Strongest Sect of All Times Chapter 242 The relaxedness wins the champion
นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล
Chapter 242 The relaxedness wins the
champion
轻轻松松拿冠军
การประลองในมนทลปิงหยางนั้น,รอบแรก,เป็นการต่อสู้เอาตัวรอดเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง,เย่ซิงเฉินอยู่สนามการต่อสู้ที่สาม
ล้มคู่ต่อสู้ทุกคน,และเข้าสู่รอบสอง.
ส่วนสนามการต่อสู้อื่น ๆ เวลานี้ ยังคงต่อสู้กันอยู่.
จนกระทั่งการต่อสู้ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง,คนกว่าสามสิบคนที่เข้าสู่รอบสอง.
เมื่อพวกเขาก้าวออกมา,เห็นสนามการต่อสู้ที่สามที่มีคนนอนเกลื่อนกลาด,ถึงกับตื่นตะลึงกันไปตาม
ๆ กัน.
ด้วยสนามทั้งแปดไม่สามารถมองเห็นกันได้,และพวกเขาก็ต้องทุ่มสมาธิจัดการคนอื่น,ทำให้ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นไม่สามารถมองเห็นเย่ซิงเฉินจัดการคนอื่น
ๆได้.
ไม่เห็นนับว่าดีแล้ว.
ไม่เช่นนั้น,จะยิ่งตื่นตะลึงมากกว่านี้แน่นอน.
แม้แต่ไม่คิดที่จะฝันถึงตำแหน่งชนะเลิศได้เลย.
การต่อสู้รอบแรกจบลงแล้ว.
ผู้เข้าร่วมแข่งขันที่ได้พักชั่วขณะ,ซึ่งรอบต่อไปจะเป็นการจับคู่ต่อสู้
หนึ่งต่อหนึ่ง.
การต่อสู้แบบตะลุมบอน,คนที่เหลือรอดล้วนแต่มีระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่ห้าขึ้นไป,ดังนั้น,การต่อสู้รอบที่สองแน่นอนว่าจะต้องสุดยอดเป็นอย่างมาก.
ทว่า.
หลังจากศิษย์สำนักเหอซาน จับได้เย่ซิงเฉินเป็นคู่ต่อสู้,เหล่าตัวตนระดับสูงของสำนักแทบทรุดลงไปกับเก้าอี้.
ซวยยิ่งนัก.
อย่าว่าแต่จัดการอีกฝ่ายเลย,ศิษย์ของตนมีระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นหก,มีแต่จะถูกทุบตีเท่านั้น.
“รอบที่สอง,คู่แรก!”
เสียงกรรมการตะโกนเสียงดัง.
เย่ซิงเฉินและศิษย์สำนักเหอซานขึ้นเวที.
“เริ่ม!”
“ฟิ้ว!”
ศิษย์สำนักเหอซานที่พุ่งเข้าไปก่อน,ด้วยก้าวกระเรียนและหมัดกระเรียนที่รวดเร็ว.
หากเปลี่ยนเป็นในอดีต,สำหนักเหอซานแน่นอนว่าศิษย์คนนี้ของพวกเขาถือว่าเป็นสุดยอดพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม,ทว่าในเวลานี้ทุกคนได้แต่เผยความเห็นใจ.
ต่อหน้าฝ่ายตรงข้ามที่แข็งแกร่งกว่ามาก,ไม่ว่าทักษะอะไรก็ไร้ประโยชน์!
เป็นความจริง.
แม้นว่าจะใช้ท่าเท้ากระเรียนที่พริ้วไหว,หมัดกระเรียนที่รวดเร็วปล่อยออกไปจนแทบมองไม่เห็น,ทว่าหมัดของเย่ซิงเฉินต่อยออกมาเพียงหมัดเดียว,อีกฝ่ายถึงกับหมดสติไปในทันที.
“รวดเร็วมาก!”
“คาดไม่ถึงว่าศิษย์สำนักเหอซานจะพ่ายแพ้ในทันที!”
“เด็กคนนั้นแข็งแกร่งมาก!”
