วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2561

Immortality Chapter 107 Chapter 107 Clay Bodhisattva

Immortality Chapter 107 Chapter 107  Clay Bodhisattva

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 107   หนี่ปูซา.


บทที่ 107   หนี่ปูซา.



"จงซาน!!!"เป่ยชิงซืออุทานออกมาเสียงดัง.

จงซานที่ประครองกายลุกขึ้น,ก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยท่าทางรู้สึกผิด,"ครั้งนี้,ข้ามาก่อนจริงๆนะ."


จงซานไม่รุ้ว่าจะแก้ตัวอย่างไร,ขณะที่มองชั่วครู่และเร่งรีบหันหน้าไปอีกข้างก็กล่าวออกไปก่อน,เขาที่คิดว่านางคงโกรธและเกลียดเขา,ไม่คิดเลยว่าใบหน้าของนางเวลาจะมีสีแดงระเรื่อ.

นางที่นำเสื้อผ้าออกมาจากกำไลเก็บของอย่างรวดเร็ว,ก่อนที่จะเร่งรีบสวมชุดของนาง,นางที่รู้สึกเขินอายเป็นอย่างมาก.

"เอาล่ะ,หันหน้ากลับมา."ใบหน้าของนางที่ขวยเขินพร้อมกับจ้องมองไปยังจงซาน.

ทว่าจงซานที่หันหน้ากลับมา,เห็นแววตาของนางที่มีสายตาที่โกรธอยู่เหมือนกัน.

ทว่าจงซานก็รู้ว่าเป่ยชิงซือคงจะไม่สังหารเขา,แต่ว่าใบหน้าของนางในเวลานี้,ยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดเป็นอย่างมาก,มันคือความผิดพลาดจริงๆ,เขาไม่ได้ตั้งใจ.

"ข้าหวังว่าเจ้าจะมีคำอธิบายที่สมเหตุสมผล,"เป่ยชิงซือจ้องมองไปยังจงซาน,แม้ว่านาจะพูดไปเช่นนั้นก็ตาม,ทว่าเป่ยชิงซือก็รุ้สึกประหลาดใจ,ไม่รู้ว่าทำไมภายในใจของนางไม่ได้ต้องการตำหนิอะไรเขาเท่าใดนัก.

เห็นสายตาที่นางจ้องมองมายังเขาว่าต้องการคำอธิบาย,ทั้งที่นี่เป็นเรื่องบังเอิญเขาจะอธิบายออกไปอย่างไรดี.

ค่อนข้างจะพูดไม่ออกเหมือนกัน,จงซานจึงได้กล่าวออกไปว่า"หากข้าบอกว่าเป็นอุบัติเหตุ,เจ้าจะเชื่อใหม?"

เป่ยชิงซือ"....."

"แล้วเจ้ากับมาเมื่อไหร่ล่ะ?"จงซานเปลี่ยนหัวข้อไปในทันที,แม้ว่ามันจะดูน่าหงุดหงิด,ทว่าจงซานรู้ดีว่าไม่ควรที่จะต่อความยาวสาวความยืดอีกต่อไป.

เห็นท่าทางของจงซานแล้ว,นางก็เข้าใจได้ดีว่านี่เป็นแค่เรื่องบังเอิญ,เพราะว่านางที่เข้ามาในสำนักไคหยางนั้น,ถึงจะรับรู้ว่านางเข้ามา,ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครเข้ามาเตรียมตัวก่อนได้,และนางก็ตรงมายังบ่อน้ำร้อนเลย,นอกจากนี้เป็นเรื่องที่ไม่งามนักที่หญิงสาวเช่นนางจะยังคงดึงดันพูดเรื่องเช่นนี้ต่อไป.

นางที่ถอนหายใจลึก,และรู้สึกแปลกประหลาดในใจก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า"เพิ่งกลับมา."

ในเวลาเดียวกัน,จงซานที่เห็นเสื้อผ้าของนางที่ถอดออกก่อนหน้า,ซึ่งมีรอยฉีกขาด,เปรอะเปื้อนไปหมด.

"เจ้าได้หลักฐานชิ้นที่สองแล้วอย่างงั้นรึ? ดูเหมือนว่าเจ้าจะไปพบกับอันตรายกลับมา?"

