วันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2564

Strongest Sect of All Times Chapter 274 Enters into Eighth Stage Martial Master

Strongest Sect of All Times  Chapter 274 Enters into Eighth Stage Martial Master

 นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล

Chapter 274 Enters into Eighth Stage Martial Master

迈入八品武师

 

การได้ประเมินสาม A,จุนซ่างเซียวไม่ได้สนใจนัก,ดังนั้นในเวลานี้เขามีแต่ต้องบ่มเพาะฝึกฝน,ทั้งเขาและศิษย์อย่างจริงจัง.

ในความเห็นของเขานั้น,จะต้องทำให้สำนักไท่กู่เจิ้งเป็นอันดับหนึ่งของทวีปชิงหยุนให้ได้,เพื่อที่จะแก้ไข,ระเบิดเวลาที่ผูกดวงวิญญาณของเขาอยู่,นี่คือเรื่องสำคัญที่สุด!


“เฮ้อ.”

หลี่ลั่วฉิวเอ่ย,”เจ้าสำนักเลือกที่อยู่อย่างถ่อมตน,ทำให้พลาดโอกาสสร้างชื่อเสียง,น่าเสียดายจริง ๆ.”

จุนซ่างเซียวที่ยกชาขึ้นจิบเอ่ยออกมาว่า,”เมื่อไหร่ที่สำนักไท่กู่เจิ้งของพวกเราแข็งแกร่ง,จะมีชื่อเสียงตอนใหนก็ได้,ไม่เห็นขาดโอกาสอะไร.”

ลี่ลั่วฉิวเอ่ยออกมาว่า,”ความหมายของข้านั้น,หากเรื่องที่สำนักพวกเราได้ประเมิน 3A กระจายออกไป,ย่อมล่อให้เหล่าผู้เยาว์ที่โดดเด่นมาลงทะเบียน.”

“เป็นเช่นนั้น.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย,”มีแต่จะเรียกร้องให้สำนักมากมายเข้ามารุมทึ้งพวกเรา.”

หลี่ลั่วฉิวที่ครุ่นคิดครู่หนึ่ง,ก่อนเอ่ยออกมาว่า,”โอ้วเป็นเช่นนี้นะเอง.”

ในทวีปชิงหยุนนั้น,คนมากมายล้วนแต่ต้องการท้าทายคนที่แข็งแกร่งกว่า,เพื่อพิสูจน์ตัวเอง,แม้แต่บ้าคลั่งไม่ยอมหยุด.

เหล่ากลุ่มอิทธิพลที่ต้องอยู่อย่างระมัดระวัง,รับคำท้าจากสำนักต่าง ๆไม่หยุด,เพื่อที่จะทำให้ตัวเองได้ประเมินในระดับสูง.

สำนักไท่กู่เจิ้งที่ได้รับการประเมิน 3A,หากเรื่องนี้กระจายไป,ต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน.

มนทลระดับเก้า,ได้รับประเมิน 3A อย่างงั้นรึ?

เหล่ากลุ่มอิทธิพลต่าง ๆย่อมสงสัย,จากนั้นก็จะเดินทางมาท้าประลอง.

สำนักไท่กู่เจิ้งที่เพิ่งแค่เริ่มต้น,จำเป็นต้องพัฒนาไปอย่างช้า ๆ,หากทุกวันจะต้องรับการประลองกับทั่วทุกสารทิศ,จะเอาเวลาใหนไปฝึกฝนกัน.

......

ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้ง,เพราะว่าได้การประเมินสามA,ทำให้พวกเขาเวลานี้ตั้งใจอย่างเต็มที่,ไม่สามารถเกียจคร้านได้.

ทุกคนในสำนักที่ฝึกฝนและก็ฝึกฝน.

ด้วยเม็ดยาที่เหลือเฟื้อ,ไม่ขาดแคลน,ดังนั้นจุนซ่างเซียวที่เวลานี้พัฒนาสำนักได้อย่างโดดเด่นรวดเร็ว.

