Strongest Sect of All Times Chapter 274 Enters into Eighth Stage Martial Master
นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล
Chapter 274 Enters into
Eighth Stage Martial Master
迈入八品武师
การได้ประเมินสาม A,จุนซ่างเซียวไม่ได้สนใจนัก,ดังนั้นในเวลานี้เขามีแต่ต้องบ่มเพาะฝึกฝน,ทั้งเขาและศิษย์อย่างจริงจัง.
ในความเห็นของเขานั้น,จะต้องทำให้สำนักไท่กู่เจิ้งเป็นอันดับหนึ่งของทวีปชิงหยุนให้ได้,เพื่อที่จะแก้ไข,ระเบิดเวลาที่ผูกดวงวิญญาณของเขาอยู่,นี่คือเรื่องสำคัญที่สุด!
“เฮ้อ.”
หลี่ลั่วฉิวเอ่ย,”เจ้าสำนักเลือกที่อยู่อย่างถ่อมตน,ทำให้พลาดโอกาสสร้างชื่อเสียง,น่าเสียดายจริง
ๆ.”
จุนซ่างเซียวที่ยกชาขึ้นจิบเอ่ยออกมาว่า,”เมื่อไหร่ที่สำนักไท่กู่เจิ้งของพวกเราแข็งแกร่ง,จะมีชื่อเสียงตอนใหนก็ได้,ไม่เห็นขาดโอกาสอะไร.”
ลี่ลั่วฉิวเอ่ยออกมาว่า,”ความหมายของข้านั้น,หากเรื่องที่สำนักพวกเราได้ประเมิน
3A
กระจายออกไป,ย่อมล่อให้เหล่าผู้เยาว์ที่โดดเด่นมาลงทะเบียน.”
“เป็นเช่นนั้น.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”มีแต่จะเรียกร้องให้สำนักมากมายเข้ามารุมทึ้งพวกเรา.”
หลี่ลั่วฉิวที่ครุ่นคิดครู่หนึ่ง,ก่อนเอ่ยออกมาว่า,”โอ้วเป็นเช่นนี้นะเอง.”
ในทวีปชิงหยุนนั้น,คนมากมายล้วนแต่ต้องการท้าทายคนที่แข็งแกร่งกว่า,เพื่อพิสูจน์ตัวเอง,แม้แต่บ้าคลั่งไม่ยอมหยุด.
เหล่ากลุ่มอิทธิพลที่ต้องอยู่อย่างระมัดระวัง,รับคำท้าจากสำนักต่าง
ๆไม่หยุด,เพื่อที่จะทำให้ตัวเองได้ประเมินในระดับสูง.
สำนักไท่กู่เจิ้งที่ได้รับการประเมิน 3A,หากเรื่องนี้กระจายไป,ต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน.
มนทลระดับเก้า,ได้รับประเมิน 3A อย่างงั้นรึ?
เหล่ากลุ่มอิทธิพลต่าง
ๆย่อมสงสัย,จากนั้นก็จะเดินทางมาท้าประลอง.
สำนักไท่กู่เจิ้งที่เพิ่งแค่เริ่มต้น,จำเป็นต้องพัฒนาไปอย่างช้า
ๆ,หากทุกวันจะต้องรับการประลองกับทั่วทุกสารทิศ,จะเอาเวลาใหนไปฝึกฝนกัน.
......
ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้ง,เพราะว่าได้การประเมินสามA,ทำให้พวกเขาเวลานี้ตั้งใจอย่างเต็มที่,ไม่สามารถเกียจคร้านได้.
ทุกคนในสำนักที่ฝึกฝนและก็ฝึกฝน.
ด้วยเม็ดยาที่เหลือเฟื้อ,ไม่ขาดแคลน,ดังนั้นจุนซ่างเซียวที่เวลานี้พัฒนาสำนักได้อย่างโดดเด่นรวดเร็ว.
