงซานที่เลือกพักอยู่บนต้นไม้ใหญ่,ไม่ใช่ว่าเขาประมาทแต่อย่างใด,แม้ว่าจงซานจะมีพลังฝึกตนไม่สูง,ทว่าในการใช้ชีวิตของจงซานในโลกปุถุชนจงซานเป็นคนที่ระมัดระวังตัวอยู่เสมอ.

ก่อนนอนนั้น,จงซานที่ใช้ผงแมลงที่แปลกประหลาดกระจายออกไปรอบๆ,ซึ่งเป็นวิธีการที่พิเศษมาก,ซึ่งผงดังกล่าวนี้มีลักษณะที่เฉพาะเจาะจงเป็นอย่างมาก,เมื่อผงดังกล่าวกระจายออกไป,ตราบเท่าที่มีสิ่งมีชีวิตเคลื่อนที่เข้าไกลในรัศมีร้อยเมตร,จะทำให้ผงเกษรของมันเปลี่ยนไปทำให้เขาสามารถรับรู้กลิ่นที่แปลกประหลาดได้,และจงซานก็จะตื่นขึ้นมาในทันที.

การที่จงซานแสร้งหลับต่อหน้าเทียนชา,ในเวลากลางคืนเช่นนี้,ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน.

เขาที่ลุกขึ้นเรื่อยๆ,ก่อนที่จะก้าวออกไปด้านหน้า,เขาที่จับจ้องมองไปยังสถานที่ของเทียนชาที่บินออกไป,ตอนนี้เขาได้เคลื่อนไหวเข้าไปอยู่ใกล้ๆสถานที่ค่ายกลของเป่ยชิงซืออยู่.

การที่เขาเคลื่อนที่เข้าใกล้ค่ายกลของนาง,เป่ยชิงซือที่อยู่ด้านในสามารถรับรู้ได้อย่างแน่นอน.

เป่ยชิงซือที่ลุกขึ้น,พร้อมกับเก็บธวัชของนาง,ก่อนที่จะจ้องมองไปยังจงซาน.

"จงซาน,เจ้าไม่พักอย่างงั้นรึ?มีอะไรหรือไม่?"เป่ยชิงซือที่สอบถามด้วยความสงสัย,จับจ้องมองไปยังอีกซึ่งหนึ่งของหุบเขา,ซึ่งเขาเห็นว่าเทียนชาได้ออกไปสำรวจยังสถานที่ดังกล่าว.

"ชิงซือ,ข้าคุยกับท่านได้หรือไม่?"จงซานที่เอ่ยปากออกมาในทันที.

"อืม."เป่ยชิงซือพยักหน้า.

ทั้งคู่ที่ขึ้นไปนั่งบนก้อนหินก้อนใหญ่.

"ก่อนหน้านี้ที่สำนักไคหยาง,ข้าเห็นชุดของท่านมีรอยขาดวิ่นจากการต่อสู้,เจ้าไปพบกับอันตรายใดเข้าอย่างงั้นรึ?"จงซานที่สอบถามออกมา.

"อืม,เป็นกลุ่มพวกทรยศ,ที่ถูกส่งออกมาค้นหาข้า."เป่ยชิงซือที่ถอนหายใจออกมาอย่างนุ่มนวล.

"กลุ่มผู้ทรยศที่เคยเข้าโจมตีตระกูลเจ้าอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วสอบถามออกมาทันที.

"ใช่แล้ว,เป็นพวกเขา,ข้าที่หนีออกมาได้,พวกเขาน่าจะรับรู้แล้วว่าข้ามีชีวิตอยู่,พวกเขาจะต้องส่งคนจำนวนออกมาไล่ล่าแน่,ดังนั้นข้าจึงต้องการได้หลักฐานชิ้นที่สามให้ได้เร็วที่สุดนั่นเอง."เป่ยชิงซือที่กล่าวออกมาเสียงดังชัดเจน.

