วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 397 The gift of demon king

Miracle Throne Chapter 397 The gift of demon king

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 397 ของขวัญจากราชาเอลฟ์


บทที่ 397 ของขวัญจากราชาเอลฟ์


Chapter 397  The gift of demon king

เหล่าสมาชิกเอลฟ์ที่ได้ถูกรับเลือกมา,พวกเขาจะเป็นตัวแทนในการตอบสนองความต้องการต่างๆของเผ่าเอลฟ์ทั้งหมด,ซึ่งจำเป็นต้องมีคุณสมบัติที่เหมาะสม,ยกตัวอย่างเช่น,จะต้องมีอายุมากกว่า 500 ปี,หรือเป็นผู้มีพลังมากกว่าเขตแดนภูติแท้ระดับสาม,มีบุคลิคที่มีศิลธรรมอันดีงาม,เคารพในกฏธรรมเนียมแต่โบราณ,หรือมีความรุ้ความสามารถที่โดดเด่น....ด้วยระบบในการคัดเลือกเหล่านี้,ทำให้ภายในสภาเอลฟ์นั้นเต็มไปด้วยเหล่าเอลฟ์ชราที่ติดอยู่กับความรู้ในอดีตที่ไม่สามารถพัฒนาได้,เหล่าเอลฟ์ที่ประสบความสำเร็จนั้นล้วนแล้วแต่มีพลังเขตแดนภูติแท้กันทั้งหมด,พวกเขาสามารถมีอายุเกือบพันปี,และประธานสภาเอลฟ์ที่มีอายุกว่าพันปีก็เป็นตาเฒ่าที่คร่ำครึ,ด้วยการอธิบายตัดสินเรื่องต่างๆ,แม้ต้องใช้เวลา 300-400 ปีก็ยังเป็นเรื่องที่สบายๆเลย.



เผ่าเอลฟ์นั้นเต็มไปด้วยผู้คนที่มีอำนาจมากจนเกินไป.

นี่จึงเป็นเหตุให้เผ่าเอลฟ์มีพัฒนาการช้าเป็นอย่างมาก,เหล่าเอลฟ์รุ่นใหม่ที่ถูกคุกคามด้วยอิทธิพลของเหล่าเอลฟ์หัวโบราณ,สภาเอลฟ์เองก็เต็มไปด้วยเหล่าเอลฟ์ชราที่ยึดมั่นถือมั่นในความคิดเดิมๆ,ถึงแม้ว่าจะมีการนำวิวัฒนาการเข้ามาใหม่ก็ตามที,แต่ตราบเท่าที่เป็นความรู้และภูมิปัญญาในช่วง 100-200 ปีให้หลัง,มักจะไม่ได้รับยอมรับจากเหล่าเอลฟ์หัวโบราณ.

ด้วยความคิดเป็นชนชั้นสูงมีสมบัติผู้ดีของเหล่าเอลฟ์,ความเชื่อที่หนักแน่น,ขนบธรรมเนียมที่เคร่งครัด,จึงกลายเป็นตรวนที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก.

มันได้ปิดกั้นตรึงแน่นเหล่าเอลฟ์มากว่าหมื่นปีแล้ว!

หมื่นปีไม่ได้ยาวนานนักสำหรับอารยธรรมของเผ่าพันธ์เอลฟ์,มีการเปลี่ยนผู้นำรุ่นต่างๆเพียงสิบรุ่นเท่านั้น,ทว่าสำหรับเหล่าอสูรวิญญาณและเผ่ามนุษย์แล้วมันเพียงพอที่จะเปลี่ยนโลกทั้งใบสำหรับพวกเขา!

ครั้งหนึ่งพวกเขาที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยันเผ่าต่างๆและเป็นมหาอำนาจของทวีปแห่งนี้.

ตอนนี้กับตกต่ำและดูย่ำแย่อยู่ไม่น้อย.

ถึงแม้ว่าจะอยู่ในป่าแห่งความวุ่นวาย.เอลฟ์ก็ยังเป็นกลุ่มอิทธิพลที่ดูจะมีขนบธรรมเนียมที่เกินจำเป็น,เผ่าเอลฟ์ที่ยังคงคิดว่าเป็นเผ่าพันธ์ที่สูงส่ง,รักษาความคิดและประเพณีของตัวเองอย่างแข็งขัน,ทำทุกอย่างเพื่อปกป้องภาพลักษณ์ที่สูงส่งของตัวเองเอาไว้,แยกตัวเองว่าเป็นเผ่าพันธุ์ชั้นสูงเหนือกว่าทุกเผ่าในทวีปแห่งนี้.

