วันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

Strongest Sect of All Times Chapter 117 In not doing to change strongly, in doing to sing coolly

Strongest Sect of All Times  Chapter 117 In not doing to change strongly, in doing to sing coolly

 นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล

Chapter 117 In not doing to change strongly, in doing to sing coolly

不在作死中变更强,就在作死中唱凉凉

คนของนิกายเซิ่งชวนจากไปแล้ว,ฉินเห่าหรานและเจ้าสำนักคนอื่น ๆด้วยเช่นกัน.

แม้นว่าจะไม่พอใจเป็นอย่างมาก,ทว่าก็ทำอะไรไม่ได้ที่ต้องอดกั้นแล้วจากไป.


ไม่สามารถสั่งสอนจุนซ่างเซียวได้,อีกทั้งยังถูกด่าว่าเป็นหมา,เป็นอะไรที่บัดซบเป็นอย่างมาก.

และสิ่งที่ทำให้พวกเขาตื่นตะลึงมาก ๆ.

หลี่ชิงหยางสำนักไท่กู่เจิ้ง,ศิษย์ยุทธ์ขั้นที่สี่,เอาชนะศิษย์ยุทธ์ขั้นที่แปดได้,เรื่องนี้น่าหวั่นเกรงเป็นอย่างมาก.

นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่พวกเขาไม่อยากยอมรับ,จุนซ่างเซียวที่ไม่หวาดกลัวนิกายเซิ่งชวนเลยแม้แต่น้อย,แม้แต่ท้าประลองอีกหนึ่งปีหลังจากนี้,จะเดินทางไปประลองยุทธ์เชื่อมสัมพันธ์!

หรือว่าสมองของชายคนนี้ป่วยอย่างงั้นรึ?

ระหว่างทาง,ชาวยุทธ์ที่พูดคุยกันและครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น.

การที่ศิษย์ของเขาโชคดีเอาชนะฝั่งตรงข้ามด้วยทักษะยุทธ์ที่พิเศษกว่า,พวกเขาสามารถเข้าใจได้,แต่สำนักระดับแปดท้าทายนิกายระดับห้า,นี่เป็นเรื่องน่าขันอย่างแน่นอน!

“เจ้าสำนักไท่กู่เจิ้งใจกล้าจริง ๆ,คาดไม่ถึงว่าจะกล้าท้าทายนิกายเซิ่งชวน!

“ได้คืบแล้วอยากเอาศอก.”

“ในความเห็นของข้า,แม้แต่ผู้นำฉินก็คงผ่านไปไม่ได้,นี่ยังคิดจะท้าทายนิกายเซิ่งชวนอีก.”

“คน ๆนี้ไม่รู้จักขีดจำกัดของตัวเอง,แต่ไม่รู้ว่าจะเดินทางไปยังสำนักเห่าฉีเพื่อประลองเมื่อไหร่.”

“นับตั้งแต่เจ้าสำนักจุน,เผยตัวในงานรับศิษย์ร้อยสำนัก,มนทลชิงหยางของพวกเขาก็ไม่สงบอีกต่อไป.”

เหล่าชาวยุทธ์ที่พูดคุยกันไปต่าง ๆนา ๆ,และคาดเดาหลากหลายอย่างต่างออกไป,เกี่ยวกับจุนซ่างเซียวที่จะนำศิษย์ไปประลองกับสำนักเห่าฉี,ตามทฤษฎีแล้วเป็นไปได้ยากที่อีกฝ่ายจะแข็งแกร่งพอที่จะเอาชนะหรือคว้าชัยได้,แต่ลึก ๆแล้วก็ทำให้พวกเขารู้สึกยินดีเล็ก ๆ.

ไม่ต้องบอก.

ยุทธภพที่สงบนิ่ง,ไม่ใช่เรื่องดีแต่อย่างใด.

......

ที่ด้านนอกซากปรักหักพังของสำนักหลิงชวน.

จุนซ่างเซียวที่ก้าวออกมา,ยกมือประสานด้วยความซาบซึ้ง,”อาวุโสหม่า,ต้องขอบคุณที่เร่งรีบมา,ไม่เช่นนั้นจุนโหมวไม่รู้ว่าควรจะเผชิญหน้ากับนิกายเซิ่งชวนอย่างไรเหมือนกัน.”

