Strongest Sect of All Times Chapter 104 Held the hornet's nest
นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล
Chapter 104 Held the hornet's nest
捅了马蜂窝
เงื่อนไขสำนักระดับแปด,คือห้าศิษย์ยุทธ์และห้าเปิดชีพจรขั้นที่สิบสอง.
ศิษย์ที่จุนซ่างเซียวนำมา,ยกเว้นเซียวจุ้ยจื่อที่ไม่มีพลังบ่มเพาะ,คนอื่น
ๆต่างก็มีพลังเกินมาตรฐาน,ดังนั้นการอนุญาตจึงเป็นไปอย่างราบรื่น.
“เจ้าสำนักจุน.”
บนเคาน์เตอร์,ผู้ดูแลเจาที่นำป้ายตราที่มีอักขระว่า
“แปด”
ออกมา,พร้อมกับกล่าวด้วยรอยยิ้ม,”ยินดีกับสำนักไท่กู่เจิ้งที่ยกระดับไปยังสำนักขั้นที่แปด.”
ในเวลานี้ถึงไม่มีอาวุโสเขาซางชาน,ด้วยความแข็งแกร่งของคนกลุ่มนี้,ก็ทำให้เขาหวั่นเกรง,ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งเกรงว่าในอนาคตจะมีพลังไร้ขีดจำกัด.
“ติ๊ง!
ยินดีกับโฮสน์ที่ยกระดับสำนักไปยังขั้นที่แปด,ได้รับคะแนนความสำเร็จ
100,และคะแนนสนับสนุน 200 แต้ม.”
“ติ้ง! คะแนนความสำเร็จสำนัก
: 100 / 500.”
“ติ๊ง! คะแนนสนับสนุนสำนัก:
355 / 500.”
เฮ้ย!
ยกระดับสำนัก,นี่ได้แต้มความสำเร็จและแต้มสนับสนุนด้วย,อ๊ากๆ!
จุนซ่างเซียวที่ทั้งตื่นตะลึงและดีใจไปพร้อม ๆ กัน.
เป็นความจริงคราแรกการทดสอบยกระดับสำนัก,เขาปฏิเสธที่จะทำด้วยซ้ำ,ตอนนี้ได้รับทั้งคะแนนความสำเร็จและคะแนนสนับสนุน,ทำให้เขารู้สึกสุดยอด,เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมยิ่งนัก.
ระบบกล่าว,”ระดับสำนักสูงขึ้น,คะแนนที่ได้รับก็จะสูงขึ้น.”
ดวงตาของจุนซ่างเซียวที่ลุกโชนด้วยเปลวเพลิงที่ร้อนแรง,กล่าวออกมาว่า,”ผู้ดูแลเจา,การยกระดับสำนักขั้นแปดไปยังขั้นเจ็ด,มีเงื่อนไขอะไรอย่างงั้นรึ?”
ผู้ดูแลเจาที่เร่งรีบตอบ,”เจ้าสำนักจำเป็นต้องก้าวไปถึงระดับอาจารย์ยุทธ์,ศิษย์อย่างน้อยก็ต้องมีระดับศิษย์ยุทธ์
50 คน,เปิดชีพจรขั้นที่สิบสอง 500 คน.”
“มากขนาดนั้นเลยรึ?”จุนซ่างเซียวที่ขมวดคิ้วแน่น.
เขาจะต้องเพิ่มจำนวนรับศิษย์ที่ตอนนี้มีขีดจำกัด
500
คน,ดูเหมือนว่าการจะยกระดับไปยังสำนักขั้นที่เจ็ด,ไม่ใช่แค่ต้องยกระดับพลังบ่มเพาะของศิษย์แล้ว,ทว่ายังต้องยกระดับสิ่งก่อสร้างสำนักให้ไปยังเลเวล
3 ด้วย.
......
