Immortality Chapter 1339 Starts the layout
Chapter 1339 Starts the layout
开始布局
เริ่มวางแผน.
ตำหนักเทียนหยวน,จงซานและเหล่าเสนาธิการจำนวนหนึ่งกำลังพูดคุยแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับอสูรเปลี่ยนร่าง,ภายในใจของทุกคนที่รับรู้เกี่ยวกับความร้ายกาจของอสูรเปลี่ยนร่างแล้ว.
"เซิ่งหวัง,เงาเทวะของไท่จื่อ,บนทะเลวาสนาเวลานี้จะเป็นอย่างไร?"หลินอู๋ซ่างที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
สายตาของทุกคนที่เผยท่าทางแปลกประหลาดออกมาในทันที,ก่อนที่จะจ้องมองไปยังศพของจงเสวียนที่อยู่กลางห้องในทันที.
"อสูรเปลี่ยนร่างนั้นเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก,เขาที่ทำร้ายดวงวิญญาณของอีกฝัง,แม้นว่าจะสังหารฝ่ายตรงข้าม,ทว่าดวงวิญญาณจะไม่สลายหายไปในทันที,ดังนั้นภาพเงาเทวะจึงยังอยู่,ในเวลาเดียวกัน,วาสนาต้าเจิ้งที่ยังคงรักษาดวงวิญญาณจึงยังไม่สลายหายไปในทันที,ทว่าก็คงอยู่ได้ไม่นาน,ก่อนที่ทุกอย่างจะสลายไป,อีกไม่นานเงาเทวะก็คงสลายหายไป!"จงเทียนที่ส่ายหน้าไปมา.
"เรียนเซิ่งหวัง,ไท่จื่อตัวปลอมนั้นแม้ว่าจะใช้วาสนารวมวิญญาณเอาไว้,ขณะดวงวิญญาณแตกสลาย,หากแต่เฉินนั้นสามารถที่จะรักษาฟื้นคืนกลับได้!"เซียนเซิงซือที่เป็นคนเอ่ยกล่าวออกมา.
"หืม?"ทุกคนที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ.
"ช่วยได้อย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาตามตรง.
"ครับ!"เซียนเซิงซือที่พยักหน้ารับ.
ในเวลาเดียวกันเหล่าเสนาธิการต่างก็จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือด้วยความจริงจัง,แน่นอนว่าในเวลานี้ทุกคนต่างก็ต้องระวังกันและกันเอาไว้.
ศัตรูอยู่ในที่มืด,พวกเขาย่อมจำเป็นต้องมองหาทางรอดเอาไว้ด้วย.
สายตาของทุกคนที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ,ทว่าเซียนเซิงซือที่นำระฆังเล็กออกมา.
"แกร๊ง แกร๊ง แกร๊ง!"
เสียงของระฆังที่ส่งเสียงแปลกๆ,ก่อนที่จะปล่อยแสงสีฟ้าไปยังศพของไท่จื่อ,ปกคลุมเอาไว้,ทุกคนที่จ้องมองเงียบๆ.
"รวม!"เซียนเซิงซือกล่าวออกมาเสียงดัง.
"วูซซซ!"ร่างไท่จื่อตัวปลอมลืมตาขึ้นในทันที.
"มีชีวิตอย่างงั้นรึ?"เหล่าเสนาธิการที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
"วิชาของเซียนเซิงซือช่างลึกล้ำนัก,จงเทียนชื่นชม!"จงเทียนที่กล่าวพลางถอนหายใจ.
แม้แต่ปราชญ์เทพยังไม่สามารถทำอะไรได้,ทว่าเซียนเซิงซือกลับสามารถใช้เพียงระฆังเล็กชุบชีวิตได้อย่างงั้นรึ?
ช่างเป็นวิชาที่ลึกล้ำเป็นอย่างมาก.
ทุกคนที่จ้องมองเซียนเซิงซือพลางถอนหายใจ.
สายตาของไท่จื่อปลอมที่กวาดตามองทุกคน,ก่อนที่จะค่อยๆลุกขึ้นช้าๆ,แววตายังคงงงงวยอยู่.
"เจ้าเป็นใคร?"จงซานสอบถามออกไป.
ไท่จื่อปลอมที่กุมศีรษะเอาไว้,ราวกับว่าไม่รู้จักและจำอะไรได้.
"เซิ่งหวัง,ดวงวิญญาณของเขาเพิ่งรวมตัวกัน,จำเป็นต้องใช้เวลาฟื้นฟู!"เซียนเซิงซือกล่าว.
"อืม,ดี!เซียนเซิงซือเจ้าช่วยเข้าฟื้นฟูความทรงจำ!"จงซานกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ครับ!"เซียนเซิงซือพยักหน้ารับ.
"ข้าได้บอกทุกอย่างกับพวกเจ้าแล้ว,จากนี้ให้ระวังตัวกันด้วย!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"รับทราบ!"เสนาธิการทุกคนที่ตอบรับพร้อมๆกัน.
"เลิกประชุม!"จงซานกล่าว.
"ครับ!"ทุกคนที่ค่อยถอยจากไปช้าๆ.
จากนั้นไม่นาน,ภายในตำหนักเทียนหยวน,เหลือคนเพียงสี่คน,จงเทียน,เซียนเซิงซือและไท่จื่อปลอม.
