วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 302 Fights the day to blow up

Immortality Chapter 302  Fights the day to blow up

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 302  สงคราม.


Chapter 302  Fights the day to blow up
天鼓起
  สงคราม.

กองกำลังเคลื่อนทัพมาสองเดือนแล้ว! ซึ่งอีกครึ่งปีก็จะถึงกำหนัดที่จงซานได้รับปากไว้หนึ่งปี.

เมืองต้าเสวียน,ตำหนักเจ้าเมือง,ต้าเสวียนอ๋องในห้องหนังสือ.


กุนซือที่อยู่รอบๆ,ต้าเสวียนอ๋องที่กำลังอ่านจดหมายที่จงซานส่งมาให้.

"สองเดือนที่แล้ว,จงซานเคลื่อนทัพออกมาแล้ว."ต้าเสวียนอ๋องที่เอ่ยปากออกมา.

"ครับ,จงซานรู้สึกขอบคุณท่านอ๋อง,ที่ได้อนุญาตให้นำกองกำลังที่หนึ่งเข้าร่วมสงครามครั้งนี้ด้วย."กุนซือผู้หนึ่งกล่าว.

"ขอบคุณรึ? อาจไม่ใช่,หากว่านี้คือความจงใจของจงซานล่ะ? ต้องไม่ลืมว่าจงซานผู้นี้,กระทำทุกอย่างโดยระเอียด,น้ำไม่รั่วสักหยด,อาจกำลังสร้างความสับสันกับพวกเรา?"กุนซืออีกคนเอ่ย.

"ไม่ว่าอย่างไรจงซานเองก็คงจะคิดยอมจำนวนต่อพวกเรา,อย่างน้อยที่สุดก็เพื่อที่จะรักษาทหารในเมืองอู๋ซวังเอาไว้,พร้อมทั้งยังรับทหารต้าเสวียนที่หนึ่งเข้าสู่สนามรบด้วย."กุนซืออีกคนที่กล่าว.

ในเวลาเดียวกันกุนซืออีกคนที่เอ่ยปากออกมาทันทีเช่นกัน,"ที่สำคัญ,กองกำลังห้าแสน,ทั้งยังส่งจดหมายมาให้ท่านอ๋อง,พร้อมกับแจ้งให้ท่านอ๋องส่งขุนนางเตรียมเข้ามาบริหารงานเมือง 12 หลิงไห่ด้วยความเร็วอีกด้วย."

ได้ยินคำพูดของกุ่นซือคนที่หนึ่งกุนซือหลายคนต่างก็ขมวดคิ้วแน่น.

"ท่านอ๋อง,จงซานกล่าวเกินจริงไปมาก,กองกำลังห้าแสนกับกองกำลัง10 ล้านของทหารทั้ง 12 เมืองอย่างงั้นรึ? หนำซ้ำยังเป็นป้อมปราการเมืองทั้ง 12 ,ครึ่งปีรึ? การที่เขารับปาก 12 เดือน,เขาจะต้องหลอกลวงพวกเราแน่."กุนซืออีกคนที่กล่าวออกมา.

"หลอกลวง,ท่านอ๋องคิดว่าอย่างไร? จะเตรียมการอย่างไรดี? จะส่งขุนนางตามที่ร้องขอมาหรือไม่?"กุนซือที่หนึ่งจ้องมองไปยังต้าเสวียนอ๋อง.

ต้าเสวียนอ๋องที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,"ไม่เห็นมีอะไรเสียหาย,ทำไมจะไม่ส่งไปล่ะ?"
....

ฉีเทียนโหยวในเมืองแห่งหนึ่ง,ตำหนักเจ้าเมือง.

"จอมพล,กองกำลังทหารของพวกเราฟื้นฟูกลับมาเหมือนเดิมแล้ว,ตอนนี้พร้อมจะโจมตีเมืองถัดไปแล้ว?"ขุนพลคนหนึ่งกล่าว.

"ดี,พรุ่งนี้เตรียมออกเดินทาง."ฉีเทียนโห่วกล่าว.

"ครับ!"ขุนพลรับคำ.

"จอมพล,ที่เมืองอู๋ซวัง,แม่ทัพจงซาน,สองเดือนที่แล้วได้เคลื่อนทัพออกตีเมืองแล้ว."ขุนพลคนหนึ่งกล่าวออกมา.

