Strongest Sect of All Times Chapter 205 All killed 【Fourth】
นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล
Chapter 205 All killed 【Fourth】
全杀了【第四更】
เมื่อรองเจ้าหอกล่าวว่าแส่หาความตาย,เหล่าศิษย์หออินทรีย์ดำก็เข้าล้อมกรอบ
ปิดทางทุกจุดเอาไว้.
พวกเขาที่จ้องมองไปยังหลี่ชิงหยางและคนอื่น ๆที่ส่วนมากอยู่ในระดับศิษย์ยุทธ์ก็เผยสีหน้าเหยียดหยันออกมา.
พวกเขาที่จ้องมองว่ากำลังล้อมรอบ,ลูกไก่ในกำมือ,อยากสังหารเมื่อไหร่ก็ได้.
หลี่ชิงหยางและคนอื่น ๆที่ทิ้งไม้เนื้อย่างลงพื้น,ปากที่เคี้ยวเนื้อและกลืนมันลงคอ,ส่ายหน้าไปมาราวกับรู้สึกช่วยไม่ได้.
แม้แต่การไปหาประสบการในหุบเขาแห่งความตาย,พวกเขาก็ไม่เคยรู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย.
ลำพัง.
คำเหล่านี้ถึงจะมีมากกว่า 60
คน,แต่กลิ่นอายที่แผ่ออกมานั้น,เฉลี่ยแล้วมีระดับศิษย์ยุทธ์ในระดับสองระดับสาม,จำนวน้อยกว่าหมาป่าเพลิงชาติด้วยซ้ำ.
รองเจ้าหอเอ่ยกล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล,”เจ้าสำนักจุน,เจ้ามีศิษย์เหลือเพียง
20 คนไม่เห็นใจคนที่เหลืออยู่อย่างงั้นรึ?”
“เห็นใจอย่างงั้นรึ?”
จุนซ่างเซียวเอ่ยด้วยความสงสัย,”หมายความว่าอย่างไร?”
รองเจ้าหอกล่าวด้วยรอยยิ้ม,”ข้าหมายความว่า,เจ้าพาศิษย์มากมายไปตายในหุบเขาแห่งความตาย,พวกที่โชคดีหนีรอดมาได้,เจ้ายังต้องการให้พวกเขาตกตายไปทั้งหมดไม่เหลือเลยงั้นรึ?.”
จุนซ่างเซียวที่เข้าใจในที่สุด.
อีกฝ่ายคงคิดว่าเขานำศิษย์มากมายไปหาประสบการณ์ด้านในหุบเขาแห่งความตาย,และที่เหลือตอนนี้คือผู้รอดชีวิต.
ไม่ผิด.
นั่นเป็นเรื่องปรกติทั่วไป.
รองเจ้าหอดูเหมือนว่าจะรีบเร่งไล่ตามพวกเขามา,คงถามเพียงระดับสำนัก,โดยไม่ได้ถามว่าเข้าไปในหุบเขาแห่งความตายกี่คน.
สำนักระดับแปดที่เข้าไปในหุบเขาแห่งความตาย,อย่างน้อยก็ต้องนำศิษย์มาร้อยคนเป็นอย่างต่ำ,เพื่อร่วมมือสังหารสัตว์ร้าย.
ยกตัวอย่างพวกเขาเอง
นำศิษย์มามากกว่าหกสิบคน,หลังจากเข้าไปแล้ว,คงมีชีวิตเหลือเพียงครึ่งก็นับว่าโชคดีแล้ว.
ส่วนอีกฝ่าย.
สำนักไท่กู่เจิ้งคงนำศิษย์มากว่า 100
คน,เหลือชีวิตรอด 20-30 คน,นี่คือคนที่โชคดีรอดชีวิตออกมาได้.
นี่คือสิ่งที่รองเจ้าหออินทรีย์ดำคาดเดาเอาไว้ในใจ.
หากพวกเขารู้ว่าศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งแท้จริงแล้วเข้าไปเพียง
25 คน,ออกมา 25 คน,ต้องตื่นตะลึงแน่.