ส่วนเผ่าอื่นๆต่างก็รู้ดีแม้แต่ในสายตาของมนุษย์,เผ่าเอลฟ์,เป็นเผ่าพันธ์ที่แปลกประหลาดถึงแม้ว่าจะดูไม่ชอบการต่อสู้เหมือนกับเหล่าอสูรวิญญาณแต่ก็ไม่ได้ให้น้ำหนักอะไรกับกับเหล่าเอลฟ์เลย.


"ฉู่เทียนเป็นเผ่ามนุษย์ที่ดุร้ายเป็นอย่างมาก."เอลฟ์คนหนึ่งในสภากล่าวออกมาเสียงดัง"เพื่อห้ได้ชัยชนะ,เขาไม่สนใจป่าโบราณที่ต้องใช้เวลานานหลายปีในการเติบโต,ไม่สนใจชีวิตสัตว์ป่าที่บริสุทธิ์ในป่าแห่งนั้น,เป็นพฤติกรรมที่เห็นแก่ตัวมาก,ซึ่งเมื่อถูกตัดสินลงโทษยังขัดขืนการจับกุมของเผ่าเอลฟ์อีกด้วย."

"ใช่แล้ว,ขอให้พิจารณาเรื่องนี้ใหม่!"เอลฟ์ตนหนึ่งที่ลุกขุนยืน"ทุกสรรพสิ่งต่างก็มีชีวิตเป็นของตัวเอง,ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญก็ไม่สามารถที่จะพรากชีวิตคนอื่นไปได้."

"ด้วยการใช้วิธีการที่โหดร้าย,สร้างมลภาวะให้กับธรรมชาติ,การกระทำนี้เป็นการดูหมิ่นป่าที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้!"

หากว่ามีเผ่ามนุษย์อยู่ในการอภิปรายในครั้งนี้คงจะอดหัวเราะเยาะกับการโต้แย้งกับพวกเขาเป็นแน่.

เพื่อปกป้องป่า,ปกป้องธรรมชาติแบบปลอมๆ,ไม่คิดเลยว่าจะใช้เหตุผลนี้เพื่อเอาชนะ?

หากว่าเผ่าเอลฟ์ใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้าง,เผ่ามนุษย์คงจะเหมือนกับพวกสมองกลวงอย่างไม่ต้องสงสัย!

เอลฟ์ในสภาคนหนึ่งที่ลุกขึ้นกล่าว,ใบหน้าของมองไปยังรองประธาน"รองประธานโหยวลีไซซือ,ท่านเป็นคนที่ได้รับหน้าที่ให้ไปจัดการกับมนุษย์ผู้นี้,แต่ท่านกับปล่อยเขาให้หนีออกมาจากวงศ์วานต้นไม้แห่งชีวิต,ดังนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นขึ้นนี้,ท่านควรที่จะรับผิดชองด้วย."

โหยวลีไซซือขมวดคิ้ว กล่าวออกมา"ข้าได้ทำการสืบสวนเรื่องนี้,และได้ทำรายงานส่งให้กับทุกคนแล้ว,เรื่องที่กล่าวหาฉู่เทียนนั้นเป็นเรื่องที่สามารถอภัยได้,เรื่องทั้งหมดเขาไม่ได้มีเจตนาร้ายใดๆต่อเผ่าเอลฟ์ของพวกเรา,ฉู่เทียนนับเป็นเผ่ามนุษย์ที่มีความสามารถในหมื่นปีที่ยากจะเห็นได้,หากเอลฟ์กระทำกับเขาโดยไร้เหตุผล,อาจจะทำให้เผ่าของพวกเรานับหมื่นปีมาต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง."

