วันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2562

Miracle Throne Chapter 554 Forming an alliance

Miracle Throne Chapter 554  Forming an alliance  

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 554 พันธมิตร


Chapter 554  Forming an alliance 
พันธมิตร

ที่หอคอยนำส่งเมืองฉีจี,ห้องโถงหลักส่องประกายแสงวับวาว,ได้เคลื่อนย้ายสาวงามรูปร่างสูงโปร่งผมสีแดงเพลิง.

"หนานกง,เจ้ากลับมาแล้ว,"เมิ่งหยิงหยิงที่คอยเฝ้าหอคอยนำส่งตลอดเวลาเพื่อรอฟังข่าว,ขณะที่รู้ว่าหุบเขามังกรจับตัวหนานกงหยุนไป,ใจนางไม่เป็นสุขเลย,"เจ้าสบายดีใช่ใหม,เจ้าไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรใช่ใหม?"



แม้ว่าหนานกงหยุนจะถูกราชาจ้าวมังกรจับตัวไว้,ทว่าฉู่เทียนก็เดินทางไปช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว,ดังนั้นจึงไม่ได้ทำให้นางต้องได้รับความลำบากอะไร,และเมืองมังกรยังเป็นเมืองที่ร่ำรวยที่สุดในป่าแห่งความวุ่นวายข่าวเรื่องนี้สามารถส่งมายังเมืองฉีจีได้อย่างรวดเร็วด้วย.

"ขอโทษทุกคนด้วยที่ทำให้เป็นห่วง,ทว่าเจ้านายเดินทางไปทันที,เจ้ามังกรยักษ์นั่นจะกล้าทำอะไรข้าล่ะ!"

หนานกงหยุนที่หัวเราะออกมาอย่างเฉิดฉาย"หลายวันมานี้ข้ายุ่งอยู่ตลอดเวลา,เลยไม่มีโอกาสได้เดินทางกลับมา,พวกเราไปหาเหว่ยเหว่ยอันหาที่ดื่มกินกันดีกว่า!"

เมิ่งหยิงหยิง,หนานกงหยุน,เหว่ยเหว่ยอัน,สามสาวสามรูปแบบ,ทั้งสามต่างก็มีความสัมพันธ์ที่ดีเป็นอย่างมาก,ทว่าด้วยสถานการณ์ในเวลานี้,ยากที่จะหาเวลามาเริงร่ากันได้นัก.

ผ่านไปไม่กี่นาทีหลังจากนั้น หอคอยนำส่งก็ทำงานอีกครั้ง,เป็นฉู่เทียนและหลานซือโหลวเตอ,และร่างอีกสามร่าง.

ทั้งสามร่างนั้นใส่สวมผ้าคลุมปิดหน้าปิดตา,ทำให้ไม่สามารถมองเห็นใบหน้าที่แท้จริงของพวกเขาได้,ทว่าคนทั้งสามเองดูเหมือนว่าจะสูงกว่ามนุษย์ทั่วไปถึงหนึ่งเท่า,ที่สำคัญที่สุด,เมิ่งหยิงหยิงที่ยืนอยู่ต่อหน้าพวกเขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่น่าเกรงขามที่แผ่ออกมา,ราวกับว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่เหนือล้ำเกินกว่าจะบรรยายได้.

"เจ้าพาแขกกลับมาด้วยรึ?พวกเขาคือ?"

"จะเป็นใครที่ใหนได้ล่ะ?แน่นอนว่าจะต้องเป็นราชาจ้าวมังกร,ยักษาสายฟ้า,และเบเฮมอทเปิงเจาต้าเหริน."ฉู่เทียนที่เผยยิ้มอย่างนุ่มนวล,"แจ้งไปยังท่านหญิงทันที,พวกเราจะทำการประชุมด่วนขึ้น!"

เมิ่งหยิงหยิงแทบจะกระโดดโหยงเหยง.

อะไรนะ?ปีกทมิฬ,เปิงเจาและเหล่ยนู!

