วันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

Strongest Sect of All Times Chapter 145 Epic Mission two!

Strongest Sect of All Times  Chapter 145 Epic Mission two!

 นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล

Chapter 145 Epic Mission two!

诗任务二!

 

จุนซ่างเซียวที่นำเม็ดยารวมวิญญาณที่เพิ่งปรุงใหม่ออกมา,พบว่าคุณภาพของเม็ดยาดีมากและกลิ่นยังหอมโชยออกมากว่าเดิม,ดูเหมือนว่ามันจะแตกต่าง ดีกว่าการหลอมก่อน ๆ หน้านี้อย่างไม่ต้องสงสัย.

“ประสิทธิภาพควรจะไม่เลว.”

 

เขาที่อ้าปากกินเม็ดยารวมวิญญาณเข้าไป,พร้อมกับนั่งสมาธิ,โคจรวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็นและดูดซับพลังวิญญาณจากสวรรค์และปฐพี.

 

ด้วยประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิม,ร่างกายของจุนซ่างเซียวที่ราวกับกลายเป็นหลุมดำ,ดูดซับพลังวิญญาณเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง.

 

หลังจากดูดซับพลังวิญญาณหนึ่งชั่วโมง,เขาที่รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก,ความเร็วในการดูดซับพลังวิญญาณเพิ่มขึ้นสูงมาก,ดูเหมือนว่าจะเร็วกว่าปรกติ 10 เท่า!

 

เทียบกับเม็ดยารวมวิญญาณที่ปรุงจากสมุนไพรที่ซื้อจากตลาด,มีความสามารถในการดูดซับพลังวิญญาณเพียงห้าเท่า.

กล่าวได้ว่าเม็ดยารวมวิญญาณที่ใช้วัตถุดิบจากเหล่าเหว่ยนั้น,ดูดซับพลังวิญญาณถึงสิบเท่า,ไม่ต้องสงสัยว่าน่าเหลือเชื่อขนาดใหน.

“ร้ายกาจมาก!

จุนซ่างเซียวที่ดวงตาร้อนเป็นไฟ.

เม็ดยารวมวิญญาณ 300 เม็ดนี้เทียบกับเม็ดยารวมวิญญาณปรกติ 600 เม็ดทีเดียว,ที่สำคัญการดูดซับพลังวิญญาณสิบเท่า,ก็เท่าว่าลดเวลาในการดูดซับลงครึ่งหนึ่งนั่นเอง.

“หลังจากนี้,ให้พวกชิงหยางได้ใช้เม็ดยาเหล่านี้,ก่อนไปประลองที่สำนักเห่าฉี,จะทำให้ข้าเบาใจขึ้นอีก.”จุนซ่างเซียวที่เผยยิ้มร่า.

เหล่าเหว่ย.

เป็นดังสมบัติล้ำค่าจริง ๆ!

ไม่เสียแรงที่เปิ่นจั้วใช้เงินค่าจ้างมหาศาลจ้างมา,นับเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องจริง ๆ!

......

เช้าวันถัดมา,จุนซ่างเซียวเรียกหลี่ชิงหยางมาพบ,พร้อมกับให้แจกเม็ดยารวมวิญญาณแบบใหม่ให้กับทุกคน,คนละสิบเม็ด,และย้ำเตือนให้บ่มเพาะอย่างจริงจัง.

ศิษย์ฝ่ายในเจ็ดคน,ที่ดูดซับพลังวิญญาณสิบเท่าทุกวัน,สิบวันหลังจากนี้อยู่ในค่ายกลรวมวิญญาณตลอด,นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเกรงขามเล็กน้อย.

“เม็ดยาที่เจ้าสำนักมอบให้,ที่ศิษย์พี่รองนำมา,ทำให้ดูดซับพลังวิญญาณได้มากกว่าเดิมมาก,อ๊ากๆ!”ซูเซียวโม่อุทานด้วยความตกใจ.

