Strongest Sect of All Times Chapter 145 Epic Mission two!
นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล
Chapter 145 Epic Mission two!
史诗任务二!
จุนซ่างเซียวที่นำเม็ดยารวมวิญญาณที่เพิ่งปรุงใหม่ออกมา,พบว่าคุณภาพของเม็ดยาดีมากและกลิ่นยังหอมโชยออกมากว่าเดิม,ดูเหมือนว่ามันจะแตกต่าง
ดีกว่าการหลอมก่อน ๆ หน้านี้อย่างไม่ต้องสงสัย.
“ประสิทธิภาพควรจะไม่เลว.”
เขาที่อ้าปากกินเม็ดยารวมวิญญาณเข้าไป,พร้อมกับนั่งสมาธิ,โคจรวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็นและดูดซับพลังวิญญาณจากสวรรค์และปฐพี.
ด้วยประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิม,ร่างกายของจุนซ่างเซียวที่ราวกับกลายเป็นหลุมดำ,ดูดซับพลังวิญญาณเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง.
หลังจากดูดซับพลังวิญญาณหนึ่งชั่วโมง,เขาที่รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก,ความเร็วในการดูดซับพลังวิญญาณเพิ่มขึ้นสูงมาก,ดูเหมือนว่าจะเร็วกว่าปรกติ
10 เท่า!
เทียบกับเม็ดยารวมวิญญาณที่ปรุงจากสมุนไพรที่ซื้อจากตลาด,มีความสามารถในการดูดซับพลังวิญญาณเพียงห้าเท่า.
กล่าวได้ว่าเม็ดยารวมวิญญาณที่ใช้วัตถุดิบจากเหล่าเหว่ยนั้น,ดูดซับพลังวิญญาณถึงสิบเท่า,ไม่ต้องสงสัยว่าน่าเหลือเชื่อขนาดใหน.
“ร้ายกาจมาก!”
จุนซ่างเซียวที่ดวงตาร้อนเป็นไฟ.
เม็ดยารวมวิญญาณ 300
เม็ดนี้เทียบกับเม็ดยารวมวิญญาณปรกติ 600
เม็ดทีเดียว,ที่สำคัญการดูดซับพลังวิญญาณสิบเท่า,ก็เท่าว่าลดเวลาในการดูดซับลงครึ่งหนึ่งนั่นเอง.
“หลังจากนี้,ให้พวกชิงหยางได้ใช้เม็ดยาเหล่านี้,ก่อนไปประลองที่สำนักเห่าฉี,จะทำให้ข้าเบาใจขึ้นอีก.”จุนซ่างเซียวที่เผยยิ้มร่า.
เหล่าเหว่ย.
เป็นดังสมบัติล้ำค่าจริง ๆ!
ไม่เสียแรงที่เปิ่นจั้วใช้เงินค่าจ้างมหาศาลจ้างมา,นับเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องจริง
ๆ!
......
เช้าวันถัดมา,จุนซ่างเซียวเรียกหลี่ชิงหยางมาพบ,พร้อมกับให้แจกเม็ดยารวมวิญญาณแบบใหม่ให้กับทุกคน,คนละสิบเม็ด,และย้ำเตือนให้บ่มเพาะอย่างจริงจัง.
ศิษย์ฝ่ายในเจ็ดคน,ที่ดูดซับพลังวิญญาณสิบเท่าทุกวัน,สิบวันหลังจากนี้อยู่ในค่ายกลรวมวิญญาณตลอด,นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเกรงขามเล็กน้อย.
“เม็ดยาที่เจ้าสำนักมอบให้,ที่ศิษย์พี่รองนำมา,ทำให้ดูดซับพลังวิญญาณได้มากกว่าเดิมมาก,อ๊ากๆ!”ซูเซียวโม่อุทานด้วยความตกใจ.
หลี่ชิงหยางที่ไม่สนใจเขา,เพราะว่าเวลานี้นั่งอยู่ในค่ายกลรวมวิญญาณ,กำลังดูดซับพลังวิญญาณอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน.
“เป็นความจริง,เจ้าหนูนั่นมีของดีมากมาย,ไม่คิดเลยว่าจะได้รับ!”เย่ซิงเฉินเป็นอีกหนึ่งคนที่ตื่นตะลึง.
เม็ดยาที่ช่วยยกระดับการดูดซับพลังวิญญาณ,ในอดีตชาติมีมากมาย,ทว่ากับไม่มีประสิทธิภาพที่ร้ายกาจมากขนาดนี้เลย.
ดินแดนเบื้องบน.
ต้องมาจากดินแดนเบื้องบนอย่างแน่นอน!
