วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

Miracle Throne Chapter 514 Elf bank

Miracle Throne Chapter 514 Elf bank

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 514 ธนาคารเอล์



ฉู่เทียนที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยเหล่าเอลฟ์ที่ชื่มชม,เอลฟ์สาวเล็กสาวใหญ่,ต่างผลักดันเข้ามา,ถึงกับทำให้เมิ่งหยิงหยิงตาขุ่นตาเขียว,ทุกคนต่างก็ต้องการเฉวียนหมิงกันหมดเลยรึ?ไม่เว้นแม้แต่เอลฟ์เด็กเล็ก!
”!”

"ทำอะไรกัน!"

"น่าขายหน้า!"



ประธานสภาเอลฟ์ออกูซือตาที่ตะคอกออกไปเสียงดัง,เหล่าเอลฟ์เร่งรีบถอยออกไป,ราชาเอลฟ์หลานซือโหลวเตอที่ปรากฏออกมาพร้อมกับเหล่าสภาเอฟล์อื่นๆอีกหลายคน,นอกจากนี้ยังมีรักษาการเจ้าเมืองเล็กแห่งนี้,เหว่ยเหว่ออันที่ตามมาด้านหลังกับคนอีกหลายคน,เมื่อเห็นฉู่เทียนก็ส่งสายตาพริบๆให้ในทันที.

งานเทศกาลของเอลฟ์ในครั้งนี้,ฉู่เทียนที่รับคำเชิญ,ทำให้เหว่ยเหว่ยอันมีความสุขมาก.

แม้ว่าท่านประธานจะดูหน้าซีดดูไม่น่าดูนัก,ภายในดวงตาที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิงที่ข่มเอาไว้,หลังจากที่เขาได้คอยปกครองควบคุมเหล่าเอลฟ์ให้อยู่ในกฏเกณฑ์มานานหลายปี,ท้ายที่สุดขนบธรรมเนียมถูกทำลายไปจนสิ้น,จะให้เขายินยอมง่ายๆได้อย่างไร?ที่จริงแล้วฉู่เทียนก็คิดถึงเรื่องนี้อยู่เช่นกัน,เขาที่ไม่สะทกสะท้านนำหยิงหยิงมาทักทายทุกคน.

"เจ้าคือเฉิงจู่เมืองฉีจี,ฉู่เทียนอย่างงั้นรึ?"

เอลฟ์หลายๆคนที่จ้องมองไปยังเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็น.

นี่คือกลุ่มของเอลฟ์ที่มีชื่อเสียง,พวกเขาที่เป็นเฉิงจู่ของเอลฟ์เมืองต่างๆ,ถูกนับให้เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับต้นๆของป่าแห่งความวุ่นวายทีเดียว.

ฉู่เทียนเฉิงจู่เมืองฉีจี,ไม่ได้แปลกใจนัก,แม้ว่าความแข็งแกร่งโดยรวมของเมืองฉีจีจะไม่มากมายนัก,แต่เพราะว่ามีเผ่าซูเหรินคอยปกป้อง,แม้แต่กลุ่มอิทธิพลขนาดใหญ่ในเวลานี้ก็ยากที่จะยุแหย่ได้,ในป่าแห่งความวุ่นวายนั้นเต็มไปด้วยกลุ่มอิทธิพลมากมาย,และยังมีอันตรายซ่อนอยู่ทุกที่ด้วยเช่นกัน.

"หากไม่ใช่ฉู่เทียนยังจะเป็นใครได้ล่ะ?"ราชาเอลฟ์หลานซือโหลวเตอที่แนะนำฉู่เทียนกับเฉิงจู่คนอื่นๆ,ก่อนที่จะกล่าวกลับฉู่เทียนว่า,"ข้าได้ยินว่าเฉิงจู่ฉู่เทียนเพิ่งกำราบอาณาจักรต้าโจวทางทิศเหนือมา,ดูเหมือนว่าอิทธิพลจะเพิ่มขึ้นไม่น้อย,นับเป็นเรื่องที่ควรเฉลิมฉลองจริงๆ,ที่จริงข้านั้นมีภารกิจมากมายเพิ่งจะเดินทางมาถึงเมืองเล็ก,ต้องขอบคุณแทนเหล่าเอลฟ์จริงๆที่เดินทางมาร่วมงานในครั้งนี้."

