Immortality Chapter 1146 Builds up the demon by the body
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 1146 หลอมร่างกายให้เป็นอสูร.
Chapter 1146 Builds up the demon by the body
以身炼魔
หลอมร่างกายให้เป็นอสูร.
"ดังนั้น,เจ้าจึงกล้าแย่งชิงอำนาจ!"ชายในชุดดำที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.
"แย่งชิงอำนาจ?
แย่งชิงอำนาจอะไรกัน,บรรพชนเทียนเต๋าจื่อในปัจจุบัน,อาจารย์ของเขาก็คือลูกที่สืบทอดมาจากสายโลหิต,ทำไมถึงไม่มีคุณสมบัติ!"เทียนโจวจื่อกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"เขาเป็นคนตระกูลสาขา!"ชายในชุดสีดำที่กล่าวดูแคลน.
"ไม่มีคุณสมบัติ? หากเขาไม่มีคุณสมบัติ,แล้วใครที่มีคุณสมบัติกัน?
หลังจากที่บรรพชนตระกูลเทียนจากไป,เขาก็เป็นคนแรกที่เข้ามากอบกู้ตระกูลเทียน,และเป็นคนแรกที่เลิกยึดติดกับตระกูลสาขาและตระกูลสายโลหิต,เขาเรียกทุกคนว่าตระกูลเทียน,เขาไม่มีคุณสมบัติอย่างงั้นรึ?
ประมุขตระกูลเทียน,เป็นเขาต่างหากที่ทุกคนยอมรับ!"เทียนโจวจื่อกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
เห็นได้ชัดเจน,เทียนเต๋าจื่อรุ่นนี้,เป็นคนที่มีความสามารถเป็นพิเศษ,แม้แต่ปราชญ์เทพยังชื่นชมด้วยความเคารพ.
"ตระกูลเทียนคนแรกอย่างงั้นรึ?
ชิ,เขาไม่มีคุณสมบัติพอ!"ชายในชุดสีดำที่กล่าวพลางสูดหายใจลึก.
"อาจารย์,ทำไมท่านถึงได้ดื้อรั้นนัก?ท่านประมุขหาได้ใช่คนดุร้ายและยังเปี่ยมด้วยเมตตา,ตราบเท่าที่อาจารย์กลับตระกูล,ข้ายินดีที่จะร้องขอท่านประมุข,ให้ฟื้นคืนสถานะของท่าน,ในวันข้างหน้า,ด้วยความสามารถของท่าน,ก็ยังมีคุณสมบัติเป็นประมุขได้,และทุกคนทั่วหล้าก็มีแต่เคารพตระกูลของพวกเรา,ยิ่งใหญ่ไพศาลไม่ใช่รึ?"เทียนโจวจื่อกล่าวเกลี้ยกล่อม.
"คนทั่วหล้าให้ความเคารพตระกูลอย่างงั้นรึ?
คิดว่าเทียบกับตระกูลเทียนของข้าได้อย่างงั้นรึ?ตระกูลเทียนเมื่อครั้งก่อตั้ง,เจ้าไม่รู้ว่ายิ่งใหญ่เพียงใหน,ไม่ได้อ่อนด้อยเช่นนี้,ตระกูลเทียนในเวลานี้เทียบกับในอดีตได้อย่างงั้นรึ?!"ชายในชุดสีดำที่กล่าวออกมาน้ำเสียงที่เผยความเศร้าในใจ.
เหล่าผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆจ้องมองการโต้เถียงของคนทั้งสอง,ด้วยความประหลาดใจ,เรื่องในตระกูล,ที่ดูเหมือนว่าจะลุกลามใหญ่โต,ทำไมต้องแยกตระกูลสาขา,ตระกูลสายโลหิตอย่างงั้นรึ?
ชายในชุดสีดำที่จ้องมองไปยังเทียนโจวจื่อและกล่าวออกมาเบาๆ,"เจ้าต้องการชิงตราประมุขอย่างงั้นรึ?"
"เป็นคำสั่งประมุข,อาจารย์,แม้ว่าท่านจะเคยสั่งสอนข้าในอดีต,ทว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับตระกูล,ข้าไม่สามารถทำให้ทั้งสองฝั่งพึงพอใจได้,วันนี้ศิษย์คงทำได้แค่ล่วงเกินแล้ว."เทียนโจวจื่อกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"กลับไปบอกประมุขของเจ้า,นามเทียนเต๋าจื่อนั้น,ห้ามใช้ชั่วคราว,อีกอย่างตราเทียนนั้นอย่าได้ฝัน."ชายในชุดสีดำที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"คงไม่ได้,เพราะว่าคนที่เป็นประมุขต้องใช้นามเทียนเต๋าจื่อ,ไม่จำเป็นต้องฟังคำสั่งท่าน,ตระกูลเทียนเวลานี้ทรงพลังยิ่งใหญ่,ตราเทียนเป็นของประมุขตระกูล,ข้าจะต้องนำมันกลับไป!"เทียนโจวจื่อที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ดี,พวกเรามีประมุขเพียงคนเดียว,ท่านและคนอื่นๆคือกบฏ,หากไม่ต่อสู้,ข้าและคนอื่นคงไม่มีหน้าไปพบกับประมุข!"
เหล่าเซียนบรรพชนที่อยู่รอบๆถึงกับเปลี่ยนเป็นโง่งมไปในทันที.
"วูซซซซ!"
สายตาของทุกคนที่ได้แต่มอง.
เทียนโจวจื่อที่เป็นปราชญ์เทพที่น่าเกรงขาม,ได้แต่ก้มหน้าตั้งแต่ต้นจนจบ,แม้นว่าจะโต้แย้ง,ทว่ากลับไม่มีความอหังการ,ทั้งที่แต่ก่อนเต็มไปด้วยความยโสโอหัง,กลับกลืนมันลงไปทั้งหมด.
