Immortality Chapter 687 By feudal official counter Monarch
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 687 ข้าราชบริพารโต้แย้งราชา.
Chapter 687 By feudal official counter Monarch
以臣逆君
ข้าราชบริพารโต้แย้งราชา.
สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว,ตำหนักเทียนหยวน,ห้องอักษร.
จงซานที่นั่งอยู่โต๊ะอักษร,เป่ยชิงซือที่อยู่ด้านข้าง,ที่ด้านหน้านั้นก็คือสุ่ยจิงและก็ยังมีชายหนุ่มในชุดสีขาว,แน่นอนว่านี่ก็คือเส้าเหยี่ยเต่าทมิฬ,กุยเสอ.
"กุยเสอ?
ดูเหมือนว่าพวกเราจะพบกันครั้งที่สองแล้ว!"จงซานกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
จงซานที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น,แน่นอนหากว่าจงซานไม่ต้อนรับเป็นอย่างดี,กุยเสอเองก็ไม่กล้ามาที่นี่,อย่างไรก็ตามจงซานที่เป็นคนตรงไปตรงมา,ไม่ได้มองเห็นพวกเขาเป็นทหารหรือข้ารับใช้เช่นแดนเทพอมตะ,กุยเสอคิดว่าเพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว,ทว่าจงซานนั้นจะให้สถานะพวกเขาได้อย่างเหมาะสมหรือไม่?
"ก่อนหน้านี้,เผ่าเต่าทมิฬของข้านั้นเพิ่งทำพันธะสัญญากับราชวงศ์จักรพรรดิหยินเยว่,ข้าที่เพิ่งเดินทางไปยังราชวงศ์จักรพรรดิหยินเยว่ไม่นาน,คิดที่จะใช้ราชวงศ์กษัตริย์เพื่อใช้เป็นหินรองเท้า,กับความทรงจำที่ชัดเจนนั้นจะไปลืมได้อย่างไร!"กุยเสอที่ฝืนยิ้มออกมา.
"หากหยิงเยว่ไม่ถูกกำจัด,ก็คงไม่มีต้าเจิ้ง,หากหยิงเยว่ยังอยู่,ตัวข้าก็คงไม่ได้มาพบกับเจ้าวันนี้เช่นกัน!"จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
"ชีวิตของคนเรามีคนมีลง!"กุยเสอที่กล่าวออกมาอย่างปลงตก.
"ตอนนี้การที่เห็นเจ้าเดินทางมา,ก็หมายความว่าได้ตัดสินใจแน่วแน่แล้วอย่างงั้นรึ?"จงซานที่จ้องมองไปยังกุยเสอ,กล่าวออกมาไม่อ้อมค้อม.
"ข้าต้องการรับรู้ว่าเจ้าจะมอบสิ่งใดให้กับข้า?
หลังจากนี้เผ่าเต่าทมิฬจะมีสถานะใด? วาจาที่กล่าวออกมานั้นหนักดั่งติ่งทองเก้าชั้นหรือไม่?,ข้าต้องการได้ยินจากปากของเจ้า."กุยเสอที่เอ่ยออกมาไม่ดังและค่อย.
一言九鼎 Yī yán jiǔdǐng คือหนึ่งวาจาหนักดุจติ่งทองเก้าชั้น
จงซานและสุ่ยจิงที่จ้องมองไปยังกุยเสอ,พร้อมกับเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
"ก็ดี,วันนี้ข้าจะได้อธิบายให้เจ้าฟัง!"จงซานกล่าวด้วยรอยยิ้ม.
"อืม!"
"ราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้งนั้นมีอาณาจักรหมาป่าเป็นอาณาจักรคู่บารมีแล้ว,และมีเพียงแค่อาณาจักรเดียว,หากเผ่าเต่าทมิฬเข้าร่วมต้าเจิ้งนั้น,จะมีสถานะเทียบเท่ากับเผ่าหงส์เพลิง,ตราบเท่าที่เผ่าเต่าทมิฬภัคดี,ข้าให้คำมั่นว่า,ตราบเท่าที่ต้าเจิ้งรุ่งโรจน์,เผ่าเต่าทมิฬก็จะรุ่งเรื่องควบคู่ตลอดไป!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความจริงจัง.
กุนเสอที่ขมวดคิ้วไปมาครุ่นคิด.
"เจ้ามีอะไรรับประกัน?"กุยเสอที่คิดและกล่าวออกมา.
"นี่คือฮวงโหวของข้า,เจ้าควรจะเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง,เพื่อนาง,ข้าเร่งรีบวิ่งเข้าไปในกับดักที่ยากจะกลับออกมาได้ของแดนเทพอมตะ!"จงซานที่จ้องมองไปยังเป่ยชิงซือ.
เป่ยชิงซือได้ยินคำพูดของจงซาน,นางมองจงซานด้วยสายตาอ่อนโยนเต็มไปด้วยความอาดูร,ความรู้สึกท่วมท้นยากที่จะปิด.
"อืม!"กุยเสอพยักหน้ารับ.
"นางจะเป็นผู้ทำพันธะสัญญากับเผ่าเต่าทมิฬ,เพียงเท่านี้ยังไม่เพียงพออีกรึ?"จงซานสอบถาม.
"อืม,ตกลง,ข้าให้คำมั่นกับเจ้า!"กุยเสอที่จ้องมองไปยังเป่ยชิงซือ,พยักหน้ารับ.
เมื่อกุยเสอยอมรับข้อเสนอทำให้จงซานเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,"ในเมื่อยอมรับที่จะเป็นพันธะมิตรกับต้าเจิ้ง,ความจริงแล้วเจ้ามีคำพูดใดต้องการจะกล่าวอย่างงั้นรึ?"
