Immortality Chapter 356 Surface Saint
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 356 พบเซิ่งซ่าง.
Chapter 356 Surface Saint
面圣
พบเซิ่งซ่าง.
หลังจากพายุ ศรปราณจบลง,หม่าจุ่หรีก็ได้นำกลุ่มคนของเขาที่ได้รับบาดเจ็บหนีเข้าไปในเมือง,จงซานจึงได้หยุดยิง.
"เซียนเซิง,พวกเขาไปหมดแล้ว!"อาต้าที่จ้องมองไปยังทิศทางที่ไกลออกไป.
"ตงฟางโห่ว,เรื่องนี้,ท่านได้นำปัญหาใหญ่มาแล้ว,นั่นเป็น........"องค์รักษ์ทั้งสองที่จ้องมองไปยังจงซานด้วยท่างเป็นกังวล.
"หายนะรึ?หายนะอันใดกัน?
คนกลุ่มนั้นได้ใช้กำลังขู่เข็นทัพของข้า,พวกท่านก็เห็นแล้วพวกเขาต้องการจับคนของข้า,หากว่าวันนี้ข้าปล่อยให้เขากระทำ,วันข้างหน้าพวกเขายิ่งได้ใจกระทำการหนักยิ่งกว่านี้."จงซานที่ชำเลืองตามอง.
"หืม?"องค์รักษ์ทั้งสองที่มองหน้ากันและกัน,ไม่กล่าวสิ่งใดอีก.
ใช่แล้วใครบอกให้หม่าจู่หรีเข้ามาจับคน,แต่ไม่รายงานชื่อของตัวเอง,ตงฟางโห่วที่เพิ่งกลับมาจากด้านนอก,โดยทั่วไปแล้วย่อมไม่รู้จัก,ในเมื่อตงฟางโห่วไม่รู้จัก,พวกเขาจึงไม่กล่าวอะไรออกไปอีก.
แน่นอน,สิ่งที่ทั้งคู่เองไม่รู้เช่นกัน,หากแม้ว่าหม่าจู่หรีจะเอ่ยชื่อของตัวเองออกมา,จงซานยังจะลงมือหรือไม่?
"ตงฟางโห่ว,ที่นี่เชิญ!"องค์รักษ์ทั้งสองที่นำทางมา.
"อืม!"จงซานพยักหน้ารับ,ก่อนที่จะนำกองทัพของเขาเดินทางเข้าไปด้านในเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์.
ไม่นานนัก,ก็ไปถึงคฤหาสน์ที่เรียกว่าตงฟาง,ที่แห่งนี้อยู่ทิศตะวันออกของเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์,แม้ว่ามันจะลาดเอียงไปหน่อย,ทว่าบรรยากาศนับว่ายอดเยี่ยมทีเดียว,พื้นที่เองก็นับว่ามีขนาดใหญ่,สถานที่แห่งนี้นับว่าเป็นเกาะลอยฟ้าใหญ่โตเกาะหนึ่งเลยก็ว่าได้.
"ตงฟางโห่ว,ท่านอยู่ที่นี่รอให้เหนือหัวเรียกตัวก็แล้วกัน,พวกเราขอลาก่อน!"องค์รักษ์ทั้งสองที่กล่าวออกมาในทันที.
"ขอบคุณท่านทั้งสอง!"จงซานเอ่ย.
"เป็นหน้าที่ของพวกเราอยู่แล้ว."คนทั้งสองที่แสดงความเคารพก่อนจากไป.
"จื่อเห่า!"จงซานเอ่ย.
"อยู่นี่แล้ว"จื่อเห่าที่กล่าวรับคำในทันที.
"เจ้านำอาต้ากลับไปส่งยังที่พักของกงจูเฉียนโหยว."จงซานสั่ง.
"รับทราบ!"จื่อเห่ารับคำในทันที.
"เซียนเซิง,ข้าไปก่อน!"อาต้ากล่าว.
"อืม!"จงซานพยักหน้า.
เป็นจื่อเห่าที่คุ้มกันอาต้ากลับไปยังที่พักของกงจูเฉียนโหยว.
