วันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2564

Strongest Sect of All Times Chapter 175 Wastes simply!

Strongest Sect of All Times  Chapter 175 Wastes simply!

 นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล

Chapter 175 Wastes simply!

简直浪费!

 

สองเดือนเวลาของภารกิจมหากาพย์ที่ต้องทำให้เสร็จ,แม้นว่าจะเหลือเวลามากกว่าสิบวันก็ตาม.

หุบเขาที่อยู่ไกลมาก,ดังนั้นจะต้องคำนวนเวลาเดินทางด้วย,ดังนั้นจุนซ่างเซียวจึงตัดสินใจออกเดินทางพรุ่งนี้เลย.


ศิษย์ทั้งหมด 25 คน,พลังบ่มเพาะที่ไม่เลวทีเดียว,ศิษย์สิบรากวิญญาณระดับกลาง,เวลานี้ก้าวถึงถึงระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่ห้าทุกคนแล้ว.

เพราะว่าด้วยเม็ดยารวมวิญญาณที่มีประสิทธิภาพสิบเท่าแม้นว่าจะมีไม่มากนัก,ทว่าก็มีเพียงพอสำหรับพวกเขาและยังมีประสิทธิภาพกว่าเม็ดยารวมวิญญาณปรกติถึงห้าเท่า,ทำให้ความเร็วของพวกเขานั้นแทบจะเหนือกว่าเมื่อครั้งกลุ่มของหลี่ชิงหยางฝึกฝนเพื่อเดินทางไปประลองกับสำนักเห่าฉีซะอีก.

นับตั้งแต่งานรับศิษย์ร้อยสำนัก,หากว่าพวกเขาเข้าร่วมสำนักอื่น,การก้าวไปถึงระดับศิษย์ยุทธ์คงถึงขีดจำกัดของพวกเขาแล้ว.

กับระดับรากวิญญาณระดับกลางที่เติบโตมาจนถึงเวลานี้,ทำให้พวกเขารู้สึกตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก.

หลงจื่อหยาง,หลี่ยูหัวเองก็เติบโตได้ไม่เลว.

ก้าวไปถึงระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่ห้าและศิษย์ยุทธ์ขั้นที่สี่.

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลี่ยูหัว,ตลอดหนึ่งเดือนมานี้,ไม่เพียงพลังบ่มเพาะระดับกายเนื้อของเขายังเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก.

ซูเซียวโม่และคนอื่น ๆต้องการเตะฟุตบอลอัดเขา,อย่างน้อยก็ต้องใช้พลัง 70-80%แล้ว.

หลังจากที่หลิงหยวนเสวี๋ยใช้น้ำยาเปลี่ยนพรสวรรค์แล้ว,เมื่อใช้เม็ดยาผสานวิญญาณก็ทำให้นางตัดผ่านระดับศิษย์ยุทธ์และหลังจากบ่มเพาะอย่างแข็งขันก็ก้าวไปถึงระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่สามในที่สุด.

นี่คือเหล่าศิษย์ภายนอกที่ได้รับการคัดเลือก.

ส่วนศิษย์สายในเจ็ดคน ถึงจะไม่ได้รับเม็ดยารวมวิญญาณสิบเท่า,ทว่าหนึ่งเดือนมานี้การเติบโตก็เลวทีเดียว.

เย่ซิงเฉินได้ก้าวไปถึงขั้นที่เก้า,เหมือนกับหลี่ชิงหยางแล้ว.

ซูเซียวโม่,หลี่เฟิยและเถียนซีทั้งสามที่ก้าวถึงระดับแปดศิษย์ยุทธ์,ส่วนเซียวจุ้ยจื่อนั้นอยู่ในระดับหกศิษย์ยุทธ์.

ส่วนลู่เชียนเชียน.

จากปากของนางที่เอ่ยว่าอยู่ในระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่สี่.

ทว่ากับพลังวิญญาณที่มากมายและเข้มข้นเอาชนะศิษย์สำนักเห่าฉีได้ในทันที,ทุกคนต่างก็ไม่คิดว่าศิษย์พี่หญิงใหญ่นั้นอยู่ในระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นสี่แต่อย่างใด.

อย่างไรก็ตาม.

หนึ่งเดือนมานี้,ศิษย์เกือบทุกคนมีการเติบโตที่ไม่เลว.

และนอกจากนี้ยังมีหลี่ซางเทียนและซือหม่าจงต้าที่มีพรสวรรค์สามัญ,สามารถก้าวไปถึงระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นสองและขั้นสามได้.

