Immortality Chapter 1312 Harboring evil intentions central Cult Master
Chapter 1312 Harboring evil intentions central Cult Master
居心叵测的中央教主
แผนการร้ายของเจ้าตำหนักกลาง.
พื้นที่ดินแดนเสวียนหวง,มีค่ายกลชีวิตปกปิดอยู่.
เหล่าผู้ฝึกตนมากมายนับมาถ้วนที่มาใหม่,ต่างก็มารอคอยอยู่ชายขอบของดินแดนเสวียนหวง,เป็นจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน.
ดินแดนเสวียนหวงเปิดค่ายกลแล้ว,งานชุมนุมใต้หว่านฝูผ่านกำลังจะเปิดแล้ว,เหล่านักบวชจากหลากหลายนิกายที่มากมายหลากกลาย,ต่างมามามือดฟ้ามัวดิน,เหล่าหลวงจีนสวมจีวร,พวกเขาที่พุ่งตรงไปยังนิกายใต้เสวียนหวง.
ดินแดนเหล่ยหยิน.
หุบเขาแห่งหนึ่งของเทียนโจวจื่อ.
"ปราชญ์เทพจู่,ตอนนี้พวกเราเดินทางเลยหรือไม่?"เซียนบรรพชนตระกูลเทียนเอ่ยถาม.
"ยังไม่ถึงเวลา!"เทียนโจวจื่อส่ายหน้าไปมา.
"ไม่ใช่เวลาอย่างงั้นรึ?"
"เมื่อพิธีใต้หว่านฝูผานเริ่มขึ้น,พวกเราจำเป็นต้องมองหาผู้ฝึกตนของนิกายใต้เสวียนหวง.
"รับทราบ!"
จงซานในหุบเขาแห่งหนึ่ง.
จงซานที่นำเป่าเอ๋อและจงเทียนมายืนที่ด้านหน้าตำหนักที่แห่งหนึ่ง.
ด้านหน้าพวกเขานั้น,มีร่างของสตรีในชุดสีแดงทั้งร่าง,ใบหน้าที่เหมือนกับเป่าเอ๋อเป็นอย่างมาก.
"เจ้าตำหนักกลาง?
คาดไม่ถึงเลยว่าจะหาพวกเราเจอ?"จงซานที่ขมวดคิ้วกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ไม่ได้ยากที่จะหาเจอ,นี่คืออรหันต์วิหารเทียนหยินอย่างงั้นรึ?
ท่านเองก็จะเข้าร่วมงานชุมนุมใต้หว่านฝูผานอย่างงั้นรึ?"เจ้าตำหนักกลางที่เอ่ยออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ใช่,พวกเราแน่นอนว่าจะไปที่นั้น,ที่เจ้าตำหนักกลางมาถึงที่นี่,มีเรื่องอันใดอย่างงั้นรึ?"จงซานเอ่ยออกมาเบาๆ.
"ข้าเพียงแวะมาดูเท่านั้น,ได้ยินมาว่าดินแดนเหล่ยหยินนั้นมีเรื่องเกิดขึ้นมากมายตลอดสองปี,ข้ากลัวว่าเป่าเอ๋อจะได้รับบาดเจ็บ!"เจ้าตำหนักกลางเอ่ย.
"โปรดวางใจ,มีข้าอยู่,เป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครทำร้ายเป่าเอ๋อ,เพียงแต่เจ้าตำหนักกลาง,ท่านเองก็จะเข้าร่วมอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ใช่,ในเมื่อพวกเราต่างก็เข้าร่วม!
ทำไมไม่เดินทางไปยังดินแดนเสวียนหวงพร้อมกันเลยล่ะ?"เจ้าตำหนักกลางที่เผยยิ้มบาง.
"ไม่จำเป็น,พวกเรามีเรื่องสำคัญบางอย่างที่ต้องจัดการ,เมื่องานชุมนุมใต้หว่านฝูผานมาถึง,ค่อยพบกันก็แล้วกัน!"จงซานเอ่ย.
"ก็ดี!"เจ้านิกายกลางที่จ้องมองจงซานเป็นนัยน์,ท้ายที่สุดก็พยักหน้ารับ.
จากนั้น,เจ้านิกายกลางที่ก้าวบินออกไป.
เจ้านิกายกลางไปแล้ว,ทว่าจงซานที่พบนางขมวดคิ้วเล็กน้อย,เซียนเซิงซือและเซียนเซียนที่เดินเข้ามา.
"จงซาน,มีอะไรอย่างงั้นรึ?"ตี้เซียนเซียนที่เผยท่าทางสงสัย.
เป่าเอ๋อเวลานี้ที่ใบหน้าเปลี่ยนสีเผยท่าทางแปลกๆ.
"เข้ามาก่อนค่อยพูด!"จงซานที่เอ่ยออกมาเบาๆ.
ทุกคนที่เข้ามาในห้องโถง,จงซานที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร.
"เป่าเอ๋อ,เจ้า!"จงซานเอ่ย.
"อืม!"เป่าเอ๋อพยักหน้ารับ.
"เจี่ยเจี๋ยเป่าเอ๋อ,มีอะไรเกิดขึ้นรึ?"
เป่าเอ๋อขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย,ครุ่นคิดและกล่าวออกมาว่า,"ที่ตำหนักกลางนั้น,พวกเราได้ทิ้งศิษย์เอาไว้,ซึ่งพวกเขาได้แจ้งหนูสัญญาณหยกชีพมา,มีคนสองคนหายไป!"
"สองคน?
