วันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2562

Miracle Throne Chapter 558 flatter slaughter fortuitous encounter

Miracle Throne Chapter 558 flatter slaughter fortuitous encounter  

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 558 ความเฮงของอาถู.


Chapter 558 flatter slaughter fortuitous encounter 
ความเฮงของอาถู.
ราชาตงหยีนั้น,มีร่างกายที่สูงสองเมตร,มีกล้ามเนื้อแน่นใหญ่โต,ดูแค่ภายนอกแล้วคล้ายกับมนุษย์,มีแขนสี่ข้าง,ไม่มีหางเหมือนปิศาจทั่วไป,ทว่ากลับมีเขายาว,ไม่มีทั้งปาก,จมูกและหู,เสียงที่เปล่งออกมานั้นเกิดจากการสั่นของโครงสร้างที่ลำคอ,นอกจากนี้ตั้งแต่หัวจรดเท้าไม่มีขนสักเส้น,เป็นผิวหนังสีดำเมี่ยม,ดูเหมือนกับโลหะมันวาวปกคลุมไปทั่วร่าง.



ดูไม่ต่างจากมนุษย์ในชุดเกราะสีดำทมิฬ.

ดูเหมือนว่าจะโชคร้ายไปหน่อยที่หลายวันมานี้ไร้ซึ่งอำนาจบารมี,กลายเป็นเชลย,ไม่ต่างกับคอที่พาดอยู่บนเขียง.
พลังกดดันวิญญาณที่หายไปหมดแล้ว,ร่างกายที่ถูกพันธนาการเอาไว้อย่างแน่นหนา,คุกเข่าลงกับพื้น,ที่ด้านข้างซ้ายขวามีเม่ยจีและหยิงขนาบข้าง,ท่าทางงุ่มงาม,ดูโง่เงาและอัปลักษณ์,ไม่คาดคิดเลยว่าคนเช่นนี้จะสามารถก้าวไปถึงอาณาจักรสวรรค์ได้.

แปลกประหลาดนัก.

ปิศาจตนนี้เพิ่งได้รับบาดแผลจากฝีมือของปีกทมิฬ,คาดไม่ถึงเลยว่าเพียงแค่เวลาสั้นๆร่างกายกับฟื้นฟูกลับมา,การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ ไม่น่าจะมีในเหล่าปิศาจทั่วๆไป!

ฉู่เทียนขี้คร้านเกินไปที่จะคาดเดาจึงได้สอบถามออกไป,"ตัวเจ้าคือเผ่าพันธ์อะไร?แล้วมีนามว่าอะไร?"

"ข้าเป็นเผ่าปิศาจดำ."ราชาตงหยีที่เร่งรีบกล่าวออกมา,"ข้ามีชื่อเต็มว่า,อาตูเหล่ยเมิ่ง ไคตันไป่เกออาเมิ่งเตอ...."

โดยปรกติแล้วชื่อของเผ่าพันธุ์ปิศาจและเผ่าพันธุ์แห่งความมืดนั้นจะมีชื่อยาวและจำยาก,เม่ยจีและหยิงเองก็เช่นกัน,หากให้พูดชื่อเต็มของพวกเขาก็มีหลายสิบอักษร,ชื่อของเผ่าปิศาจและเผ่าปิศาจ,จึงมักจะนำมาเรียกแค่อักษะด้านหน้า 2-3 อักขระเท่านั้น,เช่นนั้นคนผู้นี้ก็จะถูกเรียกว่า อาถู.

