วันศุกร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2564

Strongest Sect of All Times Chapter 227 You kill Ah actually!

Strongest Sect of All Times  Chapter 227 You kill Ah actually!

 นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล

Chapter 227 You kill Ah actually!

你倒是杀啊!

 

เคยลิ้มรสความตายหรือไม่?

คำกล่าวนี้,จุนซ่างเซียวที่เคยมีประสบการ,เย่ซิงเฉินเองก็มีประสบการณ์เช่นกัน.

ประสบความตายจริง ๆ,ประสบความตายที่มีไม่กี่คนกลับมาบอก,มันเป็นความลับที่ลึกล้ำ.

น่าเสียดาย.


ที่คนที่ตายส่วนมากไม่เคยมีใครกลับมาบอก.

จุนซ่างเซียวที่ตายและถูกส่งมายังต่างโลก,จึงรู้สึกยินดีกับการมีชีวิตเป็นอย่างมาก.

และยังมีภารกิจที่แทบเป็นไปไม่ได้,ทำให้เขามีความกล้าที่จะเผชิญกับทุกอย่าง.

ทว่าเหล่ามือสังหารดื่มโลหิตตอนนี้ถูกสังหารไม่สามารถสู้ได้,ตอนนี้เริ่มตระหนักถึงรสชาติของความตายแล้ว.

พริบตาเดียวที่คอพวกเขาปรากฏรอยกระบี่,แม้นว่าโลหิตจะยังไม่ไหลออกมา,ทว่าดวงวิญญาณของพวกเขาก็เริ่มหนีออกจากร่างแล้ว.

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเร็วมาก,ไม่สามารถที่จะป้องกันได้,พริบตาเดียวก็รับรู้ถึงความตายเรียบร้อยแล้ว.

“พรึด โครม!”

“พรึด โครม!”

ยอดฝีมือหออินทรีย์ดำ 20 คน,ที่ล้มลงพื้น.

รอยกระบี่ปรากฏบนคอ,โลหิตที่เริ่มพุ่งปูด ๆดันบาดแผลออกมา.

เหล่าคนสำนักมาร,ที่ดูไม่ยี่หร่ากับความตาย,แต่ก็ยังเป็นคนธรรมดา,เมื่ออยู่ต่อหน้าความตายก็หวาดกลัวเช่นกัน.

กับท่าทางก่อนหน้ากับเวลานี้,แตกต่างกันเป็นอย่างมาก....พวกเขาที่รู้สึกหวงแหนชีวิตขึ้นมาในทันที!

“อึก อึก.”

รองหัวหน้าทีมที่กลืนน้ำลายลงเสียงดัง,แววตาที่เผยความหวาดกลัวออกมา,มือทั้งสองที่สั่นไปมาเอง.

ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาพริบตาเดียวก็ตายไปกว่า 20 คนแล้ว,คนที่เหลือ,ย่อมรู้สึกถึงความหวาดกลัวขึ้นมา ตระหนักได้ถึงความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย!

ถึงจะเป็นเจ้าหอ,ยังไม่สามารถทำสำเร็จเลย!

ไม่ใช่ไม่กี่ลมหายใจ,ควรจะเรียกได้ว่าหนึ่งลมหายใจด้วยซ้ำ.

พริบตาเดียวที่กระบี่เย่ซิงเฉินออกจากฝัก,คมกระบี่ที่ส่องแสง,คนกลุ่มหนึ่งก็ตายลง.

ราวกับสายลมแห่งความตายพัดผ่าน.

“ฟิ้ว!

รองหัวหน้าทีมที่เร่งรีบใช้ท่าเท้าที่แข็งแกร่งที่สุดของตัวเองหนีในทันที.

อย่างไรก็ตาม,ขณะเขาเคลื่อนไหวก็จ้องมองไปด้านข้าง,หัวหน้าทีมและคนอื่น ๆ เวลานี้กำลังถูกไล่สังหาร.

ไม่แม้แต่รับมือ!

นักฆ่าดื่มโลหิตกลุ่มใหญ่,ถูกชายหนุ่มวัย 17-18 ปี,บุกทะลวงเพื่อสังหารไป.