สองคนใหน?"ตี้เซียนเซียนที่เผยท่าทางไม่เข้าใจ.
"สตรีสองคนที่เหมือนกับตัวข้า,ร่างแยกของเจ้าตำหนักกลาง!"เป่าเอ๋อเผยท่าทางเป็นกังวล.
"หายไป?
หายไปมีความหมายอะไร?"ตี้เซียนเซียนที่เผยท่าทางสงสัย.
"มีบางคนที่เห็นพวกนางและเจ้าตำหนักกลางเข้าไปในห้องโถงแห่งหนึ่งด้วยกัน,จากนั้น,ก็ไม่สามารถพบเห็นพวกนางได้แล้ว,แต่ว่าเมื่อครู่ข้าสัมผัสได้ว่าเจ้าตำหนักกลางนั้นทรงพลังมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า!"เป่าเอ๋อที่ส่ายหน้าไปมา.
"เจี่ยเจี่ยเป่าเอ๋อกำลังจะบอกว่าเจ้าตำหนักกลางแข็งแกร่งขึ้นอย่างงั้นรึ?"เซียนเซียนที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
"อืม!"
"ปรกติไม่ว่าพวกนางจะไปใหน,ข้าก็จะสัมผัสถึงพวกนางได้! หากแต่ตอนนี้คาดไม่ถึงเลยว่าจะไม่สามารถบอกได้!"เป่าเอ๋อที่เผยท่าทางเป็นกังวลออกมา.
"เรื่องนี้......?"ตี้เซียนเซียนไม่รู้จะเอ่ยสิ่งใดออกมาเช่นกัน.
"ฮวงโหว,บางที่ท่านอาจจะคิดมากไปก็เป็นได้!"เซียนเซิงซือที่อยู่ข้างๆเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
"คิดมากไปอย่างงั้นรึ?"ทุกคนที่จ้องมองมายังเซียนเซิงซือ.
แต่ว่าเป่าเอ๋อที่ขมวดคิ้วไปมา,ก่อนที่จะส่ายหน้าไปมา.
"ร่างแยกทั้งสองของเจ้าตำหนักกลาง,บางที่อาจจะปิดด่านฝึกตนก็เป็นได้,ส่วนพลังของเจ้าตำหนักกลางที่เพิ่มขึ้น,นางนั้นไม่ธรรมดาอยู่แล้ว,บางที่ก่อนหน้านี้,นางก็ปกปิดพลังของนางเอาไว้,เวลานี้ใกล้ถึงงานชุมนุมใต้หว่านฝูผานแล้ว,จึงไม่คิดจะระงับเก็บเอาไว้,จึงได้เผยพลังทั้งหมดออกมา!"เซียนเซิงซือกล่าวด้วยรอยยิ้ม.
"แต่ว่า?"เป่าเอ๋อที่ขมวดคิ้วไปมา.
เป่าเอ๋อที่ต้องการเอ่ยอะไรบางอย่าง,จงซานที่อยู่อีกฝั่งจึงเอ่ยออกมา,"อืม,เป่าเอ๋อ,ช่วงนี้บางทีเจ้าอาจจะเหนื่อยไปหน่อย?"
"ข้า!"เป่าเอ๋อที่ต้องการโต้แย้ง,หากแต่ไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร.
"เป็นเพราะว่าเจ้า,กับเซียนเซียนพูกคุยกันไม่หยุดตลอดหลายวันมานี้!"จงซานที่หันหน้าไปยังเซียนเซียนเซียน.
"ข้า?"เซียนเซียนที่งงงวยเลิกลีก,ใหนต้องลากข้าไปยุ่งด้วยเล่า?
"ใช้,หลายวันมานี้,เจ้าได้ชักชวนเป่าเอ๋อพูดคุยแต่เรื่องราวมากมายในทวีปกลางมากมายอยู่ทุกวัน,จะไม่ใครทนได้เล่า!"จงซานที่เผยยิ้มออกมา.
"?"เซียนเซียนเผยท่าทางแปลกประหลาด.
"เป่าเอ๋อที่ดูแลทำข้ามต้มแปดดอกให้กับเจ้า,ต้องลดโทษเจ้าด้วยการทำข้าวต้มแปดดอกคืนให้เป่าเอ๋อ,ดูแลนางให้ดี!"จงซานเอ่ยออกมาจริงจัง.
"?ใช่,ทำข้าวต้มแปดดอกไม้,สูตรปรับปรุงของเจี่ยเจี่ยเป่าเอ๋อ,หลายวันมานี้,ทำให้ข้ามีความสุขมาก,เซียนเซียนไม่รู้จะขอบคุณอย่างไร,ไปเถะ,พวกเราไปเก็บดอกไม้สดกัน,ครานี้เซียนเซียนจะทำข้าวต้มดอกไม้ให้กินเอง!"เซียนเซียนที่เอ่ยกล่าวออกมาในทันที.
"? ทำข้าวต้มรึ? ไม่เป็นไร!"เป่าเอ๋อที่เผยยิ้มแปลกๆ.
"ต้องสิ,ไปเถอะ!"เซียนเซียนที่เอ่ยและลากเป่าเอ๋อไปในทันที.
"ไปเถอะ!
ข้าเองก็ไม่ได้กินนานแล้ว,เจ้าไปเลือกดอกไม้ให้ข้า,ให้เซียนเซียนทำ,ฝีมือของนางจะใช้ได้หรือไม่!"จงซานที่เผยยิ้มออกมา.
"อืม,ก็ได้!"เป่าเอ๋อที่ต้องก้าวตามเซียนเซียนไป.