"อืม,ข้าได้จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว,ทว่าหลักฐานชิ้นที่สามนั้น,ข้าไม่สามารถที่จะไปในตอนนี้ได้,ข้าจำเป็นต้องมายืมสิ่งของบางอย่างจากท่านประมุข."เป่ยชิงซือที่พยักหน้า,เรื่องดังกล่าวนี้นางไม่ต้องการเปิดเผยให้ใครรู้มากนัก,ก่อนที่นางจะสะบัดมือเก็บชุดที่ขาดของนางกลับไปในทันที.

เห็นเป่ยชิงซือที่ขมวดคิ้วไปมา,จงซานที่ก้าวเข้าไปหาช้าๆ,ทว่าเป่ยชิงซือที่เห็นจงซานก้าวเขามา,ใบหน้าของนางที่ตื่นตระหนกอยู่เล็กๆ,ทว่าก็ยังคงใจแข็งยืนอยู่จุดเดิม.

ขณะที่จงซานเดินเข้ามาใกล้ก็มองไปยังเป่ยชิงซือและเอ่ยปากออกมาอย่างนุ่มนวลว่า"การไปหาหลักฐานชิ้นที่สาม,เจ้ามีแผนการจะไปเมื่อไหร่รึ?"

"ข้าจะต้องเร่งรีบเดินทางไปในทันที,เพื่อที่จะลบล้างความผิดให้กับบิดาของข้า."เป่ยชิงซือที่กล่าวอย่างหนักแน่น.

"เจ้าไม่รอก่อนรึ?อย่างน้อยก็ควรที่จะก้าวไปให้ถึงระดับก่อตั้งวิญญาณ."จงซานที่กล่าวด้วยท่าทางเป็นห่วง.

เห็นจงซานที่แสดงความเป็นห่วงภายในใจของนางก็รู้สึกอบอุ่นเช่นกัน,สายตาของนางที่ดูอ่อนโยนและกล่าวออกมาว่า"ข้าไม่สามารถรอได้,พ่อข้าได้กลายเป็นกระดูกไปแล้ว,ทว่าคนร้ายก็ยังลอยนวล,ข้าจะต้องจัดการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้."

เห็นความดื้อรั้นของเป่ยชิงซือ,จงซานที่ถอนหายใจเบาๆ,"ดี,เช่นนั้นขอให้เจ้าโชคดี."

"อืม,ขอบคุณ."เป่ยชิงซือพยักหน้าให้.

"เอิ่ม,เจ้าอาบน้ำเถอะ,ข้าขอออกไปก่อน."จงซานที่จ้องมองไปยังบ่อน้ำร้อนและกล่าวต่อเป่ยชิงซือ.

ได้ยินคำพูดของเป่ยชิงซือใบหน้าที่ขาวใสก็กลายเป็นสีแดงอีกครั้ง,ก่อนที่จะส่ายหน้าไปมา,"ไม่จำเป็น,ข้าต้องการไปพบท่านประมุขในทันที,และจากนั้นก็จะกล่าวลาอาจารย์ของข้าด้วย."

"อืม,ข้าจะไปพบกับท่านอาจารย์เช่นกัน,เหมือนว่าเจ้าก็จะไปที่เดียวกัน.

"เจ้า?อาจารย์?"เป่ยชิงซือที่สอบถามออกมาด้วยความสงสัย.

"ถูกแล้ว,ตั้งแต่ข้ากลับมา,ดูเหมือนว่าจะได้รับโชค,ท่านประมุขรับข้าเป็นศิษย์ในนามแล้ว,หลังจากนี้ข้าไม่ต้องเรียกเจ้าว่าอาจารย์อาอีกแล้ว."จงซานที่พยักหน้ากล่าวออกมา.

อาจารย์อา?เป่ยชิงซือที่ส่ายหน้าไปมา."ถ้าเป็นเช่นนั้น,เจ้าเรียกข้าว่าชิงซือเถอะ."

"อืม,ชิงซือ."จงซานกล่าวออกมา.

เป่ยชิงซือไม่ได้กล่าวสิ่งใด,ทว่าใบหน้าที่ดูเย็นชาตลอดเวลาของนาง,ก็เผยยิ้มที่งดงามออกมาเหมือนกัน.

