Strongest Sect of All Times Chapter 160 Stares
นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล
Chapter 160 Stares
盯上
ศิษย์เจ็ดคนพ่ายแพ้ราบคาบ,ป้ายสำนักหน้าห้องโถงถูกทำลาย,เสียเงินเดิมพันสิบล้าน,เจ้าสำนักได้รับบาดเจ็บ.
ทุกอย่างที่เกิดขึ้น,เกินกว่าจะบรรยายหมด,ศักดิ์ศรีชื่อเสียงของสำนักเห่าฉีได้เสียหายหมดแล้ว,ไม่เพียงแต่เสียเงิน,ยังเสียเกียรติของสำนักระดับหกไปด้วย!
“จุนซ่างเซียว!”
“สำนักเห่าฉีของข้าจะไม่ขออยู่ร่วมฟ้ากับสำนักไท่กู่เจิ้งตลอดกาล!”
ฉินเห่าหรานที่ระงับความเจ็บปวดเอาไว้,เขาที่ได้รับบาดเจ็บที่กลางหลัง,ดวงตาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยเต็มไปหมด.
ทั้งพ่ายแพ้ในการประลองและยังขายหน้าอีกด้วย.
อย่างไรก็ตาม,ทุกคนต่างก็ทำได้แค่มอง,ไม่สามารถทำอะไรได้,เพราะทุกอย่างก็เป็นไปตามธรรมเนียมของยุทธ์ภพ!
หากไม่เพราะว่ามีคนยังอยู่จำนวนมาก,ผู้นำฉินคงจะนอนกลิ้งไปกับพื้น,ซบหน้าร้องไห้เหมือนกับเด็ก
ไปแล้ว.
มารดาเถอะ.
เสียทั้งชื่อเสียง,เสียทั้งเงิน,ไม่ยอม!
ใครจะทนเรื่องนี้ได้กัน.
การประลองกับจุนซ่างเซียวในครั้ง,ทุกอย่างที่ก้าวมาถึงตอนนี้ได้.
คงบอกได้เพียง,ต้องโทษตัวเอง.
สำนักหลิงชวนที่ว่าจ้างมือสังหาร,และถูกทำลายโดยจุนซ่างเซียวก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร,แต่เขากลับแสร้งเป็นทนไม่ได้,เสนอหน้าออกไป.
เพื่อที่จะเลียเท้านิกายเซิ่งชวน,ถึงกับนำพันธมิตรเพื่อกล่าวโทษอีกฝ่ายที่ตึกจันทร์ดารา.
กับนิกายระดับห้า,ฉินเห่าหรานที่คุกเข่าให้,เขาที่กระตุ้นให้สามอาวุโสสามคนของนิกายเซิ่งชวนออกโรง.
ด้วยการต้องการถล่มจุนซ่างเซียวให้ยับเยิน,เป็นการยืมมีดฆ่าคนอยู่เบื้องหลัง.
เจ้าสำนักจุนที่ไม่หลบหลีก,แม้แต่นำศิษย์ของตัวเองออกมาท้าประลองต่อหน้าผู้คนและทุบตีพวกเขา,ทำลายเกียรติไปจนสิ้น.
กลายเป็นพวกเขาเองที่เตะเข้าไปโดนแผ่นเหล็กเอง.
......
ที่เชิงเขาสำนักเห่าฉี.
จุนซ่างเซียวที่เดินอยู่,จู่
ๆร่างกายของอ่อนแรง,เสียหลักโซเซไปมา.
เซียวจุ้ยจื่อที่เห็นเข้า,เร่งรีบเข้าไปพยุง,กล่าวออกมาด้วยความกังวล,”เจ้าสำนัก,ท่านเป็นไรหรือไม่?”
“...ไม่เป็นไร...”จุนซ่างเซียวที่ใบหน้าซีดเซียว,กล่าวเสียงแผ่ว
ๆ,”ไปเถอะ,รีบกลับสำนัก.”
หวังตงหลินที่ตามมาเอ่ยออกไปว่า,”ดาบของเจ้าสำนักจุนนั้น,มีพลังไม่น้อยกว่าอาวุธระดับสูงขั้นสูงเลย,การใช้อาวุธดังกล่าวนั้นด้วยระดับศิษย์ยุทธ์,หากไม่มีร่างกายที่แข็งแกร่งพอ,อาจทำให้ตัวเองพิการได้เลย,นับว่าครั้งนี้โชคดีมาก.”