"??เฮ้เฮ้,
สมกับคำพูดของราชันย์ต้าเจิ้งที่ยิ่งกว่าอสูรกายความสามารถ! เรื่องทุกอย่างดูเหมือนว่าจะรับรู้มาก่อนแล้ว,ที่จริงแล้ว,การเดินทางมาครั้งนี้,ก็เพราะจื่อจุ้นให้แสร้งยอมรับข้อเสนอ!"กุยเสอที่เผยยิ้มออกมา.
"เจ้าเข้าใจผิดแล้ว,เจ้าแสร้งยอมรับ,มันดูไม่เหมือนเลย,ดูเหมือนว่าเจ้าจะเต็มใจมากกว่า!"จงซานที่กล่าวพลางมองไปยังสุ่ยจิง.
กุยเสอที่จ้องมองสุ่ยจิงด้วยความประหลาดใจ,พลางถอนหายใจเบาๆ,"เซียนเซิงสุ่ยจิงช่างมากความสามารถนัก! บางทีตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว,จนถึงตอนนี้,ทุกอย่างเป็นไปตามเส้นที่เซียนเซิงเซิงสุ่ยจิงได้ขีดเอาไว้แล้วสินะ."
"ทุกอย่างเป็นที่เจ้าตัดสินใจ,ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับข้าเลย! กุยโซวจะคิดอย่างไรนั้นหาได้ใช่เรื่องสำคัญ,สิ่งสำคัญคือเป็นเจ้าต้องการเป็นพันธะมิตรกับต้าเจิ้งก็เพียงพอแล้ว!"สุ่ยจิงที่สะบัดพัดไปมาขณะพูด.
"แล้วพวกเราต้องทำอย่างไรดี?"กุยเสอที่จดจ้องมองไปยังจงซาน.
"เผ่าเต่าทมิฬ,มีคนมากมายขนาดใหนที่จงรักภัคดีต่อเจ้า?"จงซานสอบถาม.
"หนึ่งในสามที่ภัคดีต่อข้า,ไม่ต้องการมีส่วนสัมพันธ์กับแดนเทพอมตะ,หนึ่งในสามที่ซื่อสัตย์ต่อจื่อจุ้น,และที่เหลือยังไม่ตัดสินใจ!"กุยเสอที่ครุ่นคิดและตอบ.
"อืม,งั้นคนที่ยังลังเลใจจะให้สุ่ยจิงเป็นคนชักชวนพวกเขาก็แล้วกัน,ส่วนคนที่ซื่อสัตย์ต่อกุยโซว,จำเป็นต้องหลบเลี่ยงแผนการไปจากสายตาของพวกเขา!"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"อืม!"
"สุ่ยจิง,เจ้าไปจัดการเรื่องนี้ก็แล้วกัน,ดูเหมือนว่าการต่อสู้ที่รุนแรงหนักหน่วงกำลังจะเริ่มในไม่ช้านี้!"
"ครับ!"สุ่ยจิงพยักหน้ารับ.
..
"การต่อสู้ที่หนักหน่วงรุนแรงคงจะเริ่มขึ้นเร็วนี้!"
วันถัดมาในห้องอักษร,อี้เหยี่ยนที่รายงานเรื่องดังกล่าวนี้ต่อจงซาน!
"การต่อสู้ที่รุนแรง?
สี่ราชวงศ์ราชันย์กำลังเข้าล้อมกรอบอย่างงั้นรึ?"จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
"สี่ราชวงศ์ราชันย์,เคลื่อนทัพออกมา,ดูเหมือนว่าจะต้องการแบ่งแยกดินแดนของต้าเจิ้งของพวกเรา!"อี้เหยี่ยนที่พยักหน้า.
"สิบปีที่แล้ว,ข้าคอยเฝ้ามองอย่างระมัดระวัง,ตอนนี้เคลื่อนไหวแล้วรึ?"จงซานกล่าวด้วยความเหยียดหยัน.
"ทว่าดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีแดนเทพอมตะคอยชักไยอยู่,น่าจะบอกว่าสี่ราชวงศ์ราชันย์นี้เป็นหุ่นเชิดของแดนเทพอมตะก็ว่าได้!"อี้เหยี่ยนที่ขมวดคิ้วไปมา.
"แดนเทพอมตะ?
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานจริงๆ!
อย่างไรก็ตามข้ารู้สึกวางใจที่เกิดขึ้นในยุคแห่งความวุ่นวาย,ข้าไม่เพียงแต่ได้เขตแดนของราชวงศ์ราชันย์ปิงเฟิงมา,และยังมีเขตแดนต้าเจิ้งเดิม,ข้าสามารถยืมพลังฟ้าดินของต้าเจิ้งทั่วหล้าได้,ภายใต้แผ่นดินนี้,ใครจะสามารถทำร้ายข้าได้กัน."จงซานที่กล่าวด้วยความมั่นใจ.
"อืม!"
"การเผชิญหน้ากับราชวงศ์ราชันย์ทั้งสี่,ข้าได้ให้สุ่ยจิงเตรียมการแล้ว,ส่วนเรื่องด่วนคือแผนการกลืนกินปลาตัวใหญ่,ต้องเร่งรีบให้มันเร็วขึ้นกว่านี้!"จงซานกล่าว.
"ครับ,แผนการกลืนปลาตัวใหญ่นั้น,ตอนนี้เป็นไปด้วยความราบรื่น,ไม่,ต้องบอกว่ามันราบรื่นเป็นอย่างมาก,ครึ่งปีหลังจากนี้,จะต้องไม่มีใครกล้าถอยห่างจากเครือข่าย,แม้นแต่สามัญชนทั่วไปยังถูกสร้างเป็นลูกข่าย,เก้าระดับสามระบบ,เสนาบดีของราชวงศ์ราชันย์นั้นได้รับผลตอบแทนสูงมาก,ในวันหนึ่งนั้นเขามีรายรับหลายล้านศิลาวิญญาณระดับสูง,หลายร้อยล้านศิลาวิญญาณระดับต่ำ,ในแต่ละวันได้กำไรมากมายนับไม่ถ้วน,ใครกันจะไม่อยากสนับสนุนพวกเรา?