นางที่สะบัดมือออกไป,ธวัชทั้งสิบหกก็ลอยกลับมาอยู่ในมือของนาง,ก่อนที่นางจะเก็บเข้าไปในกำไลเก็บของ,เมื่อค่ายกลถูกยกเลือก,หมอกทั้งหมดก็หายไปในทันที.

ทว่าในเวลาเดียวกันบนยอดเขาสูงนั้น,สายตาของเทียนชาจับจ้องมองไปยังบ่อน้ำพุร้อนในหุบเขา,เมื่อค่ายกลถูกยกเลิก,เทียนชาก็ถอนหายใจเข้าลึก,พร้อมกับความรู้สึกยินดี,ทว่าทันในนั้นใบหน้าของเขาก็ถึงกับแข็งค้าง,ถึงกับต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก,แทบหยุดหายใจไปพร้อมๆกัน.

เป็นไปได้อย่างไร?มันจะเป็นไปได้อย่างไร?มีผู้ชายคนหนึ่งออกมาด้วย?

จงซาน? เขาอยู่ในหุบเขาแห่งนี้ด้วยรึ?ทว่าเป่ยชิงซือเข้ามาอาบน้ำ? เป็นไปได้ว่าเขาเข้ามาอยู่ในบ่อน้ำร้อนนี้ก่อนแล้วรึ?เทียนชาที่หายใจลึก,ร่างกายสั่นสะท้าน,จับจ้องมองไปยังจงซาน,ภายในสายตาที่เต็มไปด้วยความหดหู่,ก่อนที่จะปล่อยจิตสังหารออกมา.

ทว่า,จงซานยังโกรธเกรี้ยวไม่สุดเลยด้วยซ้ำ,เป่ยชิงซือที่ไม่เคยให้ชายใดบินคู่ไปพร้อมกับนาง,ในเวลานี้กลับมีจงซานอยู่ด้านหลังอย่างงั้นรึ?

เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?เทียนชารุ้ดีว่า,เป่ยชิงซือเป็นคนสะอาดบริสุทธิ์,ไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสียเลยแม้แต่น้อย,นอกจากนี้กระบี่เหินของนาง,แทบจะไม่เคยมีชายใดได้สัมผัส,ใครก็ตามที่เข้าใกล้นางมีเพียงตายเท่านั้น,ในเวลานี้มันเกิดอะไรขึ้น? นางให้จงซานขึ้นไปบนกระบี่เหินของนางอย่างงั้นรึ?

เทียนชากำหมัดแน่น,จ้องมองคนทั้งคู่เหินข้ามหุบเขาออกไป,ภายในใจเต็มไปด้วยความโกรธ,ภายในดวงตาเต็มไปด้วยความเย็นชามืดมน.

เป่ยชิงซือนำจงซานไปด้วย,ตรงไปยังเทือกเขาไคหยาง,เข้าไปยังห้องโถงไคหยาง.

บางทีจงซานและเป่ยชิงซือถือว่าโชคดีเหมือนกัน,เมื่อเดินทางมาถึงตำหนักไคหยาง,เทวียนซวินจื่อก็อยู่ในห้องโถงไคหยางแล้ว,นอกจากนี้ยังมีเสวียนซวินจื่อและกู่ซ่างจื่อ,ที่อยู่ในตำหนักไคหยางแห่งนี้เช่นกัน.

จงซานที่เดินเข้าไปในห้องโถงหลัก,ทว่าเขาก็เห็นคนอีกคน,ไม่ใช่เนี่ยชิงชิง,ทว่าเป็นชายหนุ่ม,เป็นบุรุษที่ดูเหี้ยมหาญ,ผิวกายสีคล้ำกำยำ,ที่ใบหน้าของเขายังปรากฏรอยมีดปรากฏขึ้นอีกด้วย,นอกจากนี้ยังเป็นแผลเป็นที่เลยห่างออกมาจากดวงตาซ้ายของเขายืดยาวไปจนถึงปาก.

หนานป่าเทียน!

หนานป่าเทียนกลับมาถึงแล้วอย่างงั้นรึ?

