วันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2561

Immortality Chapter 141 Eternal Pill Book

Immortality Chapter 141 Eternal Pill Book

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 141   ตำรายานิรันดร.


บทที่ 141   ตำรายานิรันดร.

Chapter 141 Eternal Pill Book
万古丹卷
  ตำรายานิรันดร.
ระดับพลังฝึกตน
เขตแดนมนุษย์
Ø -โหวเทียน
เขตแดนเซียน
Ø -เซียนเทียน
Ø -แกนทอง
Ø -ก่อตั้งวิญญาณ.
Ø -หลอมกายธาตุ


เป่าเอ๋อที่ก้าวออกมาจากประตูกระท่อม,พร้อมกับสะบัดมือเก็บธวัชขนาดเล็กกลับคืน.

ที่ด้านนอกกระท่อมนั้นม่านแสงสีแดงก็ค่อยๆจางหายไปอย่างรวดเร็ว.



เป่าเอ๋อปาดน้ำตา,ก่อนที่จะก้าวออกมา.

ใบน้าของสามอาวุโสที่เต็มไปด้วยความกังวลจดจ้องไปยังเป่าเอ๋อ.

"อาจารย์ให้พวกท่านเข้าไปด้านใน."เป่าเอ๋อที่กล่าวออกมาทันที.

เหล่าอาวุโสชราพยักหน้าให้,แต่ละคนหน้านิ่วคิ้วขมวดทีเดียว.

พวกเขาทันทีที่เข้ามา,คนทั้งสามที่เข้าล้อมรอบอาจารย์ของเป่าเอ๋ออย่างรวดเร็ว.

"ท่านประมุข."คนทั้งสามเอ่ยออกมา.

"อาวุโสทั้งสาม,ข้าคงจะต้องลาจากไปแล้ว."หญิงชราที่นอนบนเตียงกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มที่นุ่มนวล.

อาวุโสชราทั้งสามที่ขมวดคิ้วไปมา,บนใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลอย่างชัดเจน.

"เฮ้,เฮ้,ที่ข้าขอให้พวกท่านมาพบในวันนี้,ข้าเพียงแต่ต้องการให้พวกเจ้ามาเป็นพยาน."หญิงชราบนเตียงกล่าวออกมา.

สามอาวุโสที่ตระหนักได้ถึงบางสิ่ง,แต่ละคนที่สูดหายใจยาว,เกี่ยวกับคำพูดของท่านประมุข,พวกเขาสามารถคาดเดาได้อย่างแน่นอน,ทุกคนต่างก็เต็มไปด้วยความจริงจัง.

"เป่าเอ๋อ,คุกเข่า."หญิงชรากล่าว.

"อาจารย์."น้ำตาของเป่าเอ๋อที่ไหลออกมา,คุกเข่าลงด้านหน้าของหญิงชรา.

หญิงชราที่แสดงใบหน้าท่าทางจริงจัง,จ้องมองไปยังเป่าเอ๋ออย่างอ่อนโยน,มือของนางที่ยื่นออกไปประทับที่หน้าผากนาง,กดนิ้วออกไปเบาๆ,ปรากฏเป็นรูปหนังสือสัมฤทธิ์,ตำราเล่มหนึ่งที่ส่องประกายแสงออกมาเรื่อๆออกไป,ดูเหมือนว่าจะมีขนาดเท่ากับนิ้วโป้งมือ.

ทันทีที่ตำราสัมฤทธิ์ถูกส่งออกไป,ผมของหญิงชราถึงกับเปลี่ยนเป็นสีขาว,ร่างกายที่เหี่ยวย่นมากขึ้น,จนดูน่ากลัว.

อาวุโสทั้งสาม,ตอนนี้ต่างก็จ้องเขม็งไปยังประกายแสงรูปตำราสัมฤทธิ์,แววตาของพวกเขาต่างก็เต็มไปด้วยความคาดหวัง.

