วันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2564

Immortality Chapter 1122 Heavenly Dao

Immortality Chapter 1122 Heavenly Dao

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 1122  เทียนเต๋าจื่อ. 


Chapter 1122 Heavenly Dao

天道子

  เทียนเต๋าจื่อ.

 

"เป๋าซือ?"จี่กงหนี่ที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ.

 

"ใช่แล้ว,เมื่อหลายร้อยปีก่อนความจริงจงซานได้พบกับเป๋าซือ,นางอยู่ในอาณาเขตเฟิงจง,ซึ่งทุกคนรู้ว่าไม่ได้ปรากฏตัวออกมาบ่อยนัก!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

 

"เป๋าซืออยู่ที่ใหน?"จี่กงหนี่ที่แสดงท่าทางร้อนใจ.

 

"เป๋าซือได้ตายแล้ว!"จงซานที่แสดงท่าทางหนักอึ้งจริงจังออกมา.

 

เหล่าขุนนางต้าโจวที่อ้าปากเล็กน้อย,เผยใบหน้าที่หวาดผวา.

 

"หมายความว่าอย่างไร?"ท่าทางของจีกงหนี่ที่เปลี่ยนเป็นเย็นชา.

 

"ข้าคิดว่านางควรจะตายแล้ว,ส่วนจะมีชีวิตอีกครั้งหรือไม่,ข้าไม่อาจรู้!"

 

"นางอยู่ที่ใหน? เจ้าเห็นนางได้อย่างไร? ตายอย่างไร?ศพนางล่ะ?"จี่กงหนี่เอ่ยด้วยเสียงที่เย็นยะเยือบ.

 

"เป๋าซือนั้น,ใช้นามหม่ากู่,ปกป้องโลกนวีหว๋า,ตกตายในการต่อสู้,กับปราชญ์เทพหมี่เทียน,ปราชญ์เทพหมี่เทียนนั้น,ต้องการสร้างสี่ภูติเทียนเต๋าขึ้นมา,จำเป็นต้องรวบรวม,ซือ,เหม่ย,หวังและเหลียง,เป่าซือก็คือเหม่ย,ที่ถูกปราชญ์เทพหมี่เทียนหลอมขึ้นเป็นหุ่นเชิด! ข้าเห็นด้วยตาตัวเอง! ในเวลานั้นไม่มีความสามารถใดๆช่วยได้!"จงซานเอ่ย.

 

"เหม่ย? ซือ,เหม่ย,หวัง,เหลียง? หมี่เทียน?"ดวงตาของจี่กงหนี่ที่กลายเป็นสีแดงขึ้นมาในทันที.

 

จากท่าทางของจงซานแล้ว,จี่กงหนี่เห็นว่าจงซานไม่ได้โกหก,และไม่มีเหตุผลที่เขาต้องโกหก,ไม่ว่าอย่างไรเขาในเวลานี้รู้สึกขุ่นเคืองจงซาน,จงซานไม่มีทางที่จะใช้เล่ห์กลใดๆ,เพราะไม่ว่าอย่างไร,เขาก็โกรธเคืองขึ้นมาอยู่แล้ว.

 

แต่มันคือความจริงอย่างงั้นรึ?

"โฮกกก ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”

 

จี่กงหนี่ที่คำรามลั่นดังกึกก้องไปทั่วท้องฟ้า,สายลมและเมฆที่บิดม้วนแยกออกจากกัน,แทงไฟรอบๆที่กำลังสั่นไหวไปมาอย่างรุนแรง.

 

"เป็นไปไม่ได้,นางไม่ตาย!"จี่กงหนี่ที่ค่อยๆระงับความเจ็บช้ำในหัวใจเอาไว้.

 

จากนั้นจงซานที่ค่อยๆเล่าเรื่องทุกอย่างในอดีตให้กับเนี่ยฟ่านเฉินฟัง.

---------------------

 "ข้ารู้ว่าวันนี้ไม่สามารถผ่านเคราะห์กรรมไปได้,และไม่คิดที่จะหลบเลี่ยง,หมี่เทียน,เจ้าจงรอ,รอให้มีใครบางคนมาล้างแค้นให้กับข้า,วันนี้เจ้าหลอมข้าเป็นหุ่นเชิด,วันข้างหน้า,ก็จะมีคนหลอมเจ้าเป็นหุ่นเชิดเช่นกัน!เจ้าจงรอ,รอคอยได้เลย!"