ไม่ใช่ว่าคนเหล่านี้เป็นศัตรูของเมืองฉีจีหรอกรึ?และฉู่เทียนพาพวกเขาทั้งสามมาเพื่ออะไร,หากไม่เพราะว่าท่าทีของฉู่เทียนที่ดูสบายๆ,ตลอดจนด้านข้างนั้นมีองค์เหนือหัวราชาเอลฟ์อยู่ล่ะก็,เมิ่งหยิงหยิงคงจะคิดว่าฉู่เทียนถูกจับกุมอยู่ก็เป็นได้.

เมิ่งชิงอู๋เองคาดไม่ถึงเลยว่าจะออกมาเป็นเช่นนี้เหมือนกัน.

ฉู่เทียนที่เดินทางไปยังเมืองมังกรเพื่อช่วยคน,ท้ายที่สุดไม่เพียงช่วยหนานกงหยุนออกมาแล้ว,ทว่ายังได้นำยักษ์ใหญ่ทั้งสามของป่าแห่งนี้กลับมาด้วย,ตอนนี้ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ของป่าแห่งความวุ่นวายได้มารวมตัวกันขึ้นที่เมืองฉีจี,นอกจากนี้ยังได้เข้าร่วมประชุมปรึกษาหารือ,ซึ่งเป็นเรื่องที่สามารถสั่นสะเทือนไปทั้งป่าแห่งความวุ่นวายได้เลย.

ปีกทมิฒ,เปิงเจาและเหล่ยนู,สองเดือนก่อนที่พวกเขาจากเมืองฉีจีไป,ไม่คิดเลยว่าเพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆ,เมืองฉีจีจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเช่นนี้.

ในเวลานี้เมืองฉีจีแทบกลายเป็นเมืองที่ก้าวไกล,มีระบบขนส่งชั้นยอด,มีระบบสื่อสารที่ดีเยี่ยม,มีปัญญาประดิษฐ์ที่คอยควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ,เห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีประสิทธิภาพชั้นเยี่ยมไปเลย.

ต้นไม้แห่งชีวิตนั้นหาได้ใช่สาระสำคัญ.

สามผู้ยิ่งใหญ่ที่ตระหนักแล้วว่า,การใช้ชีวิตดิ้นรนเอาชีวิตรอดในป่าแห่งความวุ่นวายด้วยกำลังเพียงอย่างเดียวนั้น,ช่างเป็นวิถีชีวิตที่โง่เง่ามาก,นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องที่หาได้มีความรุ่งโรจน์ใดๆ,ทวีปแห่งนี้ช่างกว้างใหญ่,โลกใบนี้ไร้ซึ่งพรมแดน,ไม่ต้องบอกเลยว่านี่จะเป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมเพียงใด,สี่ผู้ยิ่งใหญ่แต่ละคนนั้นมีพลังเทียบเท่ากับอาณาจักรระดับจวั้นกว๋อ,หากว่าได้การช่วยเหลือจากเทคโนโลยีเมืองฉีจีล่ะก็,บวกกับผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่,ทั่วทั้งป่าแห่งนี้จะมีใครสามารถต้านทานได้,และยังมีพลังในการขยายอิทธิพลออกไปยังทวีปแห่งนี้ได้ด้วย!

เมิ่งชิงอู๋ที่ทำการต่อรองกับปีกทมิฬ,เปิงเจาและเหล่ยนูด้วยตัวนางเอง,"ธนาคารมังกรยักษ์,ธนาคารยักษา,และธนาคารเบฮีมอท สามารถจัดตั้งได้,โดยพวกท่านจะต้องถือหุ้นธนาคารปาฏิหาริย์ 5% และให้พวกเราถือหุ้นธนาคารต่างๆ 20%,หากว่ายอมรับเงื่อนไขนี้,พวกเราก็พร้อมสนับสนุนจัดตั้งธนาคารของพวกท่านทั้งสาม."