"เรื่องของฉู่เทียนจะไม่เอ่ยถึงก็ได้."เอลฟ์อีกตนหนึ่งกล่าวแย้งออกมาในทันที"เหว่ยเหว่ยอันที่ขัดกฏของเผ่าของพวกเขาอย่างหนักที่ไม่เคยเกิดขึ้นในร้อยปี,เจ้าไม่เพียงแต่ไม่ลงโทษนาง,ยังปล่อยเหว่ยเหว่ยอันไปอีกด้วย,นี่ไม่ใช่ว่าท่านได้ทำเรื่องผิดพลาดไปแล้วไม่ใช่รึ?แล้วกฏของเผ่าเอลฟ์ยังจะศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร? เรื่องนี้ย่อมส่งผลต่อเหล่าเอลฟ์ผู้เยาว์คนอื่นๆเป็นแน่,ท่านได้คิดถึงปัญหาที่จะมีหลังจากนี้แล้วหรือไม่?"

"ใช่แล้ว!"

"ท่านรองประธานท่านได้กระทำการน่าผิดหวังเป็นอย่างมาก."

"เผ่ามนุษย์จะอย่างไรก็ช่าง,แต่เหว่ยเหว่ยอันนั้นผิดกฏของเผ่าพันธ์เป็นความจริง!"

โหยวลีไซซือที่ไม่ค่อยมีความสุขนัก"องค์หญิงเหว่ยเหว่ยนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีมิติ,สิ่งนี้จะเป็นเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ที่จะเปลี่ยนความเป็นอยู่ของเผ่าเอลฟ์เรา,ข้าให้นางไปอยู่เคียงข้างฉู่เทียน,เพื่อเรียนรู้ภูมิปัญญาต่างๆให้ลึกซึ้งมากกว่าเดิม,เรื่องนี้เผ่าเอลฟ์ควรที่จะสนับสนุน."

"เผ่าเอลฟ์มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีแล้ว,ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งสิ้น!"

"เมื่อไหร่กันที่เผ่าเอลฟ์ต้องไปเรียนรู้กับมนุษย์?นี่เป็นเรื่องที่ลบหลู่เผ่าพันธ์เอลฟ์อย่างถึงที่สุด!"
”.....”

ขณะนี้เหล่าเอลฟ์ต่างโต้เถียงกันไปมาเกิดความวุ่นวาย,หลายๆคนทีตะโกนออกไปเสียงดัง บางคนก็นิ่งเงียบ,ซึ่งแน่นอนว่ามีเหล่าสมาชิกที่สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงใหม่เช่นกัน,เหล่าคนแก่หัวโบราณมักจะใช้อำนาจบาดใหญ่เกินไปแล้ว,เกี่ยวกับขนบธรรมเนียมเผ่าเอลฟ์นั้น,มีการโต้เถียงกันมานานหลายต่อหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่ได้ข้อสรุปกันสักที.

ราชาเอลฟ์ที่ดูเหมือนจะนิ่งต่อไปไม่ได้แล้ว"การประชุมในวันนี้,ปัญหาที่มีอยู่จะกลับมาสนทนากันในครั้งหน้า."

เหล่าสมาชิกสภาเอลฟ์ไม่มีความเห็นเป็นอื่น,ไม่ว่าจะเป็นปัญหาใดที่ถูกลากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคำว่ากฏระเบียบแล้ว,ทุกครั้งมีแต่จะกินเวลานานไปโดยเปล่าประโยชน์,เรื่องวันนี้สิบวันก็ยังไม่เสร็จสิ้น,วันพรุ่งนี้ค่อยกลับมาเริ่มเรื่องใหม่ยังจะดีกว่า.

หลังจากที่ราชาเอลฟ์ยกเลิกการประชุม,เขาก็เดินออกมาทางระเบียง,เป็นระเบียงของราชวังเอลฟ์ที่สร้างอยู่บนหน้าผา,มีน้ำตกสะท้อนแสงระยิบระยับไหลลงเอื่อยๆ,ไหลผ่านระเบียง,ที่มองเห็นภาพรวมทั้งหมดของป่านิรันดร์แห่งนี้ได้.

แสงตะวันที่ส่องประกายตัดผ่านกำแพงป้องกันเกิดแสงสว่างจ้า.

