Immortality Chapter 1221 The inkstone is boundless
Chapter 1221 The inkstone is boundless
墨海无边
เขตแดนทะเลหมึก
หลังจากนั้นผ่านมาอีกสิบวัน,ภายในห้องอักษรของจงซาน.
"เซิ่งหวัง,ช่วงนี้,ภาคตะวันตกดูเงียบเหงา,ไม่มีเหตุการณ์สำคัญใดเกิดขึ้น!"เซิ่งกงเป้าที่กล่าวรายงาน.
"ไม่,เรื่องสำคัญจะเกิดขึ้นในทันที!"ใบหน้าของจงซานที่เผยความมั่นใจออกมา.
"หืม?"ทุกคนที่ไม่เข้าใจจดจ้องมองไปยังจงซาน.
"ข้าสัมผัสได้,หยวนซือใกล้เข้ามาเรียบร้อยแล้ว!"จงซานเอ่ย.
รู้สึก?แน่นอนว่าเขาสัมผัสได้ถึงกุยเอ๋อ,กุยเอ๋ออาศัยอยู่ในธวัชหยวนซือ,เมื่อหยวนซือเขาใกล้จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะทำให้จงซานรับรู้ได้,จงซานไม่ได้บอกกล่าวเหตุผลอะไรออกไป,ทว่าทุกคนก็เชื่ออย่างไม่ต้องสงสัย.
"หยวนซือมา? เรื่องนี้......!"ดวงตาของจินเผิงเป็นประกาย.
"วิหารโหยวหลาน,จะต้องเกิดปัญหาแน่!"เซิ่งกงเป้าพยักหน้ารับ!"
จงซานที่นำคนของเขาเข้าไปซุ่มอยู่ใกล้ๆวิหารโหยวหลาน,การมาของหยวนซือจื่อจุ้น,ไม่ต้องถามว่าทำไม?
แน่นอนว่าเพื่อตำหนักปราชญ์เทพของอาณาจักรลับมังกรบรรพชน.
ทว่าในเวลาเดียวกัน,ภายในวิหารโหยวหลานได้มีผู้มาเยือนคนแรกอย่างคาดไม่ถึง.
ที่ใจกลางของวิหารโหยวหลานเวลานี้,เหล่าศิษย์ของวิหารโหยวหลานมากมายที่รวมตัวกันอยู่เป็นจำนวนมาก.
ปราชญ์เทพโหยวหลานที่สะบัดแขนเสื้อก้าวออกมา,ตามมาด้วยศิษย์สิบสองคน,ใบหน้าของทุกคนที่เปลี่ยนเป็นมืดคลึ้ม,ความจริงปราชญ์เทพโหยวหลานได้คิดเอาไว้เช่นกัน,ทว่าไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้.
เมื่อเร็วๆหนี้ปราชญ์เทพโหลวหลานเพิ่งรับรู้ว่าคนเหล่านี้มาจากโลกใบใหญ่.
โลกใบใหญ่? จากที่ใหน? เป็นโลกที่แข็งแกร่งกว่าที่นี่อย่างงั้นรึ?
อาณาเขตลับมังกรบรรพชน?
โลกที่พวกเขาอยู่คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นปราชญ์เทพของโลกใบใหญ่สร้างขึ้นอย่างงั้นรึ?
เป็นไปไม่ได้!
เขาที่มีความภาคภูมิใจในโลกใบนี้,คาดไม่ถึงเลยว่าแท้จริง,เป็นโลกที่สร้างขึ้นจากคนในโลกใบใหญ่?
ส่วนตัวเขาที่เป็นปราชญ์เทพก็ไม่ต่างจากหุ่นเชิดอย่างงั้นรึ?
พวกเขาสามารถสร้างฟ้าดินขึ้นมาได้อย่างไร?
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ปราชญ์เทพโหยวหลานปฏิเสธที่จะยอมรับ.
ปราชญ์เทพโหยวหลานที่กล่าวออกมาจ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยท่าทางโกรธเกรี้ยว,ฝ่ายตรงข้ามนั้นเป็นชายในชุดสีเทาที่โอ่อ่ากำลังลอยอยู่บนอากาศ.
ใบหน้าของชายคนดังกล่าวที่สะอาดสะอ้าน,ผมยาวสลวยทิ้งไปด้านหลัง,ใบหน้าที่ดูไม่แยแส,ไม่สามารถมองเห็นว่ากำลังมีความสุขหรือโกรธอยู่กันแน่.
"เจ้าเป็นใคร?"โหยวจิงซินที่ตะโกนออกไป.
"จิงซิน,หุบปาก!"ปราชญ์เทพโหยวหลานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"รับทราบ!"โหยวจิงซินที่รับคำและเงียบไปในทันที.
ศิษย์ทั้ง 11
คนของวิหารโหยวหลานที่จ้องมองไปยังฝ่ายตรงข้ามเป็นสายตาเดียวกัน.
"เจ้าเป็นใคร?"ปราชญ์เทพโหยวหลานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
เป็นคำถามเดียวกับโหยวจิงซินถามก่อนหน้านี้,ซึ่งแน่นอนว่าออกมาจากคนสองคนมันย่อมแต่ต่างกัน,การที่ปราชญ์เทพโหยวซานเป็นคนถามก็เป็นเหมือนกับว่าเป็นการให้ความเคารพกับอีกฝ่าย.
"ข้าม่อตี้!"ชายในชุดสีเทาเอ่ยออกมาเบาๆ.
"ปราชญ์เทพโลกใบใหญ่,ม่อจื่ออย่างงั้นรึ?"ปราชญ์เทพโหยวหลานที่ดวงตาหดเกร็ง.
เมื่อไม่นานมานี้เขาสามารถจับคนที่อ่อนแอที่มาจากโลกใบใหญ่ได้,แน่นอนว่าทำให้เขารับรู้เรื่องราวหลายอย่าง,ม่อจื่อ,ก็คือหนึ่งในปราชญ์เทพที่มาจากโลกใบใหญ่นั่นเอง.