โดยเฉพาะหัวหน้าทีมที่แข็งแกร่งที่สุด,ต่อหน้าชายหนุ่มคนดังกล่าว,ไม่แม้แต่มีพลังโต้กลับด้วยซ้ำ!

“ทะลวง!

ทั่วร่างของหลี่ชิงหยางที่ปะทุพลังวิญญาณ,หมุนเคว้งรวมอยู่ที่แขนของเขา,ฝ่ามือสะบั้นภูผาถูกใช้ออกมา,โจมตีหัวหน้าทีมนักฆ่าดื่มโลหิต.

ฝ่ามือที่ทรงพลังราวกับดาบยักษ์,พุ่งตัดผ่านไปยังด้านหน้าสะบั้นอาวุธของอีกฝ่ายขาดออกเป็นสองซีก.

“ตุบ โครมมม!

หัวหน้าทีมที่หลบลี้ได้อย่างเฉียดฉิวขาดจ้องมองไปยังอาวุธของตัวเองที่ขาดเป็นสองท่อน,แววตาของเขาที่ยังเผยสีหน้าไม่อยากเชื่อ.

เจ้าหอ มอบอาวุธระดับสามัญให้กับเขา,กับถูกทำลายด้วยฝ่ามือของผู้เยาว์คนนี้อย่างง่ายดาย,แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!

“พรึด ซี่!

ที่จริง,เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาคนอื่น ๆเองก็มีสภาพไม่ต่างกัน,หลงจื่อหยางที่ใช้หอกผู้พิชิตทะลวงหน้าอกของพวกเขา.

“ปัง!

”อะไรกันสังหารง่ายยิ่งกว่าสัตว์ร้ายซะอีก.”

“พรึด ซี่!

“พรึด ซี่!

ที่อีกมุมหนึ่ง,ซูเซียวโม่และลี่เฟยใช้ก้าวปิศาจ,พร้อมกับกระบี่หานเฟิงตะวัดหั่นคออีกฝั่งด้วยความเร็วสูง.

หลังจากการประลองสำนักจบลง,ทั้งสองก็เคยสังหารมือสังหารเหมือนกัน,แต่ก็รับมือยากเป็นอย่างมากในเวลานั้น,ทว่าเวลานี้กับจัดการได้อย่างง่ายดาย จิตใจที่สุขุมไม่ประหม่าแม้แต่น้อย.

ส่วนจางเหว่ยและอีกหลายคนที่ไม่มีประสับการสังหารคน,ทว่าด้วยอาวุธที่ดีกว่า,สังหารนักฆ่าไปหลายคน,เห็นโลหิตที่สาดกระจาย,ก็ค่อย ๆหายสั่นไปในที่สุด.

ไม่มีใครเกิดมาแล้วดุร้าย,ไม่มีใครเกิดมาแล้วสังหารคนเป็นเลย.

ดังนั้นการสังหารในครั้งนี้,เป็นการมอบประสบการอย่างหนึ่งที่ล้ำค่าให้กับศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้ง.

ส่วนสมาชิกของหอฝนพรำ,พวกเขาที่สังหารผู้คนมาเป็นจำนวนมาก,การสังหารของพวกเขาแทบไม่กระพริบตา.

การถูกปิดล้อมหน้าหลัง.

ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งที่มีอุปกรณ์และความแข็งแกร่งกว่า,ทันทีที่การต่อสู้เริ่มขึ้น,ก็แทบจะเป็นการไล่สังหารอีกฝ่ายเพียงฝ่ายเดียว.

ศิษย์ส่วนหนึ่งที่ถูกนำมาฝึกฝน,ปรับจิตใจให้มั่นคง,สามารถสังหารศัตรูได้,โดยที่ไม่สูญเสียจิตใจของตัวเอง.

ข้าไม่สังหารเจ้า,เจ้าก็จะสังหารข้า.

ดังนั้นนี่คือการฝึกฝนการสังหาร,เพื่อที่จะรักษาชีวิตให้กับตัวเอง.

เรื่องสังหารคน,จุนซ่างเซียวได้ประสบมาตั้งแต่เทือกเขาวายุทมิฬแล้ว,ดังนั้นเวลานี้เขาจึงไม่ได้ลงมือ,ยืนอยู่บนต้นไม้จ้องมองศิษย์ของตัวเอง.

