Strongest Sect of All Times Chapter 220 Participation bidding
นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล
Chapter 220 Participation bidding
参与竞拍
การประมูลของตระกูลอ้าย,เหล่ากลุ่มอิทธิพลที่มากันอย่างคับคั่ง,ที่นั่งบัตรเงินเต็มทุกที่.
คนจำนวนหนึ่งที่มาชมเท่านั้น.
การประมูลนั้นควรจะเป็นของกลุ่มอิทธิพลใหญ่บนชั้นสองที่มีเงินทุนมากมายสู้กัน.
ส่วนบนชั้นสามที่อยู่ในสิ่งก่อสร้างแยกส่วนเอง,ได้ยินมาว่ามีนิกายระดับห้าสองแห่ง,และนิกายระดับสี่วังเมี่ยวฮัวด้วย,ที่เวลานี้ยังเห็นเงียบสงบอยู่.
ในสำนักระดับต่ำ,เพียงแค่นิกายระดับห้าก็ถือว่าเป็นยักษใหญ่แล้ว.
ส่วนในสายตาของนิกายระดับห้า,นับว่าด้อยกว่านิกายระดับสี่,ถึงจะเป็นยักษ์ใหญ่เหมือนกัน.
หากแต่พวกเขาไม่สามารถล่วงเกินได้แน่นอน!
แน่นอน.
ยังมีสำนักระดับหกบางสำนัก,ที่ได้รับบัตรแพลทินัม,อยู่บนชั้นสามเช่นกัน.
อย่างไรก็ตามเพราะว่าเป็นห้องส่วนตัวที่ปกปิด,จึงไม่สามารถแยกได้ว่าใครเป็นใคร,ดังนั้นทุกคนจึงจำเป็นต้องระมัดระวัง,เกรงว่าจะไปยุแหย่พวกเขาโดยไม่ตั้งใจ.
อย่างไรก็ตาม.
ขณะที่พวกเขาจองมองไปยังหน้าต่างห้องหนึ่ง,ก็เห็นจุนซ่างเซียว,แววตาของพวกเขาที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
อาวุโสใหญ่สำนักฉิงเทียน,กองกำลังระดับหก,ที่เผยท่าทางประหลาดใจ,”ศิษย์ของสำนักนั้น,ดูเหมือนคุ้นหน้าคุ้นตาหรือไม่?”
“อาวุโส.”
ศิษย์คนหนึ่งที่กล่าวเสียงเบา,”นั่นคือเจ้าสำนักไท่กู่เจิ้ง,จุนซ่างเซียว.”
“อะไรนะ?”
อาวุโสคนหนึ่งที่โกรธเกรี้ยว,”สำนักระดับแปดกับตีตัวเท่าพวกเราเลยรึ?”
สำนักฉิงเทียนเป็นสำนักระดับหกนอกมนทล,ความแข็งแกร่งนั้นเหนือกว่าสำนักเห่าเทียน,ดั้งนั้นจึงหยิ่งในศักดิ์ศรี,ดังนั้นจะยอมทนให้สำนักไท่กู่เจิ้งนั่งอยู่บนชั้นสามด้วยได้อย่างไร?
ส่วนสำนักอื่นที่อยู่นอกมนทล,รู้ว่าสำนักระดับแปดอยู่บนตึกชั้นสาม,ก็รู้สึกอับอาย,จ้องมองจุนซ่างเซียว,แววตาที่เผยความเหยียดหยัน.
หากว่าที่นี่เป็นถิ่นของตัวเอง,คงขึ้นไปจัดการอีกฝ่ายแล้วเป็นแน่.
สำนักระดับสูงกว่า,ศักดิ์ศรีที่เหนือกว่า,จะยอมให้สำนักวรรณะต่ำกว่า,ยืนค้ำหัวตัวเองได้อย่างไร?
อย่างไรก็ตาม,พวกเขาก็ไม่มีทางเลือก,เพราะว่าเจ้าสำนักจุนนั้นถือบัตรแพลทินัม.
“วิ้ง เซ็งแซ่.”
