วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2564

Strongest Sect of All Times Chapter 203 Does the face hit to be swollen?

Strongest Sect of All Times  Chapter 203 Does the face hit to be swollen?

 นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล

Chapter 203 Does the face hit to be swollen?

脸打肿了吗?

 

ใช้จ่ายไป 500 แต้ม,ซื้อสินค้าที่ไม่เกี่ยวกับการฝึกยุทธ์เลย,ทำให้เขาสำเร็จภารกิจลับและได้ฉายามา.

ไม่ใช่เพียงขาดทุน,ต้องบอกว่าขาดทุนสุด ๆ!

และยิ่งได้รับแต้มโชคดีหนึ่งแต้ม,จุนซ่างเซียวแทบบ้าไปเลย.


ด้วยการรีเฟรซร้อยครั้งถึงจะได้หนึ่งแต้ม,นี่ยิ่งกว่าเศร้าแน่นอน.

ระบบเอ่ย,”การจะเพิ่มขีดจำกัดบางทีต้องใช้หนึ่งพัน,หรือบางทีอาจจะ 10,000.”

“นี่เจ้าเป็นคนออกฎอย่างงั้นรึ?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

เห็นโฮสน์กำลังสะเทือนใจ,ระบบจึงไม่คิดจะกล่าวปลอบใด ๆอีก.

“เฮ้อ.”

จุนซ่างเซียวที่ถอนหายใจยาว.

อย่างไรก็ตาม,คิดถึงก่อนหน้านี้มีค่าโชค 0 ก็ยังสามารถรีเฟรซได้ปืนไรเฟิลและดาบยาวมังกรเขียว,ก็ยังถือว่าตัวเองมีโชคอยู่เหมือนกัน.

โลกที่จะสดใส,ควรจะมองโลกในแง่ดี!

จิตใจที่ดี,ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ!

หลังจากที่ปลอบใจตัวเอง,ก็ทำให้เขาผ่อนคลาย,ก่อนที่จะนอนหลับในซุ้มอย่างสบายใจ.

เช้าวันถัดมา.

คำนวณนับตั้งแต่เดินทางมาถึงหุบเขาแห่งความตายก็เป็นเวลาเก้าวันแล้ว,จุนซ่างเซียวเอ่ยออกมาว่า,”เอาล่ะ,เดินทางกลับสำนัก.”

หากไม่ได้รับบอลเจ้าสำนักระดับกลาง,เขาคงตัดสินใจกลับตั้งแต่เมื่อวานแล้ว,ต้องไม่ลืมว่าอยู่ต่อไปก็ไม่มีประโยชน์.

ศิษย์ทุกคนที่เก็บซุ้ม,และเริ่มเดินทางออกไปยังทางเข้า.

หลายวันมานี้,หลากหลายพื้นที่ถูกกรวดเรียบโดยสำนักไท่กู่เจิ้ง,ที่พิเศษที่สุดคือทุกคนกลับมาอย่างปลอดภัย.

กล่าวตามจริง.

การมาของสำนักไท่กู่เจิ้งราวกับภัยพิบัติที่ได้พัดผ่าน,หุบเขาแห่งความตายก็ไม่น่ากลัวอีกต่อไป.

เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ไร้สังกัดที่เดินทางมาหาประสบการณ์นับจากนี้,คงยากจะค้นหาสัตว์ร้ายที่แข็งแกร่งและของมีค่าในพื้นที่ดังกล่าวนี้อีกแล้ว.

......

ทางเข้าหุบเขาแห่งความตาย.

ในเวลานี้มีชายวันกลางคนหน้าตาบ้าน ๆและเหล่าผู้ฝึกยุทธ์ไร้สังกัดหลายคนรวมตัวกันอยู่.

พวกเขาเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่คอยเก็บของเหลือจากสำนักไท่กู่เจิ้ง,เมื่อครั้งที่จุนซ่างเซียวไล่ตามสัตว์ร้ายไป,ทำให้พลัดหลงกันไป.

เมื่อไม่มีสำนักไท่กู่เจิ้ง,เหล่าผู้ฝึกตนไร้สังกัดก็ไม่กล้าไปยังพื้นที่อื่น,เมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วน,จากนั้นพวกเขาก็ออกมารอที่ทางเข้า.

