Strongest Sect of All Times Chapter 253 Gluttons
นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล
Chapter 253 Gluttons
吃货
หลิวหว่านซี่ที่ถืออุ้มเสี่ยวหลงได้,ทำให้จุนซ่างเซียวประหลาดใจเป็นอย่างมาก.
ตัวเขานั้นไม่ถูกเผา,เพราะว่าเจ้าตัวเล็กคือสัตว์พันธะสัญญาของเขา,แล้วนางล่ะ?
หลังจากนั้นซูเซียวโม่ที่เข้ามา,มันปะทุเปลวเพลิงเผาอีกฝ่ายทันที,ทำให้จุนซ่างเซียวเข้าใจในที่สุด,เจ้าตัวน้อยไม่ปฏิเสธอิสตรี,แต่ผลักไสบุรุษ!
เฮ้อ.
สัตว์พันธะสัญญาของเขานั้นดูเหมือนว่าจะหน้าไม่อายอยู่เหมือนกัน.
“ตู้ตู้.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”เสี่ยวหลงกำลังหิวอยู่,ทำอะไรอร่อย
ๆให้มันกินหน่อย,ให้เป็นอาหารประเภพเนื้อนะ.”
“อืม อืม!”
หลิวหว่านซี่ที่สวมชุดกันเปื้อน,เริ่มเตรียมอาหารในทันที.
ซูเซียวโม่ที่ถูกเผาโดยซูเซียวโม่,ถูกยกไปยังหอยา,รักษาโดยซุนปู่กง.
เรื่องนี้เจ้าสำนักควรจะบอกพวกเราก่อนหรือไม่?,ถึงแม้นว่าจะดูเหมือนสัตว์ตัวน้อยไม่มีพิษมีภัย,แต่กลับมีอันตรายสูง,ไม่สามารถสัมผัสได้.
ขณะรออาหาร,จุนซ่างเซียวที่นั่งอยู่บนโต๊ะกับเสี่ยวหลง,เขาที่สีคางไปมา,”เพิ่งเกิดขึ้นมา,เปลวเพลิงกับแข็งแกร่ง,น่าประหลาดใจจริง
ๆ.”
“จี่ จี่.”
เสี่ยวหลงที่ร้องออกมาคราหนึ่ง.
มันที่ต้องบอกกับเจ้านายของมันว่า,ตัวมันนั้นแข็งแกร่งมาก.
จุนซ่างเซียวที่ยกนิ้วลูบหัวของมันไปมา,กล่าวออกมาว่า,”หวังว่าเจ้าจะโตเร็ว
ๆ,หลังจากนี้เปิ่นจัวรอเจ้าเป็นองค์รักษ์อยู่.”
สายตาของมันที่เป็นประกาย,ราวกับว่าต้องการทำหน้าที่ดังกล่าวมาก.
หากว่าเจ้าตัวน้อยเติบโตเป็นมังกรเพลิง,มันจะทรงพลังขนาดใหนกัน.
เมื่อถึงเวลานั้น,ค่ายกลคุ้มสำนักอาจจะไม่ต้องใช้,เพียงแค่ให้มันยืนอยู่ด้านหน้าประตูก็ไม่มีใครกล้าบุกเข้ามาแล้ว.
“อาหารเสร็จแล้ว!”
เสียงของหลิวหว่านซี่ที่ดังขึ้น.
อาหารหลากหลายจานที่ถูกนำมาวาง,อาหารจานเนื้อที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่น.
“จี่ จี่!”
กลิ่นที่หอมฉุย,เสียงหลงที่ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตื่นเต้น,อดไม่ได้จะกลืนน้ำลายเสียงดัง.
“กินได้.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย.
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
เสี่ยวหลงที่ไม่เกรงใจ,กินอาหารอย่างรวดเร็ว,ปากน้อย
ๆของมันที่กัดเคี้ยวคำแล้วคำเล่า.