เป่าเอ๋อและเซียนเซียนจากไปแล้ว.
ในเวลานี้ในห้องโถงที่กลายเป็นเงียบในทันที.
รอยยิ้มไร้กังวลของจงซานก่อนหน้านี้,เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมในทันที,เซียนเซิงซือที่ขมวดคิ้วแน่น.
"เซียนเซิงซือ,เจ้ารู้อะไรรึ? เล่ามา!"จงซานที่เอ่ยออกมาเบาๆ.
"ครับ!"เซียนเซิงซือพยักหน้ารับ.
จงซานที่เผยท่าทางจริงยัง,ไม่ต้องบอกได้ถึงอารมณ์ของจงซานที่ไม่ใครดีนัก,ด้วยเป็นห่วงฮวงโหวนั่นเอง.
"ฮวงโหว,บางทีคงอยู่ในอันตรายแล้ว!"เซียนเซิงซือกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"หืม?
หมายความว่าอย่างไร?"จงซานเอ่ยออกมาอย่างจริงจัง.
"เฉินเพียงคิดว่าก่อนหน้านี้เจ้าตำหนักกลางนั้นได้ใช้วิชาช่วงชิงชะตาแยกเติบโต,ฟังจากรายระเอียดที่ฮวงโห่วเล่าแล้ว,เฉินรู้ว่า,เจ้าตำหนักกลางไม่เพียงแต่ใช้วิชาช่วงชิงชะตาแยกเติบโต,ร่างสามร่างที่เหมือนกับนางเป็นอย่างมากนั้น,ไม่ใช่ร่างแยกของนาง!"เซียนเซิงซือเอ่ยออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"หมายความว่าอย่างไร?"จงซานที่กล่าวอย่างจริงจัง.
"เซิ่งหวังเคยได้ยิน,ตัดผ่านสามศพหรือไม่?"เซียนเซิงซือกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ตัดผ่านสามศพ?"จงเทียนที่อยู่ห่างออกมาเอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"ครับ,ในอดีตนั้นปราชญ์เทพซานชิง,เคยใช้วิชานี้,ตัดผ่านสามศพนั้น,จะใช้ศพที่เข้ากันได้,เป็นวิชามารที่กลืนกินศพอีกฝ่าย,ตัดผ่านสามศพ,หนึ่งศพเมตา,หนึ่งศพชั่วร้าย,หนึ่งศพยึดครอง,ตัดผ่านดูดกลืน,เป็นหนึ่งวิธี,ในการยกระดับพลังฝึกตนให้สูงขึ้น,ด้วยการผสานศพทั้งสามเข้ามาเพื่อให้ตัวเองตระหนักรู้,ไม่เพียงทำให้กายเนื้อแข็งแกร่งขึ้น,ยังทำให้พลังฝึกตนตัดผ่านไปยังระดับที่สูงขึ้นได้อีกด้วย!"เซียนเซิงซือกล่าวอย่างจริงจัง.
"เจ้ากำลังจะบอกว่าเจ้าตำหนักกลางนั้นกำลังใช้วิชาตัดผ่านสามศพอยู่อย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.
"ครับ,เจ้าตำหนักกลางนั้น,เฉินได้เห็นสตรีสองคนที่เหมือนกับนางแล้ว,หนึ่งเมตา,หนึ่งชั่วร้าย,ซึ่งคราแรกไม่ได้คิดอะไรนัก,จึงไม่ได้เอ่ย,จนกระทั่งฮวงโหวเอ่ยเมื่อสักครู,ทำให้เฉินต้องนำเรื่องดังกล่าวมาคิดอีกครา!"เซียนเซิงซือขมวดคิ้วไปมา.
"กล่าวต่อ!"จงซานที่เผยท่าทางจริงจัง.
"ครับ!"
"สามศพ,ศพเมตตา,ศพชั่วร้าย,พอจะเข้าใจได้,นอกจากนี้,ยังเชื่อฟังร่างหลักเป็นอย่างมา,หรือบอกได้ว่าซือสัตย์ต่อร่างหลัก,หากแต่ศพครอบครองนั้นแตกต่าง,ศพครองครองนั้นผิดปรกติ,เป็นส่วนที่ต่างจากร่างหลัก,ดังนั้น,เมื่อถูกแยกออกมาจากร่างหลักแล้ว,จะไม่สามารถควบคุมร่างได้เลย,ฮวงโฮวที่แยกออกมาจากเจ้าตำหนักกลาง,เป็นร่างหลักของศพครอบครอง!"เซียนเซิงซือเอ่ยออกมาอย่างชิงจัง.
"เหลวไหล,มู่โหวนั้นชัดเจนว่าเป็นคนที่กำเนิดที่โลกใบเล็ก,ไม่ใช่คนในยุคเดียวกับเจ้าตำหนักกลาง,จะเป็นศพครอบครองๆได้อย่างไร?"จงเทียนที่เผยท่าทางไม่อยากเชื่อในทันที.
"เทียนเอ๋อ!"จงซานที่กล่าวหยุดจงเทียนเอาไว้.
จงเทียนที่ขมวดคิ้วไม่เอ่ยอะไรต่อไป.
"เป็นดั่งที่ไท่จื่อเอ่ย,ฮวงโหวจะเป็นศพครองครองด้วยวิธีใด,นอกจากนี้เฉินเองก็ไม่คิดว่าเป็นวิชาตัดแยกสามศพ,หากแต่การทีเจ้าตำหนักกลางตัดผ่านสามศพ,ไม่ใช่วิธีธรรมดา,นอกจากจะตัดชีวิตและความตาย,นางยังให้ผ่านวัฏจักรสังสารวัฏ,เพื่อเพิ่มชะตาวิถีอีกด้วย,การตัดศพครอบครองนี้,สามารถทำให้จุติกลับมาอีกหลายครั้ง!"เซียนเซิงซือกล่าวอย่างจริงจัง.