หญิงชราที่จ้องมองไปยังเป่าเอ๋อกล่าวออกมาด้วยความยากลำบาก,"สำนักไท่ตานนั้นมีสมบัติวิเศษล้ำค่าสองอย่าง,หนึ่งคือเตาจักรวาลในตำนาน.และอีกหนึ่งคือตำรายานิรันดร, ซึ่งเป็นของวิเศษโครงสร้างของสำนัก,ทั้งเตาจักรวาลและตำรายานิรันดร.ต่างก็เป็นสมบัติตกทอด,ที่ส่งต่อให้กับประมุขสำนักไท่ตาน,วันนี้เจ้าจะได้รับสืบทอดเป็นประมุขสำนักไท่ตานคนที่ 72 แทนข้า,เชวียนเป่าเอ๋อ,นับจากวันนี้เจ้าคือประมุขไท่ตานรุ่นที่ 72 ,นับจากนี้อาวุโสทั้งสามพวกเจ้าต้องช่วยเหลือสนับสนุนประมุขคนใหม่อย่างเต็มที่,หากศิษย์คนในไม่ช่วยเหลือและเกียจคร้านฝึกฝน,พวกเจ้าสามารถที่จะขับไล่ออกจากสำนักได้ในทันที."

"รับทราบ."อาวุโสทั้งสามที่ตอบรับในทันที.

หลังจากที่มอบตำรายานิรันทร์ผ่านให้ที่หน้าผากของเป่าเอ๋อแล้ว,หญิงชราก็ถอนมือกลับ.

"อาจารย์."เป่าเอ๋อจับมือของหญิงชราไว้แน่นพร้อมกับสะอึกสะอื้น.

ยิ่งเวลาผ่านไป,ใบหน้าของหญิงชราก็ยิ่งเหี่ยวย่นมากขึ้น,ใบหน้าที่ซีดขาวขึ้นเรื่อยๆ,แม้แต่แสดงอาการเจ็บป่วยใกล้ตายออกมามากขึ้น.

หญิงชราที่จ้องมองด้วยความเอ็นดูไปยังเป่าเอ๋อ,ก่อนที่จะหันหน้าไปมองอาวุโสทั้งสามเอ่ยปากออกมาว่า,"เหย้ายวี,เหย้าเฉิน,เหย้าลู่."

อาวุโสทั้งสามที่เพ่งพิศ,เพราะว่าคาดไม่ถึงเลยว่าอดีตประมุขจะเรียกชื่อพวกเขา,ทั้งที่ก่อนหน้าเคยเรียกแต่อาวุโส.

"ครับ/ค่ะ"อาวุโสทั้งสามที่ตอบรับในทันที.

"อาวุโสของข้า,พวกเจ้าตอนนี้ก็คืออาวุโสของเป่าเอ๋อ,เป่าเอ๋อมีคุณสมบัติเพียงพอ,พวกเจ้าน่าจะรับรู้ได้ดี,และนางก็เป็นคนเดียวเท่านั้นที่สามารถรับสิ่งตกทอดตำรายานิรันดร์ได้,เป่าเอ๋อเติบโตพอแล้ว,เกี่ยวกับผลประโยชน์ที่ควรได้รับ,ตามธรรมเนียมจะเป็นประมุขจะเป็นคนตัดสินใจทั้งหมด,ข้ามีพลังฝึกตนแค่ระดับก่อตั้งวิญญาณ,จึงไม่สามารถช่วยเพิ่มพลังฝึกตนของพวกเจ้า,ทำให้พวกเจ้าไม่สามารถก้าวไปถึงระดับหลอมกายธาตุได้สักที,ทว่า,เป่าเอ๋อนั้นแตกต่าง,นางมีพรสวรรค์ที่มากยิ่งกว่าข้า,นางจะต้องเหนือกว่าข้าได้อย่างแน่นอน,ชะตะกรรมของพวกเจ้าไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลวก็อยู่กับเป่าเอ๋อแล้ว."หญิงชราที่ดวงตาแทบปิดแล้วจ้องมองไปยังอาวุโสทั้งสาม.

ได้ยินคำพูดของหญิงชราสามอาวุโสที่หันหน้าไปมองเป่าเอ๋อทันที,ก่อนที่จะตอบรับอย่างจริงจัง."ครับ/ค่ะ"

"เป่าเอ๋อ."หญิงชราที่จ้องมองไปยังเป่าเอ๋ออีกครั้ง.

"อาจารย์."น้ำตาของเป่าเอ๋อที่ยังคงไหลออกมา.