เย่ซิงเฉินเชื่อเช่นนั้น,จุนซ่างเซียวอาจจะมาจากพิภพเบื้องบน,ไม่เช่นนั้นจะมีวิชาบ่มเพาะที่ลึกล้ำ,เพลงกระบี่ชั้นยอด,แม้แต่เม็ดยาที่ร้ายกาจ
แม้แต่เขาก็ไม่เคยเห็น,เรื่องนี้ถึงจะเป็นนิกายชั้นสูงก็ไม่มีเช่นนี้.
ในชาติที่แล้วเปิ่นตี้ต้องพ่ายแพ้ตกตายอย่างน่าผิดหวัง,โชคดีชีวิตนี้มาพบกับสำนักไท่กูเจิ้ง,จะสามารถช่วยข้ายกระดับความแข็งแกร่งเพื่อชำระแค้นได้เร็วขึ้น.
ฝากเอาไว้ก่อน,ใครมันที่ทำให้ข้าต้องตายไป,ข้าจะเอาคืนสิบเท่า,เพียงแค่คิดใบหน้าที่งดงามไม่แยแสนั่น,ดวงตาของเย่ซิงเฉินก็เต็มไปด้วยจิตสังหารที่ประทุขึ้น.
หลิงเหยา!
รอเปิ่นตี้ก่อนเถอะ.
จิตสังหารที่คละคลุ้งกระจายไปทั่วค่ายกล,จนทำให้คนอื่น
ถึงกับสะดุ้งไปด้วย.
“ศิษย์พี่,ศิษย์น้องเย่ดูน่ากลัวเล็กน้อย.”ซูเซียวโม่ที่กล่าวเสียงเบา.
หลี่ชิงหยางเอ่ย,”ดูเหมือนว่าเขาจะโกรธแค้นจนปล่อยจิตสังหารออกมาโดยไม่รู้ตัว.”
“ไม่ใช่เพราะว่าหลี่เฟยเตะบอลอัดหน้าเขาหลายครั้งหรอกรึ?
เขาเลยรู้สึกโกรธแค้น?.”ซูเซียวโม่กล่าวเสียงเบา.
หลี่เฟยที่กล่าวอย่างผู้บริสุทธ์,”ศิษย์พี่,เป็นท่านที่ทุบตีเขาก่อนหน้านี้,ไม่ใช่ว่าแค้นท่านหรอกรึ?.”
ทั้งสองที่ไม่รู้ว่า,แท้จริงแล้วเย่ซิงเฉินไม่ได้สนใจพวกเขาเลย,จิตสังหารที่ล้นออกมานั้น,เป็นความโกรธแค้นชิงชังที่มีต่อจักรพรรดินีหลิงเหยาในชาติที่แล้วของเขาต่างหาก.
มันเป็นความเกลียดชัง,ความแค้นที่ฝังในดวงวิญญาณ,ชั่วนิรันดรกาลไม่สูญสลาย.
ไม่ว่าจะกี่พบกี่ชาติ,เขาก็จะไม่มีทางลืมมัน!
......
เหล่าศิษย์ฝ่ายในที่กำลังฝึกฝนอย่างจริงจัง,จุนซ่างเซียวก็ฝึกฝนบ่มเพาะตลอดหลายวันมานี้เช่นกัน,ท้ายที่สุดเขาก็สามารถยกระดับจากขั้นที่เก้าไปยังศิษย์ยุทธ์ขั้นปลายได้.
ผ่านมาสามเดือนแล้วตั้งแต่เขาย้ายผ่านมายังต่างโลก.
จากเปิดชีพจรขั้นที่สองไปสาม,จนก้าวมาถึงระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นปลาย,นับว่าเป็นการเติบโตที่เร็วมาก.
จากนั้นจุนซ่างเซียวก็รู้สึกหดหู่เป็นอย่างมาก,หลังจากไปถึงศิษย์ยุทธ์ขั้นปลาย,แม้นว่าจะมีเม็ดยาช่วยในการดูดซับพลังวิญญาณ,การเติบโตกลับช้ามาก
ๆ.
ระบบกล่าว,”ระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นปลายจำเป็นต้องทำจิตใจให้สงบตระหนักได้ถึงควบคุมพลังวิญญาณให้ได้ดั่งใจ,ก่อนที่จะสร้างรากฐานโพรงวิญญาณทะลวงไปยังขั้นอาจารย์ยุทธ์.”
“ไม่มีทางลัดอย่างงั้นรึ?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
ระบบเอ่ย,”เว้นแต่กระตุ้นภารกิจมหากาพน์,ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีทางลัด,ทำได้แค่เพียงโฮสน์ต้องตระหนักรู้ด้วยตัวเอง.”
“ติ้ง!
โฮสน์ก้าวไปถึงระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นปลาย,ตรงตามเงื่อนไข,ภารกิจมหากาพย์เปิดใช้งาน!”
ระบบ “......”