เขาได้ยินคำพูดของเป่ยชิงซือก็ขมวดคิ้ว,แล้วสอถบถามออกมา,"พวกเขาพบเจ้าได้อย่างไร?"

จ้องมองไปยังจงซาน,เป่ยชิงซือที่ส่ายหน้าไปมาพลางถอนหายใจ,"นั่นเป็นเพราะสีผมและคิ้วที่เด่นเป็นเอกลักษณ์,ไม่ว่าจะมีพลังฝึกตนเท่าไหร่,ด้วยสัญลักษณ์เช่นนี้,มันได้กลายเป็นเครื่องหมายแสดงถึงลักษณะเฉพาะของสายโลหิตของตระกูลเป่ย,ดังนั้นทุกคนจะเห็นข้าได้ในทันที."

เขาที่จ้องมองไปยังเส้นผมสีขาวเงินที่ดูน่าดึงดูดนั่น,จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาและกล่าวออกไปอีกว่า"เจ้าไม่สามารถเปลี่ยนสีมันได้อย่างงั้นรึ?"

"ข้าไม่มีทักษะพอ,เมื่อสายโลหิตแสดงออกมา,สถานะของของข้าจึงถูกเผยในทันที,แม้ว่าข้าจะได้รับพลังจากสายโลหิตของข้าก็ตาม,ในอดีตนั้น,หากไม่ใช้วิชาเฉพาะ,ข้าคงไม่สามารถมายืนอยู่ที่นี่ได้."เป่ยชิงซือที่กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล.

กับความหนาวเย็นในคำพูดของนาง,จงซานสามารถเห็นความข่มขื่นในท่าทางของนางได้.

"ทักษะของสายโลหิตของตระกูลเป่ยคืออะไรเหรอ,ไม่ๆ,ความแข็งแกร่งของเจ้าตอนนี้?อยู่ในขั้นใหน,เทียบได้กับเทียนชาได้หรือไม่?"จงซานที่อยากรู้เกี่ยวกับสายโลหิตของตระกูลเป่ย,ทว่าทันใดนั้นเขาก็หยุดเอาไว้ทันที,เขารับรู้ได้,เกี่ยวกับหนานป่าเทียนที่มีทักษะสายโลหิตเช่นกัน,แม้แต่เทียนหลิงเอ๋อสนิท,ยังดื้อรั้นไม่สามารถบอกออกมาได้,ดังนั้นเรื่องนี้จึงเห็นได้ชัดว่าเป็นหัวข้อต้องห้าม.

เป็นความจริงอยู่แล้ว,สิ่งดังกล่าวนี้เปรียบเหมือนกับการรักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้,เรื่องนี้จะให้คนอื่นรู้ได้อย่างไร?ดังนั้นจงซานจึงหยุดกลางคันและเปลี่ยนหัวข้อไปในทันที.

เห็นท่าทางของจงซานแล้ว,เป่ยชิงซือเผยยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน,ดูเหมือนว่าจงซานเองก็รู้ดี,เรื่องของความลับสายโลหิตนั้นไม่สามารถที่จะบอกใครได้,ทว่านางก็ครุ่นคิดกับอีกคำถามพร้อมกับกล่าวออกมาว่า"เทียบกับศิษย์พี่ใหญ่,หากไม่สู้ก็คงไม่รู้."

หากไม่สู้ก็คงไม่รู้? ในสายตาของจงซานที่เปล่งประกาย,ด้วยนิสัยของเป่ยชิงซือที่ชอบเก็บตัว,หากไม่สู้ก็คงไม่รู้,แน่นอนว่านางจะต้องแข็งแกร่งกว่าเทียนชาอย่างแน่นอน.

อาจารย์เคยบอกว่าความแข็งแกร่งของเทียนชานั้น,สามารถจัดการกับผู้ฝึกตนก่อตั้งวิญญาณระดับต้นได้,เช่นนั้นความแข็งแกร่งของเป่ยชิงซือก็ไม่ได้ด้อยกว่าสามารถต่อกรกับผู้ฝึกตนก่อตั้งวิญญาณระดับต้นได้หรือ?