สำนักระดับเจ็ดอย่างงั้นรึ?

ทรัพยากรเช่นนี้ไม่มีทางที่จะมีใครทำได้.

ถึงแม้นจะเป็นสำนักระดับหก,ก็ยังเทียบไม่ได้เช่นกัน.

จุนซ่างเซียว,ผู้ปกครองสำนัก,เขาที่ได้รับการยอมรับจากสมาคมรับรองสิทธิ์,เขาจะต้องยกระดับตัวเองขึ้นไม่หยุดหย่อนเช่นกัน.

......

ก่อนหน้านั้นเดือนหนึ่ง.

ตระกูลอ้ายที่ประมูลจบแล้ว.

หลังจากสรุปยอด,ประมุขอ้ายก็นำเงินและเมล็ดพันธ์แม้แต่สมุนไพรรวบรวมมาส่งด้วยตัวเอง.

หลังจากที่เขากลั่นเม็ดยามากมาย,จุนซ่างเซียวเอ่ยกล่าวออกมาว่า,”ข้าคนเดียวคงจัดการไม่ไหว,คงต้องมีคนของหอยาคอยจัดแจ้ง,ให้ศิษย์ของข้าเป็นคนคอยรับแทน.”

สำนักอื่น ๆ,เกี่ยวกับจัดการเรื่องยานั้นจะมีอาวุโสคอยจัดแจงดำเนินการ.

การให้ศิษย์ของเขาคอยรับและจ่ายยาก,ซึ่งจะทำให้เขาสามารถบ่มเพาะพลังได้อย่างสงบ.

เพราะว่าสำนักไท่กู่เจิ้งไม่มีตำแหน่งอาวุโส,ดังนั้นจึงซ่างเซียวที่เปิดหอยา,และให้คนของหอสมุนไพรคอยจัดแจงเรื่องดังกล่าวชั่วคราว.

***ก่อนหน้านี้แปลหอสมุนไพรเป็นหอยา,ต่อไปให้เข้าใจว่าหอยาก็คือหอยา,หอยาที่แปลก่อนหน้านี้ให้เข้าใจว่าเป็นหอสมุนไพรครับ คงกลับไปแก้ไม่ไหว.

แน่นอน.

ด้วยไม่สามารถแจกจ่ายยาด้วยตัวเองคนเดียว จึงต้องหาคนช่วยชั่วคราว.

จุนซ่างเซียวที่สร้างกฎเกณฑ์ของตัวเองขึ้น,กำหนดระดับ,จำนวนเม็ดยารวมวิญญาณของศิษย์แต่ละคนที่จะได้รับในแต่ละเดือนอย่างเข้มงวด.

ส่วนเมดยาบูรณะร่างกาย,เปิดชีพจรและเม็ดยาผสานวิญญาณ,สามารถรับได้ตามปรกติ.

ในเมื่อเป็นเช่นนี้,เหล่าศิษย์เข้าใหม่ก็ไม่ต้องมารับยาจากจุนซ่างเซียวเองแล้ว,สามารถไปยังหอยากเพื่อรับมันได้เอง.

หอยาที่เวลานี้ได้เปิดทำการอย่างเป็นทางการแล้ว.

จุนซ่างเซียวที่วางแผนไว้เช่นกัน,รอให้มีแร่เพียงพอสร้างอาวุธได้เป็นจำนวนมาก,ก็จะสร้างหอศาสตราขึ้นเช่นกัน,เพื่อที่จะให้ศิษย์นำคะแนนสนับสนุนสำนักมาแลกเปลี่ยน.

ลู่เชียนเชียนที่ก้าวเข้ามาในห้องโถง,เอ่ยออกมาว่า,”ภายใต้การนำของเจ้าสำนัก,ทำให้สำนักเติบโตขึ้นมาเรื่อย ๆ.”

