วันเสาร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 166 Two problems

Immortality Chapter 166  Two problems

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 166 ปริศนาสองข้อ.


บทที่ 166 ปริศนาสองข้อ.


两道  ปริศนาสองข้อ.

สิบวันหลังจากนั้น,ลานที่พักของสุ่ยอู๋เหิน,บนเกาะลอยฟ้า,จงซานและหนานป่าเทียน,พวกขาทั้งคู่นั่งอยู่บนโต๊ะศิลา,ซึ่งมีแก้วสองใบ,พวกเขาได้รับตราประทับสลักสีทับทิม,ของราชวงศ์ต้าโหลวที่มีอักขระปรากฏอยู่,ซึ่งมีชื่อ,และตำแหน่งงานของพวกเขา.



ด้านหน้า,"ราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว.
 ด้านหลัง,จงซาน,องค์รักษ์ชั้นสาม.

ด้านหน้า,ราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว.
"ด้านหลัง,หนานป่าเทียน,นายกองทหารแนวหน้า.

ทั้งสองคนได้ตราประทับเรียบร้อยแล้ว,รูปร่างเหมือนกับก้อนอิฐอย่างเป็นทางการ,จงซานเองก็เพิ่งรับรู้เช่นกันว่าประชาชนทุกคนต่างก็มีตราประทับเช่นนี้,เพียงแต่ว่าหากเป็นประชาชนทั่วไปจะมีอักขระเซาหมิง เป็นตำแหน่งด้านหลัง.
草民 [cǎo mín] "คนธรรมดา"

นอกจากนี้ยังไม่ใช่ตราประทับธรรมดา,ทว่าเป็นการสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ,เหมือนกับบัตรประชาชนในโลกเดิมของเขา,และยังเป็นของวิเศษที่ไม่สามารถปลอมแปลงได้อีกด้วย.

ทั้งสองคนยังไม่ได้จัดเก็บตราประทับ,ตอนนี้ได้หิ้วเหยือกสุรามา.

"ป่าเทียน,พวกเราได้สถานที่ทำงาน,ตอนนี้คงจะต้องแยกกันแล้ว,วันนี้ข้าจึงได้เตรียมสุรามาเพื่อล่ำลาเจ้าเป็นพิเศษ.

"อืม,ข้าและเจ้าต่างก็อยู่ในราชวงศ์ต้าโหลว,ไว้พบกันอีกครั้ง,ดื่ม."หนานป่าเทียนที่ยกแก้วขึ้นชน.

"เคล้ง!"

แก้วสุราชนกัน,คนทั้งสองที่ดื่มสุรา,ซึ่งนี่เป็นสุราเก้าจิตวิญญาณหมื่นเกสรซึ่งจงซานได้ซื้อมา,เป็นพิเศษ,เพื่อฉลองล่ำลากับหนานป่าเทียนโดยเฉพาะ.

"ข้าต้องเดินทางไปอีกเมืองหนึ่ง,มีแต่สงครามเท่านั้นถึงจะทำให้ประสบความสำเร็จ,เจ้าอยู่ในเมืองอู๋ซวัง,เป็นองค์รักษ์ขั้นสาม,อนาคตข้างหน้าดูสดใส."หนานป่าเทียนเผยยิ้มออกมา.

"ฮ่าฮ่า,พวกเราเองก็ไม่ได้ต่างกัน,ไว้เจอกันวันหน้ามาเทียบกันว่าใครจะก้าวหน้ากว่ากัน."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"ได้,วันข้างหน้าใครจะก้าวหน้ากว่ากัน."หนานป่าเทียนที่ยกแก้วขึ้น.

"เคล้ง"แก้วสุราที่ยกขึ้นชนกัน,ทั้งสองที่ดื่มสุราไปในทันที.

"ก่อนหน้านี้เจ้าร้ายกาจมากเลย,ถึงกับสังหารไปคนหนึ่งและเป่าคนเหล่านั้นลอยไปตั้งหลายคน,ข้าสงสัยว่า,ถึงแม้ว่าสุ่ยต้าเหรินจะไม่ปรากฏ,โม่เหยี่ยนปิงก็ไม่กล้าทำอะไรพวกเรา."หนานป่าเทียนที่เผยยิ้มออกมา.

