วันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2564

Strongest Sect of All Times Chapter 259 Warm Liyang City city lord

Strongest Sect of All Times  Chapter 259 Warm Liyang City city lord

 นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล

Chapter 259 Warm Liyang City city lord

热情的历阳城城主

 

ในทวีปชิงหยุนนั้น,ผู้ฝึกยุทธ์ระดับสูง,จะบาดเจ็บมากกว่าผู้ฝึกยุทธ์ระดับต่ำ.

 

ทำไม?

เพราะว่าผู้ฝึกยุทธ์ระดับต่ำระมัดระวังตัว,อยู่แบบเจียมเนื้อเจียมตัวมากกว่า.


ยิ่งมีระดับพลังบ่มเพาะที่สูงก็จะยิ่งหาญกล้าแม้แต่ยโส,ทำอะไรตามใจ,แม้แต่ลงมือกับคนอื่นด้วยความโกรธ.

ดังนั้นเม็ดยาระดับกลางที่ใช้สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ระดับอาจารย์ยุทธ์และบรรพชนยุทธ์,น่าจะขายได้ดีกว่าเม็ดยาระดับต้นที่เหมาะกับศิษย์ยุทธ์และเปิดชีพจร.

หากไม่เพราะว่าเส้นทางไปยังมนทลหลิวหยางค่อนข้างไกล,เจ้าสำนักจุนคงเดินทางไปพบกับประมุขอ้าย,เพื่อประมูลยาดังกล่าวนี้แน่.

อีกอย่าง,เขาเองก็ต้องการทดสอบตลาดราคาของเม็ดยานี้ด้วยเช่นกัน.

และอีกหนึ่งเรื่องที่เขาจะต้องทำ,คือการรับศิษย์!

นับว่าเป็นเรื่องที่แปลก.

นับตั้งแต่ที่เขารับสมัครศิษย์ไป 500 คน,จวบจนถึงตอนนี้ก็ยังมีที่ว่างอีกมาก,ทำให้จุนซ่างเซียวเศร้าใจเป็นอย่างมาก.

เขาที่จัดการสำนักเห่าฉีไปอย่างไม่ไว้หน้า,ไม่มีผู้เยาว์ของมนทลชิงหยางอย่างเข้าสำนักเขาเลยรึ?

ไร้วิสัยทัศน์อะไรเช่นนี้?

ไม่ใช่ว่าคนของมนทลชิงหยางไร้วิสัยทัศน์.

ทว่านับตั้งแต่งานรับศิษย์ร้อยสำนัก,ผู้เยาว์ทั้งหมดได้เข้าร่วมสำนักอื่น ๆไปจนหมดแล้ว.

ที่เหลืออยู่คือกลุ่มคนที่ไร้พรสวรรค์,แม้แต่รากวิญญาณระดับต่ำก็ยังไม่มี.

โฆษณาประกาศของเจ้าสำนักจุนเองก็มีเพียงแค่เมืองชิงหยางและเมืองฮู่หยางเท่านั้น.

ส่วนอีกหกเมือง,ถึงบิดามารดาของพวกเขาต้องการส่งศิษย์เข้าร่วมสำนักไท่กู่เจิ้ง,แต่ก็หวาดกลัวต่อพันธมิตรร้อยสำนักเช่นกัน.

ในเวลานี้,เหล่าผู้เยาว์ที่ต้องการเข้าร่วมจึงมีน้อย,เพราะว่าส่วนใหญ่หวาดกลัว,ไม่กล้าส่งลูกหลานออกมานั่นเอง.

“ไม่ได้การ,ไม่ได้การแล้ว.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย,”จะต้องรับศิษย์ให้เร็วที่สุด,เพื่อที่จะรับคะแนนสนับสนุน,อย่างน้อยก็น่าจะได้หลายร้อย,อ๊าก.”

ห้าแต้มสนับสนุน,เขาไม่กล้าเปิดค่ายกลรวมวิญญาณและค่ายกลคุ้มกันสำนักเลย,เพราะว่าสองวันนี้ใช้แต้มไปมหาศาล.