ด้วยกฎเกณฑ์ที่รัดกุมนี้,เป็นการหารายได้ที่น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก! เหล่าเสนาธิการต่างๆเองต่างก็มีรายได้และอำนาจมากขึ้น,ตอนนี้พวกเขาเริ่มเห็นความสำคัญ,และคนหาลูกข่ายอย่างบ้าคลั่ง,กับรายได้ที่มากขึ้น,และยังเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆอีกด้วย!"อี้เหยี่ยนที่กล่าวพลางถอนหายใจ.
"อืม,ที่ข้าต้องการเร่งให้เร็วขึ้นนั้น,ข้ารู้สึกว่ามีบางคนมองเห็นแผนการกลืนปลาตัวใหญ่แล้ว!"จงซานครุ่นคิดและกล่าวออกมา.
"หืม? ใคร?
เป็นไปได้ด้วยรึ?"อี้เหยี่ยนที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ทางเหนือ!"
"ต้าฉิน,ลู่ปู้เหว่ย?"อี้เหยี่ยนที่ขมวดคิ้วไปมา.
"อืม!"
"ฝ่าบาทโปรดวางใจเฉินจะเร่งดำเนินการให้เร็วขึ้น!"อี้เหยี่ยนพยักหน้า.
"อืม,เจ้าและสุ่ยจิง,ไม่จำเป็นต้องจัดการพันธะกิจอื่นที่สวนลอยฟ้าหลิงเซียวก็ได้,ไปจัดการเรื่องเร่งด่วนนี้ก่อน!"จงซานกล่าว.
"รับด้วยเกล้า!"
............
ทางตะวันออกของต้าเจิ้ง,ราชวงศ์ราชันย์ตงหลิง,ภายในท้องพระโรง.
"เรียนฝ่าบาท,ต้าเจิ้งนั้นมีพลังรบสูงมาก,ราชวงศ์ของพวกเรายกทัพในตอนนี้,ดูเหมือนว่าจะดูไม่เหมาะสม,อีกทั้งพวกเราจะต้องลอบมองราชวงศ์ราชันย์รอบๆนี้อีกด้วย,ในเวลานั้นหากว่าไม่สามารถล้มต้าเจิ้งได้,จะเป็นพวกเราเองที่จะได้รับอันตราย!"เสนาบดีที่กล่าวรายงาน.
"ท่านเสนาบดีไม่เห็นด้วยอย่างงั้นรึ?"ราชวงศ์ราชันย์ตงหลินเอ่ยปากออกมา.
"ฝ่าบาท,ราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้งนั้นมีพรมแดนติดกับพวกเรา,ไม่ช้าก็เร็วจะต้องทำสงคราม,ต้าเจิ้งนั้นทรงพลัง,หลังจากนี้ก็จะยิ่งทรงพลังขึ้นไปอีก,หากว่าไม่บุกตอนนี้ก็จะไม่มีโอกาสได้บุกอีกแล้ว."ชายอีกคนที่กล่าวแย้งออกมา.
"ไท่จื่อกล่าวมามีเหตุผล,แล้วคนอื่นล่ะมีความเห็นอย่างไร?"ราชันย์ตงหลินที่กล่าวสอบถามออกไป.
"เฉินเห็นด้วยเหมือนกับไท่จื่อ,ควรก่อสงคราม!"
"เฉินเห็นพ้องกับท่านเสนาบดี,ไม่ควรก่อสงคราม!"
"เฉินเห็นพ้องกับท่านเสนาบดี,ไม่ควรก่อสงคราม!"
"ไม่ก่อนสงคราม!"
"ไม่ก่อนสงคราม!"
..............................
..................
......
ในท้องพระโรงที่กลายเป็นเรื่องที่แปลกประหลาด,มีเพียงส่วนน้อยที่เห็นด้วย,ข้าราชบริพารส่วนมากคาดไม่ถึงเลยว่าไม่ต้องการก่อสงคราม?แววตาของราชันย์ตงหลิงที่แสดงท่าทางสงสัย,นี่คือข้าราชบริพารของข้าอย่างงั้นรึ?
ก่อนหน้านี้เต็มไปด้วยความอหังการต้องการสงคราม,เวลานี้กลับกลายเป็นขลาดเขลาไปแล้ว?
"ข้าตัดสินใจที่จะก่อสงคราม!"ราชันย์ตงหลิงกล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.
"ฝ่าบาทโปรดใคร่ครวญ!"เสนาบดีที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
"ฝ่าบาทโปรดใคร่ครวญอีกครั้ง!"เหล่าเสนาบดีมากมายที่กล่าวออกมาเสียงดัง.
ข้าราชบริพารโต้แย้งราชารึ?สายตาของราชันย์ตงหลิงที่ปรากฏแววตาที่เย็นชาออกมา,ทำไมพวกเขาถึงไม่ยินดีที่จะให้เขายกทัพออกไปจัดการต้าเจิ้งกัน?
"ชิ!"ราชันย์ตงหลินที่แค่นเสียงและออกจากห้องโถงไป.
เหล่าข้าราชบริพารเองก็เริ่มออกจากห้องโถงเช่นกัน,มีเหล่าขุนนางที่แบ่งแยกออกเป็นกลุ่มเล็กๆพร้อมกับเดินทางไปยังตำหนักของเสนาบดี,ในเวลานี้มีคนกว่า
7-8 คนทีเดียว.
"ท่านเสนาบดี,พวกเราควรจะห้ามฝ่าบาทเอาไว้,หากว่าเกิดสงครามก็จะเกิดความวุ่นวายขึ้น,ลูกข่ายของพวกเราจะต้องได้รับผล,การเพิ่มลูกข่ายเองก็ยากจะทำได้,รายได้ของพวกเราจากนี้จะเป็นอย่างไร?
