Immortality Chapter 632 Enters the potential of jar trapped|sleepy dragon
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 632 กับดักโถวมังกรหลับ
Chapter 632 Enters the potential of jar
trapped|sleepy dragon
入瓮困龙之势
กับดักโถวมังกรหลับ
เทียนเซียวที่นำผู้เยาว์และผู้ใต้บังคับบัญชาตระเวนไปรอบๆทะเลโลหิต,เทียนเซียวต้องการตรวจสอบสำรวจพื้นทีรอบๆอย่างช้าๆสำรวจสภาพภูมิประเทศอย่างชัดเจนให้ระเอียดทั้งหมด,ก่อนที่จะมาหยุดอยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่งไม่ไกออกไปจากยอดเขาที่จงซานอยู่.
แม้ว่าจงซานจะไม่ได้มองไปยังทิศทางดังกล่าว,ทว่าก็ยังสามารถตระหนักได้ว่าเทียนเซียวนั้นจับจ้องมายังเขาด้วยความสนใจ.
จงซานที่ลอบสังเกตเทียนเซียวเช่นกัน,ทว่าไม่คิดที่จะข้องแวะเกี่ยวแต่อย่างใด,คนแปลกหน้าไม่จำเป็นต้องพูดคุย.
เทียนเซียวจ้องมองไปรอบๆ,สงบนิ่งรอคอย,ไม่มีใครรับรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น,จวนผ่านไปสามวัน.
อีกฟากหนึ่งของทะเลโลหิตเฉินฝู,กู่เฉียนโหยวนำคนกลุ่มหนึ่งมุ่งตรงไปยังทิศทางหนึ่ง,ทันใดนั้นนั้น,อาวุโสจิงกล่าวหยุดในทันที.
อาวุโสจิวที่หยุดเป็นคนแรก,ทุกๆคนก็หยุดตาม.
"มีอะไรอย่างงั้นรึ?"กู่เฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมา.
"มีนิมิต!"
"หืม?"
"นิมิตภัยพิบัติไม่มีสิ้นสุด!"อาวุโสจิวที่ขมวดคิ้วไปมา.
จากนั้น,อาวุโสจิวก็มองไปยังพื้นที่รอบๆ,แววตาที่เต็มไปด้วยความกังวลอย่างลึกล้ำ.
"หมายความว่าอย่างไร?"กู่เฉียนโหยวที่กล่าวออกมาด้วยความกังวล.
"ทั่วทุกหนแห่งเต็มไปด้วยนิมิตโชคร้าย,พวกเราอยู่ในโถแล้ว."อาวุโสจิวที่กล่าวออกมาด้วยความวิตกอย่างรุนแรง.
"อยู่ในโถ?"
"ซุ่มโจมตี,ไม่,ไม่ได้เล็งมาที่พวกเรา,ที่จริงเป็นอะไรที่แปลกมาก,มันกินบริเวณทั่วทั้งทะเลโลหิตเฉินฝูเลย,ทุกคนที่เข้ามาด้านใน,ไม่สามารถออกไปได้!"อาวุโสจิวกล่าวออกมาด้วยความกังวล.
"ซุ่มโจมตี? ใครกันที่กล้าซุ่มโจมตีที่นี่?
ที่นี่มียอดฝีมือมากมาย!"เซียนเซียนที่เอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"น่าจะเป็นคนที่ปล่อยข่าวเรื่องตำราปฐพี."กู่เฉียนโหยวที่ครุ่นคิดและกล่าวออกมา.
"ฮวงโหว,พวกเราควรทำอย่างไรดี?"อาวุโสจิวสอบถาม.
"ทั่วทั้งทะเลโลหิตเฉินฝูอย่างงั้นรึ?"กู่เฉียนโหยวสอบถาม.
"นิมิตโชคร้าย,ทั่วทุกแห่งเหมือนกันที่อยู่ข้างฝ่าบาทแล้ว."อาวุโสจิวกล่าว.
"พวกเราไม่สามารถออกไปได้,เช่นนั้นเดินทางไปตามเส้นทางเดิม
รอฝ่าบาทมาสมทบ!"กู่เฉียนโหยวที่กล่าวออกมาในทันที.
"รับทราบ!"ทุกคนที่พยักหน้ารับ.
พื้นที่รอบๆทะเลโลหิตเฉินฝู,ในหุบเขาแห่งหนึ่ง,มีคนจำวนมากที่อยู่ด้านใน,ที่ใจกลางนั้นมีปราสาทขนาดใหญ่,ด้านในนั้นมีคนกลุ่มหนึ่งยืนอยู่.
ชายผู้หนึ่งที่ใบหน้าหล่อเหล่ามีผมสีม่วง,สวมชุดคลุมสีม่วง,ในมือถือไม้เท้าทับทิมที่ดูงดงาม,พร้อมกับเคาะเบาๆที่ฝ่ามือไปมา,ดวงตาใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม.
