วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2564

Immortality Chapter 1343 Deeply calculates Yin seek

Immortality Chapter 1343 Deeply calculates Yin seek


Chapter 1343 Deeply calculates cloudy seeks

阴深算

  แผนการที่รุกล้ำไปถึงภพหยิน.

 

เช้าวันถัดมา,ภายในคฤหาสน์หลิวอู๋ซ่าง.

 

ตำหนักหลัก,ของคฤหาสน์อู๋ซ่าง!

 

ภายในตำหนักอู๋ซ่างในเวลานี้มีคนสิบคน,คนสองกลุ่มที่มาประจันหน้ากัน,ทว่าไม่ได้มาต่อสู้กัน.

 

ฝั่งหนึ่งคือไท่จื่อจงเสวียน,และด้านหลังจงเสวียนมีผู้ฝึกตนระดับเซียนโบราณห้าคน,ที่คอยคุ้มกันจงเสวียน.

 

อีกฝั่งหนึ่งหลิวอู๋ซ่างที่เป็นผู้นำ,ด้านหลังมีคนสามคน,เป็นจินอี้เหว่ยระดับสูงที่คอยคุ้มกันเขา.

 

"คิดว่าเจ้าควรจะรู้,เจ้าไม่ใช่ไท่จื่อ,เซิ่งหวังเก็บเจ้าไว้เพื่อประโยชน์บางอย่าง,หลังจากนี้,เซิ่งหวังย่อมมอบความดีความชอบคืนให้กับเจ้า,ตอนนี้,ข้าจะช่วยเจ้าฟื้นฟูความทรงจำ!"หลิวอู๋ซ่างที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

 

"อืม,ดี,ดี!"จงเสวียนที่กล่าวตอบรับ.

 

เห็นเสียงที่ดูแข็งๆของจงเสวียน,หลิวอู๋ซ่างที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,เป็นดวงวิญญาณดวงใหม่จริงๆ!

 

"เกี่ยวกับประวัติของเจ้า,ข้าจะเป็นคนบอกกล่าวต่อเจ้าเอง,เจ้าจะได้ฟื้นคืนความทรงจำ!"หลิวอู๋ซ่างกล่าว.

 

จากนั้น,องค์รักษ์ทั้งสี่ที่อยู่ด้านหลัง,ที่รับผิดชอบในการอ่านข้อมูลต่างๆ,โดยใช้เวลามากกว่าสองชั่วยาม.

 

จงเสวียนที่ขมวดคิ้วไปมา,ราวกับว่ากำลังนึกอะไรบางอย่าง.

 

"นึกอะไรได้อย่างงั้นรึ?"หลิวอู๋ซ่างที่สอบถามออกไป.

 

"ไม่,ไม่มีเลย!"จงเสวียนที่ส่ายหน้าไปมา.

 

"โอ้ว,ดูเหมือนว่าจะไม่มีเรื่องอะไรที่จำได้,แผ่นริ้วหยกทั้งสี่,ข้าจะมอบให้องค์รักษ์ทั้งสี่คนของเจ้า,เป็นเพราะว่าเจ้าไม่สามารถฟื้นคืนความทรงจำได้,ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้สัมผัสเทวะได้,เพื่อป้องกันความผิดพลาด,ดังนั้นจึงมอบให้พวกเขาทั้งสี่เป็นคนเก็บเอาไว้ก่อน,จากนี้ทุกๆสิบวันให้พวกเขาอ่านให้เจ้าฟัง,จากนั้นข้าจะนำเจ้าไปยังสถานที่เมื่อครั้งเจ้ายังมีชีวิต!"หลิวอู๋ซ่างกล่าว.

 

"ได้,ได้!"ใบหน้าของจงเสวียนที่ยังคงงงวย.

 

หลิวอู๋ซ่างที่มอบแผ่นริ้วหยกให้กับองค์รักษ์ของจงเสวียน.

 

"วันนี้พอเพียงเท่านี้!"หลิวอู๋ซ่างกล่าว.

 

ในเวลาเดียวกันนั้น,คำพูดดังกล่าวที่เหมือนกับเป็นสัญญาณบางอย่าง,ที่ประตูด้านหน้าปรากฏร่างๆหนึ่ง,แสงจากอัญมณีที่หน้าผากของเทียนเสิ่นจื่อก็ส่องประกายแสงสว่างจ้า,ดวงตาของเขาที่หดเกร็ง,จากนั้นก็ปรากฏแสงที่อาบไล้กลายเป็นม่านที่ปกคลุมทั่วห้องโถง.

 

แสงสีทองที่เจิดจรัส,จนทำให้ทุกคนตกอยู่ในความมืด,พริบตาที่แสงสว่างจ้านั้น.