อีกอย่าง,หากเกิดความวุ่นวายด้วยสงครามแล้ว,หยกเฟิงหลิงก็ต้องขาดตลาด,ก็เหมือนกับเชือดคอหอยของพวกเราเลย!"ขุนนางคนหนึ่งที่กล่าวด้วยความร้อนใจ.
"เสนาบดี,พวกเราผลิตหยกเฟิงหลิเองดีหรือไม่?
เรื่องนี้ไม่น่าจะยาก!"
"ไปไปได้ยาก,สินค้าชิ้นนี้ผลิตได้อย่างลำบาก,หากพวกเราผลิตเองอาจจะสูญเสียความเชื่อใจ,เพราะทุกคนจะรับรู้ว่าเป็นของปลอมได้ทันที,และหากเรื่องนี้มีคนอื่นรู้จะล้มทั้งกระดาน,ใครกันจะกล้าทำ?
ไม่ได้กลายเป็นว่าแหล่งรายได้ของพวกเราหายไปทั้งหมดหรอกรึ? เหล่าสมาชิกทั้งหมดเอง,ย่อมสามารถตรวจสอบได้อย่างง่ายดายด้วยสัมผัสเทวะ,บอกได้ทันทีว่าเป็นของปลอมหรือไม่?
จากนั้นลูกข่ายของพวกเรา,จะต้องแยกตัวออกไป,รายได้ที่พวกเราสะสมมาทั้งหมดต้องมลายหายสิ้นทันที"เสนาบดีกล่าว.
"อืม,เรื่องด่วนในตอนนี้,จะทำอย่างไรให้การต่อสู้สงครามในครั้งนี้มีขนาดเล็กที่สุด,ทางที่ดีอย่าได้ทำให้เกิดความวุ่นวายเกิดขึ้น!"
"อืม!"
ด้วยเหตุนี้จิตสังหารกระแสธารแห่งความฮึกเหิมในการสงคราม,ก็ถูกเปลี่ยนแปลงด้วยความหวั่นเกรงในผลประโยชน์ที่จะหายไป,กับสงครามที่ควรจะรุนแรงหนักหน่วง,หากแต่ทหารกับไร้ซึ่งจิตใจความเป็นหนึ่งอันเดียวของกองทัพทั้งหมดที่สูญเสียไป,เรื่องนี้ยังจะทำให้พวกเขาทรงพลังได้ขนาดใหนกัน?
สำหรับราชวงศ์ราชันย์อีกสามแห่งรอบๆต้าเจิ้งเอง,ก็ประสบสถานการณ์คล้ายๆกัน,เหล่าข้าราชบริพารต่างก็ขัดขืนที่จะก่อสงคราม,ขุนนางโต้แย้งราชา,เมื่อเกิดความขัดแย้งก็ทำให้ความเคารพนับถือที่มีต่อราชันย์นั้นอยู่ในสภาวะย่ำแย่!
อย่างไรก็ตาม,สี่ราชวงศ์ราชันย์ที่ถูกสั่งการมา,ได้ระบุวันเวลาที่แน่นอน,เพื่อเข้าโจมตีสถานที่เดียวกัน,ตอนนี้ได้เข้าประชิดชายแดนของต้าเจิ้ง,พร้อมที่จะเปิดศึกอย่างเป็นทางการแล้ว.
จงซานได้ส่งสุ่ยจิงออกมาจัดการเรื่องนี้,ส่วนตัวเขานั้นรอคอยอยู่ที่สวนสวรรค์รอยฟ้าหลิงเซียว,และวางแผนรับมือกับเต๋าจวินเซิ่งหย๋าอยู่.
เป็นเรื่องที่แน่นอน,สองเดือนหลังจากที่สี่ราชวงศ์ราชันย์เริ่มก่อสงครามต่อต้าเจิ้ง,เต๋าจวินเซิ่งหย๋าก็นำเหล่าผู้ฝึกตนสวรรค์แท้,ตรงมายังสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวด้วยตัวเอง.
นี่เป็นอีกหนึ่งแผนการที่พวกเขาเคยใช้เพื่อจัดการเนี่ยฟ่านเฉิน,พร้อมป้องกันสกัดทางหนีไปด้วยพร้อมๆกัน.
มีคนทั้งหมดเจ็ดคน,เต๋าจวินเซิ่งหย๋า,นวีชิงเฮวย,กุยโซวและสี่อาวุโสของแดนเทพอมตะ.
"ท่านประมุข,พวกเราขาดกระบี่ลู่เซียน,ข้าและคนอื่นบางที.........!"อาวุโสคนหนึ่งที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เพียงแค่สร้างกับดัก,แค่กระบี่ซียนทีเหลือก็เพียงพอแล้ว,ส่วนกระบี่ลู่เซียน,ข้าจะประจำทิศใต้จะใช้พลังตัวเองทดแทนกระบี่ลู่เซียนเอง!"เต๋าจวินเซิ่งหย๋ากล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ขอรับ!"อาวุโสที่รับคำไม่กล่าวแย้งอีกต่อไป.
ขณะที่ยอดฝีมือทั้งเจ็ดเดินทางมายังถึงสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว,ภายในตำหนักซ่างเฉิน.
จงซานที่นั่งบนบัลลังก์มังกร,ดวงตาที่ยังคงหลับอยู่ไม่ได้กล่าวสิ่งใด,นิ้วที่เคาะไปที่พนักบัลลังก์มังกรเบาๆ,เหล่าเสนาธิการที่ยังคงรอคอยอย่างเงียบงัน,ทันใดนั้นที่กลางห้องโถงกก็ปรากฏตี้เสวียนชาก้าวเข้ามาทันที.
"มาแล้วรึ?"จงซานลืมตาขึ้นมาในทันที.
"มาแล้ว,เจ็ดผู้ฝึกตนสวรรค์แท้!"ตี้เสวียนชาพยักหน้า.