"อู๋เหิน,ที่นี่คือพื้นที่กองทัพของพวกเรา,จัดแจงเหล่าทหาร,และจัดสรรพื้นที่ให้กับเหล่าทหารเพื่อพักและฝึกฝน!"จงซานออกคำสั่ง.
"ครับ!"สุ่ยอู๋เหินที่ตอบรับในทันที.
"อู๋ซ่าง,มากลับข้า!"จงซานที่เอ่ยออกมาในทันที.
"ครับ!"หลิวอู๋ซ่างที่ตอบรับในทันที.
จงซานนำหลิวอู๋ซ่างบินเข้าไปยัง,ตำหนักตงฟาง.
จงซานที่เคยใช้ตำหนักเจ้าเมืองมาก่อน,แต่ไม่คิดเลยว่าสถานที่แห่งนี้กลับหรูหรายิ่งกว่า,สร้างความประหลาดใจเป็นอย่างมาก.
ตำหนักตงฟาง.
"อู๋ซ่าง,ข้าต้องการให้เจ้าออกไปจัดการเรื่องบางอย่างให้ข้าในเวลานี้!"จงซานกล่าว.
"จอมพลเชิญกล่าวได้เลย."หลิวอู๋ซ่างกล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
จงซานที่นำแผ่นริ้วหยก,ซึ่งด้านในนั้นมีข้อความบางอย่าง,ซึ่งเป็นข้อมูลที่สำคัญเป็นอย่างมาก.
"ภายในเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์,หอการค้าเขตสาม,"โรงเตี้ยมหยุนไหล"
เจ้านำข้อความนี้ไปให้เถ้าแก่,ระมัดระวังด้วย!"จงซานกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"หืม,ครับ!"หลิวอู๋ซ่างที่ตอบรับในทันที.
...........
นครบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์,กระทรวงยุติธรรม,สถานที่ทำงานของรองเสนาธิการกระทรวงยุติธรรม.
สายตาของรองเสนาธิการยุติธรรมแววตาที่โกรธเกรี้ยว,จ้องมองตาขวางไปยังคนทุกคน,เวลานี้เขาได้กลับมาที่ทำงาน,พร้อมกับเข้าไปในห้องของตัวเอง,เป็นหม่าจู่หรีนั่นเอง.
"ท่านลุง,มีใครทำให้ท่านไม่พึงพอใจอย่างงั้นรึ?"ภายในห้องนั้นเป็นเสียงของฉีเทียนโห่วนั่นเอง.
เห็นฉีเทียนโหยวแล้ว,ใบหน้าของหม่าจูหรีก็เปลี่ยนไปในทันที,เผยสีหน้าแววตายิ้มแย้มแจ่มใส.
"ก็เรื่องที่จงซานที่เจ้าบอกข้าก่อนหน้านี้?
คาดไม่ถึงเลยว่าเขาต้องการสังหารข้า."หม่าจูหรีกล่าวออกมาทันที.
"หืม?"ดวงตาของฉีเทียนโห่วที่เปล่งประกาย.
จากนั้น,หม่าจูหรีก็เริ่มเล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้น,ต่อฉีเทียนโห่วทั้งหมด,ก่อนที่จะยกยิ้มขึ้นมาที่มุมปากเล็กน้อย.
"ท่านลุง,นี่มันอาชญากรรม,จงใจสังหารขุนนางวังหลวง,นอกจากนี้ยังอยู่ในเขตแดนเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย,การสังหารเจ้าหน้าที่ของเหนือหัวที่แต่งตั้ง,แม้แต่สวรรค์ก็ไม่สามารถให้อภัย! เมื่อถึงวันนั้น,เมื่อเหนือหัวเรียกเขาเข้าไปยังท้องพระโรง,ในเวลานั้นท่านก็..."ดวงตาของฉีเทียนโห่วเต็มไปด้วยความดุร้าย.
"ข้าเข้าใจแล้ว!"ใบหน้าของหม่าจีหรูที่เผยสีหน้าประจบประแจง.
หลังจากนั้นสามวัน,จงซานในตำหนักตงซาน,บนเกาะลอยฟ้าตะวันออก,จงซานที่นั่งเคาะนิ้วไปมาเบาๆบนพยักพิง,หลับตาแน่นคิดอะไรที่ลึกล้ำ.
