วันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2564

Strongest Sect of All Times Chapter 161 Dark and windy night, killing and torching day

Strongest Sect of All Times  Chapter 161 Dark and windy night, killing and torching day

 นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล

Chapter 161 Dark and windy night, killing and torching day

月黑风高夜,杀人放火天

เซียวจุ้ยจื่อที่สังหารมือสังหารไปคนหนึ่ง,คนของตึกฝนพรำก็มุ่งตรงมาและส่งมือสังหารเหรียญทองห้าคนตามไปทันที.

พวกเขาเป็นมือสังหารที่เชี่ยวชาญในการแกะรอยเป็นอย่างมาก.

กับมือใหม่ที่ลอบมาสังหาร,การจะถูกไล่ตามด้วยมืออาชีพ,ไม่มีทางที่จะรู้ตัว.


เช้าวันถัดมา.

จุนซ่างเซียวที่ฟื้นฟูพลังวิญญาณและความแข็งแกร่งกลับมา,ตอนนี้เช้าแล้วเขาที่ออกมานอกถ้ำสูดหายใจบริสุทธ์,พร้อมกับทำกายบริหาร.

“ไร้มลพิษ,เปี่ยมด้วยพลังวิญญาณ.”

เขาที่ถอนหายใจ,”คนของที่นี่,ถึงจะเป็นคนธรรมดา,อายุไขปรกติก็ 200-300 ปีแล้ว.”

นี่คือโลกของผู้ฝึกยุทธ์,หลังจากที่เปิดชีพจร,รวบรวมพลังวิญญาณได้,อายุไขก็จะเพิ่มขึ้นด้วย.

 

เจ้าสำนักจุนที่ต้องอุทิศตัวเพื่อที่จะทำภารกิจหลักให้สำเร็จ,ยังไม่ต้องการตาย,ต้องไม่ลืมว่าที่นี่ 100 ปี,เทียบได้กับโลกเดิมก็เพียง 30 ปีเท่านั้น.

“วูซซซ!

หลี่ชิงหยางที่ได้รับเครื่องหมายที่ด้านนอกป่า,เป็นคนของหอฝนพรำทิ้งเอาไว้,”เจ้าสำนัก,พวกเขากำลังไล่ตามไปอยู่.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย,”ตอนนี้พวกเราคงทำได้แค่รอและระวัง.”

“กลับสำนัก.”

“ครับ!

หลังจากพักหนึ่งคืน,ทุกคนก็เดินทางต่อ.

เมื่อไปถึงทางแยกอาณาเขตเมืองชิงหยาง,เจ้าเมืองเซี่ยและประมุขหลี่และคนของเมืองชิงหยางอีกหลายคนที่กล่าวลา.

พวกเขาที่คอยสนับสนุนจุนซ่างเซียวตลอดทาง,ทำให้เขาซาบซึ้งมาก,ดังนั้นก่อนจากจึงได้มอบเม็ดยาบูรณะร่างกายให้กับทุกคน.

“นี่คือเม็ดยาที่จะช่วยยกระดับความแข็งแกร่งอย่างนั้นรึ?”

“หรือว่านี่คือเม็ดยาบูรณะร่างกาย,ที่ประมุขอ้ายกำลังขายหรือไม่?”

“โอ้วสวรรค์,เจ้าสำนักจุนและตระกุลอ้ายนี่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกันขนาดนี้เลยรึ? ไม่คิดเลยว่าเม็ดยาที่นำออกประมูล,เขาจะมอบให้พวกเราง่าย ๆ?”

ขณะเจ้าเมืองเซี่ยนำทุกคนกลับเมือง.

“ทุกท่าน.”

เซี่ยกวนคุนที่หยุดและเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม,”เรื่องที่เจ้าสำนักจุนมอบเม็ดยาให้กับพวกเรา,อย่าได้แพร่งพรายเด็ดขาด.”

เหล่าประมุขตระกูลต่าง ๆที่โลดโผนในยุทธภพ,จะไม่เข้าใจความหมายได้อย่างไร,พวกเขาที่กล่าวตอบกลับอย่างขันแข็ง,”เจ้าเมืองเซี่ยโปรดวางใจ,เรื่องนี้พวกเรารู้,มีเพียงสวรรค์เท่านั้นที่รู้!

......

