วันจันทร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2564

Strongest Sect of All Times Chapter 108 Strange insane old man

Strongest Sect of All Times  Chapter 108 Strange insane old man

 นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล

Chapter 108 Strange insane old man

奇怪的疯老头

 

 

แม้นว่าเซียวจุ้ยจื่อจะเปิดชีพจรแล้ว,ทว่าจุนซ่างเซียวก็ยังคงสงสัย,นั่นก็เพราะเกี่ยวกับพิษที่เขาได้รับ,จนทำให้พลังบ่มเพาะถดถอย,จนไม่แม้แต่รวมพลังวิญญาณได้?

 

ระบบกล่าว,”จากก๊าซพิษที่พ่นออกมา,สามารถยืนยันได้ว่าทั้งหมดเป็นเพราะพิษ.”

 

จุนซ่างเซียวที่สีคางไปมา,”พิษที่ทำให้พลังบ่มเพาะถดถอด,ไม่ธรรมดาเลย,ถึงกับทำให้รากวิญญาณระดับสุดยอดถดถอยกลายเป็นระดับต่ำได้เลยรึ?”

 

“ภายในร่างกายของเขามีพิษที่สะกดรากวิญญาณไม่ให้บ่มเพาะได้,ตอนนี้ได้ลดทอนและจัดการไประดับหนึ่ง,หากต้องการฟื้นฟูให้หาย,ก็มีแต่ต้องเปิดชีพจรไปเรื่อย ๆ.”

เขาที่ยังคงลูกคางครุ่นคิด,”หยวนฟาง(L) ,เจ้ามีความเห็นอย่างไร?”

ระบบ “......”

จุนซ่างเซียวเอ่ย,”ข้าถามเจ้า,ไม่ตอบ.”

ระบบที่ตระหนักได้,แท้จริงหยวนฟางนี้หมายถึงตัวเองรึ? ดังนั้นจึงได้ตอบไปว่า,”ในทวีปชิงหยุนนั้นมีความลึกลับมากมาย,บางที่ยาพิษนั้นคงมีความสามารถสะกดพลังบ่มเพาะและรากวิญญาณได้.”

“หากรักษายาพิษทั้งหมดได้,ก็จะสามารถฟื้นคืนรากวิญญาณและพลังบ่มเพาะอย่างงั้นรึ?”จุนซ่างเซียวกล่าว.

ระบบกล่าว,”บางทีภายในร่างกายของเขา,ไม่ได้มีเพียงแค่ยาพิษ,กับน้ำยาของโฮสน์ที่มอบให้,พิษที่ระงับพลังบ่มเพาะ,และยับยั้งรากวิญญาณ คลายออกมาเล็กน้อยเท่านั้น.”

“ก็บางทีละนะ......”

จุนซ่างเซียวที่เงียบไปชั่วขณะ.

หากเรื่องนี้เป็นแผนการ,คนที่อยู่เบื้องหลังช่างอมหิตมาก,เป็นใครกันที่ต้องการทำลายพรสวรรค์ของเซียวจุ้ยจื่อ?

“อาวุโสใหญ่ตระกูลเซียว?”

 

จุนซ่างเซียวที่ครุ่นคิด,ในงานประลองยุทธ์สำนักนั้น,อาวุโสใหญ่มีความปรารถนาที่ต้องการสังหารเซียวจุ้ยจื่อให้ได้.

 

“แล้วกลุ่มมือสังหารที่พบด้านนอกเมืองหลี่หยางล่ะ,ใครส่งมา?”

 

เขาที่บีบกะหมับ,กล่าวออกมาว่า,”มารดาเถอะ,ดูเหมือนว่าสมองของข้าจะไม่เพียงพอ,หยวนเฟิง,มีสินค้าอะไรที่ช่วยพัฒนาสมองหรือไม่?”

 

ระบบตอบ,”ไม่.”

......

หลังจากที่เซียวจุ้ยจื่อเปิดชีพจรสำเร็จ,เขาก็หยุดฝึกฝนยิงปืนชั่วคราว,ตอนนี้เขาที่โคจรวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็น,รวบรวมพลังวิญญาณอย่างบ้าคลั่ง.

แม้นว่าเขาจะมีรากวิญญาณสามัญ,หากแต่ในอดีตเขาเคยมีรากวิญญาณระดับสุดยอด,ย่อมมีประสบการณ์ที่ไม่ธรรมดา,การรวบรวมพลังวิญญาณย่อมเหนือกว่าคนในระดับเดียวกัน.