 

"วูซซซซ!"

 

ภายในห้องโถง,จงเสวียน,จินอี้เหว่ย,องค์รักษ์ของจงเสวียนที่หยุดนิ่ง,ไม่สามารถขยับ.

 

นอกจากนี้ไม่ใช่แค่ไม่สามารถขยับได้,การรับรู้ทุกอย่างของพวกเขาที่ถูกผนึกให้หยุดนิ่งไปด้วยในทันที.

 

คนที่ขยับได้,เวลานี้มีเพียงหลิวอู๋ซ่างเท่านั้น.

 

หลิวอู๋ซ่างที่ยืนขึ้น,ที่มุมปากเผยรอยยิ้มเหยียดหยันดูแคลน,จากนั้นมีทั้งสองข้าของเขาที่ยื่นออกไปทันที!

"เปลี่ยน ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”

 

พริบตานั้น,ร่างของหลิวอู๋ซ่างก็เปล่งประกายแสงสีเหลือง,สีเหลืองที่เรืองแสง,ก่อนที่จะกลายเป็นลำแสงพุ่งตรงไปยังร่างของจงเสวียนทันที.

"ครืนนน ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”

 

ลำแสงสีเหลืองที่พุ่งกระแทกร่างจงเสซียน,จากนั้นก็เชื่อมต่อไปทั่วร่างแลกเปลี่ยนร่างทั้งสอง.

 

ร่างกายทั้งสองที่สั่นเล็กน้อย,ผ่านไปสามลมหายใจ.

"ฟู่ ~~~ ~~~~~~~~~~~~~~~~!”

 

แสงสีเหลืองที่ส่องสว่างได้รวมเข้ากับร่างของจงเสวียนโดยสมบูรณ์.

"วูซซซซซ ~~~~~~~~~~~!”

 

ถัดจากนั้นเทียนเสิ่นจื่อที่หายไปจากด้านหน้าประตู,เพียงแค่อึดใจเท่านั้น,ไม่มีใครรับรู้ด้วยซ้ำว่าเกิดสิ่งใดขึ้น.

 

"ฟิ้ว!"

 

ภายในตำหนักอู๋ซ่าง,ทุกคนที่กลับมาเคลื่อนไหวได้.

 

พริบตาเดียวที่เหมือนกับหลุมจากสมาธิ,ทุกคนที่งงงวย,แม้นว่าจะรู้สึกสงสัยขึ้น,ทว่ากับได้ยินเสียงของจงเสวียน.

 

"ขอลา,ขอบคุณเซียนเซิงหลิว!"ใบหน้าของจงเสวียนที่ยังคงสงบ.

 

เสียงของจงเสวียนที่ดังขึ้น,ดึงสมาธิทุกคนกลับมา,ความงงงวยที่เกิดขึ้นสลายหายไป.

 

การหลุดสมาธิ,ความจริงเหตุการณ์เช่นนี้นานๆจะเกิดขึ้นกับทุกคนเช่นกัน,ยกตัวอย่างขณะที่อ่านตำราอยู่,มีคนเข้ามาเรียก,หรือขณะที่ครุ่นคิดอะไรบางอย่างก็ถูกใครขัดจังหวะ,เหตุการณ์เช่นนี้ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยเกิดขึ้น,จึงไม่ได้ทำให้เกิดความสงสัยอะไรมากนัก,อีกทั้งเมื่อครู่นี้ก็ไม่ได้มีเหตุอะไรที่ผิดปรกติแต่อย่างใด.

 

ตอนนี้ทุกคนในตำหนักอู๋ซ่างแม้นว่าจะรู้สึกงงงวยไปชั่วขณะ,ทว่าก็ไม่ได้รู้สึกผิดปรกติแต่อย่างใด,คิดเพียงว่าแค่หลุดสมาธิแค่ชั่วครู่เท่านั้น,ซึ่งไม่มีทางรู้ว่าหลิวอู๋ซ่างและจงเสวียนได้สลับร่างวิญญาณต่อกันไปเรียบร้อยแล้ว.

 

"ไม่จำเป็นต้องขอบคุณ!"หลิวอู๋ซ่างที่พยักหน้ารับ.

 

จากนั้น,ห้าองค์รักษ์ของจงเสวียน,ก็นำจงเสวียนออกจากตำหนักอู๋ซ่างไป.

 

จงเสวียนที่ก้าวนำออกไป,ขณะที่เขาก้าวออกไปนั้น,ท่าทางของเขาที่ดูแข็งกร้าว,ขณะที่ใบหน้าเผยยิ้มด้วยความพึงพอใจ,ถึงจะมีคนเห็น,แต่จะมีใครกล้าเอ่ยอะไรออกมาอย่างงั้นรึ? กลิ่นอายและท่าทางของเขาที่ดูแปลกไป.