“เจ้าสำนัก,ศิษย์พี่,ทุกคนกลับมาแล้ว!

สำนักไท่กู่เจิ้งที่สงบสุข,ทันใดนั้นซือหม่าจงต้าที่ตะโกนออกมาเสียงดังทำลายความสงบนั่น.

เมื่อจุนซ่างเซียวและศิษย์แปกคนก้าวเข้ามาในค่ายกลคุ้มสำนัก,ศิษย์ทุกคนก็หยุดบ่มเพาะ,และเข้ามารายล้อมสอบถามเรื่องราว.

“เอาชนะได้ 7 : 0?”

“มารดาเถอะ,จะสุดยอดเกินไปแล้ว!

“เจ้าสำนักทรงพลังมาก,ศิษย์พี่แข็งแกร่งมาก!

บนลานยุทธ์เวลานี้,เสียงของศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งที่ส่งเสียงจอแจเอ่ยกล่าวด้วยความตื่นเต้น.

 

“ตู้ตู้!”จุนซ่างเซียวที่อารมณ์ดี,”เย็นนี้ทำอาหารหลายอย่าง,เป็นกับแก้มสุรา,ฉลองชัยชนะครั้งนี้ด้วย!

ชื่อเสียง,เงิน,แต้มสนับสนุน.

การเดินทางครั้งนี้ไปท้าประลองกับสำนักเห่าฉี,เก็บเกี่ยวได้มากมาย,เวลานี้จะห้ามไม่ฉลองได้อย่างไร!

“รับทราบ!

หลิวหว่านซี่ที่หยุดฝึกฝน,นำหม่าหยุนหนิงและดำหนึ่ง,ดำสอง,ไปเตรียมอาหาร,เพื่อฉลองตอนเย็นทันที.

......

ภายในห้องหนังสือ.

จุนซ่างเซียวขณะนั่งลง,ยังไม่ได้ยกน้ำชาขึ้นดื่ม,หลี่ลั่วฉิวในชุดเครื่องแบบสำนักสุดยั่วยวนก็ก้าวเข้ามาด้วยรอยิ้ม,”เจ้าสำนัก,ท่านร้ายกาจจริง ๆ.”

นางที่ได้รับข้อมูลตั้งแต่เช้าแล้ว,ศิษย์ชนะเจ็ดคน,เจ้าสำนักที่ฟันร่างฉินเห่าหรานได้รับบาดเจ็บ.

ทันทีที่,หลี่ลั่วฉิวได้รับรายงาน,นางถึงกับงงงวยไปเหมือนกัน.

แม้นว่ะไม่หวังให้จุนซ่างเซียวพ่ายแพ้ในครั้งนี้,ทว่ากับการปะทะกับสำนักระดับหก,ตามที่นางคาดการอย่างดีที่สุด,ควรจะแพ้สัก 2-3 คน.

แต่ท้ายที่สุด!

เอาชนะ 7 : 0!

หากไม่ใช่เพราะผู้ใต้บังคับบัญชาที่เชื่อใจได้,นางที่เป็นถางจูคงจะสงสัยว่าข้อมูลที่ได้รับผิดพลาดหรือไม่!

จุนซ่างเซียวยกชาขึ้นจิบและวางลง,ก่อนที่จะยกข้าไขว่ห้างเอ่ยออกมาว่า,”สำนักไท่กู่เจิ้งจะกลายเป็นสำนักที่แข็งแกร่งที่สุด,ครั้งนี้เป็นเพียงแค่เรื่องทั่วไป.”

กับคำพูดที่ดูยิ่งใหญ่,อหังการเป็นอย่างมาก.

หลี่ลั่วฉิวที่นั่งลง,กล่าวด้วยรอยยิ้ม,”ดูเหมือนว่าข้าที่ยอมเข้าร่วมสำนัก,จะเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดที่สุดแล้ว.”

จากมุมมองของจุนซ่างเซียว,ที่เห็นสายตาของนางที่หยาดเยิ้มก็หวั่นไหว,จึงเร่งรีบเปลี่ยนเรื่องในทันที,”ตระกูลเซียวมีความเคลื่อนไหวหรือไม่?”

“มี.”