"หืม? ”
"จากคำพูดของฮวงโหว,เฉินพอคาดเดาร่างเมตตา,กับร่างชั่วร้ายได้,ดูเหมือนว่าเจ้าตำหนักกลางจะผสานเข้าร่างหลักแล้ว,พวกนางไม่มีอยู่แล้ว,ตอนนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของเจ้าตำหนักกลางไปแล้ว! จึงทำให้พลังฝึกตนของเจ้าตำหนักกลางเพิ่มขึ้น!"เซียนเซิงซือเอ่ย.
"เช่นนั้นนางก็ต้องการเป่าเอ๋ออีกอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.
"ครับ,เมื่อนางคิดว่าความแข็งแกร่งของนางยังไม่พอ,นางย่อมต้องคิดถึงฮวงโหวง,หากว่าสามารถหลอมอีกร่างเข้าไป,ความแข็งแกร่งของนางจะเพิ่มพูนขึ้นอีกครั้ง!"เซียนเซิงซือขมวดคิ้วไปมา.
"นอกจากนี้,ในเวลานี้เจ้านิกายกลางไม่เหมือนเดิม,นางแข็งแกร่งขึ้นมา,สัมผัสของนางก็แข็งแกร่งขึ้นมากด้วย,แม้แต่,เฉินยังพอคาดเดาได้,กับสิ่งที่ฮวงโหวเอ่ย,เจ้าตำหนักกลางสามารถสัมผัสได้ถึงนางตลอดเวลา,ดังนั้นนางกำลังวางแผนเล็งมาที่ฮวงโหว,เรื่องนี้ที่แจ้งช้าไป,ของเซิ่งหวังอภัย!"เซียนเซิงซือกล่าวออกมาทันที.
"เจ้าไม่ผิด!"จงซานที่สูดหายใจลึก.
"เซียนเซิงซือ,ในเวลานี้ควรจะทำอย่างไร?มู่โห่วจะต้องถูกเจ้าตำหนักกลางผสานเข้ามาแน่,หากพวกเราจัดการเจ้าตำหนักกลาง,มู่โห่วจะเป็นอะไรหรือไม่?"จงเทียนสอบถาม.
"หากร่างหลักตาย,ร่างตัดผ่านสามศพก็จะตกตายไปทั้งหมดเช่นกัน!"เซียนเซิงซือเอ่ย.
"ใบหน้าของจงซานที่เผยท่าทางไม่ค่อยดีนัก.
"เซียนเซิงซือ,มีแผนอะไรจัดการหรือไม่?"จงซานที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ.
"หากอนุญาต,เฉินสามารถสร้างค่ายกลขบถได้,ในเมื่อฮวงโหวเป็นเป้าหมาย,เจ้าตำหนักกลางที่ต้องการกำราบฮวงโหว,ก็ให้เป็นฮวงโหวกำราบและหลอมนางเข้ามาแทน!"เซียนเซิงซือกล่าวอย่างเย็นชา.
"ค่ายกลขบถ?"
"เป็นวิชาลับของตระกูลเฉิน,เป็นการพลิกลิขิตเป็นลิขิตรอง,เพื่อที่จะให้ฮวงโหวและเจ้าตำหนักกลางเป็นแก่นกำเนิดกัน,ทำให้ฮวงโหวกลายเป็นร่างหลัก,เจ้าตำหนักกลายเป็นร่างยึดครอง,ด้วยค่ายกลกบฏนี้,จะสามารถหลอมร่าง,ผสานเป็นหนึ่ง,ในเมื่อไม่สามารถหลบเลี่ยงอันตรายได้,ก็ทำได้แค่เพียงหลอมเจ้านิกายกลางเข้ามาก็พอ!"เซียนเซิงซือกล่าวด้วยความเคารพ.
"เป็นค่ายกลขบถที่ยอดเยี่ยม!"จงซานที่กล่าวพลางถอนหายใจ.
เปลี่ยนหลักเป็นรอง,นี่ไม่ใช่การเปลี่ยนมิติและเวลา,แต่นี่เป็นอะไรที่ยากมากๆ,การเปลี่ยนลิขิตชะตา,ของร่างทั้งสอง,พลิกกลับสับเปลี่ยนกัน,ต้องบอกเลยว่านี่คือค่ายกลที่น่าสะพรึงกลัวมา,เซียนเซิงซือเป็นใครจากใหนกัน?
"ต้องจัดการอย่างไร,ขอให้บอกข้า!"จงซานที่จ้องมองเซียนเซิงซือด้วยความลึกล้ำ.
จงซานที่ไม่ถามเกี่ยวกับรายระเอียดของค่ายกลขบถ,เพราะเป็นเรื่องดีที่จะไม่ถาม,เพราะว่าจงซานจำได้ที่ตี้เสวียนชาบอกกล่าวก่อนหน้านี้,เซียนเซิงซือไม่สะดวกที่จะบอก,มันเกี่ยวข้องกับชะตาลิขิตด้วยแล้ว,ไม่สามารถที่จะกระทำการโดยไม่ระวังได้,อีกอย่างเรื่องเร่งด่วนที่สุด,เวลานี้,ก็คือการช่วยเหลือเป่าเอ๋อ.