ในเวลานั้น,สุ่ยอู๋เหินและหลิวอู๋ซ่างที่เดินเข้ามาภายในห้องโถงช้าๆ.
"จอมพล,ตามที่ท่านให้พวกเราไปสังเกตการณ์ตอนนี้พวกเราได้ข่าวมาแล้ว,ตอนนี้ภายในนครบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์,เริ่มมีข่าวลือบางอย่างเกิดขึ้นมาแล้ว!"หลิวอู๋ซ่างกล่าว.
"หืม?"จงซานที่หลับตาข้างลืมตาข้างกล่าวออกมา.
"ตอนนี้มีข่าวลือออกมาว่า,กองกำลังของพวกเรานั้นถูกถอดถอนจากแนวหน้า,กลับมายังนครบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์,เพื่อจัดการกับเหล่าโจรร้ายกลุ่มเล็กๆน้อยเท่านั้น,ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรนัก."หลิวอู๋ซ่างกล่าว.
"ไปได้เป็นประโยชน์อะไรกับภาพพจน์ของกองกำลังของเราอย่างงั้นรึ?
เฮ้เอ้,พวกเจ้าคงไม่รู้,ไว้รอให้ข้าพบกับฝ่าบาทก่อน,เมื่อนั้นกองทัพของพวกเราจะกลายเป็นกองทัพตัวอย่างของกองทัพทุกกอง!"จงซานกล่าว.
"หืม?"หลิวอู๋ซ่างที่ชำเลืองมองออกไปเล็กน้อย.
"จอมพล,สามวันที่แล้ว,หรือว่าเป็นเรื่องที่ข้าได้ส่งข่าวไปยังโรงเตี้ยมหยุนไหลอย่างงั้นรึ?"หลิวอู๋ซ่างที่กล่าวสอบถามออกมา.
"อืม,ตอนนี้,พวกเราเป็นเพียงแค่ตัวตลกของนครบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์,หลังจากวันพรุ่งนี้,ข้าจะสร้างเรื่องที่จะประทับลงไปในใจของประชาชนทุกคน."จงซานกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.
"เพราะกงจูเฉียนโหยวอย่างงั้นรึ?"สุ่ยอู๋เหินที่ขมวดคิ้วไปมา.
จงซานที่ลืมตาขึ้นทั้งหมด,เผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล."อู๋เหิน,เวลานี้คืบหน้าไปถึงใหนแล้ว!"
"ข้าได้ทำตามที่จอมพลแนะนำทุกอย่างแล้ว!"สุ่ยอู๋เหินที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.
"หืม,นี่คือหลุมพลางที่เอาไว้ดักกงจูและข้า,นับว่าประสบผลดีเยี่ยม,เพราะว่าความอิจฉา,จึงได้สังหารน้องสาวตัวเองรึ?
จากนั้น,ก็สร้างความโกรธเกรี้ยวต่อเซิ่งซ่าง,จนได้รับการลงโทษหนักจากราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว,พร้อมกับสร้างความรังเกียจต่อประชาชนทั่วไป,แทบจะทุกคนต่างตัดขาด,แม้แต่ญาติพี่น้อง,ไม่มีใครพูดคุยกับนาง,หรือแม้แต่บิดาอ๋องเจิ้งอี้,ยังตัดความสัมพันธ์,ไม่ว่าจะเป็นขุนนางสูงหรือต่ำ,ในเวลานี้,ต่างก็ไม่กล้าพูดคุยกับนาง?
เหล่าข้าราชบริพานทั้งหมดไม่กล้าเอ่ย,เพราะว่ากลัวที่จะมีส่วนเกี่ยวข้อง,หากว่าใครเริ่มกล่าวเรื่องนี้,จะต้องกลายเป็นเรื่องที่เสื่อมเสียต่อราชสำนัก,ไม่มีใครยินดีที่จะรับฟังและช่วยเหลือกงจูเลย,สิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้,สถานการณ์ทุกอย่างดูเหมือนว่าจะได้วางเอาไว้,เพื่อให้เหล่าข้าราชสำนักทุกคนเข้าใจว่าเป็นกงจูได้ลงมือสังหารน้องสาว,ไม่มีใครกล้ากล่าวอะไรต่อฝ่าบาทอย่างงั้นรึ?เป็นไปไม่ได้,อย่างน้อยก็ต้องมีการพูดคุยเรื่องรายระเอียดบ้าง,รวมทั้งเหล่าพยานรู้เห็น,แผนการครั้งนี้ราวกับว่าได้ทำการคำนวณมาอย่างดีแล้ว."จงซานที่สูดหายใจลึก.