เหล่าเซียนบรรพชนที่จ้องมองไม่รู้ว่าจะกล่าวอะไรออกมาได้เช่นกัน.
"ธรรมเนียมที่ไม่ใช่ธรรมเนียม,ตระกูลเทียนที่ไม่ใช่ตระกูลเทียน,เจ้ายังนับว่าเป็นผู้เยาว์ตระกูลเทียนอยู่อย่างงั้นรึ?"ชายในชุดสีดำกล่าวออกมาเสียงดัง.
"ใช่,ข้านั้นมาจากตระกูลของมารดา,ข้าเป็นบุตรฝั่งมารดา,ทั้งที่มารดาของข้ามีสายโลหิตตรง,แต่กลับไม่ได้รับสถานะของตระกูลเทียน!"เทียนโจวจื่อที่พยักหน้ารับและกล่าวออกมา.
ชายในชุดสีดำที่หลับตา,และได้แต่เงียบ.
"อาจารย์,โปรดใคร่ครวญด้วย,มอบตราประมุขให้ข้าได้หรือไม่?"เทียนโจวจื่อที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
ทว่าทางของเทียนโจวจื่อที่แข็งกร้าว,แผ่กลิ่นอายออกมาราวกับว่าต้องการจะชิงมันมา,จดจ้องมองไปยังกลุ่มคนของตระกูลเทียน,ที่เรียกว่าตระกูลสายโลหิตหลัก.
ชายในชุดสีดำที่หลับตาอยู่นั้น,ส่ายหน้าไปมาพลางถอนหายใจ,"เจ้าไม่เข้าใจ,เจ้าไม่เข้าใจอะไรเลย.
จิตสังหารของเทียนโจวจื่อมากขึ้นและก็มากขึ้น,บางที่หากไม่เพราะว่าอาจารย์ของเขาเวลานี้,สำหรับคนอื่น,เทียนโจวจื่อคงไม่แม้แต่พูดคุยด้วย.
"เจ้าไม่เข้าใจ!"
สิ้นเสียงดังกล่าวชายในชุดสีดำที่เปลี่ยนเป็นเย็นชาในทันที,ดวงตาทั้งสองข้างที่ลืมขึ้น,ในเวลานั้น,อัญมณีบนหน้าผากที่บุบเข้าไป,กลายเป็นหลุมที่หน้าผากก่อนที่จะกลายเป็นดวงตาสีแดงโลหิต.
ดวงตาดวงที่สาม,ดูแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก,ทว่ากลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายที่น่าเกรงขามทรงพลังเป็นอย่างมาก.
"วูซซซซ!"
ดวงตาดวงที่สาม,แผ่ลำแสงทำลายล้างออกมาทันที,อำนาจที่น่าเกรงขามจากดวงตาดวงที่สาม,เป็นพลังที่น่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก,แม้แต่คนที่จ้องมองมัน,พริบตาเดียวเท่านั้น,จิตวิญญาณถูกแช่แข็ง,แม้แต่สูญเสียการรับรู้ในทันที.
"เนตรปราชญ์เทพรึ?"เหล่าเซียนบรรพชนของตระกูลเทียนถึงกับต้องอุทานออกมาในทันที.
ดวงตาของปราชญ์เทพนั้น,เป็นดวงตาพิเศษ,ซึ่งปรกติแล้วจะไม่มีใครเห็นใบหน้าของพวกเขา,ทว่าหากปราชญ์เทพต้องการ,แน่นอนว่าสามารถเผยออกมาให้คนได้เห็นได้,ทว่าโชคดีที่พวกเขานั้นเคยเห็นดวงตาของเทียนโจวจื่อ,แม้ว่าสีมันจะไม่ได้แดงโลหิต,ทว่าอำนาจของมันก็น่าพรั่นพรึง,น่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก.
เนตรปราชญ์เทพนั้น,ไม่ใช่แค่มีพลังปราชญ์เทพ,ทว่ามันมีอำนาจสามพันเทียนเต๋า,และอำนาจที่ใกล้เคียงเนตรเทียนชู,ซึ่งมีอำนาจมากมายไร้ทีเปรียบ.
เนตรปราชญ์เทพ,ไม่ใช่เนตรที่สามเหมือนกับเอ้อหลางเสินที่เป็นเนตรเทวะ,ทว่าเนตรปราชญ์เทพนั้น,เป็นอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของสวรรค์และปฐพี,ที่มีอำนาจทำลายล้าง.
ภายในภพหยาง,ควรจะมีเพียงเก้าคู่, 18
เนตรปราชญ์เทพเท่านั้น.
ทว่า,ในเวลานี้กลับกลุ่มชายชราที่ผอมติดกระดูก,คาดไม่ถึงเลยว่าจะสามารถใช้เนตรปราชญ์เทพได้?
เนตรปราชญ์เทพที่เกิดจากพลังฝึกตนอย่างงั้นรึ?
เหล่าเซียนบรรพชนที่อยู่รอบๆเวลานี้ได้แต่มองตาค้าง,แม้แต่ปราชญ์เทพที่เหลือยังเผยท่าทางประหลาดใจออกมาด้วยเช่นกัน.
"เต๋าอสูรนอกภพ,เป็นเต๋าอสูรนอกภพจริงๆ!"ปราชญ์เทพหมี่เทียนที่เอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"เต๋าอสูรนอกภพ?
อาจารย์,ท่านคาดไม่ถึงเลยว่าจะยอมแพ้กับสายโลหิตตระกูลเทียนอย่างคาดไม่ถึง?