สำนักระดับเจ็ดอย่างงั้นรึ?
ทรัพยากรเช่นนี้ไม่มีทางที่จะมีใครทำได้.
ถึงแม้นจะเป็นสำนักระดับหก,ก็ยังเทียบไม่ได้เช่นกัน.
จุนซ่างเซียว,ผู้ปกครองสำนัก,เขาที่ได้รับการยอมรับจากสมาคมรับรองสิทธิ์,เขาจะต้องยกระดับตัวเองขึ้นไม่หยุดหย่อนเช่นกัน.
......
ก่อนหน้านั้นเดือนหนึ่ง.
ตระกูลอ้ายที่ประมูลจบแล้ว.
หลังจากสรุปยอด,ประมุขอ้ายก็นำเงินและเมล็ดพันธ์แม้แต่สมุนไพรรวบรวมมาส่งด้วยตัวเอง.
หลังจากที่เขากลั่นเม็ดยามากมาย,จุนซ่างเซียวเอ่ยกล่าวออกมาว่า,”ข้าคนเดียวคงจัดการไม่ไหว,คงต้องมีคนของหอยาคอยจัดแจ้ง,ให้ศิษย์ของข้าเป็นคนคอยรับแทน.”
สำนักอื่น ๆ,เกี่ยวกับจัดการเรื่องยานั้นจะมีอาวุโสคอยจัดแจงดำเนินการ.
การให้ศิษย์ของเขาคอยรับและจ่ายยาก,ซึ่งจะทำให้เขาสามารถบ่มเพาะพลังได้อย่างสงบ.
เพราะว่าสำนักไท่กู่เจิ้งไม่มีตำแหน่งอาวุโส,ดังนั้นจึงซ่างเซียวที่เปิดหอยา,และให้คนของหอสมุนไพรคอยจัดแจงเรื่องดังกล่าวชั่วคราว.
***ก่อนหน้านี้แปลหอสมุนไพรเป็นหอยา,ต่อไปให้เข้าใจว่าหอยาก็คือหอยา,หอยาที่แปลก่อนหน้านี้ให้เข้าใจว่าเป็นหอสมุนไพรครับ
คงกลับไปแก้ไม่ไหว.
แน่นอน.
ด้วยไม่สามารถแจกจ่ายยาด้วยตัวเองคนเดียว
จึงต้องหาคนช่วยชั่วคราว.
จุนซ่างเซียวที่สร้างกฎเกณฑ์ของตัวเองขึ้น,กำหนดระดับ,จำนวนเม็ดยารวมวิญญาณของศิษย์แต่ละคนที่จะได้รับในแต่ละเดือนอย่างเข้มงวด.
ส่วนเม็ดยาบูรณะร่างกาย,เปิดชีพจรและเม็ดยาผสานวิญญาณ,สามารถรับได้ตามปรกติ.
ในเมื่อเป็นเช่นนี้,เหล่าศิษย์เข้าใหม่ก็ไม่ต้องมารับยาจากจุนซ่างเซียวเองแล้ว,สามารถไปยังหอยากเพื่อรับมันได้เอง.
หอยาที่เวลานี้ได้เปิดทำการอย่างเป็นทางการแล้ว.
จุนซ่างเซียวที่วางแผนไว้เช่นกัน,รอให้มีแร่เพียงพอสร้างอาวุธได้เป็นจำนวนมาก,ก็จะสร้างหอศาสตราขึ้นเช่นกัน,เพื่อที่จะให้ศิษย์นำคะแนนสนับสนุนสำนักมาแลกเปลี่ยน.
ลู่เชียนเชียนที่ก้าวเข้ามาในห้องโถง,เอ่ยออกมาว่า,”ภายใต้การนำของเจ้าสำนัก,ทำให้สำนักเติบโตขึ้นมาเรื่อย
ๆ.”
