วันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

Strongest Sect of All Times Chapter 143 my one person solve sufficiently completely!

Strongest Sect of All Times  Chapter 143 my one person solve sufficiently completely!

 นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล

Chapter 143 my one person solve sufficiently completely!

我一人足以全部解决!

 

หลังจากสวนด้านในได้รับการฟื้นฟูซ่อมแซม,ลานด้านนอก็เริ่มขยายและสร้างสิ่งก่อสร้าง.

เหล่าศิษย์เองก็บ่มเพาะเหมือนกับทุก ๆวัน,เพียงแต่ได้ย้ายเข้าไปลานด้านใน,เพราะว่าลานยุทธ์ที่มีขนาดเล็กไม่เพียงพอ.


หลี่ลั่วฉิวหลังจากได้กินเม็ดยาบูรณะร่างกาย,ก็รู้สึกตะลึงเป็นอย่างมาก,กายเนื้อของนางที่ยกระดับขึ้น,นอกจากนี้เส้นชีพจรและอวัยวะภายในเองก็สัมผัสได้ว่ายกระดับขึ้นอีกขั้น.

นับตั้งแต่นางนำผู้ใต้บังคับบัญชาเข้าร่วมสำนักไท่กู่เจิ้ง,เพราะว่านางถูกจับ ตลอดจนปรารถนาในอินทรีย์ทะเลทราย,ตอนนี้รู้สึกดีใจตื่นเต้นกับการตัดสินใจเป็นอย่างมาก.

สมาชิกหอฝนพรำที่ไม่ได้ถูกส่งออกไปเก็บข้อมูล,ล้วนแต่ได้รับเม็ดยาบูรณะร่างกายและปรับตัวเข้ากับการฝึกของสำนัก.

ตลอดหลายปีที่ผ่านมาพวกเขาที่ต้องก้าวเดินอยู่ในความมืด,ในเวลานี้ได้ออกมาอยู่ในแสงสว่างนับว่าพึงพอใจเป็นอย่างมาก.

น่าเสียดายเหมือนกันมือสังหารระดับเหรียญทอง,กับพลังบ่มเพาะที่ไปถึงระดับศิษย์ยุทธ์แล้ว,ไม่สามารถบ่มเพาะวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็นได้,ทำได้ฝึกฝนวิชาหมัดระเบิดและคมวิญญาณเท่านั้น.

หลี่ลั่วฉิวและผู้ใต้บังคับบัญชาของนางที่ยอมรับจุนซ่างเซียวและสำนักไท่กู่เจิ้งอย่างสมบูรณ์,ซึ่งนอกจากนโยบายพิเศษ,ยกตัวอย่างพวกเขาที่ได้รับเครื่องปั้นกล้ามเนื้อสองชุดเพื่อฝึกพวกเขาโดยเฉพาะ.

หลังจากที่พิจารณาวางแผน,เมื่อแต้มสนับสนุนและคูลดาวน์หมดแล้ว,ก็จะสามารถซื้อสไนเปอร์ไรเฟิลให้กับพวกเขาใช้ได้,ในวันข้างหน้าสามารถก่อตั้งกองกำลังพิเศษขึ้นในโลกนี้ได้.

 

กองกำลังมือสังหาร,ที่มีสไนเปอร์ไรเฟิล,สวมชุดดำทำงานเวลากลางคืน,เพียงแค่คิดก็น่าพรั่นพรึงแล้ว.

ที่ลานด้านนอกกำลังปรับปรุง,ตอนนี้เหล่าศิษย์ใหม่และศิษย์เก่าจะอยู่ลานด้านใน,ฝึกฝนอย่างราบรื่นทุกวันอย่างสงบเงียบ.

หลังจากนั้นสองสามวัน.

การทดสอบประจำเดือน,ศิษย์ทุกคนที่ต้องทดสอบความแข็งแกร่งบนเครื่องทดสอบ.

หลังจากทดสอบความแข็งแกร่งทั้งหมด,หลี่ชิงหยางที่ทำการบันทึกความแข็งแกร่งของเหล่าศิษย์น้อง,เพื่อตัดสินแพ้ชนะประจำเดือนนั่นเอง.

“ซูเซียวโม่,6000 จิน.”

“เซียวจุ้ยจื่อ, 9000 จิน.”

“หลงจื่อหยาง, 4000 จิน.”

“หลิงหยวนเสวี๋ย 700 จิน.”

“เย่ซิงเฉิน,10,000 จิน.”

”......”