“มีปัญหาอะไร?”
จุนซ่างเซียวสีจมูก,กล่าวออกไปว่า,”จากที่ได้ฟังความหมายของเจ้า,ต้องการสังหารศิษย์เปิ่นจั้วอย่างงั้นรึ?”
รองเจ้าหอที่เผยยิ้มอย่างมืดครึ้ม,”หากว่าเจ้าสำนักจุนร่วมมือเป็นอย่างดี,ยอมมอบทุกอย่างที่ได้มา,แน่นอนพวกเราจะปล่อยให้กลับบ้านอย่างปลอดภัย.”
“นี่เจ้าข่มขู่เปิ่นจั้วอย่างงั้นรึ?”จุนซ่างเซียวกล่าวด้วยท่าทางจริงจัง.
รองเจ้าหอเอ่ย,”เป็นเช่นนั้น.”
สำนักมารที่กระทำการอย่างเปิดเผย,การกระทำทุกอย่างตามใจตัวเอง,ไม่จำเป็นต้องปิดบังความต้องการใด
ๆ.
“ไม่ได้ยินรึ?.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”หออินทรีย์ดำต้องการสังหารพวกเจ้า.”
“พรึด ฮ่าฮ่าอ่า.”
ซูเซียวโม่ที่หัวเราะเสียงดัง,”เจ้าสำนัก,คนพวกนี้เทียบไม่ได้กับสัตว์ร้ายด้านในหุบเขาแห่งความตาย,จะเอาอะไรมาสังหารพวกเรากัน.”
“ใช่,ใช่.”
หลี่เฟยที่หัวเราะออกมาเช่นกัน,”เทียบไม่ได้แม้แต่สัตว์ร้าย,แต่กับวางกล้ามใหญ่โต.”
เทียบไม่ได้แม้แต่กับสัตว์ร้าย,กับคำพูดดูแคลนเช่นนั้น,รองเจ้าหอที่ใบหน้ากลายเป็นมืดครึ้ง,จิตสังหารที่ปะทะออกมา.
“รองเจ้าหอ.”
ศิษย์ของหออินทรีย์ดำกล่าวด้วยเสียงเย็นชา,”ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งโอหังนัก,รีบ
ๆสังหารพวกมันเถอะ.”
รองเจ้าหอที่กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล,”เจ้าสำนักจุน,ในเมื่อพูดด้วยดี
ๆไม่ยอมทำตาม ก็คงต้องใช้กำลังบังคับ,อย่าตำหนิข้าที่หยาบคาย.”
“กึก ซ่า,กึก ซ่า!”
เหล่าศิษย์หออินทรีย์ดำที่กำหมัดแน่น,ก้าวเดินออกมา,และนำอาวุธออกจากแหวนมิติ.
จิตสังหารของแต่ละคนที่แผ่ออกมาข่มขู่.
“เจ้าสำนักจุน.”
รองเจ้าหอที่ดวงตาหรี่เล็ก,กล่าวด้วยรอยยิ้ม,”หากเจ้ามอบสมบัติออกมา,รองเจ้าหอเช่นข้า,ยังอภัยไว้ชีวิตศิษย์ของเจ้า.”
“โอ้ว,น่ากลัวจริง ๆ.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
“ชิ!”
รองเจ้าหอที่โบกมือ,แววตาเต็มไปด้วยความเย็นชา,”ฆ่าให้หมด.”
“พรึดซี่-“
ริ้วแสงกระบี่ที่เป็นประกายขึ้นมา,โลหิตที่พุ่งกระฉูด.
รองเจ้าหอที่ตกใจ.
ศิษย์ของเขาที่ถูกสังหารไปอย่างรวดเร็ว.
สายตาของเขาที่เหลือกค้างจองมองออกไป,ที่คอปรากฏรอยกระบี่.
เป็นเย่ซิงเฉินที่ลงมือก่อนเพื่อน.
เขาที่สะบัดโลหิตออกจากกระบี่,กล่าวออกมาเล็กน้อย,”ขยะ.”
“ศิษย์น้อง!”