หลังจากเตรียมการมาระยะหนึ่ง.

เจ้าสำนักจุนไม่สามารถรอให้คนมาสมัครที่สำนักเองได้,เขาจะต้องลงมือเอง,เดินทางไปโฆษณาที่เมืองใหญ่.

แปดเมืองใหญ่ของมนทลชิงหยาง,มีหกเมืองที่เขาสามารถลงมือได้,ดังนั้นจึงเลือกหนึ่งในนั้นนั่นก็คือเมืองหลี่หยาง.

“จุ้ยจื่อ.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย,”เจ้าตามข้ามาด้วย.”

“ครับ.”

เซียวจุ้ยจื่อตอบรับ.

หากเป็นก่อนหน้านี้,การเดินทางไปยังเมืองหลี่หยาง,อาจทำให้เขาสั่นไหว,ตอนนี้พลังบ่มเพาะของเขาที่ยกระดับสูง,และพรสวรรค์ก็คืนกลับ,แน่นอนเขาหาได้สนใจเรื่องราวใด ๆอีก.

จุนซ่างเซียวที่เลือกศิษย์อีกหลายคน,ส่วนมากเป็นศิษย์สายนอก,ที่มีพรสวรรค์ธรรมดา,ความแข็งแกร่งศิษย์ยุทธ์ขั้นสามและสี่.

เขาต้องการที่จะบอกให้ทุกคนได้รู้,เข้าร่วมสำนักไท่กู่เจิ้ง,ไม่ต้องมีรากวิญญาณที่โดดเด่น,ด้วยการสนับสนุนของเปิ่นจั้ว,สามารถการเป็นคนแข็งแกร่งได้.

......

เมืองหลี่หยาง.

จุนซ่างเซียวที่มายืนอยู่ที่ด้านหน้าประตูเมือง,พร้อมกับศิษย์ที่ตามมาด้วย 20-30 คน,พวกเขาที่เงยหน้ายืดอก,เผยความอหังการออกมา.

“นั่นมันสำนักไท่กู่เจิ้ง!

“พวกเขามาทำอะไรกัน?”

เหล่าชาวยุทธ์ที่พูดคุยกันเสียงเบา.

ก่อนเข้าร่วมงานประลองสำนัก,ผู้คนที่ดูแคลนเหยียดหยันพวกเขาเป็นอย่างมาก,หากแต่ในเวลานี้สำนักไท่กู่เจิ้งเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ.

พวกเขาไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว.

ตลอดสองข้างทางไปยังตำหนักเจ้าเมือง,เหล่าชาวยุทธ์ที่ต้องคอยหลบเปิดทางให้กับพวกเขา.

จุนซ่างเซียวและศิษย์ที่เดินตรงไปยังตำหนักเจ้าเมือง,ก่อนที่จะไปหยุดที่หน้าตำหนัก,ยกมือประสานเอ่ยออกไปเสียงดัง,”เจ้าสำนักไท่กู่เจิ้งจุนซ่างเซียว,ขอเข้าพบกับเจ้าเมืองอ้าว.”

เหล่าทหารเฝ้าประตูที่เร่งรีบเข้าไปรายงานในทันที.

เพียงไม่นาน.

เจ้าเมืองอ้าวผู้มีเคราแหลมสองข้างก้าวเดินออกมาด้วยรอยยิ้ม,ยกมือประสาน,”เจ้าสำนักจุน,มาด้วยตัวเองเลยรึ?.”

เหล่าชาวยุทธ์บนถนนที่ตื่นตระหนก.

แม้นว่าสำนักไท่กู่เจิ้งจะเป็นที่พูดถึงเมื่อเร็ว ๆนี้,ทว่าสำนักระดับแปด,คู่ควรที่จะให้เจ้าเมืองอ้าวออกมาต้อนรับด้วยตัวเองด้วยรึ?

จุนซ่างเซียวที่ยกมือประสานระหว่างอก,ก่อนที่จะนำศิษย์ก้าวเข้าไปด้านในท่ามกลางสายตาของผู้คน.

......

“อาวุโสใหญ่.”

