วันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2561

Immortality Chapter 142 Frightened demon

Immortality Chapter 142  Frightened demon

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 142   ปิศาจร้ายที่น่าขนลุก.


บทที่ 142   ปิศาจร้ายที่น่าขนลุก.




คนทั้งสามเวลานี้กำลังรอคอยอยู่บนยอดเขาอย่างใจเย็น.

ที่จตุรัศทิศตะวันตกนั้น,มีป้ายหลุมศพขนาดใหญ่,และมีอักษรสลักเอาไว้ว่า,"ประมุขไท่ตาน",ซึ่งทางด้านเหนือของสำนักไท่ตานนั้นมีหมอกปกคลุมไปทั่ว,จนไม่สามารถเห็นภาพด้านในได้ชัดเจน,ซึ่งแน่นอนว่านี่คือผลของค่ายกล.


ทว่าจตุรัศทางด้านทิศตะวันตกของสำนักไท่ตาน,จงซานสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน.
"อาจารย์,ปกติแล้วที่ทางเข้าศิษย์ของพวกเขาไม่ค่อยจะรวมตัวกัน,ทว่าทำไมวันนี้ที่ทางเข้าถึงได้มีคนมากมายขนาดนี้?"จงซานที่ขมวดคิ้วและสอบถามเทียนซวินจื่อ.

"มันเป็นประเพณีของสำนักไท่ตาน,สิบปีจะมีครั้งหนึ่ง,พวกเขาจะต้องทำการบวงศวงฟ้าดิน,อย่างน้อยหนึ่งเดือนพวกเขาจะต้องกลับคืนสู่สำนัก,หากไม่มีประเพณีเช่นนี้,พวกเขาก็จะคลั่งใคร้กับการปรุงยา,ไม่ออกและไม่เข้าสำนัก,เช่นนั้นแล้วสำนักไท่ตานคงจะมีคนไม่ถึงห้าสิบคนเป็นแน่."เทียนซวินจื่อกล่าวพร้อมกับมองไปด้านล่าง.

"เช่นนั้นเจ้าปิศาจจึงได้เลือกวันนี้อย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาพร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อย.

"ค่ายกลคุ้มสำนักไท่ตานนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าสำนักไคหยางเลย,แม้แต่มีคนเช่นผู้พิทักษ์ขุนเขาห้าสิบคน,ก็ยากที่จะทะลวงผ่านเข้าไปได้."เทียนซวินจื่อกล่าว.

ขณะที่เทียนซวินจื่อกล่าวอยู่,ทันใดนั้นก็ปรากฏชายในชุดดำที่มีรูปร่างแปลกประหลาดปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าสำนักไท่ตาน.

จงซานและเทียนซวินจื่อที่หยุดคุยกันในทันที,ร่างที่แปลกประหลาด,ดูแตกต่าง,เป็นร่างสูงในชุดดำ.

จงซานเห็นร่างคนดังกล่าวแล้ว,รู้สึกเหมือนไม่ใช่คน,เพราะว่าเป็นร่างในชุดดำคลุมทั่วร่างแล้ว,ยังดูผอมมากๆ.

ความกว้างระหว่างไหล่ทั้งสองข้างนั้นกว้างไม่ถึงฝ่ามือด้วยซ้ำ,ศีรษะดูตรงและแบน,มีความกว้างแค่นิ้วเดียว,กล่าวอีกอย่างหนึ่ง,ระยะห่างระหว่างหูซ้ายและหูขวานั้น,มีความยาวแค่นิ้วเดียว,ร่างกายเองก็ดูเรียบแบนเป็นอย่างมาก,ราวกับว่าจะปลิวไปตามลม,จากมุมที่จ้องซานมองลงไปนั้นศีรษะของคนในชุดดำนั้น,ดูเหมือนกับหัวปลา,ดวงตาที่แยกข้างกันคนละฝั่ง,กำลังจ้องมองออกไปยังค่ายกลด้านหน้า.

ยังเป็นคนอีกรึ?

ดวงตาของจงซานที่เบิกกว้าง,มีคนรูปร่างเช่นนี้ด้วยอย่างงั้นรึ?