หลี่ชิงหยางที่ไม่สนใจเขา,เพราะว่าเวลานี้นั่งอยู่ในค่ายกลรวมวิญญาณ,กำลังดูดซับพลังวิญญาณอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน.

“เป็นความจริง,เจ้าหนูนั่นมีของดีมากมาย,ไม่คิดเลยว่าจะได้รับ!”เย่ซิงเฉินเป็นอีกหนึ่งคนที่ตื่นตะลึง.

เม็ดยาที่ช่วยยกระดับการดูดซับพลังวิญญาณ,ในอดีตชาติมีมากมาย,ทว่ากับไม่มีประสิทธิภาพที่ร้ายกาจมากขนาดนี้เลย.

ดินแดนเบื้องบน.

ต้องมาจากดินแดนเบื้องบนอย่างแน่นอน!

เย่ซิงเฉินเชื่อเช่นนั้น,จุนซ่างเซียวอาจจะมาจากพิภพเบื้องบน,ไม่เช่นนั้นจะมีวิชาบ่มเพาะที่ลึกล้ำ,เพลงกระบี่ชั้นยอด,แม้แต่เม็ดยาที่ร้ายกาจ แม้แต่เขาก็ไม่เคยเห็น,เรื่องนี้ถึงจะเป็นนิกายชั้นสูงก็ไม่มีเช่นนี้.

ในชาติที่แล้วเปิ่นตี้ต้องพ่ายแพ้ตกตายอย่างน่าผิดหวัง,โชคดีชีวิตนี้มาพบกับสำนักไท่กูเจิ้ง,จะสามารถช่วยข้ายกระดับความแข็งแกร่งเพื่อชำระแค้นได้เร็วขึ้น.

 

ฝากเอาไว้ก่อน,ใครมันที่ทำให้ข้าต้องตายไป,ข้าจะเอาคืนสิบเท่า,เพียงแค่คิดใบหน้าที่งดงามไม่แยแสนั่น,ดวงตาของเย่ซิงเฉินก็เต็มไปด้วยจิตสังหารที่ประทุขึ้น.

หลิงเหยา!

รอเปิ่นตี้ก่อนเถอะ.

จิตสังหารที่คละคลุ้งกระจายไปทั่วค่ายกล,จนทำให้คนอื่น ถึงกับสะดุ้งไปด้วย.

“ศิษย์พี่,ศิษย์น้องเย่ดูน่ากลัวเล็กน้อย.”ซูเซียวโม่ที่กล่าวเสียงเบา.

หลี่ชิงหยางเอ่ย,”ดูเหมือนว่าเขาจะโกรธแค้นจนปล่อยจิตสังหารออกมาโดยไม่รู้ตัว.”

“ไม่ใช่เพราะว่าหลี่เฟยเตะบอลอัดหน้าเขาหลายครั้งหรอกรึ? เขาเลยรู้สึกโกรธแค้น?.”ซูเซียวโม่กล่าวเสียงเบา.

 

หลี่เฟยที่กล่าวอย่างผู้บริสุทธ์,”ศิษย์พี่,เป็นท่านที่ทุบตีเขาก่อนหน้านี้,ไม่ใช่ว่าแค้นท่านหรอกรึ?.”

ทั้งสองที่ไม่รู้ว่า,แท้จริงแล้วเย่ซิงเฉินไม่ได้สนใจพวกเขาเลย,จิตสังหารที่ล้นออกมานั้น,เป็นความโกรธแค้นชิงชังที่มีต่อจักรพรรดินีหลิงเหยาในชาติที่แล้วของเขาต่างหาก.

มันเป็นความเกลียดชัง,ความแค้นที่ฝังในดวงวิญญาณ,ชั่วนิรันดรกาลไม่สูญสลาย.

ไม่ว่าจะกี่พบกี่ชาติ,เขาก็จะไม่มีทางลืมมัน!

......