“ควรจะเป็นเช่นนั้น.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
การพัฒนาตลอดหลายเดือน,หากไม่เปลี่ยนแปลงพัฒนาเลย,ความพยายามของเขาย่อมเสียเปล่า.
“แต่ว่า.”
ลู่เชียนเชียนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา,”เทียบกับนิกายหลักที่แท้จริง,ก็ยังแตกต่างกันลิบลับ.”
จุนซ่างเซียว,”ไม่มีใครกินคำเดียวแล้วอ้วน,ดังนั้นไม่ต้องรีบ,มันต้องใช้เวลา.
ลู่เชียนเชียนไม่เอ่ยอะไรอีก,หันหลังกลับและเดินจากไป.
สตรีผู้นี้,เย็นชาอยู่ตลอดเวลา.
......
ศิษย์ทุกคนที่ได้รับเม็ดยาสนับสนุนอย่างพร้อมเพรียง,และเข้าบ่มเพาะในค่ายกลรวมวิญญาณ,หรือไม่ก็กลั่นกายเนื้อที่ห้องปั้นกล้ามเนื้อและหอคอยเก็บประสบการณ์.
หลังจากเตรียมการทั้งหมด,จุนซ่างเซียวที่บ่มเพาะอย่างตั้งอกตั้งใจ,เพื่อตัดผ่านระดับไปยังอาจารย์ยุทธ์ขั้นที่แปด.
น่าเสียดายที่เขตแดนที่สูงขึ้น,การยกระดับก็จะยากขึ้น,ถึงจะใช้เม็ดยารวมวิญญาณระดับสูง,อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาหนึ่งเดือน.
การพัฒนาสำนักต้องค่อยเป็นค่อยไป.
การบ่มเพาะเองก็ต้องก้าวไปทีละก้าวอย่างแน่นอน.
จากนั้น,อีกหนึ่งเดือนก็ผ่านไป,การทดสอบพลังประจำเดือนก็เกิดขึ้น,คนที่พัฒนาเร็วที่สุด,ก็จะได้รับรางวัลมากมาย.
การเก็บเกี่ยวสมุนไพรชุดที่สี่ก็ถึงเวลาอีกครั้ง,สมาชิกของเหล่าเหว่ยที่เก็บเกี่ยว,ก่อนที่จุนซ่างเซียวจะกลั่นเป็นเม็ดยารวมวิญญาณระดับสูง.
สมุนไพรอย่างน้อย 200,000 เม็ดที่ปลูกไปก่อนหน้า,ตอนนี้เติบโต,ไม่เพียงแต่ได้วัตถุดิบมากมาย,ยังช่วยยกระดับสภาพแวดล้อมของสำนักไท่กู่เจิ้งได้ด้วย.
ครึ่งเดือนหลังจากนั้น.
การเก็บเกี่ยวสมุนไพรอีกชุดก็เกิดขึ้น.
เพราะว่าสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น,ตอนนี้สมุนไพรกว่า
200,000 ต้น,เติบโตอย่างรวดเร็ว,พลังวิญญาณรอบ ๆหนาแน่นขึ้นเรื่อย ๆ.
จุนซ่างเซียวที่กลั่นเม็ดยารวมวิญญาณได้อีกกว่า
30,000 เม็ด,ก่อนส่งให้กับหอยาเพื่อแจกจ่าย,เป็นทรัพยากรยุทธ์สำหรับศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้ง.
ที่ยอดเยี่ยมที่สุด.
สมุนไพรสองแสนต้นที่เก็บเกี่ยวรอบสองนี้,ส่งพลังวิญญาณคละคลุ้ง,ทำให้ยอดเขาสดชื่นเปี่ยมด้วยพลังวิญญาณอย่างชัดเจน.
เหล่าเหว่ยและคนของหอสมุนไพร,เริ่มปลูกสมุนไพรชุดที่สามแล้ว.