หากว่าไม่เห็นว่ามีสองแขนสองขา,จงซานคงไม่คิดว่าเป็นคนอย่างแน่นอน,กับรูปร่างเช่นนี้?ดูเหมือนกับท่อนไม้ที่ตั้งตรงขึ้นมามากกว่า.

จงซานที่กลืนน้ำลายเข้าช้าๆ,นี่คือปิศาจอย่างงั้นรึ?แปลกมาก,น่ากลัวมาก,ร่างกาจที่ซวนเซเหมือนกับคนอดหลับอดนอนมาหลายสิบคืน,นี่จะยังนับว่าเป็นคนอยู่อีกรึ?

"นี่คงจะเป็นหนึ่งในวิชามาร?"หนี่ปู่ซ่าที่อดไม่ได้ที่ได้แต่ถอนหายใจออกมา.

วิชามาร?ด้วยการฝึกวิชาดังกล่าวทำให้มีรูปร่างออกมาเช่นนี้นะรึ?

ทว่าเทียนซวินจื่อเวลานี้กำหมัดแน่น,ร่างกายราวกับสั่นสะท้าน,ดวงตาจ้องเขม็งไปยังร่างของคนที่เหมือนปิศาจนั่น.

จงซานที่ถอนหายใจยาว,นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นรูปร่างของคนที่ไม่ต่างจากปิศาจ.

ทว่า,ในเวลาเดียวกัน,ร่างของปิศาจนั่นก็ขยับเล็กน้อย.

"วูซซ."

จงซานถึงกับต้องขยี้ตาไปมา,ใบหน้าไม่อยากเชื่อแม้แต่น้อย,ร่างของปิศาจนั้น,ปรากฏอีกร่างแยกออกมามาจากด้านหลัง,เป็นร่างที่เหมือนกับร่างแรก,มีปิศาจสองตนอย่างงั้นรึ?

จงซานที่จ้องเขม็ง,เพราะว่าจงซานพบว่าร่างที่สองมีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับร่างแรกอย่างแน่นอน,และยังสวมผ้าคลุมเหมือนกันอีกด้วย,ท่าทางใบหน้าทุกอย่างเหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน.

เป็นไปได้อย่างไร?จงซานที่ขยี้ตาไปมาอีกครั้ง,ปรากฏร่างที่สาม,ที่เหมือนกับร่างแรก,จงซานแทบตั้งสติไม่ได้,ตกใจกับร่างปิศาจที่เพิ่มขึ้นมา.

ร่างกาจของพวกมัน,ที่เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ,จากสองไปสาม,เพิ่มเรื่อยๆจนมีปิศาจอยู่หลายร้อยตน,ร่างหลายร้อยตนนั้นดูเหมือนกันมากๆ,เป็นเรื่องที่ประหลาดมากๆ,เกิดจากคนๆเดียวอย่างงั้นรึ?

"นี่มัน,คนกลุ่มนี้ดูเหมือนกันขนาดนั้นเลยรึ?"จงซานที่แสดงท่าทางประหลาดใจเป็นอย่างมาก.

"ไม่,ทั้งกลุ่มนี่,เป็นเพียงแค่คนๆเดียว."หนีปู่ซาที่ตอบคำถาม.

ภายในค่ายกลที่พวกเขายืนอยู่,ไม่มีเสียงเล็ดรอดออกไปด้านนอกอย่างแน่นอน.

"คนเดียว?เป็นไปได้อย่างไรที่จะมีแค่เพียงคนเดียว?"จงซานที่ดวงตาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ.

"คนเดียว,ทว่านี่คือวิชามาร,คนเหล่านั้นคือร่างจำแลง,ของวิชาหมื่นเงาสวรรค์,เป็นวิชามารที่ผิดปรกติ."หนี่ปู่ซาที่แค่นเสียงอยางเย็นชา.

เทียนซวินจื่อที่ไม่ได้กล่าวสิ่งใด,ดวงตาของเขายังคงจ้องเขม็งไปยังด้านหน้า.

สายาตาของมารร้าย,ที่จ้องมองอย่างเย็นชาไปยังค่ายกล,ที่ด้านหลังที่มีอีก 99 ร่าง พร้อมใจกันพุ่งตรงเข้าไปในค่ายกลสำนักไท่ตาน.