เมื่อกล่าวเป็นการเป็นงาน,ใบหน้าของหลี่ลั่วฉิวที่จริงจังทันที,กล่าวออกมาว่า,”วันที่เจ้าสำนักเดินทางไปยังสำนักเห่าฉีนั้น,อาวุโสใหญ่ตระกูลเซียวหายไป.”

“หายไป?”จุนซ่างเซียวที่ตะลึงงัน.

ลี่ลั่วฉิวเอ่ย,”อาวุโสใหญ่ตระกูลเซียวนั้นโดยปรกติ,ทุก ๆ เจ้าจะเดินทางไปยังซุ้มชิงหยา(เจิดจรัส),เพื่อดื่มชาเป็นประจำ,ทว่าวันนั้นกลับไม่มา.”

จุนซ่างเซียวที่สีคางไปมา,”ตรวจสอบซุ่มชิงหยาหรือยัง?”

“ตรวจสอบแล้ว.”ลี่ลั่วฉิวเอ่ย,”นี่เป็นหนึ่งในธุรกิจของตระกูลเซียว,ที่ไม่ให้คนนอกเข้าไปด้านในได้.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย,”เจ้าคิดว่าอย่างไร?”

“ข้าให้คนจับตาตระกูลเซียวให้ระเอียดแล้ว,ทว่ายังไม่มีข่าวอะไรกลับมา.”

หลี่ลั่วฉิวหยุดและเอ่ยออกมา,”ซุ้มชิงหยานั้น,บางที่อาจจะเป็นที่มั่นลับก็ได้.”

จุนซ่างเซียวที่เชื่อเพียงครึ่งหนึ่ง,”ก็เป็นไปได้.”

หลี่ลั่วฉิเอ่ย,”ข้าให้คนจับตาอยู่,ตอนนี้เจ้าสำนักมีแผนอย่างไร?”

“รอ.”

“รออะไรงั้นรึ?”

“รอข่าวจากเสี่ยวมีเฟิง(ผึ้งน้อย)”

เสี่ยวมี่เฟิงก็คือหัวหน้ามือสังหารเหรียญทองเมื่อวานนี้,ที่มีตำแหน่งถัดลงมากจากงูพิษและแมวภูเขาที่เป็นมือสังหารไพ่ตาย.

หลังจากที่จุนซ่างเซียวรู้ชื่อเล่น,เขาก็สั่งการ,”ให้เสี่ยวมี่เฟิง,ติดตามรอคอยมือสังหารเหรียญทองที่ไล่ตามศัตรูที่ลอบมาสังหารเขาไป.”

หลี่ลั่วฉิวเอ่ย,”ดูเหมือนว่าเจ้าสำนักเดินทางครั้งนี้,มีมือสังหารซุ่มโจมตีอยู่.”

จุนซ่างเซียวที่ยกน้ำชาขึ้นดื่มอีก,กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา,”อย่าให้เปิ่นจั้วรู้ว่าเป็นใคร,ไม่เช่นนั้นจะต้องถูกทำลายจนสิ้นแน่!

การที่อีกฝ่ายส่งมือสังหารครั้งแล้วครั้งเล่า,ไม่ว่าจะเป็นใครก็ไม่สามารถทนได้.

ขอเพียงเสี่ยวมี่เฟิงรู้ตำแหน่ง,และระบุที่มั่นศัตรูได้,เขาก็จะลงมือทันที.

......

เวลาเย็น.

โรงอาหารที่สว่างจ้า.

บนโต๊ะมีอาหารมากมายพร้อมกับสุราครบครัน.

จุนซ่างเซียวที่ถือถ้วนสุรา,กล่าวออกไปว่า,”เพื่อชัยชนะที่นำกลับมาได้,เอาชน!

“เจ้าสำนักแข็งแกร่ง!

เหล่าศิษย์ที่ถือถ้วนสุรา,พร้อมกับยกสุรุขึ้นกล่าวเสียงดัง.

เหล่าเหว่ยเองก็มาด้วยเช่นกัน.

เขาที่นั่งอยู่ที่หัวมุม,ถือถ้วยสุรา,จ้องมอง,เหล่าผู้เยาว์ที่กำลังสนุกสนาน,แววตาที่คลอเบ้านึกถึงความหลัง.

“เหว่ยจื่อ,ข้าจะก่อตั้งสำนัก,เจ้าไม่มากับข้าเหรอ!