"เผ่าปิศาจดำอย่างงั้นรึ? บัดซบ,เจ้าคิดว่าบิดาคนนี้ไม่รู้จักรูปร่างของพวกมันรึไง?!"ฉู่เทียนที่รู้จักเผ่าพันธุ์ปิศาจดำดี,ซึ่งนับได้ว่าเป็นเผ่าปิศาจระดับต่ำ,ซึ่งมีสถานะเทียบเท่ากับปิศาจเขียว,เป็นเพียงแค่ปิศาจดำสามารถที่จะบำเพ็ญได้ถึงอาณาจักรสวรรค์ได้อย่างงั้นรึ?หนำซ้ำร่างกายของอาถูนั้นยังไม่มีลักษณะของปิศาจดำเลยแต่น้อย,ร่างกายที่มีเกล็ดโลหะคลุมทั่วร่างเช่นนี้,ซ้ำยังเป็นเกล็ดที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าโลหะซะอีก,การที่กล่าวออกมาเช่นนี้เป็นคำพูดที่ไร้สาระอย่างยิ่ง, "ในเมื่อเจ้ากล้าเล่นลิ้นกลับข้า,อย่าหาว่าบิดาผู้นี้เป็นคนน่ารังเกียจก็แล้วกัน,ตัดแขนทั้งสี่มันมา,ข้าจะดูเองว่ามันคือเผ่าพันธุ์อะไร!"

เม่ยจีที่กำลังทำตามคำสั่ง.

"เดี๋ยวๆ,ช้าก่อน,ให้ข้าได้พูดก่อน!"อาถูที่ตัวสั่นงันงงใบหน้าขาวซีด,พร้อมกับกล่าวโต้แย้งไปในทันที,"ข้าคือเผ่าปิศาจดำจริงๆ,ทว่าเพราะมันมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นร่างกายของข้าถึงได้เปลี่ยนไป."

ฉู่เทียนที่ยกมือขึ้นหยุดเม่ยจีและถามออกไปว่า,"อุบัติเหตุอะไร?"

อาถูกที่ไม่กล้าปกปิดแม้แต่น้อย.

เป็นเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดที่เขาต้องเผชิญ.

ยี่สิบปีที่แล้ว,อาถูกที่เป็นปิศาจระดับต่ำมีความสามารถทั่วไปเท่านั้น,ในเวลานั้นเขาได้ออกไปหาวัตถุดิบและสมุนไพรที่ภูเขาแห่งหนึ่ง,ท้ายที่สุดเกิดอุบัติเหตุหล่นลงไปในพระราชวังใต้ดินแห่งหนึ่ง.

เขาที่ติดอยู่ข้างล่างหลายวัน!

อาถูที่หิวและกระหาย,พบว่าที่ตำหนักใต้ดินนั้นมีเห็นสีโลหิตอยุ่,เขาไม่แน่ใจว่ามันคือเห็นหลินจือหรือไม่,ทว่าเขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไปแล้ว,ทันใดนั้นก็นำเห็ดหลินจือนั้นกลืนเข้าไปในท้องเพื่อปะทังความหิว.

ฉู่เทียนขมวดคิ้วและกล่าวออกไป,"หลังจากนั้นล่ะ?"

"ข้าไม่รู้อะไรต่อจากนั้น!"อาถูที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง,"หลังจากข้ากลืนสิ่งดังกล่าวเข้าไปแล้ว,ก็ทำให้ข้าเข้าสู่สภาวะจำศีล,ตื่นออกมาอีกทีก็ผ่านไปยี่สิบปีแล้ว,ร่างกายของข้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้น,ซ้ำยังมีพลังมากกว่าเดิมถึงหนึ่งร้อยเท่า,ท้ายที่สุดหลังจากนั้นหกเดือนที่ร่างกายของข้าแข็งแกร่ง,ข้าก็ได้วิชาลับในตำหนักใต้ดินที่ถูกบันทึกไว้,ทำให้สามารถผ่านม่านพลังป้องกันและหนีออกมาได้."

กินสมุนไพรที่แปลกประหลาด?หลังจากนั้นก็พักผ่อน 20 ปีอย่างงั้นรึ? หลังจากตื่นขึ้นมา,ร่างกายเปลี่ยนแปลงไป,มีพลังมากกว่าเดิมร้อยเท่า? นี่มันเรื่องไร้สาระชัด!