Chapter 687 By feudal official counter Monarch
以臣逆君
ข้าราชบริพารโต้แย้งราชา.
สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว,ตำหนักเทียนหยวน,ห้องอักษร.
จงซานที่นั่งอยู่โต๊ะอักษร,เป่ยชิงซือที่อยู่ด้านข้าง,ที่ด้านหน้านั้นก็คือสุ่ยจิงและก็ยังมีชายหนุ่มในชุดสีขาว,แน่นอนว่านี่ก็คือเส้าเหยี่ยเต่าทมิฬ,กุยเสอ.
"กุยเสอ?
ดูเหมือนว่าพวกเราจะพบกันครั้งที่สองแล้ว!"จงซานกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
จงซานที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น,แน่นอนหากว่าจงซานไม่ต้อนรับเป็นอย่างดี,กุยเสอเองก็ไม่กล้ามาที่นี่,อย่างไรก็ตามจงซานที่เป็นคนตรงไปตรงมา,ไม่ได้มองเห็นพวกเขาเป็นทหารหรือข้ารับใช้เช่นแดนเทพอมตะ,กุยเสอคิดว่าเพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว,ทว่าจงซานนั้นจะให้สถานะพวกเขาได้อย่างเหมาะสมหรือไม่?
"ก่อนหน้านี้,เผ่าเต่าทมิฬของข้านั้นเพิ่งทำพันธะสัญญากับราชวงศ์จักรพรรดิหยินเยว่,ข้าที่เพิ่งเดินทางไปยังราชวงศ์จักรพรรดิหยินเยว่ไม่นาน,คิดที่จะใช้ราชวงศ์กษัตริย์เพื่อใช้เป็นหินรองเท้า,กับความทรงจำที่ชัดเจนนั้นจะไปลืมได้อย่างไร!"กุยเสอที่ฝืนยิ้มออกมา.
"หากหยิงเยว่ไม่ถูกกำจัด,ก็คงไม่มีต้าเจิ้ง,หากหยิงเยว่ยังอยู่,ตัวข้าก็คงไม่ได้มาพบกับเจ้าวันนี้เช่นกัน!"จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
"ชีวิตของคนเรามีคนมีลง!"กุยเสอที่กล่าวออกมาอย่างปลงตก.
"ตอนนี้การที่เห็นเจ้าเดินทางมา,ก็หมายความว่าได้ตัดสินใจแน่วแน่แล้วอย่างงั้นรึ?"จงซานที่จ้องมองไปยังกุยเสอ,กล่าวออกมาไม่อ้อมค้อม.
"ข้าต้องการรับรู้ว่าเจ้าจะมอบสิ่งใดให้กับข้า?
หลังจากนี้เผ่าเต่าทมิฬจะมีสถานะใด? วาจาที่กล่าวออกมานั้นหนักดั่งติ่งทองเก้าชั้นหรือไม่?,ข้าต้องการได้ยินจากปากของเจ้า."กุยเสอที่เอ่ยออกมาไม่ดังและค่อย.
一言九鼎 Yī yán jiǔdǐng คือหนึ่งวาจาหนักดุจติ่งทองเก้าชั้น
จงซานและสุ่ยจิงที่จ้องมองไปยังกุยเสอ,พร้อมกับเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
"ก็ดี,วันนี้ข้าจะได้อธิบายให้เจ้าฟัง!"จงซานกล่าวด้วยรอยยิ้ม.
"อืม!"
"ราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้งนั้นมีอาณาจักรหมาป่าเป็นอาณาจักรคู่บารมีแล้ว,และมีเพียงแค่อาณาจักรเดียว,หากเผ่าเต่าทมิฬเข้าร่วมต้าเจิ้งนั้น,จะมีสถานะเทียบเท่ากับเผ่าหงส์เพลิง,ตราบเท่าที่เผ่าเต่าทมิฬภัคดี,ข้าให้คำมั่นว่า,ตราบเท่าที่ต้าเจิ้งรุ่งโรจน์,เผ่าเต่าทมิฬก็จะรุ่งเรื่องควบคู่ตลอดไป!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความจริงจัง.
กุนเสอที่ขมวดคิ้วไปมาครุ่นคิด.
"เจ้ามีอะไรรับประกัน?"กุยเสอที่คิดและกล่าวออกมา.
"นี่คือฮวงโหวของข้า,เจ้าควรจะเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง,เพื่อนาง,ข้าเร่งรีบวิ่งเข้าไปในกับดักที่ยากจะกลับออกมาได้ของแดนเทพอมตะ!"จงซานที่จ้องมองไปยังเป่ยชิงซือ.
เป่ยชิงซือได้ยินคำพูดของจงซาน,นางมองจงซานด้วยสายตาอ่อนโยนเต็มไปด้วยความอาดูร,ความรู้สึกท่วมท้นยากที่จะปิด.
"อืม!"กุยเสอพยักหน้ารับ.
"นางจะเป็นผู้ทำพันธะสัญญากับเผ่าเต่าทมิฬ,เพียงเท่านี้ยังไม่เพียงพออีกรึ?"จงซานสอบถาม.
"อืม,ตกลง,ข้าให้คำมั่นกับเจ้า!"กุยเสอที่จ้องมองไปยังเป่ยชิงซือ,พยักหน้ารับ.
เมื่อกุยเสอยอมรับข้อเสนอทำให้จงซานเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,"ในเมื่อยอมรับที่จะเป็นพันธะมิตรกับต้าเจิ้ง,ความจริงแล้วเจ้ามีคำพูดใดต้องการจะกล่าวอย่างงั้นรึ?"