"เป้าหมายของเขาคือ เมือง 12 หลิงไห่,ที่นั่นมีป้อมปราการเมือง 12 แห่ง,เขานำทหารไปมากมายขนาดใหนกัน?"ฉีเทียนโห่วสอบถาม.

"500,000! "ขุนพลกล่าว.

"500,000? ห้าแสนเองรึ?"ฉีเทียนโห่วที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ครับ,นอกจากนี้ที่เมืองอู๋ซวังข้ายังได้ยินข่าวลือมาด้วย."

"ข่าวลืออะไร?"ฉีเทียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมา.

"จงซานยังกล่าวปฏิญาณเอาไว้ พูดจาใหญ่โตเป็นอย่างมาก,ว่าเคลื่อนทัพคราวนี้จะสามารถยึด 12 เมืองหลิงไห่ได้."ขุนพลกล่าวตอบ.

"พูดจาใหญ่โตนัก!"ฉีเทียนโหวที่ขมวดคิ้ว.

"ครับ,จงซานนี้โง่ขนาดนี้เลยรึ?"ขุนพลอีกคนที่เผยยิ้มออกมา.

"ส่งคนออกไป,ตรวจสอบ 12 เมืองหลิงไห่ด้วย!"ฉีเทียนโหยวกล่าว.

"ครับ!"ขุนพลรับคำ.
 ....
สุ่ยจิงในเมืองแห่งหนึ่ง,ตำหนักเจ้าเมือง.

เซียนเซิงสุ่ยจิงที่สะบัดพัดไปมา,ฟังรายงานจากขุนพลด้านหน้า.

"สองเดือนที่แล้ว,แม่ทัพจงซานได้นำกองกำลังออกมาแล้ว,นำกองกำลัง 500,000 นายเตรียมเข้ายึดครองเมือง 12 หลิงไห่."ขุนพลผู้หนึ่งกล่าว.

เซียนเซิงสุ่ยจิงที่สูดหายใจยาว,หลับตาเล็กน้อย,พลางกล่าวออกมาว่า"ท้ายที่สุดเขาก็เริ่มสงครามแล้ว!"

"จอมพล,จงซานนี้โง่หรือไม่? กองกำลังห้าแสน,เขาคิดว่าจะเขายึดเมืองป้อมปราการ 12 ป้อม,และยังมีทหารอย่างน้อยหนึ่งล้านคนคอยปกป้องในแต่ละเมือง,และยังเป็นป้อมปราการที่แข็งแกร่งที่สุด,กองกำลังเพียงห้าแสนไม่ต่างจากเสนอตัวให้ถูกเชือดหรอกรึ?"ขุนพลอีกคนที่ขมวดคิ้วไปมา.

"เสนอตัวให้ถูกเชือดรึ? เฮ้เฮ้, ก่อนหน้านี้เจ้าเคยได้ยินเรื่องกองกำลังต้ายวี 8 ล้านคนที่เข้าล้อมกรอบหรือไม่,ตอนนี้เขานำกองกำลัง 5 แสน,จะบอกว่าเขาเสนอตัวขึ้นเขียงได้อย่างไร?"เซียนเซิงสุ่ยจิงที่สะบัดพัดไปมา.

"แต่ว่า...."ขุนพลคนหนึ่งที่กล่าวแย้ง.

"เอาล่ะ,ดูไปก่อน,ข้าบอกได้เลยไม่มีผิด,ส่งคนไปดูด้วยว่า,เขาใช้วิธีใหนเข้ายึดเมือง."เซียนเซิงสุ่ยจิงกล่าว.

"ครับ!"ขุนพลคนดังกล่าวที่ตอบรับ.

เมือง 12 หลิงไห่นั้น,เป็นเมืองชายทะเล12  เมืองที่เรียงกันตามชายทะเลซึ่งแตกต่างจากเมืองอู๋ซวังโดยสิ้นเชิง.

จงซานได้นำกองกำลังห้าแสนข้ามผ่านป้อมปราการเมืองที่หนึ่ง,และป้อมปราการเมืองที่สองไป,เพราะว่าจงซานเชื่อว่าป้อมปราการเมืองที่สามนั้น,น่าจะสามารถยึดครองได้ง่ายที่สุด.

ป้อมปราการเมืองที่สามถูกเรียกว่า "เมืองอัคคีสวรรค์" เป็นหนึ่งในเมือง 12 หลิงไห่,การป้องกันอยู่ในระดับกลาง,ทว่าการจะเข้ายึดครองยังเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก.

