Strongest Sect of All Times Chapter 243 The method of earning the resources
นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล
Chapter 243 The method of earning the
resources
赚取资源的门路
“พยัคฆ์หนุ่มสายฟ้าม่วงรึ?”
“โอ้วสวรรค์,นั่นมันสัตว์ร้ายธาตุสายฟ้าที่หายากมาก
ๆ!”
“เจ้าสำนักระดับแปด,มีสัตว์ขี่เช่นนี้ได้อย่างไร?!”
เหล่าศิษย์ของสำนักอี้โชวต่างก็ตื่นตะลึง.
สำหรับสำนักที่ฝึกฝนเกี่ยวกับการควบคุมสัตว์ร้าย,แน่นอนย่อมเข้าใจว่าสัตว์ร้ายธาตุสายฟ้านั้นล้ำค่าและยากจะทำให้เชื่อฟังได้!
เพื่อที่จะไม่ให้เป็นที่จุดสนใจ,เมื่อเขาเดินทางมาถึงเมืองสุ่ยหยาง,จุนซ่างเซียวได้เก็บพยัคฆ์หนุ่มสายฟ้าม่วงเข้าไปในบอลเจ้าสำนัก.
เมื่อการประลองยุทธ์สำนักแข่งขันจบแล้ว,ก่อนที่จะกลับมนทลชิงหยางเขาได้นำมันออกมาขี่,คาดไม่ถึงว่าจะบังเอิญมาเจอกับเจ้าสำนักน้อยของสำนักอี้โชวระหว่างทาง.
“เฮ้อ.”
จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมา,กล่าวออกมาว่า,”การไม่เป็นจุดสนใจยากจริง
ๆ.”
“โฮกกกกกก!”
พยัคฆ์หนุ่มสายฟ้าม่วงที่รับรู้ถึงความคิดของเจ้านาย,ตะเบ็งเสียงคำรามดังกึกก้อง,ทำให้สัตว์ใหญ่สัตว์น้อยในป่าขวัญกระเจิง.
ไม่เป็นจุดสนใจอย่างงั้นรึ? บัดซบ!
เจ้าสำนักมีสัตว์ขี่,เขากับต้องวิ่งตาม,โดยใช้ท่าเท้ามังกรข้ามสมุทร.
อีกทั้งยังต้องส่งมอบรางวัลที่ได้ออกไปหมด.
“น่ารังเกียจ อ๊าก!”
เขาที่กล่าวคำรามในใจด้วยความโกรธ,”หากรู้ก่อนหน้านี้,กลั่นร่างกายในหอคอยเก็บประสบการณ์ดีกว่า.”
ระหว่างทางกลับนั้น,จุนซ่างเซียวที่เปิดร้านค้าระบบ,ด้วยคะแนนสนับสนุนล้นอยู่,เขาควรจะซื้อน้ำยาเปลี่ยนพรสวรรค์กี่ขวดดี?
“เอาล่ะ,ค่อยเป็นค่อยไป.”
เขาซื้อน้ำยาเปลี่ยนพรสวรรค์ไปสี่ขวด,คะแนนสนับสนุนลดลงจาก
1155 เหลือ 955 แต้ม.
ภารกิจลับ,ภารกิจสนับสนุน.
การที่คะแนนสนับสนุนอยู่ในขีดบน,ทำให้จุนซ่างเซียวรู้สึกอุ่นใจ,และปลอดภัยเป็นอย่างมาก.
“การเดินทางมายังมนทลปิงหยางเพื่อเข้าร่วมแข่งขันครั้งนี้,ได้รับ
500 แต้มและหนึ่งร้อยศิลาวิญญาณ.”
จุนซ่างเซียวที่พอใจมาก,”คุ้มค่า.”
ทักษะยุทธ์ระดับสูงล่ะ?
กล่าวตามจริง,เขาไม่ แลเลยแม้แต่น้อย,ต้องไม่ลืมว่ามันไม่สามารถเทียบได้กับทักษะยุทธ์ที่ซื้อจากร้านค้าระบบได้เลย.
ทักษะยุทธ์เหล่านี้ยิ่งจากมนทลชิงหยางที่ได้รับมาก่อนหน้านี้,นำมาทำกระดาษชำระ,ยังมีประโยชน์ซะกว่า.
ระบบเอ่ย,”ในทวีปชิงหยุนหลากหลายดินแดน,มีการจัดแข่งขันประลองยุทธ์สำนัก,โฮสน์สามารถส่งศิษย์เข้าร่วม,เพื่อรับทรัพยากรได้.”
“ฮึ!”
จุนซ่างเซียวมองบน,กล่าวออกมาว่า,”เจ้าไม่ได้สนใจให้ข้าผลาญคะแนนสนับสนุนอย่างเดียวอย่างงั้นรึ,เป็นไปได้อย่างไร,ที่จะแนะนำข้าให้หาทรัพยากรจากที่อื่น?”
ระบบเอ่ยอย่างจริงจัง,”ภารกิจของข้านั้นคือช่วยเหลือโฮสน์สร้างสำนักที่แข็งแกร่งที่สุดขึ้นมา.”
