Strongest Sect of All Times Chapter 254 One second is less than changes instigates to compel
นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล
Chapter 254 One second is less than changes
instigates to compel
一秒不到变怂逼
ฮั่วหลงที่กินจุอย่างมาก,วันหนึ่งกินเนื้อไปหลายร้อยจิน,นอกจากนี้ยังกินมากขึ้นและก็มากขึ้น,จนทำให้ศิษย์ของสำนักไท่กู่เจิ้งแทบไม่ได้กินเนื้อเลย.
ไม่ใช่ว่าจุนซ่างเซียวไม่สามารถจัดหาได้,ทว่ากับการกินเช่นนี้,เนื้อที่ซื้อมาจากในเมืองใกล้
ๆ ไม่สามารถที่จะจัดเตรียมให้ได้.
ทว่าให้เดินทางไปซื้อเนื้อในเมืองอื่นอย่างงั้นรึ?
ตอนนี้เขาต้องบ่มเพาะ,การให้เดินทางไปยังเมืองหลาย
ๆเมือง ไม่ใช่เป็นการเสียเวลาหรอกรึ?
และเส้นทางระหว่างเมืองยังห่างกันค่อนข้างไกลด้วย.
ส่งศิษย์ออกไปซื้อรึ?
ไม่ได้การ,ด้วยจำนวนที่เสี่ยวหลงกินนั้น,ต้องใช้แหวนเก็บของจำนวนมาก.
“เทือกเขาไท่กู่เจิ้งค่อนข้างใหญ่,มีนกและสัตว์มากมาย,มันควรจะออกล่าเพื่อเติมเต็มท้องของมันเอง.”
จุนซ่างเซียวกล่าวเสียงเบา.
การหาอาหารด้วยตัวเอง,แน่นอนว่าเป็นเรื่องทั่วไปเป็นอย่างมาก,เพียงแค่ส่งมันเข้าไปในป่า,ก็มีอาหารมากมายก่ายกองให้กินแล้ว.
ระบบเอ่ย,”มังกรเพลิงเพิ่งเกิด,ความแข็งแกร่งยังอ่อนแอ,หากพบกับสัตว์ร้ายระดับสูง,เกรงว่ามันจะสู้ไม่ได้.”
จุนซ่างเซียวที่มุมปากกระตุกเอ่ยออกมาว่า,”เพลิงที่มันปล่อยออกมานั้น,ทำให้เซียวโม่สลบได้เลย,ยังอ่อนแออีกรึ?”
ระบบเอ่ย,”ศิษย์ของโฮสน์รู้ว่านั่นคือสัตว์พันธะสัญญา,อย่างแรกเลยจึงไม่ได้ป้องกัน,อย่างที่สอง,พวกเขาไม่ได้ต้องการทำร้ายมัน,แน่นอนไม่เช่นนั้นจะจัดการได้ง่าย
ๆ อย่างไร.”
กล่าวเช่นนั้นก็ไม่ผิด.
ซู่เซียวโม่,เถียนซีและอีกหลายคนมีพลังไม่ได้ด้อยกว่าระดับอาจารย์ยุทธ์เลย,แน่นอนควรจะสามารถจัดการมังกรเพลิงได้ง่าย
ๆ.
พวกเขารู้ว่ามันเป็นสัตว์พันธะสัญญาของเจ้าสำนัก,แม้นว่าจะถูกแย่งอาหารก็ยังไว้หน้าเขาอยู่.
ก็ถูกที่เรียกว่าจะตีหมาจะต้องดูเจ้าของด้วย.
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”เจ้าหมายความว่า,จะให้เสี่ยวหลงกินอยู่ในสำนักต่อไปรึ?”
ระบบเอ่ย,”เจ้าต้องเลี้ยงดูก่อน,รอให้ความแข็งแกร่งมันเพิ่มขึ้น,มีพลังที่จะปกป้องตัวเอง,จากนั้นค่อยส่งลงเขา
ออกไปล่า.”
จุนซ่างเซียวที่เงียบไปชั่วคราวและเอ่ยออกมา,”ก็ดี.”
การให้เจ้าตัวน้อยลงเขาเพียงคนเดียว,ถึงจะเป็นเทือกเขาไท่กู่,ก็ไม่ทำให้เขารู้สึกวางใจได้อยู่ดี,การซื้อเนื้อสัตว์สักหลายหมื่นจินมาสำรองไว้ก็ไม่ใช่เรื่องที่แย่.
ไม่ใช่สิ.
ไปยังหุบเขาแห่งความตาย,ล่าสัตว์ร้ายขนาดใหญ่มาเก็บก็ได้.
