วันเสาร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2562

Immortality Chapter 161 The people are scary

Immortality Chapter 161  The people are scary

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 161 น่าหวั่นเกรง


บทที่ 161 น่าหวั่นเกรง


 "ข้าและสุ่ยอู๋เหินมีความสัมพันธ์อย่างไรไม่สำคัญ,แต่ที่สำคัญคือ,เจ้าไม่สามารถล่วงเกินข้าได้!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ.



ได้ยินคำพูดของจงซานแล้ว,คนทั้งหกถึงกับเปลี่ยนเป็นโง่งม,สายตาของโม่เหยียนปิงเต็มไปด้วยความอัศจรรย์ใจและไม่แน่ใจ,คนผู้นี้เป็นใคร? สุ่ยอู๋เหินเองก็เปลี่ยนเป็นงงงวย,ทว่าเขาก็แสดงสีหน้าเล่นไปตามบทอย่างเป็นธรรมชาติด้วยเช่นกัน,ที่จริงเขาเผยยิ้มให้กับหนานป่าเทียนเล็กน้อย,สายตาของจงซานนั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจ,ทว่ากับคำพูดที่ใหญ่โตนั่น,ทำให้หนานป่าเทียนแทบอดกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่ได้เช่นกัน.

เถ้าแก่อ้วนที่อยู่ข้างๆเองก็แสดงท่าทางประหลาดเช่นกัน,จ้องมองไปยังจงซานด้วยความอัศจรรย์ใจ,เขาคนนี้เป็นคนที่ยิ่งใหญ่อย่างงั้นรึ? ทว่าก่อนหน้านี้,เขายังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับของวิเศษเลย!อย่างไรก็ตามเถ้าแก่อ้วนแน่นอนว่าไม่กล้าที่จะเอ่ยอะไรออกมาอย่างแน่นอน.

จงซานที่จ้องมองไปยังโม่เหยี่ยนปิง,ตอนนี้จงซานที่ต้องการสะกดข่มโม่เหยียนปิง,ให้เขาคิดว่าเขานั้นเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ไม่ธรรมดา.

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะจงซานจะกล่าวไร้สาระ,เจ้าไม่สามารถยุแหย่ข้าได้,เรื่องนี้ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้,ทว่า,เพื่อไม่ให้มันเกิดความวุ่นวายยุ่งเหยิง,จงซานมีแต่ต้องพูดเท่านั้น,อย่างแรก,อาวุโสจื่อซวินนั้นแม้ว่าจะไม่รู้ว่ายืนอยู่ฝั่งหนานเฉิงตง,แต่ก็อธิบายว่าสำนักไคหยางทั้งหมดอยู่ฝั่งหนานเฉิงตง,ไม่ว่าหลังจากนี้เขาจะเป็นขุนนางหรือไม่ก็ตาม,ตัวเขาย่อมยืนอยู่ฝั่งหนานเฉิงตง,เช่นนั้นการที่จะล่วงเกินฝ่ายเป่ยเฉิงตงนั้น,ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องเกิดขึ้น.

ข้อถัดมา,หลังจากที่เขาได้รับตำแหน่งขุนนางขั้นห้าของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวแล้ว,แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวต่อแผนร้ายของโม่เหยียนปิงอีกต่อไป,หากว่าขุนนางระดับห้าของราชวงศ์ต้าโหลวถูกสังหารไปอย่างง่ายๆแล้วล่ะก็,คงจะไม่ถูกเรียกว่าราชวงศ์สวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ในทวีปศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้,แน่นอนว่าโม่เหยียนปิงก็ย่อมหวั่นเกรงสถานะของเขาอย่างแน่นอน,แม้ว่าจะไม่สามารถจัดการโม่เหยี่ยนปิงได้,ทว่าโม่เหยี่ยนปิงก็ไม่กล้าหาเรื่องจงซานได้เช่นกัน.