"??เฮ้เฮ้,
สมกับคำพูดของราชันย์ต้าเจิ้งที่ยิ่งกว่าอสูรกายความสามารถ! เรื่องทุกอย่างดูเหมือนว่าจะรับรู้มาก่อนแล้ว,ที่จริงแล้ว,การเดินทางมาครั้งนี้,ก็เพราะจื่อจุ้นให้แสร้งยอมรับข้อเสนอ!"กุยเสอที่เผยยิ้มออกมา.
"เจ้าเข้าใจผิดแล้ว,เจ้าแสร้งยอมรับ,มันดูไม่เหมือนเลย,ดูเหมือนว่าเจ้าจะเต็มใจมากกว่า!"จงซานที่กล่าวพลางมองไปยังสุ่ยจิง.
กุยเสอที่จ้องมองสุ่ยจิงด้วยความประหลาดใจ,พลางถอนหายใจเบาๆ,"เซียนเซิงสุ่ยจิงช่างมากความสามารถนัก! บางทีตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว,จนถึงตอนนี้,ทุกอย่างเป็นไปตามเส้นที่เซียนเซิงเซิงสุ่ยจิงได้ขีดเอาไว้แล้วสินะ."
"ทุกอย่างเป็นที่เจ้าตัดสินใจ,ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับข้าเลย! กุยโซวจะคิดอย่างไรนั้นหาได้ใช่เรื่องสำคัญ,สิ่งสำคัญคือเป็นเจ้าต้องการเป็นพันธะมิตรกับต้าเจิ้งก็เพียงพอแล้ว!"สุ่ยจิงที่สะบัดพัดไปมาขณะพูด.
"แล้วพวกเราต้องทำอย่างไรดี?"กุยเสอที่จดจ้องมองไปยังจงซาน.
"เผ่าเต่าทมิฬ,มีคนมากมายขนาดใหนที่จงรักภัคดีต่อเจ้า?"จงซานสอบถาม.
"หนึ่งในสามที่ภัคดีต่อข้า,ไม่ต้องการมีส่วนสัมพันธ์กับแดนเทพอมตะ,หนึ่งในสามที่ซื่อสัตย์ต่อจื่อจุ้น,และที่เหลือยังไม่ตัดสินใจ!"กุยเสอที่ครุ่นคิดและตอบ.
"อืม,งั้นคนที่ยังลังเลใจจะให้สุ่ยจิงเป็นคนชักชวนพวกเขาก็แล้วกัน,ส่วนคนที่ซื่อสัตย์ต่อกุยโซว,จำเป็นต้องหลบเลี่ยงแผนการไปจากสายตาของพวกเขา!"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"อืม!"
"สุ่ยจิง,เจ้าไปจัดการเรื่องนี้ก็แล้วกัน,ดูเหมือนว่าการต่อสู้ที่รุนแรงหนักหน่วงกำลังจะเริ่มในไม่ช้านี้!"
"ครับ!"สุ่ยจิงพยักหน้ารับ.
..
"การต่อสู้ที่หนักหน่วงรุนแรงคงจะเริ่มขึ้นเร็วนี้!"
วันถัดมาในห้องอักษร,อี้เหยี่ยนที่รายงานเรื่องดังกล่าวนี้ต่อจงซาน!
"การต่อสู้ที่รุนแรง?
สี่ราชวงศ์ราชันย์กำลังเข้าล้อมกรอบอย่างงั้นรึ?"จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
"สี่ราชวงศ์ราชันย์,เคลื่อนทัพออกมา,ดูเหมือนว่าจะต้องการแบ่งแยกดินแดนของต้าเจิ้งของพวกเรา!"อี้เหยี่ยนที่พยักหน้า.
"สิบปีที่แล้ว,ข้าคอยเฝ้ามองอย่างระมัดระวัง,ตอนนี้เคลื่อนไหวแล้วรึ?"จงซานกล่าวด้วยความเหยียดหยัน.
"ทว่าดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีแดนเทพอมตะคอยชักไยอยู่,น่าจะบอกว่าสี่ราชวงศ์ราชันย์นี้เป็นหุ่นเชิดของแดนเทพอมตะก็ว่าได้!"อี้เหยี่ยนที่ขมวดคิ้วไปมา.
"แดนเทพอมตะ?
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานจริงๆ!
อย่างไรก็ตามข้ารู้สึกวางใจที่เกิดขึ้นในยุคแห่งความวุ่นวาย,ข้าไม่เพียงแต่ได้เขตแดนของราชวงศ์ราชันย์ปิงเฟิงมา,และยังมีเขตแดนต้าเจิ้งเดิม,ข้าสามารถยืมพลังฟ้าดินของต้าเจิ้งทั่วหล้าได้,ภายใต้แผ่นดินนี้,ใครจะสามารถทำร้ายข้าได้กัน."จงซานที่กล่าวด้วยความมั่นใจ.
"อืม!"
"การเผชิญหน้ากับราชวงศ์ราชันย์ทั้งสี่,ข้าได้ให้สุ่ยจิงเตรียมการแล้ว,ส่วนเรื่องด่วนคือแผนการกลืนกินปลาตัวใหญ่,ต้องเร่งรีบให้มันเร็วขึ้นกว่านี้!"จงซานกล่าว.
"ครับ,แผนการกลืนปลาตัวใหญ่นั้น,ตอนนี้เป็นไปด้วยความราบรื่น,ไม่,ต้องบอกว่ามันราบรื่นเป็นอย่างมาก,ครึ่งปีหลังจากนี้,จะต้องไม่มีใครกล้าถอยห่างจากเครือข่าย,แม้นแต่สามัญชนทั่วไปยังถูกสร้างเป็นลูกข่าย,เก้าระดับสามระบบ,เสนาบดีของราชวงศ์ราชันย์นั้นได้รับผลตอบแทนสูงมาก,ในวันหนึ่งนั้นเขามีรายรับหลายล้านศิลาวิญญาณระดับสูง,หลายร้อยล้านศิลาวิญญาณระดับต่ำ,ในแต่ละวันได้กำไรมากมายนับไม่ถ้วน,ใครกันจะไม่อยากสนับสนุนพวกเรา?
