วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

Immortality Chapter 123 little wolf reappears

Immortality Chapter 123  little wolf reappears

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 123 หมาป่าน้อยปรากฏตัว.  


บทที่ 123 หมาป่าน้อยปรากฏตัว.  



หนีปูซ่าที่กำลังเอ่อล้นไปด้วยความโกรธที่กำลังพุ่งทะยายขึ้นมาเรื่อยๆ,เหมือนกับสายน้ำก่อนหน้านี้,ใบหน้าที่ดุร้ายน่าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด.

"เทียนซวินจื่อ,เจ้าสารเลว!"หนีปู่ซาที่จ้องมองขึ้นไปบนฟ้าพลางสบถออกมาด้วยความโกรธ.



หลังจากที่คำรามออกมาเสียงดัง,หนีปู่ซาก็ก้าวไปด้านหน้า,ทะยายขึ้นไปบนท้องฟ้า,ไม่ว่าจะเป็นเป่ยชิงซือหรือจงซานราวกับว่าไม่มีตัวตนอยู่,เขาที่พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าหายไปลับตาต่อหน้าพวกเขาในทันที.

จงซานที่จ้องมองไปยังขอบฟ้าที่หนี่ปู่ซาจากไป,พร้อมกับถอนหายใจยาว,คนผู้นี้เป็นใครกัน?จงซานที่เคยเห็นเทียนซวินจื่อเต็มไปด้วยความกังวล,จนต้องส่งจงซานออกมาเป็นตัวแทนเขา,ท่าทางของหนีปู่ซานั้นเต็มไปด้วยความเป็นปฏิปักษ์,หรือว่าเขาไปสังหารคนที่สังหารภรรยาอาจารย์แล้ว.

หนีปู่ซาจากไปแล้ว,จงซานที่หันหน้ากลับไปมองเป่ยชิงซือ,ที่ดูเหมือนว่านางจะหลบตาเขาไม่กล้าที่จะจ้องมองมายังจงซาน.

จงซานที่ถอนหายใจเบาๆ,"เจ้าต้องการจะไปเลยอย่างงันรึ?"

"อืม,ข้าต้องเดินทางไปยังทะเลเหนือในทันที,คงจะไม่กลับสำนักไคหยางแล้ว."เป่ยชิงซือพยักหน้า.

เห็นความตั้งใจของเป่ยชิงซือแล้ว,จงซานก็กล่าวออกมาเบาๆ,"ข้าจะไปส่งเจ้าที่ชายฝั่ง."

"อืม."เป่ยชิงซือที่ตอบกลับอย่างนุ่มนวล.

คนทั้งสองที่เดินทางไปยังทิศเหนือ,ตลอดเส้นทาง,ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา,ห้าวันหลังจากนั้น,ทั้งคู่ก็มาถึงชายฝั่งทะเล,ที่ด้านหน้าห่างออกไปเป็นทะเลที่สุดลูกหูลูกตา,มองไม่เห็นขอบเลยแม้แต่น้อย.

ทั้งคู่ที่หยุดและยืนอยู่บนสายน้ำเส้นหนึ่งที่ไหลออกไปยังทะเล.

จงซานจ้องมองไปยังเป่ยชิงซือ,ทว่าเป่ยชิงซือนั้นไม่กล้าที่จะจ้องมองจงซาน.

"เจ้ารู้จักเส้นทางหรือไม่?"จงซานที่ไม่รู้จะกล่าวอะไรออกมาเช่นกัน.
 "ตั้งแต่ข้าก้าวไปถึงระดับแกนทอง,ข้าเองก็เคยไปยังทวีปศักดิ์สิทธิ์,ข้ารู้ว่าจะเดินทางไปเช่นไร."เป่ยชิงซือกล่าวออกมาเบาๆ.

เงียบ!

คนทั้งสองที่ไม่กล่าวสิ่งใด,ภายในใจของทั้งคู่เต็มไปด้วยความเศร้า,ไม่สามารถที่จะเอ่ยออกมาได้,จึงทำได้แต่เงียบ.

เมื่อต่างคนต่างเงียบไปครู่หนึ่ง,จงซานก็เอ่ยปากออกมาในทันที."ไม่ไปได้ใหม?"