จงซานที่ปรากฏขึ้นที่ประตูตะวันออก,ยืนอยู่บนจุดที่สูงที่สุด,จื่อเห่าที่แปลงร่างกายเป็นร่างมนุษย์อีกครั้งแล้ว,ตอนนี้กำลังยืนอยู่ข้างกายจงซาน.

"ให้ทุกคนปีนขึ้นไปบนภูเขา,เตรียมลั่นกลองรบสายฟ้าด้วย!"จงซานกล่าว.

"ครับ!"ขุนพลที่รับคำสั่ง,พร้อมกับออกคำสั่งไปในทันที.

ปีนภูเขาอย่างงั้นรึ?"แม้ว่ากองกำลังทหารทั้งหมดจะเต็มไปด้วยความสงสัย,ทว่าเมื่อได้รับคำสั่งก็ต้องปีขึ้นไปบนยอดเขา,เหล่านักรบหมาป่าด้วยเช่นกัน.

ที่ด้านหลังของจงซานนั้นมีเนี่ยนโหยวโหยว,อาต้า,จื่อเห่า,เจ้าฉวน,สุ่ยอู๋เหินและหลิวอู๋ซ่าง.

"จอมพล,พวกเราไม่เข้าโจมตีเมืองอย่างงั้นรึ?"สุ่ยอู๋เหินที่ขมวดคิ้วสอบถาม.

"ข้ากำลังรอกำลังเสริม!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

กำลังเสริม? เหล่าขุนพลที่จ้องมองหน้ากันและกัน,สายตาของทุกคนที่เต็มไปด้วยความสงสัย,ไม่รู้ว่าจงซานกล่าวถึงกำลังเสริมอะไร,แล้วกำลังเสริมอยู่ที่ใหนกัน?

ทว่าในเวลาเดียวกัน,ที่ไกลออกไป,มีจุดๆหนึ่งบนท้องฟ้าไกล,ที่เคลื่อนที่มาด้วยความรวดเร็ว,เป็นจักรพรรดิพิษปัจจิมนั่นเอง.

"อาวุโส!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

อย่างไรก็ตามใบหน้าของจักรพรรดิพิษปัจจิมที่ดูขึงขังเป็นอย่างมาก,จ้องมองไปรอบๆ,ก่อนที่จะไปหยุดที่จงซาน,"เจ้าหนู,เจ้านี้มันช่างโชคดีตลอดเลยจริงๆ."

"อาวุโสล้อเล่นแล้ว."จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.

"ข้าไม่ได้ล้อเล่น,ตลอดมาไม่เคยมีใครกล้าต่อลองใดๆกับเห่าเม่ยลี,เจ้าเป็นคนแรก,ทว่ากลับไม่เป็นอะไรแม้แต่น้อย."จักรพรรดิพิษปัจจิมที่ส่ายหน้าไปมา.

"เฮเฮ,ทำไมอาวุโสรู้ได้ล่ะ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"ทำไมนะรึ?"จักรพรรดิพิษปัจจิมเองก็แสดงท่าทางสงสัยอยากรู้เช่นกัน.

"แม้ว่าข้าจะตั้งเงื่อนกับเห่าเม่ยลี,ทว่าจงซานนั้นก็เต็มไปด้วยความเคารพรักต่อเห่าเม่ยลี."จงซานที่กล่าวต่อจักรพรรดิพิษปัจจิมด้วยเสียงเบาๆ.

เคารพรักอย่างงั้นรึ? ดวงตาของจักรพรรดิพิษปัจจิมที่ดวงตากลมโตจ้องเขม็งไปยังจงซาน,กับท่าทางในวันนั้น,เจ้าแสดงท่าทางเคารพรักอย่างงั้นรึ?เพ่ย,เคารพรักอย่างไรกัน?

"อาวุโสตอนนี้คงสมปรารถนาแล้วสินะ,ท่านเองก็ควรที่จะมีความสุข."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"อืม,ท้ายที่สุดเห่าเม่ยลีก็กลายเป็นศิษย์ของข้า."จักรพรรดิพิษปัจจิมกล่าว.

"อีกนานแค่ใหน?"จงซานที่กล่าวสอบถามไปในทันที.

"ราวๆครึ่งชั่วโมง,เจ้าหนู,ดูเหมือนว่าเจ้าจะได้วางยาพิษกับข้าตั้งแต่แรกแล้วสินะ!"จักรพรรดิพิษที่กล่าวต่อจงซาน.