หม่าหยุนเถิงที่กล่าวด้วยรอยยิ้ม,”นิกายเขาซ่างซานอยู่ในมนทลชิงหยาง,แน่นอนคงไม่ปล่อยให้นิกายหลิงชวนจากมนทลอื่นมาดูแคลนสหายน้อยจุนได้.”

จุนซ่างเซียวที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม,”การช่วยเหลือวันนี้,จุนโหมวจะสลักเอาไว้ในใจ,หลังจากนี้อาวุโสหม่า,หากมีสิ่งใดให้สำนักไท่กู่เจิ้งช่วย,ไม่ว่าจะบุกน้ำลุยไฟข้าต้องทำมันอย่างแน่นอน!

เขาที่ยึดหลักการ-

ใครร้ายกับข้า,ข้าก็จะร้ายยิ่งกว่าตอบ.

ใครดีกับข้า,ข้าก็จะยิ่งตอบแทนมากยิ่งกว่าตอบเช่นกัน.

 

หนำซ้ำ,นิกายเขาซ่างซานที่แข็งแกร่งไม่ธรรมดา,หากว่าสามารถเป็นมิตรได้ด้วย,ก็เป็นเรื่องที่ไม่เลวเลย.

จุนซ่างเซียวไม่ได้เป็นคนยื่นมิตรภาพมาก่อน,ทว่าเมื่ออีกฝ่ายยื่นมาให้,แน่นอนเขาก็ต้องรับมันเอาไว้,กับโอกาสที่ยากจะมาถึงหากเขายอมปล่อยให้เสียเปล่า สมองของเขาก็มีปัญหาแล้ว.

 

อาวุโสหม่าเผยยิ้ม,”เจ้าสำนักจุน,ที่จริงหม่าโหมวมีเรื่องเล็กน้อยที่ต้องการจะขอ.”

“เชิญกล่าว.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

อาวุโสหม่าที่จ้องมองไปยังศิษย์ที่เขานำมาและเอ่ยออกไปว่า,”นี่คือศิษย์ที่ไม่ได้ความของข้า,พบกับปัญหาในวิถียุทธ์,จึงต้องการขอให้สหายน้อยจุนช่วยชี้แนะพวกเขา.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย,”ไม่มีปัญหา.”

กล่าวจบ,เขาก็บดยันต์รู้แจ้งทันที,จากนั้นก็เริ่มชี้แนะปัญหายุทธ์ให้กับคนเหล่านั้น,ด้วยวิถีทางที่ถูกต้อง.

วิ้ง....

หลังจากนั้นการบ่มเพาะฝึกฝนและทักษะยุทธ์ต่าง ๆก็ถูกแก้ไขได้อย่างง่ายดาย.

ไม่มีสิ่งใดที่ยันต์รู้แจ้งไม่สามารถแก้ไขได้,ทุกอย่างเสร็จสิ้นแก้ไขในชั่วเพียงอึดใจ.

แน่นอนว่านี้คือความลึกล้ำเกินจะเอ่ย,ไม่มีวิชาใดในทวีปชิงหยุนอีกแล้วที่จะมีความสามารถมากกว่าทักษะในร้านค้าของระบบ.

อย่างไรก็ตามจุนซ่างเซียวที่ใช้ยันต์รู้แจ้งได้รับประโยชน์ด้วย เขาได้ศึกษาทักษะยุทธ์เหล่านั้นพร้อมทั้งสามารถนำไปปรับใช้,อีกอย่างทักษะยุทธ์จากระบบเองก็ไม่ง่ายเลยที่จะเขาจะรีเฟรซแล้วได้มา.

......

ผ่านไปสิบนาทีกว่า,เหล่าศิษย์ของนิกายเขาซ่างซานต่างก็ได้รับการชี้แนะกันครบแล้ว,แต่ละคนที่สับสนมืดมัวก่อนหน้านี้,ทันใดนั้นก็ราวกับพบแสงสว่าง.

เซี่ยกวนคนที่อยู่ใกล้ ๆถึงกับตะลึงงันไปเหมือนกัน.

ศิษย์ของนิกายระดับห้า,คาดไม่ถึงเลยว่าเจ้าสำนักระดับแปดกับชี้แนะพวกเขาให้ตระหนักรู้ได้อย่างรวดเร็ว,กับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้หากไม่เห็นด้วยตาไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด.