"ครับ!"เซียนเซิงซือกล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
Chapter 1312 Harboring evil intentions central Cult Master
居心叵测的中央教主
แผนการร้ายของเจ้าตำหนักกลาง.
พื้นที่ดินแดนเสวียนหวง,มีค่ายกลชีวิตปกปิดอยู่.
เหล่าผู้ฝึกตนมากมายนับมาถ้วนที่มาใหม่,ต่างก็มารอคอยอยู่ชายขอบของดินแดนเสวียนหวง,เป็นจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน.
ดินแดนเสวียนหวงเปิดค่ายกลแล้ว,งานชุมนุมใต้หว่านฝูผ่านกำลังจะเปิดแล้ว,เหล่านักบวชจากหลากหลายนิกายที่มากมายหลากกลาย,ต่างมามามือดฟ้ามัวดิน,เหล่าหลวงจีนสวมจีวร,พวกเขาที่พุ่งตรงไปยังนิกายใต้เสวียนหวง.
ดินแดนเหล่ยหยิน.
หุบเขาแห่งหนึ่งของเทียนโจวจื่อ.
"ปราชญ์เทพจู่,ตอนนี้พวกเราเดินทางเลยหรือไม่?"เซียนบรรพชนตระกูลเทียนเอ่ยถาม.
"ยังไม่ถึงเวลา!"เทียนโจวจื่อส่ายหน้าไปมา.
"ไม่ใช่เวลาอย่างงั้นรึ?"
"เมื่อพิธีใต้หว่านฝูผานเริ่มขึ้น,พวกเราจำเป็นต้องมองหาผู้ฝึกตนของนิกายใต้เสวียนหวง.
"รับทราบ!"
จงซานในหุบเขาแห่งหนึ่ง.
จงซานที่นำเป่าเอ๋อและจงเทียนมายืนที่ด้านหน้าตำหนักที่แห่งหนึ่ง.
ด้านหน้าพวกเขานั้น,มีร่างของสตรีในชุดสีแดงทั้งร่าง,ใบหน้าที่เหมือนกับเป่าเอ๋อเป็นอย่างมาก.
"เจ้าตำหนักกลาง?
คาดไม่ถึงเลยว่าจะหาพวกเราเจอ?"จงซานที่ขมวดคิ้วกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ไม่ได้ยากที่จะหาเจอ,นี่คืออรหันต์วิหารเทียนหยินอย่างงั้นรึ?
ท่านเองก็จะเข้าร่วมงานชุมนุมใต้หว่านฝูผานอย่างงั้นรึ?"เจ้าตำหนักกลางที่เอ่ยออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ใช่,พวกเราแน่นอนว่าจะไปที่นั้น,ที่เจ้าตำหนักกลางมาถึงที่นี่,มีเรื่องอันใดอย่างงั้นรึ?"จงซานเอ่ยออกมาเบาๆ.
"ข้าเพียงแวะมาดูเท่านั้น,ได้ยินมาว่าดินแดนเหล่ยหยินนั้นมีเรื่องเกิดขึ้นมากมายตลอดสองปี,ข้ากลัวว่าเป่าเอ๋อจะได้รับบาดเจ็บ!"เจ้าตำหนักกลางเอ่ย.
"โปรดวางใจ,มีข้าอยู่,เป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครทำร้ายเป่าเอ๋อ,เพียงแต่เจ้าตำหนักกลาง,ท่านเองก็จะเข้าร่วมอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ใช่,ในเมื่อพวกเราต่างก็เข้าร่วม!
ทำไมไม่เดินทางไปยังดินแดนเสวียนหวงพร้อมกันเลยล่ะ?"เจ้าตำหนักกลางที่เผยยิ้มบาง.
"ไม่จำเป็น,พวกเรามีเรื่องสำคัญบางอย่างที่ต้องจัดการ,เมื่องานชุมนุมใต้หว่านฝูผานมาถึง,ค่อยพบกันก็แล้วกัน!"จงซานเอ่ย.
"ก็ดี!"เจ้านิกายกลางที่จ้องมองจงซานเป็นนัยน์,ท้ายที่สุดก็พยักหน้ารับ.
จากนั้น,เจ้านิกายกลางที่ก้าวบินออกไป.
เจ้านิกายกลางไปแล้ว,ทว่าจงซานที่พบนางขมวดคิ้วเล็กน้อย,เซียนเซิงซือและเซียนเซียนที่เดินเข้ามา.
"จงซาน,มีอะไรอย่างงั้นรึ?"ตี้เซียนเซียนที่เผยท่าทางสงสัย.
เป่าเอ๋อเวลานี้ที่ใบหน้าเปลี่ยนสีเผยท่าทางแปลกๆ.
"เข้ามาก่อนค่อยพูด!"จงซานที่เอ่ยออกมาเบาๆ.
ทุกคนที่เข้ามาในห้องโถง,จงซานที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร.
"เป่าเอ๋อ,เจ้า!"จงซานเอ่ย.
"อืม!"เป่าเอ๋อพยักหน้ารับ.
"เจี่ยเจี๋ยเป่าเอ๋อ,มีอะไรเกิดขึ้นรึ?"
เป่าเอ๋อขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย,ครุ่นคิดและกล่าวออกมาว่า,"ที่ตำหนักกลางนั้น,พวกเราได้ทิ้งศิษย์เอาไว้,ซึ่งพวกเขาได้แจ้งหนูสัญญาณหยกชีพมา,มีคนสองคนหายไป!"
"สองคน?
สองคนใหน?"ตี้เซียนเซียนที่เผยท่าทางไม่เข้าใจ.