การทดสอบครั้งนี้,ซูเซียวโม่และศิษย์สายใน,เพราะว่าพลังบ่มเพาะสูง,ฝึกฝนมานาน,ทำให้มีความแข็งแกร่งที่สูง.

ตอนนี้เหล่าศิษย์ใหม่มีระดับเปิดชีพจรขั้นสี่ขั้นห้า,ดังนั้นความแข็งแกร่งจึงไม่ได้สูงนัก.

นอกจากนี้,การทดสอบนี้คือการทดสอบความแข็งแกร่ง,ศิษย์บางคนที่ไม่ได้ใช้ทักษะพิเศษเข้าช่วย,ยกตัวอย่างซูเซียวโม่และหลี่เฟยที่มุ่งเน้นไปที่ความเร็วและกำลังขา.

ทว่าจะให้กล่าว,คนที่มีความแข็งแกร่งเพิ่มมากสุดคงจะเป็นเย่ซิงเฉิน.

ด้วยวิชาบ่มเพาะเปลี่ยนเส้นเอ็นและพระสูตรไท่ฉวน,ทำให้เขาตัดผ่านระดับไปยังศิษย์ยุทธ์ขั้นที่สองและนอกจากนี้ยังมีประสบการความรู้จากชาติที่แล้วจึงเหนือกว่าศิษย์คนอื่น ๆ.

จุนซ่างเซียวรู้ดี,ว่าศิษย์คนนี้อาจจะมีวิชาบ่มเพาะที่เหนือกว่าระดับเทวะเป็นของตัวเอง,ดังนั้นจึงตั้งเป้าให้ความสนใจและยังคิดในใจ,”การประลองกับสำนักเห่าฉีคงต้องนำเขาไปด้วย.”

หากเทียบกับระดับพลังฝึกตน,เซียวจุ้ยจื่อที่มีระดับเปิดชีพจรขั้นที่เก้าแต่กับมีพลังเกือบเทียบถึงหมื่นจินนับว่าน่าหวั่นเกรงเป็นอย่างมาก,เหตุผลเพราะว่าก่อนหน้านี้เขาฝึกฝนร่างกายอย่างหนักมาก่อนนั่นเอง.

หลี่เฟยและเทียนฉีเองก็ไม่เลว,แม้นว่าความแข็งแกร่งจะด้อยกว่าศิษย์น้อง,ทว่าเมื่อมองภาพรวมก็ไม่ได้ต่างกันมากนัก.

ลู่เชียนเชียนที่ลึกลับเล็กน้อย,เพราะว่านางคล้ายกับไม่ได้ใช้แรงเต็มกำลัง.

หากพูดเรื่องความแข็งแกร่ง,เหล่าศิษย์สายในของเขา,แทบจะโดดเด่นเหนือกว่าสำนักอื่น ๆอย่างไม่ต้องสงสัย.

ส่วนหลี่ชิงหยางที่ต้องคอยจัดการภารกิจภายในสำนัก,ดูแลเหล่าศิษย์ที่ได้รับบาดเจ็บ,ดังนั้นจึงไม่สามารถนำไปเทียบกับลู่เชียนเชียน,เซียวจุ้ยจื่อและเย่ซิงเฉิน.

“เชียนเชียนที่มีความสามารถยอดเยี่ยมในการใช้พลังวิญญาณ.”

“จุ้ยจื่อที่มีกายเนื้อที่แข็งแกร่งสุดยอด.”

“ซิงเฉินผู้มีพลังหมัดยากจะมีใครต้านทาน.”

“เซียวโม่ที่มีท่าเท้าเคลื่อนไหวอันร้ายกาจ.”

“ศิษย์ทุกคนล้วนแล้วแต่มีระดับกายเนื้อที่ไม่ธรรมดา,ทำให้เหมาะที่จะต่อสู้ในระยะประชิด.”

จุนซ่างเซียวที่กล่าวเสียงเบา,”ดูเหมือนว่าศิษย์แต่ละคนแทบจะถอดแบบกันมา.”

มีเพียงแค่ห้าคนที่มีความสามารถแตกต่าง,อีก 25 คนที่คล้ายกัน เหมือนกันจนแยกกันไม่ออก.

ยังเหลืออีกหนึ่งคน!

“ติ๊ง!

โจวหงมือกระบี่ผู้ทดสอบคนสุดท้าย,เขาที่ใช้กระบี่ฟันไปยังเครื่องทดสอบ,แม้นว่าจะไม่สามารถตัดมันให้ขาด,ทว่าก็สามารถบ่งบอกพลังความแข็งแกร่งได้!