ในเวลานั้นเขาที่รู้สึกระอายเล็กน้อยกล่าวออกไปว่า,”เจ้าสำนักจุน,เซี่ยโหมวมีปัญหาในวิถียุทธ์เช่นกัน,ไม่รู้ว่าจะช่วยขจัดข้อสงสัยนั้นให้ข้าได้ด้วยหรือไม่?”

“เชิญกล่าว.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

ในลานยุทธ์ที่สงบเงียบ,เจ้าเมืองเซี่ยที่ก้าวออกไป,เขารู้ตัวเองดี,ดังนั้นจึงไม่สนใจ,ขอรับการชี้แนะทันที.

เขาที่แสดงทักษะหมัดออกมา,เพื่อให้อีกฝ่ายได้ดู.

จุนซ่างเซียวที่เงียบไปเล็กน้อย,ก่อนที่จะเริ่มชี้แนะ,และปรับปรุงวิชาหมัดดังกล่าวอีกเล็กน้อย.

แน่นอน.

ทักษะหมัดนี้จะถูกนำไปปรับใช้โดยเขาด้วย.

กับการพัฒนาทักษะหมัดดังกล่าว,ทำให้เจ้าเมืองเซี่ยตื่นตะลึงตกใจเป็นอย่างมาก,จนยกหัวนิ้วแม่มือให้,อุทานออกมา,”เจ้าสำนักจุนที่ปรับปรุงมันได้อย่างง่ายดาย,ทั้งที่เซี่ยโหมวต้องสับสนหลายปี,ราวกับเป็นเทพเลยก็ว่าได้!

จุนซ่างเซียวที่กล่าวอย่างถ่อมตน,”กับสิ่งที่เปิ่นจั้วเอ่ยกล่าว,ในเส้นทางยุทธ์ไม่คู่ควรจะเอ่ยถึงด้วยซ้ำ,หลังจากนี้ก็ข้าเองก็ต้องการพึ่งพาเจ้าเมืองเซี่ยด้วยเช่นกัน.”

ถึงเวลาอหังการก็ต้องยโสให้มาก,ถึงเวลาถ่อมตนก็ควรถ่อมตน,รู้หลบรู้หลีก,ก้าวไปบนเส้นทางที่หลากหลาย,จะล่วงเกินคนทั้งโลก ไม่ได้ทำให้ถูกนับว่าเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด,ไม่มีอะไรที่สง่างามแม้แต่น้อย.

เซี่ยกวนคุนกล่าวตอบรับ,ไม่เข้าใจความหมายของอีกฝ่ายนัก,แต่เอ่ยอย่างจริงจัง,”เจ้าสำนักจุนโปรดวางใจ,ตราบเท่าอยู่ในเขตแดนเมืองชิงหยาง,ใครกล้าหาเรื่องสำนักไท่กู่เจิ้ง,ก็เท่ากับเป็นศัตรูเมืองชิงหยาง 3.6 ล้านคน!

คำพูดที่เอ่ยไม่ได้หมายความว่าจะนำคนทั้ง 3.6 ล้านคนเข้ามา,แต่หมายถึงอำนาจของเจ้าเมืองที่มี.

อย่างไรก็ตาม,ก็สามารถคิดไปได้อีกแง่,ในอนาคตวันข้างหน้าหากเพลิงสงครามมาถึงมนทลชิงหยาง,ทุกคนในเมืองชิงหยางล้วนแต่ต้องเป็นกำแพงเหล็กลุกขึ้นยืนป้องกัน3.6 ล้านชีวิตที่มีด้วยเช่นกัน.

......

ศิษย์ทุกคนที่ได้รับการชี้แนะแล้ว,จำเป็นต้องการเวลาปิดด่านบ่มเพาะ,ดังนั้นหม่าหยุนเถิงจึงได้กล่าวลา,จากไป,อีกทั้งยังมอบเงินหนึ่งล้านเหรียญให้ตอบแทนการชี้แนะอีกด้วย.

จุนซ่างเซียวที่กล่าวด้วยความประหลาดใจ,”แค่ออกแรงนิดหน่อยก็ได้หนึ่งล้านเหรียญแล้ว,อาวุโสหม่าร่ำรวยจริง ๆ!