ทุกๆพื้นที่ทุกๆตารางนิ้วของป่านิรันดร์แห่งนี้ถูกปกคลุมไปด้วยความงามและแสงอันรุ่งโรจน์,ประกายแสงสีส้มแดงจากดวงสุริยันที่สาดส่องไปทั่วทั้งป่า,เหล่าเอลฟ์ที่ขับขานเสียงเพลงสร้างสรรค์งานศิลปะ,นับเป็นโลกที่เต็มไปด้วยคามสงบ,เป็นดินแดนสวรรค์ที่น่าอยู่อาศัยเป็นอย่างยิ่ง.

ใบหน้าที่ดูขึงขังถมึงทึงของราชาเอลฟ์ที่ได้แต่ทอดถอนใจออกมาเบาๆ.

สถานการณ์ของเผ่าเอลฟ์ในเวลานี้,เขารู้สึกเหนื่อยหน่ายใจถึงที่สุด,อาณาจักรเอลฟ์ที่ไม่เป็นหนึ่งเดียวกัน,เอลฟ์แต่ละตนนั้นต่างก็ดื่มด่ำกับความสงบมากเกินไป นำตัวเองเข้าไปอยู่ในความฝัน,รอคอยเปลวเพลิงแห่งสงครามที่กำลังลุกไหม้มาจนถึงใต้เท้าตัวเองถึงจะตื่นอย่างงั้นรึ?บางทีกว่าจะรู้ตัวคงจะสายเกินไปแล้ว.

โหยวลีไซซือที่เดินมาอยู่ด้านข้างราชาเอลฟ์"เมืองลวีตีได้ส่งข่าวมา,ตอนนี้ได้เกิดภัยพิบัติขึ้นรอบๆ,มีเผ่าอื่นก่อการกบฏ,ไม่สามารถที่จะปกครองได้แล้ว,บางทีสถานการณ์คงจะไม่ดีนัก,หากว่าพวกเราไม่ยกทัพออกไปช่วยล่ะก็,เมืองดังกล่าวจะต้องพ่ายแพ้และถูกยึดไปแน่."

"ยกทัพออกไปรึ?"ราชาเอลฟ์ที่ส่ายหน้าไปมา,"สภาเอลฟ์จะเห็นด้วยรึ?"

โหยวลีไซซือที่เผยสีหน้างุนงง"พวกเราจะทำลายความแข็งแกร่งของพวกเขา,การจะได้เมืองมาแต่ละเมืองนั้นยากลำบากมากๆ,จะทิ้งไปง่ายๆเช่นนีรึ?"

"มันไม่มีทางเลือกที่ต้องปล่อยไปเช่นนั้น."ราชาเอลฟ์ที่กล่าวออกมาเสียงดัง,ภายในสมองของเขาที่มีความคิดมากมายอัดอั้นที่เป็นเชื้อไฟอยู่,ราวกับว่ามีน้ำมันที่เทลดลงมาก,ก็เกิดเผาไหม้ขึ้นมาในทันที,อารมณ์มากมายที่ปะทุลุกโชนก่อนที่จะมีความคิดหนึ่งแวบเข้ามา "ละทิ้ง,แต่ไม่ได้แปลว่ายอมแพ้,อาจจะมีวิธีอื่นให้ใช้ก็ได้."

โหยวลีไซซือที่ค่อนข้างประหลาดใจ"หมายความว่าอย่างไรรึ?"

ราชาเอลฟ์ที่หันหลังกลับไปมองโหยวลีไซซือ"เด็กหนุ่มเผ่ามนุษย์มีนามว่าฉู่เทียนสินะ,ข้าสนใจเขาเป็นอย่างมาก,เขาสามารถที่จะบริหารและขยายเมืองเล็กไห้เติบโตเจริญก้าวหน้า,ทว่าเมืองเล็กก็ยังเป็นเพียงแค่เมืองเล็ก,สถานที่เหมาะสมมากมายในป่าแห่งนี้มีอยู่มากมาย,ถึงแม้ว่าเมืองเล็กจะเติบโตเพียงใดแต่ก็ไม่นับว่าได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง."

โหยวลีไซซือราวกับว่าสามารถคาดเดาของราชาเอลฟ์ได้"ท่านหมายความว่า?"

