วันพุธที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2561

Immortality Chapter 104 confer god

Immortality Chapter 104  confer god

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 104 สถาปนาแต่งตั้ง.


บทที่ 104 สถาปนาแต่งตั้ง.



 "รับการแต่งตั้ง,จงเทียนและจงเจิ้งคือไท่จื่อของราชวงศ์ต้าเจิ้ง."จงซานที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.

"รับด้วยเกล้า,ฟูหวง."จงเทียนและจงเจิ้งรับบัญชา.

ในเวลาเดียวกัน,โองการฟ้าที่ด้านขวาก็ปรากฏอักษรขึ้นอีกแถวต่อจากราชา,เป็นไท่จื่อสองชื่อ,โดยมีจงเทียนชื่อแรกและจงเจิ้งเป็นชื่อที่สอง.


อาณาจักรแห่งนี้มีไท่จื่อสองคน,การกระทำของจงซานนั้นแตกต่างจากอาณาจักรอื่นๆ,ซึ่งส่วนมากนั้นจะมีไท่จื่อเพียงแค่คนเดียว,ทว่าด้วยการยอมรับของจงซาน,อาณาจักรแห่งนี้จึงมีไท่จื่อสองคน,โดยมีจงเทียนเป็นอันดับหนึ่ง.

"รับการแต่งตั้ง,หลินเซียวรับตำแหน่งแม่ทัพพิทักษ์ดินแดนลำดับหนึ่งของราชวงศ์ต้าเจิ้ง."

"รับการแต่งตั้ง,หยิงหลานรับตำแหน่งแม่ทัพพิทักษ์ดินแดนลำดับสองของราชวงศ์ต้าเจิ้ง."

ราชวงศ์ต้าเจิ้งในวันข้างหน้าเมื่อมีพลังอำนาจเพียงพอก็จะเลื่อนจากราชวงศ์หลักก้าวไปเป็นราชวงศ์สูง.

หลังจากนั้น,ที่โองการฟ้า,ก็ปรากฏ แม่ทัพลำดับหนึ่งและแม่ทัพลำดับสองขึ้น,เป็นหลินเซียวและหยิงหลาน ถูกสลักเอาไว้เช่นกัน.

"รับการแต่งตั้ง,เหว่ยไท่จงรับตำแหน่งจงกวนของราชวงศ์ต้าเจิ้ง."
(zóng guǎn)หัวหน้าควบคุมทั่วไป
...
 จงซานที่เริ่มแต่งตั้ง.เจ้าหน้าทีข้าราชบริพารต่างๆ,เพื่อให้ปรากฏขึ้นบนโองการฟ้า.

เมื่อเตรียมการเสร็จแล้ว,จงซานก็ได้ลงนามช้าๆในโองการฟ้า,หลังจากนั้นก็จะสร้างวาสนาและถวายบัญชาต่อสวรรค์ต่อไป,เพื่อเป็นรายงานต่อเทพ.

"ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน"

เหล่าเจ้าหน้าที่หลายร้อยและเหล่าทหารกว่าล้านคนพร้อมกับคุกเข่าคำนับอีกครั้ง.

"อืม,เปิดตำหนักได้."จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

จากนั้นเขาก็,ก้าวลงเวทีช้าๆ.
 ด้วยการอารักขาจากเจ้าหน้าที่ร้อยคน,เขาก็ก้าวเดินผ่านเมืองเสวียนอีกครั้ง,ที่ใจกลางเมืองเสวียน,ใกล้ๆกับคฤหาสน์จง,ได้มีการสร้างตำหนักขนาดใหญ่ขึ้นมา.

มีชื่อตำหนักว่า"ซ่างเฉิงเตียน"

จงซานที่ก้าวเข้าไปในตำหนังซ่างเฉิงเตียนก้าวเข้าสู่ห้องบัลลังก์.

ภายในห้องโถงนั้น,มีบัลลังก์เก้ามังกร,จงซานก้าวขึ้นไปบนบัลลังก์ช้าๆ,พร้อมกับนั่งลง,ถอนหายใจยาวหนึ่งครั้ง,กวาดตามองไปยังที่นั่งด้านล่าง,ซึ่งที่แห่งนี้เป็นห้องโถงขนาดใหญ่.เหล่าเจ้าหน้าที่ข้าราชบริพารถูกจัดออกเป็นสองแถว.