"ข้าขอสาบานด้วยนามของปิศาจเลย,หากว่าข้าโกหกแม้แต่คำเดียวขอให้จิตวิญญาณของข้าถูกบดทำลายและถูกจับกุมไปตลอดชีวิต!"อาถูนั้นที่ต้องการรักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้จึงไม่คิดที่จะใช้เล่ห์กลใดๆแม้แต่น้อย,"หลังจากที่ข้าออกมาจากตำหนักใต้ดิน,ข้าก็พบว่าพลังฝึกตนของข้านั้นอยู่ในอาณาจักรสวรรค์ระดับ 1 ,ในเวลานั้นข้าได้ไปที่เมืองเหยี่ยนโม่,หลังจากที่ข้าจากไป 20 ปีให้หลัง ข้าที่พบเข้ากับเฉิงจู่เมืองดังกล่าว,ตั้งแต่นั้นมาชีวิตของข้าก็ผกผันเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง,ใครจะคาดคิดล่ะว่าพวกเขาจะเคารพนับถือต้องการให้ข้าเป็นผู้ดูแลดินแดนหนี่เกิน,และยังมอบตำแหน่งราชาตงหยีให้กับข้า,และสัญญากับข้าว่าหากยึดเมืองอานเห่ยได้,พวกเขาจะให้เมืองกับข้า,ดังนั้น..."

ก็พอเข้าใจได้.

หากว่าอาถูไม่ได้โกหกล่ะก็,มีความเป็นไปได้ว่าจะพบเข้ากับโชคลาภครั้งใหญ่,เป็นสมุนไพรที่ทำให้สามารถเปลี่ยนร่างกายได้อย่างล้ำลึก,บางทีอาจจะเป็นสมุนไพรในตำนานที่สร้างความอัศจรรย์ขึ้น,การที่เขากินเข้าไปและโชคดีที่ไม่ตายไป,จนทำให้ได้รับพลังที่ยิ่งใหญ่มาก,เป็นโชคลาภที่ไม่สามารถที่จะอธิบายได้เลย.

ส่วนแรงจูงใจของเฉิงจู่หลายๆคนในดินแดนหนี่เกินแห่งนี้ก็สามารถที่จะอธิบายได้.

ชายผู้นี้มีความแข็งแกร่งอาณาจักรสรรค์,ทว่าก็ยังคงเป็นปิศาจดำเหมือนเช่นเคย,มีปัญญาต่ำ,ไร้ซึ่งความสามารถอื่นๆ,มีแค่พลังในการต่อสู้เท่านั้น.

ทว่าด้วยสถานะของผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรสวรรค์ก็นับว่าใช้ประโยชน์ได้.

ทำให้เฉิงจู่ทั้งสี่เมือง,ได้นำเรื่องนี้มาหาประโยชน์,ไม่ใช่ว่าสามารถที่จะยึดทรัพยากรจากเมืองอื่นๆได้ง่ายๆเลยไม่ใช่รึ? เหล่าเผ่าต่างๆหรือกลุ่มอิทธิอื่นๆก็มีแต่ต้องภัคดีอย่างช่วยไม่ได้,นับจากนั้นก็ไม่มีใครกล้าที่จะต่อต้าน,หลากหลายเมืองในดินแดนหนี่เกินต่างก็จำต้องภัคดีต่อพวกเขาอย่างช่วยไม่ได้.

อาถูนั้นเป็นราชาตงหยีหุ่นเชิดเท่านั้น.

ด้วยการมีผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรสวรรค์ทำให้ได้ผลประโยชน์ไม่น้อยแต่ก็มีความเสี่ยงด้วยเช่นกัน,ดังนั้นพวกเขาจึงได้เริ่มเข้าจู่โจมเมืองอานเห่ย,สงครามในครั้งนี้มีเหตุผลอยู่หลายข้อเลยทีเดียว.