ด้วยกฎเกณฑ์ที่รัดกุมนี้,เป็นการหารายได้ที่น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก! เหล่าเสนาธิการต่างๆเองต่างก็มีรายได้และอำนาจมากขึ้น,ตอนนี้พวกเขาเริ่มเห็นความสำคัญ,และคนหาลูกข่ายอย่างบ้าคลั่ง,กับรายได้ที่มากขึ้น,และยังเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆอีกด้วย!"อี้เหยี่ยนที่กล่าวพลางถอนหายใจ.
"อืม,ที่ข้าต้องการเร่งให้เร็วขึ้นนั้น,ข้ารู้สึกว่ามีบางคนมองเห็นแผนการกลืนปลาตัวใหญ่แล้ว!"จงซานครุ่นคิดและกล่าวออกมา.
"หืม? ใคร?
เป็นไปได้ด้วยรึ?"อี้เหยี่ยนที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ทางเหนือ!"
"ต้าฉิน,ลู่ปู้เหว่ย?"อี้เหยี่ยนที่ขมวดคิ้วไปมา.
"อืม!"
"ฝ่าบาทโปรดวางใจเฉินจะเร่งดำเนินการให้เร็วขึ้น!"อี้เหยี่ยนพยักหน้า.
"อืม,เจ้าและสุ่ยจิง,ไม่จำเป็นต้องจัดการพันธะกิจอื่นที่สวนลอยฟ้าหลิงเซียวก็ได้,ไปจัดการเรื่องเร่งด่วนนี้ก่อน!"จงซานกล่าว.
"รับด้วยเกล้า!"
............
ทางตะวันออกของต้าเจิ้ง,ราชวงศ์ราชันย์ตงหลิง,ภายในท้องพระโรง.
"เรียนฝ่าบาท,ต้าเจิ้งนั้นมีพลังรบสูงมาก,ราชวงศ์ของพวกเรายกทัพในตอนนี้,ดูเหมือนว่าจะดูไม่เหมาะสม,อีกทั้งพวกเราจะต้องลอบมองราชวงศ์ราชันย์รอบๆนี้อีกด้วย,ในเวลานั้นหากว่าไม่สามารถล้มต้าเจิ้งได้,จะเป็นพวกเราเองที่จะได้รับอันตราย!"เสนาบดีที่กล่าวรายงาน.
"ท่านเสนาบดีไม่เห็นด้วยอย่างงั้นรึ?"ราชวงศ์ราชันย์ตงหลินเอ่ยปากออกมา.
"ฝ่าบาท,ราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้งนั้นมีพรมแดนติดกับพวกเรา,ไม่ช้าก็เร็วจะต้องทำสงคราม,ต้าเจิ้งนั้นทรงพลัง,หลังจากนี้ก็จะยิ่งทรงพลังขึ้นไปอีก,หากว่าไม่บุกตอนนี้ก็จะไม่มีโอกาสได้บุกอีกแล้ว."ชายอีกคนที่กล่าวแย้งออกมา.
"ไท่จื่อกล่าวมามีเหตุผล,แล้วคนอื่นล่ะมีความเห็นอย่างไร?"ราชันย์ตงหลินที่กล่าวสอบถามออกไป.
"เฉินเห็นด้วยเหมือนกับไท่จื่อ,ควรก่อสงคราม!"
"เฉินเห็นพ้องกับท่านเสนาบดี,ไม่ควรก่อสงคราม!"
"เฉินเห็นพ้องกับท่านเสนาบดี,ไม่ควรก่อสงคราม!"
"ไม่ก่อนสงคราม!"
"ไม่ก่อนสงคราม!"
..............................
..................
......
ในท้องพระโรงที่กลายเป็นเรื่องที่แปลกประหลาด,มีเพียงส่วนน้อยที่เห็นด้วย,ข้าราชบริพารส่วนมากคาดไม่ถึงเลยว่าไม่ต้องการก่อสงคราม?แววตาของราชันย์ตงหลิงที่แสดงท่าทางสงสัย,นี่คือข้าราชบริพารของข้าอย่างงั้นรึ?
ก่อนหน้านี้เต็มไปด้วยความอหังการต้องการสงคราม,เวลานี้กลับกลายเป็นขลาดเขลาไปแล้ว?
"ข้าตัดสินใจที่จะก่อสงคราม!"ราชันย์ตงหลิงกล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.
"ฝ่าบาทโปรดใคร่ครวญ!"เสนาบดีที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
"ฝ่าบาทโปรดใคร่ครวญอีกครั้ง!"เหล่าเสนาบดีมากมายที่กล่าวออกมาเสียงดัง.
ข้าราชบริพารโต้แย้งราชารึ?สายตาของราชันย์ตงหลิงที่ปรากฏแววตาที่เย็นชาออกมา,ทำไมพวกเขาถึงไม่ยินดีที่จะให้เขายกทัพออกไปจัดการต้าเจิ้งกัน?
"ชิ!"ราชันย์ตงหลินที่แค่นเสียงและออกจากห้องโถงไป.
เหล่าข้าราชบริพารเองก็เริ่มออกจากห้องโถงเช่นกัน,มีเหล่าขุนนางที่แบ่งแยกออกเป็นกลุ่มเล็กๆพร้อมกับเดินทางไปยังตำหนักของเสนาบดี,ในเวลานี้มีคนกว่า
7-8 คนทีเดียว.
"ท่านเสนาบดี,พวกเราควรจะห้ามฝ่าบาทเอาไว้,หากว่าเกิดสงครามก็จะเกิดความวุ่นวายขึ้น,ลูกข่ายของพวกเราจะต้องได้รับผล,การเพิ่มลูกข่ายเองก็ยากจะทำได้,รายได้ของพวกเราจากนี้จะเป็นอย่างไร?