“....”จุนซ่างเซียวที่กลายเป็นเงียบงัน.
แม้นว่าจะใช้ยันต์แห่งพลังเพิ่มความแข็งแกร่ง,สามารถที่จะเหวี่ยงดาบยาวมังกรเขียวได้,ทว่าก็ฟาดฟันได้เพียงแค่ห้ากระบวน,พลังวิญญาณลมหมุนก็แทบหมดสิ้น,เขาที่เกือบจะฟรุบล้มลงกับพื้นไปแล้ว.
เขาที่เร่งรีบออกมา,เพราะเกรงว่าผลของยันต์จะหมดฤทธิ์ก่อนนั่นเอง.
“ฟู่!”
จุนซ่างเซียวที่ลอบถอนหายใจกล่าวในใจ,”หากว่ากระบวนสุดท้ายนั่นเอาชนะฉินเห่าหรานไม่ได้,คนที่โชคร้ายคงเป็นข้า.”
ด้วยดาบยาวมังกรเขียวที่มีราคา 200
แต้ม,บวกกับยันต์แห่งพลัง,เอาชนะระดับบรรพชนยุทธ์ขั้นที่หนึ่งได้,เห็นชัดเจนว่าห่างกันสองดินแดนบ่มเพาะ,เป็นเรื่องที่ยากมาก
ๆ!
เกินกว่าคำว่ายาก.
ต้องบอกเลยว่าไม่ต่างกับปีนขึ้นสวรรค์!
ในเวลานั้นหากไม่เพราะฉินเห่าหรานที่ตกใจเป็นห่วงอาวุธที่ขาดเป็นสองท่อนคงหลบการโจมตีสุดท้ายนั่นได้,และสวนกลับมา,คงเป็นจุนซ่างเซียวที่อนาถได้รับบาดเจ็บสาหัสแทน.
ให้สรุปจริง ๆ.
ถึงจะมีอาวุธที่ทรงพลัง,แต่ก็บวกกับโชคด้วย จึงทำให้จุนซ่างเซียวชนะ.
“หลังจากลับสำนัก,ควรจะบ่มเพาะพลังศิษย์ให้เร็วที่สุด,จากนั้นก็พาไปทำภารกิจมหากาพย์,เพื่อยกระดับพลังของข้าให้เร็วที่สุด!”จุนซ่างเซียวที่คิดในใจ.
ระบบเอ่ย,”เกี่ยวกับความแข็งแกร่งที่คำนวณได้ก่อนหน้านี้,อย่างน้อยจะต้องมีความแข็งแกร่ง
150,000 จิน,ถึงจะใช้อาวุธได้อย่างปรกติ.”
150,000 จินเลยรึ?
จุนซ่างเซียวที่ตื่นตะลึง,”นี่เวทย์เทวะเปลี่ยนรูป,ดาบยาวมังกรเขียว,น่าหวาดกลัวจริง
ๆ!”
“ติ๊ง!
โฮสน์ใช้แต้มสนับสนุน 20 แต้,ได้รับยันต์แห่งพลัง 1,ถูกส่งเข้าไปในแหวนมิติแล้ว.”
“ติ้ง!
คะแนนสนับสนุนสำนัก : 480 / 500.”
ดาบยาวมังกรเขียวต้องมีพลังเพียงพอที่จะยก,เมื่อไหร่ที่ยันต์แห่งพลังหมดคูลดาวน์เขาจะต้องซื้อมันเอาไว้ทันที,เผื่อไว้กรณีฉุกเฉิน.
“ดาบนี้ร้ายกาจมาก,ไม่รู้ว่าพลังพิเศษ,วิญญาณปราชญ์ยุทธ์จะแข็งแกร่งขนาดใหน?”
ระบบเอ่ย,”โฮสน์ยังไม่มีพลังมาตรฐานใช้ดาบยาวมังกรเขียวได้อย่างปรกติ,ยังไม่ควรคิดถึงพลังพิเศษของมัน.”
ก็ถูกนะ.
พลังพิเศษของอาวุธย่อมต้องแข็งแกร่งมาก,เขาที่ยังไม่มีพลังที่ใช้มันได้อย่างปรกติ,หากเปิดใช้งาน,มีแต่จะทำให้ร่างกายระเบิด,เวลานั้นคงขำไม่ออก.