 

อย่างไรก็ตามมันเกิดขึ้นพริบตาเดียว,เขาที่เก็บท่าทางกลิ่นอายกลับมาอย่างรวดเร็ว,ราวกับว่าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น.

 

ขณะที่จงเสวียนนำห้าองค์รักษ์จากไป.

 

ในตำหนักอู๋ซ่าง,หลิวอู๋ซ่างที่ไม่ได้ออกไปส่ง,ต้องไม่ลืมว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นไม่ใช่ไท่จื่อแท้จริง.

 

หลิวอู๋ซ่างที่ท่าทางค่อนข้างเกร็งๆ,ราวกับว่าไม่สามารถขยับได้,ทว่าเขาที่กำหมัดแน่น.

 

"พวกเจ้าออกไปก่อน!"หลิวอู๋ซ่างที่กล่าวออกมาเบาๆ.

 

"ใต้เท้า?"จินอี้เหว่ยทั้งสามที่เผยท่าทางงงวย.

 

"ข้าต้องการสมาธิ,ห้ามใครเข้ามารบกวนข้า,หากไม่มีคำสั่ง,ห้ามใครด้านนอกเข้ามา!"หลิวอู๋ซ่างที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

 

"ครับ!"จินอี้เหว่ยทั้งสามที่ตอบรับ.

"ครืนนน!”

 

คนทั้งสามที่ถอนตัวจากไป,ประตูตำหนักที่ปิดแน่น.

 

"วูซซซซ!"

 

เงาร่างๆหนึ่งที่ปรากฏขึ้นในห้องทันที.

 

เป็นเทียนเสิ่นจื่อที่ปรากฏก่อนหน้านี้นั่นเอง.

 

เทียนเสิ่นจื่อที่จับจ้องมองไปยังหลิวอู๋ซ่าง,แววตาของหลิวอู๋ซ่างที่เผยท่าทางตื่นตระหนกตกใจในทันที.

 

"ถึงกับกำหมัดแน่นเลยรึ? อย่างไรก็ตามด้วยทักษะเชิดหุ่นของข้า,เจ้าไม่มีทางขยับได้!"เทียนเสิ่นจื่อที่ส่ายหน้าไปมา.

 

"เจ้า,สามารถควบคุมการพูดข้าได้ด้วยรึ? ข้าเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร? เมื่อกี้นี้หมายความว่าอย่างไร?"หลิวอู๋ซ่างที่กล่าวออกมาด้วยความตกใจ.

 

"ด้วยปัญญาของเจ้าเวลานี้,ถึงอธิบายออกไปเจ้าก็ไม่มีทางเข้าใจ,จงโอนอ่อนไปตามสถานะการณ์,ข้าใช้ทักษะเชิดหุ่นเพียงชั่วคาวเท่านั้น,โปรดให้ความร่วมมือ,ไม่เช่นนั้น,ข้าคงไม่สนใจที่จะทำล้ายเจ้าโง่เช่นกเจ้า,ทำลายทั้งร่างกายและวิญญาณ!"เทียนเสิ่นจื่อกล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.

 

"ได้,ได้,ข้าจะทำตาม!"หลิวอู๋ซ่างที่กล่าวตอบรับ.

 

"อืม,จากนี้จงปิดด่านอยู่เพียงคนเดียวที่นี่,จนกว่าจะเลยวันมะรืนค่อยออกมา!"เทียนเสิ่นจื่อกล่าว.

 

"ได้,เจ้าจะไม่สังหารข้าใช่ใหม?"ใบหน้าของหลิวอู๋ซ่างที่กล่าวออกมาด้วยความหวาดกลัว.

 

"กับเชาว์ปัญญาของดวงวิญญาณที่เพิ่งเกิดใหม่? แม้นว่าจะยังมีเชาว์ปัญญาไม่มากนัก,ทว่ากับรู้จักกลัวความตายอย่างงั้นรึ? โปรดวางใจ,ขอเพียงเจ้าไม่ขัดคำสั่ง,ข้าก็จะไม่สังหารเจ้า!"เทียนเสิ่นจื่อกล่าว.

 

"ข้าจะทำ,ข้าจะไม่ขัดคำสั่ง!"หลิวอู๋ซ่างที่กล่าวออกมาด้วยความหวั่นเกรง.

 

"อืม!"เทียนเสิ่นจื่อพยักหน้ารับ.