ที่ด้านหน้าเขานั้น,มีสตรีในชุดคลุมสีทอง,ใบหน้าที่งดงามเกินธรรมดา,เป็นความสวยสง่าอย่างที่สุด,ที่ด้านหน้าของนางมีแผนที่ขนาดใหญ่,ใบหน้าเฉยเมยไม่แยแสกับสิ่งใด.
ที่บนไหล่ของหญิงสาวชุดคลุมสีทอง,มีอสูรน้อยขนปุยตัวกลมนอนอย่างเกียจคร้านอยู่.
"เนียนโหยวโหยว,อาวุโสให้พวกเรารับผิดชอบโดยตรง,ซุ่มโจมตีที่นี่,เมื่อถึงเวลานั้น............"ชายผมสีม่วงที่เอ่ยปากออกมาในทันที.
"โปรดวางใจ,ข้ามาจากภพหยาง,ไม่คุ้นเคยกับที่นี่,ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเจ้า,ข้าย่อมไม่มีอะไรขัดขวาง!"เนียนโหยวโหยวที่กล่าวออกมาเล็กน้อย.
"หืม?
เช่นนั้นก็ดี,ภพหยางและภพหยินนั้นแตกต่างกัน! รูปแบบการต่อสู้ของพวกเราเองก็แตกต่างกัน,เจ้าคอยดูก่อนก็แล้วกัน."ชายผมสีม่วงกล่าวออกมาด้วยความพอใจ.
ชายผมม่วงจ้องมองเนี่ยนโหยวโหยว,แววตาที่เผยความใคร่อยู่เช่นกัน,จากนั้นก็จ้องมองไปยังอสูรน้อยขนปุยบนไหล่ของนาง.
"เทพอสูรบรรพชน,นับเป็นสมบัติล้ำค่า,ในโลกอมตะ,มีอาวุโสหลายคนที่จับตามองอยู่,เจ้าเองควรระมัดระวังเรื่องนี้ด้วย!"ชายผมสีม่วงจ้องมองอสูรน้อยพร้อมกับกล่าวออกมา.
ชายผมม่วงที่จ้องมองอสูรน้อย,แววตาที่เต็มไปด้วยความโลภจนปิดไม่มิด.
อสูรน้อยเดิมทีมีประสาทสัมผัสที่ยอดเยี่ยม,ขณะที่มันนอนบนไหล่ของเนียนโหยวโหยว,ทันใดนั้นก็ลุกขึ้นในทันที,สายตาของมันจดจ้องมองไปยังชายผมสีม่วงอย่างดุร้าย,เดิมที่อสูรน้อยที่ดูน่ารักน่าชัง,สายตาที่มันชำเลืองมองออกไปนั้นไม่ได้มีจิตสังหารอะไรออกมา.
ทว่าทันทีที่อสูรน้อยจ้องมองออกไป,ชายผมม่วงดวงตาของเขาที่ลุกวาว,พื้นที่บรรยากาศรอบๆเปลี่ยนไปในทันที.
ใบหน้าของชายผมสีม่วงก็เปลี่ยนเป็นขาวซีด.
"อาวุโส,ผู้น้อยผิดไปแล้ว!"ชายผมสีม่วงที่ร้องออกมาเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น,ใบหน้าที่เผยความหวาดกลัวสุดๆ,ราวกับว่าได้พบเจอกับยอดฝีมือไร้คู่เปรียบ,พ่ายแพ้จนต้องคุกเข่าลงขอชีวิต.
"เด็กดี,เสี่ยวชิง,พอแค่นี้ล่ะ!"เนี่ยนโหยวโหยวที่ลูบไปยังอสูรเทพบรรพชนเบาๆ.
จากนั้นอสูรน้อยที่ไม่สนใจชายในชุดสีม่วงอีกต่อไป,จากนั้นก็นอนลงบนบ่าของเนี่ยนโหยวต่อไป,พร้อมกับตบท้องของมันไปมา.
"อี้อี้อี้อี้!"อสูรน้อยที่ราวกับว่ากำลังร้องเพลง,เสียงงึมงัน,ไม่มีใครสามารถเข้าใจมันได้.
ทว่าในเวลาเดียวกันนี้,ชายผมม่วงที่ค่อยฟื้นคืนสติกลับมา,ร่างกายที่ถอยห่างออกไปอย่างรวดเร็ว,เหงื่อที่เย็นเยือบไหลชโลมกาย,ใบหน้าหวั่นเกรงจดจ้องมองไปยังอสูรน้อย.
ภาพลวงตาอย่างงั้นรึ?
นี่เขาไม่สามารถต้านทานได้อย่างคาดไม่ถึง,ไม่สามารถต่อต้านได้เลยแม้แต่นิดเดียวอย่างงั้นรึ?
เป็นไปได้อย่างไร? คาดไม่ถึงเลยว่าจะทรงพลังขนาดนี้?
"ศิษย์พี่,เป็นอะไรหรือไม่?"เนี่ยนโหยวโหยวสอบถามออกมา.