เมิ่งหยิงหยิงที่เห็นราชาเอลฟ์ดูสุภาพ,ค่อนข้างรู้สึกอักอ่วน,"ไม่คิดเลยว่าจะได้รับเชิญ,พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติมาก."

เหว่ยเหว่ยอันกล่าวขึ้นมาทันควัน,"ข้าขอให้ต้าเกอฉู่เทียนมาเอง."

ออกูซือตาที่เผยท่าทางไม่สบอารมณ์นัก.

เทศกาลของเอลฟ์,เชิญมนุษย์เข้าร่วมมันสมเหตุสมผลอย่างงั้นรึ?

"วันนี้นับเป็นฤกษ์งามยามดี,หลายๆคนที่ได้แต่จ้องมองตาปริบๆอย่างช่วยไม่ได้."ฉู่เทียนเองก็เหมือนกับคนนอกคนหนึ่งที่ได้รับเชิญ,"เมืองฉีจีและป่านิรันดร์ที่ร่วมมือกันมาระยะหนึ่ง,ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะประสบผลในระยะต้นแล้ว,การจะได้มีโอกาสได้ร่วมงานกันจริงๆ,บางทีก็เป็นเรื่องที่หายากไม่น้อย!"

เฉิงจู่เอลฟ์ตนหนึ่งกล่าวออกมา,"หากไม่มีหอคอยนำส่งถูกสร้างขึ้นมา,จะทำให้พวกเราได้เข้าร่วมงานที่สำคัญเช่นนี้ได้เหรอ,หากเป็นเมื่อก่อน,การจะเข้าร่วมงานเช่นนี้ขึ้นแทบจะไม่ต้องคิดเลย."

"ใช่แล้ว,เทคโนโลยีของเฉิงจู่ฉู่เทียน,นับว่าน่าชื่นชมเป็นอย่างมาก."เฉิงจู่เผ่าเอลฟ์อีกตนที่กล่าวยกยอ,"เผ่าเอลฟ์ตามหลังมนุษย์ไม่น้อยเลย!"

ฉู่เทียนเร่งรีบตอบไปในทันที,"เผ่ามนุษย์หาได้มีอะไรไม่,การที่ได้ร่วมมือกับเผ่าเอลฟ์ต่างหาก,ถึงจะทำให้เจริญรุ่งเรื่อง,ฮ่า ฮ่า!"

ออกูซือตาและกลุ่มหัวโบราณต่างก็ดูถมึงทึงไม่รับแขกแม้แต่น้อย.

เผ่าเอลฟ์และหอการค้าปาฏิหาริย์ที่ได้มีการเปิดการค้าขายกันและกัน,ตอนนี้เหล่าเอลฟ์ที่กำลังสร้างดินแดนของตัวเองขึ้นใหม่,หลายๆพื้นที่แทบจะไม่ติดต่อกับโลกภายนอก,ดังนั้นการจะเห็นพวกเขาเดินทางไปใหนมาใหนนั้นแทบไม่มีเลย.

ตอนนี้ราชาเอลฟ์ทำการเชื่อมดินแดนแต่ละแห่งเข้าด้วยกันด้วยหอคอยนำส่ง.

ทำให้เหล่าเฉิงจู่เกือบทั้งหมดยืนอยู่ฝั่งราชาเอลฟ์.

ฉู่เทียนนั่งข้างๆราชาเอลฟ์ซึ่งมีเมิ่งหยิงหยิงเตรียมเสต็กเนื้อเอาไว้,"ทุกๆท่านนี่คือเสต็กเนื้อ,พวกเราปรุงขึ้นจากพ่อครัวที่ยอดเยี่ยมที่มีฝีมือโดยการปรุงขึ้นด้วยพลังเวทย์."

"ขอบใจหยิงหยิง!"

"รสชาติยอดเยี่ยมมาก."

"เจ้าลองลิ้มรองรสชาติของผลไม้ลึกล้ำของป่าจันทราเงินด้วยซิ."