“เจ้าสำนัก!”
ในเวลานั้นซูเซียวโม่ที่วิ่งเข้ามาด้วยท่าทางกระหืดกระหอบ,ไม่รู้ว่ากำลังตื่นเต้นหรือเศร้าใจ,”เสี่ยวหลงถูกศิษย์พี่หญิงใหญ่แช่แข็งไปแล้ว!”
“อะไรนะ?”
จุนซ่างเซียวที่เร่งรีบออกจากห้องโถงทันที.
เห็นแค่เพียงที่ลานยุทธ์,ลู่เชียนเชียนที่ใบหน้าเย็นชา,มือของนางที่แผ่ไอเย็นฟุ้งกระจายไปทั่ว.
แม้แต่ศิษย์หลากหลายคนที่ยืนอยู่รอบ
ๆ,เพราะอากาศที่ลดลงอย่างรวดเร็ว,ทำให้ร่างกายทุกคนกำลังหนาวสั่นกันอยู่.
บนลานยุทธ์นั้นยังมีรูปปั้นขนาดเล็กอยู่,เป็นเสี่ยวหลงที่ถูกแช่แข็ง,แขนข้างทั้งสี่กำลังตะกายหนี.
“เกิดอะไรขึ้นรึ?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
ซูเซียวโม่เอ่ย,”ศิษย์พี่หญิงใหญ่ไปกินอาหารปรกติ,เสี่ยวหลงแย่งเนื้อนาง,เลยกลายเป็นเช่นนี้.”
จุนซ่างเซียวถึงกับพูดไม่ออก,”ให้ตายเถอะ.”
เจ้าตัวน้อยใจกล้าจริง
ๆ,กล้าแย่งชิงเนื้อจากธิดาน้ำแข็งอย่างคาดไม่ถึง,การถูกแช่แข็งก็เป็นผลกรรมของมันแล้ว.
“แก๊ก แก๊ก แก๊ก!”
วินาทีต่อมา,ผลึกที่คลายตัว,น้ำแข็งหลุดร่อน,เจ้าตัวเล็กที่นอนคว่ำ,ร่างกายที่ชักกระตุกเป็นระยะ.
“กึก กึก.”
เช้าวันถัดมา,เจ้าตัวน้อยที่นอนบนไหล่ของเจ้านายมัน,ขณะจามออกมาเป็นระยะ.
มังกรเพลิงที่ถูกแช่แข็ง,เห็นชัดเจนว่าธาตุเพลิงพ่ายแพ้ธาตุน้ำแข็งอย่างสิ้นเชิง,เป็นการถากถางเหน็บแนมจากศิษย์หญิงใหญ่อย่างแรง.
จุนซ่างเซียวส่ายหน้าไปมา,”ในสำนัก,จะหาเรื่องใครก็ได้,แต่ต้องไม่ใช่สตรีผู้นี้.”
“จี้ จี้!”
เสี่ยวหลงที่กำลังประท้วง.
เฮ้.
สัตว์พันธะสัญญาข้านี่มันช่าง....
“ฟิ้ว!”
พริบตานั้น,เจ้าตัวเล็กที่มุดเข้าในเสื้อเผยท่าทางตื่นตระหนกออกมา.
ทำไมนะรึ?
เพราะว่าลู่เชียนเชียนที่ก้าวมาจากลานด้านใน.
กำลังพูดถึงคน,คนก็มาในทันที.
“เจ้าสำนัก.”
ลู่เชียนเชียนเอ่ย,”สัตว์พันธะสัญญาของท่าน,แย่งชิงอาหารของเหล่าศิษย์น้อง,ไม่คิดจะจัดการเลยอย่างงั้นรึ?”
เหล่าศิษย์ที่กำลังฝึกฝนอยู่รอบ
ๆลานยุทธ์,ได้ยินคำพูดของศิษย์พี่หญิงใหญ่ก็รู้สึกเศร้าอัดอั้นขึ้นมา,คล้ายจะร้องไห้.
แม้แต่หลิวหว่านซี่ที่เป็นคนทำอาหาร,นางที่ต้องกินอาหารจานผักมาหลายวัน,หลายวันมานี้ทำให้นางอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาเหมือนกัน.
“เปิ่นจั้วกำลังคิดถึงปัญหานี้อยู่.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”เอาล่ะ,ข้าจะส่งคนไปยังเมืองชิงหยาง,ซื้อเนื้อของสัตว์ร้ายกลับมาให้มากพอ,ให้ทุกคนได้กิน,ได้ดื่มซุปอย่างพอเพียง.”
ศิษย์มากมายที่เผยความตื่นเต้นดีใจ.
