วันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2562

Miracle Throne Chapter 531 Chu Tian Great Leader

Miracle Throne Chapter 531 Chu Tian Great Leader

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 531 ต้าโซวหลิงฉู่เทียน. 


Chapter 531  Chu Tian Great Leader
ต้าโซวหลิงฉู่เทียน.

ไม่ต้องใช้วิชาใดๆทั้งนั้น.

ยังไม่แสดงวิชาลับที่มีอีกด้วย!

ปิศาจเขาและปิศาจเขียว,หากว่าเข้าไปใกล้กว่านี้แล้วล่ะก็,พวกเขาก็จะถูกเผาไหม้อย่างไม่ต้องสงสัย.



ถูกแล้ว!

เปลวเพลิงที่ลุกไหม้ในพริบตาเดียวนั้น!

เปลวเพลิงสีขาวน้ำเงินที่ลุกไหม้กลืนกินไปทั่วร่าง,แม้ว่าร่างกายของปิศาจจะเหนียวแน่นทนเปลวเพลิงและพลังธาตุต่างๆก็ตาม,หากแต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเพลิงที่มีไม่แผ่คลื่นความร้อนออกมานี้,ทว่ากลับเผาร่างกายของพวกเขาราวกับเผาไหม้กระดาษเปล่า,พริบตาเดียวไม่เหลือซาก,กลายเป็นเถ้าถ่านในทันที.

นี่มันเกินกว่าคำว่าน่าหวากลัวแล้ว.

และที่น่าพรั่นพรึงที่สุดนั้นยังไม่เห็นฝ่ายตรงข้ามทำอะไรเลยด้วยซ้ำ!

ผู้เชี่ยวชาญปิศาจเขาและปิศาจเขียวหลายสิบคนที่ไม่มีโอกาสให้หวาดกลัว,เหมือนกับแมงเม่าที่พุ่งเขามาเพื่อสังหารฉู่เทียน,ท้ายที่สุดก็ลายเป็นขี้เถ้าไม่มีแม้แต่โอกาสให้ร้อง,กับภาพที่เห็น,เหล่าเผ่าพื้นเมืองที่โหดร้ายป่าเถื่อน,บางที่เพียงแค่พริบตาเดียวเดียว,ความต้องการสู้ที่มากมายของพวกเขาก่อนหน้านี้ก็หายไปทั้งหมด!

วิธีการของฉู่เทียนที่แปลกประหลาด,พวกเขาไม่สามารถบอกได้เลยแม้แต่น้อย.

นี่คือแก่นของเปลวเพลิงที่เกิดจากการโจมตีด้วยสัมผัสเทวะ ระดับอำนาจศักดิ์สิทธิ์,เหล่าปิศาจเขาและปิศาจเขียวที่พุ่งเขามา,เมื่ออยู่ในรัศมีการโจมตีของฉู่เทียน,ไม่จำเป็นต้องทำอะไร,เพียงแค่ส่งเพลิงปิศาจอเวจีออกไป,เปลวเพลิงที่สามารถเผาไหม้พลังวิญญาณได้,แน่นอนว่ามันราวกับจุดเพลิงในน้ำมัน,ทำให้ลุกไหม้รวดเร็วและรุนแรง,แม้แต่กระดูกยังไม่เหลือนั่นเอง.

ไม่ได้การแล้ว!

แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!

ท้ายที่สุดเหล่าปิศาจระดับต่ำ,ก็เข้าใจแจ่มแจ้งแล้วว่าพวกเขาโง่งมขนาดใหน.

คาดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาต้องการจับอสุรกายเช่นนี้?บางทีเพียงแค่เห็นแต่ไกลพวกเขาควรที่จะวิ่งหนีซะมากกว่า.

หัวหน้าปิศาจเขียว,หัวหน้าปิศาจเขาและหัวหน้าปิศาจปีก ตระหนักได้แล้วว่าฉู่เทียนไม่ได้ล้อเล่น,คนต่างถิ่นผู้นี้ไม่ใช่คนที่พวกเขาจะต่อกรได้,ตอนนี้ไม่มีทางเลือกแล้ว,ทันใดนั้นทุกคนหลบหนีในทันที!

"คิดหนีรึ?"