"อีกนานเท่าไหร่ที่พวกเราจะเข้าเขตแดนหมาป่า?"จงซานที่คิดได้และเปลี่ยนหัวข้อในทันที.

"น่าจะอีกไม่นาน,ที่ทิศตะวันออกเฉียงใต้นั้นมีหมู่บ้านกระบี่พิสุทธิ์และสำนักทวนเหล็ก,หากเข้าใกล้ทั้งสองสำนักก็จะเข้าใกล้เขตแดนหมาป่าแล้ว,ซึ่งหากบินตรงไปยังทิศตะวันออกแค่ชั่วโมงครึ่ง,ก็เข้าเขตแดนหมาป่า."เป่ยชิงซือคิดครู่หนึ่งและกล่าวออกมา.

"นิกายทวนเหล็กอย่างงั้นรึ?"จงซานขมวดคิ้วไปมาในทันที.

"มีอะไรอย่างงั้นรึ? หรือว่าเจ้ารู้จัก?"เป่ยชิงซือที่เอ่ยถามด้วยความสงสัย.

"อืม,สหายของข้าอยู่ที่นั่น,หากเป็นไปได้,พรุ่งนี่ผ่านไปทางสำนักทวนเหล็กได้หรือไม่?"จงซานกล่าวต่อเป่ยชิงซือ.

นางที่จ้องมองไปยังจงซานเงียบๆ,ก่อนที่เป่ยชิงซือจะพยักหน้าให้.

หลังจากนั้นทั้งคู่ก็พูดคุยกันถึงเรื่องต่างๆ,จวบจนถึงรุ่งเช้า,ก่อนที่จงซานจะเปลี่ยนหัวข้อเกี่ยวกับผมและคิ้วสีเงินของนางอีกครั้ง.

"ขอข้าดูเส้นผมของท่านได้หรือไม่?"จงซานที่กล่าวออกมาในทันที.

"หืม?"เป่ยชิงซือที่ชำเลืองมองตาโต,สายตาของนางที่เต็มไปด้วยท่าทางสงสัย.

"อย่าได้เข้าใจผิด,ข้าเพียงแต่ต้องการเห็นสภาพลักษณะของมันเท่านั้น,บางทีข้าอาจจะสามารถเปลี่ยนสีผมของท่านได้."จงซานที่กล่าวอย่างจริงจัง.

"หืม?"สายตาของเป่ยชิงซือที่แสดงท่าทางประหลาดใจ,ก่อนที่นางจะพยักหน้าให้.

เมื่อได้รับอนุญาตจากเป่ยชิงซือ,จงซานที่ยื่นมือออกไป,สัมผัสกับชายผมของเป่ยชิงซืออย่างระมัดระวัง.

ผมที่ยาวสลวยของเป่ยชิงซือนั้น,ดูนุ่มนวลเป็นอย่างมาก,เป็นความนุ่มลื่นที่ยากจะทานทนได้,นอกจากนี้ยังแผ่กลิ่นอายที่เย็นยะเยือบออกมา.

จงซานที่ถอนหายใจลึก,จ้องมองด้วยความระมัดระวัง,ก่อนที่จะเผยสีหน้าออกมาด้วยความมั่นใจ.

ทว่าในเวลานั้น,เทียนชาที่อยู่บนกระบี่เหิน,กำลังจ้องมองมาจากที่ไกลออกไป.

แทบจะในทันทีที่เทียนชากลับมา,เขาก็โกรธเกรี้ยวปอดแทบระเบิด,เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?ชายโฉดหญิงชั่ว.

กับสิ่งที่เทียนชาเห็น?เปี่ยชิงซือและจงซานนั่งเคียงคู่กันกับนาง,สายตาของนางที่เต็มไปด้วยความชอบพอ,อีกทั้งจงซานยังจับไปที่ผมของนางอย่างนุ่มนวล,พร้อมกับรอยยิ้มที่แปลกประลาด,นี่มัน,ชายโฉดหญิงชั่ว!