"ทรงพระเจริญ!"เหล่าเจ้าหน้าที่นับร้อยที่คุกเข่าคำนับ,รวมทั้งไท่จื่อทั้งสองด้วย,พวกเขาก็แสดงความเคารพเช่นกัน.

"ลุกขึ้น."จงซานกล่าว.

"ขอบพระทัยฝ่าบาท."เจ้าหน้าที่นับร้อยกล่าวพร้อมกัน.

นับตั้งแต่ที่เกิดปรากฏการบุตรมังกรโอรสสวรรค์,เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างก็ชื่นชมเทิดทูนเขาเป็นอย่างมาก.

"หลินเซียว."จงซานที่เอ่ยปากออกมาทันที.

"ฝ่าบาท."หลินเซียวที่ก้าวออกมารับคำสั่ง.

"อาณาจักรต้าสงได้รุกรานดินแดนของพวกเรามาตลอด,เจ้าจงนำทหารกองกำลังที่หนึ่ง,ออกไปจัดการพวกเขาในทันที."จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"รับด้วยเกล้า."หลินเซียวรับคำสั่งในทันที.
"หยิงหลาน."จงซานกล่าว.
"รับบัญชาเหนือหัว."หยิงหลานก้าวออกมารับคำสั่ง.

"อาณาจักรต้าคุนได้ล่มสลายแล้ว,ภายในยังมีความไม่สงบเกิดขึ้นอยู่,เจ้านำกองกำลังที่สองออกไปกำจัดเหล่ากบฏที่ต่อต้าน,รวมทั้งกลุ่มของสี่ตระกูลใหญ่ที่ยังคงหลงเหลือ."จงซานกล่าว.

"รับด้วยเกล้า."หยิงหลานรับคำนั่งในทันที.

หลังจากนั้น,จงซานก็ได้ออกคำสั่งหลายอย่างเพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ของประชากร,เขาที่ทำการสำรวจดินแดนและจำนวนประชากรต่างๆ,ตลอดจนได้ทำการประกาศให้เมืองเสวียนกลายเป็นเมืองหลวง,ตลอดทั้งทำการขยายเมืองให้มีขนาดใหญ่ขึ้นให้มีประชาชนเข้ามาอาศัยอยู่,แม้ว่าการรบครั้งนี้จะได้รับความเสียหายไม่น้อย,และราชวงศ์ต้าเจิ้งเพิ่งเริ่มต้นราชวงศ์,ทว่าจงซานก็ได้วางแผนในการสร้างราชวงศ์มาก่อนแล้ว.

แม้ว่าราชวงศ์ต้าเจิ้งจะตั้งขึ้นไม่นาน,มีหลายร้อยสิ่งที่ต้องทำ,อย่างไรก็ตามด้วยการบริหารของจงซาน,ตามแผนการที่เขาวางไว้,ทุกอย่างจึงเป็นไปอย่างรวดเร็วกว่าราชวงศ์เดิมต้าคุนมาก.

"ออกไปปฏิบัติหน้าที่ได้แล้ว."

เหว่ยไท่จงกล่าว.

"ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน!"

เหล่าเจ้าหน้าที่ก็ถอยออกไป.

หลังจากนั้น,จงซานก็ออกจากตำหนักซ่างเฉิงเตียน,กลับไปยังคฤหาสน์จง.

เมื่อการสร้างชาติได้เสร็จสิ้นอย่างเป็นทางการ,จงเทียนก็เข้ามาหาจงซานในเวลาเย็น.

"ฟู่หวง."จงเทียนที่กล่าวอย่างเคารพ.

"อืม,เจ้ากลับสำนักได้,และเตรียมตามอาจารย์ของเจ้าเดินทางไปยังทวีปศักดิ์สิทธิ์ดังที่ควรจะเป็น,ไม่จำเป็นต้องกังวล,จำเอาไว้,ไมว่าอย่างไรในอนาคต,เจ้าคือไท่จื่อราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้ง."จงซานกล่าวอย่างจริงจัง.

"ครับ,ฟู่หวง."จงซานที่ตอบรับ.

"อืม,นี่คือศิลาวิญญาณ 500 ก้อน,เพื่อช่วยเจ้าฝึกฝน,สำหรับในเวลานี้น่าจะเพียงพอ."จงซานกล่าว.

"จากนั้นเขาได้กองศิลาวิญญาณเป็นจำนวนมาก,วางเอาไว้บนโต๊ะ.