ฉู่เทียนไม่รีรอ หายตัวไปอยู่ด้านหน้าพวกเขาอย่างรวดเร็ว,เพียงแค่กระพริบตาเท่านั้น,ก็เคลื่อนตำแหน่งไปในทันที,สามจุดสามตำแหน่งแค่อึดใจเดียว,คนทั้งหมดก็ถูกลากกลับมากองอยู่ด้านหน้าของปิศาจผีเสื้อขาว.

"เจ้าทำอะไร!"

หัวหน้าทั้งสี่ที่เต็มไปด้วยท่าทางหวาดผวา.

ร่างของฉู่เทียนเวลานี้ปลดปล่อยเพลิงออกมาสี่สาย,เป็นเพลิงสีขาวนวลที่หมุนวนไปรอบๆมือทั้งสองข้างของเขา,เพลิงดังกล่าวนี้เป็นดอกบัวเคลื่อนที่เหมือนกับอสูรพิษพุ่งออกมาไต่ไปรอบๆร่างกายของพวกเขา,ดูเหมือนกับผนึกอย่างหนึ่งที่กำลังเลื้อยไปบนร่างของหัวหน้าเผ่าต่างๆ.

ผู้นำทั้งสี่เวลานี้แสดงท่าทางหวาดกลัวกับความร้ายกาจของคนเผ่าต่างถิ่นเข้าแล้ว,สะเก็ดไฟเพียงแค่นิดเดียวสามารถที่จะสังหารพวกเขาได้เลย,ไม่คิดเลยว่าฉู่เทียนจะสามารถสร้างเพลิงรูปดอกบัวที่ราวกับมีชีวิตเช่นนี้ได้ เป็นพลังที่น่าเกรงขามมาก.

ฉู่เทียนยังคงแสดงท่าทางง่ายๆสบายๆ,เหมือนกับกำลังหยอกล้อกับสหาย,"นี่คือแก่นอาคมเพลิงที่ข้าคิดขึ้นมา,ไม่ต้องกังวล,มันเป็นแค่ผนึก,ไม่ทำร้ายพวกเจ้าแน่นอน,แต่ตราบเท่าที่พวกเจ้าต่อต้านข้า,มันก็พร้อมที่จะทำให้พวกเจ้าเป็นขี้เถ้าได้ด้วยเช่นกัน."

"เจ้า!"

หัวหน้าปิศาจเขาที่เต็มไปด้วยความโกรธ,ทันใดนั้นรู้สึกร้อนขึ้นมาทันที,เกิดเป็นอาคมผนึกที่ส่องประกายแสงเจิดจ้า,ราวกับว่ามันกำลังแผ่พ่นเปลวเพลิงขยายออกไปทั่วร่าง.

"ข้าลืมเตือนเจ้า."ฉู่เทียนที่เผยยิ้มเป็นใน."อาคมแก่นหัวใจเพลิงนั้นมีสัมผัสเทวะของมันเอง,ดังนั้นมันจึงมีความคิดเป็นของตัวเอง,หากว่าเจ้ากล้าปล่อยจิตสังหารล่ะก็,มันย่อมรับรู้ได้,หากกล้าคิดร้ายกับข้าล่ะก็,ข้ารับประกันเลยว่าพวกเจ้าคงจะตายก่อนจะมาถึงตัวข้า,อย่าลืมว่าเพลิงของข้าพร้อมทำให้เจ้ากลายเป็นขี้เถ้าในทันที,ดังนั้นไม่ต้องคิดที่จะลอบโจมตีใดๆ,มันไร้ประโยชน์"

ใบหน้าของหัวหน้าเผ่าทั้งสี่ขาวซีดราวกับว่าได้ตายไปแล้ว.

ในโลกนี้มีวิชาที่ร้ายกาจเช่นนี้อยู่อย่างงั้นรึ?

อาคมแก่นหัวใจเพลิงนั้น,ทำให้ชีวิตของคนทั้งสี่ไม่เพียงแต่อยู่ในกำมือของฉู่เทียนแล้ว,นอกจากนี้ยังไม่สามารถคิดร้ายต่อฉู่เทียนได้อีกด้วย,ตราบเท่าที่มีจิตสังหารต่อฉู่เทียน,อาคมเพลิงก็จะทำงานในทันที,วิชาเช่นนี้ราวกับว่าสามารถควบคุมคนได้อย่างสมบูรณ์แบบ.

นี่คืออาคมผนึกที่ฉู่เทียนคิดขึ้นมาใหม่.