จงซานที่พยายามที่จะเกลี้ยกล่อมเป็นครั้งสุดท้าย,ต้องไม่ลืมว่าเส้นทางที่นางจะไปนั้นอันตรายมากจนเกินไป.

เป่ยชิงซือที่ได้ยินคำพูดของจงซาน,ที่จริงภายในใจก็ต้องการที่จะละทิ้งทุกอย่างไป,ในเวลานี้เป่ยชิงซือต้องการจะกล่าวออกมาว่า"ได้"อย่างที่สุด,ทว่าการตายของบิดาและมารดาของนางมันยังคงก้องอยู่ในใจ,จะไม่ให้นางไปตอนนี้ได้อย่างไร?

เห็นท่าทางของเป่ยชิงซือแล้ว,จงซานสามารถที่จะคาดเดาคำตอบได้,จึงได้แต่ถอนใจเบาๆ,พร้อมกับกล่าวออกมาว่า"ให้ข้าล้างผมให้กับเจ้าอีกครั้ง."

ได้ยินคำพูดของจงซาน,เป่ยชิงซือไม่กล้าที่จะมองจงซานเลย,ก่อนที่จะค่อยๆมองไปที่เขาด้วยสายตาที่อ่อนโยน,มีแววตาที่เต็มไปด้วยความเศร้าที่มันเอ่อล้นไหลท่วมภายในใจของนาง,นางที่จ้องมองไปยังจงซาน,ราวกับว่าจะสลักใบหน้าท่าทางของเขาเอาไว้ในหัวใจของนางเอาไว้.

"อืม."เป่ยชิงซือที่พยักหน้าเบาๆ,พร้อมกับเม้มริมฝีปากแน่น,นางไม่กล้าที่จะกล่าวอะไรมากนัก,กลัวว่าหากพูดอะไรออกไปนางจะไม่สามารถทนไม่ให้ร้องไห้ออกมาได้.

ที่ข้างแม่น้ำ,จงซานที่ทำการตัดหินก้อนใหญ่เหมือนที่เคยทำก่อนหน้านี้,เป่ยชิงซือที่นอนลง.

ที่จริงนางสามารถที่จะล้างผมของนางด้วยตัวเอง,ทว่าการที่ให้จงซานล้างให้ก็จะสะดวกกว่า,ทว่าเป่ยชิงซือก็ไม่ทำ,นางต้องการให้จงซานทำให้.

ผมของนางที่ดูดกดำเงามันขลับยิ่งขึ้นกว่าเดิม,จงซานที่ถอนหายใจยาว,เขาไม่ได้ใช้ผ้าเช็ดตัว,ตอนนี้ใช้มือของเขาเอง,ด้วยการชะโลมผมยาวของเป่ยชิงซือด้วยน้ำในแม่น้ำ,พร้อมกับค่อยๆล้างอย่างอ่อนโยน,อีกครั้งและก็อีกครั้ง,ระมัดระวังอย่างประณีตและนุ่มนวล.

เป่ยชิงซือที่จ้องมองไปยังจงซานตลอดเวลา,จงซานที่ค่อยๆล้างผมของนางกว่าหนึ่งชั่วโมงด้วยความระมัดระวัง,ดวงตาของนางที่ไม่จ้องมองไปใหนเลย.

ท้ายที่สุด,ผมของนางก็ถูกล้างไปเป็นจำนวนสามรอบ,จงซานที่นำผ้าเช็ดตัวออกมาเช็ดผมให้,ค่อยๆเช็ดมันช้าๆ,ซึ่งการทำให้ผมแห้งนั้นสามารถใช้แก่นแท้ทำให้มันระเหยออกไป,สามารถทำให้ผมแห้งได้ในทันที,ทว่าเป่ยชิงซือไม่ทำ,ส่วนจงซานที่ทำเป็นเหมือนว่าลืม,ยังคงทำการเช็ดผมของนางด้วยผ้าเช็ดตัวซ้ำ,ค่อยๆเช็ดมันอย่างอ่อนโยน,ทะนุถนอม,จนมันแห้งไปในที่สุด,ก่อนที่จงซานจะเก็บผ้าเช็ดผมของนางไว้.