ก่อนหน้านี้เทียนหลิงเอ๋อและหนานป่าเทียน,พวกเขายังดูไร้เดียงสาอยู่เลย,ตอนนี้ดูเติบโตขึ้นมาก,โดยเฉพาะสีผิวและร่างกายที่กำยำ,ตลอดจนแผลเป็นบนใบหน้า,ทำให้ดูแล้วน่าเกรงขามไม่น้อย,ในหนึ่งปีมานี้,หนานป่าเทียนเปลี่ยนเป็นคนละคนเลยรึ?

ตอนแรกใบหน้าของหนานป่าเทียนที่ดูจริงจัง,ทว่าหลังจากที่จงซานเดินเข้ามายังห้องโถงหลัก,ใบหน้าของเขาก็ดูอ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย.

"ศิษย์จงซาน,คารวะอาจารย์,คารวะอาจารย์อาทั้งสอง."จงซานที่ก้าวออกไปและกล่าวออกมาทันที.

"ชิงซือคารวะอาจารย์,คารวะท่านประมุขและอาจารย์อา."เป่ยชิงซือที่กล่าวออกมาด้วยเช่นกัน.

"ชิงซือ,เจ้ากลับมาเมื่อไหร่กัน?"กู่ซ่างจื่อที่เผยสีหน้าดีใจเล็กน้อย.

"ศิษย์เพิ่งกลับมาถึงวันนี้."เป่ยชิงซือที่กล่าวออกมาในทันที.

"ระดับหกเซียนเทียน,จงซาน,เจ้าทะลวงผ่านระดับแล้วอย่างงั้นรึ?"เสวียนซวินจื่อที่เอ่ยออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

ทว่าเทียนซวินจื่อที่อยู่ด้านข้างก็พยักหน้าพอใจด้วยเช่นกัน.

"ครับ,ข้าโชดคีที่ได้ท่านอาจารย์แนะนำ."จงซานที่กล่าวออกมาทันที.

"อืม,ดี,จงซาน,ข้าได้ตรวจสอบเจ้าก่อนหน้านี้,ดูเหมือนว่าเจ้ามีสภาพร่างกายที่ดีขึ้น,ข้าเคยบอกเจ้าก่อนหน้าแล้ว,ต่อไปเจ้าจะต้องทะลวงจุดชีพจรทั่วร่าง,เพื่อให้แกนแท้โคจรผ่านชีพจรทั้งหมดได้,เมื่อนั้นแกนแท้ของเจ้าก็จะสมบูรณ์."เทียนซวินจื่อที่กล่าวด้วยความพอใจ.

เสวียนซวินจื่อและกู่ซ่างจื่อจ้องมองไปยังจงซานด้วยแววตาที่ตื่นตะลึงเช่นกัน,ด้วยพรสวรรค์ของจงซานนั้น,พวกเขาทั้งคู่เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง,ด้วยร่างกายเช่นนั้น,เพียงแค่สองปี,คาดไม่ถึงเลยว่าจะสามารถสร้างแกนแท้ได้? เป็นเรื่องที่ไม่อยากเชื่อเลยแม้แต่น้อย.

หนานป่าเทียนที่อยู่ใกล้ๆ,ดวงตาที่ส่องประกายวับวาว,แสดงท่าทางดีใจกับจงซานด้วย.

"ท่านประมุข,ชิงซือกลับมาครั้งนี้,ต้องการตราสัญลักษณ์ดินแดนหมาป่าจากท่านประมุขเพื่อที่จะไปทำภารกิจต่อ."เป่ยชิงซือที่จ้องมองไปยังเทียนซวินจื่อ,ดวงตาสาดประกายด้วยความหวัง.

เป่ยชิงซือที่เอ่ยออกมา,ทุกคนถึงกับนิ่งงันไปตามๆกัน,สายตาของทุกคนที่ขวดคิ้วไปมา.

"เจ้าเก็บหลักฐานได้สองชิ้นแล้วอย่างงั้นรึ?"กู่ซ่างจื่อที่กล่าวออกมาพลางถอนหายใจ.

"ค่ะ,ท่านอาจารย์,ทว่าตอนนี้เหลือชิ้นสุดท้ายแล้ว."เป่ยชิงซือที่กล่าวอย่างเคารพ.


"อืม.."กู่ซ่างจื่อถอนหายใจอีกครั้ง,พร้อมกับมองไปยังเทียนซวินจื่อ.

