วันอังคารที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 398 Acceptance

Miracle Throne Chapter 398 Acceptance

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 398 ยอมรับข้อเสนอ


บทที่ 398 ยอมรับข้อเสนอ


ฉู่เทียนเข้าใจแจ่มแจ้งการจะได้เมืองหนึ่งเมืองในป่าแห่งความวุ่นวายนั้นยากลำบากขนาดใหน.

อย่างแรกเมืองในป่าแห่งนี้แต่ละแห่งนั้นมีพลังจิตวิญญาณที่แตกต่างกันและยังเป็นสถานที่รับส่งทรัพยากรอีกด้วย,หากว่าเมืองแห่งนั้นมีทรัพยากรไม่เพียงพอ,การสร้างเมืองขึ้นมานั้นมักจะไม่คุ้มค่า,และยากที่จะดึงดูดทุกคนเข้ามาซื้อขายแลกเปลี่ยน,เรื่องถัดมา,เจ้าเมืองเองจำเป็นต้องมีความแข็งแกร่งที่น่าพรั่นพรึงด้วย,หากไม่มีพลังเพียงพอปกป้องเมืองแล้วล่ะก็,ใครจะกล้าเข้าไปทำการซื้อขายในเมืองแห่งนั้นล่ะ?


เจ้าเมืองใหญ่แต่ละเมืองนั้นต้องมีพลังที่สามารถทำให้เหล่าอิทธิพลมืดในป่าไม่เข้ามาวุ่นวายได้.

เมืองใหญ่ในป่านั้นนับว่าเป็นการต่อสู้แข่งขันของเหล่ายักษ์ใหญ่,มีทรัพยากรมากมายยิ่งกว่า,การเอาตัวรอดก็เข้มข้นมากกว่าด้วย.

ประชาชนส่วนมากของเมืองหลักนั้น,ประชากรย่อมเป็นชนชั้นกลาง,ยกตัวอย่างเช่น,เมืองเอลฟ์,หรือเมืองอสูรวิญญาณ และยังมีเมืองยักษา,เมืองเผ่าพันธทะเล,เผ่าต่างๆเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีจำนวนมาก,ดังนั้นพวกเขาจึงมีเมืองของตัวเอง,และ 80 เปอร์เซ็นต์,ก็เป็นประชากรของพวกเขาเอง.

มีเพียงแค่ราชาจักรพรรดิมังกรที่เป็นตัวตนพิเศษที่สุด.

เผ่าพันธุ์มังกรนั้นเป็นตัวตนที่หายากมากๆ,พวกเขาไม่ได้มีประชากรมากนัก,ทว่ามังกรแต่ละตนนั้นกลับมีทรัพยากรมากมายและมีความแข็งแกร่งจนยากจะหาใครเทียบได้,ดังนั้นจึงมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก,ไม่ได้อ่อนด้อยกว่าเหล่าเผ่าพันธุ์ขนาดใหญ่เลยแม้แต่น้อย.

แล้วฉู่เทียนล่ะมีอะไรอย่างงั้นรึ?

กลุ่มอิทธิพลภายนอกอันกระจ้อยร่อยไม่มีรากฐานอะไรเลยในป่าแห่งความวุ่นวาย,เขาไม่มีอาณาจักรและไม่มีประชากรเป็นของตัวเอง,ไม่ได้มีพลังที่แข็งแกร่งเทียบเท่ากับเผ่ามังกร,ถึงแม้ว่าจะได้เมืองมาสักเมืองก็แทบจะไร้ประโยชน์.

สิ่งที่ได้รับมานี้คงไม่ต่างจากเผือกร้อนเท่านั้น.

ซ้ำยังไม่ต่างจากระเบิดเวลาที่พร้อมจะระเบิดใส่มือของเขาได้ทุกเมื่อ.

แต่ก็ไม่เลวอยู่เหมือนกัน,ในเวลานี้เขาได้สังหารเหล่าโจรนักล่าไป,ได้แสดงความสามารถของหอการค้าปาฏิหาริย์ออกมาให้เห็นแล้ว,ทำให้ฉู่เทียนเองก็มีอิทธิพลอยู่ไม่น้อย.