ขณะที่ทุกคนถอยไป,ดวงตาของไท่จื่อปลอมที่ไร้ประกาย,ก่อนที่จะฟุบสลบไปอีกครั้ง.
"เซิ่งหวัง,โชคดีที่เฉินไม่ได้ทำภารกิจผิดพลาด!"เซียนเซิงซือที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
จงซานที่ขมวดคิ้วแน่น,ลุกขึ้นยืน,ก้าวเดินไปยังตำแหน่งของไท่จื่อปลอม.
"เทียนเอ๋อ,เจ้าตรวจสอบทุกคนก่อนหน้านี้พบอะไรบ้าง?"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"หืม,ไม่พบอะไรเลย!"จงเทียนที่ส่ายหน้าไปมา.
"เซียนเซิงซือ,นี่ไม่ใช่ไท่จื่อปลอมไม่ใช่รึ?
สามารถฟื้นคืนชีพได้ด้วยรึ?"จงเทียนที่สอบถามออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"เป็นคำสั่งของเซิ่งหวังที่สั่งเฉินก่อนหน้านี้,ด้วยการใช้วิชาควบคุมศพ,ใช้เศษวิญญาณที่แตกสลายในการควบคุม,ท่านเป็นปราชญ์เทพยังไม่สามารทำได้,แล้วเฉินจะชุบชีวิตกลับมาได้อย่างไร?"เซียนเซิงซือที่ฝืนยิ้มกล่าวออกมา.
จงเทียนที่จ้องมองไปยังจงซาน,ภายในใจที่ราวกับเขาใจว่าฟู่หวงนั้นจงใจที่จะสร้างความเข้าใจให้ทุกคนรับรู้ว่าสามารถฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้.
มีชีวิตอย่างงั้นรึ?
ส่วนจงซานในเวลานี้เต็มไปด้วยความจริงจัง.
"เซียนเซิงซือ,ศพชีวิตนี้,มอบให้เจ้าเป็นคนควบคุม,เมื่อถึงเวลามันจะช่วยพวกเราได้มาก!"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ครับ!"เซียนเซิงซือพยักหน้ารับ.
กระดิ่งที่สั่นอีกครั้ง,ไท่จื่อปลอมที่ลุกขึ้นเดินตามเซียนเซิงซือไป.
"เทียนเอ๋อ,นับจากวันนี้,จงระวังให้ดี,อสูรเปลี่ยนร่าง,บางทีอาจจะเล็งเจ้าอยู่!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ท่านพ่อโปรดวางใจ,ยิ่งบุตรเป็นปราชญ์เทพ,ฝ่ายตรงข้ามเองก็ต้องระวังบุตรเช่นกัน!"จงเทียนพยักหน้ารับ.
"อืม!"
คนทั้งสองที่จากไป,จงซานที่นั่งอยู่คนเดียวในตำหนักเทียนหยวน.
"ออกมา!"จงซานเอ่ยออกมาเบาๆ.
"วูซซซซ!"เงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้น.
"หยิงเหว่ย,หมายเลข 1917 คารวะเซิ่งหวัง!"องค์รักษ์เงาที่เอ่ยออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"อืม,มีใครบ้างที่หายไป?"จงซานสอบถาม.
"ครับ,ในตำหนักใน,องค์รักษ์สี่คนหายไป,ไม่สามารถหาศพเจอได้,ดูเหมือนว่าอสูรเปลี่ยนเวลาจะใช้พวกเขาเปลี่ยนร่างไปทั้งหมด!"องค์รักษ์เงาเอ่ย.
"เปลี่ยนร่างมากมายขนาดนั้นเลยรึ?
ถูกลบหายไปไร้ซึ่งร่องรอย?ร้ายกาจจริงๆ,ออกไปได้!"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ครับ!"ร่างเงาที่หายไปไม่เห็นร่องรอย.
องค์รักษ์เงาที่จากไป,จงซานที่ครุ่นคิดเกี่ยวกับวิธีที่จะจัดการกับอสูรเปลี่ยนร่าง,เชาว์ปัญญาของอสูรเปลี่ยนร่างไกลเกินที่จงซานประเมิน,ไม่สามารถจัดการได้ง่ายๆแน่.
จงซานยังคงนั่งอยู่หลังโต๊ะ,เคาะนิ้วเบาๆ,คำนวนแผนการหลากหลายอย่าง.
ในเวลาเดียวกัน,ที่ตำหนักด้านนอก,ปรากฏเสียงๆหนึ่งที่โกรธเกรี้ยวดังขึ้นที่ด้านนอกตำหนักในทันที.
"คิดจะไปที่ใหน
~~~~~~~~~~~~!”
"ตูมมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
เสียงของจงเทียนอย่างงั้นรึ? ใบหน้าของจงซานที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อนในทันที,ก่อนที่จะเร่งรีบออกมาจากตำหนักเทียนหยวน.
"เซิ่งหวัง!"ที่ด้านนอกตำหนักเทียนหยวนนั้น,องค์รักษ์ที่เร่งรีบเข้ามาคุ้มกัน.
ส่วนจงซานเวลานี้จดจ้องมองไปยังประตูสวรรค์ทิศใต้.
"ตูมมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ที่ด้านนอกตำหนักเทียนหยวนนั้น,เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น,พลังที่กระแทกกันจนทำให้ห้วงมิติสะบั้นแตกเป็นทาง,กลิ่นอายที่หนักหน่วงพวยพุ่งกระจายไปทั่วทุกสารทิศ.
"วูซซซซซ!"
ค่ายกลสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวถูกเปิดการใช้งาน,ทันใดนั้นกลิ่นอายที่ถูกขวางกันเอาไว้ด้านนอก,กลิ่นอายดังกล่าวไม่สามารถผ่านเข้ามาได้เลย.
ทว่าสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวในเวลานี้,สายตาของทุกคนต่างก็จดจ้องมองไปยังด้านนอก.
หนักฝ่ามือที่กระแทกเข้าหากัน,ห้วงมิติที่แตกสะบั้น,ใครกันที่มาหาเรื่องต้าเจิ้ง?
ที่ไกลออกไปนั้นหลังจากฝ่ามือเข้าปะทะกัน,การต่อสู้ก็ไม่ได้ดำเนินต่อไปแต่อย่างใด.
รอบๆร่างของจงเทียนที่เปล่งประกายแสงสีทองสว่างจ้า,อักษรหว่าน’卍’ ที่ล่องลอยกระจายไปรอบๆ.
ฝ่ายตรงข้าม,ปรากฏคนกลุ่มหนึ่ง,ฝ่ามือของใครบางคนที่มีใบหน้าเลือนลางเข้าปะทะกับจงเทียน,ชัดเจนว่าคือปราชญ์เทพอีกคน.
จงซานที่ก้าวออกไป,รอบๆนั้นมีข้าราชบริพารเป็นจำนวนมากล้อมรอบ.
"เทียนโจวจื่อและเก้าเซียนบรรพชน?"เซียนเซิงซือที่ดวงตาหรี่เล็กลง.
"เป็นพวกเขาเองรึ?"ใบหน้าของจงซานที่กลายเป็นซับซ้อนเคร่งขรึม.
ที่ด้านนอกประตูสวรรค์ทิศใต้,จงเทียนที่จ้องมองอย่างเย็นชาไปยังเทียนโจวจื่อ.
"ยินดีกับปราชญ์เทพจงเทียนที่ได้เป็นปราชญ์เทพ!"เทียนโจวจื่อกล่าวออกมาเบาๆ.
จงเทียนยังคงจ้องมองไปยังเทียนโจวจื่ออย่างเย็นชา,ไม่ได้สนใจแต่อย่างใด.
"ปราชญ์เทพจงเทียนอย่าได้ตำหนิ,ข้าและพวกเดินทางมายังต้าเจิ้ง,หาได้ต้องการมาหาเรื่องแต่อย่างใด!"เทียนโจวจื่อที่กล่าวออกมาในทันที.
"ไม่อย่างงั้นรึ?
คงไม่มีปิศาจร้ายที่ใหนจะยอมรับหรอกว่าจะไม่เดินทางมาทำร้ายต้าเจิ้ง!"จงเทียนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา.
"ข้าคิดว่าคงจะเข้าใจผิดกันอยู่,ข้าและพวกไม่ได้ต้องการที่จะสู้"เทียนโจวจื่อที่ส่ายหน้าไปมา!
"คิดว่าข้าใส่ร้ายเจ้าอย่างงั้นรึ?"จงเทียนกล่าวเสียนสี.
ไม่ว่าอย่างไร,จงเทียนเองหาได้มีความประทับใดๆกับเทียนโจวจื่อ,สถานที่นี่เป็นเมืองหลวงราชวงศ์ต้าเจิ้ง,จงเทียนย่อมไม่กลัวเทียนโจวจื่อ,ถึงแม้นว่าจะต้องต่อสู้,ก็ไม่มีทางพ่ายแพ้เทียนโจวจื่อแน่นอน.
ต้าเจิ้งในเวลานี้,ไม่ใช่ต้าเจิ้งในอดีตแล้ว!
ในเวลาเดียวกัน,ใบหน้าของเทียนโจวจื่อที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน,อักอ่วน,ขณะที่เขาหันหน้ากับไปมองเซียนบรรพชนของตัวเองที่ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของจงเทียนเมื่อสักครู่.
ในเวลาเดียวกันเหล่าเซียนบรรพชนที่เขานำมาใบหน้าบิดเบี้ยวและกล่าวออกมาว่า,"ปราชญ์เทพจู่,ให้พวกเราลงมือ!"
ต้องให้เทียนโจวจื่อทำอย่างไร? กับคำที่เขานำมา.
เหล่าคนที่เขานำมานั้นไม่ยินยอมที่จะยอมให้จงเทียน,เทียนโจวจื่อที่กระอักกระอ่วนใจ,ขณะที่เขาหันหน้าจดจ้องมองไปยังพื้นที่ลึกเข้าไป,กลุ่มของจงซานที่อยู่บนพื้นที่ไกลออกไป.
"เซิ่งหวังจงไม่คิดที่จะพูดคุยกันอย่างงั้นรึ?"เทียนโจวจื่อที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
จงซานที่อยู่ไกลออกมา,กล่าวออกมาเบาๆ,"เป็นการมาเยือนเป็นการส่วนตัวหรือตัวแทนของตระกูลเทียน?"