เหล่าศิษย์ใหม่ที่เพิ่งเข้าร่วม,ด้วยเม็ดยาบูรณะร่างกายและเม็ดยาเปิดชีพจร,ตลอดจนวิชาบ่มเพาะเปลี่ยนเส้นเอ็น,ทำให้พวกเขาก้าวไปถึงระดับเปิดชีพจรขั้นที่สิบ,อยู่ไม่ไกลจากขั้นที่สิบสองแล้ว.

พร้อมจะยกระดับสำนักอีกครั้ง?

ไม่.

เงื่อนไขสำนักระดับเจ็ด,เจ้าสำนักอยู่ในระดับอาจารย์ยุทธ์,50 ศิษย์ยุทธ์และ 500 เปิดชีพจรขั้นที่สิบสอง.

จำนวนของพวกเขา,ยังไม่เพียงพอ,ต้องทำตามเรื่องที่ทำได้ซะก่อน.

ดังนั้นจุนซ่างเซียวจึงต้องการทำภารกิจมหากาพน์ให้เสร็จ,เพื่อให้ตัวเองตัดผ่านไปยังระดับอาจารย์ยุทธ์.

นอกจากนี้,ภารกิจแรกนั้นยังสำเร็จแล้ว,ตอนนี้เป็นภารกิจสองของภารกิจมหากาพย์,หากทำสำเร็จเขาก็จะตัดผ่านไปยังดินแดนยุทธ์อีกขั้นได้ในทันที.

......

เช้าวันถัดมา.

ศิษย์ยี่สิบห้าคนที่กินอาหารของหลิวหว่านซีเสร็จ,ภายใต้การนำของจุนซ่างเซียว,ก็นำพาศิษย์กลุ่มใหญ่ออกเดินทาง.

ศิษย์คนอื่น ๆที่ออกมาส่งหน้าประตู,จากนั้นก็กลับไปบ่มเพาะต่อ.

พวกเขาต่างก็คาดหวังที่จะแข็งแกร่งขึ้น,หวังที่จะได้ติดตามเจ้าสำนักและศิษย์พี่ออกไปหาประสบการด้วยเช่นกัน.

หลี่ลั่วฉิวที่รับผิดชอบในการดูแลสำนักต่อ.

ขณะจ้องมองจุนซ่างเซียวนำศิษย์กลุ่มใหญ่จากไป,นางที่กล่าวในใจ,”หุบเขาแห่งความตายมีอันตรายมากมาย,หวังว่าจะกลับมาอย่างปลอดภัย.”

 

เกี่ยวกับเรื่องของหุบเขาแห่งความตาย,มีข่าวลือมากมาย,หลาย ๆคนที่เดินทางไปสำรวจนั้นล้วนแต่เอ่ยกล่าวว่ายากลำบาก,ทำให้ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งเวลานี้กำลังแสดงท่าทางจริงจังขึ้นมาเช่นกัน.

“กลัวรึ?”

ระหว่างทาง,จุนซ่างเซียวเอ่ยถาม.

“ไม่กลัว!

ศิษย์ของเขาที่ตะโกนออกมาเสียงดัง.

ถึงแม้นว่าพวกเขาจะรู้ว่าการเดินทางครั้งนี้เต็มไปด้วยอันตรายเป็นอย่างมาก,ทว่าพวกเขาก็ไม่กลัว,เพราะว่าพวกเขาคือเพชรกระดูกเหล็ก!

......

หุบเขาแห่งความตายอยู่ทางใต้ของมนทลชิงหยาง,อยู่ในป่าเขาทึบที่ลึกเข้าไป,อย่างน้อยพันลี้ที่อยู่ห่างกับมนทลชิงหยาง.

เพราะว่ามีเวลาที่จำกัด,จุนซ่างเซียวจึงค่อนข้างรีบเดินทาง,พวกเขาที่หยุดพักเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น.

ด้วยพลังวิญญาณที่อุดมสมบูรณ์ในป่า,และพื้นที่ทิวทัศน์ระหว่างทางที่งดงามเป็นอย่างมาก,จนแทบจะทำให้พวกเขารู้สึกไม่อยากกลับขึ้นมาเหมือนกัน.

ขณะที่จุนซ่างเซียวนำศิษย์ผ่านน้ำตกแห่งหนึ่ง,เขาอดไม่ได้ที่จะต้องพร่ำพรรณนาบทกลอนออกมาในทันที.:

“อาทิตย์ส่องเซียงหลูหมอกหลากสี ทัศนาที่น้ำตก ณ เบื้องหน้า

นทีไหลเป็นสายยาวสุดตา ประดุจทางช้างเผือกจากสวรรคาลัย!”

เหล่าศิษย์ถึงกับตะลึงไปตาม ๆ กัน.

แท้จริงแล้ว,เจ้าสำนักก็เข้าใจบทกลอนกวีด้วยเหมือนกัน!