ธนาคารเอลฟ์ที่จัดตั้งธุรกิจมาหนึ่งเดือน,ตอนนี้กลับได้รับความสำเร็จเป็นอย่างมาก.

สามผู้ยิ่งใหญ่ที่เห็นทรัพยากรมากมายกำลังไหลไปหาเผ่าเอลฟ์อย่างบ้าคลั่ง,ทำให้พวกเขาเป็นกังวลไม่สามารถที่จะนิ่งเฉยได้อีกต่อไป,ดังนั้นจึงต้องทำการแข่งขันกับเผ่าเอลฟ์,โดยเฉพาะการก่อตั้งธนาคารที่เหมือนๆกัน,เพื่อทีจะควบคุมเมืองต่างและทรัพยากรในดินแดนของตัวเองเอาไว้ไม่ให้ไหลออกไปยังอาณาเขตอื่น.

สี่ผู้ยิ่งใหญ่นั้น แต่ละคนถือว่าเป็นสุดยอดของป่าแห่งนี้.

หุบเขามังกรที่ถือว่าร่ำรวยที่สุด,พวกเขามีทรัพยากรมากมายไม่เคยขาดแคลนเงินทอง,ราชาจ้าวมังกรนั้นเป็นมังกรยักษ์ที่มีอายุหลายหมื่นปี,มีเชาว์ปัญญาและความแข็งแกร่งที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถประมาทได้.

ยักษาสายฟ้าแห่งหุบเขายักษานั้นเป็นอีกหนึ่งกลุ่มอิทธิพลที่มีทรัพยากรและการทำเหมืองมากที่สุด,ตลอดจนงานหัตกรรมของพวกเขานับว่ามีระดับที่น่าเกรงขาม,หากว่าสามารถจัดตั้งธนาคารเป็นของตัวเอง,อุตสาหกรรมหลายๆอย่างก็จะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว,ตอลดจนสามารถที่จะได้รับการสนับสนุนจากศูนย์การค้าแห่งปาฏิหาริย์,พวกเขาสามารถนำวัสดุอุปกรณ์ตลอดจนงานฝีมือต่างๆมากมายขายไปทั่วทั้งทวีปแห่งนี้,ซึ่งแน่นอนว่าจะช่วยเพิ่มอิทธิพลของพวกเขาตลอดจนสามารถพัฒนาความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย.

ที่ราบสูงอสูรเองด้านทรัพยากรก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าหุบเขามังกรแต่อย่างใด,แม้ว่าทรัพยากรเหมืองต่างๆจะเทียบกับหุบเขายักษาไม่ได้,ไม่ได้มีชื่อเสียงเทียบเท่ากับเผ่าเอลฟ์,ทว่าประชากรของเหล่าอสูรวิญญาณนั้นไม่สามารถที่จะเอาอีกสามกลุ่มมาเทียบได้เลย,แน่นอนว่าเหล่าอสูรวิญญาณนั้นมีอายุไขที่ค่อนข้างสั้นเมื่อเทียบกับสามกลุ่ม,ทว่าการสืบพันธ์กลับแข็งแกร่งมากกว่า,พวกเขามีประชากรมหาศาล,มีเผ่าพันธุ์หลากหลายมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก,ด้วยจำนวนประชากรที่มากมายของพวกเขา,การจัดตั้งธนาคารขึ้นมาจะช่วยยกระดับประชากรพวกเขาได้ไม่น้อยเลย.

แน่นอน.

สามผู้ยิ่งใหญ่หากเทียบกับเผ่าเอลฟ์แล้ว,แน่นอนว่าไม่ได้เหนือกว่ามากมายนัก,หนำซ้ำเผ่าเอลฟ์เวลานี้ได้เริ่มพัฒนาไปก่อนแล้ว,จำนวนศิลาก่อนเกิดที่ธนาคารเอลฟ์มีเวลานี้พุ่งทะลุไปถึง 8 ล้านแล้ว,และยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในทุกๆวัน,ยิ่งธนาคารเอลฟ์เติบโตทำให้ธนาคารแห่งปาฏิหาริย์เติบโตไปด้วย,ทำให้สามผู้ยิ่งใหญ่เองต้องการที่จะผลักดันเรื่องนี้เป็นอันดับแรกเลย.