เมิ่งหยิงหยิงที่ดูงดงาม,นิสัยบริสุทธิ์,ง่ายที่จะเข้ากับคนอื่นๆ,และนางยังเป็นตัวเอกในภาพยนต์หลายเรื่อง,ซึ่งได้ฉายในเผ่าเอลฟ์,ทำให้เป็นที่นิยมและได้การต้อนรับจากเผ่าเอลฟ์อยู่เหมือนกัน,เอลฟ์หลายๆตนต่างก็ชื่นชอบ,และทุกคนต่างก็ต้องการลิ้มลองเนื้อย่างของนางไม่น้อย.

"นี่คือหมายเลขมือถือของข้า,ทุกๆคนสามารถติดต่อข้าได้เลยนะ."

"อะไรนะ? เจ้ายังไม่มีมือถืออีกเหรอ,แล้วเครื่องสื่อสารล่ะ? ยังไม่มีอีก,พวกเราได้เตรียมไว้,ตั้งแต่สัญญาณยังมาไม่ถึงด้วยซ้ำ."
เสียงของเหล่าเอลฟ์ที่ต่างถกเถียงกันไปมา.
 งานชุมนุมของเหล่าเอลฟ์นั้น,มีเอลฟ์มากมายที่มาจากต่างถิ่นหลากหลายสถานที,หลายต่อหลายคนที่รู้จักเมิ่งหยิงหยิงและฉู่เทียน,พวกเขาที่ได้ชิมอาหารกระป๋องรสชาติที่พิเศษมาจากดินแดนของตัวเองด้วยแล้ว,เมื่อได้เห็นเนื้อย่างต่างก็ต้องการเข้ามาแลกเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว,ทำให้อาหารของนางมีไม่พอ,นางจึงตัดสินใจบอกกล่าวว่าจะนำทุกคนเข้าไปในเมืองฉีจีในวันพรุ่งนี้,สร้างความตื่นเต้นให้กับเอลฟ์หนุ่มสาวไม่น้อยเลย.

เหล่าเอลฟ์นั้นนับว่าเป็นเผ่าที่มีทรัพยากรมากมายทีเดียว.

งานเทศกาลในครั้งนี้,หลักๆแล้วเป็นการแลกเปลี่ยนอาหาร,ชื่นชมศิลปะและความงาม,มีทั้งการแสดงดนตรีต่างๆอีกหลายหลายอย่าง,ฉู่เทียนเข้าใจดีว่าทำไมอารยะธรรมของเผ่าเอลฟ์นั้นถึงเชื่องช้า,พวกเขาที่ใส่ใจในทุกรายระเอียด,ชื่นชมความงามของศิลปะเป็นอย่างมาก.

เรื่องนี้แทบจะกลายเป็นสัณชาติญาณของเผ่าเอลฟ์ด้วยซ้ำ.

เอลฟ์นั้นไม่ชอบการต่อสู้มาตั้งแต่กำเนิด,ดังนั้นจึงไม่ชอบเผ่ามนุษย์ที่แสวงหาพลังและความร่ำรวย.

ฉู่เทียนที่เห็นเหล่าเอลฟ์ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน,ทำให้ภายในใจมีความสุขไปด้วย,"ข้าคิดว่าการแลกเปลี่ยน,ค้าขายสิ่งประดิษฐ์ของพวกท่านไม่เห็นต้องจำกัดแต่เผ่าเอลฟ์ด้วยกันเลย,ในป่าแห่งนี้มีตระกูลขนาดใหญ่อีกมากมาย,มีอีกหลากหลายอาณาจักร,พวกเจ้าไม่มีความสนใจที่จะแลกเปลี่ยนค้าขายรึอย่างไร."

"ไร้สาระ!"ออกูซือตาแค่นเสียง,"ไม่ว่าจะเป็นอสูรวิญญาณที่ไร้ยางอายก็ดีหรือพวกมนุษย์ที่โลภมาก,จะให้เผ่าเหล่านั้นมาติดต่อกับพวกเรารึออย่างไร! เผ่าเอลฟ์ไม่ต้องการมีความสัมพันธ์กับพวกชั่วร้ายนั่นเด็ดขาด!"

ตาเฒ่านี้ดูเหมือนว่าจะเกินเยียวยาแล้ว.

