วันอังคารที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2564

Strongest Sect of All Times Chapter 242 The relaxedness wins the champion

Strongest Sect of All Times  Chapter 242 The relaxedness wins the champion

 นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล

Chapter 242 The relaxedness wins the champion

轻轻松松拿冠军

 

การประลองในมนทลปิงหยางนั้น,รอบแรก,เป็นการต่อสู้เอาตัวรอดเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง,เย่ซิงเฉินอยู่สนามการต่อสู้ที่สาม ล้มคู่ต่อสู้ทุกคน,และเข้าสู่รอบสอง.


ส่วนสนามการต่อสู้อื่น ๆ เวลานี้ ยังคงต่อสู้กันอยู่.

จนกระทั่งการต่อสู้ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง,คนกว่าสามสิบคนที่เข้าสู่รอบสอง.

เมื่อพวกเขาก้าวออกมา,เห็นสนามการต่อสู้ที่สามที่มีคนนอนเกลื่อนกลาด,ถึงกับตื่นตะลึงกันไปตาม ๆ กัน.

ด้วยสนามทั้งแปดไม่สามารถมองเห็นกันได้,และพวกเขาก็ต้องทุ่มสมาธิจัดการคนอื่น,ทำให้ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นไม่สามารถมองเห็นเย่ซิงเฉินจัดการคนอื่น ๆได้.

ไม่เห็นนับว่าดีแล้ว.

ไม่เช่นนั้น,จะยิ่งตื่นตะลึงมากกว่านี้แน่นอน.

แม้แต่ไม่คิดที่จะฝันถึงตำแหน่งชนะเลิศได้เลย.

การต่อสู้รอบแรกจบลงแล้ว.

ผู้เข้าร่วมแข่งขันที่ได้พักชั่วขณะ,ซึ่งรอบต่อไปจะเป็นการจับคู่ต่อสู้ หนึ่งต่อหนึ่ง.

การต่อสู้แบบตะลุมบอน,คนที่เหลือรอดล้วนแต่มีระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่ห้าขึ้นไป,ดังนั้น,การต่อสู้รอบที่สองแน่นอนว่าจะต้องสุดยอดเป็นอย่างมาก.

ทว่า.

หลังจากศิษย์สำนักเหอซาน จับได้เย่ซิงเฉินเป็นคู่ต่อสู้,เหล่าตัวตนระดับสูงของสำนักแทบทรุดลงไปกับเก้าอี้.

ซวยยิ่งนัก.

อย่าว่าแต่จัดการอีกฝ่ายเลย,ศิษย์ของตนมีระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นหก,มีแต่จะถูกทุบตีเท่านั้น.

“รอบที่สอง,คู่แรก!

เสียงกรรมการตะโกนเสียงดัง.

เย่ซิงเฉินและศิษย์สำนักเหอซานขึ้นเวที.

“เริ่ม!

“ฟิ้ว!

ศิษย์สำนักเหอซานที่พุ่งเข้าไปก่อน,ด้วยก้าวกระเรียนและหมัดกระเรียนที่รวดเร็ว.

หากเปลี่ยนเป็นในอดีต,สำหนักเหอซานแน่นอนว่าศิษย์คนนี้ของพวกเขาถือว่าเป็นสุดยอดพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม,ทว่าในเวลานี้ทุกคนได้แต่เผยความเห็นใจ.

ต่อหน้าฝ่ายตรงข้ามที่แข็งแกร่งกว่ามาก,ไม่ว่าทักษะอะไรก็ไร้ประโยชน์!

เป็นความจริง.

แม้นว่าจะใช้ท่าเท้ากระเรียนที่พริ้วไหว,หมัดกระเรียนที่รวดเร็วปล่อยออกไปจนแทบมองไม่เห็น,ทว่าหมัดของเย่ซิงเฉินต่อยออกมาเพียงหมัดเดียว,อีกฝ่ายถึงกับหมดสติไปในทันที.

“รวดเร็วมาก!

“คาดไม่ถึงว่าศิษย์สำนักเหอซานจะพ่ายแพ้ในทันที!