"ข้าไม่เป็นไร,เทพอสูรบรรพชน,ร้ายกาจจริงๆ,ไม่สงสัยเลยว่าอาวุโสหลายๆคนจับตามอง,ปรารถนาในอสูรตนนี้,ศิษย์น้อง,เจ้าเป็นคนที่โชคดีจริงๆ,"ชายผมสีม่วงสูดหายใจลึก.
"เช่นนั้นก็ดีแล้ว!"เนียนโหยวโหยวพยักหน้า.
จากนั้นเนียนโหยวโหยวก็นำเทพอสูรออกจากห้องโถงไป.
ชายผมม่วงจ้องมองแผ่นหลังของเนี่ยนโหยวโหยว,แววตาหื่นกระหาย,เป็นสตรีที่งดงามอย่างไม่น่าเชื่อ,ระดับราชันย์แท้?
ร่างสถิตเทวะ? มีเทพอสูรบรรพชน,หากว่าได้ตัวนางมา,ไม่ใช่ว่าได้ทั้งหมดมาหรอกรึ?
บางที่ชายผมสีม่วงคงไม่คิดว่าเทพอสูรบรรพชนที่เฉือยชานอนบนไหล่ของเนียนโหยวโหยว,,ขณะที่มันสร้างภาพหลอนขึ้นมานั้น,มันได้ประทับอาคมเอาไว้จิตของเขาแล้ว,ตราบเท่าที่ไม่ชำระล้างอาคมนั้นออกไปทั้งหมด,อสูรน้อยก็จะสามารถเฝ้าระวังเขาได้ตลอดเวลา.
ทว่าในเวลานี้อสูรน้อยไม่ได้สร้างปัญหาให้เขาแต่อย่างใด,มันยังคงนอนอยู่ในท่าทางเดิม,มีเปลี่ยนท่าบ้างเป็นครั้งคราว.
"อี้ อี้ อี้ อี้"
อสูรน้อยยังคงงึมงำเสียงร้องที่ไม่มีใครเข้าใจ,เนียนโหยวโหยวจากไปไกลแล้ว,ทำให้เสียงของมันค่อยๆหายไป.
จวบจนเนี่ยนโหยวโหยวและอสูรน้อยจากไปลับตาแล้ว,ชายผมม่วงที่น้ำผ้าเช็ดหน้าออกมาซับเหงื่อที่หลั่งเต็มหน้าผากในทันที.
ระหว่างนี้ผู้ฝึกตนที่บินตรงมายังทะเลโลหิตเฉินฝูมากขึ้นเรื่อยๆ,หลายๆคนที่มารวมกลุ่มของแต่ละกลุ่ม.
หนึ่งในนั้น,มีคนหนึ่งที่สวมมงกุฏหยก,สวมชุดราชวงศ์,ท่าทางที่เต็มไปด้วยความสูงศักดิ์,ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความยิ่งใหญ่,น่าเกรงขามเพียงแค่มองก็รู้สึกด้อยกว่า,เขาที่บินมา,มีปราณมังกรหมุนวนล้อมรอบร่างกาย,ชายผู้นี่น่าจะเป็นหนึ่งในเซิ่งซ่างของราชวงศ์สวรรค์หนึ่งในสองของภพหยิน.
เสียงพึมพำที่กระจายไปทั่วอย่างรวดเร็ว,นี่คือเซิ่งซ่างของราชวงศ์สวรรค์ต้าเหยี่ยนที่อยู่ภาคใต้ของภพหยิน,ซิงไท่โต่ว!
ซิงไท่โต่ว,ได้นำคนมาราวๆร้อยคน,ดูเหมือนในร้อยคนนี้มีคนที่สวมชุดขุนนางราชวงศ์สวรรค์สวรรค์ต้าเหยี่ยน,และมีอยู่บางคนที่สวมชุดพลเมืองปะปนมาด้วย.
ซิงไท่เต๋าตามคนในชุดสีดำสามคนมาติดๆ.
ชายในชุดสีดำนั้นปิดมิดไปทั่วร่าง,นอกจากนี้ร่างกายกับดูผอมเป็นอย่างมาก,ราวกับว่าจะลอยไปตามลม,ผ้าคลุมสีดำที่โลกสะบัดไปตามกระแสลมโกรก,ทำให้รู้สึกราวกับว่าไร้กระดูกด้วยซ้ำ,ฝ่ามือของพวกเขายืดเหยียดออกมาจึงบอกได้ว่าพวกเขาคือมนุษย์.
อย่างไรก็ตามทุกคนสามารถมองเห็นฝ่ามือที่ผอมบางนั้น,มีผิวหนังหุ้มกระดูกนั้น,ทำให้ทุกคนรู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที,ดูนาหวาดกลัวจริงๆ.
คนสามคน,หนึ่งคนที่เป็นผู้นำ,ตลอดจนสองคนที่อยู่ด้านหลังในมือถือไม้เท้าสีดำสนิท,ขณะเคลื่อนที่ก็ชูขึ้นสูง,พร้อมกับบินนำซิงไท่โต่วบนทะเลโลหิตเฉินฝู.
ดูเหมือนว่าชายทั้งสามคนนั้นจะมีสถานะพิเศษ,นอกจากซิงไท่โตวแล้ว,คนทั้งสามน่าจะมีสถานะสูงสุด.