มือขวาของหญิงชราที่ยื่นออกไปอย่างยากลำบากเช็ดน้ำตาให้กับเป่าเอ๋อ,นางเผยยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน,"เป่าเอ๋อ,เพื่อที่จะเป็นอาจารย์ของจ้า,ข้าได้ใช้เม็ดยากักวิญญาณหนึ่งร้อยปีเพื่อเป็นอาจารย์ของเจ้า,แม้ว่าร่างเนื้อจะไม่เจริญเติบโต,ทว่าก็มีเม็ดยาเทวะที่หลงเหลือสะสมในร่างกาย,หลังจากที่ข้าจากไปแล้ว,นำร่างเนื้อของข้าไปชำระล้างด้วยหม้อเพลิงปรุงยาแปดหู,เพื่อป้องกันอสูรเทวะเข้ามาสิงร่าง,ก่อนที่จะนำเถ้ากระดูกของเข้าไปเก็บในสุสานบรรพชน."

จากนั้นมือของหญิงชราที่อ่อนแรงลงเรื่อยๆ,ก่อนที่มันจะไม่ขยับ,ใบหน้าของหญิงชราที่มีแสงสีเงินอ่อนๆปกคลุมไปทั่วใบหน้า.

"อาจารย์!"

เป่าเอ๋อที่ร้องครวญครางโหยหวน,ทว่า,อาจารย์ของนางในเวลานี้ไม่ฟื้นกลับมาแล้ว.

เป่าเอ๋อที่กอดร่างของหญิงชราร้องให้กว่าสองชั่วโมง,ก่อนที่อาวุโสทั้งสามจะถอนหายใจออกมาช้าๆ,อาวุโสหญิงที่กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล,"ท่านประมุข,ประมุขชราได้จากไปแล้ว,พวกเราควรจะทำตามคำสั่งเสียของท่าน,ด้วยการเผาร่างของนางให้มอดไหม้สลายไปโดยเร็ว,เพื่อไม่ให้อสูรสวรรค์เข้ามาสิ่งร่างของท่านได้."

เป่าเอ๋อที่ไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา,ทว่ายังคงสะอึกสะอื้นอยู่,หลังจากร้องไห้มาเป็นเวลานี้,ก่อนที่จะค่อยๆเบาเสียงลง,พร้อมนำศพอาจารย์ออกจากกระท่อมแห่งนี้ไป,นำร่างของอาจารย์ใส่เข้าไปในหม้อปรุงยาขนาดใหญ่อันหนึ่ง.

หลังจากติดเตาเผาอาจารย์,เป่าเอ๋อก็ยังคงมีน้ำตาไหลอออกมา,แม้ว่าหลายสิบปีมานี้นางไม่เคยอนุญาตให้นางออกไปใหนเลย,ทว่าเป่าเอ๋อก็รู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก,เป่าเอ๋อที่ได้รับการดูแลเหมือนกับมารดาดูแลบุตร,ด้วยความอบอุ่นนั่น,ทำให้ภายในใจของนางเต็มไปด้วยความเศร้า.

นางที่คุกเขาอยู่ด้านหน้าเตาเผาขนาดใหญ่,พร้อมกับควบคุมเปลวเพลิงให้เผาไหม้ร่างของอาจารย์พร้อมกับอาวุโสทั้งสาม,ตลอดจนคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต,ภายในใจเต็มไปด้วยความเศร้า.

หลังจากผ่านไปสองชั่วโมงเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นสมบูรณ์อาวุโสทั้งสามก็มายืนอยู่ข้างๆเป่าเอ๋อ.

"ท่านประมุข."อาวุโสทั้งสามเอ่ยออกมา.

เป่าเอ๋อที่ปาดน้ำตาจ้องมองไปยังอาวุโสทั้งสาม,รู้สึกเจ็บปวดเมื่อมองเห็นเตาผาด้านหน้า,ก่อนที่จะเริ่มเก็บเถ้ากระดูกใส่ลงในโถอัฐิขนาดเล็ก,นางที่จ้องมองโถกระดูก,ซึ่งเปี่ยมไปด้วยความทรงจำมากมายนับไม่ถ้วน.

"อาวุโสเหย้ายวี."เป่าเอ๋อที่กล่าวออกมากับอาวุโสคนหนึ่ง.

"ท่านประมุข."อาวุโสคนดังกล่าวก้าวออกมาในทันที.

"เตาเผานี้ใช้เผ่าร่างอาจารย์ข้า,ไม่ควรที่จะนำมาใช้งานอีกต่อไป,ทำลายมันซะ."เป่าเอ๋อที่กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล.

