วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 359 Investigation

Immortality Chapter 359  Investigation

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 359  สืบสวน.


Chapter 359  Investigation
 สืบสวน.
จงซานที่ยืนอยู่ด้านหน้าตำหนักของกงจูเฉียนโหยวพลางสูดหายใจลึก.

สถานที่แห่งนี้มีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงยุติธรรมเฝ้าอยู่,ทุกคนถือกระบี่,กระจายอยู่รอบๆพื้นที่ดังกล่าว.



"ใครกัน?"ชายในชุดดำเจ้าหน้าที่กระทรงยุติธรรมที่เอยออกมาในทันที.

"ข้ารับพระบัญชาจากเหนือหัว,ให้มาสืบเรื่องกงจูเฉียนโหยวโดยเฉพาะ,กระบี่อาญาสิทธิ์อยู่นี่แล้ว!"จงซานที่เอยออกมา.

จื่อเห่าที่เผยกระบี่อาญาศิษย์ในทันที.

เจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่ขมวดคิ้วไปมา,จากนั้นได้ใช้สัมผัสเทวะตรวจสอบกระบี่อาญาสิทธิ์.

"อ๊ากกกๆ"

ชายคนดังกล่าวที่ร้องโอดโอยเจ็บปวดทรมานออกมาในทันที.

"ใต้เท้า!"เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาที่ล้อมกรอบเตรียมเข้าจับกุมในทันที.

"หยุด!!!"เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวที่กุมหน้าผากของตัวเองเอาไว้.

"หืม?"เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาที่แสดงท่าทางสงสัย.

"ทรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นๆปี."เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวที่ตั้งสติพร้อมกับกล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม,ที่ตั้งสติได้ต่างก็ตะโกนออกมาพร้อมๆกัน,"ทรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นๆปี."

จงซานที่ไม่ได้ใส่ใจพวกเขา,ก่อนที่จะพาจื่อเห่าเข้าไปในตำหนักกงจูเฉียนโหยว.

ทันทีที่เข้ามาในตำหนัก,จงซานที่สูดหายใจลึก.

ตำหนักกงจูเฉียนโหยวที่เต็มไปด้วยความหดหู่,แม้แต่เหล่าข้ารับใช้ยังไม่มี,ดูเงียบเหงาวังเวงเป็นอย่างมาก.

ด้วยสัมผัสเทวะของอาต้าและอาเอ้อที่ตรวจสอบสถานที่พร้อมกับรอคอยอยู่.

"กงจู,เซี่ยนเซิงมา,กงจู...."อาต้าที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

"กงจู,เป็นเซียนเซิงจริงๆ!"อาเอ้อที่กล่าวออกมาด้วยความดีใจ.

"ตึบ,ตึบ ตึบ...."ได้ยินเพียงแค่เสียงฝีเท้า,กงจูเฉียนโหยวที่วิ่งออกมายังทางออก,แววตาที่เต็มไปด้วยความหวังและความตื่นเต้น.

จงซานที่นำจื่อเห่าเข้ามาด้านใน.

"ข้ารู้เซียนเซิงจะต้องมาอย่างแน่นอน."อาต้าที่กล่าวออกมาด้วยความดีใจ,กำหมัดด้วยความตื่นเต้น.

อาต้าเองก็มองไปยังจงซานด้วยความตื่นเต้นด้วยเช่นกัน.

ส่วนกงจูเฉียนโหยวนั้นไม่จำเป็นต้องกล่าวสิ่งใด,นางที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,ทว่าเป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความวางใจ.

"กงจู,ข้ากลับมาแล้ว!"จงซานที่จ้องมองไปยังกงจูเฉียนโหยว.

"ข้ารู้ว่าท่านต้องมา!"บนใบหน้าของกงจูเฉียนโหยวยิ้มออกมาด้วยความพึงใจ.

อาต้า,อาเอ้อและจื่อเห่าย่อมเข้าใจได้ดี,พวกเขาที่ออกมาด้านนอกห้องโถง,คุ้มกันด้านนอกเอาไว้.