ท่านได้ละเมิดคำสั่งสอนของบรรพชนอย่างคาดไม่ถึง? หลอมร่างกายให้เป็นอสูร!"เทียนโจวจื่อกล่าวออกมาด้วยความเย็นชา.
"คำสอนบรรพชนอย่างงั้นรึ?
เจ้ายังมีหน้ามาอ้างอีก,พวกเรากลั่นร่างเป็นอสูร,ที่จริงได้รับการรับรองจากบรรพชนแล้ว,ทว่าเป็นพวกเจ้าเองที่ละเมิดคำสอนบรรพชน,โดยการชิงอำนาจของตระกูล!"ชายในชุดสีดำที่เอ่ยออกมาเสียงดัง.
เทียนโจวจื่อที่กำหมัดแน่น,เห็นชัดเจนว่ากำลังโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก.
ในเวลานั้นหยิงเห่าที่อยู่ข้างๆเอ่ยออกมาเบาๆ,"เทียนโจวจื่อ,เรื่องของตระกูลเจ้า,มันซับซ้อนมากมายจริงๆ!"
"เทียนโจว,นำคำพูดของข้าไปบอกประมุขของเจ้า! เร่งรีบถอยไปในทันที!"ชายในชุดสีดำที่กล่าวออกมาด้วยความเย็นชา.
"เป็นไปไม่ได้แน่นอน,พวกท่านหลอมร่างอสูร,ข้าจะไม่เอ่ยถึง,ทว่าตราประมุข,ข้าจะต้องนำมันกลับไป!"เทียนโจวจื่อที่ยังคงแข็งขืน.
"เจ้าไม่มีความสามารถพอ!"เทียนเสิ่นจื่อกล่าวออกมาเบาๆ.
ทันทีที่เทียนเสิ่นจื่อกล่าวเสร็จ,คนอีกสิบเอ็ดคนเป็นเหมือนกัน,ที่หน้าผากของพวกเขาอัญมณีดวงตะวันที่หายไป,ก่อนที่จะเผยดวงตาสีแดงโลหิตออกมา.
12 คน,สิบสองสายโลหิตตรงตระกูลเทียน,ในเวลานี้มีดวงตาปราชญ์เทพดวงที่สามขึ้นทั้งหมด.
แสงสีแดงโลหิตที่ลุกโชติช่วง,อำนาจที่น่าเกรงขามระเบิดออกมาในทันที,ห้วงมิติที่อยู่รอบๆถึงกับสั่นไหวไปมา.
เนตรปราชญ์เทพ 12
ดวงที่ไร้เทียมทาน,อำนาจที่แผ่ออกมา,ไร้เทียนทาน,ไม่ได้ด้อยไปกว่าปราชญ์เทพ,ดูทรงพลังไร้ที่สิ้นสุด.
เซียนบรรพชนฝ่ายตรงข้ามเวลานี้ดวงตาสั่นไหวอย่างบ้าคลั่ง.
ส่วนจินเผิงและเต้าเหรินถู,สองเซียนบรรพชน,ทั้งสองที่จ้องมองตาโตตั้งแต่แรก,ที่เห็นเทียนเสิ่นจื่อไม่ธรรมดา,ทว่าไม่คิดเลยว่าจะแปลกประหลาดขนาดนี้,สามารถที่จะหลอมกลั่นเนตรปราชญ์เทพได้อย่างงั้นรึ?
ไม่เพียงเท่านั้น,อีกสิบเอ็ดคนเองก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน,แม้แต่ปรากฏเนตรปราชญ์เทพขึ้นมาด้วย.
นี่คือต้าเจิ้งที่ไม่ธรรมดา,มีกลุ่มอสุรกายชราอยู่ด้วยอย่างงั้นรึ?
แม้นว่าคนเหล่านี้จะไม่เคยเผยตัวตนให้ได้เห็น,ทว่าพลังฝึกตนนั้นแข็งแกร่งมาก,กลิ่นอายของเนตรปราชญ์เทพ,แม้แต่จินเผิงยังต้องสั่นสะท้าน.
คนทั้งสองที่จ้องมองหน้ากัน,ตลอดจนจ้องมองไปยังจงซานที่อยู่ไกลออกไป.
จงซานที่เผยไพ่ลับในมือออกมาแต่ละใบ,สร้างความตื่นตะลึงในทุกครั้ง,ในครั้งนี้ก็นับว่าเหลือเชื่ออีกครั้งแล้ว,จงซานเวลานี้ยังมีไพ่ลับในมืออีกหรือไม่?
"จงซาน,ข้าและคนอื่นจะจัดการเรื่องตระกูลเทียนเอง!"เทียนเสิ่นจื่อที่เอ่ยต่อจงซานเล็กน้อย.
เทียนเสิ่นจื่อที่จ้องมองมายังจงซานที่พยักหน้าให้,ตราเทียน,เป็นพวกเขาที่ต้องปกป้อง,เทียนโจวจื่อและคนตระกูลเทียนเดินทางมาเพราะต้องการตราเทียน,แน่นอนเป็นเรื่องทั่วไปที่เทียนเสิ่นจื่อจะต้องออกมาแก้ไขเอง.
"เข้ามา,เทียนโจว,ในเมื่อประมุขเจ้าต้องการตราเทียน,ก็แสดงความสามารถของเจ้าออกมา!"ชายในชุดสีดำที่เอ่ยออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ตามมา!"เทียนโหยวจื่อที่เอ่ยอย่างเคร่งขรึม.
เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคนของตระกูลเทียน,แน่นอนว่าผู้เยาว์ตระกูลเทียนสามารถเข้าร่วม.