"หยุด!"ชายชุดคลุมดำที่นำหน้าที่เอ่ยออกมาในทันที.
ทุกคนที่หยุดในทันที,ใบหน้าที่จ้องมองไปยังชายทั้งสามด้วยท่าทางแปลกประหลาด.
ชายในชุดสีดำที่อยู่ด้านหน้าไม่ขยับ,ชายชุดสีดำอีกสองคนก็จ้องมองไปยังพื้นที่รอบๆ,จากนั้นก็ทำความเคารพรายงานชายในชุดดำด้านหน้า.
"เซียนเซิงทั้งสาม,มีอะไรเกิดขึ้นอย่างงั้นรึ?"ซิงไท่โต่วสอบถามออกมาด้วยความสงสัย.
ชายในชุดสีดำที่เป็นผู้นำพยักหน้า,พร้อมกับเอ่ยปากออกมาว่า.
"พื้นที่รอบๆนี้ผิดปรกติ!"ชายในชุดสีดำเอ่ย.
ชายในชุดคลุมสีดำที่กล่าวออกมาด้วยความแปลกประหลาด,เสียงแหบเครือ,เป็นเสียงที่หยาบและเย็นเยือบคนที่ได้ยินถึงกับขนลุกทีเดียว.
"ผิดปรกติอย่างไร?"ซิงไท่โตวกล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"นี่คือกับดักโถวมังกรหลับ!"ชายในชุดคลุมสีดำกล่าวด้วยเสียงแหบๆ.
"อะไรคือกับดักโถวมังกรหลับ?"
"พื้นที่รอบๆทะเลโลหิต,มีการซุ่มโจมตี,ปิดเอาไว้รอบๆทั้งหมดพื้นที่แห่งนี้!"ชายในชุดสีดำกล่าว.
"ซุ่มโจมตีอย่างงั้นรึ?"ซิงไท่โตวหรี่ตาจ้องมอง.
ซิงไท่โต่วที่เป็นเซิ่งซ่างราชวงศ์สวรรค์,ทั้งความแข็งแกร่งและภูมิปัญญานั้นไม่ใช่คนที่จะประมาทได้แม้แต่น้อย,ซุ่มโจมตี,ทันใดนั้นก็คิดถึงเหตุผล,คิดได้ว่าทำไมถึงมีข่าวเรื่องตำราปฐพี
เปิดเผยออกมา.
"ฝ่าบาท,มีบางคนกำลังรอคอยชิงผลประโยชน์!"ขุนนางคนหนึ่งที่กล่าววิเคราะห์สถานการณ์
"อืม,พวกเจ้านำคนกระจายกันออกไป,ทิ้งคนเอาไว้ครึ่งหนึ่ง,ส่วนคนอื่นๆไปจัดการคนที่ลอบโจมตี,อย่าได้ทำให้งานสำคัญของพวกเราเสียหาย!"ซิงไท่โต่วที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"รับด้วยกล้า!"เหล่าผู้ติดตามที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
จากนั้นพวกเขาก็แบ่งคนกลุ่มหนึ่งออกไป,เหลือคนเอาไว้ห้าสิบคน.
พร้อมกับเดินทางไปยังใจกลางทะเลโลหิต,เพื่อช่วงชิงคัมภีร์ปฐพีต่อ.
หลังจากที่โลกอมตะถอนตัวไปแล้ว,ราชวงศ์สวรรค์ต้าเหยี่ยนก็มาถึง,รวมทั้งตระกูลเทียน,กลุ่มอิทธิพลครึ่งหนึ่งของภพหยินได้มาปรากฏตัวในเขตแดนทะเลโลหิตเฉินฝูแล้ว,เพื่อที่จะชิงคัมภีร์ปฐพีจากหนานกงเซิ่งนั่นเอง.
ที่มุมหนึ่งบนทะเลโลหิต,จงซานและหยินโหลวหรี่,และยังมีตระกูลเทียนที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก.
ไม่มีใครกล่าวสิ่งใดกับใคร,ทว่าในเวลานี้ภายในทะเลหมอกเฉินฝูนั้น,มียอดฝีมือกระจายเต็มไปหมด.
เทียนเซียวที่กำลังรออะไรบางอย่างอยู่,ยืนบนยอดเขา,ไม่ขยับ,ไม่กังวล,ไม่ได้ตื่นเต้น,ราวกับว่ารับรู้อะไรบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น.
ไม้เท้าสีเขียวมรกตของเขาที่เคาะเบาๆที่มือข้างหนึ่ง,จับจ้องมองออกไปด้านหน้าอย่างใจเย็น.
"เจ้าคิดว่าตระกูลเทียนกำลังทำสิ่งใดอย่างงั้นรึ?
ถึงยังไม่เริ่ม!
"หยินโหลวหรี่ที่สอบถามออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"รอคนกลุ่มอื่นอยู่!"จงซานทีกล่าวอย่างมั่นใจ.
"ใคร?"
"ยังไม่รู้!"จงซานส่ายหน้าไปมา.
