Strongest Sect of All Times Chapter 108 Strange insane old man
นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล
Chapter 108 Strange insane old man
奇怪的疯老头
แม้นว่าเซียวจุ้ยจื่อจะเปิดชีพจรแล้ว,ทว่าจุนซ่างเซียวก็ยังคงสงสัย,นั่นก็เพราะเกี่ยวกับพิษที่เขาได้รับ,จนทำให้พลังบ่มเพาะถดถอย,จนไม่แม้แต่รวมพลังวิญญาณได้?
ระบบกล่าว,”จากก๊าซพิษที่พ่นออกมา,สามารถยืนยันได้ว่าทั้งหมดเป็นเพราะพิษ.”
จุนซ่างเซียวที่สีคางไปมา,”พิษที่ทำให้พลังบ่มเพาะถดถอด,ไม่ธรรมดาเลย,ถึงกับทำให้รากวิญญาณระดับสุดยอดถดถอยกลายเป็นระดับต่ำได้เลยรึ?”
“ภายในร่างกายของเขามีพิษที่สะกดรากวิญญาณไม่ให้บ่มเพาะได้,ตอนนี้ได้ลดทอนและจัดการไประดับหนึ่ง,หากต้องการฟื้นฟูให้หาย,ก็มีแต่ต้องเปิดชีพจรไปเรื่อย
ๆ.”
เขาที่ยังคงลูกคางครุ่นคิด,”หยวนฟาง(L) ,เจ้ามีความเห็นอย่างไร?”
ระบบ “......”
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”ข้าถามเจ้า,ไม่ตอบ.”
ระบบที่ตระหนักได้,แท้จริงหยวนฟางนี้หมายถึงตัวเองรึ?
ดังนั้นจึงได้ตอบไปว่า,”ในทวีปชิงหยุนนั้นมีความลึกลับมากมาย,บางที่ยาพิษนั้นคงมีความสามารถสะกดพลังบ่มเพาะและรากวิญญาณได้.”
“หากรักษายาพิษทั้งหมดได้,ก็จะสามารถฟื้นคืนรากวิญญาณและพลังบ่มเพาะอย่างงั้นรึ?”จุนซ่างเซียวกล่าว.
ระบบกล่าว,”บางทีภายในร่างกายของเขา,ไม่ได้มีเพียงแค่ยาพิษ,กับน้ำยาของโฮสน์ที่มอบให้,พิษที่ระงับพลังบ่มเพาะ,และยับยั้งรากวิญญาณ
คลายออกมาเล็กน้อยเท่านั้น.”
“ก็บางทีละนะ......”
จุนซ่างเซียวที่เงียบไปชั่วขณะ.
หากเรื่องนี้เป็นแผนการ,คนที่อยู่เบื้องหลังช่างอมหิตมาก,เป็นใครกันที่ต้องการทำลายพรสวรรค์ของเซียวจุ้ยจื่อ?
“อาวุโสใหญ่ตระกูลเซียว?”
จุนซ่างเซียวที่ครุ่นคิด,ในงานประลองยุทธ์สำนักนั้น,อาวุโสใหญ่มีความปรารถนาที่ต้องการสังหารเซียวจุ้ยจื่อให้ได้.
“แล้วกลุ่มมือสังหารที่พบด้านนอกเมืองหลี่หยางล่ะ,ใครส่งมา?”
เขาที่บีบกะหมับ,กล่าวออกมาว่า,”มารดาเถอะ,ดูเหมือนว่าสมองของข้าจะไม่เพียงพอ,หยวนเฟิง,มีสินค้าอะไรที่ช่วยพัฒนาสมองหรือไม่?”
ระบบตอบ,”ไม่.”
......
หลังจากที่เซียวจุ้ยจื่อเปิดชีพจรสำเร็จ,เขาก็หยุดฝึกฝนยิงปืนชั่วคราว,ตอนนี้เขาที่โคจรวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็น,รวบรวมพลังวิญญาณอย่างบ้าคลั่ง.
แม้นว่าเขาจะมีรากวิญญาณสามัญ,หากแต่ในอดีตเขาเคยมีรากวิญญาณระดับสุดยอด,ย่อมมีประสบการณ์ที่ไม่ธรรมดา,การรวบรวมพลังวิญญาณย่อมเหนือกว่าคนในระดับเดียวกัน.