"สตรีสองคนที่เหมือนกับตัวข้า,ร่างแยกของเจ้าตำหนักกลาง!"เป่าเอ๋อเผยท่าทางเป็นกังวล.
"หายไป?
หายไปมีความหมายอะไร?"ตี้เซียนเซียนที่เผยท่าทางสงสัย.
"มีบางคนที่เห็นพวกนางและเจ้าตำหนักกลางเข้าไปในห้องโถงแห่งหนึ่งด้วยกัน,จากนั้น,ก็ไม่สามารถพบเห็นพวกนางได้แล้ว,แต่ว่าเมื่อครู่ข้าสัมผัสได้ว่าเจ้าตำหนักกลางนั้นทรงพลังมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า!"เป่าเอ๋อที่ส่ายหน้าไปมา.
"เจี่ยเจี่ยเป่าเอ๋อกำลังจะบอกว่าเจ้าตำหนักกลางแข็งแกร่งขึ้นอย่างงั้นรึ?"เซียนเซียนที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
"อืม!"
"ปรกติไม่ว่าพวกนางจะไปใหน,ข้าก็จะสัมผัสถึงพวกนางได้! หากแต่ตอนนี้คาดไม่ถึงเลยว่าจะไม่สามารถบอกได้!"เป่าเอ๋อที่เผยท่าทางเป็นกังวลออกมา.
"เรื่องนี้......?"ตี้เซียนเซียนไม่รู้จะเอ่ยสิ่งใดออกมาเช่นกัน.
"ฮวงโหว,บางที่ท่านอาจจะคิดมากไปก็เป็นได้!"เซียนเซิงซือที่อยู่ข้างๆเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
"คิดมากไปอย่างงั้นรึ?"ทุกคนที่จ้องมองมายังเซียนเซิงซือ.
แต่ว่าเป่าเอ๋อที่ขมวดคิ้วไปมา,ก่อนที่จะส่ายหน้าไปมา.
"ร่างแยกทั้งสองของเจ้าตำหนักกลาง,บางที่อาจจะปิดด่านฝึกตนก็เป็นได้,ส่วนพลังของเจ้าตำหนักกลางที่เพิ่มขึ้น,นางนั้นไม่ธรรมดาอยู่แล้ว,บางที่ก่อนหน้านี้,นางก็ปกปิดพลังของนางเอาไว้,เวลานี้ใกล้ถึงงานชุมนุมใต้หว่านฝูผานแล้ว,จึงไม่คิดจะระงับเก็บเอาไว้,จึงได้เผยพลังทั้งหมดออกมา!"เซียนเซิงซือกล่าวด้วยรอยยิ้ม.
"แต่ว่า?"เป่าเอ๋อที่ขมวดคิ้วไปมา.
เป่าเอ๋อที่ต้องการเอ่ยอะไรบางอย่าง,จงซานที่อยู่อีกฝั่งจึงเอ่ยออกมา,"อืม,เป่าเอ๋อ,ช่วงนี้บางทีเจ้าอาจจะเหนื่อยไปหน่อย?"
"ข้า!"เป่าเอ๋อที่ต้องการโต้แย้ง,หากแต่ไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร.
"เป็นเพราะว่าเจ้า,กับเซียนเซียนพูกคุยกันไม่หยุดตลอดหลายวันมานี้!"จงซานที่หันหน้าไปยังเซียนเซียนเซียน.
"ข้า?"เซียนเซียนที่งงงวยเลิกลีก,ใหนต้องลากข้าไปยุ่งด้วยเล่า?
"ใช้,หลายวันมานี้,เจ้าได้ชักชวนเป่าเอ๋อพูดคุยแต่เรื่องราวมากมายในทวีปกลางมากมายอยู่ทุกวัน,จะไม่ใครทนได้เล่า!"จงซานที่เผยยิ้มออกมา.
"?"เซียนเซียนเผยท่าทางแปลกประหลาด.
"เป่าเอ๋อที่ดูแลทำข้ามต้มแปดดอกให้กับเจ้า,ต้องลดโทษเจ้าด้วยการทำข้าวต้มแปดดอกคืนให้เป่าเอ๋อ,ดูแลนางให้ดี!"จงซานเอ่ยออกมาจริงจัง.
"?ใช่,ทำข้าวต้มแปดดอกไม้,สูตรปรับปรุงของเจี่ยเจี่ยเป่าเอ๋อ,หลายวันมานี้,ทำให้ข้ามีความสุขมาก,เซียนเซียนไม่รู้จะขอบคุณอย่างไร,ไปเถะ,พวกเราไปเก็บดอกไม้สดกัน,ครานี้เซียนเซียนจะทำข้าวต้มดอกไม้ให้กินเอง!"เซียนเซียนที่เอ่ยกล่าวออกมาในทันที.
"? ทำข้าวต้มรึ? ไม่เป็นไร!"เป่าเอ๋อที่เผยยิ้มแปลกๆ.
"ต้องสิ,ไปเถอะ!"เซียนเซียนที่เอ่ยและลากเป่าเอ๋อไปในทันที.
"ไปเถอะ!
ข้าเองก็ไม่ได้กินนานแล้ว,เจ้าไปเลือกดอกไม้ให้ข้า,ให้เซียนเซียนทำ,ฝีมือของนางจะใช้ได้หรือไม่!"จงซานที่เผยยิ้มออกมา.
"อืม,ก็ได้!"เป่าเอ๋อที่ต้องก้าวตามเซียนเซียนไป.