หยินโหลวหรี่"...."
Chapter 632 Enters the potential of jar
trapped|sleepy dragon
入瓮困龙之势
กับดักโถวมังกรหลับ
เทียนเซียวที่นำผู้เยาว์และผู้ใต้บังคับบัญชาตระเวนไปรอบๆทะเลโลหิต,เทียนเซียวต้องการตรวจสอบสำรวจพื้นทีรอบๆอย่างช้าๆสำรวจสภาพภูมิประเทศอย่างชัดเจนให้ระเอียดทั้งหมด,ก่อนที่จะมาหยุดอยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่งไม่ไกออกไปจากยอดเขาที่จงซานอยู่.
แม้ว่าจงซานจะไม่ได้มองไปยังทิศทางดังกล่าว,ทว่าก็ยังสามารถตระหนักได้ว่าเทียนเซียวนั้นจับจ้องมายังเขาด้วยความสนใจ.
จงซานที่ลอบสังเกตเทียนเซียวเช่นกัน,ทว่าไม่คิดที่จะข้องแวะเกี่ยวแต่อย่างใด,คนแปลกหน้าไม่จำเป็นต้องพูดคุย.
เทียนเซียวจ้องมองไปรอบๆ,สงบนิ่งรอคอย,ไม่มีใครรับรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น,จวนผ่านไปสามวัน.
อีกฟากหนึ่งของทะเลโลหิตเฉินฝู,กู่เฉียนโหยวนำคนกลุ่มหนึ่งมุ่งตรงไปยังทิศทางหนึ่ง,ทันใดนั้นนั้น,อาวุโสจิงกล่าวหยุดในทันที.
อาวุโสจิวที่หยุดเป็นคนแรก,ทุกๆคนก็หยุดตาม.
"มีอะไรอย่างงั้นรึ?"กู่เฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมา.
"มีนิมิต!"
"หืม?"
"นิมิตภัยพิบัติไม่มีสิ้นสุด!"อาวุโสจิวที่ขมวดคิ้วไปมา.
จากนั้น,อาวุโสจิวก็มองไปยังพื้นที่รอบๆ,แววตาที่เต็มไปด้วยความกังวลอย่างลึกล้ำ.
"หมายความว่าอย่างไร?"กู่เฉียนโหยวที่กล่าวออกมาด้วยความกังวล.
"ทั่วทุกหนแห่งเต็มไปด้วยนิมิตโชคร้าย,พวกเราอยู่ในโถแล้ว."อาวุโสจิวที่กล่าวออกมาด้วยความวิตกอย่างรุนแรง.
"อยู่ในโถ?"
"ซุ่มโจมตี,ไม่,ไม่ได้เล็งมาที่พวกเรา,ที่จริงเป็นอะไรที่แปลกมาก,มันกินบริเวณทั่วทั้งทะเลโลหิตเฉินฝูเลย,ทุกคนที่เข้ามาด้านใน,ไม่สามารถออกไปได้!"อาวุโสจิวกล่าวออกมาด้วยความกังวล.
"ซุ่มโจมตี? ใครกันที่กล้าซุ่มโจมตีที่นี่?
ที่นี่มียอดฝีมือมากมาย!"เซียนเซียนที่เอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"น่าจะเป็นคนที่ปล่อยข่าวเรื่องตำราปฐพี."กู่เฉียนโหยวที่ครุ่นคิดและกล่าวออกมา.
"ฮวงโหว,พวกเราควรทำอย่างไรดี?"อาวุโสจิวสอบถาม.
"ทั่วทั้งทะเลโลหิตเฉินฝูอย่างงั้นรึ?"กู่เฉียนโหยวสอบถาม.
"นิมิตโชคร้าย,ทั่วทุกแห่งเหมือนกันที่อยู่ข้างฝ่าบาทแล้ว."อาวุโสจิวกล่าว.
"พวกเราไม่สามารถออกไปได้,เช่นนั้นเดินทางไปตามเส้นทางเดิม
รอฝ่าบาทมาสมทบ!"กู่เฉียนโหยวที่กล่าวออกมาในทันที.
"รับทราบ!"ทุกคนที่พยักหน้ารับ.
พื้นที่รอบๆทะเลโลหิตเฉินฝู,ในหุบเขาแห่งหนึ่ง,มีคนจำวนมากที่อยู่ด้านใน,ที่ใจกลางนั้นมีปราสาทขนาดใหญ่,ด้านในนั้นมีคนกลุ่มหนึ่งยืนอยู่.
ชายผู้หนึ่งที่ใบหน้าหล่อเหล่ามีผมสีม่วง,สวมชุดคลุมสีม่วง,ในมือถือไม้เท้าทับทิมที่ดูงดงาม,พร้อมกับเคาะเบาๆที่ฝ่ามือไปมา,ดวงตาใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม.
ที่ด้านหน้าเขานั้น,มีสตรีในชุดคลุมสีทอง,ใบหน้าที่งดงามเกินธรรมดา,เป็นความสวยสง่าอย่างที่สุด,ที่ด้านหน้าของนางมีแผนที่ขนาดใหญ่,ใบหน้าเฉยเมยไม่แยแสกับสิ่งใด.