"ตัวแทนของตระกูลเทียน!"เทียนโจวจื่อกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
จงซานที่ส่ายหน้าไปมา,เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,กล่าวออกมาเบาๆ,"ในเมื่อเป็นตัวแทนของทวีปเทียน,ก็ต้องทำตามธรรมเนียมของต้าเจิงไม่สามารถที่จะรุกเข้ามาอย่างไรซึ่งกฎเกณฑ์!"
กระทำการตามธรรมเนียมอย่างงั้นรึ?
ใบหน้าของเทียนโจวจื่อที่บิดเบี้ยวอัปลักษณ์,เทียนโจวจื่อที่จื่อที่เผยแววตาขุ่นเคืองอยู่เหมือนกัน.
"ธรรมเนียมของต้าเจิ้ง,การทีทูตจะเข้าพบเซิ่งหวัง,จะต้องอยู่ห่างหนึ่งล้านลี้ส่งสารแนะนำตัว,เพื่อขออนุญาตเข้าพบเซิ่งหวัง,ถึงจะได้เข้าไปด้านใน! เพียงแค่เป็นปราชญ์เทพเลยไม่ต้องการปฏิบัติตามธรรมเนียมอย่างงั้นรึ?!"จงเทียนที่กล่าวออกไป.
จงเทียนกล่าวไม่ผิด,เป็นธรรมเนียมของต้าเจิ้งจริงๆ,อีกทั้งเวลานี้อยู่ในช่วงศึกสงคราม,การปล่อยให้ปราชญ์เทพเข้ามาโดยที่ไม่มีเหตุผล,อาจะทำให้ขวัญกำลังใจทหารลดต่ำลงได้.
กลุ่มเซียนบรรพชนที่อยู่ด้านหลังเทียนโจวจื่อที่เต็มไปด้วยความกระอักอ่วนใจ,หากแต่เทียนโจวจื่อที่ไม่ต้องการที่จะสร้างความแค้นกับจงซาน,ไม่เช่นนั้นอาจจะไม่มีโอกาสได้เจรจา,อาจถูกผลักใสออกไปได้เลย,แม้นภายในใจจะไม่พอใจอยู่ก็ตาม.
เทียนโจวจื่อที่ได้แต่เงียบงัน,แผนการตระกูลเทียนนั้นมีความสำคัญที่ตัวเขาจำต้องอดทน.
"ถอยออกไป!"เทียนโจวจื่อเอ่ย.
กลุ่มคนของตระกูลเทียนจึงทำได้แค่เพียงต้องถอยออกไปหนึ่งแสนลี้.
สายตาของเหล่าผู้ฝึกตนที่เข้าร่วมต้าเจิ้งในเวลานี้ต่างก็ตื่นตะลึง,ในเวลานี้พวกเขาที่แอบสั่นไปมา,คนของศาลเทวะต้าเจิ้งน่าเหลือเชื่อมา,เกินจริงขนาดนี้เลยรึ?
ผ่านมาพันกี่ปีกว่าเท่านั้น,นับตั้งแต่แยกสวรรค์สะบั้นปฐพี,ในคราแรกทุกคนต่างก็ดูแคลน,ทว่าในเวลานี้แม้แต่ปราชญ์เทพยังต้องทำตามธรรมเนียมของต้าเจิ้งอย่างงั้นรึ?
มีอะไรผิดพลาดอย่างงั้นรึ?
ก่อนหน้านี้,เทียนโจวจื่อที่ต้องการสังหารจงซานหลายครั้ง,แน่นอนว่าจงซานไม่จำเป็นต้องสุภาพกับเข้า,แม้นว่าจะยอมให้เขากระทำตามธรรมเนียม,ทว่าก็ยังนับว่าเสี่ยงอยู่ดี.
จากพื้นที่ไกลออกไป,เทียนโจวจื่อที่ให้คนส่งจดหมายแนะนำตัวเข้ามา,สงสารผ่านให้กับจงเทียน,แม้นว่าเขาจะไม่ต้องการทำ,ทว่าเพื่อที่จะเจรจาของจงซาน,จำเป็นต้องทำตามธรรมเนียม.
จงซานที่จ้องมองไปยังจดหมายแนะนำตัว!
จ้องมองจากพื้นที่ไกลออกไป,จงซานที่ต้องขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย,ต้าเจิ้งที่กำลังพบกับปัญหา,ทันใดนั้นเทียนโจวจื่อก็มาปรากฏอย่างงั้นรึ?
นอกจากนี้ท่าทางของเทียนโจวจื่อที่แปลกๆไปเช่นนี้?
จงซานไม่ได้ปฏิเสธในทันที,ทว่าเขาที่ครุ่นคิดอย่างระเอียด,และกล่าวออกมาว่า,"
"ให้ทูตทวีปเทียนเข้าพบได้~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ที่ไกลออกไปนั้น,เสียงของขันทีต้าเจิ้งเอ่ยกล่าวออกมาเสียงดัง,ทำให้ใบหน้าของเทียนโจวจื่อเปลี่ยนเป็นดำมืด,ไม่ยินดีแม้แต่น้อย,แต่ก็ต้องนำเซียนบรรพชนทั้งเก้าเดินทางเข้าไปพบกับจงซานในทันที.
