Miracle Throne Chapter 429 Launches the attack
นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 429 เข้าโจมตี
บทที่ 429 เข้าโจมตี
ภายในหุบเขาแห่งนี้,มีอาคารทรงสูงยอดแหลมถูกสร้างตั้งตระหง่านอยู่เป็นจำนวนมาก,ท่ามกลางสิ่งก่อสร้างเหล่านั้นมีแท่นบูชารูปกรวยที่ดูแปลกประหลาด,เป็นเหมือนกับหนามแหลมที่พุ่งลงมาจากท้องฟ้าปักลงไปในพื้นดิน,สร้างขึ้นมาจากศิลาคลิสตัลสีดำ,มีประกายแสงอักขระสีแดงมากมายสลักอยู่.
เหล่าจี่ซือ
ซือหลิงที่สวมชุดคลุมยาวสีเทานั่งขัดสมาธิอยู่บนใจกลางของแท่นบูชา,มือทั้งสองข้างอ้าออกมา,ปากที่บริกรรมคาถา,วงเวทย์อักขระมากมายรอบๆแท่นบูชาปรากฏแสงโชติช่วงสีแดงชาติออกมา,พลังงานที่ทรงพลังผุดขึ้นมาจากใต้พื้นดิน,เป็นพลังที่น่าขนลุกขนพองพร้องหมุนวนไปรอบๆบริเวณ,ก่อนที่จะถูกเก็บเข้าไว้ในหอคอย.
หอคอยหลายร้อยแห่งที่เก็บสะสมพลังงานแห่งความมืดหลายร้อยปีเอาไว้!
จี่ซือ ซือหลิงที่ค่อยๆลดมือของพวกเขาลงช้าๆ,แขนของพวกเขาที่หดตัวลงราวกับกิ่งไม้,ใบหน้าภายในผ้าคลุมหน้าของพวกเขาเองดูเหี่ยวย่นร่วงโรย,สีผิวของพวกเขาเวลานี้เปลี่ยนเป็นสีม่วงขาดความชุ่มชื้นแห้งเข้าติดกับกระดูก,ดวงตาที่ราวกับถลนออกมากลายเป็นสีม่วงเป็นประกายเปลวเพลิงเหมือนผีดิบ.
ไร้ซึ่งปัญหา.
พวกเขากำลังจะไม่ใช่สิ่งมีชีวิตอีกต่อไปแล้ว,ทว่าพวกเขากำลังกลายเป็นอู๋เหยา.
ใบหน้าที่เหี่ยวแห้งของอู๋เหยานั้นไร้ซึ่งความรู้สึก,เป็นความจริงที่พวกเขาไม่สามารถแสดงความรู้สึกอะไรออกมาได้,นี่คือพิธีการที่จะกลายเป็นอู๋เหยา,เมื่อพวกเขาเป็นอู๋เหยาอารมณ์ทั้งหมดของพวกเขานั้นก็ยากที่จะแสดงออกมา,พวกเขาจะลืมเสียงหัวเราะ,ความโกรธ,ความเศร้าและความสุขไปทั้งหมด.
ถึงแม้ว่าจะเป็นชีวิตปกติทั่วไป,
การที่ต้องมีอายุถึง 2000 ปีคงเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่ายไม่น้อย,ซ้ำยังไม่มีสัมผัสทั้งห้าอีก,ไร้ซึ่งความรู้สึกในการสัมผัส,ไร้ซึ่งกลิ่น,ไร้ซึ่งแสงสี,แม้แต่การได้ยินอีกด้วย,ไม่คิดเลยว่าจะยังมีคนต้องการเป็นอู๋เหยาอยู่อีกรึ?
เมื่อถึงเวลาพวกเขาจะไม่สามารถจดจำเรื่องราวในชีวิตได้อีกต่อไปและพวกเขาก็จะกลายเป็นอู๋เหยานับตั้งแต่นั้น,พร้อมกับสูญเสียชาติญาณของสิ่งมีชีวิตไปด้วย.