"เจ้าต้องการไปพบเขาอย่างงั้นรึ?"เทียนซวินจื่อที่ระลึกความทรงจำ,ภายในสายตาที่เต็มไปด้วยความสำนึกผิดและถอนหายใจ.

"ค่ะ,ท่านประมุข,เขาคือคนที่มีหลักหลักฐานชิ้นสุดท้ายของท่านพ่อ,และมันก็เป็นชิ้นที่สำคัญด้วย."เป่ยชิงซือพยักหน้าขณะพูด.

เพียงแค่สะบัดมือหนึ่งครั้ง,เทียนซวินจื่อก็นำตราสีขาวออกมา,บนตรานั่น,มีรูปหัวหมาป่ายักษ์อยู่,ในเวลาเดียวกัน,ก็มีกลิ่นอายลึกลับที่ไม่ธรรมดาแผ่ออกมาจากมันด้วย.

เมื่อส่งตราดังกล่าวออกไป,เทียนซวินจือก็เงียบไปซักครู่,จ้องมองไปยังตราดังกล่าว,พร้อมกับครุ่นคิดอะไรบางอย่าง.

"จงซาน."เทียนซวินจื่อกล่าวออกมาในทันที.

จงซานขมวดคิ้วไปมา,ไม่รู้ว่าทำไมเทียนซวินจื่อจึงเรียกเขา,ทว่าเขาก็ตอบอย่างเคารพ,"ครับ,อาจารย์."

"สิบวันหลังจากนี้,เจ้าจงเดินทางไปยังเขตแหนหมาป่าพร้อมกับชิงซือ."เทียนซวินจื่อที่ขมวดคิ้ว.

"หืม? อาจารย์..."จงซานที่จ้องมองด้วยความสงสัยจ้องมองไปยังเทียนซวินจื่อ.

"สถานที่นางจะไปนั้น,ชิงซือจะพาเจ้าไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง,ไปพบกับบุคคลผู้หนึ่ง,นางไปหาหลังฐาน,ส่วนเจ้า,เป็นตัวแทนข้าไปขอโทษเขา,ขอให้เขาเดินทางกลับมายังสำนักไคหยาง."เทียนซวินจื่อที่ถอนหายใจยาว,สายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกสึกบางอย่างที่อัดอั้น.

"ศิษย์พี่,ท่านต้องการให้เขาเดินทางกลับมาจริงๆรึ?"กู่ซ่างจื่อที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

"อืม,หลิงเอ๋อโตแล้ว,ทว่าศัตรูของอู๋โหยวยังไม่รู้จนถึงตอนนี้,ข้าไม่รู้ว่าใครคือศัตรู,แม้ว่าในอดีตนั้นอู๋โหยวจะไม่ได้เลือกเขา,ทว่า,ข้าคิดว่าเขายังสลักอู๋โหยวเอาไว้ในใจของเขา,ข้าต้องการแก้แค้นให้กับอู๋โหยว,หากว่าข้าไม่ทำเช่นนี้ข้าเกรงว่าข้าจะจากโลกนี้ไปก่อนจะได้แก้แค้น,ดังนั้นข้าจึงต้องการความสามารถของเขา,เพื่อค้นหา,แน่นอนถึงข้าไปด้วยตัวเอง,แต่ใช่ว่าเขาจะให้ข้าเจอเขา,ดังนั้น,จงซานจึงเป็นตัวแทนของข้าแทน,"เทียนซวินจื่อที่กวาดสายตาไปยังจงซาน.

"ครับ."จงซานที่เอ่ยปากออกมาในทันที.

"จงซานก็เป็นศิษย์ของขา,เทียนชาก็เป็นศิษย์ของขา,การเดินทางครั้งนี้,เจ้าจงเดินทางไปพร้อมกับเขา,และนำเขากลับมาที่นี่ให้ได้."เทียนซวินจื่อที่กล่าวอย่างขึงขัง.

"ครับ,ท่านอาจารย์,ศิษย์จะทำสุดความสามารถ."จงซานที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.