เห็นใบหน้าของกงจูเฉียนโหยวที่ซีดขาว,ร่างกายที่ผอมแห้ง,ดูมืดมน,ความรู้สึกมากมายที่เอ่อล้นสั่นไหวโดยไม่ได้ตั้งใจ,ในเวลานี้,จงซานพบแล้วว่า,ความเป็นจริงแล้วเขาเองก็มีความรู้สึกที่มากมายให้กับนางเช่นกัน,เขาที่พยายามผลักให้นางออกห่าง,ทว่าในเวลานี้,ไม่จำเป็นต้องใส่ใจอะไรแล้ว,จวบจนถึงตอนนี้,จงซานสามารถยืนยันความรู้สึกของตัวเองที่มีได้อย่างแน่นอน.

เขาจำเป็นต้องซื่อสัตย์ต่อหัวใจตัวเอง,ว่าตัวเขานั้นก็มีนางอยู่ในใจด้วยเช่นกัน.

ในเมื่อรับรู้หัวใจของตัวเองแล้ว,จงซานจึงไม่หลบเลี่ยงนางอีกต่อไป.

จงซานที่ยื่นมือออกไปช้าๆลูบใบหน้าของนางอย่างนุ่มนวล,กล่าวออกมาด้วยเสียงที่แผ่วเบา,"เจ้าผอมไปมากนะ!"

มือของจงซานที่ยืดออกไปนั้น,กงจูเฉียนโหยวไม่หลบเลี่ยงแม้แต่น้อย,แม้แต่ความรู้สึกนี้ มันคือสิ่งที่นางรอคอยมานานแสนนาง,รอยยิ้มที่ซาบซึ้งเปลี่ยนเป็นตื่นเต้นดีใจ,กับคำพูดของจงซาน,"เจ้าผอมไปมากนะ" ในเวลานี้,น้ำตาของนางที่พลั่งพลูหลั่งไหลออกมาเป็นสาย.

"พรึบ!!"

กงจูเฉียนโหยวที่โผร่างเข้าหาจงซาน,เข้าสู่อ้อมกอดของเขา,น้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด.

จงซานที่แสดงความรักต่อนาง,นางเองก็เต็มไปด้วยความรักที่มีต่อเขามากมาย,ความรู้สึกที่มากล้นนี้ไม่ใช่แค่วันนี้,ทว่าเป็นเวลาก่อนหน้าที่สะสมอยู่ในใจของนาง.

ยิ่งต้องรักษาระยะห่าง,ความโหยหาก็ยิ่งมากมายเป็นทุน,หัวใจที่คะนึงหานี้,มันได้สุกงอมไปเรียบร้อยแล้ว.

นับตั้งแต่หยิงหนิงตายไป,นางก็ถูกคุมขัง,ดูเหมือนว่าญาติพี่น้องตระกูลกู่,ทุกคนที่ตัดสัมพันธ์ในทันที,ทุกคนก่อนหน้าที่ที่เคยสนิทชิดเชื้อ,ทันใดนั้นได้กลายเป็นคนไม่รู้จักไป,เหนือหัวที่โกรธเกรี้ยวไม่สนใจนาง,แม้แต่บิดาของนาง,ยังหลีกหนีไม่ขอยุ่งเกี่ยว.

เหล่าคนที่เคยสนับสนุนเปลี่ยนเป็นไม่แยแส,ราวกับว่าโลกทั้งใบได้กลับข้างไปแล้ว,ไม่มีใครยินดีที่จะช่วยนางแม้แต่น้อย,ราวกับว่านางได้ไปยืนอยู่ในป่าทึบเพียงคนเดียว,ยืนนิ่งอยู่ด้วยความกลัว,เงียบเหงาอย่างที่สุด,ความโศกเศร้า,ความเสียใจที่อัดแน่นอยู่ภายในหัวใจ,ในเวลานั้น,มีเพียงแค่จงซาน,มีเพียงจงซานที่นางเชื่อใจได้แน่นอน,เทียบกับเหล่าญาติพี่น้องตระกูลกู่แล้วยังเทียบไม่ได้กับจงซาน,ภายในใจที่คิดถึงปรารถนาที่จะให้จงซานมาปรากฏต่อหน้านาง,นางที่ได้แต่เฝ้าปรารถนา,และแล้วความปรารถนาของนางก็เป็นผล,นางที่กำลังอยู่ในอ้อมกอดของเขา,นางที่ไม่คิดอะไรอีกต่อไปอีกแล้ว,ไม่ว่าด้านนอกจะมีลมมีฝนรุนแรงแค่ใหน,ณ ตอนนี้, กงจูเฉียนโหยวรับรู้แล้ว่าจงซานคือคนที่นางรักที่สุด,นางไม่สนใจแม้แต่น้อยว่าจะถูกพัดพาด้วยสายน้ำหลากที่รุนแรงแค่ใหน.
Zhong Shan appeared, such as imagination, tight is holding Princess Qianyou.
จงซานที่มาปรากฏตรงนี้,ราวกับเป็นความฝัน,กงจูเฉียนโหยวที่กอดจงซานแน่นราวกับว่าเขาจะจางหายไป.

