Strongest Sect of All Times Chapter 174 Patriarch Ai gave money
นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล
Chapter 174 Patriarch Ai gave money
艾家主又来送钱了
ศิษย์ทุกคนที่ได้โล่จากไปแล้ว,เหลือเพียงหลิงหยวนเสวี๋ยคนเดียว.
ในห้องหนังสือ.
เหลือเพียงนางและจุนซ่างเซียวสองคน.
หลิงหยวนเสวี๋ยที่ก้มหน้าก้มตาตลอด,มือเล็ก ๆของนางที่สั่นไปมาเล็กน้อย.
นี่เป็นครั้งแรกที่นางต้องอยู่ลำพังกับเจ้าสำนัก,ด้วยนิสัยที่ขี้อาย,ตอนนี้ทำให้นางรู้สึกประหม่ากระวนกระวาย.
“ปัก.”
ในเวลานั้น,เสียงที่เคาะโต๊ะที่ดังขึ้น.
หลิงหยวนเสวี๋ยที่ตื่นตระหนก,ถึงกับก้าวถอยหลังสองก้าว.
จุนซ่างเซียวเห็นแล้วถึงกับพูดไม่ออก,คิดอยู่ในใจ,”เพียงแค่เสียงขวดยาเปลี่ยนพรสวรรค์วางลงบนโต๊ะ,ยังหวาดกลัว,ความกล้ามันจะน้อยไปใหม.”
“หยวนเสวี๋ย.”
เขาที่นั่งยกมือค้ำคาง,กล่าวออกไปว่า,”ความฝันของเจ้าคืออะไร?”
เจ้าสำนักที่สอบถามความฝันของนางอีกอย่างงั้นรึ?
หลิงหยวนเสวี๋ยเอ่ยเสียงเบา,”ข้า...ความฝันของข้าคือฝึกฝนวิถียุทธ์,แสดงให้พวกผู้ชายสารเลวได้เห็น...ไม่,ข้าหมายถึงพวกผู้ชายเลว,ไม่ได้หมายถึงเจ้าสำนัก!”
จุนซ่างเซียวเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม,”ฝึกฝนวิถียุทธ์ไม่ใช่เพื่อแสดงให้คนอื่นได้เห็น,แต่เป็นการแสดงให้ตัวเองได้เห็น,เข้าใจใหม?”
“เข้า....เข้าใจ!”
“กึก!”
จุนซ่างเซียวที่เคาะโต๊ะ,กล่าวออกมาเสียงดัง,”ดัง
ๆ!”
หลิงหยวนเสวี๋ยที่ตื่นตกใจแทบร้องไห้,จากนั้นก็หลับตา,ตะโกนออกมาเสียงดัง,”เข้าใจ!”
จุนซ่างเซียวที่กล่าวออกมาด้วยเสียงนุ่มนวล,”ในการฝึกฝนวิถียุทธ์สิ่งหนึ่งที่ต้องมีคือความกล้า,เดินทางไปยังหุบเขาแห่งความตายครั้งนี้,เปิ่นจั้วหวังว่าจะเห็นเจ้ามีความกล้าหาญเพิ่มมากขึ้น.”
“เข้าใจแล้ว!”หลิงหยวนเสวี๋ยเอ่ย.
จุนซ่างเซียว”นี่คือขวดยาดื่มมันซะ.”
“อ๊ะ.”
หลิงหยวนเสวี๋ยที่ก้าวเข้ามาเดินขัดขาตัวเองเกือบล้ม,ก่อนที่จะหยิบน้ำยาเปลี่ยนพรสวรรค์ไป,จากนั้นก็เปิดขวดและดื่มมันลงไป.
จากนั้นไม่นาน,แก้มของนางที่กลายเป็นสีแดง,รากวิญญาณของนางยกระดับจากขั้นต่ำไปยังขั้นสามัญ,พลังบ่มเพาะเลื่อนจากเปิดชีพจรขั้นสิบไปยังขั้นที่สิบสองทันที.
“นี่มัน....”
หลิงหยวนเสวี๋ยที่ยืนเซ่อดวงตาเบิกกว้างกลมโต.
......
หลังจากมอบโล่ให้กับศิษย์ทั้ง 24 คนแล้ว,จุนซ่างเซียวก็ให้พวกเขากลับไปฝึกฝน,เตรียมพร้อมที่จะเดินทางไปยังหุบเขาแห่งความตายในเร็ว
ๆนี้.