"อืม,ข้าเชื่อใจเจ้า,เรื่องสุดท้าย,นี่คือแก่นเมฆา,มอบให้กับเจ้า,ดูแลตัวเองให้ดี."เทียนซวินจื่อที่สะบัดมือหนึ่งครั้ง,ก็นำวัตถุที่มีขนาดเท่ากับหนึ่งกำปั้น,ดูเหมือนกับก้อนเมฆก้อนหนึ่ง.

เห็นของวิเศษดังกล่าว,ภายในใจของจงซานปรากฏความสุขอยุ่ไม่น้อย,ทว่าก็ยังคงใจเย็นรับสิ่งของดังกล่าวมา,"ครับ,ไม่ทราบว่าอาจารย์จะบอกนามของอาวุโสให้กับข้าได้ทราบได้หรือไม่?"

เมื่อรับแกนเมฆา,เพียงแค่สะบัดมือหนึ่งครั้งก็เก็บเข้ามาในกำไลเก็บของ,พร้อมกับจ้องมองไปยังเทียนซวินจื่อ.

"เขามีนามว่า,หนี่ปูซา."เทียนซวินจื่อที่ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย.

หนี่ปูซา? จงซานที่ครุ่นคิดไปมา,ท้ายที่สุดก็พยักหน้า

"เจ้าและป่าเทียนออกไปก่อน,ขิงซืออยู่ก่อน."เทียนซวินจื่อกล่าว.

"ครับ."จงซานที่ตอบรับในทันที.

"อาจารย์,ศิษย์ไม่รบกวนแล้ว."หนานป่าเทียนกล่าวต่อเสวียนซวินจื่อ.

"อืม."เสวียนซวินจื่อพยักหน้า.

จากนั้น,จงซานและหนานป่าเทียนก็ออกมาจากห้องโถงหลัก.

"ป่าเทียน,เจ้ากลับมาเมื่อไหร่กัน?"เมื่อออกมาด้านนอกห้องโถง,จงซานก็สอบถามออกมาทันที,บนใบหน้านั้นเต็มไปด้วยความดีใจ.

"ข้ากลับมาสองเดือนแล้ว,แต่ไม่เห็นเจ้าเลย."หนานป่าเทียนที่ตอบกลับในทันที.

"อ๋อ,ข้ากำลังรวบรวมแกนแท้อยู่,ฝึกฝนอยู่ที่ยอดเขาเหยียนซาน.ไปเถอะ,ไปยังติงสุ่ยเซี่ยของข้าก็แล้วกัน."จงซานกล่าว.

"ได้."หนานป่าเทียนที่พยักหน้า,พวกเขาไม่ได้เจอกันนาน,แน่นอนว่ามีเรื่องมากมายที่ต้องพูดคุยกัน.

ที่ด้านนอกที่พักติงสุ่ยเซี่ยของจงซาน,ข้างๆสระลึกมีโต๊ะหินอยู่.

จงซานและหนานป่าเทียนที่เคยนั่งพูดคุยกันอยู่เป็นประจำ,บนโต๊ะนั้นมีชามรกตหนึ่งกาและแก้วสองใบ.

"เจ้าบอกว่าปีที่ผ่านมานั้น,เจ้าเข้าร่วมกองทัพมาอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วสอบถามด้วยความสงสัย.

เข้าร่วมกองทัพ? การกลายเป็นทหาร? หนานป่าเทียนที่เข้าร่วมกองทัพเพื่อเพิ่มความเร็วในการฝึกฝนหรือไม่?,แน่นอนอยู่แล้ว,นี่ก็เพียงเพราะหนานป่าเทียนต้องการโชควาสนาที่จะได้จากราชวงศ์.

"อืม,ที่ภาคใต้มีค่ายกลแปดประตูกุญแจทอง,เห่าซานและมังกรเขา เรื่องนี้ข้าก็ได้ยินมาเช่นกัน,ทว่าในเวลานั้นข้าได้เดินทางไปทางเหนือแล้ว,ไม่สามารถเดินทางมาภาคใต้ได้,และอาจารย์ได้บอกกับข้ามาก่อนแล้ว,และที่นั่น,ข้าก็ได้เข้าร่วมราชวงศ์จักรพรรดิต้าหมิง,เป็นทหารแนวหน้าเข้าสู่สงคราม,แผลเป็นที่บนใบหน้าของข้าเอง,ก็เป็นแผลที่ได้จากสงครามเมื่อห้าเดือนที่แล้ว."