 

จากนั้นเทียนเสิ่นจื่อที่หายไปจากห้องโถง.

 

หลิวอู๋ซ่างที่แสดงท่าทางหวาดกลัวหลบไปอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง,ที่เผยท่าทางหวาดกลัวเป็นอย่างมาก,เขาที่หดตัวหลับอยู่ราวๆสองชั่วยามเต็ม,ก่อนที่หลิวอู๋ซ่างจะลุกขึ้นช้าๆ,ใบหน้าของหลิวอู๋ซ่างที่กลับคืนมาเป็นเหมือนเดิม.

 

เขาที่ยืนขึ้น,จ้องมองร่างกายของตัวเอง,แววตาที่แผ่จิตสังหารออกมา,ความดุร้ายเย็นชาที่ส่องประกายอยู่ในนั้น.

 

หลิวอู๋ซ่างที่สูดหายใจลึก,ก่อนที่จะเผยท่าทางเหยียดหยัน,"ธรรมะสูงหนึ่งคืบ มารร้ายสูงหนึ่งศอก,ช่างน่าเศร้า,ช่างน่าเศร้าใจจริงๆ!"

 

หลิวอู๋ซ่างที่ค่อยๆนั่งลงบัลลังก์ของห้องโถงดังกล่าวช้าๆ.

 

ขณะที่เขานั่งอยู่บนบัลลังก์,หลิวอู๋ซ่างที่กวาดตามองโต๊ะของตัวเอง,ก่อนที่จะกล่าวกับตัวเองด้วยความตื่นเต้น,"กลัวความตายอย่างงั้นรึ? ชิ! หากกลัวความตายข้าคงไม่ฆ่าตัวตายในวันนั้น! ความรู้สึกที่กลับมาได้นี้ดีจริงๆ!"

 

แม้นว่าจะพูดกับตัวเอง,ทว่าหลิวอู๋ซ่างก็สร้างม่านป้องกันรอบๆร่างของตัวเองเอาไว้,เสียงดังกล่าวที่มีเพียงแค่เขาได้ยิน.

 

"วิชาเชิดหุ่น? หากว่าดวงวิญญาณของข้าแตกสลายไปหมด,วิชาเชิดหุ่นของเจ้าก็คงจะใช้การได้,หากแต่คิดจะใช้มันมาข่มขู่ข้ารึ? หลอกข้าอย่างงั้นรึ? ชิ!"แววตาของหลิวอู๋ซ่างที่เป็นประกาย.

-------------------------------------------------------------------

 

ภพหยิน,เมืองซ่าง!

 

คุกสวรรค์ภพหยินต้าเจิ้ง.

 

คุกสวรรค์ภพหยินนั้นมีขนาดใหญ่มาก,มีเขตแดนต่างๆแยกออกกันออกไปเป็นจำนวนมาก,เขตแดนเหนือของคุกสวรรค์สถานที่แห่งนี้ค่อนข้างสะอาย,เพราะว่าที่นี่จะใช้คุมขังเหล่าบุคคลสำคัญของต้าเจิ้ง.

 

ภายในคุกนั้นจะมีผู้คุมคอยเข้าไปตรวจสอบด้านในเป็นระยะๆ.

 

"ใต้เท้า,ภายในห้องในสุดนั้นเป็นใครกัน? เหมือนว่าข้าเคยเห็น......!"ผู้คุมคนหนึ่งที่เผยท่าทางไม่อยากเชื่อ.

”!”

 

"เป็นเจี้ยนฝูเทียนเจียนอาวุโสเทียนจริงๆรึ? เขาถูกจับได้อย่างไร?"

 

"ข้าไม่รู้,ทว่าตามหลักฐานที่มีนั้น,เขาได้สร้างคดีที่ใหญ่โตไม่เบา!"

 

"!ใต้เท้า,ข้าขอเข้าไปดูได้หรือไม่,ข้าอยากเห็นขุนนางใหญ่ที่ถูกจับ."

 

"เจ้าหนู,คิดว่าเป็นเรื่องสนุกรึไงกัน!"

..................

......

 

ภายในคุกสวรรค์แดนเหนือ,อาวุโสเทียนที่กำลังนั่งสมาธิอยู่,ขณะที่เขาจ้องมองไปยังร่างของเขาที่ดูปรกติทั่วไป,ไม่มีร่องรอยเป็นทุกข์เป็นร้อนแต่อย่างใด.

 

"วูซซซซ!"

 

ในเวลาเดียวกันนั้น,ร่างของอาวุโสเทียนที่สั่นไหวไปมา,ร่างของเขาที่มีแสงสีเหลืองอาบไล้,อาวุโสเทียนที่เผยท่าทางตื่นตระหนก.