กับคำพูดที่เป่าเอ๋อกล่าวออกมานั้นทำให้สามอาวุโสหัวใจบีบรัดเลยทีเดียว,เตาเผ่าปรุงยาแปดหูนั้น,เป็นเตาปรุงยาระดับห้าเลยทีเดียว,กับสมบัติที่ล้ำค่า,ประมุขคนใหม่กับสั่งให้ทำลายมันอย่างงั้นรึ? นอกจากนี้เหตุผล ที่ต้องทำลายมันเพราะว่าใช้เผาร่างของประมุขคนก่อนเท่านั้น?

อย่างไรก็ดี,ด้วยจิตใจที่แน่วแน่อาวุโสทั้งสามก็เห็นด้วย,การกระทำของประมุขคนใหม่นั้น,แม้ว่านางจะเป็นคนที่อ่อนโยน,ดูสดใสราวนุ่มนวล,ทว่าหากเป็นต่อหน้าศัตรูของนางแล้วก็ไม่มีปราณีเลยแม้แต่น้อย,เหมือนกับประมุขชรา,ถึงแม้ว่าจะเป็นสตรี,ก็พร้อมที่จะต่อต้านสำนักขนาดใหญ่.

"ทราบแล้ว."อาวุโสเหย้ายวีที่ตอบรับในทันที.

"ท่านประมุข,พวกเรามีแผนการอย่างไรในเวลานี้?"อาวุโสอีกคนที่กล่าวออกมาในทันที.

"เตรียมตัวให้พร้อม,บ่ายนี้พวกเราจะออกจากทวีปศักดิ์สิทธิ์,เดินทางไปยังเกาะหมาป่าสวรรค์,กลับสำนัก,นำอัฐิอาจารย์กลับสุสานบรรพชน "เป่าเอ๋อกล่าว.

"รับทราบ."อาวุโสทั้งสามที่รับคำสั่งในทันที.

เป่าเอ๋อถือโถอัฐิอยู่ในมือก่อนที่จะเดินกลับเข้ากระท่อม,เตรียมจัดเก็บสิ่งของ,นางที่จ้องมองไปยังโถอัฐิ,หัวใจก็สั่นไหว,ก่อนที่จะเก็บเข้าไปในกำไลเก็บของ,มีสิ่งของมากมายที่อาจารย์ได้ทิ้งเอาไว้ให้,นางที่สูดหายใจเข้าลึกๆ,แววตาที่เต็มไปด้วยความเศร้า,มียาเม็ดมากมายที่อาจารย์ของนางทิ้งเอาไว้.

นางที่สำรวจสิ่งของอื่นๆช้าๆในกำไลเก็บของ,ก่อนที่จะมองเห็นช่อดอกไม้ที่เหี่ยวแห้งไปนานแล้ว,บนใบหน้าของนางก็เผยยิ้มบางๆที่หายากออกมา.

นางที่นำมันออกมา,จ้องมองดอกไม้แห้ง,จ้องมองอยู่นานแสนนาน,คิดอะไรมากมายอยู่ในใจ"เหล่าเยว่,เป่าเอ๋อกำลังจะกลับไปแล้ว,ท่านคงจะมีอายุ 87 ปีแล้ว,จะยังรอเป่าเอ๋ออยู่หรือไม่,เป่าเอ๋อกำลังกลับไป,ท่านต้องมีชีวิตอยู่,ต้องมี,ต้องอยู่..."
 ...
บนยอดเขาทางทิศเหนือของเมืองเสวียน,ราชวงศ์ต้าเจิ้ง,ในเวลานี้ชายในชุดดำคนหนึ่งสวมหมวกไม้ไผ่จ้องมองไปยังเมืองหลวงของเมืองเสวียน.

บนยอดเขาแห่งนี้,ชายในชุดดำที่ถอนหายใจออกมาเบาๆ.

"ฟู่อี้,ซือจิวกำลังจะไปทวีปศักดิ์สิทธิ์แล้ว,บุตรอกตัญญูผู้นี้คงต้องไปแล้ว,ราชวงศ์ต้าเจิ้ง,ฮึ ฮึ,ราชวงศ์ต้าเจิ้ง."ชายในชุดดำที่บนพึมพำ,ใบหน้าท่าทางที่เต็มไปด้วยความอับอาย,มีอารมณ์ที่มืดมน.

ขณะที่ชายในชุดดำกำลังบ่นพึมพำกับตัวเองอยู่นั้น,ที่ขอบฟ้าก็มีคนที่อยู่บนกระบี่เหินปรากฏตัวขึ้นมา.เป็นชายชราผมขาว.

"ไปได้แล้ว."ชายชรากล่าว.