Chapter 1339 Starts the layout
开始布局
เริ่มวางแผน.
ตำหนักเทียนหยวน,จงซานและเหล่าเสนาธิการจำนวนหนึ่งกำลังพูดคุยแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับอสูรเปลี่ยนร่าง,ภายในใจของทุกคนที่รับรู้เกี่ยวกับความร้ายกาจของอสูรเปลี่ยนร่างแล้ว.
"เซิ่งหวัง,เงาเทวะของไท่จื่อ,บนทะเลวาสนาเวลานี้จะเป็นอย่างไร?"หลินอู๋ซ่างที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
สายตาของทุกคนที่เผยท่าทางแปลกประหลาดออกมาในทันที,ก่อนที่จะจ้องมองไปยังศพของจงเสวียนที่อยู่กลางห้องในทันที.
"อสูรเปลี่ยนร่างนั้นเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก,เขาที่ทำร้ายดวงวิญญาณของอีกฝัง,แม้นว่าจะสังหารฝ่ายตรงข้าม,ทว่าดวงวิญญาณจะไม่สลายหายไปในทันที,ดังนั้นภาพเงาเทวะจึงยังอยู่,ในเวลาเดียวกัน,วาสนาต้าเจิ้งที่ยังคงรักษาดวงวิญญาณจึงยังไม่สลายหายไปในทันที,ทว่าก็คงอยู่ได้ไม่นาน,ก่อนที่ทุกอย่างจะสลายไป,อีกไม่นานเงาเทวะก็คงสลายหายไป!"จงเทียนที่ส่ายหน้าไปมา.
"เรียนเซิ่งหวัง,ไท่จื่อตัวปลอมนั้นแม้ว่าจะใช้วาสนารวมวิญญาณเอาไว้,ขณะดวงวิญญาณแตกสลาย,หากแต่เฉินนั้นสามารถที่จะรักษาฟื้นคืนกลับได้!"เซียนเซิงซือที่เป็นคนเอ่ยกล่าวออกมา.
"หืม?"ทุกคนที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ.
"ช่วยได้อย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาตามตรง.
"ครับ!"เซียนเซิงซือที่พยักหน้ารับ.
ในเวลาเดียวกันเหล่าเสนาธิการต่างก็จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือด้วยความจริงจัง,แน่นอนว่าในเวลานี้ทุกคนต่างก็ต้องระวังกันและกันเอาไว้.
ศัตรูอยู่ในที่มืด,พวกเขาย่อมจำเป็นต้องมองหาทางรอดเอาไว้ด้วย.
สายตาของทุกคนที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ,ทว่าเซียนเซิงซือที่นำระฆังเล็กออกมา.
"แกร๊ง แกร๊ง แกร๊ง!"
เสียงของระฆังที่ส่งเสียงแปลกๆ,ก่อนที่จะปล่อยแสงสีฟ้าไปยังศพของไท่จื่อ,ปกคลุมเอาไว้,ทุกคนที่จ้องมองเงียบๆ.
"รวม!"เซียนเซิงซือกล่าวออกมาเสียงดัง.
"วูซซซ!"ร่างไท่จื่อตัวปลอมลืมตาขึ้นในทันที.
"มีชีวิตอย่างงั้นรึ?"เหล่าเสนาธิการที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
"วิชาของเซียนเซิงซือช่างลึกล้ำนัก,จงเทียนชื่นชม!"จงเทียนที่กล่าวพลางถอนหายใจ.
แม้แต่ปราชญ์เทพยังไม่สามารถทำอะไรได้,ทว่าเซียนเซิงซือกลับสามารถใช้เพียงระฆังเล็กชุบชีวิตได้อย่างงั้นรึ?
ช่างเป็นวิชาที่ลึกล้ำเป็นอย่างมาก.
ทุกคนที่จ้องมองเซียนเซิงซือพลางถอนหายใจ.
สายตาของไท่จื่อปลอมที่กวาดตามองทุกคน,ก่อนที่จะค่อยๆลุกขึ้นช้าๆ,แววตายังคงงงงวยอยู่.
"เจ้าเป็นใคร?"จงซานสอบถามออกไป.
ไท่จื่อปลอมที่กุมศีรษะเอาไว้,ราวกับว่าไม่รู้จักและจำอะไรได้.
"เซิ่งหวัง,ดวงวิญญาณของเขาเพิ่งรวมตัวกัน,จำเป็นต้องใช้เวลาฟื้นฟู!"เซียนเซิงซือกล่าว.
"อืม,ดี!เซียนเซิงซือเจ้าช่วยเข้าฟื้นฟูความทรงจำ!"จงซานกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ครับ!"เซียนเซิงซือพยักหน้ารับ.
"ข้าได้บอกทุกอย่างกับพวกเจ้าแล้ว,จากนี้ให้ระวังตัวกันด้วย!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"รับทราบ!"เสนาธิการทุกคนที่ตอบรับพร้อมๆกัน.
"เลิกประชุม!"จงซานกล่าว.
"ครับ!"ทุกคนที่ค่อยถอยจากไปช้าๆ.
จากนั้นไม่นาน,ภายในตำหนักเทียนหยวน,เหลือคนเพียงสี่คน,จงเทียน,เซียนเซิงซือและไท่จื่อปลอม.