เหล่าศิษย์ฝ่ายในที่กำลังฝึกฝนอย่างจริงจัง,จุนซ่างเซียวก็ฝึกฝนบ่มเพาะตลอดหลายวันมานี้เช่นกัน,ท้ายที่สุดเขาก็สามารถยกระดับจากขั้นที่เก้าไปยังศิษย์ยุทธ์ขั้นปลายได้.

ผ่านมาสามเดือนแล้วตั้งแต่เขาย้ายผ่านมายังต่างโลก.

จากเปิดชีพจรขั้นที่สองไปสาม,จนก้าวมาถึงระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นปลาย,นับว่าเป็นการเติบโตที่เร็วมาก.

จากนั้นจุนซ่างเซียวก็รู้สึกหดหู่เป็นอย่างมาก,หลังจากไปถึงศิษย์ยุทธ์ขั้นปลาย,แม้นว่าจะมีเม็ดยาช่วยในการดูดซับพลังวิญญาณ,การเติบโตกลับช้ามาก ๆ.

 

ระบบกล่าว,”ระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นปลายจำเป็นต้องทำจิตใจให้สงบตระหนักได้ถึงควบคุมพลังวิญญาณให้ได้ดั่งใจ,ก่อนที่จะสร้างรากฐานโพรงวิญญาณทะลวงไปยังขั้นอาจารย์ยุทธ์.”

 

“ไม่มีทางลัดอย่างงั้นรึ?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

 

ระบบเอ่ย,”เว้นแต่กระตุ้นภารกิจมหากาพน์,ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีทางลัด,ทำได้แค่เพียงโฮสน์ต้องตระหนักรู้ด้วยตัวเอง.”

“ติ้ง! โฮสน์ก้าวไปถึงระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นปลาย,ตรงตามเงื่อนไข,ภารกิจมหากาพย์เปิดใช้งาน!

ระบบ “......”

จุนซ่างเซียวเร่งรีบเปิดคอนโซนระดับ,ตรวจสอบภารกิจมหากาพน์ในทันที,ซึ่งมีภารกิจแรกมหากาพน์,นำศิษย์ไปประลองกับสำนักเห่าฉี[ยังไม่สำเร็จ].

ภารกิจสองมหากาพน์ สอง.

รายระเอียดภารกิจ,ให้เวลาโฮสน์สองเดือน,นำศิษย์ไปยังหุบเขามรณะเพื่อหาประสบการณ์เจ็ดวันเจ็ดคืน.

เงื่อนไขภารกิจ : ล่าสังหารสัตว์ร้ายมังกรเพลิง 0 / 1,ล่าสังหารสัตว์ร้ายวานรยักษ์ 0 / 10,ล่าสังหารหมาป่าวายุ 0 / 100 ,ล่าสังหารแมงมุมพิษเล็ก 0 / 500.

การล้มเหลวของภารกิจ,ไม่สามารถไปยังหุบเขามรณะได้ทันเวลา,ไม่สามารถสังหารสัตว์ร้ายได้ตามเงื่อนไข.

รางวัลภารกิจ :???

“ภารกิจ,ต้องสังหารสัตว์ร้ายมากขนาดนี้เลย!”เห็นเงื่อนไขภารกิจแล้ว,ที่มุมปากของจุนซ่างเซียวถึงกับกระตุก.

ระบบเอ่ย,”ภารกิจมหากาพย์ย่อมยากกว่าภารกิจทั่วไป,หากโฮสน์ไม่ต้องการทำ,ไม่จำเป็นต้องสนใจ,และนั่นก็ไม่ได้แปลว่าโฮสน์จะไม่สามารถยกระดับพลังบ่มเพาะได้สักหน่อย.”

นี่เป็นคนพูดมากตั้งแต่เมื่อไหร่กัน.