"ราชวงศ์จักรพรรดิต้าหมิง? เจ้าลองเล่าสถานการณ์ต่างๆเกี่ยวกับพื้นที่รอบๆนี้ให้ข้าได้ฟังหรือไม่?"จงซานที่คิดชั่วครู่และกล่าวออกมา.

"อืม,สถานที่พวกเราอาศัยอยู่นี่,ถูกเรียกว่า,เกาะหมาป่าสวรรค์,ที่ทิศตะวันออกเฉียงใต้นั้นมีทวีปศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่,ซึ่งขวางกั้นด้วยทะเลขนาดใหญ่,ดินแดนของทวีปศักดิ์สิทธิ์นั้นข้าก็ไม่รู้มากมายนัก,ทว่าเกาะหมาป่าสวรรค์นั้น,ที่จริงข้าก็เพิ่งได้ยินมาจากอาจารย์เช่นกัน."หนานป่าเทียนที่ยกน้ำชาขึ้นจิบ.

จงซานที่นั่นฟังอย่างอดทน,ต้องไม่ลืมว่าเขาเองก็ได้สร้างราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งขึ้นมาแล้ว,อย่างน้อยก็ต้องการเข้าใจสถานการณ์ดินแดนรอบๆให้ดี.

"พวกเราที่อาศัยอยู่นี่น่าจะเป็นทิศตะวันตกของเกาะหมาป่าสวรรค์,ที่ทิศใต้ของเกาะหมาป่าสวรรค์นั้น,มีดินแดนปุถุชนสามดินแดน,หนึ่งก็คือดินแดนที่เจ้าเคยอาศัยอยู่ก่อน,ที่มีอาณาจักรต้าคุนเป็นหนึ่งในนั้น,ดินแดนดังกล่าวแล้วสำหรับดินแดนของโลกปุถุชนก็นับว่าแข็งแกร่งที่เดียว,แต่ก็สำหรับดินแดนปุถุชนอย่างไรก็ก็ดี,พวกเขาอยุ่ในภูมิประเทศที่ยอดเยี่ยม,ดังนั้นจึงไม่ถูกกำจัดไป."หนานป่าเทียนที่คิดอยู่และกล่าวออกมา.

"มีทั้งหมดสามดินแดนเหรอ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ใช่แล้ว,มีสามดินแดน,อาณาจักรต้าคุนของเจ้าเป็นหนึ่งในหกอาณาจักรของดินแดนภาคกลาง,ทว่าดินแดนแห่งนั้นเต็มไปด้วยภูเขาสูงมากมาย,เป็นดินแดนที่น่าเกรงขามที่ซับซ้อนทีเดียว,ซึ่งเป็นชัยภูมิของดินแดนภาคใต้ของเกาะหมาป่าสวรรค์ไปเลยทีเดียว,ทว่าในดินแดนภาคเหนือ,ที่จริงก็มีแค่ดินแดนเดียว,นอกจากนี้ยังมีราชวงศ์จักรพรรดิที่น่าเกรงขามด้วยมาก."หนานป่าเทียนกล่าวออกมา.

"ราชวงศ์จักรพรรดิรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.


"อืม,ดินแดนภาคเหนือนั้นใหญ่มาก,ดินแดนทิศใต้สามดินแดนรวมกันยังไม่สามารถเทียบได้เลย.มีสามราชวงศ์ที่ร่วมมือกัน,และมีอีกหนึ่งราชวงศ์นั่นก็คือราชวงศ์จักรพรรดิหยินเย่,หวงตี้ของราชวงศ์จักรพรรดิหยินเย่วนั้นมีความแข็งแกร่งระดับก่อตั้งวิญญาณทีเดียว,ราชวงศ์ดังกล่าวมีพลังไม่ได้ด้อยไปกว่าสำนักไคหยางเลย,สามราชวงศ์จักรพรรดิได้ร่วมมือกันเข้าต่อต้านราชวงศ์หยิงเยว่,ทว่าก็ยังยากลำบากที่จัดการกับราชวงศ์หยินเยว่ได้,เจ้าก็ควรจะรู้ว่าราชวงศ์หยินเยว่นั้นน่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก."หนานป่าเทียนที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น