จุนซ่างเซียวเร่งรีบเปิดคอนโซนระดับ,ตรวจสอบภารกิจมหากาพน์ในทันที,ซึ่งมีภารกิจแรกมหากาพน์,นำศิษย์ไปประลองกับสำนักเห่าฉี[ยังไม่สำเร็จ].
ภารกิจสองมหากาพน์ 【สอง】.
รายระเอียดภารกิจ,ให้เวลาโฮสน์สองเดือน,นำศิษย์ไปยังหุบเขามรณะเพื่อหาประสบการณ์เจ็ดวันเจ็ดคืน.
เงื่อนไขภารกิจ : ล่าสังหารสัตว์ร้ายมังกรเพลิง
0 / 1,ล่าสังหารสัตว์ร้ายวานรยักษ์ 0 / 10,ล่าสังหารหมาป่าวายุ 0 / 100
,ล่าสังหารแมงมุมพิษเล็ก 0 / 500.
การล้มเหลวของภารกิจ,ไม่สามารถไปยังหุบเขามรณะได้ทันเวลา,ไม่สามารถสังหารสัตว์ร้ายได้ตามเงื่อนไข.
รางวัลภารกิจ :???
“ภารกิจ,ต้องสังหารสัตว์ร้ายมากขนาดนี้เลย!”เห็นเงื่อนไขภารกิจแล้ว,ที่มุมปากของจุนซ่างเซียวถึงกับกระตุก.
ระบบเอ่ย,”ภารกิจมหากาพย์ย่อมยากกว่าภารกิจทั่วไป,หากโฮสน์ไม่ต้องการทำ,ไม่จำเป็นต้องสนใจ,และนั่นก็ไม่ได้แปลว่าโฮสน์จะไม่สามารถยกระดับพลังบ่มเพาะได้สักหน่อย.”
นี่เป็นคนพูดมากตั้งแต่เมื่อไหร่กัน.
จุนซ่างเซียวที่กรอกตามองบน,จากนั้นก็กลับมาครุ่นคิดและกล่าวออกมาว่า,”ภายในสองเดือน,ใช้เวลาหาประสบการเจ็ดวัน,ตอนนี้ยังมีเวลา,ยกระดับความแข็งแกร่งของศิษย์ได้.”
......
หลี่ชิงหยางและศิษย์คนอื่น ๆที่ยกระดับเร็วมาก,ทว่าเหล่าศิษย์สายนอกเองก็ไม่ได้เกียจคร้าน,พวกเขาก็ฝึกฝนอย่างจริงจังเช่นกัน.
จุนซ่างเซียวเวลานี้ เมื่อภารกิจมหากาพย์ปรากฏ,ทำให้เขาจำเป็นต้องยกระดับศิษย์ขนานใหญ่,ศิษย์เพียงไม่กี่คน,คงไม่เพียงพอที่จะนำไปทำภารกิจ.
เขาจำเป็นต้องยกระดับศิษย์กลุ่มใหญ่,เมื่อถึงเวลาออกเดินทาง,พวกเขาจะต้องมีพลังพอที่จะต่อกรกับสัตว์ร้าย.
“มีศิษย์รากวิญญาณระดับกลางสิบคนที่ชิงหางเพิ่งรับเข้ามา,การเติบโตของพวกเขาก็ไม่ช้า,หนึ่งเดือนหลังจากนี้อาจจะเพียงพอ.”
“หลงจื่อหยาง,หลี่ยูหัว,พวกเขาก็เติบโตรวดเร็ว,และยังมีศิษย์อีกหลายคน,ที่ดูไม่เลว.”
จุนซ่างเซียวที่ถูมือไปมา,กล่าวด้วยความคาดหวัง,”ก่อนหน้าภารกิจมหากาพย์ที่สอง,ยังมีภารกิจที่หนึ่งควรจะได้รับคะแนนอีกไม่น้อย,จากนั้นค่อยใช้คะแนนเหล่านั้นเตรียมตัวไปทำภารกิจมหากาพน์ที่สอง.”
ใช่แล้ว,ต้องใจเย็นก่อน.
ตอนนี้ต้องยกระดับศิษย์สายในเพื่อเตรียมการไปงานประลองกับสำนักเห่าฉี,เมื่อเสร็จภารกิจแรก,ภารกิจมหากาพย์ที่สอง,ค่อยเตรียมตัวก็ยังไม่สาย.
......
ตระกูลอ้ายเวลานี้,ได้ทำการโฆษณาเม็ดยาบูรณะร่างกาย,ข่าวดังกล่าวกระจายไปทั่วมนทลชิงหยาง,สร้างความสนใจต่อเหล่าตระกูลใหญ่และกลุ่มอิทธิพลต่าง
ๆเป็นอย่างมาก.
จุนซ่างเซียวที่รับรู้ข่าวต่าง
ๆได้,ขณะที่เขาหยุดบ่มเพาะชั่วคราว,และออกมาจัดการสำนัก.