เพียงแค่เวลาไม่นาน,อาหารทั้งหมดก็เกลี้ยงไปอย่างรวดเร็ว.
จุนซ่างเซียวและหลิวหว่านซี่ที่ดวงตาเบิกกว้าง.
บัดซบ!
ตัวเล็กเท่ากับฝ่ามือ,คาดไม่ถึงว่าจะกินอาหารไปแปดจาน,นี่มันกินจุไปแล้ว!
“จี่ จี่!”
เสี่ยวหลงที่วิ่งวนจานเปล่า,คลายกับบอกว่า,อาหารหมดแล้ว!
จุนซ่างเซียวที่มุมปากกระตุก,เอ่ยออกมาว่า,”ตู้ตู้,ทำอาหารมาอีกชุด.”
“ได้!”
หลิวหว่านซี่ที่กลับเข้าครัวอีกครั้ง.
จากนั้นไม่นาน,เสี่ยวหลงก็กินอิ่มในที่สุด,มันนอนท้องป่องแบนราบอยู่บนพื้นโต๊ะ.
ใบหน้าของจุนซ่างเซียวที่ราวกับเห็นผี,เจ้าตัวเล็กนี้,ฟาดอาหารไปสามสิบกว่าจาน,จานที่กองพูนตั้งสูงอยู่ข้าง
ๆ.
“เจ้าสำนัก.”
หลิวหว่านซี่เอ่ยอย่างงงวย,”เสียวหลงกินเก่งมากเลย!”
มันเกินกว่าคำว่ากินเก่งแล้ว,ต้องเลือกว่าเขมือบ!
อาหารกว่าสามสิบจาน,หากเปลี่ยนเป็นศิษย์สำนักทู่เจิ้งที่กินจุ,ต้องใช้จำนวนสิบคนถึงจะกินได้ขนาดนี้.
เห็นเจ้าตัวเล็กขนาดเท่าฝ่ามือ,กินไปมากมายขนาดนี้
มันเอาอาหารไปยัดอยู่ตรงใหนกัน!
จุนซ่างเซียวที่เก็บความตกใจเอาไว้,กล่าวออกมาว่า,”เจ้าตัวเล็กเพิ่งเกิด,คงจะกินจุอย่างนี้ล่ะ.”
ในตอนเย็น,ขณะศิษย์คนอื่น ๆมากินอาหาร.
ศิษย์คนอื่น ๆ
ที่ก้าวมาในโรงอาหาร,ขณะหยิบตะเกียบ,จ้องมองไปยังโต๊ะเจ้าสำนัก,ใบหน้าของทุกคนที่แข็งค้าง,แววตาตื่นตกใจอย่างหนัก.
“เอิ๊ก!!”
ในเวลานั้น,เสียวหลงที่อิ่มจัดเรอออกมาเสียงดัง,ร่างกายของมันที่ยังคงนอนบนโต๊ะ,ดวงตาหรี่เล็ก,เผยความพึงพอใจเป็นอย่างมาก.
มุมปากของเจ้าสำนักถึงกับกระตุกอย่างรุนแรง.
เพราะกองจานพูนกว่าสามสิบจานที่วางขวางมันอยู่,ทำให้ทุกคนคิดว่าเขาหิวหนักกินอาหารไปกว่าสามสิบจาน.
เช้า
กลางวันและเย็นวันถัดมา,เหมือนกับตอนเย็นไม่มีผิด,เจ้าตัวเล็กยังกินอาหารไปเป็นจำนวนมาก,อธิบายได้ว่ามันกินอาหารจุจนน่าตื่นตะลึง.
วันถัดมา.
เสียวหลงที่มากินอาหารได้ด้วยตัวเอง.
มันกิยอาหารสามมื้อต่อหนึ่งวัน,รวม ๆแล้วร่วมร้อยจาน,นอกจากนี้อาหารแต่ละจานยังเป็นอาหารจานเนื้อที่พูนเต็มจานอีกด้วย!