ไม่มีคำพูดใดมีเพียงแค่อ้อมกอดของเขาที่รัดแน่นแต่เปี่ยมไปด้วยความอบอุ่น.

กงจูเฉียนโหยวในเวลานี้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาในทันที,ใบหน้าของนางที่เปื้อนยิ้มด้วยความพอใจ,แม้ในอดีตนางจะเป็นหญิงสาวแกร่ง,ทว่ามันหายไปหมดไม่มีเหลือ,ตอนนี้เป็นได้แค่เพียงผู้หญิงตัวน้อยในอ้อมกอดของจงซาน,เป็นผู้หญิงตัวน้อยที่ต้องการคนปกป้อง,ไม่คิดเลยว่าภายในอ้อมกอดของเขา,ต่อให้มีลมพายุที่รุนแรงขนาดใหน,นางก็ไม่หวาดกลัว,รู้สึกได้ถึงความสุข,ความอบอุ่นที่ราวกับอยู่ในสรวงสวรรค์.

ภายในใจของจงซานเองก็รู้สึกอบอุ่นเช่นเดียวกัน,จ้องมองไปยังกงจูเฉียนโหยวในอ้อมกอด,มือของเขาที่โอบกอดนาง,พร้อมกับสัมผัสเบาๆที่ผมยาวของนาง,ปลอบนางด้วยความนุ่มนวล,ทว่าในเวลานี้,เขาพบว่านางได้เผลอหลับไปแล้ว,คาดไม่ถึงเลยว่าจะหลับไปภายใต้อ้อมกอดของจงซาน.

เป็นถึงผู้ฝึกตนจักรพรรดิแท้ผู้เคร่งขรึม,ร้องไห้และก็ร้องให้จนผลอยหลับไปอย่างงั้นรึ?

จงซานที่เผยยิ้มด้วยความรักและอาทร,อุ้มนางเข้าไปยังห้องด้านใน,ก่อนที่จะวางนางบนเตียงหยกอย่างนุ่มนวล,พร้อมกับนำผ้าห่มคลุมร่างให้กับนาง.

จ้องมองกงจูเฉียนโหยวที่นอนหลับด้วยรอยยิ้ม,พร้อมกับลูบผมของนางไปมา.

ด้วยความกดดันและปัญหาที่โถมกระหน่ำมายังร่างของนาง,ทำให้นางอยู่ในสภาวะตรึงเครียด,จนทำให้ร่างกายผอมแห้ง,จิตใจที่เต็มไปด้วยความยุ่งเหยิงวุ่นวาย,ปมที่ผูกมัดกันแน่นไปหมด,จิตใจที่สูญเสียความเยือกเย็น,ภายในเต็มไปด้วยความมืดมิด,จวบจนเมื่อนางได้พบกับจงซาน,สิ่งที่นางแบกไว้จึงสามารถวางมันลงได้,ทำให้นางผ่อนคลาย,จนรู้สึกหมดแรงและหลับไปเอง.

กงจูเฉียนโหยวที่เหนื่อยล้า,และได้พักผ่อนไปหนึ่งวัน.

ขณะที่กงจูเฉียนโหยวตื่นขึ้น,ก็พบว่าจงซานยังคงอยู่ข้างๆนาง,กำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง,มือของเขาที่ยังกุมมือของนางไม่ยอมปล่อย.

ความอบอุ่นที่แผ่ซานออกมาจากมือของจงซาน,ทำให้ใบหน้าของกงจูเฉียนโหยวใบหน้าแดงระเรื่อ,ร่างกายที่ขยับ,ทำให้จงซานรู้สึกตัว.