“เจ้าสำนักจุน.”
เมื่อมาถึงทางแยก,ประมุขอ้ายที่ยกมือประสานเอ่ยออกไปว่า,”อ้ายโหมวคงต้องแยกกลับเมืองฮู่หยางที่ตรงนี้แล้ว,ขอลาก่อน!”
“ลาก่อน...”
จุนซ่างเซียวที่กล่าวเสียงแผ่ว,ไม่แม้แต่กล่าวออกมาได้อย่างเต็มคำ.
อ้ายซางหนีที่นำหวังตงหลินจากไป,ระหว่างทางที่ลอบคิดในใจ,”ศิษย์ของสำนักไท่กู่เจิ้งแข็งแกร่งมาก,แน่นอนว่าต้องเกี่ยวข้องกับเม็ดยาบูรณะร่างกายแน่,กลับไปนี้คงต้องเพิ่มราคาขึ้นแล้ว!”
เขายังจำได้ดีหลี่ชิงหยางและคนอื่น ๆ เมื่อใช้เม็ดยาบูรณะร่างกาย,ก็มีพลังที่สามารถต่อสู้ข้ามขั้นได้,ดังนั้นเขาจึงต้องวางแผนในการโฆษณาใหม่เพื่อเพิ่มราคา!
......
เซี่ยกวนคุนและประมุขหลี่และอีกหลายคนที่ยังคงเดินทางกลับพร้อมกับจุนซ่างเซียว.
เพราะทุกคนมาจากเมืองชิงหยาง,เวลานี้พวกเขาที่แวะพักที่หุบเขาแห่งหนึ่ง,เนื่องจากค่อนข้างมืดแล้ว,ที่หุบเขาดังกล่าวมีถ้ำที่สะอาดสามารถแวะพักอยู่ได้ชั่วคราว.
จุนซ่างเซียวที่นั่งสมาธิ,โคจรวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็น,เริ่มที่จะฟื้นฟูพลังวิญญาณที่หายไป.
ที่ด้านนอกถ้ำเซียวจุ้ยจื่อพร้อมกับสไนเปอร์ไรเฟิลกำลังซุ่มนอนอยู่ใต้ต้นไม้ห่างออกมาจากถ้ำ,พร้อมกับใช้กล้องส่องทางไกลแปดเท่า,คอนสังเกตการณ์พื้นที่รอบ
ๆ.
สิบสมาชิกตึกฝนพรำเองก็กระจายอยู่รอบ
ๆในที่สุด,คอยปกป้องอยู่อีกชั้นหนึ่ง.
หลี่ชิงหยางและซูเซียวโม่ที่ปกป้องนอกถ้ำ.
เถียนซีและหลี่เฟยสองคนที่อยู่ข้างเจ้าสำนัก,คอยปกป้องเป็นการส่วนตัว.
ในเวลาเดียวกันนี้,เซี่ยกวนคุนที่นั่งอยู่ด้านหน้ากองไฟ,เอ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม,”ฉินเห่าหรานเป็นคนที่หยิงในศักดิ์ศรีมาก,คงไม่กล้าที่จะลอบโจมตีด้วยวิธีที่สกปรก.”
จุนซ่างเซียวที่ฟื้นฟูพลังวิญญาณและความแข็งแกร่งคืนมากมากแล้ว,ตอนนี้ลืมตาและเอ่ยออกไปว่า,”เจ้าเมืองซี่ยตอนนี้อยู่ห่างจากถิ่นตัวเองมาก,ระวังไว้ก็ไม่เสียหาย.”
เขาไม่ได้กังวลกลับฉินเห่าหราน,ที่กังวลนั้นเป็นคนอื่น,โดยเฉพาะมือสังหารสองกลุ่มที่ยังไม่สามารถระบุตัวได้อย่างชัดเจน.
การประลองกับสำนักเห่าฉีนั้น,คงจะกระจายไปทั่วมนทลชิงหยาง,กับคนที่หมายตาพวกเขาไว้,ย่อมต้องรู้ตัวและอาจวางแผนซุ่มโจมตีด้วย.
“ปัง-“
ไม่นานหลังจากนั้น,ที่ทางออกก็ได้ยินเสียงของปืนดังขึ้น.