ทว่าในเวลานี้,พวกเขาที่จำเป็นต้องสร้างอักขระสลักลงไปดวงจิตวิญญาณของพวกเขาด้วย,ซึ่งเป็นพิธีกรรมบางอย่างที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้,เหล่าวสาวกที่ต้องการเป็นอู๋เหยาที่แท้จริงจำเป็นต้องสลักคำสั่งของตัวเองเอาไว้ไม่ต่างจากเครื่องจักร,ไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว,ซึ่งจะเป็นการบ่งบอกว่าพวกเขาจะสามารถกลายเป็นอู๋เหยาได้อย่างแท้จริงหรือไม่.
อายุไขทั่วไปของอู๋เหยาคือ 2000 ปี,ร่องรอยของสิ่งมีชีวิตก็จะหายไปโดยสิ้นเชิง,การกระทำของพวกเขานั้นจะขึ้นกับอักขระคำสั่งที่สลักเอาไว้กับดวงวิญญาณของพวกเขา.
อู๋เหยาที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศอาบแสงดวงจันทร์อยู่,พร้อมกับบริกรรมคาถาที่ลึกลับซับซ้อนออกมา,ปรากฏเป็นอักขระมากมายที่กำลังล่องลอยอยู่บนอากาศ,หมุนวนอยู่รอบๆหอคอยแห่งความตายซึ่งกำลังสั่นสะเทือนเป็นระลอกๆ,เกิดเสียงสายฟ้าที่ดังสนั่น,กลิ่นอายพลังแห่งความมือที่อัดแน่นหมักหมม,ราวกับภูเขาไฟที่รอคอยระยะเวลาปะทุออกมา,ท้ายที่สุดก็พ่นควันสีดำออกมาปกคลุมไปทั่วอากาศที่ว่างเปล่า.
"เต้าเหริน,พลังของซากศพโบราณนั้นน่าสะพรึงกลัวจนเกินไป,นีแหละคือสมบัติที่ล้ำค่าที่จะนำความรุ่งโรจน์มาสู่พวกเรา!"เหล่าจี่ซือ ซือหลิงที่กล่าวกับอู๋เหยาด้วยเสียงโทนต่ำ"ไม่เพียงแต่พวกเราได้สร้างผีดิบมากมายขึ้นมาเท่านั้น,ตราบเท่าที่รวบรวมพลังงานความมืดได้มากมายขนาดนี้,เมื่อมันถูกปล่อยออกไปยังเมืองลวีตีแล้วล่ะก็,เจ้าพวกโนมโง่เง่านั่นจะต้องตายกันไปทั้งหมดในทันที,เมื่อถึงเวลานั้นเมืองลวีตีก็จะกลายเป็นเขตแดนของพวกเรา,จะไม่มีใครสามารถขวางพวกเราเอาไว้ได้อีกแล้ว!"
"เจ้ามนุษย์นั่นจะต้องมาแน่."
อู๋เหยาเริ่มกล่าวออกมา,เสียงดังออกมาแม้ว่าจะไม่ต้องอ้าปากก็ตามที,เพราะว่าอู๋เหยานั้นต่างจากมนุษย์อวัยวะของพวกมันไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้แล้ว,แน่นอนว่าพวกเขายังสามารถทำให้เส้นเสียงในลำคอสั่นเพื่อให้เกิดเสียงได้,เสียงดังกล่าวนั้นได้ผสมไปกับพลังวิญญาณแพร่ผ่านไปในอากาศ,ซึ่งทำให้ดูคล้ายกับคำพูดนั่นเอง,นับว่าเป็นการควบคุมพลังวิญญาณได้อย่างยอดเยี่ยม,ผู้เชี่ยวชาญทั่วไปนั้นแม้ฝึกฝนมาหลายสิบปียังยากที่จะใช้งานได้,ทว่าอู๋เหยาที่มีชีวิตไร้ขีดจำกัด,สามารถที่จะฝีกฝนวิชาดังกล่าวนี้ได้อย่างไร้ซึ่งปัญหา.
เสียงองเขานั้นไม่เหมือนกับเสียงของสิ่งมีชีวิต,เป็นเสียงที่แห้งอู้อี้เหมือนกับเสียงของเครื่องจักรที่หยาบกร้าน,มีความแห้งสากเป็นอย่างมาก,ไม่ได้ดูมีชีวิตชีวาแม้แต่น้อย.