"รู้จักข้า!"ม่อจื่อที่กล่าวออกมาเบาๆ.
ปราชญ์เทพโหยวหลานที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม.
"ไม่รู้ว่าม่อจื่อเดินทางมายังวิหารโหยวหลานของข้า,มีธุระอะไร!"ปราชญ์เทพโหยวหลานที่เอ่ยออกมาเสียงเคร่งขรึม.
"คิดว่าเจ้าควรจะรู้,ว่ามียอดฝีมือที่โดดเด่นมามายของโลกใบใหญ่มารวมตัวกันในอาณาจักรลับมังกรบรรพชน.
"แล้วอย่างไร?"ปราชญ์เทพโหยวหลานที่เอ่ยออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ได้ยินมาว่าเจ้ามีระดับเซียนบรรพชนขั้นที่
8,และเป็นหนึ่งในห้าปราชญ์เทพ,ที่แข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่ง."ม่อจื่อที่เอ่ยออกมาเบาๆ.
"เซียนบรรพชนชั้นที่ 8?
ขออภัย,ข้าไม่เข้าใจในสิ่งที่เจ้ากำลังเอ่ยถึง,ในโลกใบนี้,พลังฝึกตนของข้าได้ก้าวไปถึงขั้นสมบูรณ์แบบแล้ว!"ปราชญ์เทพโหยวหลานที่ส่ายหน้าไปมา.
"สมบูรณ์แบบ? เฮ้เฮ้,ก่อนหน้านี้เจ้าได้ทดสอบพลังกับปราชญ์เทพกุยกู่ซือ,เขาบอกหยิง,เจ้ามีระดับเซียนบรรพชนชั้นที่แปด,ในเวลานี้เจ้ากับยอมรับว่าอยู่ในระดับเซียนบรรพชนระดับสมบูรณ์แบบแล้ว,พวกเราโลกใบใหญ่,คนที่มีระดับเซียนบรรพชนระดับแปดมีอยู่มากมาย,ไม่ถือว่าอยู่ในระดับสูง,ไม่แม้แต่ถูกนับว่าเป็นสุดยอดเซียนบรรพชน,การบำเพ็ญที่นี่นับว่ายากกมาก,ทว่าในโลกใบใหญ่นั้น,ยังไม่มีใครก้าวไปถึงระดับสมบูรณ์แบบหรอก!"ม่อจื่อที่ส่ายหน้าไปมา.
"เจ้าหมายความว่าอย่างไร?"ปราชญ์เทพโหยวหลานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ภายในโลกใบใหญ่นั้น,ถึงแม้นว่าจะมีตำหนักปราชญ์เทพปรากฏขึ้นต่อหน้าเจ้า,แต่เซียนบรรพชนขั้นที่
8
นั้นไม่มีคุณสมบัติพอที่จะได้รับมัน,เพราะว่าต้องเป็นเซียนบรรพชนที่เหนือกว่าระดับเก้าเท่านั้น,ถึงจะสามารถได้รับตำแหน่งปราชญ์เทพได้,คิดว่าเจ้าควรจะรู้แล้วว่าเจ้ากับกุยกู่ซือนั้นอยู่หากกันสองระดับ,พลังฝึกตนของเขาสูงกว่าเจ้า."ม่อจื่อที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"แล้วอย่างไร? ในโลกใบนี้,ข้าคือปราชญ์เทพ!"ปราชญ์เทพโหยวหลานที่ใบหน้าเปลี่ยนสีไปในทางที่ไม่ดีนัก.
"ข้าแค่จะบอกว่าคนที่มีพลังฝึกตนเช่นกุยกู่ซือ,หรือแม้แต่แข็งแกร่งกว่า,ได้เข้ามาด้านในเป็นจำนวนมาก.
ดวงตาของปราชญ์เทพโหยวหลานที่ส่ายไปมาอย่างบ้าคลั่ง.
ความแข็งแกร่งของกุยกู่ซือ,ปราชญ์เทพโหยวหลานเข้าใจดี,ในเวลานั้นเขาได้เคลื่อนย้ายเทียนเต๋าด้วย,ทำให้เขามีพลังเหนือกว่า,แต่ทำได้แค่เหนือกว่ากุยกู่ซือเล็กน้อย,อีกทั้ยกุยกู่ซือยังไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย.
มากรึ?
นอกจากนี้ยังมีคนเหนือกว่ากุยกู่ซืออย่างงั้นรึ?
หัวใจของปราชย์เทพโหยวหลานที่ถูกบีบรัดแข็งค้างแทบกลายเป็นหิน.
"หลังจากที่เข้ามาในอาณาจักรลับมังกรบรรพชน,เจ้าควรจะรู้ด้วยว่าสิ่งแรกที่ยอดฝีมือต้องการคืออะไร?"ม่อจื่อเอ่ยออกมาเบาๆ.
"ตำแหน่งปราชญ์เทพของพวกเรา?"ปราชญ์เทพโหยวหลานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม,มือของเขาที่กำหมัดแน่น.
"ถูกแล้ว,ข้าต้องการบอกเจ้าว่าด้วยพลังฝึกตนของเจ้าไม่สามารถปกป้องตำแหน่งปราชย์เทพได้,ไม่ดีกว่ารึที่จะยอมแต่เนิ่นๆ,มอบให้กับพวกเราที่ต้องการใช้มันจริงๆ!"ม่อจื่อที่กล่าวออกมาตรงๆ.
"บังอาจ!"โหยวจิงซินที่ตะโกนออกมาเสียงดัง.
แทบจะในทันที,ศิษย์ทุกคนของแดนเทวะโหยวหลานต่างก็ลุกฮือทันที,ปล้นตำแหน่งปราชญ์เทพรึ?
คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนโอหัง,บ้าคลั่งขนาดนี้.
โหยวหลานที่ยกมือขึ้น,ขวางเหล่าศิษย์ของเขาที่เริ่มก่นด่าด้วยความโกรธ.
"หากข้าไม่ยอม?"ปราชญ์เทพโหยวหลานที่แค่นเสียงเย็นชา.
"ข้านั้นไม่ได้เหมือนคนอื่นๆ,จึงต้องการใช้คำพูดเกลี้ยกล่อมเจ้าก่อน,ต้องการที่จะเป็นมิตรกับเจ้า,หากเป็นคนอื่นๆที่ไม่ใช่ข้าคงไม่แม้แต่เจรจา!"ม่อจื่อที่ส่ายหน้าไปมา.
"ชิ,ต้องการตำแหน่งปราชญ์เทพของข้า,ก็แสดงความสามารถ,คิดว่าเพียงแค่ข่มขู่ก็สามารถชิงตำแหน่งปราชญ์เทพข้าได้แล้วรึ?
น่าขัน!"ปราชญ์เทพโหยวหลานที่คำรามออกมาด้วยความโกรธ.
"เช่นนั้น,เจ้าควรจะเห็นว่าคนจากโลกใบใหญ่มีวิชาที่หลากหลาย,ส่วนตัวข้ากล่าวแล้วนับว่าย่ำแย่!หลังจากเจรจาต่อรองล้มเหลว! เช่นนั้นคงต้องแสดงให้เจ้าได้เห็นและทำให้เจ้าสมัครใจเอง!"ม่อจื่อเอ่ย.
"ดี,ข้าเองก็ต้องการเห็นเช่นกัน,ปราชญ์เทพจากโลกใบใหญ่,จะมีวิชาอะไร!"ปราชญ์เทพโหยวหลานที่สะบัดแขนเสื้อพร้อมกับบินขึ้นไปบนอวกาศ.
ม่อจื่อที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,ก่อนที่จะยื่นมือออกไป,ห้วงมิติที่ปรากฏหมอกสีดำมากมายเกิดขึ้น,หมอกสีดำที่หมุนวนรอบๆมือของม่อจื่อ,ก่อนที่จะกลายเป็นหยดหมึกขึ้น.
หยดหมึกของม่อจื่อที่ล่วงหล่นลงมือ.
"เขตแดนทะเลหมึก!"
"ครืนนนนน
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
พื้นที่รอบๆ,ที่ราวกับกลายเป็นทะเลที่กว้างใหญ่,ทว่าเป็นทะเลหมึก,ที่ถูกรวมตัวขึ้นใหญ่โต,ไร้ขีดจำกัด,พริบตาเดียว,ราวกับว่าปกคลุมไปทั่วแดนเทวะโหยวหลาน,ทะเลหมึกที่ปรากฏเป็นเทือกเขามากมาย,สร้างสภาพแวดล้อมทั้งหมดขึ้นมา.
พริบตาเดียว,รอบๆม่อจื่อและปราชญ์เทพโหยวหลานที่กลายเป็นทะเลสีดำที่กว้างใหญ่ไพศาล,กลิ่นอายของหมึกที่แผ่พวยพุ่งขึ้นมาในทันที.
ทะเลหมึกที่บ้าคลั่ง,กำลังกลายเป็นคลื่นที่บ้าคลั่งกลายเป็นระลอกคลื่นใหญ่,ราวกับจะย้อมทุกอย่างให้เป็นสีดำไปทังหมด.
เป็นวิชาที่ทรงพลังมาก,กับภาพที่เกิดขึ้นทำให้หัวใจของโหยวหลานถึงกับสะดุ้ง,มือของเขาที่สะบัดตบไปด้านหน้า,ห้วงมิติรอบๆที่มืดลง,กลายเป็นพลังงานที่น่าเกรงขาม,พุ่งตรงไปยังทิศทางของม่อจื่อ.
"ตูมมมม
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
การต่อสู้ของยอดฝีมือทั้งสองที่เสียงดังกระหึ่ม.
ทั้งคู่ที่ต่อสู้บนมุมหนึ่งของทะเลหมึก.
จงซานและผู้ใต้บังคับบัญชาที่อยู่ในหุบเขาแห่งหนึ่งยังคงจ้องมองอย่างสุขุม,จดจ้องมองไปยังทะเลหมึกที่กำลังพลุ้งพล่าน,ไม่สามารถมองว่าเป็นสิ่งใด,ดูเหมือนเทพหรือปิศาจ.
"คาดไม่ถึง,ม่อจื่อจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้!"เซิ่งกงเป้าที่เอ่ยออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"แข็งแกร่งรึ?"จงซานที่สอบถามออกไป.
"นี่คือโลกชีวิตที่เหมือนกับโลกชีวิตกระบี่ของเจี้ยนอ้าว,ทว่า,แตกต่างกันคนละสาย,ทว่าเจี้ยนอ้าวที่เพียงก้าวไปบนวิถีกระบี่,แต่เขานับว่าเป็นคนพิเศษถึงสามารถทำให้สร้างโลกแห่งการต่อสู้ได้,ซึ่งโดยปรกติแล้วมีเพียงเซียนบรรพชนระดับ
10ขึ้นไปเท่านั้นถึงจะสามารถทำได้."เซิ่งกงเป้าที่กล่าวยืนยัน.
"ม่อจื่ออย่างน้อยจะต้องเป็นเซียนบรรพชนขั้นที่สิบอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึมออกมา.
"ครับ!"เซิ่งกงเป้าพยักหน้ารับ.
"พลังฝึกตนของปราชญ์เทพโหยวหลานต่ำกว่าสองขั้น,ทว่าปราญ์เทพโหยวหลานนั้นสามารถเคลื่อนอำนาจฟ้าดินได้."จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,เผยความสนใจในการต่อสู้ครั้งนี้.