จุนซ่างเซียวที่กรอกตามองบน,จากนั้นก็กลับมาครุ่นคิดและกล่าวออกมาว่า,”ภายในสองเดือน,ใช้เวลาหาประสบการเจ็ดวัน,ตอนนี้ยังมีเวลา,ยกระดับความแข็งแกร่งของศิษย์ได้.”

......

หลี่ชิงหยางและศิษย์คนอื่น ๆที่ยกระดับเร็วมาก,ทว่าเหล่าศิษย์สายนอกเองก็ไม่ได้เกียจคร้าน,พวกเขาก็ฝึกฝนอย่างจริงจังเช่นกัน.

จุนซ่างเซียวเวลานี้ เมื่อภารกิจมหากาพย์ปรากฏ,ทำให้เขาจำเป็นต้องยกระดับศิษย์ขนานใหญ่,ศิษย์เพียงไม่กี่คน,คงไม่เพียงพอที่จะนำไปทำภารกิจ.

เขาจำเป็นต้องยกระดับศิษย์กลุ่มใหญ่,เมื่อถึงเวลาออกเดินทาง,พวกเขาจะต้องมีพลังพอที่จะต่อกรกับสัตว์ร้าย.

“มีศิษย์รากวิญญาณระดับกลางสิบคนที่ชิงหางเพิ่งรับเข้ามา,การเติบโตของพวกเขาก็ไม่ช้า,หนึ่งเดือนหลังจากนี้อาจจะเพียงพอ.”

“หลงจื่อหยาง,หลี่ยูหัว,พวกเขาก็เติบโตรวดเร็ว,และยังมีศิษย์อีกหลายคน,ที่ดูไม่เลว.”

จุนซ่างเซียวที่ถูมือไปมา,กล่าวด้วยความคาดหวัง,”ก่อนหน้าภารกิจมหากาพย์ที่สอง,ยังมีภารกิจที่หนึ่งควรจะได้รับคะแนนอีกไม่น้อย,จากนั้นค่อยใช้คะแนนเหล่านั้นเตรียมตัวไปทำภารกิจมหากาพน์ที่สอง.”

ใช่แล้ว,ต้องใจเย็นก่อน.

ตอนนี้ต้องยกระดับศิษย์สายในเพื่อเตรียมการไปงานประลองกับสำนักเห่าฉี,เมื่อเสร็จภารกิจแรก,ภารกิจมหากาพย์ที่สอง,ค่อยเตรียมตัวก็ยังไม่สาย.

......

ตระกูลอ้ายเวลานี้,ได้ทำการโฆษณาเม็ดยาบูรณะร่างกาย,ข่าวดังกล่าวกระจายไปทั่วมนทลชิงหยาง,สร้างความสนใจต่อเหล่าตระกูลใหญ่และกลุ่มอิทธิพลต่าง ๆเป็นอย่างมาก.

จุนซ่างเซียวที่รับรู้ข่าวต่าง ๆได้,ขณะที่เขาหยุดบ่มเพาะชั่วคราว,และออกมาจัดการสำนัก.

แน่นอน,ระหว่างนี้มีคนมาลงทะเบียนกะปริดกะปรอย,ราว ๆสิบคน,ทำให้สมาชิกเพิ่มขึ้นเป็น 240,ทำให้แต้มสนับสนุนเพิ่มขึ้นเป็น 10 แต้ม.

“ดูเหมือนว่า,การประลองกับสำนักเห่าฉีครั้งนี้,จะต้องทำให้ชาวยุทธ์ทั่วมนทลชิงหยางรับรู้แล้ว,ว่าสำนักไท่กู่เจิ้งแข็งแกร่ง,จะได้ดึงดูดคนมาสมัครเข้าร่วมสำนัก.”

เวลาที่ผ่านไปช้า ๆ.

การฝึกฝนอย่างหนัก 20 วัน,ราวกับผ่านไปชั่วพริบตา.

ลู่เชียนเชียน,เซียวจุ้ยจื่อและศิษย์คนอื่น ๆที่ออกมาจากการบ่มเพาะในค่ายกลรวมวิญญาณในที่สุด.