ในเวลาเดียวกันในมนทลชิงหยาง,พวกเขาที่กำลังพูดคุยกันถึงเรื่องราวที่สำนักไท่กู่เจิ้งเอาชนะสำนักเห่าฉีได้,จนกระทั่งมีข่าวใหม่ที่ทำให้ทุกหนแห่งต้องสั่นสะเทือนไปตาม
ๆกัน.
ข่าวใหญ่อะไรอย่างงั้นรึ?
เจ็ดวันหลังจากนี้,ตระกูลอ้ายจะทำการประมูลเม็ดยาบูรณะร่างกาย!
เม็ดยาที่ช่วยยกระดับกายเนื้อ,ก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ของสำนักไท่กู่เจิ้งท้าประลองสำนักเห่าฉี,เข้ามาบดบัง,จนเกือบทำให้ทุกคนเกือบลืมไปแล้ว.
ก่อนหน้านี้สามารถลืมได้,ทว่าตอนนี้ไม่สามารถลืมได้เลย.
เพราะว่าเวลานี้,ตระกูลอ้ายได้ทำการโฆษณาใหญ่กระจายข่าวไปทั่ว,จนทำให้ทุกคนต้องตื่นตะลึง!
สิ่งที่ทำให้ทุกคนต้องตื่นตะลึงนะรึ?
การประมูลในครั้งนี้,แตกต่างจากก่อนหน้ามาก,เพราะว่าราคาของเม็ดยาบูรณะร่างกายได้ถึงกำหนดขั้นต่ำตั้งแต่ตอนนี้แล้ว.
มากขนาดใหน?
ประมูลขั้นต่ำที่ราคา 1 ล้านเหรียญ!
“ 1 ล้านเหรียญเลยรึ? มากขนาดนั้นเลยรึ?!”
“แม้แต่เม็ดยาระดับสูงยังไม่เคยแพงขนาดนั้น อ๊าก
ๆ!”
“แพงขนาดนี้,คงไม่มีใครซื้อหรอก!”
หากเป็นจุนซ่างเซียวนำออกไปประมูล,ราคาเริ่มแรกที่หนึ่งล้านเหรียญ,แน่นอนว่าเหล่าชาวยุทธ์คงคิดว่าเขาคงเสียสติไปแล้ว.
ทว่าตระกูลอ้ายนั้นแตกต่าง,ต้องไม่ลืมว่าพวกเขาคือร้านเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง,ก่อนหน้านี้ด้วยเม็ดยาฟื้นฟู,ก็ทำให้เหล่าชาวยุทธ์ตื่นตะลึงไปแล้ว,เวลานี้เกี่ยวกับเม็ดยาบูรณะร่างกาย
ผลของมันจะลึกล้ำขนาดใหน!
หากว่าอ้ายซางหนี่หยิบเอาเรื่องสำนักไท่กู่เจิ้งเอาชนะศิษย์สำนักเห่าฉีออกมาโฆษณาได้ล่ะก็,จะยิ่งทำให้ทุกคนตะลึงมากกว่านี้อีก,ทว่าเจ้าสำนักจุนไม่อนุญาต,ทำให้เขาไม่กล้าที่จะทำเช่นนั้นเหมือนกัน.
ทว่าการตั้งราคาเริ่มต้นที่ 1
ล้านเหรียญ,ก็ทำให้เกิดเสียงดังฮือฮากระจายไปทั่วได้เช่นเดียวกัน.
เหล่าตระกูลใหญ่ในมนทลชิงหยางและสำนักต่าง ๆ
พวกเขาที่มั่นใจในตระกูลอ้าย,ทำให้หลังจากได้ข่าว,ก็เริ่มรวบรวมเงินทุนทันที.
จุนซ่างเซียวที่ได้รับข่าวมา,ถึงกับต้องเผยยิ้มออกมา,”เริ่มประมูลที่ราคา
1 ล้านเหรียญ,การประมูลครั้งนี้,ราคาสุดท้ายคงเกินจะคิดถึง!”
หลี่ลั่วฉิวเอ่ย,”เม็ดยาบูรณะร่างกายที่เจ้าสำนักหลอมขึ้นมานั้น,มีความสำคัญต่อชาวยุทธ์มาก,บางที่เม็ดยาบูรณะร่างกายทั้งสี่เม็ดที่ตระกูลอ้ายนำออกประมูล,ราคาคงสูงเสียดฟ้า.”
