วันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

Strongest Sect of All Times Chapter 121 Challenge from Star Cloud School

Strongest Sect of All Times  Chapter 121 Challenge from Star Cloud School

 นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล

Chapter 121 Challenger from Star Cloud School

来自星云派的挑

 

สำนักชิงอวิ๋น,ที่จู่ ๆก็เดินทางมาขอประลอง,พอจะคาดเดาได้ว่าเรื่องนี้จะต้องเกี่ยวกับกับผู้นำพันธมิตรฉินแน่.

“ผู้นำฉิน.”

จุนซ่างเซียวที่ถูกมือไปมา,กล่าวด้วยรอยยิ้ม,”ระหว่างพวกเรายังไงก็ต้องประลองกัน,ดูเหมือนว่าจะใจร้อน,อดรนทนไม่ไหวจนต้องส่งคนมาทดสอบข้าเลยสินะ!


“ติ๊ง! ภารกิจสนับสนุน!”เสียงของระบบที่ดังขึ้น.

เย็นเข้!

ท้ายที่สุดก็มีภารกิจสักที!

จุนซ่างเซียวที่เร่งรีบเปิดคอนโซนระบบขึ้นมา,ตรงส่วนรายงานภารกิจสนับสนุน,เอาชนะผู้อาวุโสเจ็ด,ซ่งฉาย 0 / 1 [ภารกิจระดับสูง].

ภารกิจที่สอง!

เนือหา,เอาชนะศิษย์สำนักชิงอวิ๋น 0 / 5.

ไม่ใช่แค่หนึ่ง,กับมีถึงสองเลยรึ?!

ยอดเยี่ยมเลย!

จุนซ่างเซียวที่สะบัดมือ,ยืนขึ้น,”เชิญอาวุโสสำนักชิงอวิ๋นเข้ามาเร็วเข้า.”

“ครับ.”

หลี่ชิงหยางที่หันหลังก้าวจากไป,ภายในใจที่เต็มไปด้วยความสงสัย,”ทำไมเจ้าสำนักต้องดีใจขนาดนั้นด้วย?”

เขาที่ขาดแคลนแต้มสนับสนุนอย่างหนัก,จู่ ๆก็มีคนส่งมาให้ถึงที่,สองภารกิจ,เจ้าสำนักจุนต้องดีใจแน่นอน,เขาที่แทบกระโดดเต้นฟ้อรำออกมาเลย.

......

บนลานยุทธ์.

ศิษย์ของสำนักไท่กู่เจิ้งที่หยุดฝึกฝน,ก่อนที่จะก้าวมายืนอยู่ด้านหลังเจ้าสำนัก.

จุนซ่างเซียวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้,เขาที่ก้าวออกมาด้านนอก,ใบหน้าแห่งความสุขที่อดไม่อยู่จนต้องเผยออกมาเล็กน้อยเหมือนกัน.

ฝ่ายตรงข้าม.

อาวุโสสำนักชิงอวิ๋นที่ยืนไขว้หลังยื่นเด่นด้วยความอหังการ.

 

และด้านหลังมีศิษย์ห้าคน,ทีแผ่กลิ่นอายไม่ธรรมดาออกมา,แน่นอนว่าย่อมต้องมีระดับศิษย์ยุทธ์,พลังบ่มเพาะไม่เลว.

ในเวลานี้ในสายตาของจุนซ่างเซียว,ที่จ้องมองคนเหล่านี้,เห็นเป็นแต้มลอยอยู่,อ๊าก ๆ.

ระบบกล่าว,”ห้าศิษย์ฝ่ายตรงข้าม,ด้านซ้ายไปขวา,มีระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นห้า,ขั้นสี่,ขั้นสี่,ขั้นสามและขั้นสอง.”

“อิ อิ.”

จุนซ่างเซียวที่ครุ่นคิดในใจ,”ควรค่าแล้วที่เป็นสำนักระดับเจ็ด,มีศิษย์ที่ร้ายกาจพอดู.”

“เจ้าสำนักจุน.”