“เด็กคนนั้นแข็งแกร่งมาก!

ผู้เข้าร่วมแข่งขัน 30 คนที่จ้องมองด้วยความจริงจัง.

การต่อสู้รอบที่สอง,หลังจากต่อสู้ไปสองชั่วโมง,ก็มีคนเข้ารอบ 16 คน,จากนั้นก็มีการจับสลากการแข่งขันอีกครั้ง.

“พรึด โครม!

บนเวทีการแข่งขัน,ผู้ฝึกยุทธ์,ระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นเจ็ด,โดนเย่ซิงเฉินต่อยล่วงไปอีกคนแล้ว.

“ผู้ชนะ,เย่ซิงเฉิน!

“พรึด โครม!

“ผู้ชนะ,เย่ซิงเฉิน!

แปดคนเหลือสี่คน,ผู้เข้าร่วมแข่งขันคนอื่น ๆเมื่อจ้องมอง เย่ซิงเฉิน,ทำให้พวกเขาถึงกับหน้าเปลี่ยนสี,เหงื่อไหลออกจากหน้าผากเม็ดใหญ่.

ไม่ใช่แค่แข็งแกร่งแล้ว.

นี่คือโคตรแข่งแกร่งไปแล้ว!

ในเวลานี้,ผู้เข้าแข่งขันเข้าใจในที่สุด,ทำไมสนามแดนสามผู้เข้าร่วมแข่งขันคนอื่น ๆถึงได้พ่ายแพ้นอนกองเต็มไปหมด.

เวลานี้เหลือผู้เข้าแข่งขันสี่คนแล้ว.

หมัดของเย่ซิงเฉินยังคงไร้เทียมทาน,เอาชนะคู่ต่อสู้เพียงหมัดเดียว,และเข้าสู่รอบชิง.

เหล่าผู้ชมที่มุมปากกระตุกครั้งแล้วครั้งเล่า.

การแข่งขันหนึ่งต่อหนึ่งทุกคู่ที่ผ่านมา,ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งที่ไม่ได้ใช้กระบวนท่าที่สอง ก็ได้ชัยชนะแล้ว,นี่คือยอดฝีมือไร้เทียมทานของสนามนี้เลยก็ว่าได้!

“เฮ้อ.”

จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมาเอ่ยออกไปว่า,”การประลองการแข่งขันสำนัก,การส่งศิษย์เข้าร่วมครั้งนี้,เสียเวลาจริง ๆ.”

”......”

เหล่าผู้ชมที่นั่งอยู่ใกล้ ๆรู้สึกขุ่นเคืองเป็นอย่างมาก.

แต่ไม่สามารถทำอะไรได้.

กับความแข่งแกร่งของศิษย์อีกฝ่าย,ที่เผยความโอ้อวดออกมาเช่นนั้นทำให้พวกเขาได้แต่มอง.

ยิ่งการแข่งขันตั้งแต่เริ่มต้น,เย่ซิงเฉินแทบจะจัดการคู่ต่อสู้เพียงแค่กระบวนท่าเดียว,ไม่ต้องบอกเลยว่าน่าเกรงขามขนาดใหน.

เหล่าชาวยุทธ์มนทลปิงหยางเวลานี้เลิกหวังเป็นผู้ชนะเลิศได้เลย,เพราะว่าพวกเขารู้แล้วว่า,ต้องเป็นศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งอย่างไม่ต้องสงสัย,ที่คิดได้ตอนนี้,ในรอบสุดท้ายคู่ต่อสู้จะรับมือเขาได้มากกว่าสองกระบวนท่าหรือไม่?!

ไม่เป็นไปตามที่พวกเขาปรารถนา.

เพราะเมื่อการต่อสู้ชิงชนะเลิศเริ่มขึ้น,เย่ซิงเฉินก็เอาชนะ ศิษย์ยุทธ์ขั้นที่เก้าเพียงการโจมตีเดียว.

งานประลองยุทธ์สำนักของมนทลปิงหยางก็จบลง.

เจ้าเมืองสุ่ยหยางที่ประกาศผู้ชนะเลศอย่างเป็นทางการ,ผู้เข้าชมกว่า 200,000 ที่เผยท่าทางผิดหวังอยู่เล็กน้อย.