พลังวิญญาณที่ผสานเข้ามาภายในร่างกาย,แพร่กระจายไปทั่วเส้นชีพจร,เซียวจุ้ยจื่อกำลังฟื้นฟูพลังบ่มเพาะของเขาที่เคยมีในอดีตกลับมา.

แน่นอน.

เขารู้ดี,ทุกอย่างนั้นเป็นเจ้าสำนักมอบให้.

ชีวิตของเขาจะเป็นของสำนักไท่กู่เจิ้งทั้งชีวิต!

 

ที่พักศิษย์อีกแห่ง,เย่ซิงเฉินที่กำลังบ่มเพาะเช่นกัน,เขาที่กล่าวด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน,”ในอดีตเปิ่นตี้ครอบครองแผ่นดินใหญ่ของทวีปซิงหยุน,ทว่าตอนนี้กับต้องอยู่ในสำนักที่ยังก้าวไปไม่ถึงนิกายด้วยซ้ำ.”

เฮ้อ.

ราชันย์รัตติกาลที่คิดถึงความสำเร็จในอดีตจนอดไม่ได้ต้องบ่นพึมพำออกมา.

“ฟู่!

เขาที่พ่นลมหายใจ,กล่าวเสียงเบา,”วิชาพระสูตรไท่ฉวนลึกล้ำจริง ๆ,ผ่านมาตั้งนาน,สำเร็จได้เพียงแค่ขั้นเดียว.”

“โชคดีที่มีวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็นมาช่วย,ไม่เช่นนั้นแล้ววิ ชาบ่มเพาะเดียว,คงยากจะตัดผ่านระดับมาจนถึงเปิดชีพจรขั้นที่เจ็ด.”

สิ่งนี้เป็นเรื่องจริงที่เขาต้องของคุณ,เพราะวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็นนั้นทำให้สามารถเปิดชีพจรมีโอกาสสำเร็จเพิ่มขึ้น 50% ,ไม่เช่นนั้นต้องใช้เวลาอีกยาวนานในการตัดผ่านระดับแต่ละขั้น.

“การบ่มเพาะไม่ใช่แค่เพียงรวมพลังเท่านั้น,แต่ต้องมีการผสานระหว่างการต่อสู้หาประสบการด้วย,พรุ่งนี้คงต้องลงเขาหาสัตว์ร้ายเพื่อเพิ่มประสบการณ์ซะแล้ว.”

......

เช้าวันถัดมา.

อดีตราชันย์รัตติกาลที่มาแจ้งจุนซ่างเซียว,หลังจากที่จุนซ่างเซียวครุ่นคิดชั่วขณะ,ก็เอ่ยกล่าวออกมาไปว่า,”เจ้าไปกับศิษย์พี่เซียว,ดูแลกันและกัน.”

เขา?

ขยะชัด ๆ.

แม้นว่าเย่ซิงเฉินจะต่อต้านไม่ต้องการเป็นอย่างมาก,แต่ก็ต้องทำได้แค่รับคำ,ต้องไม่ลืมว่าตอนนี้เขามีสถานะเป็นแค่ศิษย์ของสำนักไท่กู่เจิ้ง.

ถึงเขาจะเป็นสุดยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่กลับชาตมาเกิด,ทว่าพรสวรรค์ในเวลานี้ก็ไม่ต่างจากขยะเช่นกัน,การออกจากสำนัก,เพื่อหาประสบการณ์อาจจะไม่ง่ายอย่างที่เขาคาดคิดก็ได้.

เซียวจุ้ยจื่อที่สะพายสไนเปอร์รูปแบบ 88 ไปด้วย.

การเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่แค่เพียงการสู้จริง,ทว่าเขาต้องเตรียมล่าเพื่อหาแกนผลึกด้วย,เพื่อที่จะทดแทนค่าใช้จ่ายที่เจ้าสำนักจ่ายไปให้เขาก่อนหน้านี้.

 

จุนซ่างเซียวที่มอบหมายงานของสำนักทั้งหมดให้หลี่ชิงหยาง,ส่วนตัวเขานั้นต้องเดินทางไปยังเมืองฮูหยาง.

“เจ้าสำนัก!

หลิวหวานซี่ที่ยืนอยู่ด้านหน้าโรงอาหาร,ตะโกนออกไป,”เจ้าสำนักอย่าลืมซื้อเครื่องปรุงอาหารกลับมาด้วยนะ!