"ยาพิษ? ผู้เยาว์ไปวางยาพิษอะไรอาวุโสรึ!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมาถ่อมเนื้อถ่อมตัว.

"ยาพิษที่ไม่ใช่พิษ!""จักรพรรดิพิษปัจจิมที่ส่ายหน้าไปมา.

"ลั่นกลองรบสายฟ้าสวรรค์ได้!"จงซานที่ออกคำสั่งในทันที.

"ครับ!"สุ่ยอู๋เหินที่รับคำในทันที.

สุ่ยอู๋เหินที่สะบัดยกธงสีแดงขนาดเล็กขึ้น.

บนยอดเขาสูง,ทหารหนึ่งพันคนพร้อมกับกลองรบขนาดใหญ่เตรียมพร้อม.

ทันที่ที่สุ่ยอู๋เหินลดธงลง.

"ตรึม! ตรึม ตรึม! "

เสียงของลองรบสายฟ้าสวรรค์ที่ดังกระหึม,ประสานเสียงที่พัดโบกเหล่าหมู่มวลเมฆารอบๆ

เสียงกระหึ่มดังก้องท้องฟ้า,ปัดเป่าเหล่าหมู่มวลเมฆหมอกขนาดใหญ่ให้หายไป,ด้วยคลื่นพลังที่รุนแรงที่โบกพัดออกไป.

กองกำลังห้าแสนที่ปรากฏขึ้นที่ทิศตะวันออกในทันที,เหล่าทหารข้างในป้อมปราการก็สามารถมองเห็นได้ในทันที.

"บัดซบ,สงครามครั้งแรกกับเลือกป้อมเมืองอัคคีสวรรค์ของพวกเรา."ขุนพลคนหนึ่งที่แสดงท่าทางไม่พอใจ.

"แล้วมันอย่างไร,มีเพียงแค่ 500,000คน,ต่อให้มีกองกำลังทหารเคลื่อนที่เร็ว?ป้อมแห่งนี้ก็ไม่มีทางถูกตีได้ง่ายๆ."ขุนพลอีกคนที่กล่าวตอบ.

"ไม่ได้การแล้ว!!ข้าต้องไปรายงานเจ้าเมือง,เจ้าจงภาวนาด้วยอย่าให้พวกมันบุกเขาโจมตี,ไม่เช่นนั้นข้าต้องฉี่รดกางเกงตายแน่.ฮ่าฮ่าฮ่า."ขุนพลคนหนึ่งกล่าว.

"ครับ!"ขุนพลดูแลป้อมปราการหัวเราะเสียงดังสนั่น.

ขุนพลคนดังกล่าวเร่งรีบเดินทางไปยังตำหนักเจ้าเมือง,ซึ่งตอนนี้กำลังจัดงานเลี้ยงรื่นเริงกันอยู่,กำลังเคลิบเคลิ้มมีความสุข,มีสาวงามที่กำลังร่ายรำ,เจ้าเมืองที่นั่งอยู่บนโต๊ะบนสุด,พร้อมกับเชิญแขกเหรื่อมากมายมาในงานนี้ด้วย.

"เรียนท่านเจ้าเมือง,กองกำลังราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวได้บุกเข้าโจมตีแล้ว."ขุนพลคนหนึ่งที่เข้าไปในห้องโถงและกล่าวรายงานในทันที.

"พวกเจ้าๆหยุดเต้นได้แล้ว,เจ้าว่าอีกทีสิ...,อะไรนะ? กองกำลังราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวกำลังบุกเข้าโจมตีอย่างงั้นรึ?" เจ้าเมืองอัคคีสวรรค์ถึงกับตื่นตกใจ,สุราในมือถึงกับหกไปในทันที.

ทุกคนในห้องโถงที่เกิดเสียงดังอื้ออึ้งไปในทันที,เหล่าแขกในงานต่างพูดคุยกันไปมา,ด้วยสีหน้าเป็นกังวล.

"เร็ว,ออกไปก่อน,ไม่ต้องเต้นแล้ว."เจ้าเมืองอัคคีสวรรค์ที่ตะโกนออกไปในทันที.

เหล่านางรำที่เร่งรีบถอยออกไปอย่างรวดเร็ว.

"ท่านเจ้าเมืองไม่จำเป็นต้องกังวล,ราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวนำทหารมาเพียงแค่ 5 แสนนาย,ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงเลย."ขุนพลคนดังกล่าวเอ่ยออกมาทันที.