แน่นอน,ระหว่างนี้มีคนมาลงทะเบียนกะปริดกะปรอย,ราว
ๆสิบคน,ทำให้สมาชิกเพิ่มขึ้นเป็น 240,ทำให้แต้มสนับสนุนเพิ่มขึ้นเป็น 10 แต้ม.
“ดูเหมือนว่า,การประลองกับสำนักเห่าฉีครั้งนี้,จะต้องทำให้ชาวยุทธ์ทั่วมนทลชิงหยางรับรู้แล้ว,ว่าสำนักไท่กู่เจิ้งแข็งแกร่ง,จะได้ดึงดูดคนมาสมัครเข้าร่วมสำนัก.”
เวลาที่ผ่านไปช้า ๆ.
การฝึกฝนอย่างหนัก 20
วัน,ราวกับผ่านไปชั่วพริบตา.
ลู่เชียนเชียน,เซียวจุ้ยจื่อและศิษย์คนอื่น
ๆที่ออกมาจากการบ่มเพาะในค่ายกลรวมวิญญาณในที่สุด.
หลายวันมานี้,ยกเว้นกินอาหารและหลับนอน,พวกเขาต่างก็อยู่ในค่ายกลรวมวิญญาณตลอด,เพราะว่าไม่ต้องการให้ผลของเม็ดยารวมวิญญาณเสียเปล่า.
ภายในห้องโถงหลัก.
จุนซ่างเซียวที่สีคางไปมา,กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม,”ตอนนี้พวกเจ้ามีระดับเท่าใดบ้าง?”
ลู่เชียนเชียนเอ่ยออกมาเล็กน้อย,”ศิษย์ยุทธ์ขั้นสาม.”
ขี้ฮกจริง ๆ!
骗鬼 [piànguǐ]
ผีโกหก หรือ คนขี้โหก
หลี่ชิงหยางที่กล่าวตามจริง,”เจ้าสำนัก,ยี่สิบวันมานี้,ศิษย์ก้าวไปถึงระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่เจ็ดแล้ว.
ซูเซียวโม่ที่เกาศีรษะแก๊กๆ.”ข้าเพิ่งไปถึงระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นหกเมื่อวานนี้.”
หลี่เฟยและเทียนฉีเพราะว่ามีรากวิญญาณจำกัด,จึงก้าวไปถึงระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่ห้าเท่านั้น.
เซียวจุ้ยจื่อตลอดยี่สิบวันมานี้,ด้วยการใช้เม็ดยาผสานวิญญาณ,ไม่เพียงแค่ตัดผ่านไปยังระดับศิษย์ยุทธ์,ทว่ายังทำให้เขาก้าวไปถึงระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่สาม.
เย่ซิงเฉินกล่าวออกมเบาๆ,”ศิษย์ยุทธ์ขั้นที่หก.”
จุนซ่างเซียวที่ตกใจ,ลอบคิดในใจ,”ดูเหมือนว่าด้วยรากวิญญาณขั้นสูงเหมือนกับชิงหยาง,คาดไม่ถึงเลยว่าจะเร็วขนาดนี้,หากเจ้าเด็กนี้ไม่ได้ฝึกวิชาบ่มเพาะที่เหนือกว่าระดับเทวะ,ดูเหมือนคงจะแปลกประหลาดแล้ว.”
“เจ้าสำนัก.”
เย่ซิงเฉินเอ่ย.”การประลองเริ่มตอนใหน.”
เพื่อทรัพยากร,เขาอดรอไม่ได้ที่จะแสดงพลังของตัวเอง.
จุนซ่างเซียวสีคางไปมา,กล่าวออกมาว่า,”พวกเจ้าไปพักก่อนสองวัน,จากนั้นข้าจะพาไปสร้างความอึกทึกที่สำนักเห่าฉี.”
“เสียเวลาจริง ๆ.”เย่ซิงเฉินที่กล่าวเบา ๆ.
ในเย็นวันนั้น,หลี่ลั่วฉิวที่ได้รับคำสั่งจากเจ้าสำนัก,ให้แพร่กระจายข่าวไปทั่วมนทลชิงหยาง,สำนักไท่กู่เจิ้งกำลังจะเดินทางไปขอประลองกับสำนักเห่าฉี.
เขาที่ให้ศิษย์ไปพักสองวัน,เป้าหมายที่แท้จริงก็เพื่อกระจายข่าวไปทั่ว,ให้ทุกคนได้รับรู้ว่าพวกเขากำลังเดินทางไปยังสำนักเห่าฉีเพื่อขอประลอง,เหตุผลหลัก
ๆก็เพื่อ สร้างชื่อเสียงให้กับสำนักดึงดูดศิษย์เข้ามาลงทะเบียนนั่นเอง.
ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times
#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น