ท้ายที่สุด,การข่มขู่โม่เหยียนปิงในเวลานี้,ดูเหมือนว่าจะได้ผลเช่นกัน.

จงซานที่จ้องมองไปยังโม่เหยียนปิง,จากนั้นก็เผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล,จากนั้นก็หันหน้าไปยังเถ้าแก่อ้วนพร้อมกับกล่าวต่อไปว่า"15,000 ศิลาวิญญาณระดับสูง."

แม้ว่าโม่เหยียนปิงจะรู้สึกอ่อนไหวกับคำพูดของจงซาน,ทว่าเขาก็ยังคงไม่ยอมแพ้เช่นกัน."16,000 "

"20,000 ศิลาวิญญาณระดับสูง."จงซานที่เพิ่มราคาขึ้นทันทีไปถึง 20,000

ได้ยินคำพูดของจงซาน,โม่เหยียนปิงสายตาที่จ้องเขม็ง,เขาที่คิดว่าตัวเองมือเติบแล้ว,ทว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นกับดูมือเติบยิ่งกว่าเขาซะอีก,คนผู้นี้เป็นคนที่ยิ่งใหญ่จริงๆอย่างงั้นรึ? ทว่าโม่เหยียนปิงยังคงกัดฟันกล่าวออกมาอีกครั้ง." 21,000 "

จงซานที่จ้องมองด้วยความเย็นชาไปยังโม่เหยียนปิง," 25,000 "

กับราคาที่จงซานเพิ่มขึ้นทีละ 5000,ทำให้หัวใจของโม่เหยียนปิงถูกกระแทกอย่างแรง.

ขณะที่โม่เหยียนปิงกำลังที่จะเพิ่มราคาขึ้นไปอีกนั้น,ผู้ใต้บังคับบัญชาของโม่เหยียนปิงก็กล่าวออกมาทันที,"เส้าเหยีย,ศิลาวิญญาณของพวกเรา...."

ศิลาวิญญาณของพวกเขาไม่พอซะแล้ว,มันไม่พอให้โม่เหยียนปิงใช้จ่าย.

ได้ยินคำพูดของคนของโม่เหยียนปิง,จงซานที่เผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล.

"ศิลาวิญญาณไม่พอ,ก็เอาเม็ดยา,ไปแลกศิลาวิญญาณที่ร้านถัดไปมา..."โม่เหยียนปิงที่รู้สึกโกรธเกรี้ยว,เพราะว่าสถานะของจงซานที่คลุมเครือ,เลยทำให้เขารู้สึกถูกคุกคาม,ตอนนี้ศิลาวิญญาณไม่พออีก,ยิ่งทำให้โม่เหยียนปิงโกรธเกรี้ยว.

"พรึบบบ!"

โม่เหยียนปิงที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิดผู้ใต้บังคับบัญชา,จงซานที่ลงมือในทันที,ทุกคนที่ไม่อยากเชื่อเลยว่า,จงซานจะทำเช่นนี้.

ดาบยักษ์ฝันร้ายถูกชักออกมาทันที,พร้อมกับชี้ไปยังโม่เหยียนปิง,พร้อมกับวางไปยังศีรษะของโม่เหยียนปิงพร้อมๆกัน.

เหตุการณ์ทีเกิดขึ้นในทันทีทันใด,ไม่คิดเลยว่าจงซานจะลงมือเช่นนี้,สุ่ยอู๋เหินที่อยู่ข้างๆค่อนข้างกังวลเลยทีเดียว,ศิษย์น้อง,เขาต้องการทำสิ่งใด,ไม่ใช่ว่าเขาต้องการสังหารโม่เหยียนปิงหรอกนะ? แม้แต่ตัวเขาเองแม้ว่าจะขัดแย้งกับโม่เหยียนปิงอยู่ตลอดเวลา,แต่ก็ไม่กล้าที่จะสังหารเขาแน่นอน.

ศิษย์น้องประมาทไปหรือไม่?