“ฮ่าฮ่าฮ่า,ท้ายที่สุดก็พบภูเขาที่เหมาะสมแล้ว,พวกเราจะสร้างสำนักขึ้นที่นี่!

“เหว่ยจี่อ,นับจากวันนี้ข้าเป็นเจ้าสำนัก,เจ้าเป็นรองเจ้าสำนัก,พวกเราจะร่วมสร้างสำนักด้วยกัน!

ความทรงจำที่นานมาแล้ว,ปรากฏขึ้นภายในใจอีกครั้ง,เหล่าเหว่ยที่เวลานั้นกำลังมีอายุเท่า ๆกับผู้เยาว์เหล่านี้.

วันเวลาที่ไม่เคยปราณีใคร,ทุกคนที่ตายลับหรือไม่ก็แก่เฒ่าไปตามเวลา.

“ปู่เหว่ย.”

หลิวหว่านซีที่ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เวลานี้นั่งค้ำคางจ้องมอง,ดวงตากระพริบไร้เดียงสา,”นี่ท่านร้องไห้อย่างงั้นรึ?”

เหล่าเหว่ยที่กล่าวออกมาด้วยรอยิ้ม,”กับแกล้มเผ็ดเล็กน้อย.”

หลิวหว่านซี่ที่เอ่ยเสียงสูง,”โหย,อาหารของปู่เหว่ย,ตู้ตู้ทำพิเศษเลย,ไม่ได้ใส่พริกไทยแม้แต่น้อย.”

“อึก ๆ.”

เหล่าเหว่ยที่ยกสุราขึ้นดื่มเอ่ยออกมาว่า,”สุรามีรสเผย,เป็นสุรานี้เองที่เผ็ด!

หลิวหว่านซี่ที่มองบน,กล่าวออกไปว่า,”ปู่เหว่ย,สุราไหลไปยังปู่น้อยของท่านแล้ว,ไม่แยกขา...”

“ปู้ดดดดด!

เหล่าเหว่ยที่สำลักพ่นสุรา,แทบจะเละไปทั่วกางเกง.

คำพูดพล่อยๆ คำพูดของเด็ก ๆ ที่ไม่ควรถือสา ...

是否只是童言无忌. ซื่อ โฝว จื่อ ซื่อ ถง เหยียน อู่ จี้. หรือมันเป็นเพียงแค่ลมปากใช่ไหม, คำพูดพล่อยๆ คำพูดของเด็กๆ ที่ไม่ควรถือสา ...

......

ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งที่ปรกติตั้งใจฝึกฝนอย่างนัก,วันนี้ที่นาน ๆจะมีสักครั้งได้ปลดปล่อย,ทำให้ทุกคนสนุกสนานมีความสุขเป็นอย่างมาก.

จุนซ่างเซียวที่ถือชามสุรา,ก่อนที่จะก้าวเดินมานั่งบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง,จ้องมองคนอื่น ๆที่ร้องเล่นเต้นอย่างมีความสุข.

“เจ้าสำนัก.”

หลี่ลั่วฉิวก้าวเข้ามา,เอ่ยกล่าวด้วยท่าทางจริงจัง,”เสี่ยวมี่เฟิง,ส่งข่าวมาแล้ว.”

“เร็วขนาดนี้เลยรึ?”จุนซ่างเซียวที่เมาเล็กน้อย,ก่อนที่จะก้าวเข้าไปในห้องหนังสือ.

หลี่ลั่วฉิวส่งข่าวมาว่า,”คนของเสี่ยวมี่เฟิงนั้นได้ไล่ตามมือสังหารกลุ่มนั้นไปยังเขตเมืองหลี่หยาง,จากนั้นคนเหล่านั้นก็เปลี่ยนชุดเป็นพนักงานเข้าไปในซุ่มชิงหย๋า.”

 

จุนซ่างเซียวที่กำหมัดแน่น,ก่อนที่จะแค่นเสียง,”เช่นนั้น,ซุ้มชิงหย๋านั่นก็คือที่มันของมือสังหารตระกูลเซียว,ที่นอกเมืองหลี่หยางคงจะเป็นฝีมือพวกเขาด้วยสินะ!

มารดาเถอะ.

นี่คิดจะประกาศสงครามกับข้าใช่ใหม?!