เทียนโจวจื่อนำผู้เยาว์ของตระกูลเทียนบินขึ้นไปบนอวกาศทันที.
เทียนเสิ่นจื่อและคนอื่นๆ,ขึ้นไปยืนอยู่บนไม้เท้าเคลื่อนภูผา,ก่อนที่จะพุ่งขึ้นไปบนอวกาศด้วยเช่นกัน.
การต่อสู้ในเวลานี้,ขึ้นไปต่อสู้อยู่บนอวกาศนั่นเอง.
การต่อสู้ของปราชญ์เทพ,เป็นเรื่องทั่วไปที่พวกเขาเลือกที่จะขึ้นไปต่อสู้บนอวกาศ,เพราะว่าหากอยู่บนพื้นโลกแล้ว,การต่อสู้ของพวกเราจะสร้างความเสียหายมหาศาล,ดังนั้นการต่อสู้บนอากาศจึงเป็นสิ่งที่ควรทำสำหรับยอดฝีมือ.
สถานการณ์เวลานี้เปลี่ยนไปเล็กน้อย,ความกดดันของจงซานลดลง.
การต่อสู้ระหว่างปราชญ์เทพและกลุ่มของเทียนเสิ่นจื่อ,ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้,อย่างน้อยก็ลดภาระให้กับจงซานลง.
ถึงอย่างนั้น,ในเวลานี้ก็ยังหนักหนาอยู่เช่นเดิม.
สองปราชญ์เทพ,ปราชญ์เทพแข็งแกร่งขนาดใหน?
การล่าปราชญ์เทพ,ความจริงแล้วมีกี่คนกันที่สามารถทำได้?
หยิง?
การต่อสู้ของหยิงในครานั้น,เขาเองก็เตรียมการหลายอย่างไม่ใช่รึ?
เขามีแผนการมากมายที่ใช้ออกมา?
จนพบกับจุดอ่อนของกงจื่อ,ไม่เช่นนั้นแล้วจะกล้าล่าปราชญ์เทพอย่างงั้นรึ?
จีกงหนี่? เขาเองก็เคยล่าปราชญ์เทพ,ทำไมถึงเลือกภพหยินล่ะ?
แน่นอนว่าความยากง่ายนั้นแตกต่างกันกับภพหยาง,หลังจากที่วางแผนการมากมาย,ถึงได้ล่าปราชญ์เทพเช่นกัน.
ปราชญ์เทพหากได้ใช่คนธรรมดาทั่วไป,พวกเขาที่เป็นเหมือนกับตัวแทนของสวรรค์และปฐพี,ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะต่อกร.
ก่อนหน้านี้,แม้นว่าตี้เสวียนชาเอาชนะเทียนโจวจื่อ,ทว่าเขาเองก็ไม่คิดที่จะสังหารปราชญ์เทพแต่อย่างใด.
ไม่ต้องบอกเลยว่าจงซานในเวลานี้ต้องประจันหน้ากับปราชญ์เทพสองคนพร้อมกัน,พลังของเขามีพออย่างงั้นรึ?
ไม่จำเป็นต้องเอยถึงสองปราชญ์เทพเลย,เพียงแค่ปราชญ์เทพคนเดียวก็เพียงพอทำลายต้าเจิ้งแล้ว,แม้แต่สังหารเซียนบรรพชนทั้งหมดของต้าเจิ้ง,และจงซานด้วย.
ในเวลานี้มีถึงสองปราชญ์เทพ.
เหล่าผู้ฝึกตนสังเกตการเวลานี้มากขึ้นและก็มากขึ้น,พวกเขามาจากหลากหลายพื้นที่,แม้แต่สถานที่ไกลออกไปยังมาปรากฏตัวที่นี่,พวกเขาอยากรู้เป็นอย่างมาก,ปราชญ์เทพต้องการกำจัดต้าเจิ้ง!
นับเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นเป็นอย่างมาก!
เหล่ายอดฝีมือที่กระจายอยู่รอบๆ,ในเวลานี้เผยท่าทางตื่นเต้นเป็นอย่างมาก,ดินแดนแห่งนี้,พวกเขาเองก็จับจ้องเช่นกัน,หากต้าเจิ้งเผยความอ่อนแอเมื่อไหร่,พวกเขาก็ไม่ลังเลที่จะยกพลรุกเข้ามายึดครองดินแดนต้าเจิ้งในทันที.
ดังนั้นแล้ว,ภัยพิบัติที่ต้าเจิ้งกำลังผจญนี้,สุดท้ายแล้วจะจบเช่นไร,หากต้าเจิ้งสามารถจัดการได้
เรื่องนี้ไม่เป็นผลดีต่อเขาอย่างแน่นอน,การที่สามปราชญ์เทพเข้าสังหารต้าเจิ้ง,ในทางกลับกันเรื่องนี้สามารถใช้เป็นการบ่งบอกถึงพลังความแข็งแกร่งต้าเจิ้งได้,ว่าพวกเขาเหล่าเพื่อนบ้านต้องระวังหรือควรฉวยโอกาสดี.
ไม่ไกลออกไป,จื่อหยางจิงหงที่นับนิ้วพยากรไปมาไม่หยุด,ใบหน้าของเขาที่เผยความจริงจังเป็นอย่างมาก.
"จงซาน,หากว่าเจ้าไม่สามารถรับมือกับสองปราชญ์เทพได้ล่ะก็,ต้าเจิ้งจะต้องถูกสังหารให้ตกตายทั้งหมด,ทว่ากลับสามารถรอดพ้นได้อย่างงั้นรึ?
จริงอย่างงั้นรึ? เรื่องตลกน่า!"จื่อหยางจิงหงไม่อยากเชื่อเลยแม้แต่น้อย.