“อะไรกันเนื้อไม่มีเหลือแต่น้ำซุปและผัก”
วันที่สาม,อาหารเช้า,จุนซ่างเซียวที่เวลานี้อาหารของเขามีแต่น้ำซุป.
สิ่งนี้แทบจะไม่มีเนื้อเหลืออยู่,มีแต่ผัก,หลายวันมานี้,เขาที่แทบจะได้กินอาหารเจไปแล้ว.
เน่าเศร้า,เสี่ยวหลงที่ไม่สนใจเขาเลย,มันที่กินเนื้อไปจนเกือบหมดเหลือแต่ผักเอาไว้ให้เขา.
จุนซ่างเซียวที่แทบล้มทั้งยืน.
หากว่าศิษย์ของเขากระหายหิวเช่นนี้ทุกคน,สงสัยสำนักคงล่มจมอย่างแน่นอน.
“เจ้าสำนัก.”
วันหนึ่ง,หลิวหว่านซีที่พูดเสียงสูงเอ่ยออกมาว่า,”อาหารในคลังตอนนี้ถูกเสียวหลงกินหมดแล้ว,ท่านต้องลงเขาไปซื้อแล้วล่ะ.”
จุนซ่างเซียวหมดคำพูดไปโดยปริยาย.
ตั้งแต่กลับมาจากหุบเขาแห่งความตาย,เขาได้มอบเนื้อมากมายให้กับหลิวหวานซี,ที่สามารถกินได้ครึ่งปี,ทว่าเพียงไม่กี่วันที่เสียวหลงกิน,ก็หมดแล้ว,นี่มันเกินไปหรือไม่!
จุนซ่างเซียวที่รู้สึกวิงเวียนเป็นอย่างมาก.
อาหารมากมาย,เพียงไม่กี่วันหมด,นี่เพิ่งจะเกิดเท่านั้น,หากว่ามันโตกว่านี้จะกินมากขนาดใหนกัน.
หากกินมากแล้วโตอย่างรวดเร็ว,เจ้าสำนักจุนก็ยังพอทำใจได้.
แต่กินมากมาย,แล้วไม่โต,นี้มันบัดซบมาก!
......
ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งยังคงเก็บตัวฝึกฝนอย่างขะมักเขม้น.
หลี่ชิงหยางและคนอื่น ๆ,ที่เข้าใช้งานหอเก็บประสบการณ์ทุกวัน,ไม่กล้าเกียจคร้านแม้แต่น้อย.
เจ้าสำนักจุนที่ลงเขาเข้าไปในเมืองอยู่เป็นระยะ
ๆ .
ทำไมนะรึ?
แน่นอนว่าซื้อเนื้อมาทำอาหารให้กับเสี่ยวหลง.
ขณะเขาเดินทางไปถึงเมือง,เหล่าเจ้าของร้านขายเนื้อมารุมล้อมเขา,ทั้งเนื้อวัว,เนื้อแกะ
เนื้อแพะ,แม้แต่เนื้อสัตว์ร้าย ที่ถูกเจ้าสำนักไท่กู่เจิ้งเหมาหมด.
“เจ้าสำนักไท่กู่เจิ้ง,ลงเขามาซื้อเนื้อเองเลย,นี่เขาซื้อไปให้ศิษย์ของเขากินอย่างงั้นรึ?”
“ซื้อครั้งล่ะ 2,000-3,000 จิน,ไม่กี่วันก็หมด,สงสัยเสริมเพิ่มพลังให้ศิษย์อย่างเต็มที่เลยรึ?”
“มีอาหารมากมายขนาดนี้,ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งคงจะมีความสุขแน่นอน.
จุนซ่างเซียวที่มาซื้อเนื้อเป็นประจำ,เขาไม่รู้เลยว่าคนอื่น
ๆได้นำเรื่องของเขาไปพูดคุยยกย่อมเขาเป็นอย่างมาก.