......
จุนซ่างเซียวที่ต้องการพัฒนาเพียงสำนัก,ไม่ได้มีความสนใจเกี่ยวกับการประมูลเท่าใดนัก,เขาไม่ต้องการปรากฏต่อสาธารณะชน,เขาที่สนใจเพียงรอรับเงินเงียบ
ๆเท่านั้น.
เจ็ดวันหลังจากนั้น.
การประมูลก็เริ่มขึ้น.
เพราะว่าตระกูลอ้ายที่ทำการโฆษณา,เม็ดยาบูรณะร่างกายเป็นอย่างมากในครั้งนี้,ไม่เพียงแค่ชาวยุทธ์ในมนทลชิงหยาง,เหล่ากลุ่มอิทธิพลต่างถิ่น,ก็ได้ยินข่าวและยังมีคนส่งคนเข้ามาสังเกตการณ์ด้วยเช่นกัน.
“สุภาพบุรุษและสุภาพสตรี.”
ภายในโถงประมูล,อ้ายซางหนี่ที่ยืนบนเวทีและกล่าวออกไปว่า,”ผลของเม็ดยาบูรณะร่างกายนั้น,อ้ายโหมวไม่ได้กล่าวเกินจริง,เป็นดั่งที่ทุกคนได้รับข้อมูลไป,ดังนั้นขอเริ่มการประมูลในเวลานี้.”
“ฟิ้ว!”
เม็ดยาขวดแรกที่ถูกนำมาว่าง,”เม็ดยาบูรณะร่างกายเม็ดแรก,ราคาประมูลเริ่มต้นที่
1 ล้านเหรียญ!”
“1.1 ล้านเหรียญ!”
“1.2 ล้านเหรียญ!”
”......”
การประมูลที่ค่อย ๆรุนแรงขึ้นช้า ๆ.
เหล่าตระกูลใหญ่และสำนักต่าง
ๆที่เริ่มแย่งกันในทันที,ต้องไม่ลืมว่าเม็ดยาบูรณะร่างกายนั้นมีเพียงสี่เม็ด,ถือว่าหายากยิ่งกว่าเม็ดยาฟื้นฟูก่อนหน้านี้อีก!
หลังจากงานประมูลสิ้นสุดลง,ข่าวก็ถูกส่งมาถึงสำนักไท่กู่เจิ้ง,การแข่งขันที่รุนแรง,สุดท้ายเม็ดยาบูรณะร่างกายสี่เม็ดก็ถูกประมูลไปได้ราคารวม
10 ล้านเหรียญ.
“แต่ละเม็ดเฉลี่ยแล้วขายไปที่ราคา 2.5
ล้านเหรียญรึ?”เขาที่ส่ายหน้าไปมา,”ไม่ได้สูงมากเท่าไหร่นัก.”
หลี่ลั่วฉิวเอ่ย,”ตระกูลอ้ายประมูลครั้งนี้,ส่วนมากแล้วมุ่งเน้นไปที่มนทลชิงหยาง,ไม่ได้มีกลุ่มอิทธิพลอื่นด้านนอกเข้ามาแข่งขัน,การที่ได้สิบล้านเหรียญก็ถือว่าไม่เลวแล้ว.”
“ก็ถูก.”
จุนซ่างเซียวที่ไม่ได้เอ่ยอะไรต่อไป.
สิบล้านเหรียญ,ส่วนแบ่ง 40 : 60 ก็หมายความว่าเขาได้กำไร 4 ล้าน,ถือว่าเก็บเกี่ยวมาไม่น้อยเช่นกัน.
นอกจากนี้.
ไม่ใช่แค่เม็ดยาบูรณะร่างกาย,ยังมีเม็ดยาฟื้นฟูอีกด้วย.
แม้นว่าจะไม่มีกลุ่มอิทธิพลอื่นเข้ามาประมูล,ทว่าสิบเม็ดยาฟื้นฟูแม้นว่าจะไม่ได้ราคาเท่าเดิมที่หกล้าน,ทว่าก็ขายไปได้ในราคา
4 ล้าน.