ใบหน้าของเทียนชาที่แดงซ่านด้วยความโกรธ,หมัดที่กำแน่นเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ,มืออีกข้างที่กุมไปที่ด้ามกระบี่พร้อมจะสับร่างของจงซาน,เป่ยชิงซือที่เต็มไปด้วยความอหังการ,ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเย็นชา,ปรกติชอบทำตัวเหมือนกับภูเขาน้ำแข็ง,ที่ดูต่างจากหญิงสาวทั่วๆไป,แต่ตอนนี้.กลับไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว,ชิ!

แต่แล้วจิตสังหารของเขาแผ่ออกมา,ทันใดนั้นก็เก็บกลับไป,ใบหน้าที่ค่อยๆฟื้นกลับมาเป็นดังเดิม,ก่อนที่จะร่อนลงยังหุบเขา.

ในเวลานั้นจงซานก็พบว่าเทียนชากลับมาแล้ว,เขาที่ปล่อยผมของเป่ยชิงซือไป,ก่อนที่จะหันหน้ากลับมามองเทียนชา,ทว่าใบหน้าของเป่ยชิงซือก็เปลี่ยนกลับไปเป็นไม่แยแสเหมือนเดิม.

เห็นท่าทางใบหน้าของเป่ยชิงซือที่เปลี่ยนไป,สายตาของเทียนชาก็ดูราวแฝงไปด้วยความชั่วร้าย.

"จงซาน,ไม่ใช่ว่าเจ้าต้องพักหรอกรึ?"เทียนชาที่ขมวดคิ้วไปมาจ้องมองไปยังจงซาน,สายตาที่เต็มไปด้วยความดุร้าย.

ทว่าจงซาน,จำเป็นต้องหวาดกลัวอย่างงั้นรึ?

"ครับ,ศิษย์พี่,พวกเราสามารถเดินทางต่อได้เลย."จงซานที่พยักหน้าและกล่าวออกมา.

"อืม."เทียนชาที่พยักหน้า.

เป่ยชิงซือที่นำกระบี่สีขาวออกมา,คนทั้งสามก็เหินต่อไปอีกครั้ง.

แม้ว่าความเร็วในการบินของจงซานจะไม่ได้เร็วนัก,ทว่าก็ดีกว่าเดินทางด้วยเท้าผ่านภูเขาและหุบเหว.

ในขณะที่บินั้น,จงซานและเป่ยชิงซือที่เบี่ยงตัวเล็กน้อยมุ่งไปยังทิศตะวันออกเฉียงใต้,เทียนชาที่ขมวดคิ้วไปมาจ้องมองไปยังที่จงซาน.

"ศิษย์พี่ใหญ่,สำนักทวนเหล็กนั้น,มีสหายของข้าอยู่,ข้าต้องการไปพบกับเขาสักครั้ง."จงซานที่กล่าวออกมา.

เทียนชาที่เห็นว่าเป่ยชิงซือก็เห็นดีเห็นงามด้วย,ภายในใจของเขาที่เต็มไปด้วยความโกรธ,นี่มันชายโฉดหญิงชั่วจริงๆ,ทว่าเทียนชาก็ยังคงสุขุมพยักหน้าให้,ต้องไม่ลืมว่าจงซานและเขาต่างก็เป็นศิษย์หลักของเทียนซวินจื่อ,นอกจากนี้ยังมีเป่ยชิงซือ,เขาไม่สามารถทำอะไรอย่างเปิดเผยได้.

ตอนบ่ายแก่ๆ,คนทั้งสามที่อยู่ห่างจากสำนักทวนเหล็กไม่ไกลแล้ว,ทว่าคนทั้งสามก็หยุดพักไม่เข้าไป.

เพราะว่าท้องฟ้าของสำนักทวนเหล็กนั้น,มีประกายแสงลำหนึ่งที่พุ่งขึ้นมาหลายร้อยจ้างเป็นปราณหอกนั่นเอง,ส่องประกายแสงสว่างไปทั่วหุบเขา.