“ก็ดี.”
จุนซ่างเซียวสีคางไปมา,ครุ่นคิด”ส่งศิษย์ไปร่วมประลองสำนัก,ไม่เพียงได้ศิลาวิญญาณ,ทว่ายังได้เก็บประสบการณ์การต่อสู้,เป็นคำแนะนำที่ไม่เลว.”
อย่างไรก็ตาม.
ตัวเขาไม่สามารถที่จะเดินทางตามไปด้วยได้ทุกที่.
ระบบเอ่ย,”ในเงื่อนไขทั่วไป,การประลองยุทธ์สำนักไม่จำเป็นต้องให้เจ้าสำนักไปด้วยตัวเอง,ขอแค่ให้ศิษย์มีใบรับรองจากสำนัก,ก็สามารถลงทะเบียนได้.”
“หลังจากกลับไปแล้ว,ไปถามประมุขอ้ายดีกว่า,ว่ามีพื้นที่มนทลใดบ้างที่จัดการแข่งขันประลองยุทธ์สำนัก.”
สองวันหลังจากนั้น.
จุนซ่างเซียวที่กลับมนทลชิงหยาง.
ทว่าไม่ได้กลับสำนักทันที,เขาแวะหยุดที่เมืองฮู่หยางก่อน.
“เจ้าสำนักจุนไปเข้าร่วมงานประลองยุทธ์สำนักที่มนทลปิงหยางมาอย่างงั้นรึ?”
“อืม.”
“ผลเป็นอย่างไรบ้าง?”
“บังเอิญได้ชนะเลิศมานะ.”
กึก.
อ้ายซางหนี่ที่ตี่นตกใจ.
บังเอิญได้ชนะเลิศมา,กล่าวราวกับว่ามันเป็นเรื่องง่าย
ๆ สบาย ๆ!
“ประมุขอ้าย.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”ท่านรู้หรือไม่,ว่ามีพื้นทีใดที่จัดงานประลองยุทธ์สำนักและได้รางวัลเป็นศิลาวิญญาณบ้าง?”
อ้ายซางหนีที่มุมปากกระตุก,กล่าวออกมาว่า,”เจ้าสำนักจุนต้องการส่งศิษย์เข้าร่วมประลองอย่างงั้นรึ?”
“จุนโหมวมีศิษย์ที่ไม่ค่อยได้เรื่องกลุ่มหนึ่ง,ไม่อยากให้ฝึกฝนอยู่ในสำนักตลอดทั้งวัน,ควรจะให้พวกเขาออกไปเดินเล่นหาประสบการณ์ในยุทธภพบ้าง.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
อ้ายซางหนี่ “......”
กลุ่มศิษย์ไม่ได้เรื่องที่เอาชนะศิษย์สายในสำนักเห่าฉีซะยับเยิน,พวกนี้นะรึคือกลุ่มไม่ได้เรื่อง!
“ไม่ผิด.”
อ้ายซางหนี่ที่เห็นด้วยกล่าวออกมาว่า,”การบ่มเพาะ,จำเป็นต้องควบคู่กับหาประสบการณ์,การส่งไปประลองยุทธ์ถือว่าเป็นการเปิดหูเปิดตาช่วยยกระดับประสบการณ์ได้อย่างแท้จริง.”
เขาหยุดและเอ่ยออกมาว่า,”ที่มนทลฮวยหยิงอีกไม่กี่วันจากนี้,มีการจัดประลองยุทธ์ขึ้นเช่นกัน,มีสำนักหลากหลายเข้าร่วม,และมีรางวัลที่ไม่ธรรมดา.”
“จริงรึ?”
จุนซ่างเซียวแสดงท่าทางสนใจ.
อ้ายซางหนี่ที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม,”มนทลฮวยหยิงนั้นมีสำนักมารมากมาย,ก่อนหน้านี้มีผู้ฝึกยุทธ์ไม่น้อยที่ต้องตายไป,อ้ายโหมวไม่แนะนำให้เจ้าสำนักจุน
ส่งศิษย์เข้าร่วม.”
“และอีกเรื่อง”
อ้ายซางหนี่ที่หยุดและกล่าวเสียงเบา,”อ้ายโหมวเพิ่งได้รับข่าวมาว่า,มีสำนักระดับเจ็ด,หออินทรีย์ดำ,ถูกทำลายไปเพียงแค่คืนเดียวเท่านั้น,สถานการณ์ที่นั่นไม่ค่อยสงบนัก.”
ครึ่งเดือนแล้ว,เพิ่งได้รับข่าวอย่างงั้นรึ?
ดูเหมือนว่าข้อมูลยุคสมัยนี้จะค่อนข้างช้า!
“โอ้ว.”
จุนซ่างเซียวพยักหน้ารับ,และกล่าวออกมาว่า,”แล้วมนทลอื่นล่ะ?”
“เท่าที่อ้ายโหมวรู้มา.”
อายซางหนี่ที่ครุ่นคิด,จากนั้นก็กล่าวถึงพื้นที่สี่มนทล.