 

เซี่ยกวนคุนที่เอ่ยออกมาทันที,”นิกายเขาซ่างซาน,แม้นว่าจะอยู่อย่างสันโดษทว่า ก็มีการติดต่อกับยุทธ์ภพเช่นกัน,ในแต่ละเมืองมีธุรกิจหลายอย่าง,และอาวุโสหม่าเป็นคนจัดการ,ทรัพย์สินเพียงแค่นี้ ไม่มีอะไรต้องเอ่ยถึง.”

“ไม่มีอะไรให้เอ่ยถึง.”

จุนซ่างเซียวที่ลอบคิดในใจ,”ไม่ว่าจะเป็นโลกใหน,โลกก่อนและโลกนี้,สกุลหม่าก็ถือว่ายอดเยี่ยมโดดเด่นจริง ๆ.”

ระบบเอ่ย,”เรียกเขาว่าพ่อซะสิ.”

“ไปให้พ้น.”

จุนซ่างเซียวนำศิษย์และเซี่ยกวนคุนลงเขากลับเมืองชิงหยางด้วยกัน,เซียวจุ้ยจื่อและเย่ซิงเฉิงที่ซุ่มอยู่ก็ออกไปหาประสบการต่อเช่นกัน.

......

จากนั้นไม่นาน,เรื่องเกี่ยวกับการประลองของสำนักไท่กู่เจิ้งและนิกายเซิ่งชวนได้แพร่กระจายไปทั่วมนทลชิงหยาง,สร้างความตื่นตะลึงให้กับทุกคนไปตาม ๆกัน!

“นี่ได้ยินเรื่องทีเกิดขึ้นที่ภูเขาหลิงชวนหรือไม่?”

หลังจากที่ชาวยุทธ์บางคนเพิ่งได้ยินเรื่องเล่า,หากไม่เพราะรู้จักกันมาก่อน,คงต้องด่าว่าดูแคลนคนที่เล่าเรื่องนี้ออกมาแน่นอน.

หนึ่งปี,

เรื่องนี้ไม่เพียงแค่กระจายไปทั่วมนทลชิงหยางเท่านั้น,ยังกระจายไปยังมนทลอื่นอีกด้วย.

หลากหลายตระกูลใหญ่หลากหลายมนทลที่ได้ยินเรื่องราวดังกล่าว,ด้วยพวกเขาไม่เคยรู้จักสำนักไท่กู่เจิ้งมาก่อนแม้แต่น้อย,พวกเขาจึงเชื่อว่า,เรื่องนี้ก็เพียงแค่ข่าวโคมลอย.

เป็นความจริง,การที่จุนซ่างเซียวกล้าประกาศท้าประลอง,ก็เป็นหนึ่งในส่วนช่วยแผนการสามปีของเซียวจุ้ยจื่อ,นี่เป็นเป้าหมายแรกของเขา,หนึ่งปีโค่นล้มนิกายระดับห้า.

ไม่ได้เริ่มที่สำนักระดับแปดหรือเจ็ด,แต่ตั้งเป้าที่นิกายระดับห้าไปแล้ว,นี่เป็นเรื่องที่ร้ายกาจมาก.

หากไม่แสดงความแข็งแกร่ง,แล้วจะมีคนเอ่ยสรรเสริญได้อย่างไร.

เรื่องนี้,เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นเป็นอย่างมาก.

หลังจากกลับสำนัก,จุนซ่างเซียวที่เรียกศิษย์ทุกคนมา,”หนึ่งปีหลังจากนี้,ข้าจะนำพวกเจ้าไปยังนิกายเซิ่งชวนเพื่อประลองยุทธ์,พวกเจ้าจะต้องแข็งแกร่งขึ้น,แข็งแกร่งจนสามารถเอาชนะพวกเขาได้,บอกเปิ่นจั้วกล่าวออกมาให้ดัง,ว่าจะทำสำเร็จ!

“เหนิง!”(สามารถ)

ศิษย์ทุกคนที่ยืนมือขัดหลัง,ตะโกนออกไปเสียงดัง.

“ดี,แยกย้ายได้.”


ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times

#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
Author(s)
Goodbye Jianghu


เข้ากลุ่มลับ VIP ====> Click


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น