"ตื่นแล้วรึ?"จงซานกล่าว.

"อืม!"กงจูเฉียนโหยวที่พยักหน้าด้วยท่าทางเขินอาย.

นี่นับเป็นครั้งแรกที่เห็นท่าทางเช่นนี้ของกงจูเฉียนโหยว,ในอดีตนางที่สุขุมใจเย็น,ไม่คิดเลยว่าความสุขุมนั้นได้หายไปจากใบหน้าของนางแล้ว.

"เอาล่ะ,หนึ่งเดือน,ยิ่งนับวันเวลาก็ยิ่งไหลผ่าน,พวกเรามาพูดเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นกันเถอะ!"จงซานที่สูดหายใจลึก.

"หนึ่งเดือน?"กงจูเฉียนโหยวสอบถาม.

"ใช่แล้ว,ฝ่าบาทให้เวลาข้าหนึ่งเดือน,สืบเรื่องของเจ้าให้กระจ่าง.

"จะเป็นไปได้อย่างไร,เหล่าขุนนางไม่มีใครกล้ากล่าวอะไรในเวลานี้,ก่อนหน้านี้,ฝ่าบาทที่เคยเอ็นดูข้า,กลับโกรธเกรี้ยว,แม้แต่ห้ามไม่ให้ใครเอ่ยถึงเรื่องนี้อีก."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"เฮ้เฮ้,ไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิด,ในความเห็นของข้า,ในท้องพระโรงนั้น,คนที่เป็นห่วงเจ้าที่สุด,ก็คือฝ่าบาท!"จงซานที่สูดหายใจลึก.

"ฝ่าบาทนะรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่แสดงท่าทางสงสัย.

"ถูกแล้ว,เรื่องนี้ซับซ้อนมาก,หลักฐานมัดตัวเจ้าแน่น,ไม่มีใครสามารถลบล้างคดีของเจ้าได้,หากว่ายังสืบต่อก็จะยิ่งรัดตัวเจ้าเข้าไปอีก,เรื่องนี้ยิ่งมีคนรู้มาก,จะยิ่งไม่เป็นประโยชน์ต่อตัวเจ้า,ฝ่าบาทนั้นต้องการปกป้องเจ้า,จึงได้ทำเช่นนั้น,หลังจากที่ข้าได้ขอเรื่องนี้กับฝ่าบาท,ฝ่าบาทจึงรับปากในทันที,และนอกจากนี้ยังมอบกระบี่อาญาสิทธิ์ให้แก่ข้าเพื่อสืบสวนเรื่องนี้ให้ชัดแจ้ง."จงซานกล่าว.

"แล้วเจ้าทำอย่างไรถึงสามารถปิดปากเหล่าขุนนางเหล่านั้นให้เงียบเสียงไปได้ล่ะ?"กงจูสอบถาม.

"ก็เป็นแค่เมฆลอยๆ"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม

**มาจากประโยคนี้ 什么都是浮云[shénme dōushì fúyún] ใช้เพื่อระบายอารมณ์ คลายเครียด ประมาณว่าไม่ต้องซีเรียสอะไรมากนัก ปล่อยๆ ไปมั่งไม่ต้องเอาจริงเอาจังกับชีวิตอะไรมากนักจนทำให้เป็นทุกข์
"เมฆลอยๆอะไรกัน?"กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"ใช้คุณงามความดีของข้าเป็นหลักประกัน!"จงซานกล่าว.

กงจูเฉียนโหยวที่ไม่กล่าวสิ่งใดแต่เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง,ไม่รู้ว่าจะกล่าวสิ่งใด,ทำได้แค่กล่าว"อืม"จ้องมองสายตาที่หนักแน่นของจงซาน,ทำให้นางหัวใจสั่นไหวเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึก,ราวกับว่ามันทำให้นางลุ่มหลงจนไม่สามารถถอนตัวขึ้นได้.

"เช่นนั้นเกิดสิ่งใดขึ้น,ข้าจำเป็นต้องได้รับรายละเอียดต่างๆเพื่อใช้ในการค้นหาหลักฐาน,มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นบ้าง,ล่ามาอย่าให้ได้ตกหล่นไป!"จงซานกล่าว.

"ในวันนั้น....."

จงซานที่กำลังตั้งใจฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้น.