"เจ้าตัวตลกนั่นนะรึ? มีอะไรต้องใส่ใจ? เขาไม่ได้อยู่ในสายตาข้าแต่แรกแล้ว,มาๆ,ดื่ม,"จงซานที่ยกสุราขึ้นอีกแก้ว.

"ดี,ไม่มีอะไรให้ต้องกล่าวถึง."หนานป่าเทียนที่เผยยิ้มออกมา.

"จะอย่างไรก็ตาม,ข้ารู้สึกเป็นห่วงพี่น้องของข้าเช่นเจ้ามากกว่า,ขอให้เจ้าประสบความสำเร็จในอนาคต."จงซานกล่าว.

"ดี."หนานป่าเทียนที่กล่าวออกมาด้วยเสียงที่หนักแน่น.

สามวันหลังจากนั้น,หนานป่าเทียนก็ออกจากเมืองอู๋ซวังไปกับกลุ่มทหารกลุ่มหนึ่ง,ทว่าจงซานและสุ่ยอู๋เหิน,ยังคงอยู่.

ในวันนี้จงซานก้าวขึ้นไปบนกระบี่เหิน,บินลึกเข้าไปในเมืองอู๋ซังกับสุ่ยเทียนหยา,ผ่านไปราวๆหนึ่งชั่วโมง,ก็ไปถึงสถานที่แห่งหนึ่งเป็นเกาะลอยฟ้าที่ม่านแสงสีแดง.

"เอาล่ะ,หลังจากนี้ที่แห่งนี้จะเป็นที่ทำงานของเจ้า."สุ่ยเทียนหยากล่าว.

"อืม."จงซานพยักหน้ารับ.

หลังจากที่ก้าวเข้ามาด้านใน,พื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยทหารคุ้มกันมากมายประจำการอยู่,พื้นที่รอบๆดูโอ่อ่าเป็นอย่างมาก,หนำซ้ำยังมีวิหกและสัตว์อสูรหายากอีกด้วย.

ไม่ไกลออกไปนั้นมีตำหนักอยู่หลายแห่ง.

สุ่ยเทียนหยาที่นำจงซาน,ตรงไปยังตำหนักที่มีขนาดใหญ่ที่สุดนั่นเอง.

ตำหนักโหยวเซียง!

ภายในตำหนักโหยวเซี่ยง,นั้นมีองค์รักษ์มากมายอยู่เต็มไปหมด,ดูเหมือนว่าสถานที่แห่งนี้จะมีบุคคลที่สำคัญไม่ธรรมดาอยู่ด้านใน.

จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา,ก่อนที่จะก้าวตามสุ่ยเทียนหยาไป.

"ที่นี่ล่ะ."สุ่ยเทียนหยาที่ก้าวตรงไปยังด้านใน.

จงซานที่พยักหน้า.

จงซานที่ก้าวเข้ามาด้านใน,เขาสามารถมองเห็นด้านในได้อย่างชัดเจน,ที่ตรงกลางนั้นมีโต๊ะหยกที่มีรัศมีสิบเมตร,ดูเหมือนว่าจะเป็นของวิเศษด้วย,สามารถที่จะปล่อยแสงและสร้างภาพลอยอยู่บนอากาศ,เป็นแสงที่ฉายรูปลักษณ์ของภูเขาแม่น้ำลำธาร,ตลอดจนตำแหน่งต่างๆภายในเมือง,แม้แต่กำแพงเมือง,ป้อมปราการทุกอย่างได้ปรากฏขึ้นด้านบนโต๊ะหยก.

เมืองอู๋ซวัง,นี่คือภาพฉายของเมืองอู๋ซวัง,นับว่าเป็นแผนที่ที่สมบูรณ์มาก,เป็นแผนที่ที่สมจริงเป็นอย่างมาก.

อย่างไรก็ตาม,นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ,ที่สำคัญนั้นจงซานเห็นคนที่คุ้นหน้าสองคน.

ที่ใจกลางห้องโถงนั่นมีคนสามคน,สองคนยืนอยู่ด้านหลัง,เหมือนกับเป็นองค์รักษ์ประจำตัว,ส่วนอีกคนหนึ่ง,ซึ่งถือพัดอยู่ในมือ,จ้องมองไปยังภาพของแผนที่เมืองอู๋ซวังที่ฉายออกมา.