“ศิษย์พี่!”
ในเวลานั้น,ศิษย์หออินทรีย์ดำที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวในทันที,พวกเขาที่แผ่พุ่งพลังลงไปในอาวุธ,จ้องมอง,พุ่งสังหารศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งทันที!
“เคร้ง!”
“เคร้ง!”
หลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อและศิษย์คนอื่น
ๆที่ชักกระบี่,พร้อมกับโจมตีกลับในทันที.
ซ่งหุยและพวกอีกสองคนเองก็นำอาวุธออกมา.
พวกเขาเวลานี้คือศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งแล้ว,ถึงจะยังไม่เป็นทางการก็ตาม,แน่นอนว่าไม่มีทางจะนิ่งดูดายได้.
หากนับเพียงจำนวน,หออินทรีย์ดำเหนือกว่าแน่นอน.
อย่างไรก็ตาม,ต่อหน้าศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้ง,ไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเขาเลย!
“พรึดซี่!”
“พรึดซี่!”
ริ้วกระบี่ที่ถูกปล่อยออกไป,โลหิตต้องสาดกระจาย.
แววตาของรองเจ้าหอที่เบิกกว้างมากขึ้นมากขึ้น,แววตาส่ายไปมา.
เพียงไม่กี่ลมหายใจ,ศิษย์ของเขาหกสิบคน,ถูกสังหารไปกว่า
20 คนแล้ว.
ส่วนศิษย์ของเขายังไม่มีใครทำอะไรอีกฝ่ายได้เลยแม้แต่คนเดียว.
สำนักระดับแปด,ทำไมถึงได้แข็งแกร่งเพียงนี้!
ภาพหลอน?
รองเจ้าหอเหอที่ดวงตาส่ายไปมาอย่างรวดเร็ว.
อย่างไรก็ตาม,ยิ่งเวลาผ่านไปศิษย์ของเขาก็ยิ่งตายไปคนแล้วคนเล่า.
ศิษย์ของสำนักไท่กู่เจิ้งไล่ล่าสังหารอีกฝ่ายอย่างบ้าคลั่ง,จุนซ่างเซียวไม่สนใจแม้แต่น้อย,ศิษย์หออินทรีย์ดำถึงจะมากกว่า
60 คน,เพียงแค่ศิษย์ของเขาก็เกินพอ.
ความจริบ.
ด้อยกว่าหมาป่าเพลิงชาติ....
ไม่,ต้องบอกว่าด้อยกว่าหมาป่าเพลิงปฐพีด้วยซ้ำ.
“น่ารังเกียจ!”
รองเจ้าหอเหอที่ดวงตาแดงซ่าน,พลังบ่มเพาะระดับอาจารย์ยุทธ์ขั้นปลายระเบิดออกมา,เขาที่พุ่งเข้าหาโจมตีจุนซ่างเซียวทันที.
“ฟู่!”
หมัดของอีกฝ่ายที่ต่อยออกมา,พลังที่ปล่อยออกมานั้นน่าจะมีอย่างน้อย
60,000 จิน.
อย่างไรก็ตาม,หมัดที่ต่อยมานั้น,จุนซ่างเซียวที่ยกมือข้างหนึ่งรับสบาย
ๆ.
พลังที่เหนือกว่ากุมหมัดของเขาเอาไว้!
“เจ้า......”
รองเจ้าหอเหอที่จ้องมองตะลึงงัน.
หมัดของเขานั้นไม่มีผลอะไรกับฝ่ามือของอีกฝ่ายที่ยกขึ้นมารับเลย!
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”ไม่ต้องรีบร้อน,ดูไปก่อน.”
ไม่ต้องรีบร้อน,ดูไปก่อน,ดูศิษย์ของเขาถูกสังหารนี้นะ!
รองเจ้าหอเหอที่ตอนนี้พยายามดึงหมัดออกมา,ทว่าไม่ว่าจะพยายามอย่างไรก็ไม่เขยื้อนแม้แต่น้อย.
“พรึด ซี่!”
“พรึด ซี่!”