"จอมพล..."สุ่ยอู๋เหินที่ขมวดคิ้วจ้องมองไปยังจงซาน.
"อืม,ประจวบเหมาะมากกับที่ข้านั้นกลับมายังนครบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์,ดังนั้นอาจจะถูกลากเข้าไปเกี่ยวข้อง,กับเรื่องนี้,ถูกทำลายชื่อเสียงไปพร้อมกับภาพพจน์ของกงจู,ในเวลานั้น,ชื่อเสียงของข้าก็จะล่วงหล่นไปพร้อมกับนาง."จงซานที่สูดหายใจลึก.
"จอมพลเรื่องนี้,เรื่องนี้โปรดคิดทบทวนไปมาให้ดี!"สุ่ยอู๋เหินที่สูดหายใจลึก,เพราะว่าสุ่ยอู๋เหินรับรู้ว่าถึงจะเป็นกับดัก,จงซานนั้นไม่มีทางทิ้งกงจู,เขาจะต้องโดดเข้าไปช่วยเหลือนางอย่างแน่นอน.
"บุรุษที่แท้จริงต้องมีความรับผิดชอบตลอดเวลา,จำต้องมีความกล้าที่จะสร้างประวัติศาสตร์,เกิดมาครั้งหนึ่งจะไม่ได้เสียชาติเกิด,แน่นอนว่านั่นคือสิ่งที่บุรุษที่แท้จริงต้องมี!"จงซานกล่าว.
"ครับ!"คนทั้งสองที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
"ฝ่าบาทเรียกตัวข้าเข้าไป,ยามเฉินที่ท้องพระโรง,ระหว่างนั้น,ห้ามไม่ให้ใครรบกวน,ข้าคิดว่าจะจัดการทุกอย่างในวันทุกนี้."จงซานกล่าว.
“ยามเฉิน” (辰时) คือเวลา 7
โมงถึง 9 โมงเช้า
"ครับ!"คนทั้งสองที่รับคำก่อนที่จะถอนออกไป.
เช้าวันถัดมา,ยามเหมา,จงซานที่อยุ่ด้านหน้าตำหนักหลวง,ซึ่งมีเหล่าขันทีอยู่ด้านหน้า,วันนี้เป็นวันที่เขาจะต้องเข้าพบกับเซิ่งซ่าง.
ยามเหม่า (卯时) คือเวลา 05.00 น. – 07.00 น.
บรรยากาศที่ดูหนักอึ้ง,ด้านหน้ามีหมอกมากมายที่ล่องลอยตลอดสองข้างทาง,ที่จริงแล้วมันเป็นหมอกสีทองที่กระจายออกไปนับหมื่นจั้ง,ส่องประกายแสงวับวาวบนเหล่ามวลเมฆา,ตัดแสงดวงตะวันกลายเป็นแสงหลากสี,กลายเป็นริ้วแสงเจิดจรัสอยู่บนท้องฟ้า.
ที่ด้านหน้าของเขานั้นเป็นภูเขาหยก,เป็นรูปสีเหลี่ยมผืนผ้าบนยอด,มีสะพานที่สูงชันยาวขึ้นไป,เป็นบันไดหยกสีขาว,ทอดยาวยืดไปถึงยอดเขา,ซึ่งท้องพระโรงของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวอยู่บนนั้น,"วิหารเทวะไท่กู่."
ตลอดจนมีบันไดที่สูงชันมีองค์รักษ์หลวงที่ตั้งแถวเป็นสองแถวเป็นระเบียบประจำตำแหน่งไปจนถึงปลาย.