เห็นองค์รักษ์ทั้งสอง,จงซานที่หรี่ตาเล็กลง,เพราะว่าคนทั้งสอง,เขาจำได้,อาต้าและอาเอ้อนั่นเอง.

ส่วนอีกคนจงซานที่ค่อยๆเห็นได้อย่างชัดเจน,กงจูเฉียนโหยว.

จงซานที่ยิ้มออกมา,แอบถอนหายใจ,เจอนางเข้าจนได้.

"เหว่ยเฉินคารวะกงจู."สุ่ยเทียนหยาที่โค้งคำนับอย่างสุดซึ้งพร้อมกับกล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
微臣Wēi chén ขุนนางน้อย.

"เซี่ยเฉินจงซาน,คารวะกงจู."จงซานเองก็โค้งคำนับออกมาด้วยเช่นกัน.
下臣Xià chén ขุนนางเล็ก

ได้ยินเสียงของทั้งสองคน,ดูเหมือนว่าได้ดึงสติความคิดของกงจู่เฉียนโหยวกลับมา,ก่อนที่นางจะหยุดมองแผนที่เมืองอู๋ซวังและหันหน้ามาช้าๆ.

กงจูเฉียนโหยวในวันนี้,สวมชุดสีม่วง,เป็นเสื้อผ้าที่เหมือนกับของบุรุษ,มือของนางถือพัด,ดูเต็มไปด้วยสง่าราศี,ขณะที่หันหน้ามามอง,แววตาที่แสดงความประหลาดใจอยู่เล็กน้อย.

"สุ่ยเทียนหยา,นี่คือองค์รักษ์ของข้าอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่จ้องมองจงซาน,เผยรอยยิ้มแสดงท่าทางสนใจ.

"ขอรับ,กงจู่,นี่คือองค์รักษ์ขั้นสาม,จงซาน."สุ่ยเทียนหยาที่กล่าวรายงานในทันที.

"เฉิน(ขุนนาง)จงซาน.คารวะกงจู,"จงซานที่เห็นกงจูเฉียนโหยวที่แสดงท่าทางงงงวย,จึงได้กล่าวออกมาอีกครั้ง.

"โอหังไปแล้วจงซาน,เห็นกงจู่แล้ว,ทำไมไม่คุกเข่า?"

ได้ยินคำพูดของอาต้าแล้ว,จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา,ทว่ากงจู่เฉียนโหยวยังเผยยิ้มออกมาอย่างพอใจ,เห็นได้อย่างชัดเจนว่าอาต้ากล่าวออกมาด้วยการสั่งการของกงจูเฉียนโหยว.

 ที่จริงสุ่ยเทียนหยายังคำนับเพียงเล็กน้อยและก้าวถอยหลังออกไปทันที,ปล่อยให้จงซานยืนอยู่ต่อหน้ากงจูเฉียนโหยวเพียงคนเดียว.

หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นๆ,แน่นอนว่าจำเป็นต้องคุกเขา,ทว่า,จงซานไม่,จงซานรู้ดีว่ากงจูเฉียนโหยวต้องการล้อเขาเล่นเท่านั้น,หากคุกเข่าลงก็เหมือนกับเขาถูกปั่นหัวไป.ต้องไม่ลืมว่าสุ่ยเทียนหยายังไม่คุกเขา,นอกจากนี้หากทำเช่นนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าถูกฝ่ายตรงข้ามดูถูกเอาหรอกเหรอ.

ในเวลานี้,นี่อาจจะเป็นหนึ่งในการทดสอบของกงจู่เฉียนโหยว,เป็นเหมือนกับการทักทายตั้งแต่เริ่มต้นก็ได้.

"กงจู,เรื่องในอดีตนั้น,เฉินได้ล่วงเกินไป,ขอให้กงจูอย่าได้ถือสา."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
Chén ขุนนาง,ผู้อยู่ใต้อำนาจ.

เห็นจงซานกล่าวออกมาเช่นนั้น,กงจูเฉียนโหยวที่เผยยิ้มออกมา,"ท้ายที่สุดเจ้าก็จำข้าได้."

"เก้าปีที่แล้วจงซานโชคดีที่ได้สมบัติ,จงซานรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก,ที่ได้กระทำเรื่องน่าอับอายในครั้งนั้น.เก้าปีมานี้จึงไม่เคยลืมเรื่องนี้เลย."จงซานกล่าว.