Chapter 1146 Builds up the demon by the body
以身炼魔
หลอมร่างกายให้เป็นอสูร.
"ดังนั้น,เจ้าจึงกล้าแย่งชิงอำนาจ!"ชายในชุดดำที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.
"แย่งชิงอำนาจ?
แย่งชิงอำนาจอะไรกัน,บรรพชนเทียนเต๋าจื่อในปัจจุบัน,อาจารย์ของเขาก็คือลูกที่สืบทอดมาจากสายโลหิต,ทำไมถึงไม่มีคุณสมบัติ!"เทียนโจวจื่อกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"เขาเป็นคนตระกูลสาขา!"ชายในชุดสีดำที่กล่าวดูแคลน.
"ไม่มีคุณสมบัติ? หากเขาไม่มีคุณสมบัติ,แล้วใครที่มีคุณสมบัติกัน?
หลังจากที่บรรพชนตระกูลเทียนจากไป,เขาก็เป็นคนแรกที่เข้ามากอบกู้ตระกูลเทียน,และเป็นคนแรกที่เลิกยึดติดกับตระกูลสาขาและตระกูลสายโลหิต,เขาเรียกทุกคนว่าตระกูลเทียน,เขาไม่มีคุณสมบัติอย่างงั้นรึ?
ประมุขตระกูลเทียน,เป็นเขาต่างหากที่ทุกคนยอมรับ!"เทียนโจวจื่อกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
เห็นได้ชัดเจน,เทียนเต๋าจื่อรุ่นนี้,เป็นคนที่มีความสามารถเป็นพิเศษ,แม้แต่ปราชญ์เทพยังชื่นชมด้วยความเคารพ.
"ตระกูลเทียนคนแรกอย่างงั้นรึ?
ชิ,เขาไม่มีคุณสมบัติพอ!"ชายในชุดสีดำที่กล่าวพลางสูดหายใจลึก.
"อาจารย์,ทำไมท่านถึงได้ดื้อรั้นนัก?ท่านประมุขหาได้ใช่คนดุร้ายและยังเปี่ยมด้วยเมตตา,ตราบเท่าที่อาจารย์กลับตระกูล,ข้ายินดีที่จะร้องขอท่านประมุข,ให้ฟื้นคืนสถานะของท่าน,ในวันข้างหน้า,ด้วยความสามารถของท่าน,ก็ยังมีคุณสมบัติเป็นประมุขได้,และทุกคนทั่วหล้าก็มีแต่เคารพตระกูลของพวกเรา,ยิ่งใหญ่ไพศาลไม่ใช่รึ?"เทียนโจวจื่อกล่าวเกลี้ยกล่อม.
"คนทั่วหล้าให้ความเคารพตระกูลอย่างงั้นรึ?
คิดว่าเทียบกับตระกูลเทียนของข้าได้อย่างงั้นรึ?ตระกูลเทียนเมื่อครั้งก่อตั้ง,เจ้าไม่รู้ว่ายิ่งใหญ่เพียงใหน,ไม่ได้อ่อนด้อยเช่นนี้,ตระกูลเทียนในเวลานี้เทียบกับในอดีตได้อย่างงั้นรึ?!"ชายในชุดสีดำที่กล่าวออกมาน้ำเสียงที่เผยความเศร้าในใจ.
เหล่าผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆจ้องมองการโต้เถียงของคนทั้งสอง,ด้วยความประหลาดใจ,เรื่องในตระกูล,ที่ดูเหมือนว่าจะลุกลามใหญ่โต,ทำไมต้องแยกตระกูลสาขา,ตระกูลสายโลหิตอย่างงั้นรึ?
ชายในชุดสีดำที่จ้องมองไปยังเทียนโจวจื่อและกล่าวออกมาเบาๆ,"เจ้าต้องการชิงตราประมุขอย่างงั้นรึ?"
"เป็นคำสั่งประมุข,อาจารย์,แม้ว่าท่านจะเคยสั่งสอนข้าในอดีต,ทว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับตระกูล,ข้าไม่สามารถทำให้ทั้งสองฝั่งพึงพอใจได้,วันนี้ศิษย์คงทำได้แค่ล่วงเกินแล้ว."เทียนโจวจื่อกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"กลับไปบอกประมุขของเจ้า,นามเทียนเต๋าจื่อนั้น,ห้ามใช้ชั่วคราว,อีกอย่างตราเทียนนั้นอย่าได้ฝัน."ชายในชุดสีดำที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"คงไม่ได้,เพราะว่าคนที่เป็นประมุขต้องใช้นามเทียนเต๋าจื่อ,ไม่จำเป็นต้องฟังคำสั่งท่าน,ตระกูลเทียนเวลานี้ทรงพลังยิ่งใหญ่,ตราเทียนเป็นของประมุขตระกูล,ข้าจะต้องนำมันกลับไป!"เทียนโจวจื่อที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ดี,พวกเรามีประมุขเพียงคนเดียว,ท่านและคนอื่นๆคือกบฏ,หากไม่ต่อสู้,ข้าและคนอื่นคงไม่มีหน้าไปพบกับประมุข!"
เหล่าเซียนบรรพชนที่อยู่รอบๆถึงกับเปลี่ยนเป็นโง่งมไปในทันที.
"วูซซซซ!"
สายตาของทุกคนที่ได้แต่มอง.
เทียนโจวจื่อที่เป็นปราชญ์เทพที่น่าเกรงขาม,ได้แต่ก้มหน้าตั้งแต่ต้นจนจบ,แม้นว่าจะโต้แย้ง,ทว่ากลับไม่มีความอหังการ,ทั้งที่แต่ก่อนเต็มไปด้วยความยโสโอหัง,กลับกลืนมันลงไปทั้งหมด.