เขาที่กำราบตึกฝนพรำ,ทว่ายังถูกพวกปลายแถวไล่กัดไม่หยุด,เกรงว่าหาไม่ทำลายให้สิ้นคงไม่หยุด.

“ถางจู่หลี่รับคำสั่ง.”

“ฟิ้ว!

หลี่ลั่วฉิวที่ถอยห่างออกไปสองก้าว,รอคอยรับคำสั่ง.

จุนซ่างเซียวเอ่ยด้วยน้ำเสียงมืดครึ้มเย็นชา,”พรุ่งนี้ตอนเย็น,พวกเราจะทำลายซุ้มชิงหย๋า,อย่าให้ใครเหลือรอดสังคน!

“รับทราบ.”

“ให้เซียวจุ้ยจื่อไปด้วย.”

“เรื่องนี้...”หลี่ลั่วฉิวเอ่ย,”ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นคนตระกูลเซียว,เกรงว่าจะทำให้จิตใจของเขาว้าวุ่น.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย,”เจ้าคิดว่ามือสังหารตระกูลเซียวนั้นต้องการสังหารเปิ่นจั้วอย่างงั้นรึ?”

หลี่ลั่วฉิวที่เงียบไปเล็กน้อย,กล่าวออกมาว่า,”ข้าเข้าใจแล้ว,คนที่ตระกูลเซียวหมายตาคือเซียวจุ้ยจื่อ,นี่คือความแค้นของพวกเขาก็จริง,เขาที่ถูกไล่ออกแล้วจะตัดขาดได้อย่างสมบูรณ์.”

“กึก ซี่!

มือทั้งห้าของจุนซ่างเซียวที่กำแน่น,ถ้วยน้ำชาที่ถูกบดเป็นผง,”กล้าหาเรื่องศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้ง,ไม่ใช่แค่เพียงซุ้มชิงหย๋าแน่นอน,เหล่าจื่อจะทำให้พวกเจ้าได้ชดใช้ให้หนัก!

จิตสังหารที่คละคลุ้ง,กระจายไปทั่ว!

......

เมืองหลี่หยาง,ท้องฟ้าที่มืดสนิท.

พนักงานซุ้มชิงหย๋าที่เวลานี้กำลังปิดร้าน,ปิดประตู,ทันใดนั้นก็มีสตรีผู้งดงามคนหนึ่งเข้ามาขวาง,กล่าวออกไปด้วยรอยยิ้ม,”พี่ชาย,ที่นี่คือซุ่มชิงหยางอย่างงั้นรึ?”

สตรีที่ดูงดงาม,รูปร่างยั่วยวน,จนดวงตาพนักงานแทบถลนออกมา.

ทว่าพนักงานคนดังกล่าวกลับเอ่ยกล่าวออกมานุ่มนวลทันที,”ขออภัย,ที่นี่ปิดแล้ว.”

“ที่นี่ไม่ทำธุรกิจแล้วงั้นรึ?”สตรีคนดังกล่าวเอ่ยด้วยรอยยิ้ม.

พนักงานคนดังกล่าวออกไปในทันที,”สถานที่แห่งนี้ปิดเวลากลางคืน,หากแม่นางต้องการดื่มชา,พรุ่งนี้ค่อยมาอีกครั้ง.”

สตรีผู้งดงามที่ยังไม่ไป,ที่กำลังเล่นหูเล่นตา,กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม,”พี่ชาย,ข้าไม่ได้มาดื่มชา,ทว่ามาเอาชีวิต.”

เอาชีวิต?

แววตาของพนักงานคนดังกล่าวที่กลายเป็นเย็นชา.

“พรึด ซี่-“ประกายแสงที่เย็นเยือบตัดผ่านคอของเขาทันที.

แน่นอนว่าสตรีคนดังกล่าวก็คือหลี่ลั่วฉิวที่ส่งมีดบินรูปใบไม้ออกไป,พร้อมกับโบกมือผู้ใต้บังคับบัญชาเก็บศพและปิดซุ่มชิงหย๋าทันที.

ภายในความมืดมิดที่ได้ยินเพียงลมหนาว.

ความตายที่กำลังครุ กรุ่นปิดบังท้องฟ้า!

 


ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times

#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
Author(s)
Goodbye Jianghu


เข้ากลุ่มลับ VIP ====> Click


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น