ฉู่เทียนที่สามารถคิดค้นวิชาลับเป็นของตัวเอง,นั้นเป็นเพราะอย่างแรกฉู่เทียนได้ศึกษาตำราโบราณมาหลายร้อยเล่ม,ดังนั้นจึงได้พบวิชาลับเกี่ยวกับการควบคุมแก่นธาตุต่างๆ,อย่างที่สองหลังจากที่เดินทางไปยังที่ราบน้ำแข็งที่สาบสูญนั้นเขาได้กลืนแก่นเพลิงเหมันตร์,การเก็บเกี่ยวในครั้งนั้นไม่เพียงแต่ทำให้สัมผัสเทวะเลื่อนระดับ,เขายังกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในการควบคุมเพลิงไปแล้ว,เพลิงปิศาจอเวจีในเวลานี้ได้ผสานกลายเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของฉู่เทียนไปแล้ว.

"สุดท้ายนี้ข้าจะให้โอกาสได้เลือก,จะยอมรับหรือว่าตาย!"

พวกเขาที่จ้องหน้ากันและกันด้วยท่าทางอักอ่วน,พวกเขาที่ไร้ซึ่งพลังต้านทาน,ได้แต่คุกเข่าลงข้างหนึ่ง,"พวกเรา...ยอมรับ!"

ง่ายดายขนาดนี้เลยรึ?

อย่างไรก็ตามเป็นไปตามที่หวัง.

ในดินแดนหนี่เกินนั้นเผ่าหลักๆจะประกอบด้วยเผ่าแห่งความมืดและเผ่าปิศาจ.

ฉู่เทียนที่ตระหนักได้ดีถึงนิสัยใจคอของเผ่าพันธุ์ธาตุมืดและเผ่าปิศาจ,หลอกลวง,ฉลาดแกมโกงและวุ่นวายโกลาหล,พวกมันไม่ได้มีศักดิ์ศรีเป็นของตัวเอง,เคารพบูชาผู้แข็งแกร่ง,เอาผลประโยชน์เป็นที่ตั้งไม่มีคำว่าผูกพัน

ฉู่เทียนที่เป็นเหมือนกับผู้มาใหม่,ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร,ที่ทำได้คือแสดงความแข็งแกร่งและน่าเกรงขามออกมา,แสดงความสามารถที่จะกุมชีวิตพวกเขา,เช่นนี้ก็สามารถควบคุมเผ่าปิศาจได้แล้ว.

ในดินแดนหนี่เกินแห่งนี้ผู้อ่อนแอเคารพผู้แข็งแกร่งกว่า,ก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องอยู่แล้ว.

ส่วนศักดิ์ศรีนะรึ?

สิ่งดังกล่าวนี้หาได้ยากในดินแดนหนี่เกินแห่งนี้,โดยเฉพาะอย่างยิ่งเผ่าพันธุ์ที่อ่อนแอ,ทำไมเขาถึงได้กล่าวว่ามีทางเลือกให้,ฉู่เทียนที่รู้ว่าคนเหล่านี้เป็นหัวหน้าควบคุมดินแดนในแถบนี้,แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่กลุ่มขนาดเล็ก,หากว่ารวมหมู่บ้านทั้งสี่เข้าด้วยกันล่ะก็,ย่อมกลายเป็นกลุ่มอิทธิพลที่แข็งแกร่งขึ้นมาได้.

กับพวกเขาที่อ่อนแอ!

ปิศาจผีเสื้อ,ปิศาจเขา,ปิศาจเขียวและปิศาจปีก,หมู่บ้านทั้งสี่เผ่านี้อาศัยอยู่ใกล้ๆกัน,ดังนั้นข่าวคราวถึงได้ไปทั่วถึงในเวลาอันรวดเร็ว,ที่จริงแล้วเผ่าเหล่านี้ไม่ควรที่จะยึดมาง่ายๆ,หากว่าอยู่ในป่าแห่งความวุ่นวายล่ะก็,แม้แต่กลุ่มอิทธิพลขนาดเล็ก เพียงแค่คนเดียวนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะต่อกรกับพวกเขา.

สี่หมู่บ้านนี้มีผู้เชี่ยวชาญภูติแท้นับคนได้,นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ฉู่เทียนสามารถจัดการคนเหล่านี้ได้ง่ายๆ,และยังสามารถอธิบายได้ว่าหมู่บ้านเหล่านี้ไม่ได้แข็งแกร่งเลยนั่นเอง.