"ครับ,อาจารย์"ชายในชุดดำพยักหน้า,ก่อนที่จะก้าวขึ้นกระบี่เหิน.

ชายชรา,ที่ควบคุมกระบี่เหินนำชายชุดดำตรงไปยังทิศตะวันตกเฉียงเหนืออย่างรวดเร็ว.
 .....
เกาะหมาป่าสวรรค์,บนจุดสิ้นสุดของแนวเขา,มียอดเขาสูงลูกหนึ่ง.

บนยอดเขานั้น,ในเวลานี้มีคนสามคน,จงซาน,เทียนซวินจื่อและหนี่ปูซา.

คนทั้งสามที่ยืนอยู่บนศิลายักษ์ก้อนหนึ่ง,บนศิลายักษ์นั้นถูกสลักด้วยอักขระสีทองและสีดำมากมาย,มีอักษรรูนที่แปลกประหลาด,ที่ส่องประกายแสงวับวาว,และบางตัวก็เริ่มหมองลงและเริ่มจางหายไปทีละตัวๆ.

"อาวุโส,ท่านลบอักษรรูนเหล่านี้ออกไป,พวกเขาจะมองไม่เห็นพวกเราอย่างงั้นรึ?"จงซานที่สอบถามออกไปด้วยความสงสัย.

"ที่พวกเราอยู่,คือเส้นโลหิตมังกร,เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นโลหิตมังกร,ทว่าสำหรับเจ้า,มีกลิ่นอายจักรพรรดิมนุษย์,อาจจะเรียกได้ว่าเป็นกลิ่นอายมังกรได้,ทำให้ข้าสามารถนำกลิ่นอายมังกรนั่นมาใช้และด้วยการใช้กลิ่นอายมังกรนั่นแทนสัญลักษณ์,จึงทำให้สามารถแทรกเข้ามาภายในค่ายกลได้,ด้วยการใช้ประโยชน์จากกลิ่นอายมังกรสามารถผสานเข้ากับสรรพสิ่ง,คนภายนอกนั้นไม่สามารถมองเห็นสัญลักษณ์ภายในได้,และไม่สามารถสัมผัสได้ด้วย."หนี่ปูซากล่าว.

"ไม่สามารถสัมผัสกลิ่นอายได้อย่างงั้นรึ?"เทียนซวินจื่อที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.

"เจ้าไม่เชื่อก็ลองดู."หนี่ปู่ซากล่าวออกมา.

เทียนซวินจื่อที่บินออกไปด้านนอก,ก่อนที่จะจ้องมองไปยังตำแหน่งของจงซาน,จ้องมองออกไปด้วยท่าทางสนใจเป็นอย่างยิ่ง,ก่อนที่จะนำหยกบันทึกภาพ,จากนั้นก็บินกลับไปยังตำแหน่งเดิม.

"อาจารย์,มองไม่เห็นจริงๆรึ?"จงซานที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.

หนี่ปู่ซาที่ส่ายหน้าเย้ยหยัน,เขาแสดงความมั่นใจเป็นอย่างมาก,เทียนซวินจื่อที่นำหยกบันทึกส่งให้กับจงซาน.

"หยกบันทึก,ข้าได้บันทึกเหตุการณ์ที่ด้านนอกเอาไว้,เจ้าลองดู."เทียนซวินจื่อกล่าว.

"ครับ."จงซานที่รับมา,หยกบันทึก,นับว่าเป็นวัตถุที่ใช้บันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้,ซึ่งมีบันทึกเอาไว้ในตำราหายาก.

จงซานที่ใช้แกนแท่แผ่ลงไป,จ้องมองไปยังภาพที่เทียนซวินจื่อที่ได้บันทึกเอาไว้,บนยอดเขาแห่งนี้,ไม่สามารถมองเห็นภาพของใครได้เลย.

ในเวลานี้,จงซานเชื่อแล้วว่า,ผู้เชี่ยวชาญฮวงจุ้ย?เป็นวิชาที่ลึกล้ำจริงๆ.

"เอาล่ะ,ตอนนี้แค่รอเจ้าปิศาจนั่นมาเยือนสำนักไท่ตาน."หนี่ปู่ซาที่กล่าวออกมาในทันที.


"อืม."ทุกคนที่พยักหน้ารับ,ก่อนที่จะนั่งรอคอย,เฝ้ามองจากตำแหน่งดังกล่าวซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก.


ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น