แผนการของเมิ่งชิงอู๋ที่ได้นำเสนอกับทุกคนนั้นนับว่าสร้างความพึงพอใจเป็นอย่างมาก.

ตอนนี้ธนาคารปาฏิหาริย์และเมืองฉีจีที่พัฒนาอย่างมั่นคง,แน่นอนว่าไม่สามารถที่จะขาดการช่วยเหลือจากเมิ่งชิงอู๋ในการบริหารเรื่องนี้ได้ ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาเองจำเป็นต้องมอบหุ้นให้ธนาคารแห่งปาฏิหาริย์อย่างไรซึ่งทางเลือก!

ปีกทมิฬ,เปิงเจาและเหล่ยนูต่างก็พยายามที่จะต่อรอง,ทว่าท้ายที่สุดก็ไร้ซึ่งทางเลือก,ทำได้แค่ยอมรับข้อตกลงของเมิ่งชิงอู๋.

ธนาคารแห่งปาฏิหาริย์จะทำการสนับสนุนการจัดตั้งธนาคารมังกรยักษ์,ธนาคารเบฮีมอท,และธนาคารยักษา,ซึ่งทั้งสามธนาคารใหญ่ต้องมอบหุ้น 20 เปอร์เซ็นต์เพื่อเป็นค่าตอบแทนในการจัดการ,นอกจากนี้ยังต้องมอบหุ้นอีก 10 เปอร์เซ็นเพื่อแลกเปลี่ยนการถือครองกับธนาคารเอลฟ์ และกลุ่มอื่นๆ,เพื่อที่จะให้ทุกคนมีหุ้นรวมกันทั้งหมด,เป็นการรักษาถ่วงดุลอำนาจเพื่อให้มีความมั่นคงยิ่งขึ้น.

ด้วยการจัดการเช่นนี้.

ทำให้สามผู้ยิ่งใหญ่เองก็รู้สึกเบาใจขึ้นมาในทันที.

ซึ่งแน่นอนว่าฉู่เทียนและหลานซือโหลวเตอเองก็ได้คิดคำนวณอย่างถี่ถ้วนดีแล้ว.

หลังจากการร่วมมือในครั้งนี้ประสบความสำเร็จ,ป่าแห่งความวุ่นวายแห่งนี้ก็จะผสานความร่วมมือเข้าด้วยกันอย่างจริงจัง,โดยมีธนาคารแห่งปาฏิหาริย์เป็นธนาคารกลางเพื่อประคับประคองธนาคารทุกแห่งเอาไว้,ธนาคารของอิทธิพลทั้งสี่ก็จะสามารถควบคุมดูแลอาณาเขตของตัวเองได้อย่างทั่วถึง,และพวกเขายังสามารถที่จะขยายออกไปด้านนอกได้ในอนาคต,ซึ่งแน่นอนว่าในขั้นตอนแรกพวกเขาจำเป็นต้องรักษาความมั่นคงในดินแดนปกครองพวกเขาให้ได้ก่อนนั่นเอง.

นี่คือการร่วมมือที่มีประสิทธิที่สุด.

โครงการอื่นๆก็จำเป็นที่ต้องสร้างขึ้นมาเรื่อยๆ,โดยเฉพาะปีกทมิฬที่ต้องการสร้างระบบต่างๆขึ้นในดินแดนของตัวเอง,ต้องการที่จะให้หุบเขามังกรนั้นกลายเป็นดินแดนการค้าที่มีเงินสะพัดมากที่สุดในอาณาจักร,เหล่ยนูเองก็หวังว่าจะสามารถใช้งานศูนย์การค้าแห่งปาฏิหาริย์ในการขายสินค้าตัวเองให้ได้มากที่สุด,ซึ่งเผ่าพวกเขานั้นเชี่ยวชาญเกี่ยวกับงานหัตกรรมเป็นอย่างมาก,ส่วนเปิงเจานั้นต้องการที่จะมีส่วนร่วมในธุรกิจค้าขายอาวุธของหอการค้าปาฏิหาริย์,เขาที่ต้องการกองกำลังที่ยอดเยี่ยมและอาวุธพลังวิญญาณมากมายเพื่อที่จะขยายอาณาเขตออกไปนอกป่าแห่งนี้.