ซ่งฉายที่ยกมือประสานไปด้านหน้า,”ได้ยินมาว่าศิษย์ของท่านได้สี่ลำดับแรกในงานประลองยุทธ์สำนัก,สำนักชิงอวิ๋นของข้ารู้สึกชื่นชมเป็นอย่างมาก,วันนี้จึงได้นำศิษย์มาขอคำแนะนำโดยเฉพาะ.”

สำนักชิงอวิ๋นนั้นได้ส่งคนเข้าร่วมเช่นกัน,ทว่ากับเป็นศิษย์สายนอกพลังบ่มเพาะไม่สูงนัก,ทำให้ตกรอบอย่างรวดเร็ว.

ที่ไม่ได้ส่งศิษย์ระดับสูงเข้าร่วมนั้น,ก็เพราะมีกฎข้อหนึ่งที่ห้ามไว้,นั่นก็คือมีอายุไม่เกิน 18 ปีนั่นเอง.

จุนซ่างเซียวเอ่ย,”ต้องการประลองด้วยศิษย์ที่แข็งแกร่งเช่นนี้,จะไม่ปรบมือต้อนรับได้อย่างไร.”

“แปะ แปะ แปะ.”

ศิษย์ทุกคนที่ปรบมือเสียงดัง,ต้อนรับ.

ซ่งฉายที่มุมปากกระตุก,กล่าวออกมาด้วยความเคารพ,”ซ่งฉายเวลานี้นำศิษย์สายในห้าคนมา,หวังว่าจะได้ประลองกับศิษย์ที่ทรงเกียรติของสำนักไท่กู่เจิ้ง 1-1 จำนวนห้าคู่,เจ้าสำนักจุนมีความเห็นอย่างไร?”

คนเหล่านี้เชื่อว่าหลี่ชิงหยางนั้นแข็งแกร่งอย่างแน่นอน,คนแรกที่ส่งออกมาจึงอ่อนแอเป็นอย่างมาก.

จุนซ่างเซียวเอ่ย,”ตกลง.”

“ชิงหยาง.”

เขาโบกมือและกล่าวออกไปว่า,”เตรียมการประลองต้อนรับแขกของพวกเราอย่างอบอุ่น.”

“ครับ.”

หลี่ชิงหยางขณะกำลังก้าวออกไป,ได้ยินเสียงของเจ้าสำนักกระซิบเบา ๆข้างหู,”เปิ่นจั้วต้องการให้พวกเขาเห็นพลังร้ายกาจ,สั่งอีกฝ่ายทุบตีให้พวกมันร้องหาพ่อแม่ ได้เลย.”

ภารกิจที่จะเอาชนะศิษย์สำนักชิงอวิ๋นนั้นง่ายดายนัก,แต่ก็ไม่ได้ระบุรายระเอียดที่ชัดเจนแต่อย่างใด.

หลี่ชิงหยางที่พยักหน้ารับ,ก่อนที่จะก้าวออกไปที่ใจกลางลานยุทธ์.

ซ่งฉายที่ส่งศิษย์คนหนึ่งออกมา,เป็นศิษย์ที่มีพลังบ่มเพาะต่ำที่สุด,เพียงระดับสองศิษย์ยุทธ์เท่านั้นเอง.

“คิดว่าเป็นสนามม้ารึไง?”จุนซ่างเซียวที่กล่าวเหยียดหยัน,”คิดที่จะเก็บคนมีฝีมือไว้จัดการศิษย์คนอื่นของข้ารึ?.”

“กึก.”

ศิษย์ของเขาที่เสิร์ฟน้ำชา,ก่อนที่เขาจะยกมันขึ้นจิบ.

“หลี่ชิงหยาง.”

“เจี่ยเถิงหยิง.”

“พรึด-“จุนซ่างเซียวสำลักน้ำชา.

......

ทั้งสองที่ขานชื่อกันก่อนการต่อสู้จะเริ่ม.

“ฟิ้ว!