เขาที่จ้องมองไปยังเป่ยชิงซือ,เขาทำได้แต่ถอนหายใจยาว,เมื่อการจากลาได้มาถึงแล้ว,ตอนนี้คงถึงเวลาต้องลา.

"ข้าไปนะ!"เป่ยชิงซือที่เอ่ยออกมาด้วยเสียงที่อ่อนโยน.

"อืม."จงซานที่ตอบรับหนึ่งคำ.

กล่าวเสร็จ,เป่ยชิงซือเร่งรีบกระโดดขึ้นกระบี่เหินของนางพร้อมกับพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว,บินผ่านไปยังทะเล,มุ่งไปยังทิศตะวันตกเฉียงเหนือ,พุ่งออกไปราวกับลูกศร,แทบจะในทันทีก็หายไปลับตา,เป่ยชิงซืออดทนมานานเหมือนกัน,ขณะที่จงซานล้างผมให้กับนาง,นางก็ทนมาตลอด,ท้ายที่สุดเมื่อถึงครากล่าวลา,ณ เวลานี้นางก็ทนไม่ได้แล้ว,เสียงของนางสั่นเคลือ,นางที่เร่งรีบกระโจนออกมาด้วยน้ำตาคลอเบ้า,นางกลั้นไม่ไหวอีกแล้ว,ดวงตาที่แดงกล่ำ,นางบินออกไป,ไม่กล้าแม้แต่หันกลับมามองด้านหลัง,เป่ยชิงซือกลัวเหลือเกินว่าหากนางหันกลับไป,นางจะไม่สามารถบินจากมาได้.

ที่ชายฝั่งของแม่น้ำ,จงซานที่จ้องมองไปยังทิศที่เป่ยชิงซือจากไป,ภายในใจของเขาหวั่นไหว,ดวงตาของเขาที่หลับลงอยู่ชั่วครู่,ค่อยๆสะกดความเศร้าเอาไว้.

เป่ยชิงซือจากไปแล้ว,ตัวเขาเองก็จะต้องพยายามให้หนักเช่นกัน,เส้นทางที่เขาเลือกเดิน,ไม่สามารถที่จะหวั่นไหวได้,ความรู้สึกเหล่านี้จะต้องเก็บมันให้ลึก,เมื่อทางข้างหน้านั้นยากลำบาก,เขาจะต้องพยายามให้มากกว่านี้.

จงซานที่ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง,ดวงตาของเขาที่ไม่มีความเศร้าเหลือเอาไว้แล้ว,ตอนนี้มีแต่ความมั่นคงหนักแน่น,

ขณะที่จงซานล้างผมให้กับเป่ยชิงซือนั้น,ที่ไม่ไกลออกไปจากยอดเขามีสายตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองเขาอยู่.

สายตาคู่นั้นส่องประกาย,แววตาเต็มไปด้วยความสงสัย,มันไม่เข้าใจเลยว่า,คนทั้งสองทำไมถึงได้ดูเศร้านัก,ทำให้มันรู้สึกแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก.

ทำไมถึงได้เศร้าขนาดนั้น,เพราะว่าเจ้าของสายตากลมโตนี้,ที่จริงเป็นหมาป่าน้อยสีขาวเงินความสูงสองฉื่อ(0.33 m) นั่นเอง.

สำนักไคหยาง,ด้านนอกตำหนักไคหยาง.

เทียนชาที่อยู่บนกระบี่เหินที่กำลังบินตรงมายังทางเข้าของตำหนักไคหยาง,เขาที่ขมวดคิ้วไปมา,ภายในใจนั้นเต็มไปด้วยความเศร้า,ก่อนหน้านี้เก้าเดือน,นับตั้งเขาแยกจากจงซานก็ผ่านมาเก้าเดือนแล้ว,คาดไม่ถึงเลยว่าทั้งคู่จะไม่กลับมาเลยรึ?