พลังวิญญาณที่ผสานเข้ามาภายในร่างกาย,แพร่กระจายไปทั่วเส้นชีพจร,เซียวจุ้ยจื่อกำลังฟื้นฟูพลังบ่มเพาะของเขาที่เคยมีในอดีตกลับมา.
แน่นอน.
เขารู้ดี,ทุกอย่างนั้นเป็นเจ้าสำนักมอบให้.
ชีวิตของเขาจะเป็นของสำนักไท่กู่เจิ้งทั้งชีวิต!
ที่พักศิษย์อีกแห่ง,เย่ซิงเฉินที่กำลังบ่มเพาะเช่นกัน,เขาที่กล่าวด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน,”ในอดีตเปิ่นตี้ครอบครองแผ่นดินใหญ่ของทวีปซิงหยุน,ทว่าตอนนี้กับต้องอยู่ในสำนักที่ยังก้าวไปไม่ถึงนิกายด้วยซ้ำ.”
เฮ้อ.
ราชันย์รัตติกาลที่คิดถึงความสำเร็จในอดีตจนอดไม่ได้ต้องบ่นพึมพำออกมา.
“ฟู่!”
เขาที่พ่นลมหายใจ,กล่าวเสียงเบา,”วิชาพระสูตรไท่ฉวนลึกล้ำจริง
ๆ,ผ่านมาตั้งนาน,สำเร็จได้เพียงแค่ขั้นเดียว.”
“โชคดีที่มีวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็นมาช่วย,ไม่เช่นนั้นแล้ววิ
ชาบ่มเพาะเดียว,คงยากจะตัดผ่านระดับมาจนถึงเปิดชีพจรขั้นที่เจ็ด.”
สิ่งนี้เป็นเรื่องจริงที่เขาต้องของคุณ,เพราะวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็นนั้นทำให้สามารถเปิดชีพจรมีโอกาสสำเร็จเพิ่มขึ้น
50% ,ไม่เช่นนั้นต้องใช้เวลาอีกยาวนานในการตัดผ่านระดับแต่ละขั้น.
“การบ่มเพาะไม่ใช่แค่เพียงรวมพลังเท่านั้น,แต่ต้องมีการผสานระหว่างการต่อสู้หาประสบการด้วย,พรุ่งนี้คงต้องลงเขาหาสัตว์ร้ายเพื่อเพิ่มประสบการณ์ซะแล้ว.”
......
เช้าวันถัดมา.
อดีตราชันย์รัตติกาลที่มาแจ้งจุนซ่างเซียว,หลังจากที่จุนซ่างเซียวครุ่นคิดชั่วขณะ,ก็เอ่ยกล่าวออกมาไปว่า,”เจ้าไปกับศิษย์พี่เซียว,ดูแลกันและกัน.”
เขา?
ขยะชัด ๆ.
แม้นว่าเย่ซิงเฉินจะต่อต้านไม่ต้องการเป็นอย่างมาก,แต่ก็ต้องทำได้แค่รับคำ,ต้องไม่ลืมว่าตอนนี้เขามีสถานะเป็นแค่ศิษย์ของสำนักไท่กู่เจิ้ง.
ถึงเขาจะเป็นสุดยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่กลับชาตมาเกิด,ทว่าพรสวรรค์ในเวลานี้ก็ไม่ต่างจากขยะเช่นกัน,การออกจากสำนัก,เพื่อหาประสบการณ์อาจจะไม่ง่ายอย่างที่เขาคาดคิดก็ได้.
เซียวจุ้ยจื่อที่สะพายสไนเปอร์รูปแบบ 88 ไปด้วย.
การเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่แค่เพียงการสู้จริง,ทว่าเขาต้องเตรียมล่าเพื่อหาแกนผลึกด้วย,เพื่อที่จะทดแทนค่าใช้จ่ายที่เจ้าสำนักจ่ายไปให้เขาก่อนหน้านี้.
จุนซ่างเซียวที่มอบหมายงานของสำนักทั้งหมดให้หลี่ชิงหยาง,ส่วนตัวเขานั้นต้องเดินทางไปยังเมืองฮูหยาง.
“เจ้าสำนัก!”
หลิวหวานซี่ที่ยืนอยู่ด้านหน้าโรงอาหาร,ตะโกนออกไป,”เจ้าสำนักอย่าลืมซื้อเครื่องปรุงอาหารกลับมาด้วยนะ!”