เจี่ยเถิงหยิงที่พุ่งออกไป,หมัดทั้งสองข้างที่ผสานพลังพลังวิญญาณ,เท้าทั้งสองข้างที่ส่องแสง,จากนั้นก็ได้ยินเพียงเสียงย่ำของเท้า,ตึก ตึก ตึก.

ด้วยทักษะระดับสามัญขั้นกลาง,ทำให้เขาเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงมาก.

ในเวลานี้เขาที่เพิ่มความเร็วจนเห็นเป็นเพียงเงา,ด้วยความเร็วจนยากจะระบุตำแหน่ง.

หลี่ชิงหยางที่เวลานี้กำลังยืนนิ่ง,พร้อมกับขยับเท้าเป็นระยะเพื่อหลบการโจมตีของอีกฝ่าย.

ก่อนหน้านี้เขามีระดับสองศิษย์ยุทธ์เอาชนะโม่ซ่างเฟยนิกายเซิ่งชวน,ถึงแม้นว่าอีกฝ่ายจะเหนือกว่า,แต่ก็เอาชนะมาได้ในที่สุด.

เจี่ยเถิงหยิงที่รับรู้ว่าอีกฝ่ายมีทักษะยุทธ์ที่ไม่ธรรมดา,จึงคิดที่จะใช้ความเร็วเคลื่อนที่เร็วและคอยเข้โจมตีอีกฝ่ายทีเผลอ.

“กึก.”

เพียงพริบตาที่หลี่ชิงหยางหลบการโจมตีของอีกฝ่ายหลายครั้งและในเวลานั้นมือข้างหนึ่งที่ยื่นออกไปคว้าไปที่ข้อมือฝ่ายตรงข้ามได้.

มือทั้งสิบที่ราวกับเป็นตะขอกำแขนของเจี่ยเถี่ยหยิงเอาไว้,ร่างของที่ไม่สามารถขยับได้.

“พรึด โครม!

ร่างของอีกฝ่ายที่ถูกจับทุ่มฟาดลงบนฟาดไปด้านหน้าและหลังสลับกัน,ฟาดไปด้านหน้าหนึ่งครั้งและฟาดไปด้านหลังอีกหนึ่งกันไปเรื่อย ๆ.

“ตูมมม! ตูมมม! ตูมมม!

หลี่ชิงหยางที่จับมืออีกฝ่ายแน่น เอาด้านหน้าลงเอาด้านหลังลง,เจี่ยเถิงหยิงเวลานี้ถึงกับสลบเหมือด.

พริบตาที่เขาถูกจับ,ก็ถูกจับฟาดไม่มีโอกาสให้เขาได้เอ่ยอะไรยอมแพ้เลยแม้แต่น้อย.

“ติ๊ง! เอาชนะศิษย์สำนักชิงอวิ่น 1/5 “

หลี่ชิงหยางที่รังแกฝ่ายตรงข้าม,ให้ได้รับบาดเจ็บหนัก.

“ชิงหยาง,การประลองยุทธ์เชื่อมสัมพันธ์ไม่ต้องเอาจริงนักก็ได้.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

หลี่ชิงหยางที่ลากเจี่ยเถิงหยิงที่น้ำลายฟูมปากไปแล้ว,ก่อนที่จะโยนออกนอกลานยุทธ์.

“ศิษย์พี่รองชนะแล้ว!”ศิษย์คนหนึ่งที่กล่าวออกมาเสียงใส.

ศิษย์ใหม่ที่เพิ่งเข้ามาเห็นพลังระดับศิษย์ยุทธ์ที่ทรงพลังน่าเกรงขาม,พริบตานั้นก็รู้สึกเทิดทูนศิษย์พี่รองในทันที.

“ชิ.”ซ่งฉายแค่นเสียงเย็นชา.

ศิษย์ของเขาที่พ่ายแพ้,เป็นไปตามที่เขาคาดไว้ตั้งแต่แรกแล้ว.