เรือเหาะดวงตาสวรรค์ของเขาระเบิดผืนปฐพีสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งป่า,เป็นเหตุให้หลากหลายกลุ่มอิทธิพลต้องหวั่นเกรง,ทว่าเรื่องเพียงเท่านี้,คงทำใด้แค่กันเหล่าโจรร้ายไม่ให้เข้ามาโจมตีเมืองเล็กออเตอแมนเท่านั้น,เพราะว่าก่อนจะก่อสงครามนั้นจะต้องเอาผลประโยชน์มาเป็นที่ตั้งก่อน,เหล่ายักษ์ใหญ่ย่อมไม่ต้องการที่จะขาดทุนหากต้องเข้ามาโจมตี.

แต่หากหอการค้าปาฏิหาริย์ยึดครองเมืองที่อุดมสมบูรณ์ล่ะก็,เหตุการณ์ดังกล่าวนี้ย่อมแตกต่างออกไป.

อิทธิพลของเขายังขาดอยู่มาก,มันยังไม่เพียงพอที่จะสร้างรากฐาน,ไม่ได้มีความแข็งแกร่งของเผ่าพันธุ์ที่เพียงพอ,มันจึงแทบจะเป็นไปได้เลยที่จะได้เมืองสักเมืองมาครอง.

ตอนนี้สถานที่ดังกล่าวก็นับว่าพิเศษอยู่ไม่น้อย,เมืองลวีตีนั้นยังเป็นส่วนหนึ่งของป่านิรันดร์!

ป่านิรันดร์ที่เป็นพื้นที่ในกลุ่มอิทธิพลเอลฟ์,ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงเผ่าเอลฟ์,เป็นป่าที่คงอยู่มานานหลายหมื่นปีของป่าแห่งความวุ่นวาย,ดังนั้นด้วยการมีป่านิรันดร์เป็นผู้หนุนหลัง จึงทำให้ง่ายที่จะจัดการเรื่องต่าง.

ใครก็ตามที่ต้องการโจมตีเมืองแห่งนี้,นั่นก็หมายความว่าเป็นการประกาศเป็นศัตรูกับป่านิรันดร์,ด้วยการระมัดระวังเกี่ยวกับผู้เคราะห์ร้ายและทำอันตรายผู้บริสุทธิ์,กลุ่มอิทธิพลขนาดใหญ่ย่อมต้องหลีกเลี่ยง,ซึ่งจะทำให้ความกดดันของฉู่เทียนลดลงเป็นอย่างมาก,ตราบเท่าที่สามารถสร้างกองกำลังป้องกันเหล่าผู้ไม่หวังดีอย่างระมัดระวังละก็.

อย่างไรก็ตาม,ฉู่เทียนเองก็รู้ดีว่าสถานะของราชาเอลฟ์ในเวลานี้คงมีเรื่องลำบากที่ต้องเผชิญหน้าอยู่.

เมืองลวีตีนั้นเป็นตำแหน่งจุดยุทธ์ศาสตร์ที่สำคัญมากๆ,สภาเอลฟ์เองก็เป็นกังวลกับการที่มีเมืองนี้อยู่ในมือเช่นกัน ,สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นยากที่จะทำให้พวกเขาเข้าร่วมการต่อสู้,พวกเขาที่ต้องดำรงเป็นเผ่าที่ชอบความสงบ,ไม่สามารถที่จะเข้าร่วมการต่อสู้ก่อน,ดังนั้นทำให้ราชาเอลฟ์นั้นแทบจะต้องยอมแพ้ในเมืองแห่งนี้ไป.

 ราชาเอลฟ์นั้นไม่ต้องการที่จะเสียเมืองนี้ไปแต่ก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้?