“ไม่มีปัญหา.”

......

เมื่อจุนซ่างเซียวเดินทางไปยังเมืองฮูหยาง,ก็พบว่าเมืองแห่งนี่ครึกครึ้นกว่าเก่าเป็นอย่างมาก,ตามถนนหนทางมาชาวยุทธ์ที่สะพายอาวุธมากมายเดินไปทั่ว.

“ดูเหมือนว่าตระกูลอ้ายจะยังไม่ประกาศอะไรเลย,บางทีคงจะอีกหนึ่งเดือนเป็นอย่างเร็วที่สุด.”

“ด้วยเม็ดยาที่สามารถฟื้นฟูอาหารบาดเจ็บได้ในทันที,ที่ตระกูลอ้ายหลอมขึ้นมา,การประมูลคราวนี้,คงมีคนไม่น้อยที่กำลังรอคอย.”

“ข้าได้ยินมาว่ามีตระกูลใหญ่หลายตระกูลส่งคนมาด้วย.”

“กับกลุ่มคนที่ร่ำรวยมากมาย,คนยากจนอย่างพวกเรา,คงทำได้แค่ยืนดูเท่านั้น.”

ระหว่างทางมีเสียงของชาวยุทธ์พูดคุยกันเป็นระยะ.

เห็นชัดเจนว่า,พวกเขาที่มารวมตัวกันในเมืองแห่งนี้,ก็เพื่อรอคอยการประมูลเม็ดยาฟื้นฟูของตระกูลอ้ายนั่นเอง.

หลายหลายตระกูลหลากหลายสำนักที่มาชุมนุมกันครั้งนี้,เมื่อการประมูลเริ่มขึ้น,เกรงว่าราคาคงพุ่งสูงขึ้นในทันที.

กล่าวได้ว่าตระกูลอ้ายที่ทำธุรกิจ,หลังจากลงมือโฆษณาอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งแรก,ทำให้ผู้ฝึกยุทธ์ทั่วเขตแดนมนทลชิงหยางสนใจต้องการเป็นอย่างมาก.

ด้วยเรื่องการประมูลเม็ดยา,ทำให้เรื่องต่าง ๆเกี่ยวกับจุนซ่างเซียวไม่มีใครพูดถึงเลย,ทำให้เขาปรากฏตัวขึ้นได้อย่างราบรื่น,ดังนั้นเขาจึงเดินทางไปยังร้านค้าเพื่อซื้อเครื่องปรุงมากมาย,จากนั้นก็เดินทางไปยังร้านยาของตระกูลอ้าย.

ผู้จัดการร้านหม่าในเวลาเดียวกันขณะนับเงินอยู่ในเคาน์เตอร์เห็นจุนซ่างเซียว,เขาที่วางงานทุกอย่าง,ก้าวออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง,เขาที่เผยยิ้มกล่าวออกมาว่า,”เจ้าสำนักจุน,ถึงกับมาเยือนด้วยตัวเอง,ขออภัยที่ไออกมาตอนรับช้า.”

ก่อนการประมูลเม็ดยา,ประมุขตระกูลได้ออกคำสั่ง,หากเจ้าสำนักจุนมาให้ละงานทุกอย่างไปต้อนรับ,หากมาที่ร้าน,ก็ต้องต้อนรับให้สมฐานะแขกผู้ทรงเกียรติด้วย.

จุนซ่างเซียวเอ่ย,”ประมุขอ้ายล่ะ? เปิ่นจั้วต้องการมาปรึกษาเกี่ยวกับธุรกิจใหญ่.”

ธุรกิจใหญ่อย่างงั้นรึ?

ผู้จัดการหม่าที่เร่งรีบเชิญ,กล่าวอย่างสุภาพ,”เจ้าสำนักจุน,เชิญที่ห้องรับรองก่อน,ข้าจะไปแจ้งท่านประมุขทันที.”

กล่าวเสร็จเขาที่สั่งการบ่าวรับใช้ให้เสิร์ฟน้ำยา,ก่อนที่จะเร่งรีบเดินทางไปยังตระกูลอ้าย.

 

จุนซ่างเซียวที่ไม่ได้นั่ง,เขาที่จ้องมองไปยังวัตถุดิบ,สมุนไพรมากมายที่วางอยู่ในตระกล้า,ขณะที่เขากำลังจะยื่นมือออกไปจับ.