คงไม่สามารถดัดนิสัยหัวรั้นนี้ได้อีกต่อไป.

ราชาเอลฟ์กล่าว,"เฉิงจู่ฉู่เทียนมีความคิดที่ดีเช่นกัน,ทว่าค่าใช้จ่ายของหอคอยนำส่งนั้นไม่ถูกเลย,แม้ว่าเผ่าเอลฟ์เองจะได้สิทธิฟรีส่วนหนึ่ง,ทว่าการค้าขายเองก็จำเป็นต้องมีการเคลื่อนย้ายสินค้าจำนวนมหาศาล,บางทีคงจะไม่สามารถที่จะรองรับค่าใช้จ่ายจำนวนขนาดนั้นได้!"

หอคอยนำส่งที่มีการสร้างขึ้นที่เมืองเอลฟ์ต่างๆ,หากว่าต้องเดินทางไปมาเป็นประจำล่ะก็,ทุกๆเดือนก็จำเป็นต้องใช้ศิลาก่อเกินหลายร้อยซึ่งก็ถือว่าเป็นปรกติ,หากมีประชาชนหลายร้อยคนหลายหมื่นคนใช้หอคอยนำส่งพร้อมๆกัน,ก็นับว่าเป็นจำนวนมหาศาลทีเดียว,ถึงแม้ว่าจะเป็นป่านิรันดร์,บางทีก็รู้สึกไม่สามารถที่จะยอมได้เช่นกัน.

ภายในใจของฉู่เทียนที่สั่นไหว,กล่าวหยั่งเชิงออกมา,"เผ่าเอลฟ์มีทรัพยากรมากมาย,ใยต้องใส่ใจกับค่าใช้จ่ายด้วยล่ะ?"

"เฉิงจู่ฉู่เทียนกล่าวผิดไปแล้ว."เฉิงจู่เอลฟ์ตนหนึ่งกล่าว."เผ่าเอลฟ์ของพวกเรานั้นไม่เคยทำธุรกิจ,แม้ว่าจะพอมีศิลาก่อเกิดบ้าง,แต่ก็เป็นสิ่งที่เก็บไว้มาตั้งแต่บรรพชน,จะให้มาใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยได้อย่างไร."

"ตอนนี้ดินแดนเผ่าเอลฟ์และเมืองฉีจีที่แทบจะเชื่อมกันอยู่แล้ว,หากว่าพวกเราร่วมมือกัน,โดยนำจุดแข็งของแต่ละฝั่งมาร่วมกัน,ข้าคิดว่ามันจะสามารถสร้างมูลค่าได้อย่างมหาศาล."

ราชาเอลฟ์ที่พยักหน้า,"ฟูเฉิงจู่ เมิ่งชิงอู๋เองก็ได้ลองพูดคุยเจรจาเกี่ยวกับกฎเกณฑ์เรื่องนี้บางแล้ว,เผ่าเอลฟ์เวลานี้มีเทคโนโลยีในการสื่อสารที่เพียบพร้อม,ตลอดจนการเข้าร่วมศูนย์การค้าปาฏิหาริย์,พวกเราไม่จำเป็นต้องออกมาจากดินแดน,ไม่จำเป็นต้องออกมาค้าขาย,ก็สามารถที่จะค้าขายสินค้าพิเศษของพวกเราไปยังภายนอกได้,และยังไม่ได้ละเมิดคำสอนของบรรพชนอีก,ซึ่งจะสามารถสร้างความมั่งคั่งให้กับพวกเราเหมือนกัน."

ออกูซือตาไม่มีวิธีจะค้านได้เลย.

กับเรื่องดังกล่าวนี้ไม่ต้องบอกเลยว่าสภาเอลฟ์ไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะห้ามราชาเอลฟ์ได้.

กับข้อตกลงที่ท่านหญิงทำการร่วมมือกับพวกเขานะรึ?ที่จริงมันเพียงพอหรือไม่?

หัวใจของฉู่เทียนที่สั่นไหวเล็กน้อย,ทันใดนั้นก็มีความคิดบางอย่างขึ้นมา,"ที่จริงข้ามีความคิดบางอย่างที่อยากแนะนำ,ข้าต้องการที่จะพัฒนาเผ่าเอลฟ์ไห้ได้รับผลประโยชน์มากกว่านี้."