ที่บนไหล่ของหญิงสาวชุดคลุมสีทอง,มีอสูรน้อยขนปุยตัวกลมนอนอย่างเกียจคร้านอยู่.
"เนียนโหยวโหยว,อาวุโสให้พวกเรารับผิดชอบโดยตรง,ซุ่มโจมตีที่นี่,เมื่อถึงเวลานั้น............"ชายผมสีม่วงที่เอ่ยปากออกมาในทันที.
"โปรดวางใจ,ข้ามาจากภพหยาง,ไม่คุ้นเคยกับที่นี่,ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเจ้า,ข้าย่อมไม่มีอะไรขัดขวาง!"เนียนโหยวโหยวที่กล่าวออกมาเล็กน้อย.
"หืม?
เช่นนั้นก็ดี,ภพหยางและภพหยินนั้นแตกต่างกัน! รูปแบบการต่อสู้ของพวกเราเองก็แตกต่างกัน,เจ้าคอยดูก่อนก็แล้วกัน."ชายผมสีม่วงกล่าวออกมาด้วยความพอใจ.
ชายผมม่วงจ้องมองเนี่ยนโหยวโหยว,แววตาที่เผยความใคร่อยู่เช่นกัน,จากนั้นก็จ้องมองไปยังอสูรน้อยขนปุยบนไหล่ของนาง.
"เทพอสูรบรรพชน,นับเป็นสมบัติล้ำค่า,ในโลกอมตะ,มีอาวุโสหลายคนที่จับตามองอยู่,เจ้าเองควรระมัดระวังเรื่องนี้ด้วย!"ชายผมสีม่วงจ้องมองอสูรน้อยพร้อมกับกล่าวออกมา.
ชายผมม่วงที่จ้องมองอสูรน้อย,แววตาที่เต็มไปด้วยความโลภจนปิดไม่มิด.
อสูรน้อยเดิมทีมีประสาทสัมผัสที่ยอดเยี่ยม,ขณะที่มันนอนบนไหล่ของเนียนโหยวโหยว,ทันใดนั้นก็ลุกขึ้นในทันที,สายตาของมันจดจ้องมองไปยังชายผมสีม่วงอย่างดุร้าย,เดิมที่อสูรน้อยที่ดูน่ารักน่าชัง,สายตาที่มันชำเลืองมองออกไปนั้นไม่ได้มีจิตสังหารอะไรออกมา.
ทว่าทันทีที่อสูรน้อยจ้องมองออกไป,ชายผมม่วงดวงตาของเขาที่ลุกวาว,พื้นที่บรรยากาศรอบๆเปลี่ยนไปในทันที.
ใบหน้าของชายผมสีม่วงก็เปลี่ยนเป็นขาวซีด.
"อาวุโส,ผู้น้อยผิดไปแล้ว!"ชายผมสีม่วงที่ร้องออกมาเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น,ใบหน้าที่เผยความหวาดกลัวสุดๆ,ราวกับว่าได้พบเจอกับยอดฝีมือไร้คู่เปรียบ,พ่ายแพ้จนต้องคุกเข่าลงขอชีวิต.
"เด็กดี,เสี่ยวชิง,พอแค่นี้ล่ะ!"เนี่ยนโหยวโหยวที่ลูบไปยังอสูรเทพบรรพชนเบาๆ.
จากนั้นอสูรน้อยที่ไม่สนใจชายในชุดสีม่วงอีกต่อไป,จากนั้นก็นอนลงบนบ่าของเนี่ยนโหยวต่อไป,พร้อมกับตบท้องของมันไปมา.
"อี้อี้อี้อี้!"อสูรน้อยที่ราวกับว่ากำลังร้องเพลง,เสียงงึมงัน,ไม่มีใครสามารถเข้าใจมันได้.
ทว่าในเวลาเดียวกันนี้,ชายผมม่วงที่ค่อยฟื้นคืนสติกลับมา,ร่างกายที่ถอยห่างออกไปอย่างรวดเร็ว,เหงื่อที่เย็นเยือบไหลชโลมกาย,ใบหน้าหวั่นเกรงจดจ้องมองไปยังอสูรน้อย.
ภาพลวงตาอย่างงั้นรึ?
นี่เขาไม่สามารถต้านทานได้อย่างคาดไม่ถึง,ไม่สามารถต่อต้านได้เลยแม้แต่นิดเดียวอย่างงั้นรึ?
เป็นไปได้อย่างไร? คาดไม่ถึงเลยว่าจะทรงพลังขนาดนี้?
"ศิษย์พี่,เป็นอะไรหรือไม่?"เนี่ยนโหยวโหยวสอบถามออกมา.
"ข้าไม่เป็นไร,เทพอสูรบรรพชน,ร้ายกาจจริงๆ,ไม่สงสัยเลยว่าอาวุโสหลายๆคนจับตามอง,ปรารถนาในอสูรตนนี้,ศิษย์น้อง,เจ้าเป็นคนที่โชคดีจริงๆ,"ชายผมสีม่วงสูดหายใจลึก.