การต่อสู้กับหลี่ชิงหยาง,เขาจึงไม่คิดที่จะส่งศิษย์ที่โดดเด่นออกไป,แท้จริงแล้ว,เขาหวังกับอีกสี่การต่อสู้ต่างหาก,ศิษย์ของสำนักชิงอวิ๋นจะคว้าชัยทั้งหมด.

ทว่าหลังจากนั้น.

เพราะว่าศิษย์พี่รองได้แสดงพลังที่ร้ายกาจออกมา,ศิษย์คนอื่น ๆกลัวจะน้อยหน้า,หลี่เฟยด้วยทักษะท่าเท้าได้อย่างยอดเยี่ยม,พลังเตะที่มหาศาล.

ด้วยการก้าวและเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว,เขาได้เตะฝ่ายตรงข้ามเขียวช้ำดำไปทั่วร่าง,แม้แต่ทำให้อีกฝ่ายต้องอ๊วกแตกออกมา ก่อนล้มลงไปกอง.

“ติ๊ง! เอาชนะศิษย์สำนักชิงอวิ๋น 2/5.”หลังจากได้ยินเสียงระบบที่ดังขึ้น,จุนซ่างเซียวก็ลุกขึ้นยื่นมือประสานออกไป,”ขออภัยด้วย,ศิษย์ของข้าเผลอหนักมือไปหน่อย.”

ใบหน้าของซ่งฉายถึงกับกระตุก.

ศิษย์ของสำนักไท่กู่เจิ้ง,เห็นชัดเจนว่ามีระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่สอง,ทำไมถึงได้เตะศิษย์ของเขาที่มีระดับสามศิษย์ยุทธ์พ่ายแพ้อย่างน่าอนาจเช่นนี้?

เขาที่รับปากประมุขเอาไว้,แล้วจะทำอย่างไร.

ไม่ ไม่ ปัญหาไม่ใหญ่,ไม่มีปัญหา.

ศิษย์ระดับสูงของเขายังไม่ได้ส่งออกไป,ขอเพียงชนะสามคนก็ยังใช้ได้.

จากนั้นซ่งฉายก็โบกมือให้ศิษย์ของตัวเองออกไป.

เขาที่ให้ศิษย์ที่มีระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นสี่ออกไปกลางลานยุทธ์.

จุนซ่างเซียวที่เตรียมจะให้เถียนซีและต่อด้วยซูเซียวโม่ออกไป,ทว่ายังไม่เอ่ยปาก,เห็นคนสองคนกำลังเดินเข้ามา.

ใครนะรึ?

เซียวจุ้ยจื่อและเย่ซิงเฉินนั่นเอง.

ทั้งสองที่หัวฟู,ใบหน้าเต็มไปด้วยคาบสกปรก,ชุดสำหนักที่ขาดวิ่น,เห็นชัดเจนว่าเป็นรอยของสัตว์ร้ายที่เฉือนเอา.

จุนซ่างเซียวที่มุมปากกระตุก,”ไปรบที่ค่ายใหนกัน,กลับมายังกับผู้ประสบภัย?”

“เจ้าสำนัก,พวกเรากลับมาแล้ว,”เซียวจุ้ยจื่อที่เผยยิ้มสีขาว,ก้าวเข้ามา.

“มาได้พอดีเลย,”สำนักชิงอวิ๋นมาขอประลอง,ตอนนี้ถึงคู่ที่สามแล้ว,ทำไมเจ้าไม่ลองออกไปสู้ดูล่ะ?”

“เอ๋?”เซียวจุ้ยจื่อที่ตื่นตกใจ.

เขาและเย่ซิงเฉินที่ออกไปหาประสบการในป่าเขา,ต่อสู้กับฝูงสัตว์ร้ายที่บ้าคลั่ง,ก่อนท้ายที่สุดจะหนีรอดกลับมา,หลังจากกลับถึงสำนัก,ยังไม่ได้พัก,ก็ให้ออกไปต่อสู้เลยรึ?!


ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times

#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
Author(s)
Goodbye Jianghu


เข้ากลุ่มลับ VIP ====> Click


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น