"ตงฟางโห่ว,ที่ด้านบนคือภูเขาไท่กู่,และมีวิหารไท่กู่,ข้ามผ่านบันได
6600 ขั้น,ไปรอที่ขั้น 66,ไปรอที่นั่นให้ฝ่าบาทเรียกตัว!"ขันทีชราที่กล่าวต่อจงซาน.,
"ขอบคุณ,ต้องรบกวนท่านแล้ว!"จงซานเอ่ย.
ขันทีชราส่ายหน้าไปมาพร้อมกับเผยยิ้มออกมา,ทว่าไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา.
ยามเฉิน.
"ประกาศ,ตงฟางโห่วจงซาน,เข้าตำหนักไท่กู่ได้!"
หมอกสีทองที่เปิดทางออกมา,พร้อมกับส่งข้อความหมุนวนลงมาด้านล่าง
"ประกาศ,ตงฟางโห่วจงซาน,เข้าตำหนักไท่กู่ได้!"
......
ประกาศทั้งหมดเก้าครั้ง.
"ตงฟางโห่ว,ก้าวขึ้นไปบนบันไดได้!"ขันทีชราที่อยู่ด้านข้างกล่าวเอ่ย.
"อืม."จงซานพยักหน้า.
สูดหายใจลึก,ก่อนที่จะก้าวขึ้นบันไดอย่างรวดเร็วมุ่งตรงไปยังวิหารไท่กู่.
ด้วยหมอกวายุที่หมุนวนรอบๆร่างของเขา,ทำให้เคลื่อนที่ไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว,พริบตาเดียวจงซานก็ขึ้นไปถึงยอดเขาไท่กู่แล้ว.
วิหารไท่กู่อย่างงั้นรึ?
นี่คือตำหนักไท่กู่,ซึ่งอยู่บนยอดเขาไท่กู่,มีศิลาสลักรูปมังกรเก้าตน,แววตาที่ดูโกรธเกรี้ยวจ้องมองออกไปด้วยความดุร้าย,ท่าทางอหังการที่อ้าปากขึ้นไปบนสวรรค์,ที่ด้านบนของหัวมังกรนั้นเป็นห้องโถงใหญ่ที่มีขนาดร้อยจั้งอยู่.
เห็นเช่นนี้,ทำให้จงซานตื่นตะลึงไม่น้อย.
เพราะว่ามันดูเหมือนตราอลัญกรของเขามาก,ซึ่งตราหยกของเขาเป็นมังกรเก้าตนที่กำลังไขว่คว้ามุกสีชาติอยู่,ทว่าตราหยกของที่นี่ไม่ได้ไขว่คว้าที่จะกลืนกินมุก,แต่เป็นวิหารไท่กู่แทน.
กับตำหนักที่ใหญ่โตมโหฬารนี้,ดูน่าเกรงขามและทรงพลังเป็นอย่ามาก,จงซานที่ไม่ลังเลใจก้าวเข้าไปในทันที.
ตำหนักไท่กู่,นี่คือท้องพระโรงของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว!
ทันที่ที่ก้าวเข้าไปด้านใน,จงซานที่รู้สึกราวกับว่าโลกได้เปลี่ยนไปในทันที,เพียงแค่ก้าวเข้าไป,ราวกับว่าที่ด้านในนั้นเป็นอีกโลกหนึ่ง.
สายตาของเขาที่จับจ้องมองไปยังทิศเหนือ,ซึ่งมีเซิ่งซ่างของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว,นั่งอยู่บนบัลลังก์เก้ามังกร,กู่เฉิงตง.
จงซานไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนนักว่าเซิ่งซ่างนั้นมีรูปร่างเช่นใด,ทว่าสัมผัสได้ถึงพลังของสวรรค์จากเก้าอี้เก้ามังกร,ราวกับว่าเป็นของแดนสวรรค์,สวรรค์ของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว.
เหล่าข้าราชบริพานที่ตั้งสองแถวทั้งสองข้าง,สายตาทุกคนที่จับจ้องมองมายังจงซานพร้อมๆกัน,ที่ด้านบนนั้นมองไม่เห็นหลังคา,รวมทั้งพื้นที่รอบข้างราวกับว่าเป็นความว่างเปล่าที่ไร้ที่สิ้นสุด.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น