“พี่ฮุย.”

ผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งเอ่ยออกมา,”รอมาหนึ่งวันแล้ว,เจ้าสำนักจุนพวกเขาคงจากไปแล้วมั้ง.”

“เฮ้อ.”

ชายวัยกลางคนนามซ่งฮุยถอนหายใจ,”พวกเราไป.”

ก่อนที่จะจากไป,เขานั้นต้องการที่จะขอบคุณเจ้าสำนักจุนก่อน,ตอนนี้ไม่เห็นคนจึงทำได้แค่ยอมแพ้.

เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ที่ก้าวออกไปยังช่องเขาทางออกหุบเขาแห่งความตาย.

“ฟู่!

พวกเขาที่ยืนอยู่ด้านนอก,ซงฮุยและคนอื่น ๆที่สุดหายใจลึก.

พวกเขาเดิมพันติดตามสำนักไท่กู่เจิ้งไป,ราวกับเอาชีวิตไปเสี่ยงวางไว้บนเขียง,ใครจะคิดเล่าว่าจะรอดปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน.

“กลุ่มของซ่งฮุย ออกมาแล้ว!

“เฮ้ เฮ้,คาดไม่ถึงเลยว่าจะยังมีชีวิตอยู่.”

“แล้วสำนักไท่กู่เจิ้งล่ะ?”

“เจ้าเป็นคนบอกเองไม่ใช่รึ? ว่าคงถูกมังกรเพลิงสังหารไปหมดแล้ว.”

ผู้ฝึกยุทธ์กลุ่มหนึ่งที่หนีออกมาก่อน,พวกเขาเองก็รอคอยอยู่ด้านนอก,ต้องไม่ลืมว่าพวกเขาเองก็ต้องการรับรู้ผลสุดลัพธ์ท้ายเช่นกัน.

ด้วยสถานการณ์ตอนนี้,พวกเขาเริ่มมั่นใจว่าสำนักไท่กู่เจิ้งคงถูกสังหารไปหมดแล้ว.

ซ่งฮุยที่ได้ยินคำพูดของพวกเขาพูดคุยกัน,ก็เข้าใจได้ในทันที,เจ้าสำนักจุนยังไม่ได้นำศิษย์ออกมาจากหุบเขา.

“สหายซ่ง.”

ผู้ฝึกตนไร้สังกัดคนหนึ่งที่ก้าวเข้ามาเผยยิ้ม,”สำนักไท่กู่เจิ้งแส่หาความตาย,พวกเจ้ารอดไม่ได้,นับว่าโชคดีจริง ๆ.”

ซ่งฮุยที่เผยยิ้มออกมา,”สหายจางไม่ได้ตามไปจนถึงนาทีสุดท้าย,นับว่าขาดทุนจริง ๆ.”

ผู้ฝึกยุทธ์นามจางปินเอ่ย,”เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”

ซ่งฮุยเผยยิ้มออกมา,”เจ้าสำนักจุนและศิษย์สังหารมังกรเพลิงไป,ข้าและคนอื่นที่ตามไป ได้ผลตอบแทนมากมาย.”

จางปินที่ตกใจ,ทว่าก็ยังเผยยิ้มออกมา,”สังหารมังกรเพลิงไปอย่างงั้นรึ? สหายซ่ง,อย่ามาล้อเล่น.”

เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ที่ตามไปเองก็เผยยิ้มออกมา.

ไม่มีระดับบรรพชนยุทธ์ขั้นสูงมาด้วย,จะสังหารมังกรเพลิงสัตว์ร้ายระดับสูงขั้นห้านั้น,เป็นไปไม่ได้!

ซ่งฮุยเองก็ไม่คิดที่จะอธิบายเช่นกัน,หากไม่เห็นด้วยตาตัวเอง,ตัวเขาเองก็ไม่เชื่อเหมือน ๆ กัน.

ตอนนี้คนอื่น ๆ ดูเหมือนว่ากำลังรอเจ้าสำนักจุนออกมาเช่นกัน.

เมื่อรู้ว่าสำนักไท่กู่เจิ้งยังไม่ออกมาจากด้านใน,ซ่งฮุยและผู้ฝึกยุทธ์อีกหลายคนจึงได้รอ,รอคอยอย่างคาดหวัง,จางปินและคนอื่น ๆก็ต้องการยืนยันความสงสัยในใจเช่นกัน.