“ควรจะเป็นเช่นนั้น.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

การพัฒนาตลอดหลายเดือน,หากไม่เปลี่ยนแปลงพัฒนาเลย,ความพยายามของเขาย่อมเสียเปล่า.

“แต่ว่า.”

ลู่เชียนเชียนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา,”เทียบกับนิกายหลักที่แท้จริง,ก็ยังแตกต่างกันลิบลับ.”

จุนซ่างเซียว,”ไม่มีใครกินคำเดียวแล้วอ้วน,ดังนั้นไม่ต้องรีบ,มันต้องใช้เวลา.

ลู่เชียนเชียนไม่เอ่ยอะไรอีก,หันหลังกลับและเดินจากไป.

สตรีผู้นี้,เย็นชาอยู่ตลอดเวลา.

......

ศิษย์ทุกคนที่ได้รับเม็ดยาสนับสนุนอย่างพร้อมเพรียง,และเข้าบ่มเพาะในค่ายกลรวมวิญญาณ,หรือไม่ก็กลั่นกายเนื้อที่ห้องปั้นกล้ามเนื้อและหอคอยเก็บประสบการณ์.

หลังจากเตรียมการทั้งหมด,จุนซ่างเซียวที่บ่มเพาะอย่างตั้งอกตั้งใจ,เพื่อตัดผ่านระดับไปยังอาจารย์ยุทธ์ขั้นที่แปด.

น่าเสียดายที่เขตแดนที่สูงขึ้น,การยกระดับก็จะยากขึ้น,ถึงจะใช้เม็ดยารวมวิญญาณระดับสูง,อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาหนึ่งเดือน.

การพัฒนาสำนักต้องค่อยเป็นค่อยไป.

การบ่มเพาะเองก็ต้องก้าวไปทีละก้าวอย่างแน่นอน.

จากนั้น,อีกหนึ่งเดือนก็ผ่านไป,การทดสอบพลังประจำเดือนก็เกิดขึ้น,คนที่พัฒนาเร็วที่สุด,ก็จะได้รับรางวัลมากมาย.

การเก็บเกี่ยวสมุนไพรชุดที่สี่ก็ถึงเวลาอีกครั้ง,สมาชิกของเหล่าเหว่ยที่เก็บเกี่ยว,ก่อนที่จุนซ่างเซียวจะกลั่นเป็นเม็ดยารวมวิญญาณระดับสูง.

สมุนไพรอย่างน้อย 200,000 เม็ดที่ปลูกไปก่อนหน้า,ตอนนี้เติบโต,ไม่เพียงแต่ได้วัตถุดิบมากมาย,ยังช่วยยกระดับสภาพแวดล้อมของสำนักไท่กู่เจิ้งได้ด้วย.

ครึ่งเดือนหลังจากนั้น.

การเก็บเกี่ยวสมุนไพรอีกชุดก็เกิดขึ้น.

เพราะว่าสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น,ตอนนี้สมุนไพรกว่า 200,000 ต้น,เติบโตอย่างรวดเร็ว,พลังวิญญาณรอบ ๆหนาแน่นขึ้นเรื่อย ๆ.

จุนซ่างเซียวที่กลั่นเม็ดยารวมวิญญาณได้อีกกว่า 30,000 เม็ด,ก่อนส่งให้กับหอยาเพื่อแจกจ่าย,เป็นทรัพยากรยุทธ์สำหรับศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้ง.

ที่ยอดเยี่ยมที่สุด.

สมุนไพรสองแสนต้นที่เก็บเกี่ยวรอบสองนี้,ส่งพลังวิญญาณคละคลุ้ง,ทำให้ยอดเขาสดชื่นเปี่ยมด้วยพลังวิญญาณอย่างชัดเจน.

เหล่าเหว่ยและคนของหอสมุนไพร,เริ่มปลูกสมุนไพรชุดที่สามแล้ว.

ขอเพียงมีเงิน,สำนักไท่กู่เจิ้งจะเปลี่ยนเป็นสำนักที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพลังวิญญาณอย่างไม่ต้องสงสัย.