"ขอบพระทัยฟู่หวง."จงซานพยักหน้ารับ.

"อืม,ไปได้แล้ว."จงซานกล่าว.

"ครับ."จงเทียนพยักหน้ารับจากนั้นก็จากไปในทันที.

ในห้องโถงกล้วยไม้ที่ว่างเปล่า.จงซานที่กล่าวออกมาเบาๆ."อันหวง,ออกมา."

"ขอรับ,จู่เหริน."อันหวงที่ออกมาจากที่ซ่อน.

เขาที่จ้องมองไปยังอันหวง,จงซานที่เอ่ยปากออกมาในทันที,"นับจากวันนี้ข้าได้วางแผนเอาไว้แล้ว,ข้าจะก่อตั้งกององค์รักษ์วังหลวงขึ้น,ซึ่งมีสองหน่วยงาน,หน่วยงานแรกอยู่ในที่สว่างเรียกว่า"จิ่นอีเว่ย."ส่วนอีกกองอยู่ในที่มืด,ข้าจะทำการเปลี่ยนอันเย่ตังทั้งหมดเข้ามาเป็นองค์รักษ์วังหลวงให้มีชื่อว่า หยิงเหว่ย นับจากวันนี้เจ้าเป็นหัวหน้าองค์รักษ์ดูแลองค์รักษ์เงาทั้งหมด."
***จิ่นอีเว่ย - หรือ กององครักษ์เสื้อแพร.
***  Yǐng wèi กององค์รักษ์เงา

"ครับ"อันหวงที่ตอบรับในทันที.

"อืม,เจ้าจงรวบรวมหยิงเหว่ยขึ้นมากองหนึ่ง,คอยอารักษ์ขาหยิงหลานเอาไว้ให้ดี."จงซานกล่าว.

"ขอรับ."อันหวงที่ตอบรับในทันที.
.......

ห้องโถงไคหยาง,ยอดเขาไคหยาง,สำนักไคหยาง.

เทียนซวินจื่อที่นั่งอยู่บนบัลลังก์,ซึ่งมีอีกสองคนคือเสวียนซวินจื่อและกู่ซ่างจื่อนั่งอยู่ด้านข้าง,ทว่าตั้งแต่แรกแล้ว,มีสาวน้อยที่ใบหน้าแดงกล่ำด้วยความตื่นเต้นเทียนหลิงเอ๋ออยู่ห่างออกมา,ตลอดจนใบหน้าที่ไม่เป็นมิตรกับใครเนี่ยชิงชิง,ที่ขมวดคิ้วไปมา,ราวกับว่าไม่สนใจใคร,หากว่าไม่เพราะหลิงเอ๋อ,เนี่ยชิงชิงคงจะสะบัดกายจากไปนานแล้ว.

ภายในห้องโถงหลักนี้,ยังมีอีกคนหนึ่ง,หลังจากที่ปลงผม,ทำความสะอายร่างกาย,ตลอดจนสวมชุดสีขาวล้วน,ซึ่งก็คือจงซานนั่นเอง.

จงซานที่นั่งคุกเข่าอยุ่ด้านล่างเทียนซวินจื่อ,พร้อมกับคำนับสามครั้ง,เป็นขั้นตอนหลักของสำนักไคหยางนั่นเอง.

"ศิษย์จงซาน,คารวะอาจารย์."จงซานที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง,จากนั้นก็เสริฟน้ำชา,ต่อเทียนซวินจื่อ.

นับจากวันนี้,จงซานก็ได้เข้าพิธีเข้าเป็นศิษย์หลักของสำนักแล้ว,ใบหน้าที่ภาคภูมิเป็นอย่างมาก,ในเวลานี้เขาได้ทำการสร้างราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้ง,กลายเป็นเจ้าแผ่นดิน,ทำไมเขาต้องทำเช่นนี้ด้วยล่ะ,แน่นอนว่านี่จะทำให้พลังฝึกตนของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าเมื่อก่อนนั่นเอง,ในสำนักไคหยางนั้น,หากว่ามีใครในระดับแกนทองแนะนำก็ทำให้จงซานซาบซึ้งแล้ว,ทว่าตอนนี้เทียนซวินจื่อที่มีระดับก่อตั้งวิญญาณ,เรื่องนี้ย่อมทำให้เขาพึงพอใจเป็นอย่างมาก.