หนานป่าเทียนที่อยู่ข้างๆเองก็เผยยิ้มด้วยความเคร่งขรึม,จ้องมองอย่างเย็นเยือบไปยังยังจงซานและมู่เหยียนปิง.

ดาบยักษ์ของจงซานนั้นเร็วมาก,อีกอย่างหนึ่งโม่เหยียนปิงที่กำลังตำหนิผู้ใต้บังคับบัญชาอยู่,ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ระวังตัว,เผลอพริบตาเดียวดาบก็มาอยู่ที่ศีรษะของเขาแล้ว.

โม่เหยียนปิงรู้สึกขนทั่วร่างตั้งชัน,สายตาที่ไม่อยากเชื่อกับดาบที่มาจ่อที่ศีรษะของเขาแล้ว,ภายในใจเต็มไปด้วยความหวาดผวาขึ้นมาทันที.

ผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งสองของโม่เหยียนปิงเร่งรีบชักกระบี่ออกมา,สายตาจ้องมองอย่างโกรธเกรี้ยวไปยังจงซาน,ทว่าก็ยังหวาดหวั่นว่าจะทำให้เส้าเหยียนตัวเองได้รับบาดเจ็บ.

ส่วนเถ้าแก่อ้วนในเวลานี้,ถึงกับอ้าปากค้าง,กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก,ยืนสั่นอยู่ข้างๆ.

คนผู้นี้,โชคดีแล้วก่อนหน้านี้,เขาไม่ได้กล่าวอะไรที่เป็นปฏิปักษ์.

เห็นท่าทางของโม่เหยียนปิงที่กำลังหวาดกลัวด้วยความงงงวยอยู่นั้น,จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความเย็นชา,"ความอดทนของข้ามันมีจำกัด,เจ้าเชื่อใหมว่าข้าสามารถสังหารเจ้าได้,นอกจากนี้ยังไม่มีใครที่จะกล้าถามความรับผิดชอบให้เจ้าด้วย."

จงซานที่สวมบทบาทเกินจริงเป็นอย่างมาก,ดูเหมือนว่าคราวนี้,เขาถึงกับขู่เอาชีวิตฝ่ายตรงข้ามเลยทีเดียว.

โม่เหยียนปิงที่จ้องมองไปยังดาบยักษ์,แม้ว่าเขาจะสามารถหลบหนีออกมาได้,ทว่าภายในใจเขากับรู้สึกหวาดกลัว,ภายในใจของโม่เหยียนปิงในเวลานี้,เริ่มมั่นใจในสถานะของจงซานว่าจะต้องยิ่งใหญ่จนไม่สามารถล่วงเกินได้,และเขายังสามารถสังหารคนได้อย่างไม่กระพริบตา.

จงซานที่เห็นความหวาดกลัวในแววตาของโม่เหยียนปิงแล้ว,เขาที่ลดดาบลงเรื่อยๆ,สายตาที่หรี่เล็ก,ท่าทางที่บ่งบอกว่าเจ้ารนหาที่ตายอย่างงั้นรึ?

เห็นจงซานที่ค่อยๆลดดาบลงช้าๆแล้ว,โม่เหยียนปิงที่หัวใจบีบรัด,สูดหายใจลึก,จ้องมองไปยังจงซาน,สายตาตอนนี้เต็มไปด้วยความหวาดกลัวอย่างรุนแรง.

ใบหน้าที่ซีดเผือด,ขณะที่เขาค่อยๆถอยห่างออกมาเรื่อยๆ,เห็นได้อย่างชัดเจนว่าตอนนี้ใบหน้าเขาดูไม่ดีนัก,ไม่มีหน้าที่จะอยู่ที่แห่งนี้อีกต่อไปแล้ว.

ผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งสองของโม่เหยียนปิงก็เร่งรีบตามไป,ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวเมื่อจ้องมองมายังจงซาน,ก่อนที่จะเร่งรีบถอยไปอย่างรวดเร็ว.