นับแต่แรกนั้น,เทียนชาที่รู้สึกเกลียดคนผู้นี้เป็นพิเศษ,จงซานที่เป็นอ่อนด้อยไม่ต่างจากแมลง,ทำไมเขาถึงได้โชคดีอยู่ตลอดกัน?มีพรสวรรค์ที่ย่ำแย่,คาดไม่ถึงเลยว่าจะได้เข้าสำนักไคหยาง?นอกจากนี้ยังมีโชคอีกหลายอย่าง,แม้แต่อาจารย์ยังรับเขาเป็นศิษย์หลักอย่างคาดไม่ถึง,ทั้งที่เขามีพลังฝึกตนระดับห้าเซียนเทียนเท่านั้น,ถึงจะเป็นเขาในตอนนั้นก็คงไม่ได้รับโอกาสเช่นนั้นแน่.

และที่ทำให้เขาเกลียดที่สุด,เป่ยชิงซือบัวหิมะน้ำแข็งแห่งสำนักไคหยาง,ไม่ใช่ว่าถูกจงซานย่ำยี่ป่นปี้ไปหมดแล้วรึ?คาดไม่ถึงเลยว่านางจะชอบจงซาน,หรือเขารู้แล้วว่านางมีร่างกายที่พิเศษ,มีร่างสถิตธาตุน้ำ,ทั้งที่เขาพยายามที่จะเอาใจใส่นางมาเป็นเวลานาน,แต่นางก็ไม่เคยแลเขาเลยแม้แต่น้อย,ตอนนี้คาดไม่ถึงเลยจริงๆนางกับไปชอบจงซานอย่างงั้นรึ?

ชายโฉดหญิงชั่ว,ภายในใจของเทียนชาที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย.

ก่อนที่เขาจะเข้ามาในตำหนักไคหยาง,ก่อนที่เข้าจะก้าวเข้าไปด้านใน,ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดังออกมาจากห้องโถงหลัก.

เป็นเสียงของเทียนซวินจื่อและเนี่ยชิงชิงนั่นเอง.

"ข้าจะพาหลิงเอ๋อไป,นางจะต้องไปกับข้า."เนี่ยชิงชิงที่เอ่ยกับเทียนซวินจื่อ.

"ไม่ได้,หลิงเอ๋อไม่ต้องการไปกับเจ้า."เทียนซวินจื่อที่ปฏิเสธในทันที.

"ทำไมไม่ได้,อยู่กับเจ้าที่นี่,เจ้าสามารถให้อะไรนางได้กัน?นางเองตอนนี้ก็ก้าวไปถึงระดับแกนทองแล้ว,เจ้าไม่เห็นอย่างงั้นรึ?นางมีร่างสถิตในตำนาน,สามารถฝึกฝนได้อย่างง่ายดาย,ให้นางอยู่ที่นี่มีแต่จะถ่วงพลังฝึกตนของหลิงเอ๋อ,ข้าจะพานางไป,มีเพียงแค่ตระกูลของพวกเรา,นางถึงจะเติบโตได้,ข้าไม่คิดหรอกนะว่าเจ้าที่เป็นบิดาธรรมดาๆจะทำลายอนาคตบุตรสาวตัวเอง."เนี่ยชิงชิงที่โต้เถียงออกมาด้วยความโกรธ.

"ไม่ได้,ข้าบอกไม่ได้ก็คือไม่ได้."เทียนซวินจื่อที่กล่าวเสียงแข็ง.

"นี่เจ้าไม่ละอายใจต่อท่านพี่อย่างงั้นรึ?"เนี่ยชิงชิงยังคงกล่าวโต้เถียงไม่ยอมแพ้.

"ไม่ได้,หากอู๋โหยวยังอยู่,นางย่อมตัดสินใจเหมือนกับข้า,ตระกูลของเจ้ามันซับซ้อนวุ่นวายมากเกินไป,หลิงเอ๋อไม่จำเป็นต้องให้ตระกูลเจ้าสนับสนุน,พวกเราต้องการ,แค่ให้หลิงเอ๋อมีความสุข,ตราบใดที่นางมีความสุข,ไม่ว่าเรื่องอะไร,แค่นั้นก็พอแล้ว,นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับหลิงเอ๋อ."เทียนซวินจื่อที่กล่าวโต้เถียง.

"เจ้า...."เนี่ยชิงชิงที่เต็มไปด้วยความโกรธชี้หน้าของเทียนซวินจื่อ,แต่ไม่กล่าวอะไรออกมา.