จี่ซือ
ซือหลิงที่แสดงท่าทางเหยียดหยัน"มนุษย์ที่กระจอกนั่นทำไมต้องใส่ใจด้วย?"
ที่จริงอู๋เหยาเองก็ไม่สามารถที่จะอธิบายข้อสงสัยในใจได้ชัดเจนนัก,มนุษย์คนนี้ไม่ธรรมดา,เขาที่มีอายุมา
2000
ปีแล้ว,จึงไม่คิดประมาท"จัดเตรียมการป้องกันกองกำลังของเมืองลวีตีเอาไว้,ในอีก
48 ชั่วดม.,พิธีกรรมของเราจะต้องสำเร็จ,ข้าไม่ต้องการให้มันผิดพลาด."
"ขอรับ!"
อู๋เหยาสำหรับจี่ซือ
ซือหลิงแล้วเขาย่อมมีอำนาจสูงสุด,ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีความสามารถที่จะขัดคำสั่งได้,และย่อมไม่มีผู้ใดกล้าสงสัยในคำสั่งของเขาอีกด้วย.
............
รุ่งอรุณดวงตะวันทอแสง,ทุ่งหญ้าใจกลางเมืองลวีตี,มีกองกำลัง
100,000 ได้จัดตั้งขึ้น.
อาวุโสของเผ่าโนมและต้าจี่ซือเคอลาเคอและยังมีจี่ซือเตอลวอลีซือของเทพสรรพสัตว์,ออ-นวอเตอเผ่ามิโนทอร์,จี่ซือซาแมนหลู่ซือ,และนอกจานี้ยังมีหัวหน้าของเผ่าพื้นเมืองมากันครบครัน.
เพราะว่าสถานการณ์เร่งด่วน,กองกำลังจึงรวมตัวกันอย่างเร่งรีบ,ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ดีมากนัก,แต่อย่างน้อย,กองกำลังจากป่าแห่งความวุ่นวายหากเคลื่อนที่นักรบทั้ง
100,000 ตนนี้ออกไปก็เพียงพอที่จะถล่มอาณาจักรหนานเซี่ยทั้งหมดให้ราบคาบได้เลย.
"พวกเราเตรียมตัวพร้อมแล้ว!"
"รักษาการเจ้าเมืองโปรดสั่งการ!"
สถานการณ์ในเวลานี้ดูจริงจังเป็นอย่างมาก,ทุกคนต่างก็ตระหนักได้ว่า,การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้นั้นเกี่ยวข้องกับการคงอยู่ของเมือง,คนหลายแสนคนทั่วทั้งป่าแถบนี้ล้วนแล้วแต่ส่งผล,สิ่งมีชีวิตทั้งหมดจะต้องตายไป.
พวกเขาจะต้องชนะเท่านั้นไม่สามารถพ่ายแพ้ได้!
ฉู่เทียนพร้อมกับร่างทั้ง 18
ร่างที่เดินออกมา.
ทุกคนที่ชำเลืองมองออกไปเล็กน้อย,ชายคนนี้ไม่ใช่ว่ายังเด็กอยู่อย่างงั้นรึ?แล้วที่ตามหลังเขามาทั้ง
18 ตนนั้นคือใครกัน?แม้ว่าพวกเขาจะมองเห็นรูปร่างไม่ชัดแต่ก็สัมผัสได้ถึงพลังที่แข็งแกร่งราวกับขุนเขาที่สูงใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้า.
นี่คือศพทมิฬโลหิตเทวะที่ได้ทำการสกัดกลั่นมาเป็นเวลานาน,แน่นอนว่าตอนนี้พวกมันได้เกิดใหม่แล้วอย่างสิ้นเชิง!
นับตั้งแต่ผิวกายไปยังกระดูก,ลึกลงไปถึงเลือดเนื้อและไขกระดูก,มันได้ถูกหลอมเปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์,ไม่เพียงแต่มีพลังป้องกันชั้นยอม,ยังมีคุณสมบัติของเทพวิญญาณอย่างครบถ้วน"
ศพทมิฬโลหิตเทวะนั้นไม่ได้อ่อนแอแน่นอน.