เหล่าเซียนบรรพชนที่จ้องมองไม่รู้ว่าจะกล่าวอะไรออกมาได้เช่นกัน.
"ธรรมเนียมที่ไม่ใช่ธรรมเนียม,ตระกูลเทียนที่ไม่ใช่ตระกูลเทียน,เจ้ายังนับว่าเป็นผู้เยาว์ตระกูลเทียนอยู่อย่างงั้นรึ?"ชายในชุดสีดำกล่าวออกมาเสียงดัง.
"ใช่,ข้านั้นมาจากตระกูลของมารดา,ข้าเป็นบุตรฝั่งมารดา,ทั้งที่มารดาของข้ามีสายโลหิตตรง,แต่กลับไม่ได้รับสถานะของตระกูลเทียน!"เทียนโจวจื่อที่พยักหน้ารับและกล่าวออกมา.
ชายในชุดสีดำที่หลับตา,และได้แต่เงียบ.
"อาจารย์,โปรดใคร่ครวญด้วย,มอบตราประมุขให้ข้าได้หรือไม่?"เทียนโจวจื่อที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
ทว่าทางของเทียนโจวจื่อที่แข็งกร้าว,แผ่กลิ่นอายออกมาราวกับว่าต้องการจะชิงมันมา,จดจ้องมองไปยังกลุ่มคนของตระกูลเทียน,ที่เรียกว่าตระกูลสายโลหิตหลัก.
ชายในชุดสีดำที่หลับตาอยู่นั้น,ส่ายหน้าไปมาพลางถอนหายใจ,"เจ้าไม่เข้าใจ,เจ้าไม่เข้าใจอะไรเลย.
จิตสังหารของเทียนโจวจื่อมากขึ้นและก็มากขึ้น,บางที่หากไม่เพราะว่าอาจารย์ของเขาเวลานี้,สำหรับคนอื่น,เทียนโจวจื่อคงไม่แม้แต่พูดคุยด้วย.
"เจ้าไม่เข้าใจ!"
สิ้นเสียงดังกล่าวชายในชุดสีดำที่เปลี่ยนเป็นเย็นชาในทันที,ดวงตาทั้งสองข้างที่ลืมขึ้น,ในเวลานั้น,อัญมณีบนหน้าผากที่บุบเข้าไป,กลายเป็นหลุมที่หน้าผากก่อนที่จะกลายเป็นดวงตาสีแดงโลหิต.
ดวงตาดวงที่สาม,ดูแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก,ทว่ากลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายที่น่าเกรงขามทรงพลังเป็นอย่างมาก.
"วูซซซซ!"
ดวงตาดวงที่สาม,แผ่ลำแสงทำลายล้างออกมาทันที,อำนาจที่น่าเกรงขามจากดวงตาดวงที่สาม,เป็นพลังที่น่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก,แม้แต่คนที่จ้องมองมัน,พริบตาเดียวเท่านั้น,จิตวิญญาณถูกแช่แข็ง,แม้แต่สูญเสียการรับรู้ในทันที.
"เนตรปราชญ์เทพรึ?"เหล่าเซียนบรรพชนของตระกูลเทียนถึงกับต้องอุทานออกมาในทันที.
ดวงตาของปราชญ์เทพนั้น,เป็นดวงตาพิเศษ,ซึ่งปรกติแล้วจะไม่มีใครเห็นใบหน้าของพวกเขา,ทว่าหากปราชญ์เทพต้องการ,แน่นอนว่าสามารถเผยออกมาให้คนได้เห็นได้,ทว่าโชคดีที่พวกเขานั้นเคยเห็นดวงตาของเทียนโจวจื่อ,แม้ว่าสีมันจะไม่ได้แดงโลหิต,ทว่าอำนาจของมันก็น่าพรั่นพรึง,น่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก.
เนตรปราชญ์เทพนั้น,ไม่ใช่แค่มีพลังปราชญ์เทพ,ทว่ามันมีอำนาจสามพันเทียนเต๋า,และอำนาจที่ใกล้เคียงเนตรเทียนชู,ซึ่งมีอำนาจมากมายไร้ทีเปรียบ.
เนตรปราชญ์เทพ,ไม่ใช่เนตรที่สามเหมือนกับเอ้อหลางเสินที่เป็นเนตรเทวะ,ทว่าเนตรปราชญ์เทพนั้น,เป็นอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของสวรรค์และปฐพี,ที่มีอำนาจทำลายล้าง.
ภายในภพหยาง,ควรจะมีเพียงเก้าคู่, 18
เนตรปราชญ์เทพเท่านั้น.
ทว่า,ในเวลานี้กลับกลุ่มชายชราที่ผอมติดกระดูก,คาดไม่ถึงเลยว่าจะสามารถใช้เนตรปราชญ์เทพได้?
เนตรปราชญ์เทพที่เกิดจากพลังฝึกตนอย่างงั้นรึ?
เหล่าเซียนบรรพชนที่อยู่รอบๆเวลานี้ได้แต่มองตาค้าง,แม้แต่ปราชญ์เทพที่เหลือยังเผยท่าทางประหลาดใจออกมาด้วยเช่นกัน.
"เต๋าอสูรนอกภพ,เป็นเต๋าอสูรนอกภพจริงๆ!"ปราชญ์เทพหมี่เทียนที่เอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"เต๋าอสูรนอกภพ?
อาจารย์,ท่านคาดไม่ถึงเลยว่าจะยอมแพ้กับสายโลหิตตระกูลเทียนอย่างคาดไม่ถึง?