ขอเพียงมีเงิน,สำนักไท่กู่เจิ้งจะเปลี่ยนเป็นสำนักที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพลังวิญญาณอย่างไม่ต้องสงสัย.
......
“ฟู่ ฟู่!”
คืนหนึ่งในห้องของจุนซ่างเซียว,ขณะเขาบ่มเพาะรวมพลังวิญญาณอยู่นั้น,ร่างกายของเขาที่ปลดปล่อยอำนาจฟ้าดินหนาแน่นขึ้นเรื่อย
ๆ.
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง.
พลังวิญญาณที่หมุนวนไปทั่วร่าง,ไหล่บ่าเข้าไปในร่างกาย.
“ซูมมมม!”
เผ้าผมจุนซ่างเซียวโบกสะบัด,ดวงตาทั้งสองข้างที่ค่อย
ๆลืมขึ้น,ส่องประกายแสงวับวาว.
และในที่สุด,เขตแดนบ่มเพาะของเขาก็ตัดผ่านไปยังขั้นที่แปด.
เพราะว่าวิชาบ่มเพาะเปลี่ยนเส้นเอ็นและเม็ดยาที่เหลือเฟือ,ทำให้ไม่ถึงสองเดือน,เขาก็ตัดผ่านอีกระดับได้.
“ตูมมมมมม!”
หมัดของเขาที่ต่อยลงไปยังเครื่องวัด,เผยพลัง
110,000 จิน!
“ฮึฮึ.”
ระบบเอ่ย,”ความแข็งแกร่งของโฮสน์เวลานี้,นับว่าโดดเด่น,พลังไม่ได้ด้อยกว่าระดับบรรพชนยุทธ์สามัญขั้นที่สองเลย.”
จุนซ่างเซียวที่รู้สึกไม่พอใจนัก,”ถึงจะตัดผ่านระดับ,ไปยังอาจารย์ยุทธ์ขั้นปลาย,ก็ยังไม่มีพลังพอที่จะควบคุมดาบยาวมังกรเขียว.”
ระบบเอ่ย,”แต่เมื่อตัดผ่านไปยังระดับบรรพชนยุทธ์,ความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นนี้,จะทำให้โฮสน์ไม่ต้องใช้ยันต์แห่งพลังอีก,และมีรากฐานที่มั่นคงในการใช้.”
“อืม.”
หลังจากตัดผ่านระดับแล้ว,จุนซ่างเซียวยังคงบ่มเพาะต่อไป.
เขายังรู้สึกช้าเป็นอย่างมาก,การจะตัดผ่านไปยังระดับอาจารย์ยุทธ์ขั้นเก้า,เหลือเวลาอีกเพียง
4-5 เดือน.
ก่อนจะเดินทางไปประลองที่นิกายเซิ่งชวน,เขาจะต้องตัดผ่านไปยังระดับอาจารย์ยุทธ์ขั้นปลายให้ได้.
ดูเหมือนว่า....
จุนซ่างเซียวที่โบกมือ,”ต้องใช้ศิลาวิญญาณแล้ว!”
เม็ดยารวมวิญญาณ,ไม่สงสัยช่วยให้รวมพลังวิญญาณเร็วขึ้น,ทว่าการดูดซับพลังวิญญาณจากศิลาวิญญาณ,พลังวิญญาณบริสุทธ์กว่า,จะทำให้เลื่อนระดับได้เร็วกว่า.
ปรกติแล้ว,จุนซ่างเซียวไม่ต้องการใช้,ต้องไม่ลืมว่ามันมีราคาก้อนล่ะ
10,000 เหรียญ,เขาไม่ต้องการเผาเงินเล่น!
หากแต่เวลานี้การประลองกับนิกายเซิ่งชวนกระชั้นชิดเข้ามาแล้ว,เพื่อที่จะตัดผ่านไปยังอาจารย์ยุทธ์ขั้นปลาย,มีเพียงแต่ต้องใช้ศิลาวิญญาณ.
ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times
#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น