เห็นโม่เหยียนปิงที่วิ่งหนีหากจุกตูดไปแล้ว,จงซานก็เก็บดาบยักษ์ของเขาไปในทันที.

ไม่เพียงแต่จงซานที่จะทำให้ทุกคนได้รับรู้ไปทั่ว,แต่จงใจที่จะให้รู้กันไปทั่ว,เพราะว่าจงซานสามารถที่จะเข้าใจได้ในตำแหน่งของตัวเองเป็นอย่างดี,เกี่ยวกับโม่เหยียนปิงแล้ว,หลังจากที่เขาเป็นขุนนางระดับห้าอย่างเป็นทางการแล้ว,เขาก็จะกลายเป็นตัวตลกสำหรับจงซานเท่านั้น,ไม่สามารถทำอะไรกับเขาได้อีก,นอกจากนี้,เกี่ยวกับธวัชค่ายกลหมอกเทวะอำพราง,ยังเป็นสิ่งที่น่าสนใจอีกด้วย.

สิ่งที่ทำเขาได้กระทำกับโม่เหยียนปิงนั้นเป็นการแสดงอำนาจการกดขี่,เพื่อทำให้เขาเกิดความหวาดกลัว,เป็นการปลูกเมล็ดพันธ์แห่งความกลัวเอาไว้,นี่เป็นหนึ่งในวิธีในการฝึกทหาร,ถึงแม้ว่าการฝึกทหารจะไม่ได้ใช้เรื่องความเป็นความตายมาข่มขู่,แต่ก็เป็นหนึ่งในการสร้างความน่าเกรงขามให้ประทับลงในจิตใจฝ่ายตรงข้าม,แสดงแรงกดข่มที่เหนือกว่าอย่างสิ้นเชิง,ทำให้โม่เหยียนปิงไม่แม้แต่จะโต้แย้ง,ที่จริงจงซานได้คาดการเอาไว้แล้ว,ด้วยปัญญาของเขาย่อมรู้ว่าโม่เหยียนปิงเป็นคนเช่นใด.

สุ่ยอู๋เหินที่รู้เรื่องราวของจงซานแค่ผิวเผินเท่านั้น,ดูเหมือนว่าเขาจะมีความสามารถถึงกับข่มขู่มู่เหยียนปิงเด็กเอาแต่ใจของเมืองอู๋ซวังให้วิ่งหนีได้เลยรึ?

สุ่ยอู๋เหินที่ชำเลืองมองตาโต,กลืนน้ำลายคำโต,ตอนแรกที่เขาเห็นจงซานทำให้เทียนชาธาตุไฟเข้าแทรกได้,สุ่ยอู๋เหินก็สัมผัสได้ว่าจงซานนั้นไม่ธรรมดา,ทว่าหลังจากนั้นเขาก็เห็นว่าจงซานดูสุภาพเรียบร้อยเป็นกันเอง,ไม่คิดเลยว่าเขากลับไปคนที่คาดไม่ถึงเช่นนี้,ภายในใจของสุ่ยอู๋เหินนั้นไม่สามารถที่จะประมาทจงซานได้เลย,เรื่องนี้ทำให้สุ่ยอู๋เหินตกตะลึงเป็นอย่างมาก.

เถ้าแก่อ้วนที่เห็นการกระทำของจงซานนั้น,เขาคาดไม่ถึงเลยว่าเหตุการณ์จะจบเช่นนี้,เขาคาดไม่ถึงเลยแม้แต่น้อย,ทว่าตอนนี้เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้,ทำได้แค่รอคอยจงซานเอ่ยปากออกมาก่อนเท่านั้น.

ส่วนหนานป่าเทียนนั้นก็ค่อนข้างประหลาใจกับจงซานเหมือนกัน,เมื่อเห็นจงซานสามารถไล่โม่เหยียนปิงไปได้,ภายในใจเขาก็รู้สึกโล่งเช่นกัน.