ผู้เข้าร่วมแข่งขัน 30
คนที่จ้องมองด้วยความจริงจัง.
การต่อสู้รอบที่สอง,หลังจากต่อสู้ไปสองชั่วโมง,ก็มีคนเข้ารอบ
16 คน,จากนั้นก็มีการจับสลากการแข่งขันอีกครั้ง.
“พรึด โครม!”
บนเวทีการแข่งขัน,ผู้ฝึกยุทธ์,ระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นเจ็ด,โดนเย่ซิงเฉินต่อยล่วงไปอีกคนแล้ว.
“ผู้ชนะ,เย่ซิงเฉิน!”
“พรึด โครม!”
“ผู้ชนะ,เย่ซิงเฉิน!”
แปดคนเหลือสี่คน,ผู้เข้าร่วมแข่งขันคนอื่น
ๆเมื่อจ้องมอง เย่ซิงเฉิน,ทำให้พวกเขาถึงกับหน้าเปลี่ยนสี,เหงื่อไหลออกจากหน้าผากเม็ดใหญ่.
ไม่ใช่แค่แข็งแกร่งแล้ว.
นี่คือโคตรแข่งแกร่งไปแล้ว!
ในเวลานี้,ผู้เข้าแข่งขันเข้าใจในที่สุด,ทำไมสนามแดนสามผู้เข้าร่วมแข่งขันคนอื่น
ๆถึงได้พ่ายแพ้นอนกองเต็มไปหมด.
เวลานี้เหลือผู้เข้าแข่งขันสี่คนแล้ว.
หมัดของเย่ซิงเฉินยังคงไร้เทียมทาน,เอาชนะคู่ต่อสู้เพียงหมัดเดียว,และเข้าสู่รอบชิง.
เหล่าผู้ชมที่มุมปากกระตุกครั้งแล้วครั้งเล่า.
การแข่งขันหนึ่งต่อหนึ่งทุกคู่ที่ผ่านมา,ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งที่ไม่ได้ใช้กระบวนท่าที่สอง
ก็ได้ชัยชนะแล้ว,นี่คือยอดฝีมือไร้เทียมทานของสนามนี้เลยก็ว่าได้!
“เฮ้อ.”
จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมาเอ่ยออกไปว่า,”การประลองการแข่งขันสำนัก,การส่งศิษย์เข้าร่วมครั้งนี้,เสียเวลาจริง
ๆ.”
”......”
เหล่าผู้ชมที่นั่งอยู่ใกล้
ๆรู้สึกขุ่นเคืองเป็นอย่างมาก.
แต่ไม่สามารถทำอะไรได้.
กับความแข่งแกร่งของศิษย์อีกฝ่าย,ที่เผยความโอ้อวดออกมาเช่นนั้นทำให้พวกเขาได้แต่มอง.
ยิ่งการแข่งขันตั้งแต่เริ่มต้น,เย่ซิงเฉินแทบจะจัดการคู่ต่อสู้เพียงแค่กระบวนท่าเดียว,ไม่ต้องบอกเลยว่าน่าเกรงขามขนาดใหน.
เหล่าชาวยุทธ์มนทลปิงหยางเวลานี้เลิกหวังเป็นผู้ชนะเลิศได้เลย,เพราะว่าพวกเขารู้แล้วว่า,ต้องเป็นศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งอย่างไม่ต้องสงสัย,ที่คิดได้ตอนนี้,ในรอบสุดท้ายคู่ต่อสู้จะรับมือเขาได้มากกว่าสองกระบวนท่าหรือไม่?!
ไม่เป็นไปตามที่พวกเขาปรารถนา.
เพราะเมื่อการต่อสู้ชิงชนะเลิศเริ่มขึ้น,เย่ซิงเฉินก็เอาชนะ
ศิษย์ยุทธ์ขั้นที่เก้าเพียงการโจมตีเดียว.
งานประลองยุทธ์สำนักของมนทลปิงหยางก็จบลง.
เจ้าเมืองสุ่ยหยางที่ประกาศผู้ชนะเลศอย่างเป็นทางการ,ผู้เข้าชมกว่า
200,000 ที่เผยท่าทางผิดหวังอยู่เล็กน้อย.