ท่านได้ละเมิดคำสั่งสอนของบรรพชนอย่างคาดไม่ถึง? หลอมร่างกายให้เป็นอสูร!"เทียนโจวจื่อกล่าวออกมาด้วยความเย็นชา.
"คำสอนบรรพชนอย่างงั้นรึ?
เจ้ายังมีหน้ามาอ้างอีก,พวกเรากลั่นร่างเป็นอสูร,ที่จริงได้รับการรับรองจากบรรพชนแล้ว,ทว่าเป็นพวกเจ้าเองที่ละเมิดคำสอนบรรพชน,โดยการชิงอำนาจของตระกูล!"ชายในชุดสีดำที่เอ่ยออกมาเสียงดัง.
เทียนโจวจื่อที่กำหมัดแน่น,เห็นชัดเจนว่ากำลังโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก.
ในเวลานั้นหยิงเห่าที่อยู่ข้างๆเอ่ยออกมาเบาๆ,"เทียนโจวจื่อ,เรื่องของตระกูลเจ้า,มันซับซ้อนมากมายจริงๆ!"
"เทียนโจว,นำคำพูดของข้าไปบอกประมุขของเจ้า! เร่งรีบถอยไปในทันที!"ชายในชุดสีดำที่กล่าวออกมาด้วยความเย็นชา.
"เป็นไปไม่ได้แน่นอน,พวกท่านหลอมร่างอสูร,ข้าจะไม่เอ่ยถึง,ทว่าตราประมุข,ข้าจะต้องนำมันกลับไป!"เทียนโจวจื่อที่ยังคงแข็งขืน.
"เจ้าไม่มีความสามารถพอ!"เทียนเสิ่นจื่อกล่าวออกมาเบาๆ.
ทันทีที่เทียนเสิ่นจื่อกล่าวเสร็จ,คนอีกสิบเอ็ดคนเป็นเหมือนกัน,ที่หน้าผากของพวกเขาอัญมณีดวงตะวันที่หายไป,ก่อนที่จะเผยดวงตาสีแดงโลหิตออกมา.
12 คน,สิบสองสายโลหิตตรงตระกูลเทียน,ในเวลานี้มีดวงตาปราชญ์เทพดวงที่สามขึ้นทั้งหมด.
แสงสีแดงโลหิตที่ลุกโชติช่วง,อำนาจที่น่าเกรงขามระเบิดออกมาในทันที,ห้วงมิติที่อยู่รอบๆถึงกับสั่นไหวไปมา.
เนตรปราชญ์เทพ 12
ดวงที่ไร้เทียมทาน,อำนาจที่แผ่ออกมา,ไร้เทียนทาน,ไม่ได้ด้อยไปกว่าปราชญ์เทพ,ดูทรงพลังไร้ที่สิ้นสุด.
เซียนบรรพชนฝ่ายตรงข้ามเวลานี้ดวงตาสั่นไหวอย่างบ้าคลั่ง.
ส่วนจินเผิงและเต้าเหรินถู,สองเซียนบรรพชน,ทั้งสองที่จ้องมองตาโตตั้งแต่แรก,ที่เห็นเทียนเสิ่นจื่อไม่ธรรมดา,ทว่าไม่คิดเลยว่าจะแปลกประหลาดขนาดนี้,สามารถที่จะหลอมกลั่นเนตรปราชญ์เทพได้อย่างงั้นรึ?
ไม่เพียงเท่านั้น,อีกสิบเอ็ดคนเองก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน,แม้แต่ปรากฏเนตรปราชญ์เทพขึ้นมาด้วย.
นี่คือต้าเจิ้งที่ไม่ธรรมดา,มีกลุ่มอสุรกายชราอยู่ด้วยอย่างงั้นรึ?
แม้นว่าคนเหล่านี้จะไม่เคยเผยตัวตนให้ได้เห็น,ทว่าพลังฝึกตนนั้นแข็งแกร่งมาก,กลิ่นอายของเนตรปราชญ์เทพ,แม้แต่จินเผิงยังต้องสั่นสะท้าน.
คนทั้งสองที่จ้องมองหน้ากัน,ตลอดจนจ้องมองไปยังจงซานที่อยู่ไกลออกไป.
จงซานที่เผยไพ่ลับในมือออกมาแต่ละใบ,สร้างความตื่นตะลึงในทุกครั้ง,ในครั้งนี้ก็นับว่าเหลือเชื่ออีกครั้งแล้ว,จงซานเวลานี้ยังมีไพ่ลับในมืออีกหรือไม่?
"จงซาน,ข้าและคนอื่นจะจัดการเรื่องตระกูลเทียนเอง!"เทียนเสิ่นจื่อที่เอ่ยต่อจงซานเล็กน้อย.
เทียนเสิ่นจื่อที่จ้องมองมายังจงซานที่พยักหน้าให้,ตราเทียน,เป็นพวกเขาที่ต้องปกป้อง,เทียนโจวจื่อและคนตระกูลเทียนเดินทางมาเพราะต้องการตราเทียน,แน่นอนเป็นเรื่องทั่วไปที่เทียนเสิ่นจื่อจะต้องออกมาแก้ไขเอง.
"เข้ามา,เทียนโจว,ในเมื่อประมุขเจ้าต้องการตราเทียน,ก็แสดงความสามารถของเจ้าออกมา!"ชายในชุดสีดำที่เอ่ยออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ตามมา!"เทียนโหยวจื่อที่เอ่ยอย่างเคร่งขรึม.
เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคนของตระกูลเทียน,แน่นอนว่าผู้เยาว์ตระกูลเทียนสามารถเข้าร่วม.