”!”

 

อาวุโสเทียนที่สั่นไหวด้วยความเจ็บปวด.

 

"ข้าเข้าใจแล้ว,บรรพชนรุ่นหนึ่ง,ท่านคืนชีพ,รากเทวะของท่านก็คืนชีพ,ร่างเทวะของท่านถูกลบเชาว์ปัญญาออกไปแล้ว,และยังสามารถนำมาสร้างร่างที่สองได้อย่างงั้นรึ? เหมือนกับเซิ่งหวัง? ในภพหยิงคนหนึ่ง,ในภพหยินก็มีออีกคนหนึ่ง,นับเป็นแผนการที่ร้ายกาจลึกล้ำจริงๆ."อาวุโสเทียนที่เจ็บปวดเอ่ยออกมา.

 

ในเวลาเดียวกัน,ใบหน้าของอาวุโสเทียนที่เปลี่ยนไปในทันที,ท่าทางเองก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน,"เพื่อไม่ให้ใครพบกับเจ้า,และให้รับรู้,ว่าเจ้าอยู่ที่นี่,หากไม่เพราะว่าจงซานเร่งเร้า,บางทีเจ้าอาจจะยังคงมีชีวิตอยู่อีกหลายวัน!"

 

ใบหน้าของร่างอาวุโสเทียนเดิมที่เปลี่ยนเป็นเจ็บปวด,"ไม่,ข้าต้องแจ้งเซิ่งหวัง,เซิ่งหวัง~~~~~~~~~~~!”

 

อาวุโสเทียนที่ร้องออกมาด้วยความตกใจ,กลายเป็นเสียงที่ดังลั่นเพื่อที่จะแจ้งไปยังผู้คุมที่อยู่ไกลออกไป

 

"วูซซซซ!"

 

ร่างของอาวุโสเทียน,ที่ถูกร่างรากเทวะบรรพชนรุ่นกลืนกินและหายไป.

 

"ถูกผนึกพลังยังกล้าขัดขืน! ไม่รู้ควรจะเรียกว่าอย่างไร!"อาวุโสเทียนที่กล่าวกับร่างตัวเอง,น้ำเสียงที่เผยท่าทางดูแคลน.

 

"หืม,มีอะไร?"ผู้คุมกันที่เร่งรีบเข้ามาหาอาวุโสเทียนในทันที.

 

อาวุโสเทียนที่เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย,จ้องมองไปยังผู้คุม,"ไม่มีสิ่งใด,ดูเหมือนว่าเขาต้องการพบเซิ่งหวัง,เพราะสำนำผิดแล้ว!"

 

"!"ผู้คุมที่เผยท่าทางงงวย.

 

"เสี่ยวหวัง,เกิดปัญหาแล้ว?"เสียงที่ดังจากด้านหลังไกลออกไป.

 

"เอาล่ะ,ข้าขัดการเอง!"ผู้คุมกันเสี่ยวหวังที่จ้องมองไปยังพื้นที่ไกลออกไป.

 

ในเวลานั้น,ร่างอาวุโสเทียนด้านในที่ลุกขึ้น,จ้องมองไปยังผู้คุมคนดังกล่าว,ก่อนที่จะยืนมือสองข้างออกไป!

 

"เปลี่ยน~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”ร่างของอาวุโสเทียนที่ตะโกนออกมาเสียงดัง.


*************

 

道高一尺,魔高一丈(Dào gāo yī chǐ, mó gāo yī zhàng)

ธรรมะสูงหนึ่งคืบ มารร้ายสูงหนึ่งศอก

ธรรมะสูงหนึ่งคืบ มารร้ายสูงหนึ่งศอกเดิมเป็นพุทธพจน์ ในที่นี้หมายถึงลำดับขั้นของการตรัสรู้ มารร้ายที่ว่าหมายถึง อวิชชา ตัณหา อุปาทาน คำพูดประโยคคนนี้ใช้สำหรับตักเตือนผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลายให้ตั้งสติคอยระมัดระวังกิเลสจากภายนอกที่จะเข้ามารบกวนการปฏิบัติธรรม ปัจจุบันเราใช้คำนี้เป็นสุภาษิตเปรียบเทียบว่าฝ่ายอธรรมมีอำนาจเหนือกว่าฝ่ายธรรมะ และมีความหมายแคบว่า เมื่อสองฝ่ายเกิดการต่อสู้กัน ไม่ว่าฝ่ายใดจะมีฝีมือยอดเยี่ยมกว่า อีกฝ่ายก็มักจะหาวิธีมาล้มคว่ำคู่ต่อสู้จนได้





ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น