แน่นอน.

รวมผู้ฝึกยุทธ์อีกหลายคนที่ไม่ได้ตามเข้าไปด้วย.

ในกลุ่มนี้มีคนอีกหลายคนที่กำลังรวมกลุ่มกัน,เพื่อเข้าไปในหุบเขาแห่งความตายด้วย.

จางปินที่เผยยิ้ม,”สหายซ่งไม่กลับอย่างงั้นรึ?”

“รอสำนักไท่กู่เจิ้งออกมา.”ซ่งฮุยเอ่ย.

จางปินที่ส่ายหน้าไปมา,”หากพวกเขาออกมา,คงออกมาพร้อมพวกเจ้าแล้ว,ไม่ใช่ว่าตายไปตั้งแต่ที่เขตแดนมังกรเพลิงแล้วไม่ใช่รึ?.”

“โฮกกกกก---”

ในเวลานั้น,ภายในหุบเขาแห่งความตายเสียงคำรามที่ดังกึกก้องก็ดังขึ้น,ทำให้ใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนสีด้วยความตกใจ.

“เสียงของพยัคฆ์คำราม!

“บางทีเสียงนี่คงมาจากช่องเขาทางเข้า.”

“มีสัตว์ร้ายพยัคฆ์ที่แข็งแกร่งกำลังออกมาจากหุบเขาแห่งความตายอย่างงั้นรึ?”

“ฟิ้ว!

ริ้วแสงสีม่วงที่พุ่งออกมาจากในหุบเขาด้วยความเร็ว.

“โฮกกกกกก!

เสียงคำรามด้วยความเกรี้ยวกราด,ร่างกายที่ใหญ่ยักษ์,ใต้เท้านั้นมีกระแสไฟฟ้าไหลส่องประกายแป๊ป ๆ ดูน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก.

หลังจากมองเห็นรูปร่างชัดเจน,พร้อมกับสายฟ้าที่สาดกระจาย,เหล่าผู้ฝึกตนไร้สังกัดที่ตื่นตกใจดวงตาเบิกกว้างกลมโต.

 

นี่ไม่ใช่เพียงแค่พยัคฆ์,ที่ทำให้พวกเขาตื่นตะลึง,ทว่าคาดไม่ถึงว่าจะมีคนหนึ่งคนนั่งอยู่ด้านหลังมัน.

คนนี้ไม่ใช่ใครที่ใหน,เป็นเจ้าสำนักไท่กู่เจิ้ง,จุนซ่างเซียวนั่นเอง.

พริบตานั้น.

ด้านหน้าหุบเขาที่กลายเป็นเงียบลงในทันที.

เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ไร้สังกัดหลายสิบคน,ที่ดวงตาเบิกกว้าง,อ้าปากค้าง,ตื่นตะลึงอย่างหนัก!

จุนซ่างเซียวออกมาแล้ว,สร้างความประหลาดใจให้พวกเขามากพอแล้ว,ต้องไม่ลืมว่าในใจพวกเขานั้นคิดว่าสำนักไท่กู่เจิ้งถูกสังหารไปหมดแล้ว.

 

ตอนนี้ไม่เพียงออกมา,ทว่ายังขี่พยัคฆ์ที่ทรงพลัง,เรื่องนี้จึงส่งผลสร้างความตื่นตะลึงให้กับพวกเขามากกว่าปรกติ.

ซ่งฮุยและคนอื่น ๆถึงกับกลายเป็นเซ่อไปในทันที.

พวกเขาสงสัยอย่างหนัก,เจ้าสำนักจุนขี่พยัคฆ์ออกมาได้อย่างไร?

เป็นไปไม่ได้ นี่ไม่ใช่ว่าทำพันธะสัญญากับสัตว์ที่เพิ่งไล่จับไปนั่นหรอกรึ?

จางปินและคนอื่นต่างก็คิดเหมือน ๆกัน,ภายในใจนั้นตื่นตกใจอย่างหนัก.

เพียงไม่กี่วัน,สามารถที่จะทำพันธะสัญญากับสัตว์ได้แล้วรึ? เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อเป็นอย่างมาก.