จงซานรับรู้ว่าในสถานที่ซ่อนอีกแห่ง,เทพหยวนซือเองดูเหมือนว่ากำลังรอคอยอยู่,ทว่าไม่รู้ว่านอกจากหยวนซือเทียนจุ้นแล้ว,ยังมีใครซุ่มอยู่อีกหรือไม่?
"ปราชญ์เทพที่อยู่ที่นี่,นับว่าโชคร้ายจริงๆ!"จินเผิงที่อยู่ข้างๆเผยยิ้มเล็กน้อย.
ห้วงมิติที่สั่นไหวไปมา,ทะเลหมึกที่คำรามลั่น,ม่อจื่อไม่สามารถเคลื่อนย้ายอำนาจฟ้าดินได้,ทว่าด้วยการมีความเข้าใจในเทียนเต๋าที่ยอดเยี่ยมกว่า,สามารถเคลื่อนย้ายเทียนเต๋าได้ถึงสิบห้าเส้น,เข้าปะทะกับฝ่าตรงข้ามได้อย่างไม่เสียเปรียบ.
การต่อสู้ที่ผ่านไปถึงสามวันสามคืน.
"ตูมมมมม
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
หลังจากนั้นสามวัน,ทะเลหมึกก็ระเบิดออกมาเสียงดัง,ก่อนที่หมึกสีดำจะสลายหายไปในทันที.
ห้วงมิติที่เสียหาย,ฟื้นคืนกลับมาอย่างรวดเร็ว.
ม่อจื่อที่ลอยอยู่บนอากาศ,ที่ริมแขนเสื้อที่ขาดวิ่งเป็นรูหลายแห่ง,ส่วนปราชญ์เทพโหยวหลานมุมเสื้อฟ้าที่ฉีกขาด,แววตาที่เผยท่าทางตื่นเต้น,และช่วยไม่ได้ออกมา,ความตื่นเต้นและช่วยไม่ได้ที่เกิดขึ้นพร้อมๆกัน,ทำให้ใบหน้าดูไม่น่าดูนัก.
วิหารโหยวหลาน,หลังจากทะเลหมึกถูกชำระล้าง,ใบหน้าของเหล่าศิษย์ปราชญ์เทพโหยวหลานที่จ้องมองม่อจื่อที่ท่าทางเกรงขาม,แววตาที่เผยความตื่นเต้นเช่นกัน,เพราะว่าอาจารย์ของพวกเขาได้รับชัยชนะ.
เป็นไปได้อย่างไร?เห็นชัดเจนว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ปราชญ์เทพ,แต่กลับรับมือได้ขนาดนี้?
ม่อจื่อที่จ้องมองไปยังปราชญ์เทพ,"ดี,ในเมื่อเจ้ามีอำนาจฟ้าดินสนับสนุน,ทำให้เหนือกว่าข้า,ทว่า,โปรดจำไว้ว่า,หากมีคนที่แข็งแกร่งเช่นข้าสองคน,เจ้าไม่มีทางชนะ!"
ปราชญ์เทพโหยวหลานที่ส่ายหน้าไปมา,"ขอบคุณที่เตือน,ทว่าข้าก็ยังต้องการปกป้องดินแดนของข้า!"
"หากต้องการเช่นนั้น,ก็ทำให้ดีที่สุด! ข้าเป็นแค่เพียงคนแรกเท่านั้น!"ม่อจื่อพยักหน้า.
ม่อจื่อที่ไม่กล่าวอะไรต่อไป,เขาที่บินพุ่งตรงไปยังอีกทิศทางหนึ่งในทันที.
ทว่าในเวลาเดียวกันนั้น,หลังจากที่ปราชย์เทพโหยวหลานจ้องมองม่อจื่อจากไป,เขาที่พ่นลมหายใจยาว,จากนั้นก็เผยยิ้มแปลกๆออกมา,ไม่ได้มีท่าทางอหังการ,แต่เป็นรอยยิ้มที่ขมขื่นด้วยซ้ำ.
"อาจารย์!
ท่านชนะ!"โหยวจิงซินที่เอ่ยออกมาในทันที.
ปราชญ์เทพโหยวหลานที่ส่ายหน้าไปมา,"โลกใบใหญ่?เฮ้อ,ไม่รู้ว่าจะต้านได้นานเท่าใด!"
"ในเมื่อไม่สามารถต้านทานได้นานนัก,ยอมแพ้ซะ! ข้าขอแนะนำเจ้าดั่งเช่นม่อจื่อ,มอบตำแหน่งปราชญ์เทพมา,หรือตาย!"ทันใดนั้นเสียงๆหนึ่งที่ดังขึ้นในทันที.
เป็นเสียงที่ดูอหังการหยิ่งผยองมากกว่าม่อจื่อมาก.
ม่อจื่อที่ไม่มีน้ำเสียงสะกดข่มปราชญ์เทพโหยวหลาน,ทว่าเสียงดังกล่าวนี้ที่เน้นออกมาว่าหากไม่ยอมแพ้คือตาย.
หลังจากที่เขาเห็นการต่อสู้,ทำให้เขามั่นใจว่าจะชนะปราชญ์เทพโหยวหลานอย่างงั้นรึ?
ทุกๆคนที่จ้องมองออกไป.
ชายในชุดสีขาวที่ลอยอยู่,ในมือของเขาถือธวัชหยวนซือ,ดวงตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชา,พลังกดดันที่หนักหน่วงกำลังโถมทับลงมายังปราชญ์เทพโหยวหลาน.
"เจ้าเป็นใคร?"ปราชญ์เทพโหยวหลานที่แค่นเสียงเย็นชา.
ที่ไกลออกไป,ภายในป่าที่หนาทึบ.
จงซานที่เอ่ยกับใครคนหนึ่งในทันที,"ไปเชิญให้เจี้ยนอ้าวออกมา,ปราชญ์เทพหยวนซืร้อนรนและเผยตัวออกมาแล้ว."