เป่าเอ๋อและเซียนเซียนจากไปแล้ว.
ในเวลานี้ในห้องโถงที่กลายเป็นเงียบในทันที.
รอยยิ้มไร้กังวลของจงซานก่อนหน้านี้,เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมในทันที,เซียนเซิงซือที่ขมวดคิ้วแน่น.
"เซียนเซิงซือ,เจ้ารู้อะไรรึ? เล่ามา!"จงซานที่เอ่ยออกมาเบาๆ.
"ครับ!"เซียนเซิงซือพยักหน้ารับ.
จงซานที่เผยท่าทางจริงยัง,ไม่ต้องบอกได้ถึงอารมณ์ของจงซานที่ไม่ใครดีนัก,ด้วยเป็นห่วงฮวงโหวนั่นเอง.
"ฮวงโหว,บางทีคงอยู่ในอันตรายแล้ว!"เซียนเซิงซือกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"หืม?
หมายความว่าอย่างไร?"จงซานเอ่ยออกมาอย่างจริงจัง.
"เฉินเพียงคิดว่าก่อนหน้านี้เจ้าตำหนักกลางนั้นได้ใช้วิชาช่วงชิงชะตาแยกเติบโต,ฟังจากรายระเอียดที่ฮวงโห่วเล่าแล้ว,เฉินรู้ว่า,เจ้าตำหนักกลางไม่เพียงแต่ใช้วิชาช่วงชิงชะตาแยกเติบโต,ร่างสามร่างที่เหมือนกับนางเป็นอย่างมากนั้น,ไม่ใช่ร่างแยกของนาง!"เซียนเซิงซือเอ่ยออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"หมายความว่าอย่างไร?"จงซานที่กล่าวอย่างจริงจัง.
"เซิ่งหวังเคยได้ยิน,ตัดผ่านสามศพหรือไม่?"เซียนเซิงซือกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ตัดผ่านสามศพ?"จงเทียนที่อยู่ห่างออกมาเอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"ครับ,ในอดีตนั้นปราชญ์เทพซานชิง,เคยใช้วิชานี้,ตัดผ่านสามศพนั้น,จะใช้ศพที่เข้ากันได้,เป็นวิชามารที่กลืนกินศพอีกฝ่าย,ตัดผ่านสามศพ,หนึ่งศพเมตา,หนึ่งศพชั่วร้าย,หนึ่งศพยึดครอง,ตัดผ่านดูดกลืน,เป็นหนึ่งวิธี,ในการยกระดับพลังฝึกตนให้สูงขึ้น,ด้วยการผสานศพทั้งสามเข้ามาเพื่อให้ตัวเองตระหนักรู้,ไม่เพียงทำให้กายเนื้อแข็งแกร่งขึ้น,ยังทำให้พลังฝึกตนตัดผ่านไปยังระดับที่สูงขึ้นได้อีกด้วย!"เซียนเซิงซือกล่าวอย่างจริงจัง.
"เจ้ากำลังจะบอกว่าเจ้าตำหนักกลางนั้นกำลังใช้วิชาตัดผ่านสามศพอยู่อย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.
"ครับ,เจ้าตำหนักกลางนั้น,เฉินได้เห็นสตรีสองคนที่เหมือนกับนางแล้ว,หนึ่งเมตา,หนึ่งชั่วร้าย,ซึ่งคราแรกไม่ได้คิดอะไรนัก,จึงไม่ได้เอ่ย,จนกระทั่งฮวงโหวเอ่ยเมื่อสักครู,ทำให้เฉินต้องนำเรื่องดังกล่าวมาคิดอีกครา!"เซียนเซิงซือขมวดคิ้วไปมา.
"กล่าวต่อ!"จงซานที่เผยท่าทางจริงจัง.
"ครับ!"
"สามศพ,ศพเมตตา,ศพชั่วร้าย,พอจะเข้าใจได้,นอกจากนี้,ยังเชื่อฟังร่างหลักเป็นอย่างมา,หรือบอกได้ว่าซือสัตย์ต่อร่างหลัก,หากแต่ศพครอบครองนั้นแตกต่าง,ศพครองครองนั้นผิดปรกติ,เป็นส่วนที่ต่างจากร่างหลัก,ดังนั้น,เมื่อถูกแยกออกมาจากร่างหลักแล้ว,จะไม่สามารถควบคุมร่างได้เลย,ฮวงโฮวที่แยกออกมาจากเจ้าตำหนักกลาง,เป็นร่างหลักของศพครอบครอง!"เซียนเซิงซือเอ่ยออกมาอย่างชิงจัง.
"เหลวไหล,มู่โหวนั้นชัดเจนว่าเป็นคนที่กำเนิดที่โลกใบเล็ก,ไม่ใช่คนในยุคเดียวกับเจ้าตำหนักกลาง,จะเป็นศพครอบครองๆได้อย่างไร?"จงเทียนที่เผยท่าทางไม่อยากเชื่อในทันที.
"เทียนเอ๋อ!"จงซานที่กล่าวหยุดจงเทียนเอาไว้.
จงเทียนที่ขมวดคิ้วไม่เอ่ยอะไรต่อไป.
"เป็นดั่งที่ไท่จื่อเอ่ย,ฮวงโหวจะเป็นศพครองครองด้วยวิธีใด,นอกจากนี้เฉินเองก็ไม่คิดว่าเป็นวิชาตัดแยกสามศพ,หากแต่การทีเจ้าตำหนักกลางตัดผ่านสามศพ,ไม่ใช่วิธีธรรมดา,นอกจากจะตัดชีวิตและความตาย,นางยังให้ผ่านวัฏจักรสังสารวัฏ,เพื่อเพิ่มชะตาวิถีอีกด้วย,การตัดศพครอบครองนี้,สามารถทำให้จุติกลับมาอีกหลายครั้ง!"เซียนเซิงซือกล่าวอย่างจริงจัง.