ตำหนักจวินจู่หยิงหนิง,ได้จัดงานเลี้ยงฉลองขึ้นที่ตำหนัก,เชิญเหล่าแขกเหลือที่สำคัญมามากมาย,รวมทั้งกงจูเฉียนโหยว,ฉีเทียนโห่วและหม่าจูหรี.

"ยินดีกับจวินจูด้วย,ที่อาวุโสเทียนเทียนรับเจ้าเป็นศิษย์."หม่าจูหรีที่ยกแก้วกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"ท่านลุงอย่าล้อข้าสิ,ยังไม่ได้รับอย่างเป็นทางการเลย!"หยิงหนิงที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม,พร้อมกับยกสุราขึ้นดื่ม.

"ไม่ช้าก็เร็ว,อาวุโสเทียนกล่าวแล้ว,ต้องรักษาสัญญา,เมื่อเป็นศิษย์ของอาวุโสเทียนแล้ว,ฝ่าบาทจะต้องเลือนตำแหน่งเจ้าเป็นกงจูหลังจากนั้นแน่นอน,ต่อไปพวกเราจะต้องเรียกเจ้าว่ากงจูหยิงหนิงแล้ว."หม่าจูหรีที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"กงจูเฉียนโหยว,อาวุโสเทียน,ที่เลือกหยิงหนิงเป็นศิษย์,หวังว่าเจ้าจะไม่อิจฉา!"ฉีเทียนโห่วที่อยู่ใกล้ๆจ้องมองไปยังกงจูเฉียนโหยว.

กับคำพูดที่อหังการของฉีเทียนโห่วที่จ้องมองออกไปทำให้ทุกคนนิ่งงันเลยทีเดียว.

"ข้ามาวันนี้,มายินดีกับหยิงหนิงด้วยความจริงใจ,ยินดีด้วย!"กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมาด้วยความใจกว้าง,พร้อมกับยกแก้มขึ้นดื่มให้กับหยิงหนิง.

"ขอบคุณพี่เฉียนโหยว!"หยิงหนิงที่ดีใจเป็นอย่างมากพร้อมกับยกแก้วขึ้นดื่มด้วยเช่นกัน.

งานเลี้ยงที่เป็นไปด้วยความสนุกสนาน,ทุกๆคนต่างก็พูดคุยกันอย่างสนุก,ในระช่วงระหว่างกลางงานเลี้ยงนั้น,หยิงหนิงที่เข้าไปลากกงจูเฉียนโหยวออกมาในทันที.

"พี่เฉียนโหยว,มากับข้าเร็วเข้า."หยิงหนิงกล่าว.

เฉียนโหยวที่ไม่ได้คิดอะไรนัก,วางแก้วลงก่อนที่จะตามหยิงหนิงออกมา,ซึ่งสถานที่หยิงหนิงลากนางมานั้น,เป็นลานด้านหลัง,ซึ่งสถานแห่งนี้ไม่มีใครอยู่เลย.

"พาข้าออกมาทำไมรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่แสดงท่าทางสงสัย.

"ข้าได้ยินมาว่าพี่เฉียนโหยว,มีร่างสถิตธาตุวายุอย่างงั้นรึ? จริงใช่ใหม?"หยิงหนิงที่ชำเลืองมองตาโต.

"เจ้าไปได้ยินมาจากใหน,ใครเป็นคนบอกเจ้ากัน?"กงจูเฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมา,สอบถามออกไปในทันที.

"มีใครบางคนบอกข้ามา,พี่เฉียนโหยว,อย่าเพิ่งถามเลย,ข้าได้ยินมาว่าร่างสถิตทั้งเก้านั้นลึกลับมาก,พี่หญิงช่วยแสดงให้ข้าดูได้หรือไม่?"ใบหน้าของหยิงหนิงที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง.

"แสดงรึ? อย่างไร?"กงจูเฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ด้วยสิ่งนี้ไงล่ะ."หยิงหนิงที่กล่าวออกมาในทันที,ก่อนที่จะเดินไปยังมุมๆหนึ่ง,พร้อมกับนำกล่องๆหนึ่งออกมา,พร้อมกับหยิบคันศรยาวสีเขียวมรกตซึ่งมีลวดลายอักขระมากมาย.


"คันศรเทพวายุรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น