Chapter 1221 The inkstone is boundless
墨海无边
เขตแดนทะเลหมึก
หลังจากนั้นผ่านมาอีกสิบวัน,ภายในห้องอักษรของจงซาน.
"เซิ่งหวัง,ช่วงนี้,ภาคตะวันตกดูเงียบเหงา,ไม่มีเหตุการณ์สำคัญใดเกิดขึ้น!"เซิ่งกงเป้าที่กล่าวรายงาน.
"ไม่,เรื่องสำคัญจะเกิดขึ้นในทันที!"ใบหน้าของจงซานที่เผยความมั่นใจออกมา.
"หืม?"ทุกคนที่ไม่เข้าใจจดจ้องมองไปยังจงซาน.
"ข้าสัมผัสได้,หยวนซือใกล้เข้ามาเรียบร้อยแล้ว!"จงซานเอ่ย.
รู้สึก?แน่นอนว่าเขาสัมผัสได้ถึงกุยเอ๋อ,กุยเอ๋ออาศัยอยู่ในธวัชหยวนซือ,เมื่อหยวนซือเขาใกล้จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะทำให้จงซานรับรู้ได้,จงซานไม่ได้บอกกล่าวเหตุผลอะไรออกไป,ทว่าทุกคนก็เชื่ออย่างไม่ต้องสงสัย.
"หยวนซือมา? เรื่องนี้......!"ดวงตาของจินเผิงเป็นประกาย.
"วิหารโหยวหลาน,จะต้องเกิดปัญหาแน่!"เซิ่งกงเป้าพยักหน้ารับ!"
จงซานที่นำคนของเขาเข้าไปซุ่มอยู่ใกล้ๆวิหารโหยวหลาน,การมาของหยวนซือจื่อจุ้น,ไม่ต้องถามว่าทำไม?
แน่นอนว่าเพื่อตำหนักปราชญ์เทพของอาณาจักรลับมังกรบรรพชน.
ทว่าในเวลาเดียวกัน,ภายในวิหารโหยวหลานได้มีผู้มาเยือนคนแรกอย่างคาดไม่ถึง.
ที่ใจกลางของวิหารโหยวหลานเวลานี้,เหล่าศิษย์ของวิหารโหยวหลานมากมายที่รวมตัวกันอยู่เป็นจำนวนมาก.
ปราชญ์เทพโหยวหลานที่สะบัดแขนเสื้อก้าวออกมา,ตามมาด้วยศิษย์สิบสองคน,ใบหน้าของทุกคนที่เปลี่ยนเป็นมืดคลึ้ม,ความจริงปราชญ์เทพโหยวหลานได้คิดเอาไว้เช่นกัน,ทว่าไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้.
เมื่อเร็วๆหนี้ปราชญ์เทพโหลวหลานเพิ่งรับรู้ว่าคนเหล่านี้มาจากโลกใบใหญ่.
โลกใบใหญ่? จากที่ใหน? เป็นโลกที่แข็งแกร่งกว่าที่นี่อย่างงั้นรึ?
อาณาเขตลับมังกรบรรพชน?
โลกที่พวกเขาอยู่คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นปราชญ์เทพของโลกใบใหญ่สร้างขึ้นอย่างงั้นรึ?
เป็นไปไม่ได้!
เขาที่มีความภาคภูมิใจในโลกใบนี้,คาดไม่ถึงเลยว่าแท้จริง,เป็นโลกที่สร้างขึ้นจากคนในโลกใบใหญ่?
ส่วนตัวเขาที่เป็นปราชญ์เทพก็ไม่ต่างจากหุ่นเชิดอย่างงั้นรึ?
พวกเขาสามารถสร้างฟ้าดินขึ้นมาได้อย่างไร?
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ปราชญ์เทพโหยวหลานปฏิเสธที่จะยอมรับ.
ปราชญ์เทพโหยวหลานที่กล่าวออกมาจ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยท่าทางโกรธเกรี้ยว,ฝ่ายตรงข้ามนั้นเป็นชายในชุดสีเทาที่โอ่อ่ากำลังลอยอยู่บนอากาศ.
ใบหน้าของชายคนดังกล่าวที่สะอาดสะอ้าน,ผมยาวสลวยทิ้งไปด้านหลัง,ใบหน้าที่ดูไม่แยแส,ไม่สามารถมองเห็นว่ากำลังมีความสุขหรือโกรธอยู่กันแน่.
"เจ้าเป็นใคร?"โหยวจิงซินที่ตะโกนออกไป.
"จิงซิน,หุบปาก!"ปราชญ์เทพโหยวหลานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"รับทราบ!"โหยวจิงซินที่รับคำและเงียบไปในทันที.
ศิษย์ทั้ง 11
คนของวิหารโหยวหลานที่จ้องมองไปยังฝ่ายตรงข้ามเป็นสายตาเดียวกัน.
"เจ้าเป็นใคร?"ปราชญ์เทพโหยวหลานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
เป็นคำถามเดียวกับโหยวจิงซินถามก่อนหน้านี้,ซึ่งแน่นอนว่าออกมาจากคนสองคนมันย่อมแต่ต่างกัน,การที่ปราชญ์เทพโหยวซานเป็นคนถามก็เป็นเหมือนกับว่าเป็นการให้ความเคารพกับอีกฝ่าย.
"ข้าม่อตี้!"ชายในชุดสีเทาเอ่ยออกมาเบาๆ.
"ปราชญ์เทพโลกใบใหญ่,ม่อจื่ออย่างงั้นรึ?"ปราชญ์เทพโหยวหลานที่ดวงตาหดเกร็ง.
เมื่อไม่นานมานี้เขาสามารถจับคนที่อ่อนแอที่มาจากโลกใบใหญ่ได้,แน่นอนว่าทำให้เขารับรู้เรื่องราวหลายอย่าง,ม่อจื่อ,ก็คือหนึ่งในปราชญ์เทพที่มาจากโลกใบใหญ่นั่นเอง.