"ตูมมม,ตูมมม,ตูมมม..."

เกิดเป็นประกายแสงและเสียงการระเบิดดั่งสนั่นไปทั่วทิศบนยอดเขา,ปราณหอกและปราณกระบี่,เข้าปะทะโรมรัน,แต่ละฝ่ายต่างก็สร้างหลุมขนาดใหญ่ขึ้นมา.

เสียงระเบิดที่เกิดจากการต่อสู้ดังติดต่อกันครั้งแล้วครั้งเล่า,ฝุ่นผงที่ฟุ้งกระจาย,เศษหินและต้นไม้ที่หักโค่น,เป็นการต่อสู้ที่รุนแรงเป็นอย่างมาก.

"ทรงพลังมาก!"เป่ยชิงซือที่เอ่ยปากออกมาเบาๆ.

เป็นพลังที่แข็งแกร่งจริงๆ,จงซาที่ชำเลืองมองตาโตกับกลิ่นอายที่แผ่จนมาถึงที่แห่งนี้,ถึงแม้ว่าจะอยู่ห่างข้ามภูเขามาหลายลูกยังสามารถสัมผัสได้ถึงพลังของปราณหอกที่ทรงพลังเป็นอย่างมากจากทิศดังกล่าว.

พลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้,ต้องไม่ใช่ระดับแกนทองแน่,ไม่มีทางที่ปราณหอกของผู้ฝึกตนระดับแกนทองจะทรงพลังขนาดนี้.

ผู้ฝึกตนระดับก่อตั้งวิญญาณ?

สำนักทวนเหล็กนั้นมีผู้ฝึกตนระดับก่อตั้งวิญญาณเพียงคนเดียว,นั่นก็คือประมุขของพวกเขา,ดูเหมือนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับสำนักทวนเหล็กที่เจ้าโส่วเซี่ยงได้ข่าวไป,ทำให้ประมุขของพวกเขากลับมาแล้วเป็นแน่.

เป่ยชิงซือที่จ้องมองไปยังจงซาน,และเทียนชาเองก็จ้องมองไปยังเขาด้วยเช่นกัน,ท่าทางของทั้งคู่นั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง.

เป่ยชิงซือที่ต้องการสอบถามจงซานว่าจะเดินทางต่อไปด้านหน้าหรือไม่,ต้องไม่ลืมว่าจงซานนั้นต้องการมาพบกับสหายของเขา,ส่วนเทียนชานั้นก็แอบลุ้นให้จงซานเดินทางไปต่อ,เพราะเขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่าด้านหน้านั้นมีการต่อสู้กันอยู่,หากว่าจงซานเข้าไปใกล้,โดยไม่ระมัดระวัง,เขาจะถูกสังหารไปอย่างง่ายดาย,โดยที่เขาไม่จำเป็นต้องลงมือเองด้วยซ้ำ.

"ศิษย์พี่ใหญ่,ชิงซือ,พวกเราเข้าไปใกล้กว่านี้ได้หรือไม่?"จงซานที่ครุ่นคิดครู่หนึ่งและกล่าวออกมา.

"อืม."เป่ยชิงซือที่พยักหน้าให้อย่างนุ่มนวล.

ทว่าเทียนชาที่ลอบมองอย่างเงียบๆไปยังเป่ยชิงซือ,"ชิงซือ"? คาดไม่ถึงเลยว่าจงซานจะเรียกนางเช่นนั้น? อย่างไรก็ตามเป็นความคิดที่ดีแล้ว.

"ได้,ในเมื่อเป็นสหายของศิษย์น้องก็เป็นเหมือนสหายของข้าด้วย."เทียนชาที่กล่าวออกมาในทันที.

จงซานพยักหน้า,เขาจะไม่รู้ว่าเทียนชาแสร้งทำได้อย่างไร,เขาย่อมรับรู้ความตั้งใจของเทียนชาได้.