ราชาเอลฟ์นั้นมีความคิดในใจอยู่มากมายเช่นกัน,ทว่าในเมื่อฉู่เทียนแนะนำเขาจึงต้องการรู้อยู่เป็นธรรมดา,"อะไรอย่างงั้นรึ?"

ฉู่เทียนที่ค่อยเสนอความคิดของตัวเองอย่างระมัดระวัง.

ดวงตาของราชาเอลฟ์ที่เปล่งประกาย,เขาที่พูดคุยกับเหล่าเฉิงจู่เผ่าเอลฟ์ที่อยู่รอบๆซึ่งทุกคนต่างก็พยักหน้าไปมา,ราวกับว่ายอมรับแผนการนี้,และนอกจากนี้ดูแต่ละคนยังตื่นเต้น,และรู้สึกนับถือฉู่เทียนอยู่ไม่น้อยทีเดียว,ต้องไม่ลืมว่าหอการค้าปาฏิหาริย์นั้นได้ช่วยเหลือเผ่าเอลฟ์ไม่น้อยเลย.

เหว่ยเหว่ยอันที่ดีใจตื่นเต้นอยู่ไม่น้อยเช่นกัน.

นางที่เชิญฉู่เทียนมาเป็นพิเศษ,เพื่อที่จะให้ฉู่เทียนเป็นที่รู้จักกับเอลฟ์ตนอื่นๆมากขึ้น,ไม่คิดเลยว่าผลจะออกมาเป็นเช่นนี้,ที่จริงการที่ได้ปรึกษาพูดคุยเรื่องที่สำคัญขนาดนี้ขึ้นมา,ในอนาคตข้างหน้าการที่พวกเขาร่วมมือกันก็จะยิ่งทำให้ใกล้ชิดกันมากขึ้นเรื่อยๆ.

ฉู่เทียนที่เห็นเหล่าเอลฟ์ยอมรับก็รู้สึกโล่งใจไม่น้อย,เขารู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก,เพราะว่าฉู่เทียนเข้าใจดีว่าแผนการนี้ดูเหมือนว่าเมืองฉีจีจะขนาดทุน,แต่จริงๆแล้วกับเป็นสิ่งที่พวกเราได้ผลประโยชน์ไม่น้อย.

ถึงแม้ว่าเมืองฉีจีในเวลานี้จะเจอปัญหาใหญ่,ดังนั้นเรื่องนี้จะช่วยบรรเทาได้เยอะเลย.
............

"เช้าวันถัดมา.

"ฟูเฉิงจู่,ท่านได้ยินหรือไม่?"

"เผ่าเอลฟ์ที่เพิ่งประกาศเรื่องสำคัญกับเฉิงจู่!"

ดวงตาของเตอลวอลีซือเปล่งประกายร้องออกมาเสียงหลง.

เมิ่งชิงอู๋ที่วุ่นอยู่กับงานมากมาย,เมื่อได้ยินสิ่งที่นางกล่าวก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย,นางรู้ดีว่าเตอลวอลีซือไม่ใช่คนกะโตกกะตาก,เรื่องที่ทำให้นางตื่นเต้นขนาดนี้ต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน,"เรื่องที่ฉู่เทียนไปยังดินแดนเผ่าเอลฟ์นะรึ?เขาได้ทำเรื่องอะไรอย่างงั้นเหรอ!"

เตอลวอลีซือที่กลืนน้ำลายช้าๆ,"เผ่าเอลฟ์ที่ได้ประกาศจัดตั้งธนาคารแห่งที่สองขึ้นในทวีปนี้แล้ว,ธนาคารเอลฟ์!"

เมิ่งชิงอู๋ที่ชำเลืองมองออกไป.

เผ่าเอลฟ์ทำการสร้างธนาคารอย่างงั้นรึ?มีอะไรผิดพลาดรึไม่!

เมิ่งชิงอู๋เร่งรีบค้นหาข้อมูลทันที,ท้ายที่สุดก็ต้องทำให้นางต้องประหลาดใจ.