จากนั้นขณะจดจ้องมองครุ่นคิดอยู่นั้น,ก็มีผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งที่กล่าวเสียงสั่น,”นี่มัน...นี่คือพยัคฆ์หนุ่มสายฟ้าม่วง,สัตว์ร้ายธาตุสายฟ้า!

ห๋า!!!

ทุกคนที่ใบหน้าบิดเบี้ยวตื่นตกใจยิ่งกว่าเดิม.

สัตว์ร้ายธาตุสายฟ้า,ในทวีปชิงหยุนแห่งนี้เป็นสัตว์ร้ายที่หายากมาก ๆ,นอกจากนี้ยังสามารถกำราบได้อย่างรวดเร็ว,นี่มันเป็นเรื่องที่น่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว.

เอ๊ะ?”

จุนซ่างเซียวจ้องมองไปยังซ่งฮุย,แสร้งกล่าวเผยความประหลาดใจ,”นี่เจ้าออกมาแล้วอย่างงั้นรึ?

จุนซ่างเซียวที่ขี่พยัคฆ์หนุ่มสายฟ้าม่วง,ขณะทักทายคนอื่น,เผยท่าทางสง่าขี้อวดสุด ๆออกมา.

น่าเสียดายที่ไม่มีรางวัลความเท่ห์,ไม่งั้นระบบคงต้องมอบคะแนนให้ 999,999 แน่.

ซ่งฮุยที่ได้สติคืนมา,เร่งรีบเอ่ยออกไปว่า,”ต้อบขอบคุณเจ้าสำนักจุนมากเลยจริง ๆ,ที่ให้พวกเราได้เก็บของเหลือในหุบเขาแห่งความตาย.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย,”เจ้าจ่ายค่าเก็บของเหลือ,เป็นเหมือนกับธุรกิจอย่างหนึ่ง,ไม่จำเป็นต้องขอบคุณ.”

“ไม่เหมือนกับบางคน.”

เขาหยุดและกวาดตามองเหล่าผู้ฝึกตนไร้สังกัด,”ไม่กล้าแม้แต่จะเดิมพันเพื่อเก็บของเหลือ,ชาตินี้คงไม่สามารถทำอะไรให้สำเร็จได้.”

กล่าวเช่นนั้นก็ไม่ผิด.

ทว่าในโลกที่โหดร้ายป่าเถื่อนนี่,ต้องเข้าใจว่ายิ่งเสี่ยงอันตรายก็ยิ่งได้รับผลตอบแทนกลับมา,หากไม่เสี่ยงเพื่อทรัพยากรจะเติบโตได้อย่างไร.

......

ตั้งแต่กำราบพยัคฆ์หนุ่มสายฟ้าม่วง,จุนซ่างเซียวก็ต้องการขี่มัน เผยความเท่ห์โชว์ทุกคนอยู่แล้ว.

นับตั้งแต่ก้าวออกมาจากหุบเขาแห่งความตาย,เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ไร้สังกัดที่ตื่นตะลึงจนแทบไม่สามารถครองสติได้,ตอนนี้ถือได้ว่าจุนซ่างเซียวประสบความสำเร็จแล้ว.

ทว่าภายในใจทุกคนที่แอบคิด ตัวเองรอดอยู่คนเดียว,ยังทำเท่ห์อยู่ได้อีกรึ? หลาย ๆคนที่กล่าวหยันในใจ.

จากนั้นไม่นาน.

หลี่ชิงหยางและคนอื่น ๆที่ออกมาจากด้านในหุบเขา.

เห็นศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งเข้าไป 25 ,กลับออกมา 25 คน,ใบหน้าของเหล่าผู้ฝีกจุทธ์ไร้สังกัดที่แข็งค้างไปในทันที.

ซ่งฮุยที่จ้องมองจางปินที่ตื่นตะลึงอย่างหนัก,ซ่งฮุยก็เผยยิ้มเยาะ.

พวกเขาคิดว่าสำนักไท่กู่เจิ้งถูกสังหารหมดแล้วอย่างงั้นรึ?

ในเวลานี้.

สงสัยมีหลายคนที่ต้องกลืนน้ำลายตัวเอง.


ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times

#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
Author(s)
Goodbye Jianghu


เข้ากลุ่มลับ VIP ====> Click


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น