กับสายตาที่เหยียดหยันดูแคลนจดจ้องมองมายังทิศทางของเขาเป็นจำนวนมาก,จุนซ่างเซียวเอ่ยออกมาว่า,”ดูเหมือนว่า,ข้านั่งอยู่ยังห้องที่ไม่ควรสินะ.”
“ในสายตาของเจ้าสำนักคิดว่าคู่ควรจะอยู่ห้องนี้งั้นรึ?”ลู่เชียนเชียนเอ่ย.
“พวกมันกำลังอิจฉาข้าอยู่สินะ?”
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”มาสิ,มาทุบข้า.”
......
ในเวลานั้นหลังจากที่ทุกกลุ่มอิทธิพลประจำที่แล้ว,อ้ายซ่างหนี่ก็ปรากฏขึ้นที่เวทีตรงกลาง.
เสียงพูดคุยที่เซ็งแซ่,ทันใดนั้นก็หยุดลง.
ประมุขอ้ายที่กล่าวเสียงดัง,”ขอบคุณทุกท่านที่สะละเวลามาร่วมงานประมูลของตระกูลอ้าย.....”
การเดินทางมาครั้งนี้ก็เพื่อซื้อยา,ไม่มีใครเดินทางมาอย่างไร้ประโยชน์,แน่นอน,”จากนี้จะทำการเริ่มประมูลเม็ดยา!”
คำพูดดังกล่าวที่ทุกคนจับจ้องมองเป็นสายตาเดียวกัน.
เหล่ากลุ่มอิทธิพลมากมายที่ปรารถนาในเม็ดยา,แม้แต่ลุกขึ้นยืน.
อ้ายซางหนีที่โบกมือ,นำเม็ดยาฟื้นฟูขึ้นมาบนแท่นเวที,”ความสามารถของเม็ดยาฟื้นฟูนั้นทุกคนคงรู้ดี,ไม่จำเป็นต้องให้อ้ายโหมวอธิบายอีกรอบ,ตอนนี้เริ่มประมูลที่
300,000.”
”300,000?”
จุนซ่างเซียวที่นั่งอยุ่ในห้องรับรอง,เผยท่าทางประหลาดใจออกมา,”แพงขนาดนี้เลยรึ?”
“การประมูลเริ่มได้!”
สิ้นเสียงของอ้ายซางหนี,เหล่ากลุ่มอิทธิพลชั้นสองที่ส่งเสียงดังทันที,”
400,000!”
”500,000!”
นี่เป็นครั้งแรกที่จุนซ่างเซียวเข้าร่วมการประมูล,ที่มุมปากถึงกับกระตุก.
เพียงเริ่มต้นก็ต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย,เพิ่มเป็นสามแสนแล้ว,ดูเหมือนว่าการตัดสินใจร่วมมือกับตระกูลอ้าย,จะเป็นการตัดสินใจที่ดี.
“หนึ่งล้าน!”
ในเวลานั้น,เสียงจากห้องส่วนตัวดังขึ้น,เห็นชัดเจนว่ามาจากปากของซีจิงเสวียน.
จุนซ่างเซียวที่ดวงตาเบิกกว้างกลมโต.
จากห้าแสนกลายเป็นหนึ่งล้านทันที,สตรีผู้นี้อมหิตจริง
ๆ!
เมื่อคิดว่าหากเม็ดยาฟื้นฟูสามารถรักษาตาที่บอดได้,บางที
10 ล้าน,ก็ยังนับว่าถูกมาก.
เห็นการกระทำของนางแล้ว,หากว่าคนอื่นตาบอดเช่นกัน,เมื่อได้ยินว่ามีเม็ดยาที่ต่อต้านสวรรค์อยู่,แน่นอนว่าไม่มีทางที่จะไม่ทุ่มซื้อเอามาให้ได้.
สตรีผู้นี้.
ดูเหมือนว่าคงทำให้เจ้าผิดหวังแล้ว.
ไม่ต้องเอ่ยเลยว่า,เม็ดยานั้นสามารถรักษาตาของนางได้หรือไม่,ทว่าเขตแดนบ่มเพาะของเม็ดยานั้น,ถือว่าเป็นขีดจำกัด.
