Strongest Sect of All Times Chapter 101 Natural sniper
นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล Chapter 101 Natural sniper
天生的狙击手
สไนเปอร์ไรเฟิลมีแรงถีบที่รุนแรงมาก,เซียวจุ้ยจื่อที่ยิงออกไป,ถึงแม้ว่าจะใช้เท้ายันพื้นไหล่ซ้อนท้ายปืนเอาไว้,แต่ก็ลอยกระเด็นออกไปหลายสิบเมตร,ร่างกายถึงกับจมไปในต้นไม้ใหญ่ทีเลยทีเดียว.
อย่างไรก็ตาม,มีสองเรื่องที่ทำให้จุนซ่างเซียวประหลาดใจ,เรื่องแรก,เจ้าหนูนี้ยิงได้แม่นมาก,เรื่องที่สอง,พักชั่วขณะ,ก็สามารถลุกขึ้นยืนได้แล้ว.
พลังบ่มเพาะของข้ามากกว่า,ทว่าร่างกายของเขากับร้าวไปทั่วร่างต้องพักถึงคืนหนึ่งถึงจะหาย!
ระบบอธิบาย,”นั่นก็เพราะว่าโฮสน์ยิงสามลูกพร้อมกัน,ทำให้แรงสะท้อนมากกว่า,ส่วนเขานั้นยิงแค่ลูกเดียว.”
“เป็นเช่นนี้นะเอง.”จุนซ่างเซียวที่ตระหนักได้ในทันที.
ไม่ต้องเอ่ยถึงว่าเขายิงได้แม่นเท่าไหร่,ขอเพียงเขามีกายเนื้อที่ทรงพลัง,สามารถต้านทานแรงดีดได้,ก็เพียงพอที่จะนำมาฝึกฝนการใช้สไนเปอร์แล้ว.
“จุ้ยจื่อ.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”สไนเปอร์ไรเฟิลเป็นของเจ้าแล้ว,ดูแลมันให้ดี.”
“ครับ!”เซียวจุ้ยจื่อที่ถือปืนขึ้นมา,แม้นวาเขาจะจำแรงดีดของมันได้,ทว่ามันก็ยังดูดึงดูดใจเขา,โดยเฉพาะเห็นก้อนศิลาที่แหลกเป็นผุยผง,มันยิ่งทำให้ดวงตาของเขาร้อนขึ้นมาลุกโชนด้วยเพลิงในการต่อสู้.
เหล่าบุรุษชอบปืน,มันเป็นไปตามสัญชาติญาณ.
ถึงแม้นว่าจะเป็นบุรุษจากต่างโลกก็ไม่มีข้อยกเว้น.
จากนั้น,เซียวจุ้ยจื่อที่ทำการฝึกฝนเล็งเป้าทุกสองชั่วยามในทุก
ๆ วัน,เขาที่นอนอยู่บนป่าหญ้าที่หนา,มีก้อนหินเป็นเป้าหลบซ่อนตัวในป่าได้อย่างกลมกลืน,ดวงตาที่ประจำส่องที่เลนส์,เล็งไปยังพื้นที่ไกลออกไป.
เขาไม่ได้ลั่นไกจริง,เพราะว่าเจ้าสำนักบอกว่าลูกปืนนั้นเหลือเพียงหกลูกเท่านั้น.
สิ่งที่เขาต้องทำคือการปรับตัวให้ทนรับแรงดีดของปืน,เซียวจุ้ยจื่อที่ยืนอยู่บนลานยุทธ์,โดยมีศิษย์พี่ที่ถือหุ่นไม้คอยฟาดเข้า.
“ศิษย์น้อง,พร้อมรึยัง?”
“กึก!”
เซียวจุ้ยจื่อที่ก้าวไปด้านหน้าหนึ่งก้าว,เผยเปลือยท่อนบน,ที่ตำแหน่งไหล่ที่ต้องค้ำท้ายปืนยืนไปด้านหน้า,กล่าวออกมาว่า,”ศิษย์พี่,ลงมือ!”
“ได้!”
ซูเซียวโม่ที่รับคำ,ศิษย์สิบคนที่ถือหุ่นไม้ฟาดออกไปพร้อม
ๆ กัน,ได้ยินเพียงเสียง ,ตูมมมม,กระแทกร่างของเขา.