จงซานที่จับจ้องมองออกไป,ร่างแยก 99 ร่าง,ที่พุ่งตรงเข้าไปในค่ายกลคุ้มสำนัก,ร่างของพวกมันที่กลายเป็นซีดจาง,จากนั้นดูเหมือนว่าจะกลายเป็นควันสีเขียวแล้วหายไปในพริบตา.

"ทะลวงค่ายกลอย่างงั้นรึ?"หนี่ปูซาอุทานออกมา.

เป็นร่างปิศาจที่แปลกประหลาดมาก,หลังจากที่แยกร่างออกมา 99 ร่าง,คาดไม่ถึงเลยว่า 99 ร่างนั่นจะสามารถทะลวงผ่านเข้าไปในค่ายกลได้,ง่ายดายมาก,สามารถที่จะผ่านเข้าไป,ราวกับว่าไม่มีค่ายกลอยู่.

"ใช่,เป็นมัน,เป็นมันแน่นอน,ในวันนั้นไม่มีร่องรอยการบุกรุกเข้ามาในสำนักไคหยางเลย,เป็นมันแน่."ใบหน้าของเทียนซวินจื่อที่เปลี่ยนเป็นสีแดง,ร่างกายที่สั่นสะท้าน,เส้นโลหิตที่ปูดบวมไปทั่วร่าง.

ได้ยินคำพูดของเทียนซวินจื่อที่กล่าวออกมา,ทำให้ดวงตาของหนี่ปูซาเปลี่ยนเป็นเย็นชา,ก่อนที่จะสะบัดมือ,ปรากฏเป็นเงาเข็มทิศขึ้นมา,แววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวจ้องมองไปยังร่างต้นที่อยู่นอกค่ายกล,ดูเหมือนว่าเขากำลังจะลงมือแล้ว.

ฝ่ามือหนึ่งที่ยกขึ้นมาขวางหนี่ปูซาไว้.

หนีปู่ซาที่จ้องมองออกไปด้วยความโกรธ,หัวหน้าไปมองเทียนซวินจื่อที่ขวางทางเขาเอาไว้,แม้ว่าสายตาของเทียนซวินจื่อจะแดงซานเต็มไปด้วยจิตสังหารที่รุนแรง,ทว่าเขาก็ยังห้ามหนีปู่ซาเอาไว้.

หนีปู่ซาที่ยังคงรอเทียนซวินจื่อ,ทว่าเทียนซวินจื่อก็ยังไม่ลงมือ.

"ทำไม?"หนี่ปู่ซาแค่นเสียงออกมาด้วยความโกรธ.

"ช้าก่อน,ข้าจะกำจัดพวกมันทั้งตระกูล."เทียนซวินจื่อที่ยังคงอดทนแม้ว่าจะเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว.

กำจัดพวกมันทั้งตระกูล?จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา,เทียนซวินจื่อนับว่าเป็นคนที่แค้นลึกมาก.

หนีปู่ซาที่เดิมทีกำลังโกรธเกรี้ยวเมื่อได้ยินคำพูดของเทียนซวินจื่อ,เขาที่ต้องการลงมือทำลายแผนการของอสูรตนนั้น,ดูเหมือนว่าเขาจะเห็นด้วยในทันที,เทียนซวินจื่อที่รอคอยให้เจ้าปิศาจนี้เผยข้อมูลออกมาให้มากกว่านี้,เพื่อที่จะล้างแค้นให้กับอู๋โหยวมากที่สุด.

เทียนซวินจื่อที่กักเก็บความโกรธเอาไว้,หนีปู่ซาเองก็เช่นกัน,กำลังจ้องมองลงไป.

นับตั้งแต่เห็นเจ้าปิศาจนั่น,จงซานก็รับรู้ได้ถึงความผิดปกติ,โดยเฉพาะอย่างยิ่งร่างแยกทั้งหนึ่งร้อยนั่น,ในเวลานี้,จงซานที่รู้สึกเข้าใจได้มากขึ้น,ก่อนหน้านี้อาจารย์ได้ทำการบันทึกข้อมูลด้วยหยก,บันทึกเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากที่ไกลออกมา,เพื่อรอคอยตรวจสอบข้อมูลของฝ่ายตรงข้ามอย่างระเอียดนั่นเอง.