ซือหม่าจงต้าที่ขันอาสาทันที,เขาเอ่ยออกมาว่า,”เจ้าสำนัก,ข้าเคยขายเนื้อมาก่อน,ข้ารู้ถึงราคาดี,ยินดีที่จะไปซื้อเนื้อที่เมืองชิงหยาง!”
“ตกลง.”
จุนซ่างเซียวที่นำแหวนเก็บของ,ก่อนที่จะส่งมันออกไปให้กับซือหม่าจงต้า
20 วงพร้อมกับเงิน,ให้เขาลงเขาไปซื้อเนื้อ.
ตอนเย็น.
ซือหม่าจงต้าก็กลับมา,ในแหวนมิตินั้นมีเนื้อรวมกัน
20,000 จิน.
ถึงจะกินไปวันละ 500 จิน,ก็สามารถกินได้ถึงหนึ่งเดือน.
“เนื้อจินล่ะ 10 เหรียญ,สองหมื่นจิน,ก็เป็นเงิน
200,000 เหรียญ,หนึ่งปีเท่ากับ 2.4 ล้านเหรียญ,อ๊ากๆ!”
จุนซ่างเซียวที่คร่ำครวญใจ.
สำนักที่มีคนเพียง 500
คน,หนึ่งปีก็ใช้เงินมากขนาดนี้,หากว่าเพิ่มขึ้นอีกจะยังสามารถสนับสนุนสำนักต่อไปได้อีกหรือไม่?!
“เจ้าสำนัก.”
หลี่ลั่วฉิวที่ก้าวมาจากด้านนอก,เอ่ยออกมาว่า,”ที่เมืองฮู่หยางนั้นมีข่าวส่งมา,ประมุขอ้ายกำลังเดินทางไปยังมนทลหลิงหยาง,ดินแดนระดับแปด,เพื่อประมูลเม็ดยา.”
จุนซ่างเซียวที่ตื่นตกใจ,”ไม่ประมูลที่มนทลชิงหยางอีกแล้วรึ?”
หลี่ลั่วฉิวเอ่ย,”ข้าได้ยินข่าวลือมาว่า,มนทลหลิงหยางนั้นมีตระกูลใหญ่ที่ใช้เงินจำนวนมหาศาลเชิญตระกูลอ้ายให้ไปประมูลที่นั่น.”
“เจ้าสำนัก.”
หลี่ชิงหยางเอ่ยรายงาน,”ประมุขอ้ายของเข้าพบ.”
หลี่ลั่วฉิวยังรายงานยังไม่จบด้วยซ้ำ,อ้ายซางหนี่ก็มาถึงเร็ว,รวดเร็วจริง
ๆ.
“เชิญเข้ามาเลย.”
......
อ้ายซางหนี่ที่ก้าวเข้ามาในห้องโถง,หลังจากพูดคุยกันเล็กน้อย,เขาก็ส่งมองสมุนไพรและเม็ดพันธ์ระดับสูงที่รวบรวมมาได้เร็ว
ๆนี้,พร้อมกับแจ้งว่าจะเดินทางไปยังมนทลหลิงหยาง.
“ประมุขอ้าย.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”ทำไมต้องการเดินทางไปยังมนทลหลิงหยางล่ะ?”
อ้ายซางหนี่เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม,”มนทลหลิงหยางนั้นมีตระกูลเฉียนที่ยอมจ่ายเงินมหาศาล,เพื่อหวังให้ตระกูลอ้ายไปร่วมประมูลยังโรงประมูลยาของพวกเขา.”
ตระกูลเฉียน?
ได้ยินมาว่าร่ำรวยมาก!
อ้ายซางหนี่เอ่ย,”อ้ายโหมวและประมูขตระกูลเฉียนนั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน,จึงยากจะปฏิเสธคำเชิญนี้,การประมูลครั้งต่อไปจึงย้ายไปจัดที่มนทลหลิงหยาง.”
ดูเหมือนว่าตระกูลเฉียนจะเชิญเข้าร่วมอย่างอบอุ่น,ต้องไม่ลืมว่ามนทลชิงหยางนั้นเล็กมาก,หากเดินทางไปยังดินแดนระดับแปด,แน่นอนว่าจะต้องขายได้ราคาดีแน่.
สำหรับพ่อค้าแล้ว,เรื่องกำไรย่อมต้องพิจารณามาก่อน.
หากว่าสามารถขายเม็ดยาฟื้นฟูและเม็ดยาบูรณะร่างกายได้สูงกว่าเดิม,การเดินทางไปยังต่างถิ่นก็ไม่ใช่เรื่องยากลำบากอะไร.