อีกอย่าง,หากเกิดความวุ่นวายด้วยสงครามแล้ว,หยกเฟิงหลิงก็ต้องขาดตลาด,ก็เหมือนกับเชือดคอหอยของพวกเราเลย!"ขุนนางคนหนึ่งที่กล่าวด้วยความร้อนใจ.
"เสนาบดี,พวกเราผลิตหยกเฟิงหลิเองดีหรือไม่?
เรื่องนี้ไม่น่าจะยาก!"
"ไปไปได้ยาก,สินค้าชิ้นนี้ผลิตได้อย่างลำบาก,หากพวกเราผลิตเองอาจจะสูญเสียความเชื่อใจ,เพราะทุกคนจะรับรู้ว่าเป็นของปลอมได้ทันที,และหากเรื่องนี้มีคนอื่นรู้จะล้มทั้งกระดาน,ใครกันจะกล้าทำ?
ไม่ได้กลายเป็นว่าแหล่งรายได้ของพวกเราหายไปทั้งหมดหรอกรึ? เหล่าสมาชิกทั้งหมดเอง,ย่อมสามารถตรวจสอบได้อย่างง่ายดายด้วยสัมผัสเทวะ,บอกได้ทันทีว่าเป็นของปลอมหรือไม่?
จากนั้นลูกข่ายของพวกเรา,จะต้องแยกตัวออกไป,รายได้ที่พวกเราสะสมมาทั้งหมดต้องมลายหายสิ้นทันที"เสนาบดีกล่าว.
"อืม,เรื่องด่วนในตอนนี้,จะทำอย่างไรให้การต่อสู้สงครามในครั้งนี้มีขนาดเล็กที่สุด,ทางที่ดีอย่าได้ทำให้เกิดความวุ่นวายเกิดขึ้น!"
"อืม!"
ด้วยเหตุนี้จิตสังหารกระแสธารแห่งความฮึกเหิมในการสงคราม,ก็ถูกเปลี่ยนแปลงด้วยความหวั่นเกรงในผลประโยชน์ที่จะหายไป,กับสงครามที่ควรจะรุนแรงหนักหน่วง,หากแต่ทหารกับไร้ซึ่งจิตใจความเป็นหนึ่งอันเดียวของกองทัพทั้งหมดที่สูญเสียไป,เรื่องนี้ยังจะทำให้พวกเขาทรงพลังได้ขนาดใหนกัน?
สำหรับราชวงศ์ราชันย์อีกสามแห่งรอบๆต้าเจิ้งเอง,ก็ประสบสถานการณ์คล้ายๆกัน,เหล่าข้าราชบริพารต่างก็ขัดขืนที่จะก่อสงคราม,ขุนนางโต้แย้งราชา,เมื่อเกิดความขัดแย้งก็ทำให้ความเคารพนับถือที่มีต่อราชันย์นั้นอยู่ในสภาวะย่ำแย่!
อย่างไรก็ตาม,สี่ราชวงศ์ราชันย์ที่ถูกสั่งการมา,ได้ระบุวันเวลาที่แน่นอน,เพื่อเข้าโจมตีสถานที่เดียวกัน,ตอนนี้ได้เข้าประชิดชายแดนของต้าเจิ้ง,พร้อมที่จะเปิดศึกอย่างเป็นทางการแล้ว.
จงซานได้ส่งสุ่ยจิงออกมาจัดการเรื่องนี้,ส่วนตัวเขานั้นรอคอยอยู่ที่สวนสวรรค์รอยฟ้าหลิงเซียว,และวางแผนรับมือกับเต๋าจวินเซิ่งหย๋าอยู่.
เป็นเรื่องที่แน่นอน,สองเดือนหลังจากที่สี่ราชวงศ์ราชันย์เริ่มก่อสงครามต่อต้าเจิ้ง,เต๋าจวินเซิ่งหย๋าก็นำเหล่าผู้ฝึกตนสวรรค์แท้,ตรงมายังสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวด้วยตัวเอง.
นี่เป็นอีกหนึ่งแผนการที่พวกเขาเคยใช้เพื่อจัดการเนี่ยฟ่านเฉิน,พร้อมป้องกันสกัดทางหนีไปด้วยพร้อมๆกัน.
มีคนทั้งหมดเจ็ดคน,เต๋าจวินเซิ่งหย๋า,นวีชิงเฮวย,กุยโซวและสี่อาวุโสของแดนเทพอมตะ.
"ท่านประมุข,พวกเราขาดกระบี่ลู่เซียน,ข้าและคนอื่นบางที.........!"อาวุโสคนหนึ่งที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เพียงแค่สร้างกับดัก,แค่กระบี่ซียนทีเหลือก็เพียงพอแล้ว,ส่วนกระบี่ลู่เซียน,ข้าจะประจำทิศใต้จะใช้พลังตัวเองทดแทนกระบี่ลู่เซียนเอง!"เต๋าจวินเซิ่งหย๋ากล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ขอรับ!"อาวุโสที่รับคำไม่กล่าวแย้งอีกต่อไป.
ขณะที่ยอดฝีมือทั้งเจ็ดเดินทางมายังถึงสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว,ภายในตำหนักซ่างเฉิน.
จงซานที่นั่งบนบัลลังก์มังกร,ดวงตาที่ยังคงหลับอยู่ไม่ได้กล่าวสิ่งใด,นิ้วที่เคาะไปที่พนักบัลลังก์มังกรเบาๆ,เหล่าเสนาธิการที่ยังคงรอคอยอย่างเงียบงัน,ทันใดนั้นที่กลางห้องโถงกก็ปรากฏตี้เสวียนชาก้าวเข้ามาทันที.
"มาแล้วรึ?"จงซานลืมตาขึ้นมาในทันที.
"มาแล้ว,เจ็ดผู้ฝึกตนสวรรค์แท้!"ตี้เสวียนชาพยักหน้า.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น