กล้ามเนื้อที่ถูกกลั่นด้วยเครื่องปั้นกล้ามเนื้อ,ยกระดับไปถึงขีดสุด,ทำให้ร่างกายเขามีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก.
“ฟิ้ว!”
เซียวจุ้ยจื่อที่คลานกลับมา,ก่อนที่จะลุกขึ้นไปยืนตำแหน่งเดิม,กัดฟัน,อดทนต่อความเจ็บเอ่ยกล่าวออกมาว่า,”เอาอีกครั้ง!”
“ตูมมมมม!”
“เอาอีกครั้ง!”
“ตูมมมมม!”
“......อีกครั้ง!”
......
บนบันไดห้องโถง,หลี่ชิงหยางขณะจ้องมองเซียวจุ้ยจื่อที่ล้มลงและยืนขึ้นมาใหม่,กล่าวออกมาว่า,”เจ้าสำนัก,ศิษย์น้องต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้น.”
จุนซ่างเซียวที่ยืนกอดอก,กล่าวออกมาว่า,”ชิงหยาง,ศิษย์น้องของเจ้า,ได้รับชัยชนะเลิศการแข่งขันประลองสำนัก,ถือว่าพิสูจน์ว่าเขาแข็งแกร่งแล้ว,ทว่าเขานั้นต้องการที่จะเหนือยิ่งกว่าคู่หมั้นของตัวเอง.”
หลี่ชิงหยางที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม,”เจ้าสำนัก,เท่าที่ข้ารู้,คู่หมั้นของศิษย์น้องเซียวนั้นมีนามว่า
มู่หรงซิน,เป็นทายาทหลักในสี่ตระกูลใหญ่ของมนทลเทียนไห่.”
มนทล(อำเภอ)เทียนไห่รึ?
จุนซ่างเซียวที่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย,บางทีเพราะประเทศนี้ดูเหมือนว่าจะใหญ่สักเล็กน้อย.
เขากล่าว,”ตระกูลมู่หรงทรงพลังอย่างงั้นรึ?”
หลี่ชิงหยางที่เงียบไปชั่วครู่,กล่าวออกมาว่า,”หากให้คำนวณโดยใช้หลักของสำนัก,ตระกูลมู่หรงของมนทลเทียนไห่นั้น,ไม่ได้ด้อยไปกว่านิกายเขาซางซาน.
จุนซ่างเซียวที่เผยท่าทางประหลาดใจ,”ขนาดนั้นเลยรึ?”
หลี่ชิงหยางกล่าวต่อ,”มู่หรงซินนั้นมีรากวิญญาณระดับสุดยอด,อาวุโส
11 ของนิกายป่ายเหอเซิ่ง(ดอกลิลลี่ศักดิ์สิทธิ์)
นิกายระดับสองรับนางเป็นศิษย์สายตรง.”
จุนซ่างเซียวไม่ได้สนใจเกี่ยวกับรากวิญญาณระดับสุดยอดแต่อย่างใด,แต่สนใจเกี่ยวกับนิกายป่ายเหอเซิ่ง,ชื่อของมันมีความหมายแฝงหรือไม่!
เขาที่กล่าวล้อ,”เป็นนิกายเลสเบี้ยนอย่างงั้นรึ?”
“นิกายเลสเบี้ยน?”
หลี่ชิงหยางที่เกาศีรษะ,และกล่าวออกมาว่า,”ศิษย์ไม่เคยได้ยิน.”
จุนซ่างเซียวที่ทำการเปลี่ยนหัวข้อเรื่องทันที,”เป็นตระกูลที่เทียบเท่านิกายระดับห้า,และยังเป็นศิษย์สายตรงของนิกายระดับสองอีก,มู่หรงซินคนนี้ไม่ธรรมดาเลย.”
”...”
เขาสีคางไปมา,กล่าวออกไปว่า,”ในเมื่อโดดเด่นถึงเพียงนี้,แล้วมาหมั้นหมายกับจุ้ยจื่อได้อย่างไร?”
“ได้ยินมาว่าหมั้นหมายมาตั้งแต่พวกเขาเกิด.”หลี่ชิงหยางกล่าวตอบ.
จุนซ่างเซียวกล่าว,”ไม่น่าแปลกใจ.”
เขาจ้องมองไปยังเซียวจุ้ยจื่อ,กล่าวออกมาเสียงเบา,”ศิษย์ของข้า,ต้องการเหนือกว่าสตรีที่ทิ้งเขา,เกรงว่าเป็นเรื่องยากมาก
ๆ.”