สภาเอลฟ์ยากที่จะส่งกองกำลังออกไป,ดังนั้นป่านิรันดร์จึงไม่สามารถยกทัพหลักออกไปป้องกันได้,เมื่อเป็นเช่นนี้,เมืองแห่งนี้อาจจะอยู่ได้ไม่นาน,เมื่อเมืองลวีตีไม่สามารถคงอยู่ได้เหล่าศัตรูก็จะคาดเดาได้ถึงนิสัยที่แท้จริงของเผ่าเอลฟ์,เมืองในปกครองอื่นๆของเผ่าเอลฟ์ก็จะมีปัญหาตามกันมา.

ตอนนี้ราชาเอลฟ์ได้ตัดสินใจเดิมพันเรื่องนี้อย่างแน่นอน.

พวกเขาที่ยังคงมีอิทธิพลในเมืองลวีตีและยังเป็นหนึ่งในกลุ่มอิทธิพลป่านิรันดร,เขาที่แสดงออกว่าพวกเขาเป็นกังวลที่จะทำอันตรายกับผู้บริสุทธิ์และไม่ต้องการสร้างความเดือนร้อนให้กับคนอื่น,จึงไม่ต้องการที่จะลงมือง่ายๆ,ดังนั้นเขาที่ยังคงต้องการควบคุมเมืองดังกล่าวอยู่โดยจึงส่งฉู่เทียนและบุตรสาวเหว่ยเหว่ยอันออกมาดูแลเมือง.

นี่คือโอกาส.

นับเป็นโอกาสที่อันตรายอย่างแท้จริง.

เมืองลวีตีนั้นอยู่ในสถานการณ์ที่เปราะบาง,มีอันตรายซ่อนอยู่,เป็นอันตรายที่สูงมาก.

จากการศึกษาแผนที่ที่โหยวลีไซซือมอบให้,จากการสรุปของหอการค้าปาฏาหริย์แล้ว,เมืองนี้ไม่ใช่ไม่ดี,แต่มันดีจนเกินไป,แทบจะอยู่จุดศูนย์กลางของป่าแห่งความวุ่นวาย,เป็นสถานที่ตั้งการต่อสู้แข่งขันกันระหว่างกลุ่มอิทธิพลหลักของป่าแห่งความวุ่นวายด้วยซ้ำ.

หุบเขามังกร,ป่านิรันดรและเทือกเขายักษา,ที่ราบสูงอสูร...ต่างก็เป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มอิทธิพลระดับสูง,สามารถที่จะบดขยี้หอการค้าปาฏิหาริย์ให้แหลกเละ,เมืองลวีตีเองยังเป็นเมืองที่สามารถเชื่อมต่อกับอิทธิพลต่างๆ,และยังมีกลุ่มใหญ่ที่มีความแข็งแกร่งระดับจวั้นกว๋ออีกมากมาย,และยังมีตัวตนของผู้เชี่ยวชาญที่น่าหวาดกลัว,ต้องรู้ด้วยว่าลึกเข้าไปในป่าแห่งความวุ่นวายนั้น,ทุกกลุ่มอิทธิพลนั้นต่างก็มีความแข็งแกร่งไม่ด้อยกว่าอาณาจักรขนาดใหญ่เลย.

ป่าแห่งความวุ่นวายนั้นนับเป็นหนึ่งป่าโบราณที่สมบูรณ์ที่สุดในทวีปแห่งนี้,นอกจากกลุ่มอิทธิพลแล้วยังมีสัตว์ป่าที่ดุร้ายเพียงพอที่จะสร้างภัยพิบัติอีกมาก,และยังมีสถานที่ลึกลับจากโบราณกาล,มีดินแดนที่ไม่มีใครรู้จัก,มีอันตรายซ่อนอยู่ทุกที่,ไม่สามารถที่จะเดินทางไปใหนได้ง่ายๆ.

หอการค้าปาฏิหาริย์ที่มีอาณาจักรหนานเซี่ยคอยหนุนหลัง,นอกจากไม่สามารถช่วยเหลือด้านต่อสู้ได้แล้ว,ด้วยความสามารถของหอการค้าปาฏิหาริย์ในเวลานี้,ถึงจะมีโอกาสไม่มากแต่ก็ยากที่จะแข่งขันกับเหล่ากลุ่มอิทธิพลขนาดใหญ่ได้,การจะก้าวเข้าไปในป่าแห่งความวุ่นวายลึกเข้าไปนั้น,เป็นการประเมินตัวเองที่สูงจนเกินไป,บางทีผลลัพธ์ที่ได้อาจจะไม่ดีนัก.