ที่จริงแล้วฉู่เทียนได้พบกับลักษณ์พิเศษอยู่ด้วยเช่นกัน.

ความแข็งแกร่งของเผ่าพันธ์พื้นเมืองเองก็นับว่าสูงไม่น้อย,พลังต่ำสุดของเผ่าปิศาจนั้นไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าพลังปลุกดวงจิตเลย,นั่นก็หมายความว่าดินแดนหนี่เกินแห่งนี้,เพียงแค่คนธรรมดาก็แข็งแกร่งแล้ว,ตราบเท่าที่เพิ่มความสามารถเล็กน้อย,สามารถที่จะเป็นนักรบแนวหน้าของทวีปด้านบนได้เลย.

เผ่าแห่งความมืดและเผ่าปิศาจนั้นเป็นนักรบตั้งแต่เกิด,หรือเทียบได้กับนักรบที่มีพรสวรรค์หายากบนโลกด้านบน,ดังนั้นดินแดนหนี่เกินแห่งนี้,เหมาะที่จะสร้างค่ายทหารที่สุด.

ป่าแห่งนี้นั้นอยู่ในเขตของเมืองอานเห่ย.

เมืองอานเห่ยนั้นมีพื้นที่หลายพันลี้,เป็นหนึ่งในเมืองใต้พิภพที่มีประชากรหลายล้านคนนับว่ามากที่สุดในแถบนี้,ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขานั้น,ทำให้มีเผ่าพันธุ์ขนาดใหญ่หลากหลายเผ่าพันธุ์อยู่ภายใน,กล่าวอีกอย่างหนึ่ง,แม้ว่าดินแดนหนี่เกินจะนับว่าเป็นดินแดนที่มีขนาดใหญ่,ทว่าโครงสร้างของมันก็แทบจะเหมือนกับป่าแห่งความวุ่นวายแทบไม่ต่างกันเลย.

ฉู่เทียนคิดว่าควรที่จะสร้างหอคอยนำส่งขึ้นที่นี่.

ภายในดินแดนหนี่เกินแห่งนี้มีทรัพยากรที่หายากอยู่ไม่น้อย,ซึ่งหากว่าสามารถขนส่งขึ้นไปบนพื้นดินล่ะก็,แน่นอนว่าจะต้องขายได้เป็นกอบเป็นกำ,ปัญหาในเวลานี้,ฉู่เทียนยังไม่มีวิธีที่จะติดต่อกับเมืองฉีจี.

พื้นโลกเวลานี้น่าจะห่างขึ้นไปหลายพันลี้.

ลำพัง,ชั้นหินหนา,และยังลำธารลาวาขนาดใหญ่,มีชั้นไร้น้ำหนักขึ้นไปอีก,มีอุปสรรคมากมายขนาดนี้,ไม่ว่าสัญญาณสื่อสารจะทรงพลังขนาดใหนก็ยากที่จะผ่านไปถึง,ถึงแม้ว่าจะสามารถสื่อสารได้,ก็ไม่สามารถที่จะสร้างสถานีสื่อสารส่งสัญญาณได้เช่นกัน.

หากฉู่เทียนไม่สามารถติดต่อท่านหญิงได้ก็ไม่สามารถเก็บเกี่ยววัตถุดิบเหล่านี้ได้.

ในเมื่อไม่สามารถติดต่อได้,ไม่ว่าทรัพยากรของดินแดนหนี่เกินจะมากมายขนาดใหนก็หาได้มีประโยชน์,การจะเดินทางมาถึงที่นี่ไม่ง่ายเลย,ฉู่เทียนจึงยังไม่คิดที่จะกลับไป.

"พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องกลัวข้า."ฉู่เทียนที่นั่งอยู่บนห้องต้นไม้ขนาดใหญ่,ปิศาจผีเสื้อ,ปิศาจปีก,ปิศาจเขา,และปิศาจเขียว,ที่ตอนนี้กำลังนั่งอย่างสงบเสงี่ยม,"ข้าต้องการรับรู้เรื่องราวของโลกใต้พิภพนี้,ตราบเท่าที่พวกเจ้าจริงใจกับข้า,ข้าย่อมต้องตอบแทนกับทุกคนแน่นอน,ก่อนอื่นข้าต้องการรับรู้สถานการณ์ของหมู่บ้านของพวกเจ้าก่อน."