อย่างแรกคือแสดงแสนยานุภาพ,เมืองอานเห่ยนั้นจะดีจะร้ายก็นับว่ามีอิทธิพอยู่ไม่น้อยในเขตตะวันออกไม่ได้อ่อนด้อยเลยในดินแดนหนี่เกิน,ภายใต้การนำของราชาตงหยีหากสามารถทำลายเมืองอานเห่ยได้,กลุ่มอิทธิพลหลายร้อยกลุ่มย่อมไม่กล้าที่จะตีตัวออกห่าง,ดั้นนั้นการแสดงความสามารถนี้นำมาซึ่งพลังอำนาจความยิ่งใหญ่,เป็นการแสดงพลานุภาพ,เตือนไปยังกลุ่มอื่นๆว่าจะได้รับผลเช่นไรหากต่อต้าน.

อย่างที่สองคือแยกอำนาจ,อาถูที่เป็นผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรสวรรค์,อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่มีดินแดนปกครองอย่างเป็นทางการ,ถึงเขาจะมีพลังที่แข็งแกร่งแต่ก็ไม่มีเชาว์ปัญญา,ตราบเท่าที่ให้อาถูปกครองเมืองอานเห่ยไป,เฉิงจู่ทั้งสี่ก็ไม่จำเป็นที่ต้องหวั่นเกรงที่จะโดนคุกคาม.

อย่างที่สามเมืองอานเห่ยกำลังระส่ำระส่าย,เนื่องจากเฉิงจู่ได้รับบาดเจ็บหนัก,อยู่ในภาวะอ่อนแอ,ดังนั้นการเข้าโจมตีเมืออานเห่ยนั้นความสูญเสียไม่มากนักในการเอาชัย,เมืองอานเห่ยที่ก่อตั้งมานานหลายปี,ทรัพยากรมากมายไม่ได้ด้อยไปกว่าเมืองทั้งสี่เลย.

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้.

ทำให้สงครามในครั้งนี้เกิดขึ้น.

ฉู่เทียนครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะกล่าวออกไปว่า,"แล้วตำหนักใต้ดินอยู่ที่ใหน?"

ชีวิตของอาถูที่อยู่ในกำลังมือของพวกเขาแล้ว,มีเหรอที่จะกล้าปิดบังและหลอกลวง,ทันใดนั้นก็เล่ารายละเอียดที่ตั้งดังกล่าวในทันที.

"หวังว่าเจ้าจะไม่หลอกข้า,จับกุมเขาไว้ก่อน!"ฉู่เทียนที่สั่งการเม่ยจีและหยิง,"เจ้าส่งคนไปดูยังสถานที่ ที่เขาบอกแล้วกลับมารายงานข้า."

ฉู่เทียนที่รู้สึกสนใจสถานที่ทำให้อาถูเปลี่ยนไป,บางทีที่นั่นอาจจะมีสมุนไพรในตำนาน,หรือว่าของล้ำค่าอยู่,และเป็นสิ่งของที่ทำให้ฉู่เทียนตื่นเต้นอยู่ไม่น้อยเลย.

สินสงครามของเมือนอายเห่ยได้รับมานั้นไม่น้อย,เป็นการเก็บเกี่ยวที่มากมาจนคาดไม่ถึง,เมืองเหยี่ยนโม่,เมืองหยินหยิง,เมืองยักษาทมิฬและเมืองอสูรวิญญาณทมิฬ,ทั้งสี่เมืองใหญ่รวมทั้งเมืองอานเห่ยเข้าด้วยกันแล้ว,ซึ่งเป็นผลประโยชน์ของภาคตะวันออกมีทรัพยากรรวมกันครึ่งหนึ่งทีเดียว,ซึ่งจะกลายเป็นผลประโยชน์ให้หอการค้าปาฏิหาริย์และกลุ่มพันธมิตร.

เม่ยจีถูกแต่งตั้งให้เป็นเฉิงจู่เมืองอานเห่ย.

เห่ยจิงหลิงหยิงที่ได้ถูกแต่งตั้งเป็นฟูเฉิงจู่เช่นกัน.