การแข่งขันประลองยุทธ์สำนักที่คึกครืนในอดีตของมนทลปิงหยาง,สีสันที่เคยมี,เสียงร้องตะโกนดังกึกก้อง,เวลานี้ดูจืดชืดและจบลงอย่างรวดเร็ว.
ไม่มีอะไรสนุกเลย!
ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นแม้แต่น้อย.
การประลองในครั้งนี้.
อย่างน้อยก็มีการโจมตีถึงหนึ่งครั้ง.
การประลองยุทธ์สำนักของมนทลชิงหยาง,เซียวจุ้ยจื่อที่ได้รับชัยชนะเลิศครั้งนั้นไม่ได้โจมตีด้วยซ้ำ!
......
“ติ๊ง!
ภารกิจสนับสนุนสำเร็จ,โฮสน์ได้รับแต้ม 500 “
“ติ๊ง! คะแนนสนับสนุนสำนัก
: 1155 / 1000.”
“ติ๊ง!
คะแนนสนับสนุนเกิน.....”
“ติ๊ง!
โฮสน์ทำภารกิจสำนักสำเร็จ,ได้รับรางวัลเป็นน้ำยาเปลี่ยนพรสวรรค์ขั้นสุดยอด.”
วิ้ง วิ้ง.
รางวัลสำหรับภารกิจระดับสูงถือว่ามากมายทีเดียว.
จุนซ่างเซียวที่ลุกขึ้น,กวาดตามองผู้ชมรอบ
ๆยกมือประสานเอ่ยออกมาว่า,”ขอบคุณทุกท่านที่รับเชิญ,มอบตำแหน่งชัยชนะเลิศให้กับสำนักไท่กู่เจิ้งในครั้งนี้.”
หากว่าคนที่มีเชาว์ปัญญาได้ยินคำว่า
มอบตำแหน่งชัยนะให้นั้น,ถือว่าเป็นการตบหน้าคนของมนทลปิงหยางอย่างรุนแรง,จนทำให้พวกเขารู้สึกหน้าชาขึ้นมาเหมือนกัน.
ไม่อยากเชื่อ,ทั้งที่คิดว่าศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งจะตกรอบแรก?
ท้ายที่สุด?
กับได้ตำแหน่งชัยชนะเลิศ.
......
ภายใต้สายตา 200,000
คนที่จับจ้องมอง,เย่ซิงเฉินที่ได้รับทักษะระดับสูงและศิลาวิญญาณ 100 ก้อน.
จากนั้น,การประลองสำนักครั้งนี้ก็เสร็จสิ้นอย่างเป็นทางการ.
สำนักนอกมนทลได้ชัยชนะเลิศ,แน่นอนว่าเรื่องนี้เหยียบย่ำความรู้สึกของทุกคนทั่วมนทลปิงหยางยิ่งนัก.
สำนักไท่กู่เจิ้ง,นับจากนี้จะต้องกลายเป็นหัวข้อพูดคุยให้กับทุกคนอย่างแน่นอน.
จุนซ่างเซียวที่นำเย่ซิงเฉินออกจากสนามแข่งขันและเดินทางกลับสำนัก.
สำนักระดับแปดจากดินแดนระดับเก้าเดินทางมายังมนทลปิงหยาง,แววตาของทุกคนที่เต็มไปด้วยความดูแคลนเหยียดหยัน,ตอนนี้กับเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น.
การต่อสู้ตะลุมบอนรอบแรกที่คว่ำผู้ต่อสู้ไป 300
คน,จากนั้นก็เอาชนะผู้เข้าร่วมคนอื่น
ๆเพียงกระบวนท่าเดียว,เรื่องนี้ทำให้ทุกคนรู้สึก หวาดผวาขึ้นมาเช่นกัน!
ทีน่าเกรงขามที่สุดนั้น,ก็เพราะเอาชนะด้วยกระบวนท่าเดียวนี่เอง.
......
“เจ้าคนน่ารังเกียจ!”