"ไปกันเถอะ."จงซานที่ยืนอยู่บนดาบฝันร้ายก่อนที่จะนำหน้าพุ่งตรงไปยังสถานที่ดังกล่าว.

พวกเขาที่เคลื่อนที่เข้าไปใกล้และแอบซ่อนตัวอยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่ง,ลอบมองลงไปด้านล่าง.

กับภาพฉากด้านล่าง,ดวงตาของจงซานที่หดเกร็งไปเหมือนกัน,มีศพอยุ่มากมาย,กระจายไปทั่วทั้งหุบเขา,น่าจะมีอยู่ราวๆ 500 ศพ,นอกจากนี้ยังเป็นผู้ฝึกตนจากสำนักที่แตกต่างกัน,กับศพของผู้ฝึกตนที่มีมากมายขนาดนี้,ทำให้จงซานตื่นตกใจเป็นอย่างมาก.

เพราะว่าสำนักไคหยางเป็นสำนักใหญ่,เท่าที่เขารู้นั้น,มีคนอยู่ราวๆบ 200 คนในสำนัก,แน่นอนว่าอาจจะมีอยู่มากกว่านั้นที่จงซานไม่รู้,ทว่ากับจำนวนที่เขาเห็นตอนนี้,ก็ไม่มีมากมายนัก.

กับศพผู้ฝึกตนถึงห้าร้อยคน,ไม่ว่าจะมีพลังฝึกตนเท่าไหร่ก็ตาม,คนที่ตายไปในครั้งนี้ถือว่าเป็นจำนวนมากเลยทีเดียว.

เห็นท่าทางของจงซานที่เต็มไปด้วยความสงสัย,เป่ยชิงซือที่กล่าวออกมาทันที,"สำนักเซียนทั่วไปเองก็ไม่ได้มีมากมายเท่าไหร่นัก,ทว่าที่มีจำนวนมากมายขนาดนี้,เป็นเพราะมีหลายสำนักมารวมกัน.

"อืม."จงซานที่พยักหน้าและจ้องมองไปยังข้างล่างต่อ.

ศพผู้ฝึกตนกว่าห้าร้อยคน,พวกเขาที่อาวุธที่ไม่เหมือนกัน,แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นหอกยาว,ซึ่งมีอยู่ราวๆบ 300 ศพ,ส่วนศพอื่นๆนั้นมีอาวุธที่แตกต่างกันไป,ทั้งกระบี่,ดาบและยังมีไม้เท้าอีกด้วย.

ถึงจะมีคนตายไปจำนวนไม่น้อย,แต่ผู้ฝึกตนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็มีอยู่ไม่น้อย.

ที่เชิงเขาทิศเหนือ,มีคนสิบคนที่กุมหอกยาวอยู่และมีคนเก้าคนที่อยู่ด้านหลัง,ร่างกายแต่ละคนเต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย,ร่างกายโชกไปด้วยโลหิต,ดูเหมือนว่าจะเริ่มอ่อนแรงแล้ว,ทว่าสายตาของพวกเขายังคงมั่นคง,สายตาที่ไม่ยอดแพ้พร้อมจะต่อสู้จนตัวตาย,คนที่ยืนอยู่ที่หน้าคนทั้งเก้าคนนั้น,ก็คือสหายของจงซาน,เจ้าโส่วเซี่ยง.

ใบหน้าที่บวมปูดที่แก้มด้านซ้าย,ที่มุมปากมีโลหิตไหลออกมา,ทว่าสายตาของเขายังคงจ้องมองปลดปล่อยจิตสังหารที่รุนแรงออกมา.

คนทั้งเก้าที่ยืนอยู่ด้านหลังของพวกเขา,ทุกคนต่างก็กุมหอกยื่นไปด้านหน้าระวังภัยให้กันและกัน.


เวลานี้ทุกคนต่างก็ยังเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น,ร่างกายทั่วร่างที่เต็มไปด้วยรอยช้ำ,ทว่าใบหน้าก็ยังเต็มไปด้วยความมั่นใจ,สายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวอย่างถึงที่สุด.


ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น