........................

............

"เขาจะต้องล้างแค้นให้กับข้า!"

---------------------

 

กับเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตนั้น,แม้แต่จงซานยังรู้สึกหนักอึ้งในใจ,แล้วจี่กงหนี่ที่เป็นคู่ความจะเป็นเช่นไร?

 

จี่กงหนี่ที่ต่อยหมัดไปยังฝ่ามือตัวเอง,ร่างกายสั่นเล็กน้อย,หากแต่ไม่ได้เสียภาพพจน์ราชา,เขาที่กำหมัดแน่นซ่อนอยู่ในแขนเสื้อ,แววตาที่ดุร้ายเย็นชา,แม้แต่กงซูจื่อยังประหลาดใจ.

 

"ขอบคุณ!"จี่กงหนี่ที่กัดฟันเอ่ยออกมาเสองคำ,ที่หน้าผากยังมีเส้นโลหิตที่บวมปูด.

 

จงซานที่พ่นลมหายใจยาว,ก่อนที่จะหันหน้ามายังเนี่ยชิงชิง.

 

"กงจูชิงชิง!"

 

เนี่ยชิงชิงที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นซับซ้อนจนจ้องมองจงซานด้วยแววตาที่อ่อนไหว.

 

"จงซานนั้นติดหนี้ท่านมากมาย,ทว่าจงซานคงต้องไปแล้ววันนี้,วันข้างหน้า,กงจูชิงชิง,เพียงแค่สงสารไปยังต้าเจิ้ง,ขอเพียงไม่ผิดหลักการของข้า,ไม่ว่าจะเป็นคำขอใดก็จะทำ,จงซานขอให้คำสัญญา!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.

 

"อืม!"เนี่ยชิงชิงพยักหน้า,แววตาที่เผยท่าทางซับซ้อนไม่ต้องการแยกจาก.

 

"เซิ่งหวังจี่,นั่นคือเรื่องทั้งหมดที่ข้ารู้,ขอแสดงความเสียใจด้วย,จงซานขอลา!"จงซานที่กล่าวต่อจี่กงหนี่.

顺变 jié āi shùn biàn เจี๋ย ไอ สุ้น เปี้ยน วลีนี้ไว้ใช้ในการปลอบใจหรือแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิต แปลเป็นไทยก็คือ ขอแสดงความเสียใจด้วย

 

"อืม!"จี่กงหนี่ที่รับคำ,อารมณ์ที่สั่นไหวราวกับจะเสียการควบคุมได้ทุกขณะ,เขาที่กับเก็บความโกรธมากมายเอาไว้,ไม่ได้ต้องการจะกล่าวสิ่งใดออกมาอีก.

 

จงซานที่สะบัดแขนเสื้อนำพาทุกคนบินออกไปพุ่งตรงไปยังทิศตะวันออก,หายไปใจสายตาของทุกคนอย่างรวดเร็ว.

 

เหล่าขุนนางต้าโจวได้แต่จ้องมองกลุ่มของจงซานที่ค่อยๆหายไป,แววตานั้นไม่ได้เผยท่าทางไม่พอใจอีกแล้ว,ทว่าไม่มีใครกล่าวอะไรออกมาต่อเซิ่งหวังเวลานี้เช่นกัน.

 

"เซิ่งหวัง!"กัวซือฝูที่เอ่ยออกมาเ,กัวซือฝูเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของจี่กงหนี่ดี.

 

"เรื่องเฉลิมฉลองทั่วแผ่นดินนั้น,เจ้าและเจี่ยงซ่างเป็นคนจัดการ,ข้าต้องการอยู่คนเดียว,ห้ามใครมากรบกวนข้า!"จี่กงหนี่ที่พ่นลมหายใจยาว,ระงับความโศกเศร้าอย่างที่สุดเอาไว้.

 

จากนั้นร่างกายของเขาก็ก้าวออกไปหายไปต่อหน้าของทุกคน.