ตระกูลเซียว,อาวุโสสามที่ก้าวเข้ามาในห้องโถง,ท่าทางโกรธเกรี้ยวเอ่ยกล่าวออกมาเสียงดัง,”เจ้าสำนักไท่กู่เจิ้งนำศิษย์เข้ามาในเมืองหลี่หยาง.”

อาวุโสใหญ่ที่ดื่มชาอยู่ใบหน้ามืดครึ้มเอ่ยออกมาว่า,”ไอ้ขยะก็มารึ?”

“มา.”อาวุโสสามเอ่ย.

“แก๊ก ซ่า!

อาวุโสใหญ่ที่บดถ้วยน้ำชา,ดวงตาที่เป็นประกายเต็มไปด้วยความโกรธและจิตสังหารที่พลุ้งพล่าน.

นับตั้งแต่งานประลองยุทธ์สำนัก,เซียวจุ้ยจื่อได้ชนะเลิศการแข่งขัน,เป็นการตบหน้าตระกูลเซียวอย่างรุนแรง,เขายากจะกลืนมันลงได้,จากนั้นเขาก็ส่งมือสังหารไปสังหารอีกฝ่ายนอกเมือง.

แม้นว่าจะล้มเหลว,ทว่าก็ไม่ได้เผยสถานะร่องรอยให้อีกฝ่ายรับรู้.

แต่กระนั้นหากตระกูลเซียวรู้ว่าหายนะที่พวกเขาได้รับในชั่วระยะเวลาที่ผ่านมาไม่นานี้,เป็นฝีมือของจุนซ่างเซียว,พวกเขาอาจจะเข้าใจได้ว่าเรื่องดังกล่าวนั้นถูกเปิดโปงมานานแล้ว.

“มันมาทำอะไรกัน?”อาวุโสใหญ่ที่ก้าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา.

อาวุโสสามเอ่ย,”มาขอพบเจ้าเมืองอ้าว.”

“ชิ.”

อาวุโสใหญ่แค่นเสียงดูแคลน,”เจ้าเมืองอ้าวและฉินเห่าหรานมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา,สำนักไท่กู่เจิ้งไม่ถูกกับฉินเห่าหราน,คิดว่าจะได้เข้าพบอย่างงั้นรึ?”

“เรื่องนี้......”

อาวุโสสามที่หยุดและเอ่ยออกมาว่า,”เจ้าเมืองอ้าวถึงกับออกมาต้อนรับจุนซ่างเซียวด้วยตัวเอง.”

“อะไรนะ?”

อาวุโสใหญ่ที่ดวงตาเบิกกว้าง.

เจ้าเมืองอ้าวที่ดูเหมือนว่าจะค่อนข้างเก็บเนื้อเก็บตัวเป็นอย่างมาก,ถึงแม้จะเป็นประมุขตระกูลเซียวไปขอพบ,ก็ใช่ว่าจะสามารถพบได้!

ไม่ต้องบอกเลยว่าเจ้าสำนักระดับแปด,มีคุณสมบัติใดที่เจ้าเมืองต้องออกมาต้อนรับ?

เพราะว่าคับแค้นเซียจุ้ยจื่อ,จึงเป็นศัตรูกับสำนักไท่กู่เจิ้งไปด้วย,ทำให้พวกเขาลืมไปว่า,สำนักระดับแปดแห่งนี้เอาชนะสำนักเห่าฉีได้.

ขอถาม,ตระกูลเซียวมีความสามารถพอรึ?

ตอบได้เลยว่าไม่.

ในมนทลชิงหยางมีเพียงแค่นิกายระดับห้า,นิกายเขาซางซาน,ที่มีคุณสมบัตินั้น.

ดังนั้น,การที่สำนักเช่นนี้ขอเข้าพบ,เจ้าเมืองที่ออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง,เรื่องนี้ปัญหาอยู่ที่ใด?

เจ้าเมืองอ้าวไม่เพียงออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง,ยังเผยให้เห็นว่าพวกเขาเป็นแขกคนสำคัญ ต้อนรับอย่างอบอุ่น.

จุนซ่างเซียวที่รู้สึกงงงวยเล็กน้อยเช่นกัน.