ปิศาจผีเสื้อขาวที่ยืนขึ้นในทันที,"เรียนต้าโซวหลิง,เผ่าผีเสื้อของพวกเรานั้นมีประชากรกว่า 4000 คน,ส่วนคนที่สามารถสู้ได้นั้น,มีอยู่ราวๆ 3000 ตน."

หัวหน้าปิศาจเขียวที่ลุกขึ้นกล่าวเช่นกัน,"หมู่บ้านปิศาจเขียวมีประชากร 5000 คน,มีหนุ่มสาววัยฉกรรจ์ 3000-4000 ตน."

หัวหน้าปิศาจปีกเองก็รายงานออกมาเช่นกัน,"ปิศาจปีกเองก็มีคนกว่า 4000 คน,เป็นนักรบ 3000 ตน."

หัวหน้าปิศาจเขาที่รายงานเช่นกัน,"เผ่าปิศาจเขาของข้ามีคน 6000 ตน,มีนักรบที่แข็งแกร่งมากกว่า 5000!"

"โฮ้ว,ยอดเยี่ยม!"ฉู่เทียนพยักหน้าพึงพอใจ,เขาจ้องมองไปยังหัวหน้าปิศาจผีเสื้อ,"ชื่อปิศาจของเจ้ามันยาวไปหน่อย,ข้าจะให้ชื่อมนุษย์กับเจ้าก็แล้วกัน,นับจากนี้ไป,เจ้าจะมีชื่อว่า ไป่เตี๋ย."

ผีเสือขาวรู้สึกดีใจขึ้นมาในทันที,"ขอบคุณต้าโซวหลิง!"

เหล่าหัวหน้าอีกสามหมู่บ้านรู้สึกอิจฉาขึ้นมาในทันที.

เห็นชัดเจนว่าต้าโซวหลิงนั้นให้ความสำคัญกับปิศาจผีเสื้อ.

"เอาล่ะ,พวกเจ้าฟังข้า."ฉู่เทียนที่ลุกขึ้นยืนพร้อมกับประกาศออกไป,"นับจากวันนี้,ข้าจะนำทุกคนขยายอาณาเขต,เพิ่มอิทธิพลของพวกเรา,ยึดทรัพยากรมา,ยึดประชากรมา! ข้ารับรองว่า,ตราบเท่าที่ก้าวไปกับข้า!ข้าเทียนจะพาพวกเจ้าไปพบกับอนาคตที่รุ่งโรจน์,ในวันข้างหน้าการจะยึดเมืองอานเห่ยก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้."

แทบทุกคนถึงกับสั่นสะท้านจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว.

อะไร?ยึดเมืองอานเห่ย!

นี่ชายคนนี้บ้าไปแล้วอย่างงั้นรึ?

เหล่าผู้นำหมู่บ้านหลายคนที่เป็นกังวล,ตอนนี้พวกเขารู้สึกย่ำแย่ไปเลย,คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนบ้าคลั่งขนาดนี้,ซ้ำยังมาเป็นต้าโซวหลิงพวกเขาอีก,ทุกคนที่จับจ้องมองไปยังฉู่เทียน,ทว่าฉู่เทียนยังไม่มีอะไรที่จะอธิบาย,เพราะว่าดูเหมือนว่าเขาจะต้องหาวิธีติดต่อกับด้านบนก่อน,ตราบเท่าที่สามารถเชื่อมต่อเมืองฉีจีกับดินแดนหนี่เกินได้,ด้วยความแข็งแกร่งของหอการค้าปาฏิหาริย์,ถึงแม้ว่าจะยึดเมืองอานเห่ยยังจะเป็นเรื่องยากอยู่อีกรึ?

"เอาล่ะนั่นคืออนาคต,ตอนนี้มาทำแผนระยะสั้นกันก่อน!"


ฉู่เทียนที่กำลังตรวจสอบแผนที่อยู่นั้นยังไม่เสร็จด้วยซ้ำ,ปิศาจผีเสื้อหลายตนที่เข้ามารายงาน,"ไม่ดีแน่,โนมทมิฬกลับมาแล้ว,พวกเขานำคนมาหลายคน,มีผู้เชี่ยวชาญเป็นจำนวนมาก,บางทีคงจะเข้ามาโจมตีพวกเราอย่างแน่นอน!"




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP (สถานปัจจุบัน แปลจบ 658 แล้ว)==>  Click


-เว็ปฟรี วันละหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip ลงครบทุกลุ่มแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น