บนคอนโซนระบบ,ระดับเก้า,เปลี่ยนเป็น,ระดับแปดแล้ว,และคะแนนความสำเร็จสำนัก
100 แต้ม,นอกจากนี้ยังได้คะแนนสนับสนุนถึง 200
แต้ม,จุนซ่างเซียวที่ก้าวออกจากศาลารับรองอย่างมีความสุข.
“ตราสำนักระดับแปด!”
“โอ้วสวรรค์,สำนักไท่กู่เจิ้งยกระดับได้อย่างคาดไม่ถึง!”
“เหลือเชื่อ,เหลือเชื่อเกินไปแล้ว!”
เหล่าคนจรที่มองเห็นป้ายสำนักระดับแปด บนเอวของจุนซ่างเซียว,แววตาที่เผยความตื่นตะลึงไปตาม
ๆ กัน.
สองเดือนที่แล้ว,สำนักไท่กู่เจิ้งในสายตาของทุกคน,ยังเป็นแค่สำนักขยะ,เจ้าสำนักรุ่นแรกที่ถูกกุดหัวเพราะแหกห้องขังจากโทษไปเที่ยวหอนางโลม,กลายเป็นที่หัวเราะเยาะของทุกคน.
สิบวันหลังจากนั้น,ภายใต้การนำของเจ้าสำนักรุ่นสอง,ไม่เพียงแต่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว,ยังสามารถยกระดับสำนักไปยังสำนักระดับเก้าได้อีก,สิ่งที่พวกเขาเห็นเวลานี้,ไม่ต่างจากพวกเขากำลังฝันไป.
“เจ้าสำนักจุน.”อาวุโสเขาซางซานที่ยกมือประสายกล่าวออกมาว่า,”หม่าโหมวมีเรื่องที่ต้องจัดการ,หลังจากนี้หากมีเวลา,ขอเชิญมาเยือมเยือนนิกายเขาซางซานด้วย.”
น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความยินดี,เหล่าชาวยุทธ์รอบ
ๆที่เผยแววตาอิจฉา,ต้องไม่ลืมว่าจะมีสักกี่คนที่อาวุโสนิกายระดับห้าจะปฏิบัติด้วยความนับถือเช่นนี้.
จุนซ่างเซียวที่ยกมือขึ้นประสาน,”วันหน้า,ข้าต้องไปเยือนนิกายเขาซางซานอย่างแน่นอน.”
“ขอลา!”
“โชคดี!”
อาวุโสหม่าที่ก้าวออกมา,ระหว่างทางที่ลอบคิดในใจ,”ก่อนหน้านี้ยังเป็นกลุ่มคนที่แสนธรรมดาอยู่แท้
ๆ,เด็กเหล่านี้ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ.”
“หากพบกันอีกครั้ง.”
“เกรงว่าสำนักไท่กู่เจิ้ง,คงจะแข็งแกร่งยิ่งกว่านี้แน่.”
ศิษย์กลุ่มนี้มีความแข็งแกร่งที่น่าเกรงขาม,อาวุโสหม่าไม่สามารถประเมินพวกเขาได้ต่ำเลย.
......
หลังจากทดสอบยกระดับสำนัก,จุนซ่างเซียวก็พาศิษย์ไปยังโซนขายสินค้า,เพื่อซื้อแกนผลึก,เขาที่คัดเลือกซื้อแกนผลึกวิญญาณที่มีคุณภาพสูง.
เขาต้องพิจารณาแกนผนึก,ยิ่งผลึกมีระดับสูง,แรงดีดก็ยิ่งแรงมากเช่นกัน,ดังนั้นเขาจึงได้คำนวนว่าควรจะใช้แกนผลึกสัตวร้ายระดับต่ำขั้นสี่และห้าก็พอ.
หลังจากตัดสินใจแล้ว.
จุนซ่างเซียวที่เลือกสองแกนผลึกราชาหมาป่าเพลิงปฐพีที่เป็นสัตว์ร้ายระดับต่ำขั้นเจ็ด,และห้าสิบแกนผลึกสัตว์ร้ายระดับต่ำขั้นห้า
50 ชิ้น.