 

กงซูจื่อที่ได้แต่จ้องมองไปยังจี้กงหนี่ด้วยความประหลาดใจ.

 

สายตาของเจี่ยกงหนี่ที่ดุร้ายเย็นชา,เขากำลังวางแผนที่จะต่อกรกับหมี่เทียนหรือไม่?

--------------------------------------------------------

 

เมื่อออกมาจากอาณาเขตหงส์เพลิง,กลุ่มของจงซานที่ไปหยุดอยู่ที่แห่งหนึ่งจ้องมองเสาเปลวเพลิงที่อยู่ไกลออกไป,จงซานที่พ่นลมหายใจยาว.

 

"เป๋าซือที่เซิ่งหวังเอ่ย,กล่าวความจริงอย่างงั้นรึ?"จินเผิงที่เอ่ยออกมาด้วยความสงสัย.

 

"แน่นอนว่าเป็นเรื่องจริง,เจ้าไม่เคยเห็นหมี่เทียนอย่างงั้นรึ?ที่ทวีปซือต้าปู่,เจ้าก็เห็นภูติเทียนเต๋า,เหลียง,ที่ถูกนำไปสร้างเป็นภูติเทียนเต๋า,ไม่ต้องบอกเลยว่าหุ่นเชิดของหมี่เทียนนั้นร้ายแจแค่ใหน,ทรงพลังยิ่งกว่าหุ่นเชิดของกงซูจื่อซะอีก!"จงซานเอ่ย.

 

"เรื่องที่โลกนวีหว๋ามีคนมากมายที่รู้,ทำไมจี่กงหนี่ไม่รู้?"จินเผิงที่แสดงท่าทางไม่เข้าใจ.

 

"มีคนมากมายที่เข้าไปในโลกหนี่หว๋าในครั้งนั้น,ทว่ามีคนเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่รอดออกมา,ในเวลานั้นเจี่กงหนี่วุ่นวายเกี่ยวกับเขตแดนหงส์เพลิง,ไม่ได้ส่งคนออกมา,ดังนั้นจึงไม่รู้เรื่องนี้!"หวังจิงเหวินที่กล่าวตอบ.

 

"จี่กงหนี่,เป๋าซือ? ทั้งสองนั้นมีความสัมพันธ์ที่ล้ำล้ำทั่วหล้าต่างรู้ดีว่านางคือคู่บำเพ็ญของเขาในอดีต,การที่เห็นเป๋าซือตายไป,โดยที่เขาไม่รู้อะไรเลยก็อีกเรื่องนี้,ทว่าการที่จี่กงหนี่แสดงท่าทีก่อนหน้าก็เกินไปจริงๆ,คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะต้องการข่มเหงเซิ่งหวัง!"จินเผิงเอ่ย.

 

หวังจิงเหวินส่ายหน้าไปมา,"ข้าเองก็มีเพียงหัวเดียว,ถึงแม้นว่าจะไม่มีข้า,จี่กงหนี่ก็คงไม่ยอมปล่อยพวกเราง่ายๆ,เซิ่งหวังฉลาดหลักแหลม,ใช้ข่าวเรื่องเป๋าซือทำให้หัวใจจี่กงหนี่โกลาหล,ทำให้พวกเราออกมาได้อย่างปลอดภัย!"

 

"เจ้าบอกว่าเนี่ยฟ่านเฉินจะหาเรื่องพวกเราอย่างงั้นรึ? เขาจะไม่ทำเช่นนั้น!"เทียนหลิงเอ๋อที่โพรงออกมา.

 

หวังจิงเหวินที่โค้งคารวะให้เทียนหลิงเอ๋อ,และไม่กล่าวสิ่งใด.

 

จงซานลูบศีรษะของเทียนหลิงเอ๋อและกล่าวออกมาว่า,"เข้าไม่ใช่เนี่ยฟ่านเฉินอีกแล้ว,ตอนนี้เขาคือจี่กงหนี่,ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว,หลังจากนี้คำพูดของเขาไม่สามารถเชื่อได้!"

 

เทียนหลิงเอ๋อที่เบ้อปาก,โอดครวญออกมา,แสดงท่าทางราวกับว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมดา,ก่อนที่จะพยักหน้ารับ."อืม!"

 

"เซิ่งหวัง,พวกเราจะกลับต้าเจิ้งทันทีเลยหรือไม่?"เต้าเหรินถูเอ่ย.

 

"ไม่,พวกเราจะต้องแวะสถานที่หนึ่งก่อน!"จงซานทีส่ายหน้าไปมา.

 

"หืม?"

 

"แดนเทวะซือเทียน!"

--------------------------------------------------------

 

ภพหยาง,ทวีปเทียน,ตระกูลเทียนใหญ่! วิหารชีพจรสวรรค์!

 

ตำหนักชีพจรสวรรค์นั้น,เป็นที่พำนักของประมุข,ซึ่งเป็นตำหนักที่สำคัญที่สุด,โครงสร้างของตระกูลเทียนที่โลกใบเล็กและโลกใบใหญ่เหมือนๆกัน,แน่นอนว่าตำหนักชีพจรสวรรค์จึงเป็นตำหนักที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของตระกูลเทียน.

 

ภายในตำหนักที่ปิดแน่น.

 

ภายในห้องโถงใหญ่นั้น,มีคนแปดคน,แต่ละคนสวมชุดสีขาว,อยู่ด้านล่างตั้งแถวเป็นสองแถว,ฝั่งและสี่คน,ด้านซ้ายคนแรก,แม้นว่าจะเก็บกลิ่นอายเอาไว้ก็ดูน่าเกรงขาม,เป็นคนที่สำคัญไม่น้อย,และไม่สามารถมองเห็นใบหน้าได้ชัดเจน,คนผู้นี้คือปราชญ์เทพของตระกูลเทียน,เทียนโจวจื่อ!

 

ทั้งแปดคนมี่มีใครกล้าเอ่ยสิ่งใด,จดจ้องมองไปยังชายผู้หนึ่งที่อยู่ในตำแหน่งสูงสุด.

 

ใบหน้าของบุรุษผู้นั้นค่อนข้างเยาว์วัย,ทว่าดวงตานั้นก็เต็มไปด้วยเชาว์ปัญญาตัดการรูปร่างอย่างชัดเจน,ใบหน้าที่ค่อยระเอียด,เผยแววตาที่ดูสะกดข่มน่าเกรงขามออกมา.

 

นี่ก็คือประมุขตระกูลเทียน,เทียนเต๋าจื่อ!

 

เทียนเต๋าจื่อสวมมงกุฏขนนกขนาดเล็ก,มีสองริ้วขนลู่ออกไปด้านหลัง,ขณะที่นั่งอยู่บนบัลลังก์สูง,นิ้วของเขาที่เคาะไปยังพนักพิงเบาๆ.

 

"ประมุข!"

 

แถวด้านขวามีคนหนึ่งที่เอ่ยปากออกมา.

 

"ตราเทียน,ผู้ถือครอง,สามารถออกคำสั่ง,ที่ไม่มีใครกล้าขัด!"เทียนโจวจื่อที่เอ่ยปากออกมา.

 

"เกี่ยวกับข่าวลือ,เจ้าได้บันทึกเอาไว้หรือไม่!"เทียนเต๋าจื่อที่เอ่ยปากออกมา,แม้นว่าจะเป็นน้ำเสียงเบาๆแต่ดูจริงจังเคร่งขรึม.

 

"ข้าและคนอื่นไม่มีทางลืม!"อีกคนที่รีบเอ่ยออกมาในทันที.

 

เทียนเต๋าจื่อที่แววตาที่เคร่งขรึมดุดัน,แววตาที่ราวกับอำนาจสวรรค์กดลงมา,ทำให้ทุกคนที่จ้องมองประมุข,จิตใจสั่นไหวก้อมหน้าลงเล็กน้อย,ถึงเทียนโจวจื่อจะไม่สามารถมองเห็นใบหน้าได้,ทว่าก็ไม่กล่าวที่จะสบตาเช่นกัน.

 

"ข่าวที่ข้าเพิ่งได้ยินมา,ข้าไม่ต้องการให้คนอื่นๆรู้,ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาได้!"เทียนเจื่อที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

 

"รับทราบ!"ทุกคนที่ตอบรับในทันที.