"เช่นนั้นก็ดีแล้ว!"เนียนโหยวโหยวพยักหน้า.
จากนั้นเนียนโหยวโหยวก็นำเทพอสูรออกจากห้องโถงไป.
ชายผมม่วงจ้องมองแผ่นหลังของเนี่ยนโหยวโหยว,แววตาหื่นกระหาย,เป็นสตรีที่งดงามอย่างไม่น่าเชื่อ,ระดับราชันย์แท้?
ร่างสถิตเทวะ? มีเทพอสูรบรรพชน,หากว่าได้ตัวนางมา,ไม่ใช่ว่าได้ทั้งหมดมาหรอกรึ?
บางที่ชายผมสีม่วงคงไม่คิดว่าเทพอสูรบรรพชนที่เฉือยชานอนบนไหล่ของเนียนโหยวโหยว,,ขณะที่มันสร้างภาพหลอนขึ้นมานั้น,มันได้ประทับอาคมเอาไว้จิตของเขาแล้ว,ตราบเท่าที่ไม่ชำระล้างอาคมนั้นออกไปทั้งหมด,อสูรน้อยก็จะสามารถเฝ้าระวังเขาได้ตลอดเวลา.
ทว่าในเวลานี้อสูรน้อยไม่ได้สร้างปัญหาให้เขาแต่อย่างใด,มันยังคงนอนอยู่ในท่าทางเดิม,มีเปลี่ยนท่าบ้างเป็นครั้งคราว.
"อี้ อี้ อี้ อี้"
อสูรน้อยยังคงงึมงำเสียงร้องที่ไม่มีใครเข้าใจ,เนียนโหยวโหยวจากไปไกลแล้ว,ทำให้เสียงของมันค่อยๆหายไป.
จวบจนเนี่ยนโหยวโหยวและอสูรน้อยจากไปลับตาแล้ว,ชายผมม่วงที่น้ำผ้าเช็ดหน้าออกมาซับเหงื่อที่หลั่งเต็มหน้าผากในทันที.
ระหว่างนี้ผู้ฝึกตนที่บินตรงมายังทะเลโลหิตเฉินฝูมากขึ้นเรื่อยๆ,หลายๆคนที่มารวมกลุ่มของแต่ละกลุ่ม.
หนึ่งในนั้น,มีคนหนึ่งที่สวมมงกุฏหยก,สวมชุดราชวงศ์,ท่าทางที่เต็มไปด้วยความสูงศักดิ์,ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความยิ่งใหญ่,น่าเกรงขามเพียงแค่มองก็รู้สึกด้อยกว่า,เขาที่บินมา,มีปราณมังกรหมุนวนล้อมรอบร่างกาย,ชายผู้นี่น่าจะเป็นหนึ่งในเซิ่งซ่างของราชวงศ์สวรรค์หนึ่งในสองของภพหยิน.
เสียงพึมพำที่กระจายไปทั่วอย่างรวดเร็ว,นี่คือเซิ่งซ่างของราชวงศ์สวรรค์ต้าเหยี่ยนที่อยู่ภาคใต้ของภพหยิน,ซิงไท่โต่ว!
ซิงไท่โต่ว,ได้นำคนมาราวๆร้อยคน,ดูเหมือนในร้อยคนนี้มีคนที่สวมชุดขุนนางราชวงศ์สวรรค์สวรรค์ต้าเหยี่ยน,และมีอยู่บางคนที่สวมชุดพลเมืองปะปนมาด้วย.
ซิงไท่เต๋าตามคนในชุดสีดำสามคนมาติดๆ.
ชายในชุดสีดำนั้นปิดมิดไปทั่วร่าง,นอกจากนี้ร่างกายกับดูผอมเป็นอย่างมาก,ราวกับว่าจะลอยไปตามลม,ผ้าคลุมสีดำที่โลกสะบัดไปตามกระแสลมโกรก,ทำให้รู้สึกราวกับว่าไร้กระดูกด้วยซ้ำ,ฝ่ามือของพวกเขายืดเหยียดออกมาจึงบอกได้ว่าพวกเขาคือมนุษย์.
อย่างไรก็ตามทุกคนสามารถมองเห็นฝ่ามือที่ผอมบางนั้น,มีผิวหนังหุ้มกระดูกนั้น,ทำให้ทุกคนรู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที,ดูนาหวาดกลัวจริงๆ.
คนสามคน,หนึ่งคนที่เป็นผู้นำ,ตลอดจนสองคนที่อยู่ด้านหลังในมือถือไม้เท้าสีดำสนิท,ขณะเคลื่อนที่ก็ชูขึ้นสูง,พร้อมกับบินนำซิงไท่โต่วบนทะเลโลหิตเฉินฝู.
ดูเหมือนว่าชายทั้งสามคนนั้นจะมีสถานะพิเศษ,นอกจากซิงไท่โตวแล้ว,คนทั้งสามน่าจะมีสถานะสูงสุด.