"รู้จักข้า!"ม่อจื่อที่กล่าวออกมาเบาๆ.
ปราชญ์เทพโหยวหลานที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม.
"ไม่รู้ว่าม่อจื่อเดินทางมายังวิหารโหยวหลานของข้า,มีธุระอะไร!"ปราชญ์เทพโหยวหลานที่เอ่ยออกมาเสียงเคร่งขรึม.
"คิดว่าเจ้าควรจะรู้,ว่ามียอดฝีมือที่โดดเด่นมามายของโลกใบใหญ่มารวมตัวกันในอาณาจักรลับมังกรบรรพชน.
"แล้วอย่างไร?"ปราชญ์เทพโหยวหลานที่เอ่ยออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ได้ยินมาว่าเจ้ามีระดับเซียนบรรพชนขั้นที่
8,และเป็นหนึ่งในห้าปราชญ์เทพ,ที่แข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่ง."ม่อจื่อที่เอ่ยออกมาเบาๆ.
"เซียนบรรพชนชั้นที่ 8?
ขออภัย,ข้าไม่เข้าใจในสิ่งที่เจ้ากำลังเอ่ยถึง,ในโลกใบนี้,พลังฝึกตนของข้าได้ก้าวไปถึงขั้นสมบูรณ์แบบแล้ว!"ปราชญ์เทพโหยวหลานที่ส่ายหน้าไปมา.
"สมบูรณ์แบบ? เฮ้เฮ้,ก่อนหน้านี้เจ้าได้ทดสอบพลังกับปราชญ์เทพกุยกู่ซือ,เขาบอกหยิง,เจ้ามีระดับเซียนบรรพชนชั้นที่แปด,ในเวลานี้เจ้ากับยอมรับว่าอยู่ในระดับเซียนบรรพชนระดับสมบูรณ์แบบแล้ว,พวกเราโลกใบใหญ่,คนที่มีระดับเซียนบรรพชนระดับแปดมีอยู่มากมาย,ไม่ถือว่าอยู่ในระดับสูง,ไม่แม้แต่ถูกนับว่าเป็นสุดยอดเซียนบรรพชน,การบำเพ็ญที่นี่นับว่ายากกมาก,ทว่าในโลกใบใหญ่นั้น,ยังไม่มีใครก้าวไปถึงระดับสมบูรณ์แบบหรอก!"ม่อจื่อที่ส่ายหน้าไปมา.
"เจ้าหมายความว่าอย่างไร?"ปราชญ์เทพโหยวหลานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ภายในโลกใบใหญ่นั้น,ถึงแม้นว่าจะมีตำหนักปราชญ์เทพปรากฏขึ้นต่อหน้าเจ้า,แต่เซียนบรรพชนขั้นที่
8
นั้นไม่มีคุณสมบัติพอที่จะได้รับมัน,เพราะว่าต้องเป็นเซียนบรรพชนที่เหนือกว่าระดับเก้าเท่านั้น,ถึงจะสามารถได้รับตำแหน่งปราชญ์เทพได้,คิดว่าเจ้าควรจะรู้แล้วว่าเจ้ากับกุยกู่ซือนั้นอยู่หากกันสองระดับ,พลังฝึกตนของเขาสูงกว่าเจ้า."ม่อจื่อที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"แล้วอย่างไร? ในโลกใบนี้,ข้าคือปราชญ์เทพ!"ปราชญ์เทพโหยวหลานที่ใบหน้าเปลี่ยนสีไปในทางที่ไม่ดีนัก.
"ข้าแค่จะบอกว่าคนที่มีพลังฝึกตนเช่นกุยกู่ซือ,หรือแม้แต่แข็งแกร่งกว่า,ได้เข้ามาด้านในเป็นจำนวนมาก.
ดวงตาของปราชญ์เทพโหยวหลานที่ส่ายไปมาอย่างบ้าคลั่ง.
ความแข็งแกร่งของกุยกู่ซือ,ปราชญ์เทพโหยวหลานเข้าใจดี,ในเวลานั้นเขาได้เคลื่อนย้ายเทียนเต๋าด้วย,ทำให้เขามีพลังเหนือกว่า,แต่ทำได้แค่เหนือกว่ากุยกู่ซือเล็กน้อย,อีกทั้ยกุยกู่ซือยังไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย.
มากรึ?
นอกจากนี้ยังมีคนเหนือกว่ากุยกู่ซืออย่างงั้นรึ?
หัวใจของปราชย์เทพโหยวหลานที่ถูกบีบรัดแข็งค้างแทบกลายเป็นหิน.
"หลังจากที่เข้ามาในอาณาจักรลับมังกรบรรพชน,เจ้าควรจะรู้ด้วยว่าสิ่งแรกที่ยอดฝีมือต้องการคืออะไร?"ม่อจื่อเอ่ยออกมาเบาๆ.
"ตำแหน่งปราชญ์เทพของพวกเรา?"ปราชญ์เทพโหยวหลานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม,มือของเขาที่กำหมัดแน่น.
"ถูกแล้ว,ข้าต้องการบอกเจ้าว่าด้วยพลังฝึกตนของเจ้าไม่สามารถปกป้องตำแหน่งปราชย์เทพได้,ไม่ดีกว่ารึที่จะยอมแต่เนิ่นๆ,มอบให้กับพวกเราที่ต้องการใช้มันจริงๆ!"ม่อจื่อที่กล่าวออกมาตรงๆ.
"บังอาจ!"โหยวจิงซินที่ตะโกนออกมาเสียงดัง.
แทบจะในทันที,ศิษย์ทุกคนของแดนเทวะโหยวหลานต่างก็ลุกฮือทันที,ปล้นตำแหน่งปราชญ์เทพรึ?
คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนโอหัง,บ้าคลั่งขนาดนี้.