“ไม่มีปัญหา.”
......
เมื่อจุนซ่างเซียวเดินทางไปยังเมืองฮูหยาง,ก็พบว่าเมืองแห่งนี่ครึกครึ้นกว่าเก่าเป็นอย่างมาก,ตามถนนหนทางมาชาวยุทธ์ที่สะพายอาวุธมากมายเดินไปทั่ว.
“ดูเหมือนว่าตระกูลอ้ายจะยังไม่ประกาศอะไรเลย,บางทีคงจะอีกหนึ่งเดือนเป็นอย่างเร็วที่สุด.”
“ด้วยเม็ดยาที่สามารถฟื้นฟูอาหารบาดเจ็บได้ในทันที,ที่ตระกูลอ้ายหลอมขึ้นมา,การประมูลคราวนี้,คงมีคนไม่น้อยที่กำลังรอคอย.”
“ข้าได้ยินมาว่ามีตระกูลใหญ่หลายตระกูลส่งคนมาด้วย.”
“กับกลุ่มคนที่ร่ำรวยมากมาย,คนยากจนอย่างพวกเรา,คงทำได้แค่ยืนดูเท่านั้น.”
ระหว่างทางมีเสียงของชาวยุทธ์พูดคุยกันเป็นระยะ.
เห็นชัดเจนว่า,พวกเขาที่มารวมตัวกันในเมืองแห่งนี้,ก็เพื่อรอคอยการประมูลเม็ดยาฟื้นฟูของตระกูลอ้ายนั่นเอง.
หลายหลายตระกูลหลากหลายสำนักที่มาชุมนุมกันครั้งนี้,เมื่อการประมูลเริ่มขึ้น,เกรงว่าราคาคงพุ่งสูงขึ้นในทันที.
กล่าวได้ว่าตระกูลอ้ายที่ทำธุรกิจ,หลังจากลงมือโฆษณาอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งแรก,ทำให้ผู้ฝึกยุทธ์ทั่วเขตแดนมนทลชิงหยางสนใจต้องการเป็นอย่างมาก.
ด้วยเรื่องการประมูลเม็ดยา,ทำให้เรื่องต่าง ๆเกี่ยวกับจุนซ่างเซียวไม่มีใครพูดถึงเลย,ทำให้เขาปรากฏตัวขึ้นได้อย่างราบรื่น,ดังนั้นเขาจึงเดินทางไปยังร้านค้าเพื่อซื้อเครื่องปรุงมากมาย,จากนั้นก็เดินทางไปยังร้านยาของตระกูลอ้าย.
ผู้จัดการร้านหม่าในเวลาเดียวกันขณะนับเงินอยู่ในเคาน์เตอร์เห็นจุนซ่างเซียว,เขาที่วางงานทุกอย่าง,ก้าวออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง,เขาที่เผยยิ้มกล่าวออกมาว่า,”เจ้าสำนักจุน,ถึงกับมาเยือนด้วยตัวเอง,ขออภัยที่ไออกมาตอนรับช้า.”
ก่อนการประมูลเม็ดยา,ประมุขตระกูลได้ออกคำสั่ง,หากเจ้าสำนักจุนมาให้ละงานทุกอย่างไปต้อนรับ,หากมาที่ร้าน,ก็ต้องต้อนรับให้สมฐานะแขกผู้ทรงเกียรติด้วย.
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”ประมุขอ้ายล่ะ?
เปิ่นจั้วต้องการมาปรึกษาเกี่ยวกับธุรกิจใหญ่.”
ธุรกิจใหญ่อย่างงั้นรึ?
ผู้จัดการหม่าที่เร่งรีบเชิญ,กล่าวอย่างสุภาพ,”เจ้าสำนักจุน,เชิญที่ห้องรับรองก่อน,ข้าจะไปแจ้งท่านประมุขทันที.”
กล่าวเสร็จเขาที่สั่งการบ่าวรับใช้ให้เสิร์ฟน้ำยา,ก่อนที่จะเร่งรีบเดินทางไปยังตระกูลอ้าย.
จุนซ่างเซียวที่ไม่ได้นั่ง,เขาที่จ้องมองไปยังวัตถุดิบ,สมุนไพรมากมายที่วางอยู่ในตระกล้า,ขณะที่เขากำลังจะยื่นมือออกไปจับ.