เกี่ยวกับเรื่องของกงจูเฉียนโหยวนั้น,จงซานเองก็รู้สึกเสียใจจริงๆ,ต้องไม่ลืมว่าในเวลานั้นกงจูเฉียนโหยวดูแลเขาเป็นอย่างดี,การที่เขาบอกว่าไม่เคยลืมนั้นเป็นเรื่องที่ไม่เกินเลยแม้แต่น้อย.

"เฮ้เฮ้,เจ้ารู้สึกเสียใจอย่างงั้นรึ?ฮึ,จงซาน,เจ้ากล้ามาก,ไม่เคยมีผู้ใดทำให้ข้าขาดทุน."กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมาเสียงดัง.

กงจูเฉียนโหยวที่แสดงท่าทางโกรธเกรี้ยว,ปลดปล่อยแรงกดดันและความภาคภูมิออกมา,กลิ่นอายที่ทรงพลังของผู้ยืนอยู่เหนือคนทั้งมวล,ก่อนหน้านี้ต่อหน้าโม่เหยี่ยนปิงจงซานไม่ได้รู้สึกหวั่นเกรงเลยแม้แต่น้อย,ทว่ากลับแรงกดดันของกงจูเฉียนโหยวในเวลานี้นั้นกับคุกคามเขาอย่างรุนแรง,ราวกับว่าตายล้านครั้งยังไม่เพียงพอ.

ภายในใจของจงซานที่หดเกร็ง,ก่อนที่จะทำให้ตัวเองอยู่ในความสุขุมอย่างรวดเร็ว.

"เรื่องในอดีตนั้น,จงซานเองก็รู้สึกผิดกับกงจูเช่นกัน,หากว่ามีโอกาส,จงซานจะชดเชยในสิ่งที่กงจูขาดทุนไปอย่างแน่นอน,เพื่อลบล้างความผิดที่เคยทำไว้,จงซานจะช่วยกงจู ทุกเรื่องอย่างสุดความสามารถ."จงซานที่กล่าวออกมาไม่โอหังและไม่สุภาพพร้อมๆกัน.

เห็นท่าทางของจงซานยังคงสุขุม,แววตาของกงจูเฉียนโหยวนั้นเผยท่าทางดีใจเป็นอย่างมาก,ภายในใจเฉียนโหยว,จงซานเป็นเหมือนกับต้นกล้า,ไม่ใช่จอกแหน,ซึ่งทั้งสองอย่างนั้นแตกต่างกัน,มีคุณค่าที่แตกต่างกัน,คนผู้นี้ไม่เหมือนคนอื่น,เมื่อนางเข้าใจชัดว่านางมองคนไม่ผิด,ก็ทำให้นางรู้สึกพอใจ.

อย่างไรก็ตาม,กงจูเฉียนโหยวรู้ดี,หากว่าต้องการใช้เขาล่ะก็,จะต้องบีบบังคับ,ให้เขาเชื่อใจอย่างโดยดี,ถึงจะสามารถใช้งานเขาได้จริง.

"ชดเชยเหรอ? จะชดเชยข้าอย่างไร,เจ้ามั่นใจรึว่าจะสามารถชดเชยได้? สิ่งที่ข้าขาดทุนไปเมื่อในอดีตนั้น,เจ้ามีความสามารถเพียงพอที่จะชดเชยให้กับข้าอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่จรดปรายนิ้วไปบนพัดของนาง,เผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล.

ได้ยินคำพูดของกงจูเฉียนโหยวแล้ว,จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา,ทว่าก็ถอนหายใจยาวด้วยความเบาใจ,ดูเหมือนว่ากงจูเฉียนโหยวนั้นจะไม่ใช่คนธรรมดา,นางกำลังต้องการแสดงอำนาจของนางออกมาให้เห็น.

"เช่นนั้นกงจูต้องการให้ข้ากระทำอะไรอย่างงั้นรึ?"จงซานกล่าวออกมาอย่างขึงขัง.

ในเวลานี้,กงจูเฉียนโหยวที่ต้องการใช้สถานะของนางกดข่มให้จงซานเชื่อฟังอย่างราบคาบ.