ตอนนี้เวลามีไม่มากนัก.

ฉู่เทียนจำเป็นต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็ว.

ตัวเลือกดังกล่าวนั้นค่อนข้างอักอ่วนใจไม่น้อย,คนของหอการค้าปาฏิหาริย์ถึงกับขมวดคิ้วเลยทีเดียว.

เมิ่งชิงอู๋นั้นไม่เห็นด้วยเนื่องจากเสี่ยงมากจนเกินไป,ไม่มีใครเข้าใจได้ถึงสถานการณ์ตอนนี้ดีเท่านาง,ความแข็งแกร่งของหอการค้าปาฏิหาริย์นั้น,ถูกประเมินสูงจนเกินไป.

ในเวลานี้ดวงตาสวรรค์ของหอการค้าปาฏิหาริย์ที่ใช้จัดการกลุ่มโจรนักล่าไปแล้ว,พวกเขายังไม่สามารถใช้มันได้ในเร็วๆนี้,แม้ว่าหอการค้าปาฏิหาริย์จะฝึกฝนนักรบอสูรคลั่ง,ตอนนี้กำลังฝึกฝนอยู่,แต่ก็ยังมีจำนวนไม่ถึง 20,000 คน,และยังไม่สามารถเคลื่อนทัพมาในเวลาอันสั้น.

เหล่าพันธมิตรเมืองออเตอแมนเองก็มีข้อตกลงในการปกป้องเมืองเล็กแห่งนี้เท่านั้นไม่สามารถเคลื่อนทัพไปได้ง่ายๆ.

ฉู่เทียนไม่มีกองกำลังให้ใช้เลย,ยิ่งอ่อนแอก็ยิ่งเสี่ยงมากขึ้น,ลำพังปกป้องตัวเองก็เป็นเรื่องยากแล้ว,ทว่ายังจะต้องควบคุมเมืองด้วยรึ?บางทีคงจะยังยื่นให้ตรงไม่ได้ด้วยซ้ำ คงจะถูกกลืนกินไปทั้งกระดูก!

ในป่าแห่งความวุ่นวายแห่งนี้มีกองกำลังอิสระนับร้อย,พร้อมที่จะเข้าจู่โจมลอบกัดได้ตลอดเวลา.

ในเวลานี้แผนการที่ปลอดภัยที่สุดคือบริหารเมืองเล็กแห่งนี้,ค่อยๆสะสมทรัพยากรอย่างช้าๆเพื่อที่จะให้มีทรัพยากรมากขึ้น,ควบคุมเหล่าเผ่าพื้นเมืองและเมืองเล็กแห่งนี้ขยายออกไป,จากนั้นก็ค่อยกระจายกินพื้นที่ออกไป,แทรกซึมลึกเข้าไปในป่า,จากนั้นก็รอคอยหาโอกาสแทรกเข้าไปในเมืองใหญ่ควบคุมหอการค้าให้กลายเป็นศูนย์กลางให้ได้.

ทว่าดูเหมือนว่าจะมีอีกความคิดหนึ่งเข้ามาเปลี่ยนสิ่งที่คิดเอาไว้.

หากพลาดโอกาสนี้ไปล่ะก็,ด้วยความเร็วในพัฒนาการเช่นนี้ในอีกสองหรือสามปีอาจจะสามารถแทรกซึมเข้าไปป่าด้านในได้,ในอนาคตข้างหน้าเมื่อพวกเขาพร้อมแล้ว,แต่จะสามารถได้รับเมืองที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ได้รึ?เบื้องหลังของทุกเมืองล้วนแล้วแต่มีกลุ่มอิทธิพลขนาดใหญ่อยู่ด้วยทั้งนั้น,หอการค้าปาฏิหาริย์หากต้องการเมืองสักเมืองล่ะก็,ย่อมสร้างความเกลียดชังให้กับกลุ่มอิทธิพลขนาดใหญ่อย่างช่วยไม่ได้,การได้รับเมืองที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้คงไม่มีอีกแล้ว,เป็นยิ่งกว่าโชคที่หล่นลงมาจากท้องฟ้าซะอีก.