หากศิษย์ของสำนักไท่กู่เจิ้งได้ยินคนเหล่านี้พูดคุยกัน,คงต้องปาดน้ำตาอย่างแน่นอน.
เนื้อพวกเขาแทบไม่ได้กิน,ถูกเสี่ยวหลงกินไปหมด.
นอกจากนี้,หลายครั้งที่พวกเขากำลังกินอาหารอยู่,ขณะคีบเนื้อขึ้นมา.....
เนื้อหาย!!
ถูกเจ้าตัวเล็กขโมยไปแล้ว.
หลายวันมานี้พวกเขาไม่ได้กินเนื้อเลย,แทบจะลืมรสชาติเนื้อไปแล้ว!
......
ช่วงเวลาอาหารที่ทุกทรมาน.
ซูเซียวโม่ที่แอบเข้ามาในครัว.
เขาที่ยืนจานออกไป,กล่าวเสียงเบา,”ตู้ตู้,ทำอาหารให้ข้าหน่อย,ข้าจะไปกินที่หลังเขา.”
อย่างไรก็ตาม,ลี่เฟยและเถียนซีที่ได้ยิน,สองสามวันมานี้พวกเขาไม่ได้กินเนื้อเลย,รู้สึกหิวกระหายเป็นอย่างมาก.
“ทำให้กับข้าด้วย!”คนทั้งสองที่กล่าวเสียงเบา.
ในเวลานี้,เพราะว่าการมีอยู่ของเสี่ยวหลง,ทำให้ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งกินอาหารอย่างยากลำบาก,ทุกคนที่เต็มไปด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างมาก.
อย่างไรก็ตาม,ไม่ว่าจะใช้วิธีอะไรก็แทบไร้ประโยชน์.
เจ้าตัวเล็กราวกับรับรู้สัมผัสได้ถึงอาหารของหลิวหว่านซี่ได้.
มันเห็นกลุ่มของซูเซียวโม่ที่นำอาหารไปกินที่หลังเขาอย่างระมัดระวัง,ขณะที่ทุกคนนั่งลงบนหิน,จัดแจงอาหารเตรียมกิน,เสียวหลงก็ปรากฏตัวขึ้น.
อ๊าก!
อาหารของข้า!
เคร้ง เคร้ง เคร้ง!
กลุ่มของซูเซียวโม่ที่ชักกระบี่หานเฟิงออกมา,พร้อมกับปกป้องชามข้าว,ส่งสายตาข่มขู่ออกมา.
เสี่ยวหลงเห็นทั้งสามขัดขืน,ก็พ่นเปลวพพลิงขนาด
2-3 เมตรออกมาข่มขู่.
จากนั้น,อุณหภูมิรอบ ๆที่สูงขึ้นในทันที,ทำให้ทุกคนต้องเก็บกระบี่และนั่งกินอาหารต่อ.
“ศิษย์พี่,ดูบะหมี่นี้ ไม่เลวนะ,ลองชิมดู.”
“ถั่วผัดก็อร่อยเหมือนกัน.”
“ดูผักทอดที่ตู้ตู้ทำอร่อยกว่าอาหารจานเนื้ออีก!”
“ดูเหมือนว่าคงต้องกินเจบ้างแล้ว,!”
กลุ่มของซูเซียวโม่ที่คีบผักขึ้นมา,พร้อมกับกินด้วยความอร่อย.
ฟิ้ว!
เสี่ยวหลงที่เก็บเปลวเพลิง,ก่อนที่จะแย่งเนื้อในอาหารของทุกคนไปหมด,แลบลิ้นตวัดเย้ย
เช็ดน้ำมันออกจากปาก,ก่อนจากไป.
เห็นเจ้าตัวน้อยกินเนื้อเหลือแต่ผักให้กับพวกเขา,พวกเขาที่คีบผักกินกับข้าวเปล่า,พร้อมกับปาดน้ำตาด้วยความเจ็บปวด.
ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times
#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น