จุนซ่างเซียวไม่มีทางเชื่อ,ความแข็งแกร่งของเจ้าวัง,วังเมี่ยวฮัวนั้นจะมีระดับเพียงเปิดชีพจรหรือศิษย์ยุทธ์เท่านั้น.
หลังจากที่ซีจิงเสวียนตะโกนออกไปหนึ่งล้าน,ทั่วทั้งโรงประมูลก็เงียบลง,ไม่มีใครกล้าประมูลต่ออีก.
ถึงมีเงิน,ก็ไม่กล้า.
พวกเขารู้ดี,เสียงที่ดังขึ้นนี้เป็นของเจ้าหวังเมี่ยวฮัวแน่นอน,การท้าทายนิกายระดับสี่,ไม่เท่ากับแส่หาความตายหรอกรึ?
จุนซ่างเซียวสีจมูกไปมา,กล่าวออกไปว่า,”ดูจะไม่ดีแล้ว.”
ซีจิงเสวียนที่ตะโกนออกมา 1
ล้าน,ดูเหมือนว่าราคานี้จะไม่มีใครสู้แล้ว.
การแข่งขันกับนิกายระดับห้าขึ้นไปนั้น,ย่อมทำให้ทุกคนระมัดระวังตัว,ถึงพวกเขาจะมีเงินมากกว่านี้ก็ตาม.
อีกอย่าง,เม็ดยา ยังไม่ได้หมายความว่ามีแค่นั้น,พวกเขายังมีรอบต่อไป.
ดังนั้นเหล่าชาวยุทธ์,ยังมีโอกาสในการซื้อในครั้งที่สอง.
ปรกติราคาเริ่มต้นที่ 400,000
ขั้นต่ำควรจะขายไปในราคา 400,000 และสูงสุดก็ควรไม่เกินราคา 800,000.
ดังนั้น,เหล่านิกายใหญ่ต่างก็ไม่ต้องการที่จะใช้จ่ายไปอย่างสุรุ่ยสุร่ายเช่นกัน.
การประมูลในครั้งนี้มีเม็ดยาฟื้นฟูทั้งหมด 20
เม็ด,สำหรับพวกเขาแล้ว,ขอเพียงแค่ซื้อได้หนึ่งในนั้นก็พอ.
ในเวลานั้นไม่มีใครที่จะเพิ่มราคาต่อ,อ้ายซางหนี่ที่ตะโกนออกไปสามครั้ง,ก่อนที่จะเคาะค้อนลงไปบนแท่น,เม็ดยาฟื้นฟูเม็ดแรกขายไปในราคา
1 ล้านเหรียญจากวังเมี่ยวฮัว.
ในความเป็นจริง,เข้ารู้ว่าวังเมี่ยวฮัวเข้าร่วมการประมูลครั้งนี้,ซื้อไปในราคา
400,000 ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว,แต่คาดไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายจะเพิ่มราคาไปจนถึงหนึ่งล้าน,นับว่าได้กำไรที่มหาศาลจริง
ๆ!
“ประมุขอ้าย.”
ซี่จิงเสวียนเอ่ย,”สามารถรับยาได้เลยหรือไม่?”
“ได้,แน่นอน!”
อ้ายซางหนี่ที่เร่งรีบเดินขึ้นไปบนชั้นสามด้วยตัวเอง,พร้อมกับนำเม็ดยาฟื้นฟูบนโต๊ะ.
ราวกับเข้าใจเป้าหมายของนางได้,เขาจึงเอ่ยออกมาว่า,”เจ้าวังซี,เม็ดยานี้เหมาะสำหรับระดับเปิดชีพจรและศิษย์ยุทธ์เท่านั้น.”
“ข้ารู้.”ซีจิงเสวียนเอ่ย.
อ้ายซางหนีที่ไม่รบกวนอีกต่อไป,จากนั้นจึงขอลาจากไปทันที.
“ดูเหมือนกับเม็ดยาธรรมดาทั่วไป,แต่สามารถฟื้นฟูอาการบาดเจ็บได้จริง
ๆ รึ?”เม่ยเอ๋อเผยท่าทางสงสัย.