ร่างปิศาจที่จ้องมองไปยังค่ายกลอยู่,ทันใดนั้นก็ขมวดคิ้วไปมา,ดูเหมือนว่าร่างแยกปิศาจของพวกมันจะยึดครองพื้นที่ได้แล้ว,ตอนนี้มันได้ส่งเสียงร้องเตือนออกมา.

ร่างปิศาจที่จ้องมองออกไป,ยังทิศทางที่ไกลออกไปด้านหลังซึ่งปรากฏอสรพิษสีดำโผล่ออกมา.

ด้วยการสะบัดนิ้วออกไป,อสรพิษสีดำที่อยู่ไกลออกไปนั้นก็ระเบิดออก,ดูเหมือนว่าจะเป็นหนึ่งในอาคมของมัน,จากนั้นเจ้าปิศาจก็หันกับไปมองค่ายกลอีกครั้ง.

ในเวลาเดียวกันนั้น,ที่ไกลออกไป,บนท้องฟ้า,ก็มีร่างสี่ร่างที่บินออกมาในทันที.

คนทั้งสี่สวมชุดสีดำ,ดูเหมือนว่าเหล่าปิศาจร้ายจะให้ความเคารพกับคนเหล่านี้เป็นอย่างมาก.

"สำนักโหยวหยิง?"

ได้ยินคำพูดของเทียนซวินจื่อ,ที่กล่าวออกมา,สายตาของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยความเย็นชา,ปลดปล่อยจิตสังหารที่รุนแรงออกมา.

ได้ยินคำพูดของเทียนซวินจื่อ,จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา,สำนักโหยวหยิง? ดูเหมือนว่าจะเป็นหนึ่งในห้าสำนักเซียนขนาดใหญ่?

บนเกาะหมาป่าสวรรค์นี้มีสำนักซ่างเซียนขนาดใหญ่ห้าแห่ง,กล่าวได้ว่ายกเว้นสำนักไท่ตานและสำนักโหยวหยิง,และอีกสองสำนัก,หนึ่งคือสำนักบุตรอกตัญญูจงซือจิวและอีกหนึ่งคือบุตรจงซานของเขา,ซึ่งรวมกับไคหยางก็ครบห้าสำนักใหญ่พอดี.

เกี่ยวกับข้อมูลที่ได้จากหนานป่าเทียนนั้น,สำนักโหยวหยิงนั้นเพิ่งปรากฏขึ้นมาเมื่อพันปีที่แล้ว,หลังจากประมุขรุ่นแรกลงจากตำแหน่ง,ประมุขคนที่สองก็ที่เข้ารับตำแหน่งเพิ่งผ่านมาแค่รุ่นเดียว,แม้ว่าสำนักโหยวหยิงจะมีประวัติไม่นาน,ทว่าก็มีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว,เพียงแค่พันปี,ก็กลายเป็นสำนักซ่างเซียนได้แล้ว,นอกจากนี้ต้นกำเนิดยังน่าเหลือชื่อ,พวกเขาที่ได้ยึดครองสำนักครรลองปิศาจมา.

เทียนซวินจื่อที่ค่อยๆหลับตาช้าๆ,ไม่มองไปยังเจ้าปิศาจ,เขาที่สูดหายใจลึก,ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความจริงจัง.

หนีปู่ซาที่จ้องมองไปยังเทียนซวินจื่อ,ตอนแรกที่ค่อนข้างโกรธเกรี้ยวตอนนี้กลับมาเป็นปกติแล้ว,ก่อนที่ทั้งสองเวลานี้เริ่มโกรธเกรี้ยวมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม,เป็นความขุ่นเคืองจนน่าหวาดกลัว.

"อาจารย์."จงซานที่จ้องมองไปยังเทียนซวินจื่อด้วยท่าทางกังวล.

อย่างไรก็ตามหลังจากนั้น,เทียนซวินจื่อก็ลืมตาขึ้นมาช้าๆ,เผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล,ความโกรธก่อนหน้านี้หายไปด้วยเช่นกัน.