เจ้าสำนักน้อยสำนักอี้โชวที่ขี่เสือดาวลายดำเดินอยู่บนถนนในป่าเขา,แววตาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว.
“เจ้าสำนักน้อย.”
ศิษย์คนหนึ่งเอ่ยออกมาว่า,”พวกเรา,จะไปจัดการสำนักไท่กู่เจิ้งจริง
ๆ รึ?”
เจ้าสำนักน้อยกล่าวด้วยความโกรธ.”เจ้าคนนั้นเอาชนะเลิศการแข่งขัน,ความแข็งแกร่งเหนือกว่าข้ามาก,หากพวกเราลงมือไม่ใช่ว่าแส่ไปให้อีกฝ่ายทุบเอาหรอกรึ?”
ที่หน้าประตูเมืองเขารู้สึกขายหน้า ยากจะยอมรับ,ตัดสินใจเมื่อการประลองจบลง,จะไปจัดการสั่งสอนคนสำนักไท่กู่เจิ้งด้านนอกเมือง.
ทว่าพวกเขาได้เห็นแล้วว่าเย่ซิงเฉินที่ได้ชัยชนะเลิศนั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก,ทำให้เขาเลิกล้มความคิด.
ความแข่งแกร่งที่ไร้เทียมทานนั่น,ตัวเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย!
ชิ.
บัญชีนี้,นายน้อยผู้นี้จะจำเอาไว้,หากพบกันครั้งหน้า,แน่นอน....
“โฮกกกกก!”
เพียงไม่นานจากนั้น,เสียงคำรามที่ดังกึกก้องดังไปทั่วป่าเขา.
เสือดาวลายดำเวลานี้ดวงตาสั่นไหว,ร่างกายถึงกับสั่นสะท้าน.
เจ้าสำนักน้อยสำนักอี้โชวที่ใบหน้าเปลี่ยนสี.
เสียงคำรามนี้มาจากพยัคฆ์อย่างแน่นอน,นอกจากนี้ยังไม่ใช่พยัคฆ์ธรรมดา,เสียงคำรามที่ทรงพลังนี้น่าเกรงขามยิ่งนัก!
“ฟิ้ว!”
พยัคฆ์ขนสีม่วงที่พุ่งออกมาจากพงหญ้า,หล่นลงที่ด้านหน้าพวกเขาไม่ไกลออกไป.
แฮกกก! แฮกกก!
ร่างกายสีม่วงที่งดงามมีประกายสายฟ้าที่แล่นไปทั่วร่าง.
เจ้าสำนักน้อยและศิษย์ที่ดวงตาเบิกกว้างกลมโตขึ้นมาทันที.
”...”
จุนซ่างเซียวที่นั่งอยู่บนหลัง,เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม,”โอ้ว,นั่นไม่ใช่นายน้อยที่พบที่หน้าประตูเมืองหรอกรึ?
คาดไม่ถึงเลยว่าจะมาพบกันที่ป่าเขาที่รกร้างเช่นนี้.”
“โฮกกกกก!”
พยัคฆ์หนุ่มสายฟ้าม่วงที่เงยหน้าคำรามดังกึกก้อง,พลังคำรามที่ไม่ธรรมดาแม้แต่น้อย.
“พรึด โครม!”
เสือดาวลายดำที่เวลานี้,สั่นอย่างรุนแรง,แม้แต่หมอบราบลงบนพื้น,เจ้าสำนักน้อยอี้โชวเองก็ไม่ต่างกัน.
พยัคฆ์หนุ่มสายฟ้าม่วงที่จ้องมองพวกเขาด้วยสายตาเหยียดหยัน,ก่อนที่จะพาเจ้านายของมันจากไป.
เจ้าสำนักน้อยที่นั่งสั่นอยู่บนพื้น,รู้สึกขนทั่วร่างลุกตั้งชูชันหนังหัวชาหนึบ,จ้องมองดูพยัคฆ์ร้ายจากไป,ด้วยแววตาไม่อยากเชื่อ,”นี่มัน,ม่วง...พยัคฆ์สายฟ้าม่วง!”
ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times
#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น