"กองกำลังเผ่าเอลฟ์ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้,พวกเราก็เพียงแค่ขอให้สหายที่เชื่อถือช่วยเหลือก็พอ,ข้าคิดว่า,ตอนนี้ฉู่เทียนจำเป็นต้องการเมืองสักเมือง,ไม่เพียงแต่มีเมืองเป็นของตัวเองในป่าแห่งนี้,เขายังสามารถที่จะใช้ความสามารถครองใจคนในป่าแห่งนี้ได้,ข้าจะมอบเมืองนี้ให้กับเขา,ไม่เพียงแต่รับประกันว่าเมืองจะไม่ต้องตกเป็นของคนอื่น,และยังช่วยลดความยุ่งยากของสหายในเวลาที่เหมาะสมอีกด้วย."

"อิทธิพลของฉู่เทียนตอนนี้ยังอ่อนด้อยจนเกินไป,เมืองดังกล่าวนั้นไม่ใช่เมืองธรรมดา,เขาจะสามารถควบคุมมันได้จริงๆรึ?"

"แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่เสี่ยงไม่น้อย,พวกเราจึงต้องแอบช่วยเหลืออยู่ด้านหลังไงล่ะ"ราชาเอลฟ์ที่ได้โอกาสกล่าวออกไป"ทว่าอย่าได้ลืมว่า เผ่ามนุษย์นั้นยิ่งเสี่ยงก็ยิ่งชื่นชอบ,ตราบเท่าที่ผลประโยชน์นั้นมันเพียงพอ,ยิ่งรู้ว่าเสี่ยงมากเท่าไหร่ผลประโยชน์ก็จะมากขึ้นเท่านั้น,พวกเขาไม่มีทางลังเลยอย่างไม่ต้องสงสัย,นี่ล่ะคือสิ่งหนึ่งที่เผ่ามนุษย์แตกต่างจากเผ่าเอลฟ์ของพวกเรา."

โหยวหลีไซซือรู้สึกสลดเลยทีเดียว.

เป็นความจริงที่ยากปฏิเสธจริงๆ.

ราชาเอลฟ์ที่โบกมือไปมา"ไปได้แล้ว,เมืองดังกล่าวนั้นก็ยังอยู่ภายใต้นามของป่านิรันดร์,เขาจะต้องมีกองกำลังที่แข็งแกร่งเพียงพอที่จะเป็นเจ้าเมือง,ส่วนเขาจะควบคุมเมืองดังกล่าวได้จริงหรือไม่,ต้องคอยดูความสามารถของพวกเขาล่ะนะ."

"รับบัญชา!"

โหยวหลีไซซือที่ออกจากป่านิรันรันดร.

ในเวลานี้เขาได้ขี่เหยี่ยวมังกรพุ่งไปที่เมืองออเตอแมนในเวลาค่ำคืนเพียงแค่หนึ่งวันก็มาถึง,เมืองเล็กแห่งนี้นับเป็นสถานทีคึกคักไม่น้อย,เหล่าคนมากมายหลากหลายเผ่าพันธุ์ที่เดินทางมา,ทุกคนต่างก็ดื่มสุราอาหารกันอย่างมีความสุขในเมืองเล็กแห่งนี้.

โหยวลีไซซือที่เดินทางมายังเมืองใต้ดินแห่งนี้.

แม้ว่าเมืองเล็กแห่งนี้จะไม่ใหญ่นัก,ทว่ากับมีแสงสว่างจ้าราวกับตอนกลางวัน,ทุกสิ่งก่อสร้างนั้นมีแสงไฟระยิบระยับ,เส้นทางในเมืองแห่งนี้มีมากมายราวกับเส้นเลือดฝอย,ทว่าเหล่าพ่อค้าและชาวเมืองต่างก็เดินขวักไขว่ไปมา,เป็นเมืองเล็กที่มีคนมากมายการจราจรคับคั่ง,แทบจะไม่เคยเห็นในเมืองเอลฟ์อย่างแน่นอน.

เมืองเล็กแห่งนี้มีโรงภาพยนตร์,มีโรงแรม,มีร้านค้าจิปาถะ,และยังมีสถานที่แตกต่างที่เฉพาะอยู่มากมาย,ทุกเผ่าพันธุ์ดูเหมือนว่าจะมีใบหน้าที่มีความสุข,อย่างไรก็ตามสถานที่มีคนมากมายพลุกพล่านที่สุดก็คือตลาดเมืองออเตอแมน.