ขณะที่ทุกคนถอยไป,ดวงตาของไท่จื่อปลอมที่ไร้ประกาย,ก่อนที่จะฟุบสลบไปอีกครั้ง.
"เซิ่งหวัง,โชคดีที่เฉินไม่ได้ทำภารกิจผิดพลาด!"เซียนเซิงซือที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
จงซานที่ขมวดคิ้วแน่น,ลุกขึ้นยืน,ก้าวเดินไปยังตำแหน่งของไท่จื่อปลอม.
"เทียนเอ๋อ,เจ้าตรวจสอบทุกคนก่อนหน้านี้พบอะไรบ้าง?"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"หืม,ไม่พบอะไรเลย!"จงเทียนที่ส่ายหน้าไปมา.
"เซียนเซิงซือ,นี่ไม่ใช่ไท่จื่อปลอมไม่ใช่รึ?
สามารถฟื้นคืนชีพได้ด้วยรึ?"จงเทียนที่สอบถามออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"เป็นคำสั่งของเซิ่งหวังที่สั่งเฉินก่อนหน้านี้,ด้วยการใช้วิชาควบคุมศพ,ใช้เศษวิญญาณที่แตกสลายในการควบคุม,ท่านเป็นปราชญ์เทพยังไม่สามารทำได้,แล้วเฉินจะชุบชีวิตกลับมาได้อย่างไร?"เซียนเซิงซือที่ฝืนยิ้มกล่าวออกมา.
จงเทียนที่จ้องมองไปยังจงซาน,ภายในใจที่ราวกับเขาใจว่าฟู่หวงนั้นจงใจที่จะสร้างความเข้าใจให้ทุกคนรับรู้ว่าสามารถฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้.
มีชีวิตอย่างงั้นรึ?
ส่วนจงซานในเวลานี้เต็มไปด้วยความจริงจัง.
"เซียนเซิงซือ,ศพชีวิตนี้,มอบให้เจ้าเป็นคนควบคุม,เมื่อถึงเวลามันจะช่วยพวกเราได้มาก!"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ครับ!"เซียนเซิงซือพยักหน้ารับ.
กระดิ่งที่สั่นอีกครั้ง,ไท่จื่อปลอมที่ลุกขึ้นเดินตามเซียนเซิงซือไป.
"เทียนเอ๋อ,นับจากวันนี้,จงระวังให้ดี,อสูรเปลี่ยนร่าง,บางทีอาจจะเล็งเจ้าอยู่!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ท่านพ่อโปรดวางใจ,ยิ่งบุตรเป็นปราชญ์เทพ,ฝ่ายตรงข้ามเองก็ต้องระวังบุตรเช่นกัน!"จงเทียนพยักหน้ารับ.
"อืม!"
คนทั้งสองที่จากไป,จงซานที่นั่งอยู่คนเดียวในตำหนักเทียนหยวน.
"ออกมา!"จงซานเอ่ยออกมาเบาๆ.
"วูซซซซ!"เงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้น.
"หยิงเหว่ย,หมายเลข 1917 คารวะเซิ่งหวัง!"องค์รักษ์เงาที่เอ่ยออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"อืม,มีใครบ้างที่หายไป?"จงซานสอบถาม.
"ครับ,ในตำหนักใน,องค์รักษ์สี่คนหายไป,ไม่สามารถหาศพเจอได้,ดูเหมือนว่าอสูรเปลี่ยนเวลาจะใช้พวกเขาเปลี่ยนร่างไปทั้งหมด!"องค์รักษ์เงาเอ่ย.
"เปลี่ยนร่างมากมายขนาดนั้นเลยรึ?
ถูกลบหายไปไร้ซึ่งร่องรอย?ร้ายกาจจริงๆ,ออกไปได้!"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ครับ!"ร่างเงาที่หายไปไม่เห็นร่องรอย.
องค์รักษ์เงาที่จากไป,จงซานที่ครุ่นคิดเกี่ยวกับวิธีที่จะจัดการกับอสูรเปลี่ยนร่าง,เชาว์ปัญญาของอสูรเปลี่ยนร่างไกลเกินที่จงซานประเมิน,ไม่สามารถจัดการได้ง่ายๆแน่.
จงซานยังคงนั่งอยู่หลังโต๊ะ,เคาะนิ้วเบาๆ,คำนวนแผนการหลากหลายอย่าง.
ในเวลาเดียวกัน,ที่ตำหนักด้านนอก,ปรากฏเสียงๆหนึ่งที่โกรธเกรี้ยวดังขึ้นที่ด้านนอกตำหนักในทันที.
"คิดจะไปที่ใหน
~~~~~~~~~~~~!”
"ตูมมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
เสียงของจงเทียนอย่างงั้นรึ? ใบหน้าของจงซานที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อนในทันที,ก่อนที่จะเร่งรีบออกมาจากตำหนักเทียนหยวน.
"เซิ่งหวัง!"ที่ด้านนอกตำหนักเทียนหยวนนั้น,องค์รักษ์ที่เร่งรีบเข้ามาคุ้มกัน.
ส่วนจงซานเวลานี้จดจ้องมองไปยังประตูสวรรค์ทิศใต้.
"ตูมมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ที่ด้านนอกตำหนักเทียนหยวนนั้น,เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น,พลังที่กระแทกกันจนทำให้ห้วงมิติสะบั้นแตกเป็นทาง,กลิ่นอายที่หนักหน่วงพวยพุ่งกระจายไปทั่วทุกสารทิศ.
"วูซซซซซ!"
ค่ายกลสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวถูกเปิดการใช้งาน,ทันใดนั้นกลิ่นอายที่ถูกขวางกันเอาไว้ด้านนอก,กลิ่นอายดังกล่าวไม่สามารถผ่านเข้ามาได้เลย.
ทว่าสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียวในเวลานี้,สายตาของทุกคนต่างก็จดจ้องมองไปยังด้านนอก.
หนักฝ่ามือที่กระแทกเข้าหากัน,ห้วงมิติที่แตกสะบั้น,ใครกันที่มาหาเรื่องต้าเจิ้ง?
ที่ไกลออกไปนั้นหลังจากฝ่ามือเข้าปะทะกัน,การต่อสู้ก็ไม่ได้ดำเนินต่อไปแต่อย่างใด.
รอบๆร่างของจงเทียนที่เปล่งประกายแสงสีทองสว่างจ้า,อักษรหว่าน’卍’ ที่ล่องลอยกระจายไปรอบๆ.
ฝ่ายตรงข้าม,ปรากฏคนกลุ่มหนึ่ง,ฝ่ามือของใครบางคนที่มีใบหน้าเลือนลางเข้าปะทะกับจงเทียน,ชัดเจนว่าคือปราชญ์เทพอีกคน.
จงซานที่ก้าวออกไป,รอบๆนั้นมีข้าราชบริพารเป็นจำนวนมากล้อมรอบ.
"เทียนโจวจื่อและเก้าเซียนบรรพชน?"เซียนเซิงซือที่ดวงตาหรี่เล็กลง.
"เป็นพวกเขาเองรึ?"ใบหน้าของจงซานที่กลายเป็นซับซ้อนเคร่งขรึม.
ที่ด้านนอกประตูสวรรค์ทิศใต้,จงเทียนที่จ้องมองอย่างเย็นชาไปยังเทียนโจวจื่อ.
"ยินดีกับปราชญ์เทพจงเทียนที่ได้เป็นปราชญ์เทพ!"เทียนโจวจื่อกล่าวออกมาเบาๆ.
จงเทียนยังคงจ้องมองไปยังเทียนโจวจื่ออย่างเย็นชา,ไม่ได้สนใจแต่อย่างใด.
"ปราชญ์เทพจงเทียนอย่าได้ตำหนิ,ข้าและพวกเดินทางมายังต้าเจิ้ง,หาได้ต้องการมาหาเรื่องแต่อย่างใด!"เทียนโจวจื่อที่กล่าวออกมาในทันที.
"ไม่อย่างงั้นรึ?
คงไม่มีปิศาจร้ายที่ใหนจะยอมรับหรอกว่าจะไม่เดินทางมาทำร้ายต้าเจิ้ง!"จงเทียนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา.
"ข้าคิดว่าคงจะเข้าใจผิดกันอยู่,ข้าและพวกไม่ได้ต้องการที่จะสู้"เทียนโจวจื่อที่ส่ายหน้าไปมา!
"คิดว่าข้าใส่ร้ายเจ้าอย่างงั้นรึ?"จงเทียนกล่าวเสียนสี.
ไม่ว่าอย่างไร,จงเทียนเองหาได้มีความประทับใดๆกับเทียนโจวจื่อ,สถานที่นี่เป็นเมืองหลวงราชวงศ์ต้าเจิ้ง,จงเทียนย่อมไม่กลัวเทียนโจวจื่อ,ถึงแม้นว่าจะต้องต่อสู้,ก็ไม่มีทางพ่ายแพ้เทียนโจวจื่อแน่นอน.
ต้าเจิ้งในเวลานี้,ไม่ใช่ต้าเจิ้งในอดีตแล้ว!
ในเวลาเดียวกัน,ใบหน้าของเทียนโจวจื่อที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน,อักอ่วน,ขณะที่เขาหันหน้ากับไปมองเซียนบรรพชนของตัวเองที่ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของจงเทียนเมื่อสักครู่.
ในเวลาเดียวกันเหล่าเซียนบรรพชนที่เขานำมาใบหน้าบิดเบี้ยวและกล่าวออกมาว่า,"ปราชญ์เทพจู่,ให้พวกเราลงมือ!"
ต้องให้เทียนโจวจื่อทำอย่างไร? กับคำที่เขานำมา.
เหล่าคนที่เขานำมานั้นไม่ยินยอมที่จะยอมให้จงเทียน,เทียนโจวจื่อที่กระอักกระอ่วนใจ,ขณะที่เขาหันหน้าจดจ้องมองไปยังพื้นที่ลึกเข้าไป,กลุ่มของจงซานที่อยู่บนพื้นที่ไกลออกไป.
"เซิ่งหวังจงไม่คิดที่จะพูดคุยกันอย่างงั้นรึ?"เทียนโจวจื่อที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
จงซานที่อยู่ไกลออกมา,กล่าวออกมาเบาๆ,"เป็นการมาเยือนเป็นการส่วนตัวหรือตัวแทนของตระกูลเทียน?"