"เถ้าแก่,นี่คือ,"เม็ดยารวมวิญญาณ" ก่อนหน้านี้ที่ร้านยา,ข้าเห็นมันรับซื้อในราคา 25,000 ศิลาวิญญาณระดับสูง,ข้าขอใช้มันแลกเปลี่ยนกับธวัชค่ายกลหมอกเทวะอำพราง."จงซานที่ได้นำขวดยาขวดหนึ่งออกมาจากำไลเก็บของ.

เกี่ยวกับร้านค้าย่านนี้นั้น,ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครบอกจงซานก็สามารถรู้ได้ว่า,เม็ดยาสามารถที่จะใช้เป็นเงินตราในการแลกเปลี่ยนได้เช่นกัน.

"ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น,ข้าได้แจ้งว่า 10,000 ก่อนหน้านี้,เพียงแค่ 10,000 ข้าก็พอใจแล้ว."เถ้าแก่อ้วนเร่งรีบกล่าวออกมาทันที,เห็นได้อย่างชัดเจนว่าตอนนี้เขาไม่กล้าที่จะค้ากำไรเกินควร.

"ไม่,ข้าจงซาน,ไม่เคยผิดคำพูด,ข้าบอกว่า 25,000 ข้าก็ต้องจ่าย 25,000,ไม่ต้องเอ่ยอะไรแล้ว."จงซานที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.

"ได้ๆ."เถ้าแก่อ้วนที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางหวาดหวั่น.

จากนั้น,เถ้าแก่อ้วนก็มอบธวัชให้กับจงซาน,พร้อมกับหยกความทรงจำ,บันทึกเกี่ยวกับวิธีใช้ค่ายกลหมอกเทวะอำพราง,ทั้งหมด.

จงซานที่จ้องมองและพยักหน้าให้,แม้เถ้าแก่อ้วนกล่าวว่าจะรับแค่ 10,000 ก็ตาม,ทว่าจงซานก็ยังยืนกรานที่จะจ่าย 25,000 ,นี่ไม่ใช่เพราะว่าจงซานโง่เง่าแต่อย่างใด,ทว่าจงซานรู้ดีว่า,เรื่องในวันนี้ย่อมจะมีเรื่องราวอื่นตามมาอย่างแน่นอน,ด้วยเรื่องในครั้งนี้ย่อมจะทำให้เถ้าแก่อ้วนนี้รู้สึกเป็นหนี้เขา,25,000 ที่เขาจ่ายก็เป็นเหมือนกับสร้างข้อตกลงไว้,กล่าวอีกอย่างหนึ่งว่ามันเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การค้าของจงซาน.

ภายนอกร้าน,โม่เหยียนปิงเดินออกมา,ใบหน้าของเขาที่แดงซ่านไปหมด,แต่ก็ไม่กล้าที่จะพูดออกมาเสียงดัง.

"เสี่ยวซาน."โม่เหยียนปิงที่เอ่ยออกมาในทันที.

"เส้าเหยี่ย."ผู้ใต้บังคับบัญชาตอบรับในทันที.

"ไปสืบมา,เจ้าคนพวกนั้น,ทำไมถึงได้มาอยู่ที่เดียวกับสุ่ยอู๋เหิน."โม่เหยียนปิงที่สูดหายใจยาวกล่าวออกมาด้วยความจริงจัง.

"เส้าเหยี่ย,ต้องการ..."ผู้ใต้บังคับบัญชาที่กลืนน้ำลายคนโต,สอบถามออกมา.

"ไปสืบข้อมูลมา."โม่เหยียนปิงที่หรี่ตาจ้องมอง.

แม้ว่าโม่เหยียนปิงจะเป็นเด็กเอาแต่ใจ,ทว่าเขาก็ไม่ได้โง่งมขนาดไปหาเรื่องกับคนที่ไม่สามารถล่วงเกินได้เช่นกัน.

"ครับ."ผู้ใต้บังคับบัญชาที่รับคำของเขาในทันที.
...

ด้านนอกร้านธวัช.