ผู้ยิ่งใหญ่ของป่าแห่งความวุ่นวายที่ออกแรงไม่น้อย,ฉู่เทียนย่อมไม่ลืมอย่างแน่นอนเมืองทั้งสี่นั้นจะมีป่านิรันดร์,หุบเขามังกร,เทือเขายักษาและที่ราบสูงอสูรตามลำดับ,สามารถใช้เป็นเส้นทางขนส่งในการหาผลประโยชน์ได้,แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เข้ามาปกครองโดยตรงก็ตาม,,ทว่าก็สามารถหาผลประโยชน์จากเมืองทั้งสี่ได้ สามารถที่จะนำทรัพยากรอาณาจักรหนี่เกินไปพัฒนาอาณาเขตของของพวกเขาได้.

"ท่านพ่อ,ต้าเกอฉู่เทียน,ข้ามาแล้ว!"เหว่ยเหว่ยอันที่นำคนจำนวนหนึ่งผ่านหอคอยนำส่งมา,ความแข็งแกร่งของเหว่ยเหว่ยอันนั้นพัฒนาไปมากที่เดียว,ตอนนี้นางเป็นผู้เชี่ยวชาญภูติแท้ระดับ 6 แล้ว,"ที่นี่คือดินแดนหนี่เกินอย่างงั้นรึ? ช่างลึกลับจริงๆ!"

หลานซือโหลวเตอตกใจเล็กน้อย,"เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร?"

"องค์เหนือเหนือไม่ต้องตกใจไป,ข้าให้นางมาเอง."ฉู่เทียนที่พยักหน้าให้กับเหว่ยเหว่ยอัน,"เหล่าคนที่นำมานี้ล้วนแล้วแต่มีทักษะมิติกันทั้งนั้น,เป็นคนที่หอการค้าปาฏิหาริย์ฝึกฝนมา,พวกเขาต่างก็เป็นนายช่างที่จะทำการสร้างระบบการทำเหมืองศิลามิติยังพื้นที่แห่งนี้โดยมีเหว่ยเหว่ยอันเป็นคนควบคุม,สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพวกเราต้องการสร้างพื้นที่ของมิติที่แตกร้าวนั้นเป็นเหมือนกับเส้นทางเชื่อมต่อโดยตรงกับพื้นที่ด้านนอก."

ไม่ว่าจะเป็นเมืองอ่านเห่ย,เมืองทั้งสี่,และแม้แต่ค่ายเป่าจวิน,ฉู่เทียนไม่ต้องการที่จะเข้าไปบริหารด้วยตัวเอง,เพราะว่าต้องไม่ลืมว่าเขาคือคนนอก,สถานที่แต่ละแห่งนั้นมีวัฒนธรรมที่แตกต่างกันไป,หากว่าเข้าไปแทรกแซงมากจนเกินไปอาจจะเกิดการต่อต้านได้,และนั่นแน่นอนว่าจะไม่เป็นผลดีต่อการพัฒนาดินแดนหนี่เกินแห่งนี้,ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ฉู่เทียนต้องการเห็น.

หอการค้าปาฏิหาริย์ต้องการที่สร้างสำนักงานขึ้นที่ดินแดนหนี่เกินแห่งนี้อย่างงั้นรึ?

ที่จริงฉู่เทียนเองก็คิดว่า มิติย่อยที่พบที่ใจกลางของเหมืองมิตินั้นก็นับว่าเป็นสถานที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน!

สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่มีทรัพยากรล้ำค่ามากมายที่เป็นประโยชน์ต่อหอการค้าปาฏิหาริย์,ซ้ำยังมีมิติย่อยที่พิเศษเหมาะที่จะสร้างเป็นสถานที่หลบภัยมิติย่อย.