เป่ยชิงซือที่อยู่ในแกนทอง,ยังสามารถแนะนำเรื่องหลายเรื่องให้กับจงซานก่อนหน้านี้,ทำให้เขารู้สึกพึงพอใจไม่น้อยกับคำแนะนำจากนาง,ตอนนี้เขาได้รับการชี้แนะจากประมุขสำนัก,จะไม่ทำให้จงซานพอใจได้อย่างไร.

หลังจากผ่านพิธีการคารวะและเสริฟน้ำชา,เทียนซวินจื่อก็เผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล,"ตามกฏระเบียบของสำนัก,เจ้าเพิ่งอยู่ในระดับเซียนเทียน,เป็นศิษย์ลำดับสาม,ข้าจึงสามารถรับเจ้าเข้ามาในนามเท่านั้น,เมื่อไหร่เจ้าสำเร็จระดับแกนทอง,เจ้าก็จะกลายเป็นศิษย์ของข้าอย่างเป็นทางการ."

"ครับ,อาจารย์."จงซานที่ตอบรับ.

ทุกคนในห้องโถงต่างก็เป็นพยานในวันนี้.

"นี่คือหยกอักขระสองชิ้น,ข้าคิดว่าเจ้าคงเคยเห็นหลิงเอ๋อใช้,นี่เป็นของที่อาจารย์มอบให้กับศิษย์."เทียนซวินจื่อที่มอบหยกอักขระให้กับจงซาน.

"ขอบคุณท่านอาจารย์."จงซานพยักหน้าด้วยความตื่นเต้นและรับมันมา,หนึ่งคือหยกอักขระวิหคเหมันตร์,อีกหนึ่งคือหยกอักขระวิหคเพลิง.

เขาได้เห็นเทียนหลิงเอ๋อใช้แล้ว,มันสามารถจัดการผู้ฝึกตนแกนทองระดับต้นได้เลย,ทว่า,ในเมื่อมันมาอยู่ในมือของจงซาน,มันจะทรงพลังมากกว่านั้นอย่างไม่ต้องสงสัย.

"อืม,ในเมื่อทุกคนรับรู้แล้วว่าเขาได้อาจารย์,ข้าคงต้องขอตัวล่ะ,หลิงเอ๋อพวกเราไปเถอะ."เนี่ยชิงๆที่เอ่ยออกมาในทันที,เขาไม่ได้ไว้หน้าเทียนซวินจื่อเลยแม้แต่น้อย.

"ไม่ๆ,อี้เหนียง,ท่านไปก่อนเถอะ!"เทียนหลิงเอ๋อที่ส่ายหน้าไปมา.

นับตั้งแต่เหตุการณ์หุบเขาแมงป่องอสนี,เทียนหลิงเอ๋อก็รับรู้ตัวแล้วว่า,ใครคือคนที่นางต้องการ,ตอนนี้จะให้นางจากไปได้อย่างไร?

นางที่จ้องมองไปยังจงซานพร้อมกับขมวดคิ้วไปมา.

"เชอะ!"เนี่ยชิงชิงแค่นเสียงอย่างเย็นชา,สะบัดกายออกไปจากห้องโถงไคหยางทันที.

ในห้องโถงหลังนั้น,กู่ซ่างจื่อที่จ้องมองอย่างเย็นชา,เห็นชัดเจนว่านางเองไม่ค่อยต้อนรับเนี่ยชิงชิงเท่าใดนัก,ส่วนเสวียนซวินจื่อนั้นไม่ได้มีความรู้สึกใดๆ,ส่วนเทียนหลิงเอ๋อนั้นไม่ได้รับรู้สิ่งใด,นางที่ไม่เห็นสิ่งใดทั้งนั้น,ในเวลานี้ภายในหัวของนางมีแต่จงซานเท่านั้น,ส่วนเทียนซวินจื่อที่ถอนหายใจเบาๆ,ภายในใจของเขาเองรู้สึกติดค้างต่อนางอยู่เล็กน้อยเช่นกัน.

"ศิษย์พี่ใหญ่ท่านมีตาทิพย์จริงๆที่มองเห็นพรสวรรค์ของจงซาน,ไม่ถึงสองปีด้วยซ้ำ,นับตั้งแต่เขานำชิ้นส่วนหยกมายังสำนักไคยาง,ทุกคนไม่เคยคิดเลยว่าพลังฝึกตนของเขาจะรวดเร็วขนาดนี้,ตอนนี้อยุ่ในระดับห้าเซียนเทียน,ในกลุ่มของศิษย์ใหม่,คนที่ก้าวไปถึงระดับห้าเซียนเทียนมีไม่มากเลย."เสวียนซวินจื่อที่กล่าวออกมาทันที.

"มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอก,นี่เป็นเพราะจงซานเขาพยายามมากว่าใคร,มีจิตใจที่แข็งแกร่ง,ที่ยากที่จะมีใครทำได้."เทียนซวินจื่อกล่าวตอบ.

"ศิษย์เพียงแค่โชคดีเท่านั้น."จงซานทีก่ล่าวออกมาเช่นกัน.

ทุกคนที่จ้องมองไปยังจงซาน,พร้อมกับพยักหน้าให้ด้วยความพอใจ.

"ข้าเองก็คงต้องไปเหมือนกัน."กู่ซ่างจื่อที่กล่าวออกมาเช่นกัน.

"อืม."เทียนซวินจื่อพยักหน้า.

"ขอลา." "ขอลาเช่นกัน."

เสวียนซวินจื่อและกู่ซ่างจื่อทั้งคู่กล่าวลาพร้อมกัน.

เทียนซวินจื่อพยักหน้าให้,จากนั้นทั้งคู่ก็จากไป.

ในห้องโถงเวลานี้,มีคนอยู่สามคน,เทียนซวินจื่อ,จงซานและเทียนหลิงเอ๋อ.

"จงซาน,ร่างกายของเจ้า,ข้าได้ตรวจสอบแล้ว,เจ้าอยู่ในระดับห้าขั้นปลาย,จวนจะสามารถสร้างแกนแท้ได้แล้ว,เมื่อเจ้าสามารถทะลวงพลังฝึกตน,สร้างแกนแท้ได้,ข้าจะแนะนำเจ้าอีกครั้งในการทะลวงจุดชีพจร."เทียนซวินจื่อกล่าว.

"ครับ."จงซานที่กล่าวตอบรับ.

"หลิงเอ๋อ."เทียนซวินจื่อที่กล่าวออกมาในทันที.

"ห๋า?"เทียนหลิงเอ๋อที่จ้องมองไปยับงเทียนซวินจื่อด้วยความสงสัย.

"เจ้าออกไปครั้งนี้,ถือว่าสามารถเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่,เจ้าก้าวไปถึงระดับสิบเซียนเทียน,หลังจากนี้ครึ่งเดือนเจ้าจะต้องเก็บตัวฝึกฝนเพื่อทะลวงไปยังระดับแกนทอง."เทียนซวินจื่อกล่าวอย่างจริงจัง.

"อ๋า? เร็วขนาดนั้นเลยรึ?"เทียนหลิงเอ๋อที่อุทานออกมา,ใบหน้าที่ดูไม่ค่อยยินดีนัก.

จงซานที่ได้ยินค่อนข้างหดหู่,พลังฝึกตนของนางนับว่ารวดเร็วมาก,ทว่าตัวเขากับเป็นเรื่องยากมากๆ?

เทียนซวินจื่อที่ได้ยินคำพูดดังกล่าวถึงกับสะอึกพูดไม่ออกไปเลยทีเดียว.

"มีปัญหาอะไรกัน?ไม่ใช่ว่าเจ้าต้องการก้าวไปยังระดับแกนทองอย่างงั้นรึ?"เทียนซวินจื่อสอบถาม.

"ก็ขั้นตอนที่เก็บตัวทะลวงไปยังขั้นแกนทอง,จะต้องใช้เวลาอย่างน้อยตั้งหนึ่งปี,และต้องเก็บตัวอยู่ในห้องแคบๆ,ข้าคงเบื่อแย่เลย."เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาในทันที,ขณะที่นางกล่าว,นางแอบชำเลืองมองไปยังจงซานเป็นระยะ.

"ไม่ช้าก็เร็วเจ้าก็ต้องเข้าไป,อีกครึ่งเดือนหลังจากนี้,เจ้าจะต้องอยู่ในห้องลับ,ขังตัวในห้องที่มีพลังจิตวิญญาณหนาแน่น,ซึ่งนั่นจะช่วยให้เจ้าสามารถทะลวงผ่านขั้นได้ง่ายขึ้น."เทียนซวินจื่อกล่าวออกมาอย่างจริงจัง.