"จงซาน,เจ้าช่างกล้าจริงๆ,เจ้าเด็กนั่นหวาดกลัวถึงกับวิ่งหนีหางจุกตูดเลย,ฮ่าฮ่าฮ่า."หนานป่าเทียนหัวเราะชอบใจ.

"ใช่แล้ว,โม่เหยียนปิง,ในเมืองอู๋ซวังแห่งนี้เป็นเหมือนกับเด็กเอาแต่ใจ,คงคาดไม่ถึงว่าจะถูกเจ้าข่มขู่."สุ่ยอู๋เหินเองก็กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.

"เฮ้เฮ้,ก็แค่โชคดีเท่านั้น,ข้าไม่ได้จริงจังนัก,ไม่คาดคิดเลยว่าเขาจะกลัว,และขี้ขลาดหนีไปก่อน."จงซานที่ส่ายหน้าไปมาด้วยรอยยิ้ม.

อย่างไรก็ตาม,เรื่องนี้หนานป่าเทียนและสุ่ยอู๋เหินไม่เชื่อว่าโม่เหยียนปิงจะเป็นเช่นนั้น,สุ่ยอู๋เหินรู้ดียิ่งกว่าใคร,โม่เหยี่ยนปิงเป็นคนที่ชอบเล่นนอกกฏ,กับเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้,สุ่ยอู๋เหินคิดว่าจะบอกกล่าวกับบิดาไว้ก่อน,เกี่ยวกับคนเช่นนี้คงไม่ยอมง่ายๆแน่ๆ,จากนี้คงจะมีเรื่องอีกหลายอย่างตามมา.

"ส่วนเม็ดยารวมวิญญาณ,คนทั้งสองไม่มีใครเอ่ยถาม,และก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องเอ่ยถามด้วย.

"อืม,หวังหว่าโม่เหยียนปิงคงจะไม่มาหาเรื่องเราอีกหรอกนะ?"หนานป่าเทียนที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ไม่กล้า,อย่างน้อยก็ไม่กล้าในตอนนี้,เขาจะต้องสืบเรื่องของพวกเราก่อน,เมื่อถึงตอนนั้นพวกเราก็กลายเป็นขุนนางระดับห้าราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวไปแล้ว,ใยต้องหวาดกลัวเขาอีกรึ? ไปเถอะ,ไปดูร้านอื่นดีกว่า."จงซานที่เผยยิ้มกล่าวปลอบหนานป่าเทียน.

"อืม."หนานป่าเทียนพยักหน้า,เห็นด้วย.

**********************

ลำดับขั้นของขุนนางจีนมีลำดับเป็นตัวเลข ต่ำสุดคือขั้น 9 ขั้นสูงสุดคือขั้น 1


ลองเทียบกับเรื่องเปาบุ้นจิ้นจะได้มองออก.
ท่านเปาเป็นขุนนางขั้น 2
เดิมจั่นเจาเป็นขุนนางขั้น 4 แต่ได้เลื่อนเป็นขั้น 3
ส่วน หวังเฉา หม่าฮั่น จางหลง เจ้าหู่ คือขุนนางระดับ 5.
ขุนขั้น 4 เทียบได้กับเจ้าเมืองย่อย.
ดูได้จากเครื่องแต่งตัว แบ่งชั้นยศกันที่ยอดหมวก
Ø ระดับ 1 เป็น รัตนชาตสีแดง
Ø ระดับ 2 เป็น กัลปังหา
Ø ระดับ 3 เป็น รัตนชาติสีน้ำเงิน
Ø ระดับ 4 เป็น รัตนชาติสีเขียว
Ø ระดับ 5 เป็น แก้วผลึก
Ø ระดับ 6 เป็น เปลือกหอยสังข์
Ø ระดับ 7 เป็น ทองเกลี้ยระดับ
Ø ระดับ 8 เป็นทองสลักลาย

Ø ระดับ 9 เป็น ทองฉลุลาย


ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น