เจ้าเมืองเซี่ย,ประมุขหลี่และคนอื่น
ๆที่นั่งอยู่ด้านหลังกองไฟ,ที่หวาดผวากับเสียงระเบิดดังก้องนั่น.
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”ออกไปดู.”
“ครับ.”
หลี่ชิงหยางและซูเซียวโม่ที่ออกจากถ้ำอย่างรวดเร็ว,เจ้าเมืองเซี่ยเองก็ด้วย.
เถียนซี,หลี่เฟยที่ยังคงอยู่ข้างเจ้าสำนัก,ด้วยใบหน้าเป็นกังวลและประหลาดใจกับเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย.
ลู่เชียนเชียนที่ยังคงบนศิลา,แขนที่เรียวงามยังคงกอดกระบี่,แววตาที่เผยความเย็นชาออกมา.
โจวหงที่ลุกขึ้นมือที่ยังคงถือกระบี่,ก่อนที่จะก้าวออกไปยืนอยู่ด้านนอกปากถ้ำ.
เย่ซิงเฉินที่ยังคงสงบ,ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น.
ภายในถ้ำยังคงเงียบสงบ,ส่วนเสียงที่ดังลั่นนั้นคือเสียงของสไนเปอร์ไรเฟิล,ทำให้ประมุขหลี่และคนอื่น
ๆเผยท่าทางจริงจัง.
“ฟิ้ว!”
จากนั้นไม่นาน,หลี่ชิงหยางและซูเซียวโม่ที่กลับมา,มีศพในชุดสีดำคนหนึ่งที่ถูกทิ้งลงบนพื้น,”เจ้าสำนัก,มีคนรุกเข้ามา.”
“ค้น.”
“ครับ.”
ซูเซียวโม่ที่ค้นอย่างรวดเร็ว,”เจ้าสำนัก,ภายในร่างไม่มีสิ่งใดเลย.
“ใครกัน?”จุนซ่างเซียวเอ่ย,”ดูเหมือนว่าอาจจะเป็นกลุ่มมือสังหารจากเมืองหลี่หยางอีกรึ?”
......
ที่ป่าเขาในที่ซ่อนที่ห่างออกมาเหล่าชายชุดดำอีกหลายคนที่กำลังหนีกระจาย,มารวมตัวกันอีกครั้ง.
“พี่ใหญ่,เหล่าซานถูกสังหารไปแล้ว.”ชายชุดดำคนหนึ่งเอ่ยกล่าวด้วยเสียงแหบเครือ.
“สำนักไท่กู่เจิ้งระมัดระวังกันมาก,พวกเราไม่สามารถที่จะเข้าใกล้ได้,ไม่เช่นนั้นคงต้องตายด้วยปืนไฟไร้เทียมทานนั่นแน่.”ชายชุดดำที่เป็นหัวหน้ากล่าวออกมาเสียงเบา.
“น่ารังเกียจ,พี่น้องมากมายเดินทางไปยังสำนักไท่กู่เจิ้ง,ล้วนแต่ต้องตายด้วยอาวุธลับเหล่านี้.”ชายคนหนึ่งที่เผยความโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก.
“พี่ใหญ่,ตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไร?”
“ถอยก่อน,แล้วค่อยวางแผนกันใหม่.”
“รับทราบ.”
“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!”
ชายชุดดำห้าคนที่เร่งรีบถอยจากไปในความมืดอย่างรวดเร็ว.
อย่างไรก็ตาม,ในเวลานั้นมีกลุ่มมือสังหารชั้นยอดที่เป็นมืออาชีพกว่ากำลังจับตามองพวกเขาอยู่เช่นกัน.
ต้องบอกว่าเหล่ามือสังหารกลุ่มที่กำลังถอนตัวนี้คงคาดไม่ถึง,ว่าการลอบสังหารของพวกเขาที่พลาดเป้าและถอยกลับไปนั้น,คนของหอฝนพรำได้จับตามองพวกเขาเรียบร้อยแล้ว.
ด้วยความสามารถพวกเขา?
ต้องบอกเลยว่า,มือสังหารที่ถูกส่งมานั้นเป็นมือสังหารเหรียญทองทั้งสิ้น,เหนือกว่ามือสังหารที่มาซุ่มโจมตีมาก!
ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times
#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น