ตลาดเมืองออเตอแมนนั้นมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก,มีวัตถุดิบภายในป่ามากมาย,ไม่ว่าจะขนส่งมายังตลาดแห่งนี้เท่าไหร่ก็สามารถขายไปได้ทั้งหมด,และยังมีวัตถุดิบอื่นๆที่เหล่าเผ่าพื้นเมืองต้องการไม่ว่าจะเป็นยาน้ำ,ยันต์เวทย์ซึ่งมีเป็นจำนวนมาก,ไม่ว่าจะมีความต้องการมากเท่าไหร่,เมืองเล็กแห่งนี้ก็สามารถจัดหาได้ทั้งหมด,นับเป็นปริมาณการขายและซื้อที่สูงเป็นอย่างมาก,ทำให้ตลาดแห่งนี้มีพ่อค้าหนุ่มสาวที่มีชีวิตชีชาเดินทางมาเป็นจำนวนมาก.

เผ่าก๊อบลิน,เผ่าหนู,และเผ่ากระต่าย,เหล่าเผ่าพันธุ์ที่อ่อนแอมีกระจายอยู่ทุกที.

ไม่มีซีเหริ่นโม่ที่ปล้นชิงแล้ว.

พวกเขาเข้าใจถึงการแลกเปลี่ยนเป็นอย่างดีในเมืองเล็กแห่งนี้,พวกเขาสามารถขายทรัพยากรมากมายขอเพียงแค่มีร่างกายที่แข็งแกร่งสามารถหาทรัพยากรมาได้อย่างเพียงพอเพื่อขายในเมืองเล็กแห่งนี้,ศิลาก่อเกิดจำนวนเล็กน้อยก็สามารถที่จะซื้ออาหารกระป๋องได้เป็นจำนวนมาก,และยังสามารถซื้ออาหารจากโรงแรมได้โดยตรงอีกด้วย.

เมืองเล็กแห่งนี้ปฏิบัติต่อทุกเผ่าอย่างเท่าเทียม.

หลากหลายเผ่าที่อ่อนแอที่ไม่เคยได้รับความเป็นธรรม,สถานที่แห่งนี้จึงนับว่าพิเศษต่อพวกเขาเป็นอย่างมาก.

การขนส่งผ่านมิตินั้นสร้างความเจริญรุ่งเรื่อง,ด้วยเทคโนโลยีที่เอลฟ์จะได้รับนี้,นี่คือโอกาสที่ยอดเยี่ยม,แม้แต่พวกเอลฟ์แก่หัวโบราณคงจะต้องหยุดและมองมา,สิ่งที่เขาได้เห็นนี้ทำให้โหยวลีไซซือที่เห็นความเจริญนี้แทบจะทำอะไรไม่ถูก.

"ท่านพูดอะไรนะ?"ฉู่เทียนรู้สึกราวกับว่ามีโชคก้อนโตที่หล่นลงมากระแทกหน้าเขาอย่างรุนแรง"ราชาเอลฟ์จะมอบเมืองให้ข้าเมืองหนึ่งอย่างงั้นรึ?"

"ถูกแล้ว!"โหยวลีไซซือกล่าวย้ำ."เมืองนี้นับว่าเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่อยู่ใจกลางของป่าแห่งความวุ่นวาย,สถานที่ดังกล่าวนั้นมีพลังจิตวิญญาณหนาแน่น,บริเวณรอบๆเองต่างก็เต็มไปด้วยสถานที่ลึกลับซุกซ่อนเอาไว้,นี่คือเมืองใจกลางของป่าแห่งความวุ่นวาย,ซึ่งมีประชากรและทรัพยากรอุดมสมบูรณ์เหนือล้ำเกินกว่าจินตนาการ,หากว่าเจ้าสามารถคว้ามันมาได้อย่างราบรื่นล่ะก็,จะสามารถช่วยให้เจ้ามีอิทธิพลที่แข็งแกร่งขึ้นในป่าแห่งนี้."

ทุกคนในหอการค้าปาฏิหาริย์ต่างตื่นตะลึงตาตั้ง.




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP (สถานปัจจุบัน แปลจบ 658 แล้ว)==>  Click


-เว็ปฟรี วันละหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip ลงครบทุกลุ่มแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น