"ข้าจะให้ปริศนาที่ยากจะแก้ไขกับเจ้า,เมื่อครั้งข้ามีพลังฝึกตนเท่าเจ้านั้น,เหนือหัวได้มอบปริศนาให้กับข้าสิบข้อ,ข้าสามารถแก้ไขได้แปดข้อ,ทว่ามีสองข้อข้าไม่สามารถแก้ได้,หากว่าเจ้าสามารถแก้ได้,ข้าจะลืมเรื่องราวในอดีต,และจากนี้จะมอบเกียรติให้กับเจ้า,ด้วยการเรียกเจ้าว่า เซียนเซิง,หากว่าไม่,หลังจากนี้,หากว่าเจ้าเจอข้า,เจ้าจะต้องคุกเข่าให้กับข้าด้วยความเคารพทุกครั้ง."กงจูเฉียนโหยวกล่าวเสร็จก่อนที่จะก้าวตรงไปยังบัลลังก์ของนาง.

ขณะที่กงจูเฉียนโหยวกล่าวออกมานั้น,ใบหน้าของสุยเทียนหยา,อาต้าและอาเอ้อ ถึงกับกระตุกไปเลยทีเดียว,เชาว์ปัญญาของกงจูเฉียนโหยวนั้น,คนทั้งสามรู้ดีอย่างแจ่มแจ้ง,ปริศนาสิบข้อจากเหนือหัวอย่างงั้นรึ? แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าคืออะไร,ทว่าสองข้อที่กงจูเฉียนโหยวแก้ไม่ได้,ยังจะมีคนสามารถแก้ไขได้อีกรึ?

พวกเขาแทบล้มคว่ำ,ขณะที่จ้องมองไปยังจงซาน,ตอนนี้สายตาแววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจจงซาน.

จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา,แน่นอนว่านี่คืองานยากอย่างแท้จริง,องค์เหนือหัว?ไม่ใช่จู่เหรินราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวหรอกหรึ? เป็นเซิงซ่างราชวงศ์ราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวอย่างงั้นรึ?
(圣上)“เซิ่งซ่างหมายความว่าพระเจ้าอยู่หัว

ปริศนาทั้งสิบของเหนือหัว,สร้างความสนใจกับจงซานไม่น้อย,ทว่า,ในสถานการณ์เช่นนี้,เห็นได้ชัดเจนว่ามันคือกับดัก,เขาควรที่จะกระโดดลงไปหรือไม่?

"กงจูเชิญเอ่ย,เซี่ยเฉินจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้."จงซานที่รู้ว่าเป็นกับดัก,แต่เขาก็ไม่สามารถผลักมันออกไปได้,นอกจากนี้กงจูเฉียนโหยวกล่าวว่าเมื่อครั้งมีพลังฝึกตนเท่าเขา,เขาก็หวังไว้ว่า,มันคงจะไม่ยากจนเกินไป.

"ดี."กงจูเฉียนโหยวที่เผยยิ้มออกมา.

"อาต้า."กงจูเฉียนทโหยวที่เอ่ยออกมา.

"ครับ."อาต้าที่ก้าวออกมาในทันที,ก่อนที่จะนำของบางอย่างออกมา,ซึ่งหนึ่งเป็นบอลเหล็กขนาดหนึ่งเมตร,ส่วนอีกหนึ่งชิ้นเป็นเม็ดยายกระดับ,ทั้งสองสิ่งที่ถูกนำมาวางบนโต๊ะ,จากนั้นก็ทำให้แสงที่ฉายภาพแผนที่หายไปในทันที.

จงซานที่ขมวดคิ้วเล็กน้อย,ก้าวเข้าไป,พร้อมกับตรวจสอบสิ่งของทั้งสองอย่างระมัดระวัง.

เม็ดยายกระดับ,นี่เป็นเพียงแค่เม็ดยายกระดับทั่วไป,ทว่าอีกอันเป็นบอลโลหะ,ที่จริงผิวของมันค่อนข้างเรียบเนียนเลยทีเดียว,เพียงแต่ว่าบนบอลโลหะนั้น,มีรูตาไก่สองจุด,เป็นรูขนาดเล็กมาก,น่าจะมีขนาดครึ่งหนึ่งของนิ้วโป้ง,และดูเหมือนว่าด้านในรูนั้นจะดูมืดคลึ้มไปหมด.


"สองปริศนา,กับสิ่งของสองสิ่ง."กงจูเฉียนโหยวกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.


ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น