ผู้คุมงานสะพานเชื่อมมิติที่นำโดยเหว่ยเหว่ยอันนั้น,มีทำหน้าที่ในการซ่อมแซมสร้างเส้นทางมิติย่อยที่แตกร้าวให้มั่นคง,สามารถที่จะเป็นเส้นทางที่จะให้คนของหอการค้าปาฏิหาริย์เข้าออกได้,หากว่ามีใครต้องการเข้าโจมตีปิดล้อมพื้นที่แห่งนี้,พวกเขาสามารถผ่านเส้นทางที่มั่นคงเข้ามาในมิติย่อยที่พิเศษนี้ได้,ซึ่งแน่นอนว่ามิติย่อยแห่งนี้มีการไหลของมิติที่รุนแรงสามารถที่จะป้องกันผู้บุกรุกเข้ามาได้!

ขณะที่มีการสร้างพื้นที่มิติเชื่อมต่อดินแดนหนี่เกินนั้น.

เม่ยจีที่ปกครองเมืองอานเห่ยตลอดจนรวมเมืองทั้งสี่เข้ามาด้วยนั้นตอนนี้เข้ารูปเข้ารอยแล้ว.

นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปดินแดนหนี่เกินจะมีฉู่เทียนคอยชักใยอยู่ด้านหลัง.

เม่ยจีที่ขอคำปรึกษา,"ปิศาจตนนั้นหากพบสุสานโบราณแล้วให้จัดการมันเลยใหม?"

"ทำไมต้องจัดงานมันด้วยเล่า?"ฉู่เทียนที่สายหน้าไปมา,"ปิศาจตนนี้ค่อนข้างโง่ทีเดียว,ทว่าสถานะราชาตงหยีก็ยังใช้ประโยชน์ได้,พวกเราจำเป็นต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรสวรรค์เพื่อรักษาความสงบในดินแดนหนี่เกิน,เจ้าควรที่จะหาวิธีใช้ประโยชน์กับเขาให้มาก,ข้าเชื่อว่าหมากตัวนี้จะสามารถใช้ประโยชน์ได้อีกมาก,หนำซ้ำ,ร่างกายของมันนับว่าพิเศษ,บางทีอาจจะมีค่ากว่าที่คาดเอาไว้ก็ได้."

เม่ยจีที่ขมวดคิ้ว,

ในความเห็นของนางนั้น,สังหารปิศาจตนนี้ไปเรื่องทุกอย่างก็จบแล้ว,ทว่ากลับความคิดเห็นของฉู่เทียนนั้น,เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้คิดที่จะปกครองแค่ดินแดนหนี่เกินตะวันออก,ดูเหมือนว่าเขาต้องการที่จะปกครองทั่วทั้งดินแดนหนี่เกินแห่งนี้เลย,ราวกับว่าเขาไม่ได้หวาดกลัวต่อพยัคฆ์ซ่อนมังกรหลับดินแดนแห่งนี้เลยแม้แต่น้อย,คงเป็นเพราะว่าด้วยความแข็งแกร่งของหลานซือโหลวเตอและพรรคพวก,คงจะไม่มีใครสามารถที่จะคุกคามพวกเขาได้.

ในเวลาเดียวกันนั้นหยิงที่กลับมา,"เกี่ยวกับข้อมูลที่ได้จากอาถู,พวกเราได้พบเข้ากับสุสานใต้ดินจริงๆ."

"เยี่ยม,ยอดเยี่ยมมาก,ข้าจะไปดูด้วยตนเอง!"ฉู่เทียนที่กล่าวกับหลานซือโหลวเตอและคนอื่นๆ,"บางทีคงจะต้องรบกวนทุกท่านแล้ว."

มีอะไรที่ต้องกล่าวว่ารบกวนด้วย?


ที่จริงคนทั้งสี่เองก็สนใจกับโชคลาภของอาถูที่ได้รับ? บางทีอาจจะสามารถเก็บเกี่ยวอะไรพิเศษได้! ดังนั้นมีเหรอที่พวกเขาจะปฏิเสธคำชวนนี้,ฉู่เทียนที่นำคนทั้งสี่ไปยังสถานที่ดังกล่าวในทันที.





ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP (สถานปัจจุบัน แปลจบ 658 แล้ว)==>  Click


-เว็ปฟรี วันละหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip ลงครบทุกลุ่มแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น