เผ่าเอลฟ์ที่เตรียมสร้างธนาคารขึ้นเป็นเรื่องจริง,นับว่าเป็นผลประโยชน์ต่อเผ่าเอลฟ์ไม่น้อย,เป็นเรื่องที่เข้าใจได้อย่างสมเหตุสมผล,เพราะว่าเผ่าเอลฟ์ที่ต้องการใช้การนำส่งและระบบขนส่งต่างๆโดยการเชื่อมโยงข้อมูล,กับศูนย์การค้าอย่างรวดเร็ว,ซึ่งแน่นอนว่าจะสามารถทำให้แลกเปลี่ยนข้อมูลและการใช้จ่ายต่างๆด้วย.

ไม่ต้องเอ่ยเลยว่าการขายทรัพยากร,การผลิต,หรือขายสินค้าพิเศษ,หรือการพัฒนาเทคโนโลยีอื่นๆ,รวมทั้งการสร้างโรงภาพยนตร์,สื่อบันเทิงอื่นๆ,แน่นอนว่ามันได้รับความนิยมกับเหล่าเอลฟ์เป็นอย่างมาก.

เผ่าเอลฟ์ที่ทำการประกาศสร้างธนาคารนั้น,ก็เพื่อเป็นการเตรียมตัว,สำหรับป่านิรันดร์และเมืองหลักต่างๆของพวกเขา,เป็นการระดมเงินลงทุนกับธนาคาร,เป็นการจัดเตรียมการกู้เงินให้กับเหล่าเอลฟ์ตนอื่นๆได้ทำการลงทุน,ไม่ใช่ว่าเป็นการยกระดับเผ่าเอลฟ์ขึ้นมาเลยไม่ใช่รึ?

รูปแบบการสร้างธนาคารนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาต้องการทำอะไร.

นี่เป็นการส่งเสริมเรื่องที่ยอดเยี่ยมเลย,อย่างแรกได้มีการประกาศขายคลังสินค้าต่างมิติให้กับเผ่าเอลฟ์สิบแห่ง,และเผ่าเอลฟ์ได้ใช้พื้นที่เก็บเงินของธนาคารอีกด้วย,นอกจากนี้ยังมีการขายปัญญาภูติสิบตนแก่เผ่าเอลฟ์,เพื่อให้สามารถให้เผ่าเอลฟ์ได้ทำงานได้อย่างถูกต้องแม่นยำ,และยังมีการเชื่อมโยงระบบจัดการของระบบธนาคารเข้ากับพวกเขาอีกด้วย.

กล่าวอีกนัยน์หนึ่ง.

หอการค้าปาฏิหาริย์ได้ทำการสนับสนุนธนาคารเอลฟ์อย่างเต็มที.

ทว่าทำไมถึงทำเช่นนั้น?ธนาคารเอลฟ์,ธนาคารแห่งปาฏิหาริย์,ไม่ต้องเกิดการแข่งกันหรอกเหรอ! อย่างไรก็ตามต้องไม่ลืมว่าเผ่าพันธ์เอลฟ์นั้นเป็นอิทธิพลขนาดใหญ่,ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีความสามารถการจะแทรกซึมเข้าไปในเมืองเหล่านั้นก็ยากที่จะทำได้สำเร็จ.


ป่านิรันดร์ของเผ่าเอลฟ์ซึ่งมีราชาเอลฟ์เป็นผู้ปกครองสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกคนได้,ดังนั้นก็จะทำให้พวกเขารู้สึกวางใจในการฝากศิลาก่อเกิดทั้งหมดที่พวกเขามี,ซึ่งเผ่าเอลฟ์นั้นนับว่าเป็นเผ่าพันธ์นึกถึงศักดิ์ศรีเป็นของตัวเอง,การสร้างธนาคารเอลฟ์ขึ้นมาเช่นนี้,ก็เหมือนกับการช่วยขยายธนาคารแห่งปาฏิหาริย์ให้ขยายตัวได้เร็วขึ้น,โดยที่เมืองฉีจีไม่ต้องพยายามเลยไม่ใช่รึ?





ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP (สถานปัจจุบัน แปลจบ 658 แล้ว)==>  Click


-เว็ปฟรี วันละหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip ลงครบทุกลุ่มแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น