"ทุกท่านไม่ต้องใจร้อน,ใจเย็นกันก่อน,ในเมื่อพวกเราได้เป็นพันธมิตรกันแล้ว,ทุกอย่างที่ต้องการแน่นอนว่าพวกเราต้องสนับสนุน."ฉู่เทียนที่กล่าวขัดแผนการของพวกเขาเอาไว้ก่อน,"ก่อนหน้านั้น,ตามที่ทุกท่านได้ให้คำมั่นไว้ว่าจะช่วยข้า."

ปีกทมิฬที่หรี่ตามอง,"เฉิงจู่ต้องการให้พวกเราทำอะไร,พูดมาตามตรงเลยดีกว่า."

"ข้าขอพูดตามตรงเลยก็แล้วกัน,ข้าได้ทำการสร้างหอคอยนำส่งขึ้นที่ดินแดนหนี่เกินเอาไว้แล้ว,ทว่าเมื่อเร็วๆนี้มีปัญหาอยู่นิดหน่อย,หวังว่าทุกท่านจะช่วยข้าแก้ปัญหา,ทำให้ดินแดนหนี่เกินนั้นกลับมาอยู่ในการควบคุมของข้า."

"อะไรนะ?ดินแดนหนี่เกิน!"

เรื่องเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตดินแดนหนี่เกินนั้นนับว่าเป็นเรื่องที่หายากมากๆ,สิ่งมีชีวิตบนโลกที่แทบจะไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับดินแดนหนี่เกินไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันมีอยู่จริงหรือไม่,ทว่าก็ใช่ว่าจะไม่มีใครรู้เลย,แม้ว่าคนทั่วไปจะไม่รู้,หากแต่เรื่องราวลึกลับที่เป็นเหมือนตำนานนี้ก็มีกล่าวถึงอยู่เช่นกัน,ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องจริงก็เป็นได้.

ราชาเอลฟ์หลานซือโหลวเตอที่รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย,"คาดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะเดินทางไปยังดินแดนหนี่เกินมาแล้ว!"

ไม่คิดเลยว่าเด็กคนนี้จะกว้างขวางขนาดนี้.

คาดไม่ถึงเลยว่าแม้แต่ดินแดนหนี่เกินเขายังสามารถเอื้อมไปถึงได้!

"ดินแดนหนี่เกินนั้นเป็นโลกใต้พิภพที่อยู่ลึกลงไป,ไม่เพียงแต่มีทรัพยากรมากมาย,ยังมีผลผลิตพิเศษอีกหลายกลาย,นับว่ามีความสำคัญที่จะสามารถพลิกชะตาของทวีปแห่งนี้ได้."ฉู่เทียนที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางจริงจัง,"การยึดครองดินแดนหนี่เกินนั้นนับว่ามีความสำคัญ,ตอนนี้เมื่อพวกเราเป็นพันธมิตรกันแล้ว,แน่นอนว่าผลประโยชน์ที่ได้ย่อมมีส่วนร่วมด้วยกัน,โดยเมืองฉีจีนั้นต้องการที่จะพัฒนาดินแดนหนี่เกินดังกล่าว!"

ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่รู้สึกยินดีขึ้นมาทันที.

ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะได้รับผลประโยชน์เช่นนี้ด้วย!

แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่ามีดินแดนหนี่เกินมีจริงทว่าก็ไม่เคยเห็น,ทว่ารู้ดีว่าดินแดนใต้พิภพนั้นมีทรัพยากรมากมายจนทำให้น้ำลายไหลย้อยได้เลย,ทว่าการจะผ่านชั้นหินหลายพันลี้ลงไปนั้น,แม้แต่ความแข็งแกร่งของพวกเขาเองยังนับว่าเป็นเรื่องที่เสี่ยงมากๆ,ดังนั้นการจะสำรวจและพัฒนาดินแดนหนี่เกินนั้นแทบจะเป็นความฝันเท่านั้น.

ตอนนี้แตกต่างออกไป.

ฉู่เทียนที่ทำการเชื่อมต่อดินแดนหนี่เกินด้วยหอคอยนำส่งเรียบร้อยแล้ว,ด้วยเทคโนโลยีและวิธีของหอการค้าปาฏิหาริย์,แน่นอนว่าจะทำให้ป่าแห่งความวุ่นวายแห่งนี้ได้รับประโยชน์จากการพัฒนาดินแดนหนี่เกินอย่างมากมาย!

ปีกทมิฬ,เหล่ยนูและเปิงเจารู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก.

การเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับเมืองฉีจีนับว่าเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมจริงๆ,พวกเขาไม่คิดเลยว่าเพียงแค่ร่วมมือกับเมืองฉีจี,เพียงแค่พริบตาเดียวจะได้รับโชคลาภที่คาดไม่ถึงนี้มา.

เบฮีมอทเปิงเจา,กล่าวออกมาทันที,"อสูรวิญญาณนั้นมีนักรบมากมาย,ว่าแต่เจ้าต้องการมากเท่าไหร่กัน!"

"แน่นอนว่านักรบอสูรวิญญาณนั้นแข็งแกร่งขนาดใหน,ทว่าตอนนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องทำให้ดินแดนหนี่เกินกลับสู่ความสงบอย่างรวดเร็ว,เหล่ากลุ่มอิทธิพลของดินแดนหนี่เกินพวกเราจะประมาทไม่ได้,ซ้ำยังมีกลุ่มภายนอกที่ไม่เปิดเผยตัวตนอยู่ด้วย,หากว่าพวกเรากระทำการเอิกเริกอาจจะเกิดการต่อต้านจากกลุ่มคนพื้นเมืองได้,ซ้ำแน่นอนว่าการพัฒนานั้นก็จะเป็นไปอย่างเชื่องช้า,ข้าเองนั้นมีเป้าหมายที่จะดึงพวกเขามาช่วยในการพัฒนาครั้งนี้."

ฉู่เทียนที่ไม่เสียเวลา,อธิบายสถานการณ์ของดินแดนหนี่เกินทันที.

ซึ่งผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ก็เข้าใจอย่างชัดเจน,ก่อนหน้านี้ที่ฉู่เทียนวางแผนเอาไว้,ในคราแรกต้องการที่จะทำหลานซือโหลวเตอไปคนเดียวเท่านั้น,ไม่คาดคิดเลยว่า,ตอนนี้สามารถนำผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่เดินทางไปในครั้งนี้ด้วย.

หลานซือโหลวเตอนั้นโดยปรกติจะไม่เป็นมิตรกับเห่ยจิงหลิง,ดูจะไม่เหมาะเท่าไหร่,ทว่าในเวลานี้ด้วยการมีเปิงเจา,เหล่ยนู,และปีกทมิฬไปด้วย,จึงเป็นเรื่องที่ต่างออกไป,ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาคือผู้เชี่ยวชาญชั้นหนึ่งของทวีปดินแดนบนพื้นเลย!

เมืองอานเห่ยอันกระจิดริด,ควรค่าให้พวกเขาเหลือบแลอย่างงั้นรึ?


ฉู่เทียนทีเปิดใช้งานหอคอยนำส่ง,เงาร่างทั้งห้าที่ส่องสว่างก็หายไปทันที.





ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP (สถานปัจจุบัน แปลจบ 658 แล้ว)==>  Click


-เว็ปฟรี วันละหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip ลงครบทุกลุ่มแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น