ทว่าที่ด้านหน้าห้องโถงหลักนั้น,เทียนชาที่ได้ยินคำพูดของเนี่ยชิงชิง,ที่กล่าวว่าหลิงเอ๋อคือร่างสถิตในตำนาน,ทำให้เขางงงวยไปเลยทีเดียว,ดวงตาของเขาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ,และดีใจ,ราวกับว่าเกิดความหวังบางอย่างขึ้นมา.

ภายในใจของเทียนชานั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้น,ถอนหายใจยาว,และพยายามที่จะทำให้ตัวเองสงบลง.

"ที่ด้านนอกนั่น,เทียนชาอย่างงันรึ?"เสียงของเทียนซวินจื่อที่กล่าวออกมา.

เทียนชาที่เดินข้าไปในทันที.

เทียนชาที่เห็นเทียนซวินจื่อก็กล่าวออกมาด้วยความเคารพ"ครับ,เรื่องที่อาจารย์ได้สั่งการนั้น,ข้าได้ทำเรียบร้อยแล้ว."

"อืม,ดีมาก,เจ้าไปพักได้."เทียนซวินจื่อพยักหน้า.

"ครับ."เทียนซวินจื่อที่ตอบกลับในทันที.จากนั้นเขาก็ออกจากห้องโถงหลักไป.

เทียนชาก็ออกจากห้องโถงไคหยางไปด้วยเช่นกัน,เขาที่บินขึ้นไปยังยอดเขาไคหยาง.

ที่บนยอดเขานั้น,หยุนเฉียนที่กำลังแนะนำการฝึกฝนให้กับศิษย์ของสำนักไคหยางอยู่.

"หยุนเฉียน."เทียนชาที่เอ่ยออกมาในทันที.

"หืม,ศิษย์พี่ใหญ่อย่างงั้นรึ?"หยุนเฉียนที่จ้องมองไปยังเทียนชาทันที.

"เจ้าเห็นหลิงเอ๋อใหม?"เทียนชาที่สอบถามออกมาในทันที.

"หลิงเอ๋อย่างงั้นรึ?หลิงเอ๋อตอนนี้,น่าจะอยู่ที่ทางเข้าสำนักไคหยาง,กับผู้พิทักษ์แห่งขุนเขา,น่าจะใช่นะ."หยุนเฉียนที่คิดอยู่ครู่หนึ่ง.

"จริงๆรึ?"เทียนชาที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ครับ,ศิษย์พี่ใหญ่,มองหาหลิงเอ๋อ,มีเรื่องอะไรอย่างงั้นรึ?"หยุนเฉียนที่สอบถามออกมาด้วยความสงสัย.

"ไม่มีอะไร,ข้าไม่รบกวนเจ้าแล้ว."เทียนชาที่ส่ายหน้าไปมา.

จากนั้น,สายตาของหยุนเฉียนที่เต็มไปด้วยความสงสัย,เทียนชาที่ขึ้นกระบี่เหิน,พร้อมกับตรงไปยังทางเข้าสำนักไคหยางทันที.

ที่ทางเข้าสำนักไคหยาง.

ที่ด้านนอกของกระท่อมด้านหน้าของผู้พิทักษ์แห่งขุนเขา,มีเก้าอี้ยาวสองตัว.

และยังมีโต๊ะที่มีหม้อน้ำชาด้วย,ผู้พิทักษ์แห่งขุนเขาที่นอนอยู่อย่างเงียบๆบนเก้าอี้ยาวจ้องมองออกไปยังร่างๆหนึ่งที่กำลังกวัดแกว่งแขนขาไปมา.

ซึ่งแน่นอนที่ด้านหน้าของผู้พิทักษ์แห่งขุนเขา,เป็นเทียนหลิงเอ๋อที่คอยชะเง้อมองไปยังด้านนอกด้วยความหวัง,จ้องมองไปยังที่พื้นที่ด้านหน้าที่ไกลออกไป.

"ซานเหยียเยี่ย,ท่านว่าเมื่อไหร่จงซานจะกลับมา."เทียนหลิงเอ๋อที่โหยหวน,ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล.

ขณะที่นางพูด,นางที่ใช้ขาของนางที่เต๊ะไปยังปลายโต๊ะเบาๆด้วยความเบื่อหน่าย.
..




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น