“อย่าแตะมัน.”

ในเวลานั้น,ก็มีเสียง ๆ หนึ่งดังขึ้น.

จุนซ่างเซียวที่หันหน้าออกไป,ก็พบที่มุมหนึ่งของร้าน,มีชายชราผมขาวที่ถือกรรไกรกำลังเล็มใบสมุนไพรบนกระถางอยู่.

“ตาแก่บ้า!”คนรับใช้คนหนึ่งที่กล่าวดุ,”นี่คือเจ้าสำนักจุน,สำนักไท่กู่เจิ้ง,เจ้าไม่สามารถล่วงเกินได้!

บ่าวรับใช้ที่เร่งรีบขอโทษขอโพย,กล่าวด้วยรอยยิ้ม,”เจ้าสำนักจุน,เขาเป็นคนงานทั่วไปที่คอยดูแลสมุนไพรเพิ่งรับเข้ามาไม่กี่วันที่แล้ว,ยังไม่เข้าใจกฎเกณฑ์นัก,อย่าได้ลดตัวไปหาเรื่องกับคนเช่นเขาเลย.”

จุนซ่างเซียวที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย,”ทำไมถึงไม่สามารถแตะได้ล่ะ?”

ชายชราที่ไม่ได้ขยับ,ยังคงเล็มใบสมุนไพรต่อ,และกล่าวออกมาว่า,”สมุนไพรนั้นมีชื่อว่า หญ้าใบเปื่อย,ใบของมันอ่อนไหวต่อพลังวิญญาณมาก,หากมีใครไปแตะมัน,พลังวิญญาณจะทำให้ใบมันเปื่อย,ผลทางยาของมันจะลดลงเป็นอย่างมาก.

“ชิ.”

บ่าวรับใช้คนดังกล่าวที่มองบน,”หญ้าใบเปื่อย,ข้าย้ายมันทุกวัน,แตะมันไปไม่รู้กี่ครั้ง,ไม่เห็นว่าจะไม่สามารถนำไปปรุงยาได้อย่างที่เจ้าบอก,ตาเฒ่าแก่พูดไร้สาระแล้ว.”

“เฮ้อ.”

ชายชรากล่าว,”ด้วยความประมาทของเจ้า,ทำให้ประสิทธิภพของยาที่ปรุงได้สิบส่วนเหลือเพียงห้าถึงหกส่วนเท่านั้น,น่าเสียดายจริง ๆ.”

“เอาล่ะ,เอาล่ะ.”

“เจ้ามันผู้เชี่ยวชาญ,รีบทำงานของเจ้าให้เสร็จได้แล้ว.”

บ่าวรับใช้ที่คร้านจะโต้เถียงด้วย,จึงได้หันกลับมาเผยยิ้มกับจุนซ่างเซียว,”เจ้าสำนักจุน,เชิญทางนี้ดีกว่า.”

จุนซ่างเซียวที่ยังคงสนอกสนใจกล่าวออกไปว่า,”อาวุโส,บางทีคงจะเชี่ยวชาญในการปลูกสมุนไพรอย่างงั้นรึ?”

ชายชราที่ลุกขึ้นโค้งคำนับออกมา,”เจ้าสำนักจุนเป็นถึงผู้ปกครองสำนัก,กับเรียกขานว่าอาวุโส,ตาเฒ่าไม่สามารถรับได้.”

“อาวุโสใช้กับผู้เชี่ยวชาญและมีความสามารถ,คนที่น่านับถือย่อมถูกเรียกว่าอาวุโส.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

 

ใบหน้าของชายชระที่เผยท่าทางประหลาดใจ,ส่ายหน้าไปมา,”ในทวีปซิงหยุนนั้น,คนที่มีความสามารถคือคนฝึกยุทธ์ถึงจะถูกเรียกว่าเป็นจ้าวได้,ใช้อาวุโสกับคนที่น่านับถือที่ไร้พลัง,ตาเฒ่าเพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก.”

 

จุนซ่างเซียวต้องการที่จะพูดคุยต่อไป,หากแต่อ้ายซางหนีที่เร่งรีบมาถึงร้านแล้ว,จากนั้นเขาที่เผยยิ้มยกมือประสานกล่าวออกมาว่า,”เจ้าสำนักจุน,ลมอะไรหอบมาอย่างงั้นรึ?”


ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times

#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
Author(s)
Goodbye Jianghu


เข้ากลุ่มลับ VIP ====> Click


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น