"อะไร?ห้า,ห้าแสนอย่างงั้นรึ?"เจ้าเมืองอัคคีสวรรค์ที่ตื่นตะลึง,กำลังครุ่นคิด.

"จริงแท้แน่นอน!"ขุนพลคนดังกล่าวเผยยิ้มออกมา.

กับคำพูดของขุนพลคนดังกล่าว,ทำให้เจ้าเมืองรู้สึกเบาใจขึ้นมาในทันที.

"ใครเป็นผู้นำทัพในครั้งนี้อย่างงั้นรึ?"เจ้าเมืองอัคคีสวรรค์ที่คิดและถามออกมา.

"ดูจากธงตราแม่ทัพแล้ว,มีอักษรเขียนว่า"จง" "ขุนพลคนดังกล่าวตอบ.

"จง?จงซานอย่างงั้นรึ?"เจ้าเมืองถึงกับอุทานออกมาเสียงดัง.

"ท่านเจ้าเมือง,มีอะไรอย่างงั้นรึ?"ขุนพลคนดังกล่าวแสดงท่าทางสงสัย.

"เร็ว,เร็วเข้า,แจ้งการเตือนภัยสูงสุด,เตรียมระดับสูงสุด!นำข้าไปดู!"เจ้าเมืองอัคคีสวรรค์ร้อนรนขึ้นมาทันที.

"เจ้าเมือง,ไม่ว่าอย่างไร,จงซานก็มีเพียงแค่คนเดียวไม่ใช่รึ?"ขุนพลที่แสดงท่าทางสงสัย.

"เจ้าไม่เข้าใจ,ก่อนหน้านี้กองกำลังแปดล้านคนยังไม่สามารถจัดเขาได้,กองกำลังอู๋อานในป้อมปราการ 1.5 ล้าน,สุดท้ายก็ยังถูกเขา ยึดเมืองไปในที่สุด,อ๋องจวีลู่ได้สั่งการมาเป็นพิเศษให้ระวังจงซานเอาไว้,หากจงซานมา,ให้เตือนภัยขั้นสูงสุด."เจ้าเมืองอัคคีสวรรค์กล่าว.

ทันทีที่เจ้าเมืองอัคคีสวรรค์กล่าวจบ.

"ตรึม!!"

เสียงของกลองรบสายฟ้าที่ดังสนั่นไปทั่วทั้งเมือง,ทะลวงผ่านเข้ามาในตำหนักเจ้าเมือง.

"ตรึม!!ตรึม!ตรึม!ตรึม!ตรึม!ตรึม!"

เสียงกลองที่ดังสนั่น,ถึงกับทำให้เกิดเสียงในหูอี้ออึง,หัวใจสั่นไหว,ทั่วทั้งเมืองอัคคีสวรรค์เวลานี้เงียบไปในทันที,ประตูมเองปิดแน่น,เฝ้าระวังไปทางทิศตะวันออก.

เสียงกลองรบที่สั่นไหว,โยกคลอนหัวใจเหล่าทหารเป็นอย่างมาก.

"ตามข้ามา!"เจ้าเมืองอัคคีสวรรค์ที่ก้าวออกไปด้านนอกในทันที.

"ครับ!"ขุนพลที่รบคำในทันที.

จากนั้นไม่นาน,เจ้าเมืองอัคคีสวรรค์ก็มาถึงป้อมหน้าทิศตะวันออก.

ไม่ไกลออกไปนั้น,เจ้าเมืองอัคคีสวรรค์ที่จ้องมองไปยังทัพของจงซานที่ตั้งอยู่บนยอดเขา.

"เจ้าเมือง,ข้าได้ให้คนไปแจ้งท่านแล้วไม่เห็นต้องมาด้วยตัวเองเลย."ขุนพลคนหนึ่งที่กล่าวออกมาทันที.

"ไม่ได้การ,เจ้าไม่รู้,ก่อนหน้านี้จงซานยึดเมืองอู๋ซวังอย่างไร,ความร้ายกาจของเขา,ทุกคนต่างก็รู้ดี,พวกเราจะต้องเฝ้าระวังให้ดี,จ้องมองมือที่มองไม่เห็นทุกทิศทาง,เฝ้าระวังสูงสุด."เจ้าเมืองอัคคีสวรรค์กล่าว.


"ครับ!"ขุนพลที่ตอบรับในทันที.




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น