"หยุด!"ชายชุดคลุมดำที่นำหน้าที่เอ่ยออกมาในทันที.
ทุกคนที่หยุดในทันที,ใบหน้าที่จ้องมองไปยังชายทั้งสามด้วยท่าทางแปลกประหลาด.
ชายในชุดสีดำที่อยู่ด้านหน้าไม่ขยับ,ชายชุดสีดำอีกสองคนก็จ้องมองไปยังพื้นที่รอบๆ,จากนั้นก็ทำความเคารพรายงานชายในชุดดำด้านหน้า.
"เซียนเซิงทั้งสาม,มีอะไรเกิดขึ้นอย่างงั้นรึ?"ซิงไท่โต่วสอบถามออกมาด้วยความสงสัย.
ชายในชุดสีดำที่เป็นผู้นำพยักหน้า,พร้อมกับเอ่ยปากออกมาว่า.
"พื้นที่รอบๆนี้ผิดปรกติ!"ชายในชุดสีดำเอ่ย.
ชายในชุดคลุมสีดำที่กล่าวออกมาด้วยความแปลกประหลาด,เสียงแหบเครือ,เป็นเสียงที่หยาบและเย็นเยือบคนที่ได้ยินถึงกับขนลุกทีเดียว.
"ผิดปรกติอย่างไร?"ซิงไท่โตวกล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"นี่คือกับดักโถวมังกรหลับ!"ชายในชุดคลุมสีดำกล่าวด้วยเสียงแหบๆ.
"อะไรคือกับดักโถวมังกรหลับ?"
"พื้นที่รอบๆทะเลโลหิต,มีการซุ่มโจมตี,ปิดเอาไว้รอบๆทั้งหมดพื้นที่แห่งนี้!"ชายในชุดสีดำกล่าว.
"ซุ่มโจมตีอย่างงั้นรึ?"ซิงไท่โตวหรี่ตาจ้องมอง.
ซิงไท่โต่วที่เป็นเซิ่งซ่างราชวงศ์สวรรค์,ทั้งความแข็งแกร่งและภูมิปัญญานั้นไม่ใช่คนที่จะประมาทได้แม้แต่น้อย,ซุ่มโจมตี,ทันใดนั้นก็คิดถึงเหตุผล,คิดได้ว่าทำไมถึงมีข่าวเรื่องตำราปฐพี
เปิดเผยออกมา.
"ฝ่าบาท,มีบางคนกำลังรอคอยชิงผลประโยชน์!"ขุนนางคนหนึ่งที่กล่าววิเคราะห์สถานการณ์
"อืม,พวกเจ้านำคนกระจายกันออกไป,ทิ้งคนเอาไว้ครึ่งหนึ่ง,ส่วนคนอื่นๆไปจัดการคนที่ลอบโจมตี,อย่าได้ทำให้งานสำคัญของพวกเราเสียหาย!"ซิงไท่โต่วที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"รับด้วยกล้า!"เหล่าผู้ติดตามที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
จากนั้นพวกเขาก็แบ่งคนกลุ่มหนึ่งออกไป,เหลือคนเอาไว้ห้าสิบคน.
พร้อมกับเดินทางไปยังใจกลางทะเลโลหิต,เพื่อช่วงชิงคัมภีร์ปฐพีต่อ.
หลังจากที่โลกอมตะถอนตัวไปแล้ว,ราชวงศ์สวรรค์ต้าเหยี่ยนก็มาถึง,รวมทั้งตระกูลเทียน,กลุ่มอิทธิพลครึ่งหนึ่งของภพหยินได้มาปรากฏตัวในเขตแดนทะเลโลหิตเฉินฝูแล้ว,เพื่อที่จะชิงคัมภีร์ปฐพีจากหนานกงเซิ่งนั่นเอง.
ที่มุมหนึ่งบนทะเลโลหิต,จงซานและหยินโหลวหรี่,และยังมีตระกูลเทียนที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก.
ไม่มีใครกล่าวสิ่งใดกับใคร,ทว่าในเวลานี้ภายในทะเลหมอกเฉินฝูนั้น,มียอดฝีมือกระจายเต็มไปหมด.
เทียนเซียวที่กำลังรออะไรบางอย่างอยู่,ยืนบนยอดเขา,ไม่ขยับ,ไม่กังวล,ไม่ได้ตื่นเต้น,ราวกับว่ารับรู้อะไรบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น.
ไม้เท้าสีเขียวมรกตของเขาที่เคาะเบาๆที่มือข้างหนึ่ง,จับจ้องมองออกไปด้านหน้าอย่างใจเย็น.
"เจ้าคิดว่าตระกูลเทียนกำลังทำสิ่งใดอย่างงั้นรึ?
ถึงยังไม่เริ่ม!
"หยินโหลวหรี่ที่สอบถามออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"รอคนกลุ่มอื่นอยู่!"จงซานทีกล่าวอย่างมั่นใจ.
"ใคร?"
"ยังไม่รู้!"จงซานส่ายหน้าไปมา.
หยินโหลวหรี่"...."
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น