......

“ฟู่ ฟู่!

คืนหนึ่งในห้องของจุนซ่างเซียว,ขณะเขาบ่มเพาะรวมพลังวิญญาณอยู่นั้น,ร่างกายของเขาที่ปลดปล่อยอำนาจฟ้าดินหนาแน่นขึ้นเรื่อย ๆ.

หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง.

พลังวิญญาณที่หมุนวนไปทั่วร่าง,ไหล่บ่าเข้าไปในร่างกาย.

“ซูมมมม!

เผ้าผมจุนซ่างเซียวโบกสะบัด,ดวงตาทั้งสองข้างที่ค่อย ๆลืมขึ้น,ส่องประกายแสงวับวาว.

และในที่สุด,เขตแดนบ่มเพาะของเขาก็ตัดผ่านไปยังขั้นที่แปด.

เพราะว่าวิชาบ่มเพาะเปลี่ยนเส้นเอ็นและเม็ดยาที่เหลือเฟือ,ทำให้ไม่ถึงสองเดือน,เขาก็ตัดผ่านอีกระดับได้.

“ตูมมมมมม!

หมัดของเขาที่ต่อยลงไปยังเครื่องวัด,เผยพลัง 110,000 จิน!

“ฮึฮึ.”

ระบบเอ่ย,”ความแข็งแกร่งของโฮสน์เวลานี้,นับว่าโดดเด่น,พลังไม่ได้ด้อยกว่าระดับบรรพชนยุทธ์สามัญขั้นที่สองเลย.”

จุนซ่างเซียวที่รู้สึกไม่พอใจนัก,”ถึงจะตัดผ่านระดับ,ไปยังอาจารย์ยุทธ์ขั้นปลาย,ก็ยังไม่มีพลังพอที่จะควบคุมดาบยาวมังกรเขียว.”

ระบบเอ่ย,”แต่เมื่อตัดผ่านไปยังระดับบรรพชนยุทธ์,ความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นนี้,จะทำให้โฮสน์ไม่ต้องใช้ยันต์แห่งพลังอีก,และมีรากฐานที่มั่นคงในการใช้.”

“อืม.”

หลังจากตัดผ่านระดับแล้ว,จุนซ่างเซียวยังคงบ่มเพาะต่อไป.

เขายังรู้สึกช้าเป็นอย่างมาก,การจะตัดผ่านไปยังระดับอาจารย์ยุทธ์ขั้นเก้า,เหลือเวลาอีกเพียง 4-5 เดือน.

ก่อนจะเดินทางไปประลองที่นิกายเซิ่งชวน,เขาจะต้องตัดผ่านไปยังระดับอาจารย์ยุทธ์ขั้นปลายให้ได้.

ดูเหมือนว่า....

จุนซ่างเซียวที่โบกมือ,”ต้องใช้ศิลาวิญญาณแล้ว!

เม็ดยารวมวิญญาณ,ไม่สงสัยช่วยให้รวมพลังวิญญาณเร็วขึ้น,ทว่าการดูดซับพลังวิญญาณจากศิลาวิญญาณ,พลังวิญญาณบริสุทธ์กว่า,จะทำให้เลื่อนระดับได้เร็วกว่า.

ปรกติแล้ว,จุนซ่างเซียวไม่ต้องการใช้,ต้องไม่ลืมว่ามันมีราคาก้อนล่ะ 10,000 เหรียญ,เขาไม่ต้องการเผาเงินเล่น!

หากแต่เวลานี้การประลองกับนิกายเซิ่งชวนกระชั้นชิดเข้ามาแล้ว,เพื่อที่จะตัดผ่านไปยังอาจารย์ยุทธ์ขั้นปลาย,มีเพียงแต่ต้องใช้ศิลาวิญญาณ.



ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times

#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
Author(s)
Goodbye Jianghu


เข้ากลุ่มลับ VIP ====> Click


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น