หลายวันมานี้,ยกเว้นกินอาหารและหลับนอน,พวกเขาต่างก็อยู่ในค่ายกลรวมวิญญาณตลอด,เพราะว่าไม่ต้องการให้ผลของเม็ดยารวมวิญญาณเสียเปล่า.

ภายในห้องโถงหลัก.

จุนซ่างเซียวที่สีคางไปมา,กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม,”ตอนนี้พวกเจ้ามีระดับเท่าใดบ้าง?”

ลู่เชียนเชียนเอ่ยออกมาเล็กน้อย,”ศิษย์ยุทธ์ขั้นสาม.”

ขี้ฮกจริง ๆ!

 [piànguǐ] ผีโกหก หรือ คนขี้โหก

หลี่ชิงหยางที่กล่าวตามจริง,”เจ้าสำนัก,ยี่สิบวันมานี้,ศิษย์ก้าวไปถึงระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่เจ็ดแล้ว.

ซูเซียวโม่ที่เกาศีรษะแก๊กๆ.”ข้าเพิ่งไปถึงระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นหกเมื่อวานนี้.”

หลี่เฟยและเทียนฉีเพราะว่ามีรากวิญญาณจำกัด,จึงก้าวไปถึงระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่ห้าเท่านั้น.

เซียวจุ้ยจื่อตลอดยี่สิบวันมานี้,ด้วยการใช้เม็ดยาผสานวิญญาณ,ไม่เพียงแค่ตัดผ่านไปยังระดับศิษย์ยุทธ์,ทว่ายังทำให้เขาก้าวไปถึงระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่สาม.

 

เย่ซิงเฉินกล่าวออกมเบาๆ,”ศิษย์ยุทธ์ขั้นที่หก.”

จุนซ่างเซียวที่ตกใจ,ลอบคิดในใจ,”ดูเหมือนว่าด้วยรากวิญญาณขั้นสูงเหมือนกับชิงหยาง,คาดไม่ถึงเลยว่าจะเร็วขนาดนี้,หากเจ้าเด็กนี้ไม่ได้ฝึกวิชาบ่มเพาะที่เหนือกว่าระดับเทวะ,ดูเหมือนคงจะแปลกประหลาดแล้ว.”

“เจ้าสำนัก.”

เย่ซิงเฉินเอ่ย.”การประลองเริ่มตอนใหน.”

เพื่อทรัพยากร,เขาอดรอไม่ได้ที่จะแสดงพลังของตัวเอง.

จุนซ่างเซียวสีคางไปมา,กล่าวออกมาว่า,”พวกเจ้าไปพักก่อนสองวัน,จากนั้นข้าจะพาไปสร้างความอึกทึกที่สำนักเห่าฉี.”

“เสียเวลาจริง ๆ.”เย่ซิงเฉินที่กล่าวเบา ๆ.

ในเย็นวันนั้น,หลี่ลั่วฉิวที่ได้รับคำสั่งจากเจ้าสำนัก,ให้แพร่กระจายข่าวไปทั่วมนทลชิงหยาง,สำนักไท่กู่เจิ้งกำลังจะเดินทางไปขอประลองกับสำนักเห่าฉี.

เขาที่ให้ศิษย์ไปพักสองวัน,เป้าหมายที่แท้จริงก็เพื่อกระจายข่าวไปทั่ว,ให้ทุกคนได้รับรู้ว่าพวกเขากำลังเดินทางไปยังสำนักเห่าฉีเพื่อขอประลอง,เหตุผลหลัก ๆก็เพื่อ สร้างชื่อเสียงให้กับสำนักดึงดูดศิษย์เข้ามาลงทะเบียนนั่นเอง.

 

 


ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times

#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
Author(s)
Goodbye Jianghu


เข้ากลุ่มลับ VIP ====> Click


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น