"ก็ได้."เทียนหลิงเอ๋อที่พยักหน้ารับในทันที.

"อาจารย์,ภายในนิกายของพวกเรามีบันทึกเกี่ยวกับสมบัติสวรรค์และตำราเกี่ยวกับสมุนไพร,ข้อมูลสัตว์อสูรและอุปกรณ์ต่างๆหรือไม่?"จงซานสอบถาม.

"เจ้าต้องการจะดูอย่างงั้นรึ?"เทียนซวินจื่อที่จ้องมองไปยังจงซานขณะพูด.

"ครับ,ศิษย์ต้องการเข้าใจเกี่ยวกับข้อมูลต่างๆล่วงหน้า,เกรงว่าหากพลาดไป,คงจะน่าเสียดาย."จงซานกล่าว.

"ได้,หลิงเอ๋อ,เจ้าพาจงซานไปยังหอสมบัติหายากก็แล้วกัน."เทียนซวินจื่อ.

"ได้,ได้,ได้."เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

"อาจารย์,เช่นนั้นศิษย์ไม่รบกวนแล้ว."จงซานกล่าวออกมาอย่างสุภาพ.

หลังจากนั้น,เทียนหลิงเอ๋อก็พาเขาข้ามภูเขาหลายลูก,ตรงไปยังหอสมบัติหายากอย่างรวดเร็ว.

เทียนซวินจื่อที่จ้องมองอยู่บนยอดเขา,กวาดตามองคนสองคนที่กำลังข้ามภูเขาไป,จ้องมองใบหน้าของเทียนหลิงเอ๋อที่ตื่นเต้น,และจ้องมองไปยังจงซาน,สายตาของเขานั้นมีประกายแสงความอ่อนโยนแฝงอยู่.

หอสมบัติหายากนั้น,เป็นโถงใหญ่ที่ตั้งอยู่ลึกเข้าไปในหุบเขา,สถานที่ดังกล่าวนั้นดูประณีตงดงามไม่น้อยทีเดียว,เป็นป่าไผ่,ที่เขียวชอุ่ม,ดูเงียบสงบเป็นอย่างมาก.

อย่างไรก็ตาม,เมื่อจงซานและเทียนหลิงเอ๋อเข้ามาในภูเขา,ชายชราสองคนก็ได้ยินเสียงในทันที.

ไม่ไกลออกไปนั้น,จงซานสามารถจดจำชายชราคนหนึ่งได้ในทันที.

เขาคือผู้พิทักษ์ขุนเขา,เป็นคนๆแรกที่เขาเจอเมื่อครั้งเดินทางมายังสำนักไคหยาง.ชายชราดังกล่าวเป็นคนดูแลทางเข้าในครั้งนั้น,ดูเหมือนว่าเขาจะมีสัญญาณแห่งความตายปรากฏขึ้นมาแล้ว,ทำให้จงซานสัมผัสได้ว่าเขาเป็นชายชราที่ดูลึกลับเป็นอย่างมาก.

ส่วนอีกคนที่อยู่ข้างๆผู้พิทักษ์ขุนเขา,เป็นชายแก่อีกคนที่กำลังนั่งโขลกหมากรุกกับเขาอยู่,บางทีคนทั้งสองก็โต้เถียงไปมา,ต่างคนต่างไม่มีใครยอมใครเลยทีเดียว.

"ซานเหยี่ยเยี่ย,จงเหยี่ยเยี่ย,มีใครกำลังลืมเวลาขลุกอยู่แต่ที่นี่เป็นเวลานานหรือไม่?"เทีนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มต่อหน้าชายชราทั้งสอง,ดวงตาที่ส่องประกายล้อเลียนอยู่,ทว่าใบหน้ากับดูบ้องแบ้วไร้เดียวสาดูน่ารักน่าชัง.

ผู้พิทักษ์แห่งขุนเขาที่กล่าวออกมาทันที,"จงเหยี่ยเยี่ยของเจ้านะซิหน้าด้าน,ไม่ยอมเลิกซักที."

"เจ้าสิหน้าด้าน,ตาเมื่อกี้เจ้าเพิ่งแพ้,เลยขอแก้มือ,หัวของเจ้ามีแต่ขี้เรื่อยรึไง."ชายชราอีกคนที่โต้เถียงออกมาทันที.

"เจ้านะสิแพ้,หลิงเอ๋ออยู่ที่นี่แล้ว,อย่าทำอะไรขายหน้า."ผู้พิทักแห่งขุนเขาที่กล่าวโต้ในทันที.