ตระกูลอ้ายที่ไม่ได้เชิญต่างถิ่นเข้าร่วม,ก็เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและปัญหาที่อาจควบคุมไม่ได้นั่นเอง.
“เจ้าสำนัก.”
หลี่ชิงหยางที่ส่งข้อความมา,”ประมุขอ้ายขอพบ.”
ดูเหมือนว่าประมุขอ้ายจะนำเงินมาส่งแล้ว.
......
หลังจากที่อ้ายซางหนี่เข้ามาในห้องโถง,เขาก็มอบตั๋วเงินให้.
จุนซ่างเซียวที่ยินดีที่ได้ร่วมมือกับตระกูลอ้าย,ดังนั้นครั้งนี้เขาจึงมอบ
50 เม็ดยาฟื้นฟูและ 10 เม็ดยาบูรณะร่างกายออกไป.
อ้ายซางหนี่ที่รับมา,อดไม่ได้ที่จะมือสั่นไปเหมือนกัน.
เม็ดยามากมายขนาดนี้,หากนำออกไปประมูลหมด,เขาจะได้กำไรกลับมามากมายขนาดใหนกัน!
เทียบกับการจ่ายค่าปรับสิบเท่าให้ตระกูลเซียวรึ?
ไร้สาระ!
ขอเพียงรักษาสัมพันธ์กับเจ้าสำนักจุนได้,ถึงแม้นว่าจะต้องจ่ายยี่สิบเท่า,ตระกูลอ้ายก็หาได้สนใจ!
อ้ายซางหนี่ที่จากไปด้วยความสุข,ในเวลานี้เขาสามารถที่จะเปิดประมูลที่ใหญ่กว่าเดิมได้.
ระหว่างทางเขาที่วางแผน,ครั้งหน้านำเม็ดยาฟื้นฟูและเม็ดยาบูรณะร่างกายขยายตลาดออกไปนอกมนทลชิงหยางบ้าง,เปิดให้โลกภายนอกได้รับรู้!
......
เกี่ยวกับเรื่องประมูลการขายเม็ดยาที่เขาไม่ต้องเขาไปยุ่ง.
ในเวลานี้สำนักไท่กู่เจิ้งเริ่มขยับขยายพื้นที่ส่วนนอก,และสร้างตำหนักและหอต่าง
ๆมากขึ้น.
โดยเฉพาะห้องโถงใหญ่,ที่ขยายให้ใหญ่กว่าเดิม,และปูด้วยทองและหยกเขียว.
ด้วยความมั่งคั่งที่พวกเขามี,ทำให้สำนักใหญ่โตโอ่อ่าขึ้นเป็นอย่างมาก.
ตั้งแต่การประลองกับสำนักเห่าฉีจบลง,หลี่ชิงหยางที่ได้เริ่มออกแบบห้องโถงเป็นรูปแบบที่สามารถขยับขยายต่อเติมได้.
ทำไมนะรึ?
เพราะว่าลานด้านนอกและหอต่าง ๆไม่จำเป็นต้องสร้างขึ้นใหม่,งานก่อสร้างที่สามารถดำเนิดการได้ทันที,สดวกในการขยายและต่อเติม.
มุมมองของหลี่ชิงหยางนั้นกว้างไกล.
ห้องโถงใหญ่ที่เวลานี้ขยายออกเป็นสองเท่า,และไม่จำเป็นต้องปรับปรุงอีกในเวลาอันใกล้นี้แน่นอน.
“ไม่เลว,ไม่เลว.”
จุนซ่างเซียวที่นั่งภายในห้องโถงที่ใหญ่โต,พร้อมกับเผยยิ้มด้วยความพอใจ.
“เจ้าสำนัก.”
หลี่ชิงหยางเอ่ย,”แบบร่างที่มีขนาดใหญ่,ศิษย์ได้ออกแบบไว้แล้ว,สามารถที่จะขยับขยายให้ใหญ่กว่าเดิมสามเท่าตลอดเวลา.”
“ไม่เลว,สามารถขยายเป็นสามเท่าได้ตลอดเวลา.”
จุนซ่างเซียวที่หยุดชั่วครู่และเอ่ยออกไปว่า,”ออกคำสั่งไป,ให้ศิษย์ที่ฝึกฝนไปพักผ่อนในเย็นนี้,พรุ่งนี้พวกเราจะเดินทางไปยังหุบเขาแห่งความตายกัน.”
ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times
#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น