ซูเซียวโม่และศิษย์อีกหลายคนที่ไม่ได้มาจากตระกูลใหญ่,ใช้ชีวิตที่ราบเรียบ,ทว่าเมื่อได้ยินคำกลอนเจ้าสำนักก็ รู้สึกเพลิดเพลินขึ้นมาเหมือนกัน.

นทีไหลเป็นสายยาวสุดตา ประดุจทางช้างเผือกจากสวรรคาลัย!...”หลงจื่อหยางที่กล่าวตาม,ก่อนที่จะปรบมือพร้อมกับตะโกนออกมาเสียงดัง,”งดงาม,งดงามยิ่งนัก!

ลู่เชียนเชียนที่เย็นชาอยู่ตลอดเวลา,หลังจากได้ยินบทกลอนที่จุนซ่างเซียวท่องออกมา,ดวงตาก็เป็นประกายเผยความประหลาดใจออกมาด้วยเช่นกัน.

ในทวีปชิงหยุนนั้น,มีชาวยุทธ์อยู่มากมาย,การจะมีใครสักคนท่องบทกลอนออกมานั้น ไม่ได้เห็นอย่างง่าย ๆ.

“เจ้าสำนัก,ร้ายกาจจริง ๆ!

หลิงหยวนเสวี๋ยที่หยุดชะงักกล่าวชื่นชมเทิดทูนออกมาทันที.

กับบทกลอนที่เขานำมาท่องพรรณนาเผยแสดงความยอดเยี่ยมต่อหน้าศิษย์ แน่นอนว่ามันเป็นบทกลอนของหลี่ไป๋ กวีในโลกเดิมของเขา เขาเพียงนำมาใช้ประโยชน์เท่านั้น.

......

“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!

ภายในป่าที่งดงามนั้น,จุนซ่างเซียวที่พุ่งขึ้นไปบนต้นไม้,ก่อนที่จะนำสไนเปอร์ไรเฟิลออกมา,ก่อนที่จะยกขึ้นเล็งและเหนี่ยวไกปืนออกไป.

“ฟิ้ว-“

ภายใต้อุปกรณ์เก็บเสียง,กระสุนที่พุ่งแหวกอากาศออกไป,ยิงเข้าเป้าไปยังแพะภูเขาตัวหนึ่งที่กำลังวิ่งอยู่.

“ฟิ้ว!

ซูเซียวโม่ที่พุ่งออกไปด้วยความเร็ว,และนำแพะตัวดังกล่าวกลับมา,จากนั้นก็เริ่มชำแหละ.

หลังจากชำแหละเสร็จสิ้น,ก็ทำการหั่นเป็นชิ้นเนื้อเป็นส่วน ๆออกมา.

โจวหงที่ก้าวออกมา,พร้อมกับตะวัดกระบี่ออกไป,เห็นเป็นเพียงริ้วแสง.

จากนั้นทุกคนก็มองเห็นไม้ไผ่ที่ถูกแยกเป็นซี่ ๆ ,ก่อนที่ทุกคนจะนำออกมาเสียบเนื้อที่แร่เสร็จแล้ว.

“ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!

แพะเสียบไม้ก็ถูกนำมาวางไว้ที่ด้านหน้าของเจ้าสำนัก.

จุนซ่างเซียวที่เสียบไม้ปักลงบนพื้นชั่วคราว,และปล่อยเพลิงประณีตออกมา,เพื่อย่างแพะเสียบไม้ดังกล่าว.

เซียวจุ้ยจื่อยิง,ซูเซียวโม่ชำแหละ.

โจวหงทำไม้เสียบ.

ทุกคนที่ทำงานร่วมกันได้อย่างดีเยี่ยม.

ในเวลานี้แพะย่างที่ส่งกลิ่นหอมออกมา!

“เซียวโม่!

จุนซ่างเซียวเอ่ย,”ไตมันล่ะ!

ซูเซียวโม่ที่อยู่ไม่ไกลเอ่ยออกมาว่า,”เจ้าสำนัก,เครื่องในทั้งหมดข้าทิ้งไปแล้ว!

”!”

จุนซ่างเซียวเอ่ย,”เสียของชะมัด!

หลี่ชิงหยางที่มุมปากกระตุก.

เจ้าสำนักของข้า,เอาเพลิงประณีตมาย่างเนื้อ,นี่สิถึงจะเรียกว่าเสียของ!

“น่าเบื่อจริง ๆ.”

เย่ซิงเฉินที่นั่งอยู่ด้วยท่าทางเบื่อหน่าย.

จากนั้นไม่นาน,เนื้อย่างเสียบไม้ก็สุก.