คงยากมาก,หากเขาไม่ลงไปช่วย.
เขาต้องการที่จะช่วยศิษย์ของตัวเองแข็งแกร่งขึ้น.
มู่หลงซินตระกูลมู่หลง,รอก่อน,สักวัน,เปิ่นจั้วจะทำให้เจ้าเข้าใจ,การที่เจ้ายกเลิกการหมั้นหมายเป็นเรื่องที่โง่งมขนาดใหน.
......
เหล่าช่างฝีมือที่สร้างสิ่งก่อสร้างในลานสวนด้านในอย่างรวดเร็ว,เหล่าศิษย์เองก็ฝึกฝนอย่างไม่หยุดหย่อน.
กับความเงียบสงบเช่นนี้ก็ผ่านไปเจ็ดวัน,สำนักไท่กู่เจิ้งก็ได้สร้างประวัตศาตร์ใหม่,นอกจากเซียวจุ้ยจื่อ
หลิวหว่านซือ,และเย่ซิงเฉิง,ศิษย์คนอื่น ๆได้ทุกคนได้ตัดผ่านระดับไปยังเปิดชีพจรขั้นที่สิบสองทั้งหมดแล้ว!
เถียนซี,หลี่เฟย,จางเหว่ยและอีกหลายคนที่ก้าวไปถึงระดับศิษย์ยุทธ์,จำนวนของคนที่ก้าวไปถึงศิษย์ยุทธ์เวลานี้ตอนแรกห้าเวลานี้เป็นสิบคนแล้ว.
ภายใต้เงื่อนไขสำนักระดับเก้า,มีศิษย์ยุทธ์ 3-5
คนก็นับว่ายอดเยี่ยมแล้ว,เวลานี้กับมีถึงสิบคน,ต้องบอกว่าร้ายกาจมาก.
“แปลก.”
จุนซ่างเซียวเปิดคอนโซนระบบ,จ้องมองระดับสำนักที่อยู่ระดับเก้า,กล่าวออกมาด้วยความสงสัย,”สำนักที่มีศิษย์เก้าคนก้าวไปถึงศิษย์ยุทธ์แล้ว,และศิษย์คนอื่น
ๆยังอยู่ในระดับเปิดชีพจรขั้นที่สิบสอง,แล้วยังไม่ยกระดับอีกรึ?”
ระบบกล่าว,”ระดับสำนักนั้น,ไม่ได้คำนวณโดยระบบ,จำเป็นต้องกระทำตามเงื่อนไขของทวีปชิงหยุน,เพื่อขอยกระดับสำนัก.”
“แล้วไปติดต่อที่ใหนล่ะ?”
“เจ้าลองถามศิษย์ของเจ้าสิ.”
”......”
จุนซ่างเซียวที่เรียกหลี่ชิงหยาง.
หลี่ชิงหยางที่กล่าว,”เจ้าสำนัก,เท่าที่ข้ารู้,การจะไปยกระดับสำนักขั้นแปดนั้นจะต้องไปยังศาลารับรองสำนักเพื่อขออนุญาต.”
“ศาลารับรองสำนักอย่างงั้นรึ? แล้วอยู่ที่ใหน?”
“เมืองชิงหยาง.”
“แล้วมีกฎเกณฑ์อย่างไร?”
หลี่ชิงหยางที่ครุ่นคิดเล็กน้อย,กล่าวออกมาว่า,”น่าจะเป็นนำเหล่าศิษย์ไปทดสอบความสามารถก็จะได้รับอนุญาต.”
“ดูเป็นปัญหาเหมือนกัน,พักไว้ก่อนก็แล้วกัน.”
จุนซ่างเซียวที่ยกเลิกความคิดที่จะยกระดับ.
ในความเห็นของเขานั้น,ขอเพียงมีพลังที่แข็งแกร่ง,ถึงจะเป็นสำนักระดับเก้าก็ไม่มีปัญหา.
......
ที่ป่าหญ้าหลังเขา,เซียวจุ้ยจื่อที่นอนราบมีหญ้าปกคลุมปกปิดตัวเอง,เห็นเพียงแต่ดวงตา,นอนนิ่งไม่เคลื่อนไหว.
“ฟิ้ว!”