"ไม่จำเป็นต้องกังวล."เทียนซวินจื่อที่กล่าวปลอบจงซาน.

เห็นท่าทางของอาจารย์ที่ดูสงบเงียบ,ภายในใจของจงซานไม่ได้ผ่อนคลายแต่อย่างใด,แต่กลับเป็นเต็มไปด้วยความกระวนกระวายใจ,พร้อมกับจ้องมองไปยังเทียนซวินจื่อและกล่าวว่า."อาจารย์,ท่านวางแผนที่จะกำจักสำนักโหยวหยินด้วยอย่างงั้นรึ?"

ได้ยินคำพูดของจงซานแล้วดวงตาของเทียนซวินจื่อเปล่งประกาย,ประกายแสงจิตสังหารที่ระเบิดออกมา,ความโกรธเกรี้ยวที่ลุกโชน,จนทำให้อากาศรอบๆเย็นลงในทันที.

สายตาที่จงซานจับจ้อง,ทว่าก็ไม่ได้รู้สึกหวั่นเกรงแต่อย่างใด.

เทียนซวินจื่อที่สูดหายใจลึก,ก่อนที่จะกลับมาเป็นปรกติ,พร้อมกับกล่าวต่อจงซานว่า"เอาล่ะ,เจ้าคอยดูอยู่ที่นี่,ข้าจะกำจัดเจ้าปิศาจนั่น,และข้าจะกำจัดคนทั้งสำนักโหยวหยินด้วย,ที่จริงเจ้าปิศาจนั่นก็คือประมุขคนใหม่ของสำนักโหยวหยิง,หยิงอู๋เซี่ย,..."

แม้ว่าเทียนซวินจื่อจะเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว,ทว่าจงซานกลับสามารถมองเห็นได้ว่ามันแฝงไปด้วยความเศร้าที่ไม่มีสิ้นสุดอยู่ด้วย.

เห็นท่าทางของอาจารย์แล้ว,จงซานรู้สึกเป็นกังวลเป็นอย่างมาก,เพราะว่าจงซานรับรู้ความรู้สึกนี้ดี,ยิ่งสองปีมานี้เขาที่ต้องเกี่ยวข้องกับความเป็นความตายมานับครั้งไม่ถ้วน,ทำให้รู้สึกเป็นกังวลกับการต่อสู้ของอาจารย์เป็นอย่างมาก.

"อาจารย์,เมื่อท่านเดินทางไปถล่มสำนักโหยวหยิง,ขอให้อาจารย์นำศิษย์ไปด้วย."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

เทียนซวินจื่อที่จ้องมองไปยังจงซาน,แม้จะตระหนักได้ถึงความปรารถนาดีของจงซาน,ทว่าเขาก็ส่ายหน้าไปมา,"พลังฝึกตนของเจ้าน้อยเกินไป.

"ไม่,อาจารย์,สามปีมานี้,ศิษย์ได้ก้าวไปถึงระดับเก้าเซียนเทียนแล้ว,หากว่ามีอันตรายเกิดขึ้น,ศิษย์สามารถอัญเชิญหมาป่าระดับแกนทองออกมาได้,ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถต้านได้,ทว่าก็สามารถหนีได้."จงซานที่กล่าวอย่างมั่นคง.

เทียนซวินจื่อที่จ้องมองไปยังจงซาน,แววตาของเขาที่ได้แต่ถอนหายใจ,แต่ก็รู้สึกอบอุ่นในใจเช่นกัน.

"ได้,เมื่อถึงเวลาข้าจะนำเจ้าไปด้วย."เทียนซวินจื่อที่ถอนหายใจยาว.


"ครับ."จงซานที่พยักหน้าตอบรับ,แม้ว่าจะรู้ดีว่าอันตราย,ทว่าจงซานก็ได้เลือกแล้ว,ถึงเขาจะมีประโยชน์ไม่มากนัก,ทว่าเขาก็ต้องการทำเพื่ออาจารย์,เพื่อบิดาของเทียนหลิงเอ๋อ,เทียนซวินจื่อ.

ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น