แม้นว่าซี่จิงเสวียนจะมองไม่เห็น,ทว่านางสามารถสัมผัสการมีอยู่ของเม็ดยาได้,นิ้วที่เรียวงามดั่งหยกสลักได้คีบมันขึ้นมา,กล่าวเสียงเบา,”หวังว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น.”
กล่าวจบ,นางก็ยกใส่ปากที่เรียวงามดั่งรูปเชอรี่,กลืนกินมันไปอย่างรวดเร็ว.
น่าเสียดาย,เม็ดยาที่ถูกใช้ไปแล้ว,นางก็ยังคงอยู่ท่ามกลางความมืดมิดเช่นเดิม.
ซีจิงเสวียนที่เผยท่าทางเศร้าใจ,ก้มหน้าลงด้วยความห่อเหี่ยว,”ไม่ได้ผล....”
“เจ้าวัง!”
เม่ยเอ๋อที่เร่งรีบกล่าวปลอบ,”ประมุขอ้ายก็กล่าวอย่างชัดเจนแล้ว,เม็ดยานี้เหมาะกับระดับเปิดชีพจรและศิษย์ยุทธ์เท่านั้น,การที่ไม่สามารถรักษาได้ก็เป็นเรื่องสมเหตุสมผล.”
“ใช่แล้ว!”
ศิษย์คนดังกล่าวที่กล่าวเสียงดัง,”บางที,นักปรุงยาของตระกูลอ้าย,อาจจะมีวิธีในการรักษาดวงตาของเจ้าวังก็ได้!”
ท่าทางของเศร้าสร้อยของเจ้าวัง,ทันใดนั้นก็ดูเหมือนจะมีกำลังใจขึ้นมาทันที.
“มีเหตุผล!”
ซีจิงเสวียนที่เงยหน้า,ยิ้มอย่างสดใส.
“ฟู่!”
ทุกคนที่รู้สึกผ่อนคลายขึ้น.
จุนซ่างเซียวที่อยู่ห้องฝั่งตรงข้าม,กล่าวเสียงเบา,”สตรีผู้นี้คงจะกินเม็ดยาไปแล้ว,ดูเหมือนว่าคงจะไม่ได้ผล,ต้องรู้สึกผิดหวังอย่างแน่นอน.”
“เกี่ยวอะไรกับเจ้าสำนักล่ะ?”ลู่เชียนเชียนที่กล่าวแทรกในทันที.
“เอิ่ม.”
จุนซ่างเซียวที่ตกใจเอ่ยออกมาทันที,”ก็ไม่เกี่ยวล่ะนะ.”
......
ประมุขอ้ายที่กลับมายังแท่นประมูล,เริ่มทำการประมูลต่อ.
จากนั้นเม็ดยาเม็ดที่สอง,ตึกที่สามนิกายระดับห้าห้องหนึ่งตะโกนออกไป
400,000 เหรียญ.
เหล่ากลุ่มอิทธิพลอีกหลายแห่งถึงกับต้องหยุดคำพูด.
นิกายระดับสี่ไม่สามารถท้าทายได้,นิกายระดับห้าเองก็เช่นเดียวกัน.
ไม่มีใครประมูลต่อ,ประมุขอ้ายที่ลอบถอนหายใจ.
เป็นไปตามคาด,400,000
หากว่านิกายระดับสี่หรือนิกายระดับห้าเสนอราคา,ก็จะทำให้ทุกคนไม่กล้าสู้.
“นิกายหงอวิ๋น,400,000 ครั้งที่ 1.”
“นิกายหงอวิ๋น,400,000 ครั้งที่ 2.”
“นิกายหงอวิ๋น,400,000 ......”
ขณะที่ประมุขอ้ายกำลังจะยกค้อนขึ้นทุบลงนั้น,เสียงบนชั้นที่สามก็ดังขึ้น,”
500,000.”
กึก.
อ้ายซ่างหนี่ที่จ้องมองตาค้าง.
เพราะคนที่เสนอราคานั้นก็คือ,เจ้าสำนักจุน!
ปล.อีกสามตอนลงวันนี้ครับ แต่อาจจะดึกหน่อย
ออกไปธุระแป๊บเดี๋ยวกลับมาแปลต่อให้ครับ.
ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times
#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น