โหยวหลานที่ยกมือขึ้น,ขวางเหล่าศิษย์ของเขาที่เริ่มก่นด่าด้วยความโกรธ.
"หากข้าไม่ยอม?"ปราชญ์เทพโหยวหลานที่แค่นเสียงเย็นชา.
"ข้านั้นไม่ได้เหมือนคนอื่นๆ,จึงต้องการใช้คำพูดเกลี้ยกล่อมเจ้าก่อน,ต้องการที่จะเป็นมิตรกับเจ้า,หากเป็นคนอื่นๆที่ไม่ใช่ข้าคงไม่แม้แต่เจรจา!"ม่อจื่อที่ส่ายหน้าไปมา.
"ชิ,ต้องการตำแหน่งปราชญ์เทพของข้า,ก็แสดงความสามารถ,คิดว่าเพียงแค่ข่มขู่ก็สามารถชิงตำแหน่งปราชญ์เทพข้าได้แล้วรึ?
น่าขัน!"ปราชญ์เทพโหยวหลานที่คำรามออกมาด้วยความโกรธ.
"เช่นนั้น,เจ้าควรจะเห็นว่าคนจากโลกใบใหญ่มีวิชาที่หลากหลาย,ส่วนตัวข้ากล่าวแล้วนับว่าย่ำแย่!หลังจากเจรจาต่อรองล้มเหลว! เช่นนั้นคงต้องแสดงให้เจ้าได้เห็นและทำให้เจ้าสมัครใจเอง!"ม่อจื่อเอ่ย.
"ดี,ข้าเองก็ต้องการเห็นเช่นกัน,ปราชญ์เทพจากโลกใบใหญ่,จะมีวิชาอะไร!"ปราชญ์เทพโหยวหลานที่สะบัดแขนเสื้อพร้อมกับบินขึ้นไปบนอวกาศ.
ม่อจื่อที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,ก่อนที่จะยื่นมือออกไป,ห้วงมิติที่ปรากฏหมอกสีดำมากมายเกิดขึ้น,หมอกสีดำที่หมุนวนรอบๆมือของม่อจื่อ,ก่อนที่จะกลายเป็นหยดหมึกขึ้น.
หยดหมึกของม่อจื่อที่ล่วงหล่นลงมือ.
"เขตแดนทะเลหมึก!"
"ครืนนนนน
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
พื้นที่รอบๆ,ที่ราวกับกลายเป็นทะเลที่กว้างใหญ่,ทว่าเป็นทะเลหมึก,ที่ถูกรวมตัวขึ้นใหญ่โต,ไร้ขีดจำกัด,พริบตาเดียว,ราวกับว่าปกคลุมไปทั่วแดนเทวะโหยวหลาน,ทะเลหมึกที่ปรากฏเป็นเทือกเขามากมาย,สร้างสภาพแวดล้อมทั้งหมดขึ้นมา.
พริบตาเดียว,รอบๆม่อจื่อและปราชญ์เทพโหยวหลานที่กลายเป็นทะเลสีดำที่กว้างใหญ่ไพศาล,กลิ่นอายของหมึกที่แผ่พวยพุ่งขึ้นมาในทันที.
ทะเลหมึกที่บ้าคลั่ง,กำลังกลายเป็นคลื่นที่บ้าคลั่งกลายเป็นระลอกคลื่นใหญ่,ราวกับจะย้อมทุกอย่างให้เป็นสีดำไปทังหมด.
เป็นวิชาที่ทรงพลังมาก,กับภาพที่เกิดขึ้นทำให้หัวใจของโหยวหลานถึงกับสะดุ้ง,มือของเขาที่สะบัดตบไปด้านหน้า,ห้วงมิติรอบๆที่มืดลง,กลายเป็นพลังงานที่น่าเกรงขาม,พุ่งตรงไปยังทิศทางของม่อจื่อ.
"ตูมมมม
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
การต่อสู้ของยอดฝีมือทั้งสองที่เสียงดังกระหึ่ม.
ทั้งคู่ที่ต่อสู้บนมุมหนึ่งของทะเลหมึก.
จงซานและผู้ใต้บังคับบัญชาที่อยู่ในหุบเขาแห่งหนึ่งยังคงจ้องมองอย่างสุขุม,จดจ้องมองไปยังทะเลหมึกที่กำลังพลุ้งพล่าน,ไม่สามารถมองว่าเป็นสิ่งใด,ดูเหมือนเทพหรือปิศาจ.
"คาดไม่ถึง,ม่อจื่อจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้!"เซิ่งกงเป้าที่เอ่ยออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"แข็งแกร่งรึ?"จงซานที่สอบถามออกไป.
"นี่คือโลกชีวิตที่เหมือนกับโลกชีวิตกระบี่ของเจี้ยนอ้าว,ทว่า,แตกต่างกันคนละสาย,ทว่าเจี้ยนอ้าวที่เพียงก้าวไปบนวิถีกระบี่,แต่เขานับว่าเป็นคนพิเศษถึงสามารถทำให้สร้างโลกแห่งการต่อสู้ได้,ซึ่งโดยปรกติแล้วมีเพียงเซียนบรรพชนระดับ
10ขึ้นไปเท่านั้นถึงจะสามารถทำได้."เซิ่งกงเป้าที่กล่าวยืนยัน.
"ม่อจื่ออย่างน้อยจะต้องเป็นเซียนบรรพชนขั้นที่สิบอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึมออกมา.
"ครับ!"เซิ่งกงเป้าพยักหน้ารับ.
"พลังฝึกตนของปราชญ์เทพโหยวหลานต่ำกว่าสองขั้น,ทว่าปราญ์เทพโหยวหลานนั้นสามารถเคลื่อนอำนาจฟ้าดินได้."จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,เผยความสนใจในการต่อสู้ครั้งนี้.