จุนซ่างเซียวที่นำพริกไทย,เกลือขมิ้นขึ้นมาโรย,พร้อมกับกล่าวออกไปว่า,”ลองชิมเนื้อย่างฝีมือเปิ่นจั้วดู.”

เหล่าชาวยุทธ์ในทวีปชิงหยุน,ไม่ค่อยใส่ใจในการปรุงรสเนื้อย่างนัก,ดังนั้นทุกคนจึงสงสัย,ก่อนที่จะรับไม้เสียบเนื้อย่างมากิน,จากนั้นก็ชื่นชมกันใหญ่.

“ศิษย์น้องเย่.”

หลี่ชิงหยางที่ส่งเนื้อเสียบไม้ออกไปไม้หนึ่ง,กล่าวออกไปว่า,”เจ้าก็ลองชิมดูสิ!

“ฮึ!

เย่ซิงเฉินที่รับมา,ไม่ได้ใส่ใจนัก,ทว่าเมื่อกัดคำหนึ่ง,จากนั้น.....,ก็กินทั้งหมดจนไม่มีเหลือ.

เขาไม่เคยกินเนื้อย่างเช่นนี้มาก่อน,แม้นว่าจะเคยเป็นราชันย์ยุทธ์ในชาติที่แล้วก็ตาม.

เจ้าสำนักที่ท่องกลอนได้,และยังย่างเนื้อได้อร่อย.

เหล่าศิษย์ต่างก็ยกย่องนับถือเจ้าสำนักเป็นอย่างมาก,ราวกับแม่น้ำใหญ่ที่ลึกล้ำไม่มีสิ้นสุด.

หลังจากกินเนื้อย่างเสร็จ,จุนซ่างเซียวก็นำศิษย์เดินทางต่อ,และเช้าวันถัดมาก็มายืนอยู่ด้านหน้าหุบเขาแห่งความตาย,ซึ่งด้านหน้านั้นมีหมอกบาง ๆปกคลุมอยู่เต็มไปหมด.

ที่ทางเข้านั้นมีอักษรสลักบนศิลาว่า,”หุบเขาแห่งความตาย,”และยังแต้มด้วยสีแดง,คล้ายกับสีโลหิต.

“ฟู่ ฟู่!

สายลมที่เย็นยะเยือบที่พัดผ่าน,ทำให้เกิดเสียงดังโหยหวนขึ้นเป็นระยะ ๆ.

ที่ด้านหน้าหุบเขาเอง,ก็มีผู้ฝึกยุทธ์มากมายที่หยุดอยู่ดูลังเลใจอยู่เหมือนกัน,ขณะที่พวกเขามองเห็นกลุ่มของจุนซ่างเซียวเดินทางมา,ทันใดนั้นก็เริ่มพูดคุยกันเสียงเบา.

“เอ๊ะ? นี่สำนักไท่กู่เจิ้งรึ?”

“เจ้าสำนักจุนนำศิษย์มามากมาย,ต้องการเข้าไปในหุบเขาแห่งความตายหาประสบการณ์อย่างงั้นรึ?”

“ไม่มีระดับบรรพชนยุทธ์มาด้วย,การเร่งรีบเดินทางเข้าไป มีแต่เดินไปหาความตาย!

***

1) 鹳雀楼 ขึ้นหอกว้านเชว่โหลว

(dēng guàn què lóu ) 

王之  กวี wáng zhīhuàn

👏白日依山尽, 黄河入海流。

bái rì yī shān jìn, huáng hé rù hǎi liú.

อาทิตย์เลื่อนลับขุนเขา ฮวงเหอไหลสู่ทะเล

👏穷千里目, 更上一层楼。

yù qióng qiān lǐ mù, gèng shàng yī céng lóu.

อยากมองไกลสุดพันลี้ ต้องขึ้นหอไปอีกชั้น

2) 庐山瀑布 ชมน้ำตกหลูซาน

wàng lú shān pù bù

李白 กวีหลี่ไป๋

👏日照香炉生紫烟,

Rì zhào xiāng lú shēng zǐ yān,

อาทิตย์ส่องเซียงหลูหมอกหลากสี

遥看瀑布挂前川

yáo kàn pù bù guà qián chuān.

ทัศนาที่น้ำตก ณ เบื้องหน้า

👏飞流直下三千尺,

Fēi liú zhí xià sān qiān chǐ,

นทีไหลเป็นสายยาวสุดตา

疑是银河落九天

yí shì yín hé luò jiǔ tiān.

ประดุจทางช้างเผือกจากสวรรคาลัย

 

ที่มา https://www.facebook.com/Chineseforthai/posts/572380539977828/


ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times

#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
Author(s)
Goodbye Jianghu


เข้ากลุ่มลับ VIP ====> Click


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น