ผ่านไปนานเหมือนกัน,ในป่ามีหมีตัวใหญ่ที่ส่งเสียงคำรามอยู่ห่างออกไป
600 เมตร.
เซียวจุ้ยจื่อที่เงยหน้าเล็กน้อย,แววตาที่จ้องมองผ่านเลนส์,ภายในใจที่จับจ้องล๊อกหมีตัวโตเอาไว้,จากนั้นไกปืนก็ถูกลั่น.
“ปัง-“
เสียงของปืนที่ดังก้อง,เซียวจุ้ยจื่อที่อุ้มปืนไว้แน่น,ร่างกายที่สั่นไหวไหลออกมาจากจุดตั้ง
ถึงสองเมตร,ทว่าหัวของหมีนั้นระเบิดออกมาเป็นเสียง ๆ,ล้มลงบนพื้น!
ซูเซียวโม่ที่วิ่งเข้าไปหา,พยุงร่างของอีกฝ่าย,”ศิษย์น้องเซียว,เจ้ายิงแม่นมาก
ๆเลย!”
“ฟู่!”
เซียวจุ้ยจื่อที่ยืนขึ้น,มือข้างหนึ่งถือปืน,อีกข้างที่ลูบไปมาที่ไหล่ที่กำลังสั่นไม่หยุด,ที่มุมปากเผยยิ้มออกมา.
เจ็ดวันมานี้,ด้วยการใช้ห้องปั้นกล้ามเนื้อและการรับแรงกระแทกจากแรงฟาด,ทำให้เขาสามารถลั่นไกรับแรงกระแทกได้ระดับหนึ่งแล้ว.
“ไม่เลว,ไม่เลว.”จุนซ่างเซียวประบมือให้.
เซียวจุ้ยจื่อที่นอนราบนิ่งบนพื้นถึงสองชั่วยาม,เพื่อรอเหยื่อปรากฏ,และยังสามารถลั่นไกออกไปได้อย่างแม่ยำ,นี่คือมือสไนเปอร์ธรรมชาติอย่างแท้จริง.
นี่คือพรสวรรค์ระดับสูงที่ยากจะหาได้.
ถึงแม้นว่าจะก้าวไปบนวิถียุทธ์ได้ไม่ดีนัก,ทว่าด้วยสิ่งดังกล่าวนี้,ก็สามารถแสดงความแข็งแกร่งออกมาได้เช่นกัน.
“จุ้ยจื่อ.”
จุนซ่างเซียวกล่าว,”ข้าจะมอบหมายในการลาดตะเวน,หน้าที่ใหญ่รับผิดชอบในการป้องกันสำนักให้กับเจ้า.”
ด้วยสไนเปอร์ รูปแบบ 88
ของเซียวจุ้ยจื่อ,เขาจะสามารถป้องกันสำนักได้อย่างไม่มีปัญหา,และจะไม่มีคนนอกเข้าใกล้ได้โดยง่าย.
แม้นว่าจะมีค่ายกลคุ้มสำนัก,ทว่าต้องใช้ 1
แต้มสนับสนุนต่อวัน,ตลอดทั้งปีคงผลาญแต้มไปไม่น้อยเลย.
หากมีสไนเปอร์คอยลาดตะเวน,หากพบมือสังหารหรือผู้ต้องสงสัย,ก็จะสามารถสังหารได้ในทันที,ก็จะทำให้เขาเบาใจได้ระดับหนึ่ง.
“ครับ!”เซียวจื่อจื่อตอบรับ.
”......”เขาที่กล่าวเสียงอ่อน,”เจ้าสำนัก,ลูกกระสุขตอนนี้เหลือน้อยแล้ว.”
จุนซ่างเซียวที่สีคาง,กล่าวออกมาว่า,”ใช่แล้ว,กระสุนเหลือน้อยแล้ว,พวกเราควรไปเมืองชิงหยางเพื่อซื้อแกนคลิสตัลมาเพิ่ม.”
“ชิงหยาง.”
“แจ้งไปยังศิษย์ที่ก้าวไปถึงระดับศิษย์ยุทธ์,พรุ่งนี้ให้ไปเมืองชิงหยางกับเปิ่นจั้ว,พวกเราจะเดินทางไปยังศาลารับรองสำนักกัน.”
ในเมื่อจะไปเมืองชิงหยางอยู่แล้ว,ก็ไปขอไปยกระดับสำนักเลยก็แล้วกัน.
ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times
#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น