เทียนหลิงเอ๋อที่จ้องมองชายชราทั้งสองที่โต้เถียงกันไปมา.

"ศิษย์จงซาน,คารวะอาวุโสทั้งสอง."จงซานที่กล่าวออกมาอย่างขึงขัง.

ชายชราสองคนที่จ้องมองมายังจงซาน.

"เป็นเจ้าใช่ใหม่ที่เป็นคนนำชิ้นส่วนหยกมาส่ง?"ผู้พิทักษ์แห่งขุนเขากล่าวต่อจงซาน.

"เป็นศิษย์เอง."จงซานที่กล่าวออกมาในทันที.

"ข้าเคยบอกเจ้ามาก่อนแล้วข้าเป็นแค่เพียงคนเฝ้าประตู,ส่วนเขาเป็นเพียงคนเฝ้าหอสมบัติหายาก."ผู้พิทักษ์แห่งขุนเขาที่ส่ายหน้าไปมา.

"ซานเหยี่ยเยี่ย,จงเหยี่ยเยี่ย,จงซานได้กลายเป็นศิษย์หลักของท่านพ่อแล้ว,ท่านพ่อให้ข้านำเขามายังหอสมบัติหายากเพื่อศึกษาตำรา."เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาในทันที.

"อย่างงั้นรึ?"ชายชราสองคนที่หันหน้ามาจ้องมองจงซานอีกครั้ง,ภายในสายตาส่องประกายสายตาที่ประหลาดใจ.

"ใช่แล้ว,เช่นนั้นข้าไม่รบกวนพวกท่านเล่นหมากรุกแล้ว,ข้าและจงซานขอเข้าไปในหอสมบัติก่อน,เอาล่ะ,ข้าคิดว่าตอนนี้ถึงตาของซานเหยี่ยเยี่ยแล้ว."เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาอย่างซุกซน,จากนั้นก็ดึงมือจงซานวิ่งเข้าไปในหอคอยสมบัติหายาก.

จากคำพูดของเทียนหลิงเอ๋อถึงกับทำให้ผู้พิทักษ์แห่งขุนเขาต้องกินเม็ดยาเซียนในทันที,ด้วยหันไปพูดคุยกับจงซานกับเทียนหลิงเอ๋อทำให้พวกเขาลืมกระดาษหมากรุกไปซะสนิท.

"ฮ่าฮ่าฮ่า,ดูเหมือนว่า,หลิงเอ๋อจะเห็น,ตาต่อไปเป็นของข้า,ตงเหยี่ยนเจ้าว่าจริงหรือไม่?"ผู้พิทักษ์แห่งขุนเขาที่กล่าวออกมาอย่างตื่นเต้น.

"ไม่ช่ว่าหลิงเอ๋อบอกตาก่อนหน้านี้หรอกรึ? นั่นก็หมายความว่า,ต่อต่อไปต้องเป็นข้า,"ชายชราอีกคนก็โต้เถียงออกมาในทันที.
...

ชายชราทั้งสองคนยังคงโต้เถียงกันไปมาไม่หยุด,ส่วนจงซานและเทียนหลิงเอ๋อได้เข้ามาในหอคอยสมบัติหากแล้ว.

"หลิงเอ๋อ,คนทั้งคู่เป็นใครอย่างงั้นรึ?"จงซานที่สอบถามเทียนหลิงเอ๋อ.

"เจ้าหมายถึงจงเหยี่ยเยี่ยและซานเหยี่ยเยี่ยนะรึ?ข้าเองก็ไม่รู้,ข้าเห็นพวกเขามาตั้งแต่เด็กๆแล้ว,ซานเหยี่ยเยี่ยนั้นถูกเรียกว่าผู้พิทักษ์แห่งขุนเขา,ส่วนจงเหยี่ยเยี่ยนั้นถูกเรียกว่าผู้พิทักษ์สำนัก,พวกเขาไม่เคยพูดคุยกับคนอื่นเลย,มีเพียงแค่ข้าเท่านั้น,ร้ายกาจใหมล่ะ?"เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาอย่างภาคภูมิ.

"ร้ายกาจ."จงซานที่พยักหน้า.


ผู้พิทักษ์ขุนเขา?ผู้พิทักษ์นิกาย?


ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

1 ความคิดเห็น: