วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2563

Immortality Chapter 977 Fox opens, curses

Immortality Chapter 977 Fox opens, curses

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 977 คำสาปเผ่าจิงจอก.


Chapter 977 Fox opens, curses!

狐界开,咒出!

  คำสาปเผ่าจิงจอก.

 

"มุกซิงเฉิน?"เฉินซิ่วจ้องมองไปยังอันหวงที่หายไปอย่างไร้ร่องรอย.

 

"เซียนเซิงเฉินซิ่ว,ท่านรู้จักของวิเศษนั่นอย่างงั้นรึ?"ซือหม่าชิงที่เอ่ยออกมาด้วยความสงสัย.

 

"เดิมทีมันเป็นของต้าเจิ้งในโลกใบเล็ก,เป็นหนึ่งในสิบสุดยอดของวิเศษโบราณ,มุกซิงเฉิน,ได้ข่าวมาว่ามันถูกนำมาจากโลกใบใหญ่,หลอมขึ้นมาจากดวงดาว!"เฉินซิ่วที่กล่าวออกมาตามจริง.

 

"ดวงดาว?"ทุกคนที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.

 

"ไม่แปลกใจ!"อาวุโสชุดม่วงที่พยักหน้ารับ,หลอมขึ้นมาจากดวงดารานี้เอง,ไม่สงสัยเลยว่าฝ่ามือที่โจมตีไปทั้งสองข้างกลับไม่มีผลอะไรเลย,และยังสามารถขยายออกมาได้ใหญ่โต.

 

"ฟิ้ว!"

 

จากบนท้องฟ้าการต่อสู้ของปรมาจารย์หมากซือเหม่ยและอ๋องจงหยงจบแล้ว,อ่องจงหยงที่กลับมา.

 

อ๋องจงหยงที่จ้องมองไปยังอ๋องเหว่ยอู๋ที่ได้รับบาดเจ็บที่คอและท่าทางของคนอื่นๆที่กำลังอยู่ในภาวะเคร่งขรึม.

 

"ฝ่าบาท!"อ๋องจงหย๋งกล่าว.

 

"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยตายแล้วอย่างงั้นรึ?"ซือหม่าชิงที่ขมวดคิ้วไปมา.

 

"ไม่,แต่ก็ไม่ต่างจากตาย,เขาได้รับบาดเจ็บหนัก,ตอนนี้คงกำลังหนีอยู่!"อ๋องจงหยงกล่าว.

 

"อืม!"

 

ซือหม่าชิงพยักหน้ารับ.

 

"สหายเฉิง,เจ้าคิดว่าอย่างไร?"ซือหม่าชิงที่จ้องมองไปยังเฉิงไป่อี้.

 

เฉิงไป๋อี้ที่ใบหน้าบิดเบี้ยว,ทว่าก็พยามระงับความโกรธในใจเอาไว้.

 

"อาวุโสหม่า,ท่านสามารถควบคุมแหฟ้าตาข่ายดินได้หรือไม่?"เฉิงไปอี้ที่จ้องมองไปยังอาวุโสชุดม่วงที่ต่อสู้กับอันหวงก่อนหน้านี้.

 

อาวุโสหม่าส่ายหน้าไปมา,"แหฟ้าตาข่ายดินนั้นผู้ก่อตั้งมอบให้กับอาวุโสหวง,ไม่มีใครกล้าร้องขอ,หากว่าต้องหลอมประสานละก็,อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาหกเดือน.

 

ผู้ก่อตั้งเซียนโบราณรึ? ซือหม่าชิงและคนอื่นที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.

 

ใบหน้าของเฉิงไป่อี้ถึงกับกลายเป็นน่าเกียจ,ไม่สามารถงานแหฟ้าตาข่ายดินได้,ไม่สามารถทำอะไรสตรีทั้งสองด้านในได้อย่างงั้นรึ? เช่นนั้นไม่ใช่การคุมขังแล้ว,แต่กลายเป็นม่านป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกนางหรอกรึ?

 

"สหายเฉิง? เป็นไปได้ว่ายกเว้นอาวุโสหวง,ไม่มีใครสามารถใช้งานแหฟ้าตาข่ายดินได้อย่างงั้นรึ?"ซือหม่าชิงที่สอบถามออกไป.

 

เฉิงไปอี้ถึงกับพูดไม่ออก,ทว่าก็พยักหน้ารับ.

 

ทุกคนที่อยู่ในสภาพอักอ่วน,ไม่สามารถใช้พลังขู่เข็ญเซิ่งหวังไท่ชูได้แล้ว,คาดไม่ถึงเลยว่าสถานการณ์จะแปรเปลี่ยนไปเช่นนี้?

 

"นำอดีตขุนนางมานี้!"ซือหม่าชิงที่ออกคำสั่งในทันที.

 

"โครม!"

 

เหล่าขุนนางของไท่ชูที่ถูกผนึกพลังฝึกตนถูกลากมากลางลานต่อหน้ากรงของเซิ่งหวังไท่ชู.

 

"เซิ่งหวังไท่ชู,บอกมา,โลกจิ้งจอกเปิดอย่างไร! ทุกๆห้าลมหายใจ,ข้าจะสังหารมันหนึ่งคน,จนกว่าจะจะบอกถึงจะหยุด!"ซือหม่าชิงกล่าวออกมาด้วยความพูดที่เปี่ยมไปด้วยจิตสังหาร.

 

แหฟ้าตาข่ายดิน,สตรีทั้งสองด้านในดวงตาเบิกกว้าง,อ้าปากราวจะเอ่ยอะไร,ทว่าก็ไม่มีเสียงออกมา.

 

"ได้เวลา,ฆ่า!"

 

"อ๊าก!!"

 

เสียงร้องน่าสงสารก่อนที่คอจะหลุดจากบ่า.

 

"ซือหม่าชิงเจ้าต้องตายเหมือนหมา!"

 

"ซือหม่าชิงเจ้าสารเลวปิศาจร้าย!"

..................

............

......

 

เสียงของเหล่าขุนนางที่คำรามออกมาเสียงดัง,ทว่าซือหม่าชิงหาได้สนใจ,ทว่ายังคงจ้องมองไปยังแหฟ้าตาข่ายดิน.

 

ที่ด้านใน,กงจูจิวเหว่ยที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว,ใบหน้าที่แดงซาน,อ้าปากเหมือนจะพูดแต่ไม่มีเสียงออกมา.

 

"สังหารต่อไป!"

 

"ช้าก่อน!"อาวุโสหม่าที่เอ่ยออกมาในทันที.

 

ทุกคนต่างก็จ้องมองไปยังอาวุโสหม่า!

 

ใบหน้าของอาวุโสหม่าที่ซับซ้อนแปลกๆ,จดจ้องมองไปยังแหฟ้าตาข่ายดินและกล่าวออกมาว่า,"ดูเหมือนพวกเขาจะพูดแต่เสียงนั้นไม่สามารถผ่านออกมาได้."

 

ทุกคน"...................!”

 

"เอาล่ะ,ไม่จำเป็นต้องถามแล้ว,ข้ายังมีวิธีเปิดโลกจิ้งจอก!"เฉินซิ่วที่อยู่ข้างๆครุ่นคิดและกล่าวออกมา.

 

"เซียนเซิงมีวิธีอย่างงั้นรึ?"ดวงตาของซือหม่าชิงเป็นประกาย.

 

"ใช่,หลายปีมานี้ข้าได้เฝ้ามองฮวงจุ้ยของชิงชิว,สามารถที่จะเปิดมันได้ด้วยการเสียสละอะไรบางอย่าง!"เฉินซิ่วครุ่นคิดและกล่าวออกมา.

 

"อะไร?"

 

"ข้าสามารถที่จะเปิดโลกจิ้งจอกได้ด้วยอำนาจฮวงจุ้ย,ทว่าจำเป็นต้องใช้วาสนาบนท้องฟ้าทั้งหมด,และประชาชนทั่วทั้งเมือง!"เฉินซิ่วกล่าวออกมาเบาๆ.

 

เฉินซิ่วที่กล่าวออกมาอย่างใจเย็น,ทว่าคนอื่นที่ลอบสั่นสะท้านในใจ,ใช้วาสนาทั้งหมด,และประชาชนทั่วเมืองอย่างงั้นรึ?

 

ทุกคนที่ขมวดคิ้วแน่น,ท้ายที่สุดก็จ้องมองไปยังซือหม่าชิง.

 

แววตาของซือหม่าชิงที่เปลี่ยนเป็นมืดคลึ้ม,ครุ่นคิดและกล่าวออกมาว่า,"ตกลง,รบกวนเซียนเซิงด้วย!"

 

"อืม!"เฉินซิ่วพยักหน้ารับ.

-----------------------------------------------------------------------------

 

หลังจากนั้นสามวัน,ที่ด้านนอกชิงชิว,จงซานที่นำอาวุโสเทียน,เดินทางด้วยความเร็วสูงสุดท้ายที่สุดก็มาถึง!

 

ทว่าก่อนที่จะเข้าไปในชิงชิว,จงซานและอาวุโสเทียนที่หยุดลง,พร้อมกับจ้องมองเข้าไปด้านใน,แววตาที่เต็มไปด้วยท่าทางหวาดผวา.

 

นี่คือชิงชิวอย่างงั้นรึ?

 

จากที่ไกลออกไป,ได้ยินเสียงดังโหยหวน,เจ็บปวดทรมาน.

 

"อ๊ากกกก~~~~~~~~~! ”

 

"ช่วยด้วย~~~~~~~!”

 

"ฮืออออ~~~~~!”

..................

............

......

 

ทั่วทั้งชิงชิวเวลานี้ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกโลหิต,นอกจากนี้ภายในหมอโลหิตนั้น,ยังเต็มไปด้วยเสียงโหยหวน,ศพโลหิตมากมาย,ที่ไม่สามารถกลายเป็นวิญญาณเพื่อเกิดใหม่ได้.

 

ทั่วทั้งชิงชิวได้กลายเป็นนรกบนดินไปแล้ว,บนท้องฟ้า,เมฆที่มืดคลึ้ม,เมฆสายฟ้ามากมายที่ส่องประกายวับวาว,ทว่าบรรยากาศรอบๆกับเต็มไปด้วยความมืดมิด.

 

นี่มัน?

 

จงซานแทบไม่อยากเชื่อกับภาพฉากที่อยู่ตรงหนา,เป็นใครกัน? ที่ใจกล้ายิ่งนัก,ประชาชนกว่า 80 ล้านคนภายในชิงชิว,ถูกนำมาหลอมอย่างงั้นรึ? เป็นกรรมก้อนใหญ่นัก!

 

"อาวุโสเทียน,พอจะจำอะไรได้หรือไม่?"จงซานสอบถามออกไป.

 

ใบหน้าของอาวุโสเซียนที่กลายเป็นซับซ้อนกระตุกไปมา,ท้ายที่สุดก็กล่าวออกมาด้วยความอัศจรรย์ใจ,"เซิ่งหวัง,ท่านมั่นใจว่าที่อยู่ด้านในนั้นก็ผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยเฉินซิ่ว?"

 

"มีอะไรอย่างงั้นรึ?"

 

"ไม่เหมือน,ไม่ถูกต้องนัก!"อาวุโสเทียนที่ส่ายหน้าไปมา.

 

"มี่เหมือนตรงใหนอย่างงั้นรึ?"

 

"นี่คือค่ายกลฮวงจุ้ยที่ร้ายกาย,ไม่ควรจะเป็นเฉินซิ่วเป็นคนจัดเตรียม,มันเป็นค่ายกลฮวงจุ้ยบรรพกาล,เทพปิศาจ 24 สวรรค์!"อาวุโสเทียนกล่าว.

 

"เทพปิศาจ 24 สวรรค์อย่างงั้นรึ? ค่ายกลบรรพกาล? สืบทอดมาจากโบราณหรือไม่? หรือว่ามันมีมาแต่โบราณแล้ว?"จงซานที่เต็มไปด้วยความสงสัย.

 

อาวุโสเทียนที่จ้องมองไปยังจงซาน,พยักหน้ารับและกล่าวออกมาว่า,"ค่ายกลนี้,ตามบันทึกของตระกูลเทียนนั้น,ซึ่งมีบันทึกเอาไว้ในโลกใบใหญ่,ขณะที่ตระกูลเทียนสาขาหลักถดถอยนั้น,ได้ถอยออกมาเก็บตัว,มันก็ได้หายไปพร้อมกับพวกเรา,ตามข่าวลือมันได้สูญหายไปเรียบร้อยแล้ว,ทว่ามันมาปรากฏในมือของเฉินซิ่วได้อย่างไร?"

 

จงซานพยักหน้ารับ.

 

"คิดว่าอย่างไร?"จงซานที่จ้องมองสอบถามหวนจี,เพราะว่าใบหน้าของนางเวลานี้ดูจริงจังเป็นอย่างมาก.

 

"เป็นพลังปิศาจที่หนักหน่วงรุนแรงนัก!"หวนจีกล่าว.

 

"ปิศาจ?"

 

"พลังปิศาจนี้เหมือนข้าเคยเห็นมาก่อน!"หวนจีที่ขมวดคิ้วไปมาราวกับกำลังครุ่นคิด.

 

"ขอข้าคิดสักหน่อย!"

 

"อะไร?"

 

"นี่เป็นคำสาป,เป็นคำสาปที่ทรงพลังมาก,ก่อนหน้านี้ข้าเคยเห็นเห่าเม่ยหลี่ใช้พลังคำสาป,พลังปิศาจนี้,เมื่อเมื่อครั้งที่นางใช้คำสาปเลย,นอกจากนี้ยังมากมายมหาศาล,มีจำนวนมาก! เป็นคำสาปที่ทรงพลังนัก!"หวนจีที่เอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ.

----------------------------------

 

จงซานที่ไม่สามารถมองลึกเข้ามาในชิงชิวได้,ทว่าภายในวังหลวงเวลานี้,ขณะที่เฉินซิ่วกำลังดำเนินการนั้น,ทุกคนที่เห็นกำลังตื่นตะลึงเป็นอย่างมา.

 

ร่างของเหล่าขุนนางเวลานี้สั่นไปด้วยความหวาดกลัว,เฉิงไป่อี้ที่เผยท่าทางอัศจรรย์ใจออกมา,จดจ้องมองอาวุโสหม่า,ด้วยแววตาที่จริงจัง.

 

สามวันสามคืน,วาสนาและหมอกโลหิตที่หมุนวนไปมา,ก่อนที่มันจะเปิดทางเข้าขึ้นบนอากาศขึ้นมา.

 

ทางเข้าที่ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ,วาสนาที่ใช้ไปมากขึ้นและก็มากขึ้น,รวมทั้งเลือดเนื้อโลหิตของประชาชนทั่วชิงชิว,แม้แต่ดวงวิญญาณเองก็ถูกผลาญ,เพื่อสร้างทางเข้านี้ขึ้นมา.

 

ขณะที่ทางเข้าถูกเปิดขึ้นมานั้น,แววตาของซือหม่าชิงเผยท่าทางตื่นเต้นดีใจ.

 

ที่ทางเข้านั้น,หมอกสีดำทมิฬที่พวยพุ่งแผ่พุ่งออกมา,หมอกสีดำที่ผุดออกมาไม่หยุด,แผ่นออกมาปนกำลับหมอกโลหิตย้อมสีเป็นสีดำ,ปราณทมิฬนั้นดูเหมือนว่าจะทรงพลังน่าเกรงขามมาก.

 

"คำสาป? นี่คือคำสาปเผ่าจิ้งจอกในอดีต?"เฉินซิ่วที่แสดงท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย.

 

"ผนึกในตำนาม,นี่คือผนึกในตำนาน!"ซือหม่าชิงที่กลืนน้ำลายคำโตลงคอ.

 

"ตำนานอะไร?"เฉิงไป่อี้ที่เอ่ยออกมาด้วยความสงสัย.

 

"มีเรื่องเล่าว่า,เผ่าจิ้งจอกนั้นในอดีตได้ล่วงเกินผู้ฝึกตนคำสาปที่น่าเกรงขามเข้า,และผู้ฝึกตนคำสาปใด้ใช้ชีวิตของตัวเอง,สาปเผ่าจิ้งจอกทุกรุ่น,ทำให้เผ่าจิ้งจอกในเทือกเขาชิงชิวนั้น,ถึงกับถดถอยลง,ในเวลานั้น,จื่อจุ้นเผ่าจิ้งจอก,มีความแข็งแกร่งที่ปฐพีสะท้านสวรรค์สะเทือน,ได้จัดการคำสาปนี้,ด้วยการผนึกมันเอาไว้,ด้วยชีวิตของตัวเอง,คาดไม่ถึงเลยว่าจะผนึกมันเอาไว้ในโลกจิ้งจอก,เมื่อโลกจิ้งจอกถูกเปิดขึ้น,คำสาปก็จะกลับมาส่งผลต่อเผ่าจิ้งจอกทั่วหล้าอีกครั้ง."






ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น