ศิษย์หออินทรีย์ดำที่ถูกสังหารคนแล้วคนเล่า.
โดยเฉพาะเย่ซิงเฉิน,ที่สังหารไปมากกว่าสิบคนเพียงคน
ๆเดียว,นอกจากนี้ยังไม่หยุดแค่นั้นอีกด้วย.
กับกลุ่มคนที่มีระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นสองขั้นสาม,พวกเขาที่ทำลายฝูงหมาป่าเพลิงชาดมาแล้ว,มีรึที่คนเหล่านี้จะเทียบได้.
น่าสงสาร.
คนของหออินทรีย์ดำที่ไม่รู้ว่าสำนักไท่กู่เจิ้งนั้นร้ายกาจขนาดใหน.
ในเวลานี้เริ่มมีบางคนตระหนักได้แล้ว,พวกเขาที่ขวัญหนีดีฝ่อ,เร่งรีบหนีทันที.
นับเป็นคนที่ฉลาด.
อย่างไรก็ตาม,จุนซ่างเซียวก็สั่งการออกมาอีกครั้ง,”สังหารให้หมด.”
สิ้นเสียงของเจ้าสำนัก,ว่า”สังหารทั้งหมด”
ทุกคนที่กลายเป็นจริงจังทันที.
“ฟิ้ว! “
“ฟิ้ว! “
หลี่ชิงหยางและคนอื่น
ๆปลดปล่อยปราณกระบี่โจมตีศิษย์หออินทรีย์ดำที่หนีไปมากกว่า 20 คนให้ตกตายในทันที.
เพียงไม่นานด้วยซ้ำ.
ศิษย์สำนักมารกว่า 60 คนตายทั้งหมด.
เวลานี้เหลือเพียงรองเจ้าหอที่กำลังสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว.
เขานำศิษย์มาหาประสบการณ์ที่หุบเขาแห่งความตาย,เขาคิดไว้แต่แรกว่าคงมีศิษย์ที่เหลือรอดเพียงครึ่งหนึ่ง,ทว่ายังไม่ได้เข้าไป,...ศิษย์เขากลับตายหมดเกลี้ยง!
ในเวลานี้,รอเจ้าหอเหอก็ตระหนักได้,สำนักไท่กู่เจิ้งไม่ได้อ่อนแอ,เขาได้เตะเข้ากับแผ่นเหล็กหนาเข้าให้แล้ว!
“เฮ้.”
จุนซ่างเซียวเผยยิ้ม,”ศิษย์ของเจ้าตายหมดแล้ว.”
รอยยิ้มอ่อนที่ราวกับไม่มีพิษภัยอะไร,ทว่าในสายตาของรองเจ้าหอเวลานี้,ราวกับรอยยิ้มของปิศาจ,เป็นรอยยิ้มของอสุรกายจากนรกที่ยิ้มให้กับเขา.
“จุน...เจ้าสำนักจุน...”เขาที่เร่งรีบกล่าวออกมา,”ข้าว่าพวกเราคงกำลังเข้าใจผิดกันอยู่!”
“ฟิ้ว!”
จุนซ่างเซียวที่นำอินทรีย์ทะเลทรายออกมา,ยื่นไปยังศีรษะของเขา,แววตาเต็มไปด้วยความเย็นชา,”จำเอาไว้ว่า,หากมีโอกาสได้เกิดใหม่,ดูตาม้าตาเรือด้วย,อย่ามาหาเรื่องสำนักไท่กู่เจิ้งของข้าอีก.”
“ปัง!”
กระสุนที่พุ่งออกไปด้วยความเร็ว.
“พรึด โครม!”
รองเจ้าหออินทรีย์ดำที่ทรุดลงกับพื้น,แววตาค่อย
ๆไร้ประกาย.
ใช่แล้ว.
เขาได้เตะเข้ากับแผ่นเหล็กเข้าให้แล้ว.
ไม่ใช่แค่แผ่นเหล็กเท่านั้น,อีกฝ่ายยังเด็ดขาด
ดุร้ายไม่ต่างจากสำนักมารเลยด้วย.
ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times
#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น