“โอ้วสวรรค์!

“ศิษย์น้องโจวร้ายกาจมาก!

กับตัวเลขเป็นจำนวนมากที่ปรากฏขึ้น,ทำให้ศิษย์คนอื่น ๆต้องอุทานออกมาเสียงดัง.

เย่ซิงเฉินที่ครุ่นคิดเล็กน้อย.

นี่คือยอดมือกระบี่,ความแข็งแกร่งนั้นเกรงว่าจะไม่ต่างจากระดับ กระบี่อาจารย์เลย,เพียงแค่การฟันก็มีพลัง 50,000 จินแล้วนับว่าไม่ธรรมดา.

ถึงแม้นว่าจะพอคาดเดาได้ว่า,คน ๆนี้จะไม่ธรรมดา,แต่ไม่คิดว่าจะร้ายกาจขนาดนี้.

“ไม่เลว,ไม่เลว.”จุนซ่างเซียวที่กล่าวอย่างพึงพอใจ.

การทดสอบความแข็งแกร่งจัดขึ้นทุกเดือน,ใครที่มีพลังไม่ผ่านเกณฑ์จะต้องฝึกหนัก,ห้าศิษย์ฝ่ายนอกที่มีความแข็งแกร่งสูงที่สุด,จะได้รับเม็ดยารวมวิญญาณคนล่ะสามเม็ด.

และคนที่มีความแข็งแกร่งต่ำที่สุดห้าลำดับสุดท้ายของศิษย์ฝ่ายนอก,จะต้องรับผิดชอบในการทำความสะอาดลานด้านนอกและล้างจานชามเป็นเวลาเจ็ดวันติดต่อกัน.

ส่วนศิษย์ฝ่ายในนั้น,เพราะว่าได้รับเม็ดยารวมวิญญาณเป็นรางวัลทุก ๆเดือนอยู่แล้ว,ดังนั้นการทดสอบนี้,ก็เป็นเพียงแค่วัดการเติบโตเท่านั้น.

......

ในห้องหนังสือ.

หลี่ชิงหยางเอ่ย,”เจ้าสำนัก,ศิษย์ตอนนี้มีมากขึ้นเรื่อย ๆ,จำเป็นต้องการชุดมากกว่านี้.”

จุนซ่างเซียวที่มอบเงินออกไปหนึ่งหมื่นเหรียญ,กล่าวออกไปว่า,”เช่นนั้นก็ตัดชุดหลาย ๆ ขนาดเอาไว้,และเตรียมไว้สำรองด้วย.”

“ใช่.”

“หอฝนพำที่เปิดมาครึ่งเดือนแล้ว.”

“พวกเขาควรจะมีชุดที่แตกต่างออกไป,เจ้านำแบบชุดนี้ไปสั่งตัดมาด้วย.”

“ครับ.”

มีเงินก็สะดวกไปหมด.

ถัดมาจากนั้นไม่กี่วันชุดเครื่องแบบสำนักก็ถูกส่งมา.

ชุดของตึกฝนพรำก็มาถึง,ซึ่งแบบชุดเน้นไปที่โทนสีเทา,รูปแบบของศิษย์ชายนั้นไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากศิษย์ทั่วไปนัก.

มีเพียงถางจู่ที่แตกต่างมาก,ดูกระชับ,ขับเน้นรูปร่างของสตรีให้โดดเด่นเป็นอย่างมาก.

“งดงามหรือไม่?”

หลังจากที่เปลี่ยนเป็นชุดสำนักสีเทา,หลี่ลั่วฉิวที่ก้าวเข้ามาในห้องหนังสือ,เผยท่างยวนเย้า,เสื้อผ้าที่ขับเน้นโชว์ร่างให้เห็นเด่นชัด.

ต้องบอกว่างดงาม สวยแบบยั่วยวนมาก!

“เจ้าควรจะสวมเสื้อคลุมด้วย.”

จุนซ่างเซียวที่เกรงว่าตัวเองจะเลือดกำเดาไหล.

หลี่ลั่วฉิวที่สวมผ้าคลุมสีดำทับอีกชั้น,กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม,”ได้ยินมาว่าเจ้าสำนักเป็นคนออกแบบเสื้อผ้าเอง,ทว่ามีรูปแบบนั้น มีจุดประสงค์อะไรหรือไม่?.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย,”ข้าต้องการให้สตรีดูงดงามน่าดึงดูด,แน่นอนว่าข้าเองก็ชอบ.”