 

"ท่านประมุข,พวกเรายินดีที่จะเดินทางไปชิงตราเทียนกลับมา!"

 

"ท่านประมุข,ข้ายินดีอาสา!"

"ท่านประมุข ..................!”

..................

............

......

 

มีคนหลายคนที่อาสา,ทว่าเทียนเต๋าจื่อนั้นกวาดตามองไปยังคนผู้หนึ่ง.

 

"เทียนโจวจื่อ!"เทียนเต๋าจื่อที่เอ่ยออกมาในทันที.

 

"อยู่นี่แล้ว!"

 

"เจ้ารับหน้าที่นี่ด้วยตัวเอง!"เทียนเต๋าจื่อกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

 

"รับทราบ!"เทียนโจวจื่อรับคำในทันที.

 

"เจ้าเป็นคนเตรียมคนด้วยตัวเอง,การเดินทางครั้งนี้ไม่ง่าย,เจ้าจัดการได้ทุกอย่าง,ข้าจะไม่ถามวิธีการ,ข้าต้องการเพียงผลลัพท์!"เทียนเต๋าจื่อเอ่ยออกมาเบาๆ.

 

"รับทราบ!"เทียนโจวจื่อที่รับคำ.

 

"ส่วนพวกเจ้า? ระหว่างนี้,ปกป้องทวีปเทียน,ห้ามออกไปใหน!"เทียนเต๋าจื่อกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

 

"รับทราบ!"คนอื่นๆที่เร่งรีบรับคำในทันที.

 

เห็นชัดเจนว่า,ตราเทียนนั้นมีความสำคัญมากๆ,เทียนเต๋าจื่อที่เต็มไปด้วยความระมัดระวัง,ให้เทียนโจวจื่อเดินทางไปด้วยตัวเอง,เพราะว่าเทียนโจวจื่อคือปราชญ์เทพ,สามารถที่จะขัดขืนอำนาจของตราเทียนได้,ทว่าคนอื่นนั้นต่างออกไป.

 

เทียนเต๋าจื่อที่ลุกขึ้น,กวาดตามองทุกคน,ก่อนที่จะหายไป.

 

เห็นประมุขไปแล้ว,ใบหน้าของทุกคนที่เปลี่ยนไป.

 

ภายในห้องโถงทุกคนที่อยู่ในความเงียบงัน.

 

"นี่มัน,ก่อนหน้านี้,เป็นเพียงแค่ร่างแยกของท่านประมุขอย่างงั้นรึ?"หนึ่งในนั้นเผยท่าทางประหลาดใจ.

 

"พวกเราที่อยู่ในระดับเซียนบรรพชน,ยังไม่สามารถเทียบกับร่างแยกของท่านประมุขเลย,ท่านประมุขแข็งแกร่งยิ่งนัก!"คนผู้หนึ่งที่เอ่ยปากออกมา.

 

"ประมุขแข็งแกร่ง,ยากที่จะประเมินได้จริงๆ!"

 

ขณะที่ทุกคนกำลังเอ่ยนั้น,เทียนโจวจื่อที่สูดหายใจเบาๆ,ชัดเจนว่าเทียนโจวจื่อเองก็ตื่นตระหนกตกใจกับความแข็งแกร่งของเทียนเต๋าจื่อเช่นกัน.

 

ประมุขตระกูลเทียน,เทียนเต๋าจื่อ,ไม่มีใครรู้ว่าแข็งแกร่งขนาดใหน,ทว่าเขาที่ปกครองตระกูลเทียน,ได้อย่างสงบสุข,ใต้หล้าแห่งนี้ที่ทำได้,ไม่ได้มีมากนัก,ถึงแม้นว่าจะเป็นเช่นนั้นเทียนเต๋าจื่อยังให้ความสำคัญต่อตราเทียนเป็นอย่างมาก,เห็นชัดเจนว่าตราเทียนนั้นไม่ธรรมดา.

 

ตราเทียน,เป็นดั่งคำสั่งสวรรค์,ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถขัดขืน,ไม่กล้าขัดคำสั่งได้!





ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น