เทียนโจวจื่อนำผู้เยาว์ของตระกูลเทียนบินขึ้นไปบนอวกาศทันที.
เทียนเสิ่นจื่อและคนอื่นๆ,ขึ้นไปยืนอยู่บนไม้เท้าเคลื่อนภูผา,ก่อนที่จะพุ่งขึ้นไปบนอวกาศด้วยเช่นกัน.
การต่อสู้ในเวลานี้,ขึ้นไปต่อสู้อยู่บนอวกาศนั่นเอง.
การต่อสู้ของปราชญ์เทพ,เป็นเรื่องทั่วไปที่พวกเขาเลือกที่จะขึ้นไปต่อสู้บนอวกาศ,เพราะว่าหากอยู่บนพื้นโลกแล้ว,การต่อสู้ของพวกเราจะสร้างความเสียหายมหาศาล,ดังนั้นการต่อสู้บนอากาศจึงเป็นสิ่งที่ควรทำสำหรับยอดฝีมือ.
สถานการณ์เวลานี้เปลี่ยนไปเล็กน้อย,ความกดดันของจงซานลดลง.
การต่อสู้ระหว่างปราชญ์เทพและกลุ่มของเทียนเสิ่นจื่อ,ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้,อย่างน้อยก็ลดภาระให้กับจงซานลง.
ถึงอย่างนั้น,ในเวลานี้ก็ยังหนักหนาอยู่เช่นเดิม.
สองปราชญ์เทพ,ปราชญ์เทพแข็งแกร่งขนาดใหน?
การล่าปราชญ์เทพ,ความจริงแล้วมีกี่คนกันที่สามารถทำได้?
หยิง?
การต่อสู้ของหยิงในครานั้น,เขาเองก็เตรียมการหลายอย่างไม่ใช่รึ?
เขามีแผนการมากมายที่ใช้ออกมา?
จนพบกับจุดอ่อนของกงจื่อ,ไม่เช่นนั้นแล้วจะกล้าล่าปราชญ์เทพอย่างงั้นรึ?
จีกงหนี่? เขาเองก็เคยล่าปราชญ์เทพ,ทำไมถึงเลือกภพหยินล่ะ?
แน่นอนว่าความยากง่ายนั้นแตกต่างกันกับภพหยาง,หลังจากที่วางแผนการมากมาย,ถึงได้ล่าปราชญ์เทพเช่นกัน.
ปราชญ์เทพหากได้ใช่คนธรรมดาทั่วไป,พวกเขาที่เป็นเหมือนกับตัวแทนของสวรรค์และปฐพี,ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะต่อกร.
ก่อนหน้านี้,แม้นว่าตี้เสวียนชาเอาชนะเทียนโจวจื่อ,ทว่าเขาเองก็ไม่คิดที่จะสังหารปราชญ์เทพแต่อย่างใด.
ไม่ต้องบอกเลยว่าจงซานในเวลานี้ต้องประจันหน้ากับปราชญ์เทพสองคนพร้อมกัน,พลังของเขามีพออย่างงั้นรึ?
ไม่จำเป็นต้องเอยถึงสองปราชญ์เทพเลย,เพียงแค่ปราชญ์เทพคนเดียวก็เพียงพอทำลายต้าเจิ้งแล้ว,แม้แต่สังหารเซียนบรรพชนทั้งหมดของต้าเจิ้ง,และจงซานด้วย.
ในเวลานี้มีถึงสองปราชญ์เทพ.
เหล่าผู้ฝึกตนสังเกตการเวลานี้มากขึ้นและก็มากขึ้น,พวกเขามาจากหลากหลายพื้นที่,แม้แต่สถานที่ไกลออกไปยังมาปรากฏตัวที่นี่,พวกเขาอยากรู้เป็นอย่างมาก,ปราชญ์เทพต้องการกำจัดต้าเจิ้ง!
นับเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นเป็นอย่างมาก!
เหล่ายอดฝีมือที่กระจายอยู่รอบๆ,ในเวลานี้เผยท่าทางตื่นเต้นเป็นอย่างมาก,ดินแดนแห่งนี้,พวกเขาเองก็จับจ้องเช่นกัน,หากต้าเจิ้งเผยความอ่อนแอเมื่อไหร่,พวกเขาก็ไม่ลังเลที่จะยกพลรุกเข้ามายึดครองดินแดนต้าเจิ้งในทันที.
ดังนั้นแล้ว,ภัยพิบัติที่ต้าเจิ้งกำลังผจญนี้,สุดท้ายแล้วจะจบเช่นไร,หากต้าเจิ้งสามารถจัดการได้
เรื่องนี้ไม่เป็นผลดีต่อเขาอย่างแน่นอน,การที่สามปราชญ์เทพเข้าสังหารต้าเจิ้ง,ในทางกลับกันเรื่องนี้สามารถใช้เป็นการบ่งบอกถึงพลังความแข็งแกร่งต้าเจิ้งได้,ว่าพวกเขาเหล่าเพื่อนบ้านต้องระวังหรือควรฉวยโอกาสดี.
ไม่ไกลออกไป,จื่อหยางจิงหงที่นับนิ้วพยากรไปมาไม่หยุด,ใบหน้าของเขาที่เผยความจริงจังเป็นอย่างมาก.
"จงซาน,หากว่าเจ้าไม่สามารถรับมือกับสองปราชญ์เทพได้ล่ะก็,ต้าเจิ้งจะต้องถูกสังหารให้ตกตายทั้งหมด,ทว่ากลับสามารถรอดพ้นได้อย่างงั้นรึ?
จริงอย่างงั้นรึ? เรื่องตลกน่า!"จื่อหยางจิงหงไม่อยากเชื่อเลยแม้แต่น้อย.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น