เถ้าแก่เจ้าของร้ายที่เผยยิ้ม,”เจ้าสำนักจุน,ผลึกสัตว์ร้ายระดับต่ำขั้นที่เจ็ดสองชิ้น
ราคา 22,000,ส่วน 50 แกนผลึกสัตว์ร้ายระดับต่ำขั้นห้า,ราคา 150,000
เงิน,ทั้งหมดเป็นเงิน 170,000.”
“มารดาเถอะ,แพงขนาดนี้เลยรึ?”
ศิษย์ของเขาที่ดวงตาเบิกกว้าง,อ้าปากค้าง,นี่พวกเขาไม่ได้ฝันอยู่ใช่ใหม!
จุนซ่างเซียวที่นำตั๋วเงิน 170,000
เงินออกมาวางบนเคาน์เตอ,”ซื้อ.”
ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งที่เห็นเงินมากมายขนาดนั้น,ดวงตาแทบหลุดออกจากเบา,ลอบคิดอยู่ในใจ,”นี่เจ้าสำนักของพวกเรา,ร่ำรวยจริง
ๆ!”
......
หลังจากนั้นจุนซ่างเซียวก็แวะตลาดสมุนไพร,ซึ่งทำให้เขาได้วัตถุดิบทำยาฟื้นฟูอีกเล็กน้อย,ก่อนที่จะนำศิษย์กลับสำนัก.
ระหว่างทางนั้น,เขาที่ทำการนำกระสุนของ ราชาหมาป่าเพลิงปฐพีออกมา,ก่อนที่จะโหลดแกนผลึกของสัตว์ร้ายระดับต่ำขั้นห้าลงไปแทน.
ระหว่างทาง,จุนซ่างเซียวที่ชี้ไปยังรังผึ้งที่แขวนไว้บนต้นไม้,กล่าวออกมาว่า,”จุ้ยจื่อ,ยิงไปยังตรงนั้น.”
“ครับ.”
เซียวจุ้ยจื่อที่จ้องมองไปยังจุดดังกล่าว,ก่อนที่จะนอนราบตั้งเท้าให้มั่น,เล็งไปยังเป้าหมาย,ในเวลานั้นหลี่ชิงหยางและคนอื่น
ๆที่ออกมายืนอยู่ห่างกว่าสิบเมตร.
เจ้าสำนักจุนเองก็ถอยห่างออกมาเช่นกัน,ลอบคิดอยู่ในใจ,”แกนผลึกสัตว์ร้ายระดับต่ำขั้นห้าใช้แทนสัตว์ร้ายระดับต่ำขั้นเจ็ด,แรงดีดควรจะลดลงมาก.”
“ปัง-“
ขณะที่ครุ่นคิด,เซียวจุ้ยจื่อก็ลั่นไก,ลำแสงที่พวกพุ่งออกจากปากกระบอกปืน,พุ่งไปด้วยความแม่นยำสอยรังผึ้งล่วงหล่นลงในทันที.
ทั้งเสียงและความเร็ว,เห็นได้ชัดเจนว่าด้อยกว่าลูกปืนที่ควบแน่นจากแกนระดับต่ำขั้นเจ็ดมาก.
แน่นอน.
ยิ่งแกนผลึกระดับสูงเท่าไหร่,พลังลูกกระสุนก็ยิ่งแข็งแกร่งนั่นเอง.
แม้นว่าแรงดีดจะไม่มาก,แต่ก็กระแทกเซียวจุ้ยจื่อครูดกับพื้นลากออกมาครึ่งเมตรทีเดียว,ไหล่ของเขาที่สั่นไปมาเล็กน้อย.
ลู่เชียนเชียนเอ่ยออกมาอย่างนุ่มนวล,”พลังโจมตี,ถึงแม้นว่าระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่เจ็ดหรือแปดใช้พลังวิญญาณเต็มกำลัง,ก็ไม่สามารถต้านทานได้.”
“จริงรึ?”