น้ำและไฟที่เป็นเหมือนกับธาตุที่เป็นคู่ปรับกัน,พลังสายฟ้าและลำแสงศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นที่หวาดกลังต่อสูรแห่งความมืด,ศพทมิฬโลหิตเทวะนั้นมีความแข็งแกร่งในการต้านธาตุเกือบทุกธาตุ,แม้แต่คงทนต่อการตัด,หรือถูกทำลาย,และยังกล่าวได้ว่าพลังของพวกมันนั้นเป็นพลังที่เหล่าซือหลิงแพ้ทางยากที่จะต้านทาน.
ศพทมิฬโลหิตเทวะนั้นตอนนี้ได้ถูกกำจัดกลิ่นอายแห่งความตายไปหมดแล้ว,พลังที่หล่อเลี่ยงพวกมันในเวลานี้จึงเต็มไปด้วยกลิ่นอายของเทพวิญญาณ,ซึ่งสามารถสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตที่ไร้ที่สิ้นสุด,ไม่ใช่ความแข็งแกร่งที่จะสามารถหาพลังอื่นใดมาเทียบได้,ด้วยกลิ่นอายของพลังที่พิเศษกว่าใครๆจึงทำให้ดูยิ่งใหญ่เหมือนเหล่าช้างศาลจ้องมองมายังมดแมลง.
พลังภูติแท้ระดับ 2!
บางทีอาจจะไม่ใช่ระดับภูติแท้ทั่วๆไปอย่างแน่นอน!
ศพทมิฬโลหิตเทวะที่ยืนตระหง่านไม่ขยับ,ราวกับเป็นรูปปั้นหินที่รอคอยเวลา,พลังที่ล้ำลึก,เคอลาเคอสามารถสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งที่น่ากลัวได้.
"ไม่ต้องแปลกใจ,ทั้ง 18
ร่างนี้ไม่ใช่คน,เป็นเพียงหุ่นเชิด,เป็นผลงานที่ข้าสร้างขึ้นมาแก้เบื่อนะ."ฉู่เทียนที่กล่าวออกอย่างไม่สนใจนัก,ราวกับศพทมิฬทั้ง
18 ตนนี้เป็นงานแก้เบื้อ,ที่สร้างขึ้นมาอย่างอยาบๆเท่านั้น"สถานการณ์ในเวลานี้เร่งด่วนมาก,ข้าจึงต้องใช้พวกมัน,ข้าคิดว่าน่าจะช่วยอะไรได้บ้าง."
ศพทมิฬโลหิตเทวะก็เหมือนกับศพทมิฬทั่วไป
ซึ่งศพทมิฬนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะมีพลังชีวิต.
พวกมันเป็นเหมือนหุ่นเชิดที่สร้างขึ้นมาจากศพพิเศษ,ไม่ได้มีชีวิตแม้แต่น้อย,และไม่ได้มีเอกลักษณ์ของสิ่งมีชีวิตเลย,ไม่มีแม้แต่ดวงวิญญาณ,ดังนั้นจึงสามารถส่งผ่านคลังสินค้าต่างมิติได้,เหมือนกับสินค้าทั่วๆไป.
"เอาล่ะ,เรื่องนี้จะล่าช้าไม่ได้,ต้องรีบจัดการในทันที!"ฉู่เทียนไม่ได้ต้องการที่จะอธิบายเรื่องราวไร้สาระ"พวกผีดิบนั้นจะอ่อนแอเป็นอย่างมากก่อนตะวันตกดิน,พวกเราจะต้องส่งพวกมันกลับคืนสู่ขุมนรกไปตลอดกาล!"
"เยี่ยม!"
"สังหาร!"
"สังหารพวกมันให้หมด!"
ขวัญกำลังใจของทุกคนที่กำลังลุกโชน,ในสงครามในครั้งนี้,ไม่เพียงแต่เพื่อเมืองลวีตี,ยังนำพาซึ่งเกียรติยศมาให้กับฉู่เทียนอีกด้วย,หากว่าฉู่เทียนนำทุกคนชนะการต่อสู้ในครั้งนี้ได้ล่ะก็,แน่นอนว่าเขาจะสามารถรับรองสถานะของตัวเองในเมืองลวีตีแห่งนี้ได้,และจะทำให้เขากลายเป็นเจ้าเมืองอย่างเป็นทางการไม่มีใครกล้าซุบซิบนินทา.