จะให้ทิ้งเมืองแห่งนี้ไป,บริหารหอการค้าให้เติบโตอย่างเดียวในที่แห่งนี้อย่างงั้นรึ?ไม่ใช่เรื่องดีนัก!บางทีแม้ว่าจะสามารถสร้างอาณาจักรเล็กๆขึ้นมาได้,แต่ก็ยังไม่สามารถเทียบความแข็งแกร่งกับกลุ่มอื่นได้,อย่างไรก็ตามป่าแห่งความวุ่นวายแห่งนี้นั้นพูดกันด้วยความแข็งแกร่ง,ทุกอย่างจะได้รับการสนับสนุนหากว่ามีความแข็งแกร่งเพียงพอ.

หากว่าไม่มีความแข็งแกร่งและทรัพยากรที่มากพอก็ไม่ต่างจากรากไม้ใบหญ้า!

"ข้ายอมรับของขวัญของราชาเอลฟ์!"ฉู่เทียนนั้นไม่อิดออดที่จะรับเมืองแห่งนี้มา"ขอให้ราชาเอลฟ์โปรดวางใจเมืองแห่งนี้จะไม่ตกไปอยู่ในมือกลุ่มอื่น,และจะกลายเป็นเมืองที่รุ่งเรื่องมากกว่าก่อนซะอีก!"

โหยวลีไซซือถึงกับอุทานออกมาด้วยความดีใจ.

แม้ว่าของขวัญนี้จะน่าดึงดูดใจ,ทว่าก็ไม่มีใครกล้าพอที่จะรับ.

โหยวลีไซซือคิดว่าฉู่เทียนจะไม่กล้ารับไว้,ถึงแม้ว่าจะรับเอาไว้ก็ตามทีคงจะต้องใช้เวลาอีกหลายวันในการขบคิด,คาดไม่ถึงเลยว่ากลับตอบรับในทันที,คิดใคร่ครวญเพียงพริบตาเดียวเท่านั้น.

คนเช่นนี้มีความกล้าห้าวหาญเต็มไปด้วยยุทธวิธี หรือว่าเป็นคนที่โง่เง่า,หรือว่ามีทั้งสองอย่างกันแน่.

แม้ว่าจะไม่รู้ว่าฉู่เทียนจะรักษาตำแหน่งของเขาได้นานเท่าใด,แต่ตราบเท่าที่เมืองลวีตีไม่ตกไปอยู่ในกลุ่มอิทธิพลอื่น,ก็นับว่าเป็นผลประโยชน์ต่อเผ่าเอลฟ์แล้ว,ส่วนเรื่องจะควบคุมเมืองได้หรือไม่นั้น,หาได้ใช่เรื่องสำคัญอะไร.

"ข้าในนามของป่านิรันดร,ขอแต่งตั้งเจ้าเป็นเจ้าเมืองลวีตี."โหยวลีไซซือมอบเหรียญตราของราชาเอลฟ์ให้กับฉู่เทียน"เจ้ามีสิทธิทุกอย่างในเมืองลวีตี,ป่านิรันดรจะไม่เข้าไปยุ่งกับการบริหารงานของเจ้า,เจ้าสามารถสร้างทุกสิ่งได้ตราบที่เจ้าต้องการ."

เมิ่งหยิงหยิงและเหว่ยเหว่ยอันนั้นแสดงสีหน้าตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก.

ช่างเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมจริงๆ!

แน่นอนว่าพวกนางที่คิดเรื่องต่างๆอย่างง่ายๆ.

เมืองลวีตีนั้นนับว่าเป็นเมืองที่ยอดเยี่ยมมาก,แม้ว่าตอนนี้จะยังใช้นามของเมืองป่านิรันดรก็ตาม,ทว่าเมืองลวีตีนั้นไม่มีเอลฟ์ตนอื่นๆ,ไม่จำเป็นต้องคอยรับฟังคำแนะนำจากพวกเอลฟ์แก่หัวโบราณ,หอการค้าปาฏิหาริย์ที่สามารถทำอะไรได้อิสระในเมือง,ยังมีสิ่งใดที่พวกเขาต้องการอยู่อีกรึ?

โหยวลีไซซือที่เป็นตัวแทนของราชาเอลฟ์แต่งตั้งฉู่เทียนเป็นเจ้าเมือง,ให้เมิ่งชิงอู๋และเหว่ยเหว่ยอันเป็นรองเจ้าเมือง,ฉู่เทียนและเมิ่งชิงอู่นั้นไม่มีความสำคัญนัก,อาจจะกล่าวได้ว่าเหว่ยเหว่ยอันที่เป็นรองเจ้าเมืองนั้นเป็นการเตรียมการอย่างหนึ่งของราชาเอลฟ์นั่นเอง.

สถานะของเหว่ยเหว่ยอันที่เป็นเอลฟ์,นอกจากนี้ยังเป็นธิดาของราชาเอลฟ์,นางที่เป็นรองเจ้าเมืองลวีตี,กล่าวอีกอย่างหนึ่งด้วยสถานะที่พิเศษของนางก็ทำให้การป้องกันแข็งแกร่งขึ้นแล้ว.

โหยวลีไซซือกล่าวต่อฉู่เทียน"เมืองลวีตีก่อนหน้านี้,เป็นเมืองของกลุ่มอิทธิพลใหญ่แห่งหนึ่ง,เป็นเพราะหลายร้อยปีมานี้ต้องพบสภาวะถดถอยอ่อนแอลง,ท้ายที่สุดเมืองลวีตีแห่งนี้เพื่อผลประโยชน์ของเผ่าเอลฟ์ ราชาเอลฟ์จึงได้ยึดมาครอง,ทว่าเหล่าเอลฟ์ชราที่ยังเหลือชีวิตรอดอยู่ต่างก็เห็นเป็นเรื่องหนักหนาสาหัส,และยังมีกลุ่มอิทธิพลอื่นๆ ต่างก็จับจ้องมองตาเป็นมัน,และยังมีปัญหาภายในต่างๆ,กล่าวได้ว่ามีจลจล,ความอดอยากและภัยพิบัติ,ที่กำลังก่อตัวขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด,เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น จงจำไว้ว่าจนกว่าจะมั่นใจอย่าได้เปิดเผยสถานะตัวเองออกมา,จนกว่าสถานการณ์ต่างๆที่เห็นจะชัดเจนแล้วค่อยกระทำการเรื่องต่างๆก็ยังไม่สาย."

แม้ว่าสถานการณ์ของเมืองลวีตีนั้นจะไม่ดีนัก,ทว่าก็ไม่คิดด้วยเช่นกันว่าจะยุ่งเหยิงอยู่ไม่น้อย.

นี่นับว่าเป็นเรื่องท้าทายเล็กๆเลยก็ว่าได้.

อย่างไรก็ตามฉู่เทียนไม่ได้หวาดกลัวเรื่องดังกล่าวนี้,เขาไม่คิดที่จะพัฒนาตัวเองไปด้วยความเชื่องช้าอีกด้วย,ในเมื่อมีโอกาสทองถูกส่งมาถึงที่,เขาย่อมต้องอ้าแขนรับพร้อมกับเผชิญปัญหาต่างๆ ไม่เช่นนั้นแล้วคงจะดูขัดกับนิสัยที่แท้จริงของเขา.

ตราบเท่าที่หาวิธีการที่ถูกต้องได้!


เรื่องทุกอย่างในโลกนี้ไม่มีเรื่องที่จะไม่สามารถจัดการได้.


ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP (สถานปัจจุบัน แปลจบ 658 แล้ว)==>  Click


-เว็ปฟรี วันละหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip ลงครบทุกลุ่มแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น