จุนซ่างเซียวที่เผยยิ้มอย่างพึงพอใจ,”ไม่เลว,ไม่เลว.”
เซียวจุ้ยจื่อยืนขึ้น,ปัดไหล่ของตัวเอง,เผยยิ้มออกมา,”เจ้าสำนัก,ศิษย์เริ่มปรับตัวได้บ้างแล้ว,ต่อไปไม่น่ามีปัญหา.
ในเวลานั้น,รอยยิ้มของทุกคนที่แข็งค้างไปในทันที.
เกิดปัญหาอะไรขึ้นนะรึ?
จุนซ่างเซียวและศิษย์จ้องมองเป็นสายตาเดียวกัน,รังผึ้งที่ล่วงหล่นลงพื้นนั้น,เวลานี้ฝูงผึ้งที่กำลังแตกรังออกมาเป็นจำนวนมาก,ร่างกายของมันที่ส่องประกายแสงสีแดงออกมา,ส่งเสียงหวึ่ง
ๆ ก้องไปทั่วป่า.
“ไม่ได้การแล้ว!”
หลี่ชิงหยางที่อุทานออกมาด้วยความตกใจ,”ผึ้งพิษ!”
ผึ้งพิษ.
นี่คือสัตว์ร้ายระดับต่ำ,แม้นว่ามันจะเป็นสัตว์ร้ายระดับต่ำ,แต่การโจมตีเป็นฝูงก็เป็นพลังที่ร้ายกาจมาก.
ไม่ต้องบอกเลยว่าระดับศิษย์ยุทธ์ถึงจะเป็นระดับอาจารย์ยุทธ์ก็ไม่กล้ายุแหย่มัน.
หลี่ชิงหยางที่กำลังอ้าปาก,เจ้าสำนักจุนกับวิ่งพุ่งนำหน้าตะโกนออกไปเสียงดัง,”ยืนโง่อยู่ทำไม,วิ่งซิ!”
“ฟิ้ว! ฟิ้ว!”
เหล่าศิษย์ที่เร่งรีบวิ่งหนีกันอย่างบ้าคลั่ง.
“วึ่ง วึ่ง!”
ผึ้งพิษฝูงใหญ่ที่พุ่งมาด้วยความเร็ว.
เหล็กในที่ส่องประกาย,แววตาของมันที่เต็มไปด้วยความโกรธ.
“อ๊าก!!”
เถียนซีที่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด,”ก้นข้า!”
“อ๊าก!”
หลี่เฟยที่ถูกผึ้งพิษต่อยเอากว่าสิบจุดร้องลั่น,แม้นว่าจะปล่อยพลังวิญญาณเพื่อป้องกันแล้ว,แต่ก็ยังได้รับความเจ็บปวดไม่น้อย.
ซูเซียวโม่ที่เหมือนว่าจะวิ่งเร็วที่สุด.
แต่กระนั้นก็ยังถูกผึ้งพิษตำเอาที่ก้นอย่างคาดไม่ถึง,เสียงเจ็บปวดทรมานที่ส่งเสียงระงม.
......
พลบค่ำ.
ทุกคนก็กลับมาถึงสำนัก,ยกเว้นลู่เชียนเชียน,ศิษย์คนอื่น
ๆต่างก็ถูกผึ้งพิษต่อย,น้อยมากแตกต่างกัน.
โดยเฉพาะเซียวจุ้ยจื่อที่ไร้พลังวิญญาณคุ้มกาย,ร่างกายของเขาเวลานี้บวมไปหมด.
จุนซ่างเซียวที่ถูกต่อยด้วยเช่นกัน,ที่ใบหน้าของเขาที่บวมแทบมองไม่เห็นดวงตา.
“เจ้าสำนัก....”หลี่ชิงหยางที่กุมก้นของตัวเองเอาไว้,ไม่แม้แต่สามารถนั่งได้,”ครั้งหน้า.....คงจะไม่ให้ศิษย์น้องเซียวยิงรังผึ้งอีกแล้วใช่ใหม.”
ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times
#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น