"ตัวแทนของตระกูลเทียน!"เทียนโจวจื่อกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
จงซานที่ส่ายหน้าไปมา,เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,กล่าวออกมาเบาๆ,"ในเมื่อเป็นตัวแทนของทวีปเทียน,ก็ต้องทำตามธรรมเนียมของต้าเจิงไม่สามารถที่จะรุกเข้ามาอย่างไรซึ่งกฎเกณฑ์!"
กระทำการตามธรรมเนียมอย่างงั้นรึ?
ใบหน้าของเทียนโจวจื่อที่บิดเบี้ยวอัปลักษณ์,เทียนโจวจื่อที่จื่อที่เผยแววตาขุ่นเคืองอยู่เหมือนกัน.
"ธรรมเนียมของต้าเจิ้ง,การทีทูตจะเข้าพบเซิ่งหวัง,จะต้องอยู่ห่างหนึ่งล้านลี้ส่งสารแนะนำตัว,เพื่อขออนุญาตเข้าพบเซิ่งหวัง,ถึงจะได้เข้าไปด้านใน! เพียงแค่เป็นปราชญ์เทพเลยไม่ต้องการปฏิบัติตามธรรมเนียมอย่างงั้นรึ?!"จงเทียนที่กล่าวออกไป.
จงเทียนกล่าวไม่ผิด,เป็นธรรมเนียมของต้าเจิ้งจริงๆ,อีกทั้งเวลานี้อยู่ในช่วงศึกสงคราม,การปล่อยให้ปราชญ์เทพเข้ามาโดยที่ไม่มีเหตุผล,อาจะทำให้ขวัญกำลังใจทหารลดต่ำลงได้.
กลุ่มเซียนบรรพชนที่อยู่ด้านหลังเทียนโจวจื่อที่เต็มไปด้วยความกระอักอ่วนใจ,หากแต่เทียนโจวจื่อที่ไม่ต้องการที่จะสร้างความแค้นกับจงซาน,ไม่เช่นนั้นอาจจะไม่มีโอกาสได้เจรจา,อาจถูกผลักใสออกไปได้เลย,แม้นภายในใจจะไม่พอใจอยู่ก็ตาม.
เทียนโจวจื่อที่ได้แต่เงียบงัน,แผนการตระกูลเทียนนั้นมีความสำคัญที่ตัวเขาจำต้องอดทน.
"ถอยออกไป!"เทียนโจวจื่อเอ่ย.
กลุ่มคนของตระกูลเทียนจึงทำได้แค่เพียงต้องถอยออกไปหนึ่งแสนลี้.
สายตาของเหล่าผู้ฝึกตนที่เข้าร่วมต้าเจิ้งในเวลานี้ต่างก็ตื่นตะลึง,ในเวลานี้พวกเขาที่แอบสั่นไปมา,คนของศาลเทวะต้าเจิ้งน่าเหลือเชื่อมา,เกินจริงขนาดนี้เลยรึ?
ผ่านมาพันกี่ปีกว่าเท่านั้น,นับตั้งแต่แยกสวรรค์สะบั้นปฐพี,ในคราแรกทุกคนต่างก็ดูแคลน,ทว่าในเวลานี้แม้แต่ปราชญ์เทพยังต้องทำตามธรรมเนียมของต้าเจิ้งอย่างงั้นรึ?
มีอะไรผิดพลาดอย่างงั้นรึ?
ก่อนหน้านี้,เทียนโจวจื่อที่ต้องการสังหารจงซานหลายครั้ง,แน่นอนว่าจงซานไม่จำเป็นต้องสุภาพกับเข้า,แม้นว่าจะยอมให้เขากระทำตามธรรมเนียม,ทว่าก็ยังนับว่าเสี่ยงอยู่ดี.
จากพื้นที่ไกลออกไป,เทียนโจวจื่อที่ให้คนส่งจดหมายแนะนำตัวเข้ามา,สงสารผ่านให้กับจงเทียน,แม้นว่าเขาจะไม่ต้องการทำ,ทว่าเพื่อที่จะเจรจาของจงซาน,จำเป็นต้องทำตามธรรมเนียม.
จงซานที่จ้องมองไปยังจดหมายแนะนำตัว!
จ้องมองจากพื้นที่ไกลออกไป,จงซานที่ต้องขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย,ต้าเจิ้งที่กำลังพบกับปัญหา,ทันใดนั้นเทียนโจวจื่อก็มาปรากฏอย่างงั้นรึ?
นอกจากนี้ท่าทางของเทียนโจวจื่อที่แปลกๆไปเช่นนี้?
จงซานไม่ได้ปฏิเสธในทันที,ทว่าเขาที่ครุ่นคิดอย่างระเอียด,และกล่าวออกมาว่า,"
"ให้ทูตทวีปเทียนเข้าพบได้~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ที่ไกลออกไปนั้น,เสียงของขันทีต้าเจิ้งเอ่ยกล่าวออกมาเสียงดัง,ทำให้ใบหน้าของเทียนโจวจื่อเปลี่ยนเป็นดำมืด,ไม่ยินดีแม้แต่น้อย,แต่ก็ต้องนำเซียนบรรพชนทั้งเก้าเดินทางเข้าไปพบกับจงซานในทันที.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น