การแข่งขันประลองยุทธ์สำนักที่คึกครืนในอดีตของมนทลปิงหยาง,สีสันที่เคยมี,เสียงร้องตะโกนดังกึกก้อง,เวลานี้ดูจืดชืดและจบลงอย่างรวดเร็ว.

ไม่มีอะไรสนุกเลย!

ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นแม้แต่น้อย.

การประลองในครั้งนี้.

อย่างน้อยก็มีการโจมตีถึงหนึ่งครั้ง.

การประลองยุทธ์สำนักของมนทลชิงหยาง,เซียวจุ้ยจื่อที่ได้รับชัยชนะเลิศครั้งนั้นไม่ได้โจมตีด้วยซ้ำ!

......

“ติ๊ง! ภารกิจสนับสนุนสำเร็จ,โฮสน์ได้รับแต้ม 500 “

“ติ๊ง! คะแนนสนับสนุนสำนัก : 1155 / 1000.”

“ติ๊ง! คะแนนสนับสนุนเกิน.....”

“ติ๊ง! โฮสน์ทำภารกิจสำนักสำเร็จ,ได้รับรางวัลเป็นน้ำยาเปลี่ยนพรสวรรค์ขั้นสุดยอด.”

วิ้ง วิ้ง.

รางวัลสำหรับภารกิจระดับสูงถือว่ามากมายทีเดียว.

จุนซ่างเซียวที่ลุกขึ้น,กวาดตามองผู้ชมรอบ ๆยกมือประสานเอ่ยออกมาว่า,”ขอบคุณทุกท่านที่รับเชิญ,มอบตำแหน่งชัยชนะเลิศให้กับสำนักไท่กู่เจิ้งในครั้งนี้.”

หากว่าคนที่มีเชาว์ปัญญาได้ยินคำว่า มอบตำแหน่งชัยนะให้นั้น,ถือว่าเป็นการตบหน้าคนของมนทลปิงหยางอย่างรุนแรง,จนทำให้พวกเขารู้สึกหน้าชาขึ้นมาเหมือนกัน.

ไม่อยากเชื่อ,ทั้งที่คิดว่าศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งจะตกรอบแรก?

ท้ายที่สุด?

กับได้ตำแหน่งชัยชนะเลิศ.

......

ภายใต้สายตา 200,000 คนที่จับจ้องมอง,เย่ซิงเฉินที่ได้รับทักษะระดับสูงและศิลาวิญญาณ 100 ก้อน.

จากนั้น,การประลองสำนักครั้งนี้ก็เสร็จสิ้นอย่างเป็นทางการ.

สำนักนอกมนทลได้ชัยชนะเลิศ,แน่นอนว่าเรื่องนี้เหยียบย่ำความรู้สึกของทุกคนทั่วมนทลปิงหยางยิ่งนัก.

สำนักไท่กู่เจิ้ง,นับจากนี้จะต้องกลายเป็นหัวข้อพูดคุยให้กับทุกคนอย่างแน่นอน.

จุนซ่างเซียวที่นำเย่ซิงเฉินออกจากสนามแข่งขันและเดินทางกลับสำนัก.

สำนักระดับแปดจากดินแดนระดับเก้าเดินทางมายังมนทลปิงหยาง,แววตาของทุกคนที่เต็มไปด้วยความดูแคลนเหยียดหยัน,ตอนนี้กับเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น.

การต่อสู้ตะลุมบอนรอบแรกที่คว่ำผู้ต่อสู้ไป 300 คน,จากนั้นก็เอาชนะผู้เข้าร่วมคนอื่น ๆเพียงกระบวนท่าเดียว,เรื่องนี้ทำให้ทุกคนรู้สึก หวาดผวาขึ้นมาเช่นกัน!

ทีน่าเกรงขามที่สุดนั้น,ก็เพราะเอาชนะด้วยกระบวนท่าเดียวนี่เอง.

......

“เจ้าคนน่ารังเกียจ!