“อย่าแตะมัน.”
ในเวลานั้น,ก็มีเสียง ๆ หนึ่งดังขึ้น.
จุนซ่างเซียวที่หันหน้าออกไป,ก็พบที่มุมหนึ่งของร้าน,มีชายชราผมขาวที่ถือกรรไกรกำลังเล็มใบสมุนไพรบนกระถางอยู่.
“ตาแก่บ้า!”คนรับใช้คนหนึ่งที่กล่าวดุ,”นี่คือเจ้าสำนักจุน,สำนักไท่กู่เจิ้ง,เจ้าไม่สามารถล่วงเกินได้!”
บ่าวรับใช้ที่เร่งรีบขอโทษขอโพย,กล่าวด้วยรอยยิ้ม,”เจ้าสำนักจุน,เขาเป็นคนงานทั่วไปที่คอยดูแลสมุนไพรเพิ่งรับเข้ามาไม่กี่วันที่แล้ว,ยังไม่เข้าใจกฎเกณฑ์นัก,อย่าได้ลดตัวไปหาเรื่องกับคนเช่นเขาเลย.”
จุนซ่างเซียวที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย,”ทำไมถึงไม่สามารถแตะได้ล่ะ?”
ชายชราที่ไม่ได้ขยับ,ยังคงเล็มใบสมุนไพรต่อ,และกล่าวออกมาว่า,”สมุนไพรนั้นมีชื่อว่า
หญ้าใบเปื่อย,ใบของมันอ่อนไหวต่อพลังวิญญาณมาก,หากมีใครไปแตะมัน,พลังวิญญาณจะทำให้ใบมันเปื่อย,ผลทางยาของมันจะลดลงเป็นอย่างมาก.
“ชิ.”
บ่าวรับใช้คนดังกล่าวที่มองบน,”หญ้าใบเปื่อย,ข้าย้ายมันทุกวัน,แตะมันไปไม่รู้กี่ครั้ง,ไม่เห็นว่าจะไม่สามารถนำไปปรุงยาได้อย่างที่เจ้าบอก,ตาเฒ่าแก่พูดไร้สาระแล้ว.”
“เฮ้อ.”
ชายชรากล่าว,”ด้วยความประมาทของเจ้า,ทำให้ประสิทธิภพของยาที่ปรุงได้สิบส่วนเหลือเพียงห้าถึงหกส่วนเท่านั้น,น่าเสียดายจริง
ๆ.”
“เอาล่ะ,เอาล่ะ.”
“เจ้ามันผู้เชี่ยวชาญ,รีบทำงานของเจ้าให้เสร็จได้แล้ว.”
บ่าวรับใช้ที่คร้านจะโต้เถียงด้วย,จึงได้หันกลับมาเผยยิ้มกับจุนซ่างเซียว,”เจ้าสำนักจุน,เชิญทางนี้ดีกว่า.”
จุนซ่างเซียวที่ยังคงสนอกสนใจกล่าวออกไปว่า,”อาวุโส,บางทีคงจะเชี่ยวชาญในการปลูกสมุนไพรอย่างงั้นรึ?”
ชายชราที่ลุกขึ้นโค้งคำนับออกมา,”เจ้าสำนักจุนเป็นถึงผู้ปกครองสำนัก,กับเรียกขานว่าอาวุโส,ตาเฒ่าไม่สามารถรับได้.”
“อาวุโสใช้กับผู้เชี่ยวชาญและมีความสามารถ,คนที่น่านับถือย่อมถูกเรียกว่าอาวุโส.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
ใบหน้าของชายชระที่เผยท่าทางประหลาดใจ,ส่ายหน้าไปมา,”ในทวีปซิงหยุนนั้น,คนที่มีความสามารถคือคนฝึกยุทธ์ถึงจะถูกเรียกว่าเป็นจ้าวได้,ใช้อาวุโสกับคนที่น่านับถือที่ไร้พลัง,ตาเฒ่าเพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก.”
จุนซ่างเซียวต้องการที่จะพูดคุยต่อไป,หากแต่อ้ายซางหนีที่เร่งรีบมาถึงร้านแล้ว,จากนั้นเขาที่เผยยิ้มยกมือประสานกล่าวออกมาว่า,”เจ้าสำนักจุน,ลมอะไรหอบมาอย่างงั้นรึ?”
ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times
#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น