บางแห่งใกล้,บางแห่งไกล,ทว่าทุกแห่งล้วนกำลังจะจัดงานประลองยุทธ์สำนักทั้งนั้น.
หลังจากได้ข้อมูลที่ต้องการแล้ว,จุนซ่างเซียวยกมือประสานเอ่ยออกมาว่า,”ในสำนักมีเรื่องให้ต้องจัดการ,จุนโหมวขอลา.”
ประมุขอ้ายที่ออกมาส่ง,ก่อนที่จะเดินกลับส่ายหน้าไปมาลอบคิดอยู่ในใจ,”เจ้าสำนักจุน,บังเอิญได้ชัยชนะเลิศงานประลองยุทธ์สำนักจริง
ๆรึ?”
“ประมุข.”
อ้ายซางเกอที่เดินเข้ามา,เอ่ยออกมาว่า,”พี่รองที่ไปซื้อสมุนไพรที่มนทลปิงหยาง,ได้ส่งพิราบสื่อสารเกี่ยวกับเรื่องราวงานประลองยุทธ์สำนักที่มนทลปิงหยางมา.”
“หืม?”
อ้ายซางหนี่ที่รับสาร,ที่เขียนเกี่ยวกับรายระเอียด,หลังจากอ่านเสร็จแล้ว,ดวงตาของเขาที่เพ่งพิศตะลึงงัน,”นี่...นี่มันบังเอิญชนะจริง
ๆ!”
......
หลังจากออกจากเมืองฮู่หยางแล้ว,จุนซ่างเซียวที่ขี่พยัคฆ์หนุ่มสายฟ้าม่วงกลับสำนักไท่กู่เจิ้ง.
เย่ซิงเฉินที่เข้ามาในสำนัก,ในเวลานั้นศิษย์กลุ่มหนึ่งที่เข้ามารุมล้อม,และสอบถามผลการต่อสู้.
“เป็นอย่างไรบ้าง!”
ซูเซียวโม่ที่ตะโกนออกมาเสียงดัง,”ศิษย์น้องเย่ลงมือเอง,ได้ตำแหน่งชัยชนะเลิศ!”
“ศิษย์น้องเย่ทรงพลังจริง ๆ!”ศิษย์คนหนึ่งที่ตะโกนออกมาเสียงดัง.
เย่ซิงเฉินที่ไม่สนใจ,ตรงไปยังหอคอยเก็บประสบการในทันที.
ในความเห็นของเขา,การเข้าร่วมประลองยุทธ์สำนักที่มนทลปิงหยาง,นับเป็นเรื่องที่เสียเวลาเป็นอย่างมาก.
อย่างไรก็ตาม,การที่มีคนจำนวนมากมายืนส่งและยืนรับ,ก็ทำให้เขารู้สึกสั่นไหวเล็กน้อยเช่นกัน.
“ชิงหยาง.”
จนซ่างเซียวที่นั่งอยู่บัลลังก์ไม้หนานมู่ในห้องโถงเอ่ยออกมาว่า,”อีกไม่กี่วันหลังจากนี้,จะมีงานประลองยุทธ์ที่มนทลฮวยหยิง,ข้าจะส่งเจ้าเข้าร่วม.”
“เจ้าสำนัก.”
หลี่ชิงหยางที่กล่าวเสียงเบา,”ให้ศิษย์น้องไปเถอะ,ข้าต้องการบ่มเพาะในสำนักสักระยะ.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”คนอื่น
ๆก็จะถูกส่งไปร่วมมนทลอื่น ๆเช่นกัน.”
“รับทราบ.”
หลี่ชิงหยางเอ่ย,”ศิษย์จะไม่ทำให้เจ้าสำนักผิดหวัง!”
จุนซ่างเซียวที่เคาะนิ้วบนพนักพิงเอ่ยออกมาว่า,”เปิ่นจั้วขออย่างเดียว,จะต้องได้รับชนะเลิศกลับมา.”
“ครับ!”
หลี่ชิงหยางกล่าวอย่างจริงจัง,”จะต้องเป็นไปตามที่เจ้าสำนักคาดหวังอย่างแน่นอน.”
จากนั้นจุนซ่างเซียวที่เรียกเซียวจุ้ยจื่อ,ซูเซียวโม่และอีกลายคน,ให้เข้าร่วมงานประลองยุทธ์สำนัก.
คำขอของเขามีเพียงอย่างเดียวคือชนะเลิศและนำรางวัลกลับมา.
แน่นอน.
เพื่อความปลอดภัย,แม้นว่าคู่ต่อสู้จะอ่อนแอกว่า,แต่การจะได้ชัยชนะเลิศก็ไม่ง่าย,เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา,เขาตัดสินใจส่งคนไปจับตาด้วย.
เป็นคนของหอฝนพรำที่คอยดูแลความปลอดภัยพวกเขาในที่ลับ.
เพื่อที่จะให้ศิษย์สายในออกไปหาประสบการณ์อย่างไม่มีปัญหาไร้กังวล,จึงต้องคิดถึงความปลอดภัยของพวกเขาด้วยนั่นเอง.
ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times
#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น