"หืม? ”
"จากคำพูดของฮวงโหว,เฉินพอคาดเดาร่างเมตตา,กับร่างชั่วร้ายได้,ดูเหมือนว่าเจ้าตำหนักกลางจะผสานเข้าร่างหลักแล้ว,พวกนางไม่มีอยู่แล้ว,ตอนนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของเจ้าตำหนักกลางไปแล้ว! จึงทำให้พลังฝึกตนของเจ้าตำหนักกลางเพิ่มขึ้น!"เซียนเซิงซือเอ่ย.
"เช่นนั้นนางก็ต้องการเป่าเอ๋ออีกอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.
"ครับ,เมื่อนางคิดว่าความแข็งแกร่งของนางยังไม่พอ,นางย่อมต้องคิดถึงฮวงโหวง,หากว่าสามารถหลอมอีกร่างเข้าไป,ความแข็งแกร่งของนางจะเพิ่มพูนขึ้นอีกครั้ง!"เซียนเซิงซือขมวดคิ้วไปมา.
"นอกจากนี้,ในเวลานี้เจ้านิกายกลางไม่เหมือนเดิม,นางแข็งแกร่งขึ้นมา,สัมผัสของนางก็แข็งแกร่งขึ้นมากด้วย,แม้แต่,เฉินยังพอคาดเดาได้,กับสิ่งที่ฮวงโหวเอ่ย,เจ้าตำหนักกลางสามารถสัมผัสได้ถึงนางตลอดเวลา,ดังนั้นนางกำลังวางแผนเล็งมาที่ฮวงโหว,เรื่องนี้ที่แจ้งช้าไป,ของเซิ่งหวังอภัย!"เซียนเซิงซือกล่าวออกมาทันที.
"เจ้าไม่ผิด!"จงซานที่สูดหายใจลึก.
"เซียนเซิงซือ,ในเวลานี้ควรจะทำอย่างไร?มู่โห่วจะต้องถูกเจ้าตำหนักกลางผสานเข้ามาแน่,หากพวกเราจัดการเจ้าตำหนักกลาง,มู่โห่วจะเป็นอะไรหรือไม่?"จงเทียนสอบถาม.
"หากร่างหลักตาย,ร่างตัดผ่านสามศพก็จะตกตายไปทั้งหมดเช่นกัน!"เซียนเซิงซือเอ่ย.
"ใบหน้าของจงซานที่เผยท่าทางไม่ค่อยดีนัก.
"เซียนเซิงซือ,มีแผนอะไรจัดการหรือไม่?"จงซานที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ.
"หากอนุญาต,เฉินสามารถสร้างค่ายกลขบถได้,ในเมื่อฮวงโหวเป็นเป้าหมาย,เจ้าตำหนักกลางที่ต้องการกำราบฮวงโหว,ก็ให้เป็นฮวงโหวกำราบและหลอมนางเข้ามาแทน!"เซียนเซิงซือกล่าวอย่างเย็นชา.
"ค่ายกลขบถ?"
"เป็นวิชาลับของตระกูลเฉิน,เป็นการพลิกลิขิตเป็นลิขิตรอง,เพื่อที่จะให้ฮวงโหวและเจ้าตำหนักกลางเป็นแก่นกำเนิดกัน,ทำให้ฮวงโหวกลายเป็นร่างหลัก,เจ้าตำหนักกลายเป็นร่างยึดครอง,ด้วยค่ายกลกบฏนี้,จะสามารถหลอมร่าง,ผสานเป็นหนึ่ง,ในเมื่อไม่สามารถหลบเลี่ยงอันตรายได้,ก็ทำได้แค่เพียงหลอมเจ้านิกายกลางเข้ามาก็พอ!"เซียนเซิงซือกล่าวด้วยความเคารพ.
"เป็นค่ายกลขบถที่ยอดเยี่ยม!"จงซานที่กล่าวพลางถอนหายใจ.
เปลี่ยนหลักเป็นรอง,นี่ไม่ใช่การเปลี่ยนมิติและเวลา,แต่นี่เป็นอะไรที่ยากมากๆ,การเปลี่ยนลิขิตชะตา,ของร่างทั้งสอง,พลิกกลับสับเปลี่ยนกัน,ต้องบอกเลยว่านี่คือค่ายกลที่น่าสะพรึงกลัวมา,เซียนเซิงซือเป็นใครจากใหนกัน?
"ต้องจัดการอย่างไร,ขอให้บอกข้า!"จงซานที่จ้องมองเซียนเซิงซือด้วยความลึกล้ำ.
จงซานที่ไม่ถามเกี่ยวกับรายระเอียดของค่ายกลขบถ,เพราะเป็นเรื่องดีที่จะไม่ถาม,เพราะว่าจงซานจำได้ที่ตี้เสวียนชาบอกกล่าวก่อนหน้านี้,เซียนเซิงซือไม่สะดวกที่จะบอก,มันเกี่ยวข้องกับชะตาลิขิตด้วยแล้ว,ไม่สามารถที่จะกระทำการโดยไม่ระวังได้,อีกอย่างเรื่องเร่งด่วนที่สุด,เวลานี้,ก็คือการช่วยเหลือเป่าเอ๋อ.
"ครับ!"เซียนเซิงซือกล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น