นี่คือการฝึกฝนเรียนรู้,ที่ยากจะหาได้,เพื่อให้พวกเขาปรับตัวเข้ากับโลกนี้ได้.

โลกใบนี้ที่ถือคนที่แข็งแกร่งเป็นใหญ่,เขาไม่ได้ต้องการให้ศิษย์ของตัวเองกระหายโลหิต,ทว่าต้องการให้รู้สึกว่าการสังหารเป็นอย่างไร,เพื่อที่จะไม่ต้องทำให้เสียงานใหญ่เมื่อเวลาที่ต้องลงมือจริง ๆ.

“เจ้าสำนัก! เจ้าสำนัก!

ในเวลานั้น,หลี่ซ่างเทียนที่อุ้มงูพิษวิ่งมา,ร้องตะโกนโหวกเหวก,”ช่วยพี่งูด้วย,ช่วยพี่งูเร็วเข้า!

เห็นงูพิษที่ใบหน้าอาบไปด้วยโลหิต,จุนซ่างเซียวที่กระโดดลงมาจากบนต้นไม้,ก่อนที่จะใส่เม็ดยาฟื้นฟูลงไปในปากของเขา.

เม็ดยาที่เข้าไปในปาก,งูพิษที่บาดเจ็บหนัก,ทันใดนั้นดวงตาก็ลืมขึ้น,ก่อนที่จะพ่นคำพูดออกมาทันที,”หลี่ซ่างเทียน,เจ้าสารเลว,เกือบฆ่าเหล่าจื่อแล้ว!

“ฟื้นแล้ว,ฟื้นแล้ว!

เห็นงูพิษลืมตา,หลี่ซ่างเทียนที่ตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก,แม้อีกฝ่าจะดุร้ายก็ยังคงยิ้มแป้น.

“ฟิ้ว!

จุนซ่างเซียวที่โบกมือออกไป,ส่งกระบี่หานเฟิงให้กับเขา,”หากไม่สังหารให้ได้สักคน,ก็จะผิดต่องูพิษ,ผิดต่อเม็ดยาฟื้นฟูของเปิ่นจั้ว.”

หลี่ซ่างเทียนที่รับกระบี่หานเฟิงมา,แววตาที่ตื่นตกใจ.

คิดถึงพี่งู,ที่ถูกอาวุลับยิงเข้ามาในร่าง,แววตาของเขาที่กลายเป็นดุร้ายขึ้นมาทันที.

“เคร้ง!

หลี่ซ่างเทียนชักกระบี่,ตะโกนออกไปเสียงดัง,”ข้าจะฆ่าคน!

จากนั้น,ก็วิ่งออกไปได้ก้าวหนึ่ง.

จุนซ่างเซียวที่คว้าไหล่เอาไว้และดึงกับมา,พร้อมกับชี้ไปอีกทาง,”เจ้าวิ่งไปผิดทางแล้ว.”

“เจ้าสำนัก!

หลี่ซ่างเทียนที่กล่าวเสียงสั่น,”ข้า....ข้ากลัว....”

“กลัวมารดาเจ้าสิ!

งูพิษที่นั่งอยู่บนพื้น,ตะโกนออกไปเสียงดัง,”เกือบทำให้เหล่าจื่อตายแล้ว,หากสังหารไม่ได้สองคน,กลับไปต้องถูกฝึกสองเท่า!

ได้ยินคำว่า,สองเท่า,สายตาของหลี่ซ่างเทียนกลายเป็นเย็นชา,ยกกระบี่วิ่งออกไปทันที.

งูพิษที่ส่ายหน้าไปมาด้วยท่าทางอักอ่วน,”เจ้าสำนัก หอฝนพรำฝึกฝนเขาอย่างดีแล้ว,แต่เจ้าบ้านี้กลับขี้ขลาดเกินไป.”

จุนซ่างเซียวส่ายหน้าไปมาเอ่ยออกมาว่า,”การสังหารไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย,หลี่ซ่างเทียนหวาดกลัวก็ไม่ใช่เรื่องแปลก.”

งูพิษที่ได้แต่เงียบ.