”!”
ในเวลาเช้าตรู่.
กองกำลังของเมืองลวีตี.
ฉู่เทียนที่เล็งเป้าหมายไปที่ตำแหน่งของอู๋เหยา,กองกำลัง
100,00 กำลังเคลื่อนที่ออกจาเมืองลวีตี,มุ่งออกไปด้วยความเร็วไปยังลุ่มน้ำดังกล่าว,กองกำลัง
100,000 นั้นเป็นคนพื้นเมืองที่เกิดในป่าแห่งนี้,การเดินทางข้ามป่าแห่งนี้แทบจะไม่ต่างจากการเดินไปบนพื้นราบ,กองกำลังจำนวนมาก,ที่พุ่งข้ามผ่านป่าด้วยเร็วสูง,ไปยังจุดหมายปลายทาง.
เตอลวอลีซือหันหน้ามาแจ้งฉู่เทียน,"ที่ด้านหน้านั้นเป็นชายป่าแห่งความตายแล้ว!"
ฉู่เทียนพยักหน้า,พร้อมกล่าวออกไปว่า"โปรดระวังเอาไว้ให้มาก."
พลังแห่งความตายในป่าแห่งนี้เป็นป่าที่เต็มไปด้วยมลพิษพลังงานความมืด,ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดก็อุดมเปียกโชกไปด้วยกลิ่นอายความมืด,ไม่สามารถเห็นสัญญาณของสิ่งมีชีวิตแม้แต่น้อย,เหล่าคนพื้นเมืองหลายแสนคนที่ตายอยู่ที่นี่,สถานที่แห่งนี้จึงได้กลายเป็นพื้นที่แห่งความตายไปแล้ว.
จิ้งจอกน้อยที่ร้องเตือนออกมาหลายครั้ง.
"โปรดระวังด้วย,ที่ด้านหน้านั้นมีอสูรผีดิบจำนวนมหาศาล!"
แทบจะในเวลาเดียวกัน,พื้นที่รอบๆนั้นเต็มไปด้วยเสียงขู่ผ่านออกมา,เป็นเสียงคำรามของสัตว์ป่าที่บ้าคลั่ง,ก่อนที่จะมีผีดิบศิลามากมายพุ่งมามืดฟ้ามัวฝน,เหมือนกับแร้งที่โฉบล่าอาหาร.
"ไม่ได้การแล้ว!"
"นี่คือผีดิบศิลา!"
หุ่นเชิดของลัทธิซือหลิงที่จัดการได้อย่างยากลำบาก,และยังมีเหล่าผีดิบศิลาที่เหล่าซือหลิงซูซือควบคุมอยู่,เสียงหวีดหวิวแหวกอากาศของพวกมัน,ดังก้องไปทั่วทั้งป่าเสียงน่าหวาดกลัวทรมาน,พวกมันพุ่งออกมาโจมตีทุกๆคน,เห็นได้ชัดเจนว่ามันเป็นผู้พิทักษ์คุ้มกันสถานที่แห่งนี้นั่นเอง.
หลังจากที่เสียงคำรามกลุ่มแรกยังไม่จบด้วยซ้ำ.
เสียงก้าวเท้าที่หนักหน่วงสั่นสะเทือนพื้นที่รอบๆดังสนั่นหวั่นไหว.
เซิ้งหวู่ห้าตน
ที่นำผีดิบกินศพกว่าหมื่นตัว,กระจายออกไปทั่วทั้งป่า,ราวกับว่าพวกมันได้รอคอยมาเป็นเวลานานแล้ว.
"มารดามันเถอะ!"ออ-นวอเตอที่คำรามเสียงดัง"เจ้าพวกผีดิบมีมากมายขนาดนี้เลยเหรอ!สังหารมันให้หมด!"
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne
#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย
สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP (สถานปัจจุบัน แปลจบ 658 แล้ว)==> Click
-เว็ปฟรี วันละหนึ่งตอน
-กรุ๊ป vip ลงครบทุกลุ่มแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น