“โอ้ว,ใช่,เปิ่นจั้ววางแผนที่จะเลือกศิษย์ที่ฉลาดส่งเข้าไปยังหอฝนพำ,ให้เจ้าเป็นคนฝึกฝน.”

“ไม่มีปัญหา.”

หลี่ลั่วฉิวเอ่ย,”ทว่า,ตึกฝนพรำของข้านั้นต้องการพื้นที่อิสระ,เพื่อใช้ในการฝึกฝน.”

แน่นอนว่ารูปแบบที่นางกล่าวถึงย่อมเป็นการฝึกฝนเหมือนกับมือสังหาร.

จุนซ่างเซียวที่จัดแจงแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งของภูเขาด้านหลัง,ให้กับหอฝนพรำเพื่อฝึกฝนโดยเฉพาะ.

สำนักไท่กู่เจิ้งนั้นตั้งอยู่บนเทือกเขาบนยอดที่สูงที่สุด,แม้นว่าจะเป็นเทือกเขาที่ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรนัก,ทว่าพื้นที่เทือกเขาก็นับว่ากว้างมาก,พื้นที่สำนักที่ตั้งอยู่นั้นเพียงแค่ส่วนยอดของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น.

จุนซ่างเซียวที่วางแผน,ว่าหลังจากนี้เมื่อศิษย์เพิ่ม มากขึ้น,ก็จะพัฒนาบุกเบิก,สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกขยับขยายมากขึ้นเรื่อย ๆ.

......

เขาที่ส่งศิษย์สิบคนไปฝีกที่หอฝนพรำ,แต่ละคนล้วนแต่มีเชาว์ปัญญาที่ยอดเยี่ยม,ยกตัวอย่างหลี่ซางเทียนคนที่ต้องการปีก,วิ่งตามความฝันของตัวเอง.

หลี่ลั่วฉิวที่ฝึกฝนซางเฟยเหมือนกับมือสังหาร,ไม่เพียงเข้มงวด,สถานที่ฝึกยังไม่ธรรมดา,ศิษย์แต่ละคนที่ราวกับน้ำตาตกใน.

หลี่ซางเทียนที่ได้รับการฝึกฝนจากหลี่เฟย,จึงสามารถผ่านไปได้อย่างไม่ยากเย็น เพราะการฝึกฝนที่เข้มงวด,ไม่ต่างกับการเตะบอลแห่งความสุขเลย.

ในบรรดาศิษย์คนที่ฝึกหนักที่สุดคงหนีไม่พ้นเย่ซิงเฉิน.

ก่อนหน้านี้จุนซ่างเซียวที่มอบเพลงกระบี่ระดับเทวะให้เขา,ทว่าเขาไม่มีกระบี่แล้วจะฝึกฝนได้อย่างไรกัน!

ไม่ใช่คิดว่าจะให้ข้าใช้กิ่งไม้ไปต่อสู้หรอกนะ?

ไม่ได้การ,จะต้องหากระบี่ดี ๆก่อน! เขาได้เข้าไปพูดกับจุนซ่างเซียว.

“ข้าจะมอบกระบี่หานเฟิงให้กับเจ้า,ทว่าเจ้าต้องสร้างผลงานก่อน.”

จุนซ่างเซียวที่นั่งพิงเก้าอี้อย่างสบายใจเอ่ยกล่าวออกมาว่า,”เร็ว ๆนี้ ข้าจะเดินทางไปท้าประลองสำนักเห่าฉี,เจ้าต้องแสดงผลงานที่ยอดเยี่ยมออกมา.”

ตำรายุทธ์,เม็ดยาและอาวุธไม่สามารถมอบให้ง่าย ๆ,จะต้องสร้างผลงานและสนับสนุนสำนักก่อน.

ซูเซียวโม่ที่สร้างผลงานโดดเด่นในงานประลองสำนัก,ดังนั้นจึงได้รับกระบี่หานเฟิง.

“อีกนานเท่าไหร่?”

“หนึ่งเดือนหลังจากนี้.”

เย่ซิงเฉินกล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล,”สำนักระดับหก,เจ้าสำนักไม่จำเป็นต้องนำศิษย์คนอื่นไปก็ได้,ข้าคนเดียวก็เกินพอแล้ว!


ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times

#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
Author(s)
Goodbye Jianghu


เข้ากลุ่มลับ VIP ====> Click


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น