เขาที่คิดถึงตัวเองในอดีต,เวลานั้นเขาอายุ 14 เพิ่งสังหารคนเป็นครั้งแรก,ต้องใช้เวลานานเหมือนกันถึงจะปรับจิตใจได้.

หลี่ลั่วฉิวยืนอยู่บนต้นไม้,เผยยิ้มออกมา,”เจ้าเด็กที่ช่วยเจ้าเมื่อกี้,วิ่งได้เร็วมาก.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย,”ถือเป็นเมล็ดพันธ์ชั้นดี,หากฝึกฝนอย่างเข้มงวด,จะเป็นสมาชิกที่แข็งแกร่งของหอฝนพรำ.”

“สังหารให้มาก,ก็จะแข็งแกร่งเอง.”หลี่ลั่วฉิวที่หยุดและเอ่ยออกมาว่า,”งูพิษ,หลังจากกลับไป,ฝึกฝนเขาเป็นสองเท่า.

“ครับ.” งูพิษที่กล่าวตอบรับอย่างช่วยไม่ได้.

......

หากไม่ได้ยินคำว่าสองเท่า,หลี่ซ่างเทียนคงไม่วิ่งออกไปอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง

หากรู้ว่าสุดท้ายแล้วก็ยังต้องฝึกสองเท่าอยู่ดี,คงโอดครวญโหยหวนแน่.

“อ๊าก!

หลี่ซ่างเทียนที่วิ่งออกไปอย่างรวดเร็วนั้น,เข้าไปยังกลุ่มของศัตรูที่ถูกล้อมกรอบ.

ในเวลานั้นมือสังหารฝ่ายตรงข้าที่ถูกแยกออกมาโดยเถียนซี่,เขาที่เอ่ยออกไปว่า,”เจ้าสังหารมันซะ.”

“พรึด ซี่!

กระบี่หานเฟิงที่ทะลวงร่างของชายคนดังกล่าว.

โลหิตที่พุ่งกระฉูดอาบหน้าของเถียนซี่ทันที,แทบทำให้เขากลายเป็นบ้า!

มารดาเถอะ อุดส่าให้โอกาส,เล็งให้มันดีหน่อยก็ไม่ได้,โลหิตเต็มหน้าข้าแล้ว,นี่มันเพื่อนร่วมทีมสมองหมูจริง ๆ!

“ฟิ้ว!

หลี่ซ่างเทียนที่ชักกระบี่ออกมา,ร่างที่ไร้วิญญาณดังกล่าวก็ล้มลง.

หลี่ซ่างเทียนที่เวลานี้รู้สึกวิงเวียน,มองเห็นคาบโลหิตรู้สึกอยากเป็นลมขึ้นมา,ท้องใส้ปั่นป่วนเป็นอย่างมาก.

แม่จ๋า.

ข้า....ข้าฆ่าคนแล้ว!

ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!

ในเวลานั้น,ลูกดอกที่ถูกยิงออกมาในทันที.

ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง!

หยางยูหัวที่ก้าวออกมาขวาง,ยกโล่เหล็กกล้าป้องกันเอาไว้,ก่อนที่จะกล่าวออกไปว่า,”ศิษย์น้อง,คนที่ยิงอาวุธลับนั้นมอบให้กับเจ้า!

ฆ่าอีกแล้วรึ?

หลี่ซ่างเทียนที่จ้องมองคาบโลหิต,ทว่าเวลานี้ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สั่นแล้ว!

“ย๊าก!

เขาที่คำรามลั่นก่อนที่จะพุ่งเข้าไป.

ฟิ้ว! ฟิ้ว!

ลูกดอกที่ถูกยิงออกมา.

หลี่ซ่างเทียนที่ใช้ก้าวปิศาจหลบหลีก,ท้ายที่สุดก็มาอยู่ที่ด้านหลังชายคนดังกล่าว,กระบี่หานเฟิงที่ทะลวงร่างเขาอย่างดุร้าย!

“พรึด ซี่!

กระบี่ที่อาบไล้ด้วยพลังวิญญาณ,ก่อนที่จะชักออกมา!


ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times

#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
Author(s)
Goodbye Jianghu


เข้ากลุ่มลับ VIP ====> Click


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น