จงซานรับรู้ว่าในสถานที่ซ่อนอีกแห่ง,เทพหยวนซือเองดูเหมือนว่ากำลังรอคอยอยู่,ทว่าไม่รู้ว่านอกจากหยวนซือเทียนจุ้นแล้ว,ยังมีใครซุ่มอยู่อีกหรือไม่?
"ปราชญ์เทพที่อยู่ที่นี่,นับว่าโชคร้ายจริงๆ!"จินเผิงที่อยู่ข้างๆเผยยิ้มเล็กน้อย.
ห้วงมิติที่สั่นไหวไปมา,ทะเลหมึกที่คำรามลั่น,ม่อจื่อไม่สามารถเคลื่อนย้ายอำนาจฟ้าดินได้,ทว่าด้วยการมีความเข้าใจในเทียนเต๋าที่ยอดเยี่ยมกว่า,สามารถเคลื่อนย้ายเทียนเต๋าได้ถึงสิบห้าเส้น,เข้าปะทะกับฝ่าตรงข้ามได้อย่างไม่เสียเปรียบ.
การต่อสู้ที่ผ่านไปถึงสามวันสามคืน.
"ตูมมมมม
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
หลังจากนั้นสามวัน,ทะเลหมึกก็ระเบิดออกมาเสียงดัง,ก่อนที่หมึกสีดำจะสลายหายไปในทันที.
ห้วงมิติที่เสียหาย,ฟื้นคืนกลับมาอย่างรวดเร็ว.
ม่อจื่อที่ลอยอยู่บนอากาศ,ที่ริมแขนเสื้อที่ขาดวิ่งเป็นรูหลายแห่ง,ส่วนปราชญ์เทพโหยวหลานมุมเสื้อฟ้าที่ฉีกขาด,แววตาที่เผยท่าทางตื่นเต้น,และช่วยไม่ได้ออกมา,ความตื่นเต้นและช่วยไม่ได้ที่เกิดขึ้นพร้อมๆกัน,ทำให้ใบหน้าดูไม่น่าดูนัก.
วิหารโหยวหลาน,หลังจากทะเลหมึกถูกชำระล้าง,ใบหน้าของเหล่าศิษย์ปราชญ์เทพโหยวหลานที่จ้องมองม่อจื่อที่ท่าทางเกรงขาม,แววตาที่เผยความตื่นเต้นเช่นกัน,เพราะว่าอาจารย์ของพวกเขาได้รับชัยชนะ.
เป็นไปได้อย่างไร?เห็นชัดเจนว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ปราชญ์เทพ,แต่กลับรับมือได้ขนาดนี้?
ม่อจื่อที่จ้องมองไปยังปราชญ์เทพ,"ดี,ในเมื่อเจ้ามีอำนาจฟ้าดินสนับสนุน,ทำให้เหนือกว่าข้า,ทว่า,โปรดจำไว้ว่า,หากมีคนที่แข็งแกร่งเช่นข้าสองคน,เจ้าไม่มีทางชนะ!"
ปราชญ์เทพโหยวหลานที่ส่ายหน้าไปมา,"ขอบคุณที่เตือน,ทว่าข้าก็ยังต้องการปกป้องดินแดนของข้า!"
"หากต้องการเช่นนั้น,ก็ทำให้ดีที่สุด! ข้าเป็นแค่เพียงคนแรกเท่านั้น!"ม่อจื่อพยักหน้า.
ม่อจื่อที่ไม่กล่าวอะไรต่อไป,เขาที่บินพุ่งตรงไปยังอีกทิศทางหนึ่งในทันที.
ทว่าในเวลาเดียวกันนั้น,หลังจากที่ปราชย์เทพโหยวหลานจ้องมองม่อจื่อจากไป,เขาที่พ่นลมหายใจยาว,จากนั้นก็เผยยิ้มแปลกๆออกมา,ไม่ได้มีท่าทางอหังการ,แต่เป็นรอยยิ้มที่ขมขื่นด้วยซ้ำ.
"อาจารย์!
ท่านชนะ!"โหยวจิงซินที่เอ่ยออกมาในทันที.
ปราชญ์เทพโหยวหลานที่ส่ายหน้าไปมา,"โลกใบใหญ่?เฮ้อ,ไม่รู้ว่าจะต้านได้นานเท่าใด!"
"ในเมื่อไม่สามารถต้านทานได้นานนัก,ยอมแพ้ซะ! ข้าขอแนะนำเจ้าดั่งเช่นม่อจื่อ,มอบตำแหน่งปราชญ์เทพมา,หรือตาย!"ทันใดนั้นเสียงๆหนึ่งที่ดังขึ้นในทันที.
เป็นเสียงที่ดูอหังการหยิ่งผยองมากกว่าม่อจื่อมาก.
ม่อจื่อที่ไม่มีน้ำเสียงสะกดข่มปราชญ์เทพโหยวหลาน,ทว่าเสียงดังกล่าวนี้ที่เน้นออกมาว่าหากไม่ยอมแพ้คือตาย.
หลังจากที่เขาเห็นการต่อสู้,ทำให้เขามั่นใจว่าจะชนะปราชญ์เทพโหยวหลานอย่างงั้นรึ?
ทุกๆคนที่จ้องมองออกไป.
ชายในชุดสีขาวที่ลอยอยู่,ในมือของเขาถือธวัชหยวนซือ,ดวงตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชา,พลังกดดันที่หนักหน่วงกำลังโถมทับลงมายังปราชญ์เทพโหยวหลาน.
"เจ้าเป็นใคร?"ปราชญ์เทพโหยวหลานที่แค่นเสียงเย็นชา.
ที่ไกลออกไป,ภายในป่าที่หนาทึบ.
จงซานที่เอ่ยกับใครคนหนึ่งในทันที,"ไปเชิญให้เจี้ยนอ้าวออกมา,ปราชญ์เทพหยวนซืร้อนรนและเผยตัวออกมาแล้ว."
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น