เจ้าสำนักน้อยสำนักอี้โชวที่ขี่เสือดาวลายดำเดินอยู่บนถนนในป่าเขา,แววตาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว.

“เจ้าสำนักน้อย.”

ศิษย์คนหนึ่งเอ่ยออกมาว่า,”พวกเรา,จะไปจัดการสำนักไท่กู่เจิ้งจริง ๆ รึ?”

เจ้าสำนักน้อยกล่าวด้วยความโกรธ.”เจ้าคนนั้นเอาชนะเลิศการแข่งขัน,ความแข็งแกร่งเหนือกว่าข้ามาก,หากพวกเราลงมือไม่ใช่ว่าแส่ไปให้อีกฝ่ายทุบเอาหรอกรึ?”

ที่หน้าประตูเมืองเขารู้สึกขายหน้า ยากจะยอมรับ,ตัดสินใจเมื่อการประลองจบลง,จะไปจัดการสั่งสอนคนสำนักไท่กู่เจิ้งด้านนอกเมือง.

ทว่าพวกเขาได้เห็นแล้วว่าเย่ซิงเฉินที่ได้ชัยชนะเลิศนั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก,ทำให้เขาเลิกล้มความคิด.

ความแข่งแกร่งที่ไร้เทียมทานนั่น,ตัวเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย!

ชิ.

บัญชีนี้,นายน้อยผู้นี้จะจำเอาไว้,หากพบกันครั้งหน้า,แน่นอน....

“โฮกกกกก!

เพียงไม่นานจากนั้น,เสียงคำรามที่ดังกึกก้องดังไปทั่วป่าเขา.

เสือดาวลายดำเวลานี้ดวงตาสั่นไหว,ร่างกายถึงกับสั่นสะท้าน.

เจ้าสำนักน้อยสำนักอี้โชวที่ใบหน้าเปลี่ยนสี.

เสียงคำรามนี้มาจากพยัคฆ์อย่างแน่นอน,นอกจากนี้ยังไม่ใช่พยัคฆ์ธรรมดา,เสียงคำรามที่ทรงพลังนี้น่าเกรงขามยิ่งนัก!

“ฟิ้ว!

พยัคฆ์ขนสีม่วงที่พุ่งออกมาจากพงหญ้า,หล่นลงที่ด้านหน้าพวกเขาไม่ไกลออกไป.

แฮกกก! แฮกกก!

ร่างกายสีม่วงที่งดงามมีประกายสายฟ้าที่แล่นไปทั่วร่าง.

เจ้าสำนักน้อยและศิษย์ที่ดวงตาเบิกกว้างกลมโตขึ้นมาทันที.

...”

จุนซ่างเซียวที่นั่งอยู่บนหลัง,เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม,”โอ้ว,นั่นไม่ใช่นายน้อยที่พบที่หน้าประตูเมืองหรอกรึ? คาดไม่ถึงเลยว่าจะมาพบกันที่ป่าเขาที่รกร้างเช่นนี้.”

“โฮกกกกก!

พยัคฆ์หนุ่มสายฟ้าม่วงที่เงยหน้าคำรามดังกึกก้อง,พลังคำรามที่ไม่ธรรมดาแม้แต่น้อย.

“พรึด โครม!

เสือดาวลายดำที่เวลานี้,สั่นอย่างรุนแรง,แม้แต่หมอบราบลงบนพื้น,เจ้าสำนักน้อยอี้โชวเองก็ไม่ต่างกัน.

พยัคฆ์หนุ่มสายฟ้าม่วงที่จ้องมองพวกเขาด้วยสายตาเหยียดหยัน,ก่อนที่จะพาเจ้านายของมันจากไป.

เจ้าสำนักน้อยที่นั่งสั่นอยู่บนพื้น,รู้สึกขนทั่วร่างลุกตั้งชูชันหนังหัวชาหนึบ,จ้องมองดูพยัคฆ์ร้ายจากไป,ด้วยแววตาไม่อยากเชื่อ,”นี่มัน,ม่วง...พยัคฆ์สายฟ้าม่วง!


ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times

#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
Author(s)
Goodbye Jianghu


เข้ากลุ่มลับ VIP ====> Click


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น