สถานการณ์ตอนนี้หมายความว่าอย่างไร,ไม่ใช่ว่าเจ้าเมืองว่ากำลังประจบเขาหรอกรึ?

“สำนักไท่กู่เจิ้งทรงพลังจริง ๆ,ได้ยินมาว่าส่งศิษย์เข้าร่วมงานประลองมนทลปิงหยาง,มนทลเหอหยาง,และมนทลฮวยหยิง,และยังได้รับชัยชนะเลิศทั้งหมดมา,น่าชื่นชมนัก.”เจ้าเมืองอ้าวเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม.

เป็นเช่นนี้นะเอง.

ไม่สงสัยเลยว่า,ต้อนรับอย่างอบอุ่น!

ดูเหมือนว่าคงไม่ใช่เจ้าเมืองอ้าว,เจ้าเมืองอีกเจ็ดเมืองคงจะได้รับข่าวเรียบร้อยแล้วเช่นกัน.

การประลองที่มนทลปิงหยาง,เย่ซิงเฉินที่ได้รับชัยชนะนั้น,ต้องบอกได้ว่า น่าตื่นตะลึงขนาดใหน.

ไม่เพียงแค่ส่งศิษย์เข้าร่วมประลอง,ยังเป็นการแข่งขัน,กับดินแดนระดับแปดอีกด้วย,เรื่องนี้ได้ทำให้ผู้คนมากมายตื่นตระหนก.

เจ้าเมืองหลายคนต่างก็คาดเดาว่า,มนทลปิงหยางส่งศิษย์ระดับสองออกมาประลองหรือไม่,ไม่ได้ส่งศิษย์ระดับสูงเข้าร่วมใช่ใหม?

จากนั้น,พวกเขาก็ได้ข่าวจากมนทลฮวยหยิงว่าหลี่ชิงหยางได้ชัยชนะเลิศกลับมา,เรื่องนี้ทำให้เจ้าเมืองหลากหลายคนงงงวยเข้าไปอีก.

สถานที่ แห่งนั้นมีสำนักมารมากมาย.

งานประลองนี้,ต่อสู้เอาความเป็นความตายเข้าแลก,ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งกับได้รับชัยชนะอย่างงั้นรึ?

ใช่แล้ว,เป็นความจริง.

หลังจากที่พวกเขาควบคุมอารมณ์ตัวเองได้แล้ว.

จากนั้น,พวกเขาก็ได้ยินข่าวว่าเซียวจุ้ยจื่อก็ได้รับชัยชนะเลิศงานประลองยุทธ์สำนักที่มนทลเหอหยาง,เจ้าเมืองต่าง ๆเวลานี้ถึงกับดวงตาเบิกกว้างขึ้นมา!

ได้รับชัยชนะเลิศจากมนทลระดับแปดสองแห่ง,จากมนทลที่มีสำนักมารมากมายอีกหนึ่งแห่ง,สำนักไท่กู่เจิ้งส่งศิษย์สามคนไปยังสามสถานที่,ได้รับชนะเลิศทุกคน,เรื่องนี้ต้องน่าเกรงขามขนาดใหน.

อย่างไรก็ตามการประลองยังไม่ได้จบแค่นั้น,ซูเซียวโม่และลี่เฟยที่ถูกส่งออกไปไกลหน่อย,ต้องรอระยะเวลาอีกสักหน่อยถึงจะมีข่าวถูกส่งมา.

ไม่เช่นนั้นแล้ว,บางที่เจ้าเมืองต่าง ๆคงจะตื่นตกใจยิ่งกว่านี้.

“เจ้าเมืองอ้าว.”

จุนซ่างเซียวที่เข้าหัวข้อหลักทันที,”จุนโหมวเดินทางมาครั้งนี้,ต้องการที่จะรับสมัครศิษย์ในเมืองที่ทรงเกียรติของท่าน,ได้โปรดรับรองการรับสมัครครั้งนี้ด้วย.”


ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times

#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
Author(s)
Goodbye Jianghu


เข้ากลุ่มลับ VIP ====> Click


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น