“เป็นเช่นนี้นะเอง.”
จุนซ่างเซียวที่ครุ่นคิดเล็กน้อย,ก่อนที่จะนำ 20
เม็ดยาฟื้นฟูและ 10
เม็ดยาบูรณะร่างกายออกมา,เอ่ยออกมาว่า,”มนทลหลิงหยางนั้นอยู่ไกลมาก,การจะเดินทางไปแต่ละครั้งนั้นไม่ง่าย,ประมุขอ้ายควรจะขายให้ได้มาก
ๆ.”
อ้ายซางหนี่ที่รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก.
หากนับรวมกับที่มีอยู่,70 เม็ดยาฟื้นฟู และ 20
เม็ดยาบูรณะร่างกาย,การเดินทางไปยังมนทลหลิงหยางจะต้องได้รับผลกำไรเป็นกอบเป็นกำกลับมาอย่างแน่นอน.
หลังจากพูดคุยกันอีกชั่วขณะ,ประมุขอ้ายก็กล่าวลา.
หลังจากที่จุนซ่างเซียวออกไปส่งประมุขอ้ายแล้ว,เขาที่กล่าวเสียงเบา,”ข้ากำลังขาดเงินอยู่,หวังว่าประมุขอ้ายคงจะนำเงินกลับมาจากมนทลหลิงหยางมากมาย.”
“ปับ.”
เขาปรบมือเสียงดัง,เอ่ยออกมาว่า,”เนื้อก็มีมากพอแล้ว,คงจะบ่มเพาะได้อย่างหายห่วง.”
อย่างไรก็ตาม,เกิดเรื่องที่น่าตื่นตกใจ,เช้าวันถัดมา,เสี่ยวหลงที่กินอาหารลงน้อยมา,กินเพียง
2-3 จินเท่านั้น,ท่าทางยังสงบเสงี่ยมเป็นอย่างมาก.
ป่วยเพราะถูแช่แข็งมาอย่างงั้นรึ?
หลังจากนั้นไม่กี่วัน,เจ้าตัวน้อยที่เอาแต่นอนหลับอยู่ในห้องหนังสือ,แทบจะไม่ออกไปใหน.
จุนซ่างเซียวที่เผยท่าทางเป็นกังวล.
ระบบเอ่ย,”โฮสน์ไม่จำเป็นต้องกังวล,เจ้าตัวน้อย,น่าจะเข้าสู่การจำศีลแล้ว.”
จำศีล.
ตอนนี้มันฤดูใบไม้ร่วงนะเว้ยเฮ้ย!
ระบบเอ่ย,”สัตว์ร้ายมากมายในทวีปชิงหยุน,จะจำศิลได้ไม่เกี่ยวกับฤดูดกาล,อย่างเช่นมังกรเพลิงเองก็เช่นกัน.”
“มันไม่ได้ป่วยอย่างงั้นรึ?”
“ไม่.”
“เช่นนั้นก็ดีแล้ว.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”เช่นนั้นการที่มันเข้าสู่สภาวะจำศีลมีประโยชน์อะไร?”
ระบบเอ่ย,”สัตว์ร้ายที่ต้องการตระหนักถึงพลังฟ้าดินก็จำเป็นต้องหลับ,เพื่อยกระดับความแข็งแกร่ง,มันถูกเรียกว่า,หลับเพื่อวิวัฒนาการ.”
ได้ยินว่ากำลังเพิ่มความแข็งแกร่ง,จุนซ่างเซียวที่ดวงตาเป็นประกาย,ราวกับเข้าใจได้,”เสียวหลงกินอาหารไม่มาก,มันวิวัฒนาการได้อย่างงั้นรึ?”
“เอิ่ม....”
ระบบเอ่ย,”ตามทฤษฎีเป็นเช่นนั้น.”
จุนซ่างเซียวสีมือไปมา,กล่าวออกมาว่า,”แล้วที่เรียกว่า,หลับเพื่อวิวัฒนาการ,ต้องใช้เวลาเท่าใด?”
“เร็วสุดก็ 3-5 เดือน,ช้าก็ 300-500 ปี.”
300-500 อย่างงั้นรึ?
จุนซ่างเซียวแทบล้าทั้งยืน.
หากว่าเจ้าตัวเล็กใช้เวลานานขนาดนั้น,กว่าจะตื่นขึ้นจากการจำศิษย์,ตัวเขาคงระเบิดไปแล้ว,ความหวังที่จะให้มันช่วยยกระดับสำนัก,กลายเป็นสำนักที่แข็งแกร่งที่สุด
สลายหายไปในทันที.
ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times
#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น